ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับ... จากคุณ : Britney D spears - [ 18 เม.ย. 51 21:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบประโยคนี้ของ จขกท. จังเลย ........จะมีใครตระหนักบ้างหรือไม่ ว่าสังคมได้สร้าง "คนเลว" คนหนึ่งขึ้นมา และพร้อมจะย่ำเขาให้จมดิน เพื่อจะเน้นย้ำความดีงามของตนเอง?........ มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ ละครเรื่องนี้มีส่วนคล้าย "น้ำพุ" ตรงที่ทำให้คนดูฉุกคิดว่า ทำไมคนที่สังคมว่าเขาเลว เขาเป็นคนไม่ดี  ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น คนดูได้หันมามองถึงสาเหตุของพฤติกรรมคน  มากกว่าคอยด่าผลจากพฤติกรรมเค้า และสุดท้าย เราอยากให้คนที่ดูเกิดความเชื่อว่า คนที่เคยเป็นคนเลว ก็กลับตัวได้ ถ้าสังคมเปิดโอกาสให้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอย่างคาวีมีอยู่จริงในสังคมไทย แทนที่เราจะปิดหูปิดตาสังคมไม่ให้หันไปมองเค้า เราน่าจะพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเอามาคิดพิจารณามากกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น  แล้วเราควรจะแก้ไขยังไง  ซึ่งบทประพันธ์เขาก็เสนอทางออกไว้แล้วว่า Love changes everything ^^"   ดีค่ะ เห็นด้วยกับ จขกท. จากคุณ : G_Narya - [ 18 เม.ย. 51 21:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งที่หลายคนพูดถึง ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งให้คิดได้เหมือนกัน ขอโหวตนะคะ จากคุณ : พร (Teleri) - [ 18 เม.ย. 51 22:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จะมี "ผู้ใหญ่" คนไหนไหม ที่ดูละครเรื่องนี้แล้วตระหนักได้ว่า ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญ และลูกๆ หลานๆ ของคุณก็เปราะบางมากกว่าที่คุณคิด? มี "ผู้ใหญ่" คนไหนบ้างที่โทษตัวเอง หากเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่สังคมไม่ปรารถนา? ====================================================== ชอบประโยคนี้มากค่ะ     ขอโหวตด้วยคน จากคุณ : woBBow - [ 18 เม.ย. 51 22:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ที่มีเด็กโง่ๆอยู่ในบ้าน ขอแนะนำให้ประนามว่าผุ้ใหญ่ในบ้านแย่กว่า จากคุณ : KcAnne - [ 18 เม.ย. 51 22:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาช่วยกดโหวต รู้สึกว่ามีด้านมืดไปแล้ว ขอด้านสว่างบ้าง :- -: :- -: จากคุณ : yibby - [ 18 เม.ย. 51 22:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิดดีจัง โหวตค่ะ จากคุณ : kaekuza - [ 18 เม.