CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดูแล้วเล่าต่อ ...ตำรวจชั่ว (Street kings) + รักอหิวาต์ (Love in the Time of Cholera) + ความสุขของเฮอจินโฮ(Happiness)

      ชอบมาก ห้ามพลาด (1 คน)
      ชอบ (1 คน)
      เฉยๆ (1 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 3 คน

     33.33%
     33.33%
     33.33%
     0.00%
     0.00%


    ... เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป พร้อมอ่านความเห็นอื่นๆ และ ชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมต่อที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=13-04-2008&group=14&gblog=88


    man Street kings - ตำรวจชั่ว กับ วัวสันหลังหวะ


    ...ธีมที่หนีไม่พ้นในหนังที่สร้างจากงานเขียนของ เจมส์ เอลรอย คือ ‘ ฟิล์มนัวร์ กับ ตำรวจชั่ว’ นอกจากนี้ หนังก็มักจะได้ทีมนักแสดงที่คนดูน้ำลายไหลมาประชันกันอยู่เสมอ อย่างเช่น ทีม L.A. Confidential ที่ผู้กำกับเคอติส แฮนเซ่น คุมลูกทีมอย่าง เควิน สเปซี่ย์ , รัสเซล โครว์ , กาย เพียร์ซ , คิม บาซิงเจอร์ หรือ ทีม The Black Dahlia ที่มี จอร์ช ฮาร์ทเน็ตต์ , สกาเล็ตต์ โจฮานสัน , ฮิลารี สแวงค์ นำขบวนโดย ไบรอัน เดอ พัลม่า

    ทีมแรกกวาดออสการ์ กวาดคำชม สมกับเป็นหนังอาชญากรรมเปิดโปงแวดวงตำรวจที่ดีที่สุดในรอบสิบปี ส่วนทีมหลังสร้างจากเรื่องจริงที่เกรียวกราวโดยแท้ แต่ กวาดคำบ่น กวาดเกรด C กับ D ใส่กระบุงกลับบ้าน ในฐานะผลงานตกเหวของไบรอัน เดอพัลม่า

    ...ครั้งนี้ถึงที เดวิด ไอเยอร์ ผู้กำกับหนังที่เพิ่งกำกับ คริสเตียน เบลล์ ในบทเจ้าหน้าที่ถ่อยเถื่อนใน Harsh time หยิบบทของเจมส์ เอลรอย เรื่อง Street kings มาทำเป็นหนัง ก็เท่ากับเราจะได้ดู เจ้าพ่อ ‘ฟิล์มนัวร์+ ตำรวจชั่ว’ สองคนมาเจอกัน ทีมนี้ยกพลคนดังมาทั้ง ฟอเรสต์ วิทเทเกอร์ , คีนู รีฟ , คริส อีวานส์ และ คุณหมอ(ซีรี่ส์)เฮ้าส์ - ฮิวจ์ ลอรี่ย์


    ...ฟอเรสต์ วิทเทเกอร์ เป็นหัวหน้าก๊วนตำรวจชั่วที่มีประวัติกินจุ๊บกินจิ๊บ แล้วก็ชอบสร้างสถานการณ์เอาหน้า เช่นล่าสุด พระเอกของเราไปฆ่าผู้ร้ายปิดปากแล้วจัดฉากว่ามีการต่อสู้โต้ตอบ จากนั้นหัวหน้าก็มาแถลงข่าวในฐานะฮีโร่ เวลาลูกน้องทำผิดทำไม่ดีก็คอยกลบเกลื่อนให้

    มีลูกน้องหนึ่งคนออกจากทีมและวางแผนจะแฉขบวนการนี้ ซึ่งคนนี้ก็เป็นอดีตบัดดี้ของคีนู พอเฮียคีนูตั้งใจจะไปตั๊นหน้าเพื่อนเพราะแค้นที่เพื่อนเราคิดเผาเรือน ก็ดันโดนฆ่าเสียก่อน แถมคีนูก็อยู่ในเหตุการณ์

    หัวหน้าก๊วนตำรวจชั่วตามมาคอยอำพรางคดี สร้างหลักฐานเท็จ ปกปิดความจริง และ บอกให้ คีนู ทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย แล้วหนังก็เปิดตัว คุณหมอ house ที่เป็น ก๊วนตำรวจ(น่าจะ)ดี มากระตุ้นต่อมศีลธรรมชักชวนให้ คีนู กลับใจ