ย. 51 22:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะมี "ผู้ใหญ่" คนไหนไหม ที่ดูละครเรื่องนี้แล้วตระหนักได้ว่า ความรัก ความ อบอุ่น ความเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญ และลูกๆ หลานๆ ของคุณก็เปราะบาง มากกว่าที่คุณคิด? มี "ผู้ใหญ่" คนไหนบ้างที่โทษตัวเอง หากเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่ สังคมไม่ปรารถนา? ************************************************ ชอบประโยคนี้เหมือนกันค่ะ  กดโหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : น้ำแข็งใสสีฟ้า - [ 18 เม.ย. 51 22:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม  ผมเพิ่งเข้าใจว่าเขียนบทให้ข่มขืนนางเอกถึง 4 ครั้ง  เพื่อให้ผู้ใหญ่สำนึกผิดที่มีส่วนสร้างเด็กเลวอย่างคาวีขึ้น  ไม่ใช่เพื่อเรียกเรตติ้ง   สำหรับผม  ความผิดที่คุณคิดทำในบทละคร  มันไม่มีเหตุผลเพียงพอให้คาวีเป็นชายโฉด แล้วความเลวที่คาวีทำ  มันควรเห็นผลของความเลวอย่างชัดเจนในละคร  ไม่ใช่แค่ตามงอนง้อนางเอก  แล้วก็จบอย่างมีความสุข มีตัวอย่างมากมายที่เลวเพราะพ่อแม่  ผู้ปกครอง  ไม่ได้ปกป้องลูก อย่างเช่นละครเรื่องนี้  ถ้าเด็กมันจะเลวตามละคร  ก็ต้องโทษว่าผู้ปกครองมันไม่ดูแล ทำไมเราด่าหมูแฮม  สงสารเขาไหม  เราพอจะเห็นว่า  เขาเป็นอย่างนี้เพราะครอบครัว แต่ยังไงครับ  หมูแฮม  ไม่สมควรได้รับโทษใช่ไหม คนที่เที่ยวไปตามหาบุพการีตามผับต่าง ๆ นี่ก็อาจจะเสียนิสัยเพราะบุพการี แล้วยังไง  ทำไมเราต้องสะเทือนใจ  เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้รับโทษที่สมควรแก่การกระทำ เรามีกฎหมายไว้ทำไม ผมเห็นว่าแค่ทำตามบทประพันธ์  ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว  แม้จะมีเรื่องข่มขืนนางเอก ก็กระทำเพียงครั้งเดียว  และสำนึกผิดทันทีหลังการกระทำ แต่บทละคร  สร้างขึ้นมาแบบทุกคนในบ้านเหมือนเป็นโรคจิตกันหมด มีพฤติกรรมแบบคนสามัญสำนึกบกพร่องกันไปหมด  มันไม่แปลกประหลาดไปหน่อยหรือ ที่ให้พระเอกและนางเอก  มีบุคลิกแปลกประหลาดผิดมนุษย์ที่มีสามัญสำนึกปกติขนาดนั้น แล้วเรายังต้องเข้าใจ  เห็นใจ  และให้อภัย จากคุณ : jedi-jaidee - [ 18 เม.ย. 51 22:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ละครมักสะท้อนความมีอยู่จริงของบางสิ่งในสังคม   ในยุคกว่า 100 ปี เราเคยมีทาส มีสามีที่มีภรรยาได้มากมาย  มีคุณซึ่งเป็นคำเรียกชนชั้นศักดินาหาใช่เป็นการให้เกียรติอย่างที่เรียกกันอย่างในปัจจุบัน   เรามีหนังสงคราม  จารกรรม มากมายให้ดูจากซีกโลกอเมริกัน  เรามีภาพวาดโทนสีทึม  ดูเหงาและน่ากลัวจากเยาวชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่มีชีวิตอยู่บนความหวั่นระแวง  และวันนี้เรามีเพื่อนเพศที่ 3 อยู่มากมาย หากแต่เมื่อราว 20 ปีที่แล้วแทบจะไม่มีใครกล้าแสดงตัวออกมาเพราะการยอมรับมันน้อยเหลือเกิน สิ่งที่สะท้อนออกมามันบ่งบอกความเป็นจริงในห้วงเวลานั้นๆ  สวรรค์เบี่ยงเขียนมาเมื่อไรกัน  ในยุคที่ผู้หญิงจะรู้สึกนึกคิดอย่างไร  หากเรามองหาความจริงจะพบว่าแม้แต่ในปัจจุบัน  บางสิ่งบางอย่างที่ถ่ายทอดจากละครเรื่องนี้ก็ยังคงมีอยู่จริงในสังคม   เด็กมีปัญหา  ความรุนแรงทางเพศ  การใช้อารมณ์และการดื่มสุราหาทางออกให้ชีวิต   เราคงเห็นตรงกันว่านั่นคือปัญหา  แล้วลำดับต่อไปเล่า  สิ่งที่เราควรจะทำ  คือหาต้นตอของปัญหา  หรือช่วยกันหมก  ปกปิด  ปิดหูปิดตา  แล้วเอาแต่พูดว่าอย่ามองมัน  อย่าดูมัน  อย่ารู้ว่ามันคืออะไร  เพียงเพราะมันเป็นสิ่งไม่ดี วันนี้เราอ่านข่าวเด็กหญิง  8 ขวบ ถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับหนุ่มวัย 22 ซึ่งจะต้องทุบตี  ทำทารุณกับเธอทุกครั้งก่อนบังคับขืนใจเด็กน้อยผู้ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา   ย้อนกลับมา  เมื่อคุณได้เห็น  ได้ฟังสิ่งไม่ดีเหล่านี้คุณคิดว่าคุณจะเริ่มจากอะไร เพราะนี่ไม่ใช่นิยาย  ไม่อาจแบนได้  ไม่อาจตัดทิ้ง  ไม่อาจไม่รู้ไม่เห็น เราเห็นด้วยกับ  จขกท  เริ่มต้นหาเหตุ  แล้วแก้ให้ตรงที่ เราหวังว่าอีกไม่นานจากนี้  เราจะดูละครที่มีฉากตีแผ่สังคมเน่าๆ แล้วหัวเราะว่ามันไม่เคยมีแล้วเรื่องแบบนี้  โบราณที่สุด แต่โลกไม่เคยหมดปัญหา  เราก็อดกลัวล่วงหน้าไม่ได้ว่า  ถ้าไม่มีเรื่องเน่าๆ แบบนี้  เราทุกคนจะเจอปัญหาอะไรหนอ   จะอย่าง  the day after tomorrow  / absolute zero /flood  หรือเปล่าหนอ จากคุณ : นิกิตา - [ 18 เม.ย. 51 23:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความเห็นครับ ชี้แจงความเห็นที่ 9 อันที่จริง ตอนผมกำลังพิมพ์ เรื่องหมูแฮมก็แว่บเข้ามาในหัวอยู่เหมือนกันครับ ผมเองไม่ได้สนับสนุนความเข้าใจ และการให้อภัยแบบเว่อร์ๆ สิ่งที่ผมอยากเสนอก็คือ ละคร บ่งบอกอะไรเรามากกว่า ภาพสะท้อนแบบตรงไปตรงมา ที่ชวนให้คนเลียนแบบ คนอย่างคาวี เป็นคนไม่น่ารัก และสมควรโดนลงโทษ เช่นเดียวกับหมูแฮม แต่ประเด็นก็คือ เราไม่อาจเห็นเบื้องหลังชีวิตของหมูแฮมได้ และได้แต่เพียงประณามเขา แต่เราเห็นชีวิตของคาวี และรู้ว่า ที่มาซึ่งบ่มเพาะความเป็นคนกักขฬะ อันธพาลของเขานั้น ซับซ้อน และควรอย่างยิ่งต่อการนำมาขบคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งสำหรับผมนั้น เห็นว่ามีประโยชน์ ต่อสังคมโดยรวม ไม่ใช่จะมีแต่โทษซะทีเดียว ขึ้นอยู่กับว่าผู้เสพสื่อจะ "มอง" ตัวละครตัวนี้ และเรื่องทั้งเรื่องอย่างไร จากคุณ : crazybaz - [ 18 เม.ย. 51 23:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ประเด็นของเจ้าของกระทู้ก็น่าสนใจค่ะ แต่ในความคิดเห็นส่ีวนตัว บทละครเรื่องนี้ที่ถ่ายทอดออกมาบทความรุนแรงมันเ่ด่น... เด่นมาก จนทำให้ประเด็นอื่นๆตกไปหมด ถ้าได้ดูเรื่องพริกไทยกับใบข้าว เวลาที่ว่านโดนพ่อว่า ... ดิฉันไม่เคยเห็นว่าเป็นความผิดของว่าน แต่เห็นเป็นว่า ความผิดของพ่อแม่ ที่เวลาลูกมีปัญหาแล้วกลับซ้ำเติม... นั่น เป็นประเด็นใ้ห้คนดูเห็นได้ค่ะ เวลาดูละคร ส่วนมากเราก็จะดูเอาเพลิน ดูเผินๆ ดังนั้น ประเด็นที่ผู้ชมจะได้รับได้ก่อนอื่นก็คือ ประเด็นที่มันเด่นมากๆ เท่านั้น จากคุณ : ไวน์อุ่น - [ 18 เม.ย. 51 23:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลายคนเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับละครอย่างหนัก  เกิดขัดแย้งไปถึงการข่มขืน  การแจ้งความ  กฏหมาย  เกิดขัดใจที่นางเอกไม่แจ้งความ  ขัดใจที่ทำตัวเหมือนสมยอม ปัญญาอ่อน   จนลืมไปหรือเปล่าว่ามันเป็นบทละคร  ทั้งที่จริงเราก็มีตัวละครอีกมากที่เข้มน่ากลัว   นึกว่าเราต้องทำละครอีกเรื่องที่นารินแจ้งความ  มีเรื่องในชั้นศาล  ลาวัณย์กับเริ่มฤกษ์อาจถูกขู่กรรโชก   คิดอาจขอร้องลีลาให้ยอมความ   นารินต้องเอาเด็กออกเพราะเกิดจากการข่มขืน   นารินต้องเข้มแข็งกว่าเดิมอีกร้อยเท่าเพื่อสู้กับสังคมที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคาวๆ อย่างนี้   สุดท้ายตัวละครแสนดีอย่างต้อมจะเลือกแพท  หรือจะเลือกนาริน  คาวีอาจพยายามใช้เงินทองที่มีล้มคดี  อาจจ้างวานมือปืนเพื่อฆ่านาริน  จบลงตรงไหนดีล่ะ คาวีชนะคดี  กลายเป็นนารินสมยอม คาวีติดคุก   นารินยืนยิ้มอยู่หน้าบันไดศาลหรือเปล่า แบบนี้ดูสมจริงมากเลยนะ  เหมือนสังคมบ้านเราเป๊ะเลย จะมีใครทำเวอร์ชันนี้ไหมนะ แต่มนุษย์ไม่มีชีวิตเป็นไดอะลอก อย่างนี้หรอกนะ  คนร้อยคนเจอปัญหาเดี่ยวกันแต่วิถีทางแก้ปัญหาต่างกัน  เวลาคุณเห็นใครคิดต่างจากคุณแล้วสรุปว่าเขาโง่  มันไม่ยุติธรรมเลย  ไม่ใช่เฉพาะกับข่าว  เหตุการณ์ข้างบ้าน  ละครหรือแม้แต่การเมืองปัจจุบัน  เราต่างมีวิธีคิดและข้อสรุปในใจต่างกัน   สังคมไทยสอนให้คนถ้อยทีถ้อยอาศัย  อดทนเพื่อยุติ   เหมือนน้องๆวงอะไรนะที่ไปเต้นกระโปรงเปิดจนเป็นข่าว  หรือคำว่าเงินของน้องเป้ยปานวาด  บางเรื่องที่ทุกคนต่างรุมประณามเธอ   หากเราจะตรองสักนิดแล้วย้อนไปหาต้นตอความเป็นมา   แล้วเข้าใจว่านั่นคือชีวิตจริงๆของพวกเธอ  ถ้าคุณไม่ชอบ  ก็ต้องมองหาที่มาของปัญหาเพื่อเตรียมพร้อมหาคำตอบใช้กับตัวเราเอง  หรือเยาวชนตัวน้อยๆ ของเรา     เราชอบดูหนังฆาตกรรมมาก  ยังเคยคิดว่าคนเขียนฉลาดจริงๆ คิดอะไรได้ซับซ้อน  แต่ต่อมาเราก็เริ่มเห็นสารคดี  และข่าวว่าจริงๆ แล้ว  มีการฆาตกรรมต่อเนื่องจริงๆ  และไร้เหตุผลแห่งการฆ่าเสียยิ่งกว่าในหนัง เราแนะนำให้ดู  seven ทั้งเครียดและเจ็บช้ำแทนพระเอกจริงๆ จากคุณ : นิกิตา - [ 18 เม.ย. 51 23:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้ว จขกท. คิดเรื่องข่มขืน 4 รอบอย่างไรบ้างครับ  สมเหตุสมผลไหม การที่พ่อไม่รัก  ละทิ้ง  ไม่ดูแล เปลี่ยนเมียบ่อย เป็นเหตุผลให้คาวีข่มขืนนาริน 4 รอบอย่างไรครับ  อธิบายหน่อย คนเลว  สังคมมันก็มีส่วนให้เลวทั้งนั้น  ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว  โรงเรียน  สังคม  สื่อ มันไม่มีใครเกิดมาก็เป็นซาตานเลยหรอก  ดังนั้น ถ้าเขากลับตัวกลับใจ  ก็ไม่ต้องรับโทษทางกฎหมายเลยดีไหมครับ ถ้าจะมองอะไรในแง่ดี  มันก็มองได้ทั้งนั้นนั่นแหละครับ   คนฉลาดก็จะหาประโยชน์จากทุกอย่างรอบตัวได้ทั้งนั้น  แต่สังคมของเรามีแต่คนฉลาดหรือ   นี่ยังไม่นับเด็กที่ยังแยกแยะไม่เป็น  นั่งดูละครเรื่องนี้ตามลำพัง  โดยไม่มีผู้ปกครองดูแล   หรือนั่งดูด้วยกัน  แต่สอนลูกไม่เป็น  (อย่าคิดว่าไม่มีนะครับ)  เราก็ต้องด่าผู้ปกครองเหล่านี้หรือครับ นี่ยังไม่เพียงพอให้ผมเรียกละครสวรรค์เบี่ยงเวอร์ชั่นแอน-เคน ดาราคู่โปรดของผม  ว่าละครยาพิษอีกหรือ ผมว่ามันไม่ยุติธรรม  พ่อแม่เลี้ยงดูลูก  ก็รักและหวังดีกับลูกทั้งนั้น แต่ถ้าเขาทำไม่ถูก  แสดงออกไม่ถูก  ก็เป็นใบอนุญาตให้ลูกทำเลวได้แล้วหรือครับ ผมถึงบอกว่าละครเรื่องนี้อ่อนมาก ๆ ในเรื่องของความสมเหตุสมผลในการทำเลว จากคุณ : jedi-jaidee - [ 18 เม.ย. 51 23:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราคิดเหมือนเจ้าของกระทู้นะคะ แต่เวลาเราเขียนเราเรียบเรียงประโยคได้ไม่ดี เราคิดเสมอ ไม่ว่าลูกจะเลวแค่ไหน พ่อแม่ก็ให้อภัยเสมอ แต่ในสังคมจริงๆ จะมีคนให้อภัยเขาสักกี่คน ชอบประโยคนี้เช่นกัน "จะมีใครตระหนักบ้างหรือไม่ ว่าสังคมได้สร้าง "คนเลว" คนหนึ่งขึ้นมา และพร้อมจะย่ำเขาให้จมดิน เพื่อจะเน้นย้ำความดีงามของตนเอง?" แต่ถ้าเขาไม่สำนึก เขาก็คือ คนเลว แต่สำนึกเขาก็เป็น คนดี จะดีจะเลวอยู่จิตใต้สำนึกเลย คาวีไม่ได้เลวร้ายมากมาย แต่ต้องติดตามละคร แต่ละครยังไม่จบเขาก็สรุปกันเรียบร้อย เห็นบางคนนี้ใส่อารมณ์เหมือนกับเขาเป็นผู้ร้ายฆ่าข่มขื่นคนตายในชีวิตจริง (ก็คาวีเป็นตัวละคร ในละครนิ) ที่สื่อเขาออกมาประจานในข่าว ...ในกรณีคาวีการเลี้ยงดูเป็นสิ่งสำคัญมาก ความรักความอบอุ่น สนใจเขา ให้ความรักแก่เขา ถ้าพ่อคิดทำได้ คาวีจะเป็นคนดีมากเลยหละคะ..เลี้ยงลูกแบบไหนลูกเราก็จะได้มาแบบนั้นแหละ...สมัยนี้เลี้ยงลูกต้องเปิดตำราเลี้ยงแล้วคะ เพราะสิ่งยั่วยุมันเยอะกว่าสมัยก่อนมากๆ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 00:09:28 จากคุณ : Kyoko san - [ 19 เม.ย. 51 00:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบความเห็นที่ 14 ครับ คิดว่าการข่มขืนไม่เหมาะสมครับ การที่นางเอกไปรักผู้ชายที่ข่มขืนตัวเองยิ่งไม่เหมาะสมครับ แต่ผมมองว่าความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวนี้ ไม่ได้มีผลเพียงแค่ให้เกิด "พฤติกรรมเลียนแบบ" ครับ แม้แต่การ "ข่มขืน" เอง ก็มีบริบทที่แตกต่างกันครับ ถ้าหากมองจากมุมคนดู เชื่อว่าทุกคนคงคิดว่า "ถ้าเราเป็นนาริน ต้องไม่รักมันแน่" แต่ว่ามุมมองจากตัวนาริน อาจซับซ้อนกว่านั้น และบางทีก็ไม่อาจอธิบายได้ สำหรับผม ผมคิดว่าบทละครเรื่องนี้ สมเหตุสมผลมากกว่าบทละครอีกหลายร้อยเรื่อง ที่ตัวละครเป็น flat character คือ แบนๆ คนดีก็โคดดี คนชั่วก็โคดชั่ว แบบนั้นน่ะ ไม่มีในชีวิตจริงหรอกครับ ทั้งคุณและผม และคนอื่นๆ คงเคย "ชั่ว" มาก่อนไม่มากก็น้อย ทั้งทางความคิดและพฤติกรรม คำอธิบายสำหรับความชั่วที่ว่าก็มีอยู่มากมายหลากหลาย ทั้งหมดที่พิมพ์มา จุดประสงค์เพียงแค่อยากให้คนดูละคร ฉุกคิดถึงแง่มุมอื่นๆ ที่อาจทำให้เราตระหนักในปัญหาของสังคมปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ไม่ได้มองโลกในแง่ดีอะไรนักหรอกครับ ออกจะร้ายนิดๆ ซะด้วยซ้ำ เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่า สังคมไทยยังมีอะไรที่เลวร้ายกว่านายคาวีเยอะ แล้วเราจะทำยังไงกับเค้าดีล่ะครับ? แล้วจะป้องกันไม่ให้เกิดบุคคลากรของชาติประเภทนี้อย่างไรล่ะครับ? ฆ่าเขาแล้วประกาศอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง...แล้วคนก็จะไม่เป็นอย่างเขาใช่ไหมครับ? หรือว่า แกล้งทำเป็นลืมว่าไม่มีเขาอยู่เลยในสังคม แล้วก็พยายามมองแต่ลูกกตัญญู คนเอาการเอางาน สุภาพ เรียบร้อย อนุรักษ์วัฒนธรรม? นี่คือวิธีเยียวยาสังคมเหรอครับ? ปล. ผมเจ้าของกระทู้ ยืมล็อคอินเพื่อนครับ พอดีรีบพิมพ์ตอบ เลยไม่ได้ sign in เป็นชื่อตัวเอง แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 00:48:18 จากคุณ : auntienook - [ 19 เม.ย. 51 00:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณเจ้าของกระทู้คะ คุณเองก็ต้องยอมรับว่า... มีคนดื้อรั้นแบบคาวีอยู่ในกระทู้ของคุณเช่นกัน 555+ (แต่ดิฉันเชื่อว่าเขาคงไม่ข่มขืนใคร 4 รอบ และจับผู้หญิงมัดไว้กลางฝนเป็นแน่แท้) ให้อภัยเขานะคะถ้าเขาทำให้คุณไม่พอใจ  อย่างที่คุณให้อภัยคาวี อันนี้เราขอแลกเปลี่ยนความเห็นนิดนึงนะคะ คุณ คห 14 เราว่าไม่มีทาง..มันไม่มีทางเลยที่จะทำให้คนที่ทำเลวได้โดย "สมเหตุสมผล" ถ้ามันสมเหตุสมผล มันก็ไม่ใช่ความผิด เช่นคุณป้องกันตัวนี่ ไม่ผิด ไม่เลว แต่ไอ้ที่ข่มขืนผู้หญิงนี่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร และไม่ว่าจะข่มขืนกี่รอบในหนึ่งวัน มันก็ไม่สมเหตุสมผลทั้งนั้นแหละ ไม่มีเหตุผลไหนที่จะฟังขึ้นได้เลยในการที่คุณจะข่มขืนผู้หญิง ถึงคุณจะถูกทรมานปางตายในวัยเด็กแต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะเอามาอ้างได้ในการทำร้ายคนอื่นอยู่ดีแหละค่ะ สังคมภายนอก กับสันด านภายใน ประกอบกัน มันทำให้เขาเป็นอย่างนั้น  คุณจะเอาเกณฑ์อะไรมาวัดว่าถูกรังแกขนาดไหนถึงควรจะ "สมเหตุสมผล" ในการทำเลว ข่มขืน 1 รอบ ก็แค่ เลวน้อย แต่ถ้า 4 รอบ...เล้วเลว... ประเด็นมันไม่น่าจะอยู่ตรงนั้น  คาวีในบทประพันธ์หรือในละครมันก็แย่ทั้งนั้น และถ้าพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอนลูก ไม่ว่าคาวีจะข่มขืน 1 ครั้งหรือ 4 ครั้งมันก็ค่าเท่ากัน ถึงคาวีจะโดนจับเข้าคุกโดนรุ่นพี่รุมตุ๋ยจนสาสมที่เขาทำกับนางเอก ถ้าพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอนลูก  ครูไม่รู้จักสั่งสอนศิษย์ ผู้ใหญ่ในอินเตอร์เนทไม่รู้จักพูดจาดีๆมีแง่คิดให้เด็กมันฟังบ้าง แล้วถ้าเด็กมันไม่มีปัญญาคิดเองอย่างที่คุณว่าอีกเนี่ย...มันก็ไม่ได้ผลอยู่ดี เด็กมันรู้หรอกค่ะว่าคนทำผิดต้องถูกตำรวจจับเข้