    ...น้ำหนักของหนังเริ่มเทมาใส่ตัวพระเอกเต็มที่ ในการเล่นประเด็นของ คนที่เคยทำผิดเกิดคิดตาสว่าง ว่าจะเลือกเดินเส้นทางไหน เพราะ หนทางใดก็ยากจะสวยหรู ในเมื่อตัวเองเป็น วัวสันหลังหวะ ที่มีชนักติดหลังอยู่เช่นกัน

    สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับหนังฮอลลีวูดปีสองปีก่อนอย่าง 16 blocks แต่เรื่องนี้ทำออกมาเข้มข้นกว่า ความสนุกของผมคือการนั่งลุ้นว่า พระเอกของเราจะตาสว่างตอนไหน และ จะคลี่คลายสถานการณ์ที่เหมือนเชือกรัดตัวนี้อย่างไร เพราะสถานการณ์ของตัวเอกเป็นใจให้ ตามืดบอด เสียเหลือเกิน ดูแล้วก็นึกถึงว่า ถ้าตัวเองเป็นคีนู (หมายถึง สถานการณ์ไม่ใช่หน้าตา) เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือกระหว่าง

    เอาตัวรอดแต่อยู่อย่างต้องหนีความรู้สึกผิดกับไร้ศักดิ์ศรี กับ สารภาพความจริง แต่ต้องพบบทลงโทษจากกรมตำรวจและความอาฆาตจากทีมเดิมจนอาจไม่เหลือที่ให้ยืน

    ถึงตอนนั้น เราจะกล้าพอหรือไม่ที่จะ เลือกเส้นทางหลัง หรือ เราจะขี้ขลาดแล้วทำตัวตาบอดเป็นใบ้ใสซื่อเพื่อเอาตัวรอดต่อๆไป


    ...ชอบอีกอย่างก็ตรง ประโยคที่เมียเพื่อนพระเอกที่ตายไปบอกเฮียคีนูว่า ในสายตาของสามีเธอ มองพระเอกว่าเป็น คนในก๊วนตำรวจชั่วที่แย่ที่สุด เพราะเป็นคนเดียว ที่ทำตัวมองไม่เห็นอะไรเอาเสียเลย

    ซึ่งก็จริง คนอื่นอาจจะทำชั่วเพราะจิตใจไม่เหลือคุณธรรม แต่น่าเสียดายที่บ่อยครั้งคนดีๆแปรเปลี่ยนไปทำผิดมักจะใช้วิธี หลับตา หรือ สภาวะตาบอดชั่วคราว แทนที่จะหันหน้ามาช่วยกัน กำจัดคนเลวให้หมดจากสังคม



    ... การแสดงของคีนูในหนังเรื่องนี้ ได้มาตรฐานคีนู ไม่มากไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา ในเรื่องมีการแสดงที่ชอบจริงๆอยู่สองคน หนึ่งคือ ฟอเรสต์ วิทเทเกอร์ ที่เรื่องนี้พี่แกใส่อารมณ์เข้าขั้นซูเปอร์โอเวอร์แอคติ้ง แต่ มันก็สนุกที่ได้ดูแกโผล่ในทุกๆฉาก เพราะรัศมีความชั่วฝังในของแกแผ่ขยายออกมาได้ร้ายกาจระดับน้องๆตอนที่ได้ออสการ์จาก Last King of Scotland ซึ่งขัดแย้งกับภาพนักท่องเที่ยวจิตใจดีใน Vantage point แบบคนละเรื่อง อีกคนคือ คุณหมอ house-ฮิวจ์ ลอรี่ย์ ที่ดูกวนๆแต่เก๋าโผล่ทีไรขโมยซีนเด่นกลบคีนูทุกที

    สกอร์ของหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกจุดที่ชอบ คือเหมือนการแสดงของ ฟอเรสต์ วิทเทเกอร์ ตรงที่ ถึงจะโฉ่งฉ่างแต่มันก็เร่งเร้าปลุกอารมณ์ได้ดีแท้ๆ


    ... โดยรวมหนังทำออกมาเกือบดีแล้วถ้าไม่ติดตรงที่พอเข้าช่วงกลางๆเรื่อง หนังเริ่มยืดเยื้อเหมือนเนื้อเรื่องมันเบาๆไม่ค่อยจะมีรายละเอียดอะไรแล้วไปเร่งเร้าเอาจากดนตรีประกอบกับท่าทางจริงจังของนักแสดง กว่าจะหาทางออกได้ก็เป็นทางออกที่ดูไม่ค่อยฉลาดของเหล่าตัวละครแต่ละตัวเท่าไหร่

    ครั้นถึงคราวคับขัน พระเอกก็ช่างดูโหงวเฮ้งหัวหน้าตัวเองไม่เป็นเอาเสียเลย ทั้งที่เจ้าตัวแสดงออกชัดเจนว่า ‘ข้าคือตัวโกง’ แถมบทจะให้พระเอกรอด หลายๆครั้งก็รอดมาได้แบบเหลือเชื่อ ประเภทยิงเปรี้ยงปร้างในห้องสี่เหลี่ยมตายกันหมดบ้านตัวเองไม่ตาย หรือ ตัวร้ายหัวเราะร่ายิงเล่นๆจนพระเอกคลานเข่าไปตกหลุม แต่สุดท้ายก็ยังทะลึ่งรอดอีก

    อ้อ ลืมไป อีกอารมณ์หนึ่งทิ่เกิดขึ้น คือดูแล้วคิดถึงอารมณ์หนังประมาณ Infernal affairs ตรงสถานการณ์ประเภทตำรวจชั่ว-ตำรวจดี มีแฉไปแฉมา จ้องจะหักเหลี่ยมกัน โดยมีหัวหน้าตัวเก๋าคอยคุมลูกน้องฝั่งตัวเอง ดังนั้น ถ้าบทหนังเพิ่มความซับซ้อนและให้ตัวละครฉลาดขึ้นอีกหน่อย รับรองว่า Street kings จะไปโลดกว่านี้เยอะ




    yuck รักอหิวาต์ - Love in the Time of Cholera


    ...ความจริงลังเลใจอยู่ว่าจะเลือกทางโลกหรือทางธรรม นั่นคือ ระหว่าง อรหันต์ซัมเมอร์ กับ รักอหิวาต์ แต่สุดท้ายก็ทำตัวหัวนอก เลือก Love in the Time of Cholera ถึงจะยังไม่ค่อยเห็นคะแนนคนดูมาก่อนหน้าว่าเป็นยังไง

    แต่ก็ตั้งใจไว้ว่า ถึงคะแนนวิจารณ์จะแย่อย่างไร ใจก็ยังอยากดูเพราะเห็นว่าสร้างมาจากหนังสือของ กาเบรียล กาเซียร์ มาร์เควซ ชื่อนี้มีโนเบลเป็นการันตี คนเดียวกับที่เขียน ร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว ยิ่งได้ ไมค์ นีเวลส์ เจ้าพ่อหนังอังกฤษมากำกับก็ยิ่งน่าดู พอเห็นชื่อไทย 'สัญญา 20,000 วัน แม้สิ้นใจ ไม่ขอลืม' กับโปสเตอร์ก็กะไว้ว่า ซึ้งแน่ แต่พอดูไปก็อุทานในใจ ‘กล้วยทอดแล้ว ไหงมันถึงออกมาแบบนี้’

    คือรู้มาก่อนแล้วว่า ตัวนิยายดังมาก เคยไปปรากฏในหนังบุปเพสันนิวาสเป็นตัวช่วยพรหมลิขิตคู่พระนาง ใน Serendipity แต่ตัวผมเองยังไม่เคยอ่าน จึงเดาทางไม่ถูก รู้ก็รู้แค่เรื่องย่อว่า

    "พระเอกรักนางเอกมานานตั้งห้าสิบกว่าปี แล้วก็มี อหิวาต์ ... จบ"

    ...ไอ้เราก็หลงผิดคิดว่า เนื้อหาจะมาในแนว magical realism ตามสไตล์คนเขียนแล้วนำเสนอออกมาประมาณ Amelie หรือ จะมีความซาบซึ้งกินใจเหมือนคำโปรย , ชื่อไทย กับ โปสเตอร์ แต่กลายเป็นว่า นี่เป็นหนังเรื่องที่สองของปีที่ดูในโรงแล้วพูดเต็มปากเต็มคำได้เลยว่า ไม่ชอบ และ เป็นเรื่องแรกของปีที่ดูเวลาว่าเมื่อไหร่หนังจะจบ



    เหตุผลที่ไม่ชอบmad


    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 10:22:31

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 17 เม.ย. 51 10:19:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom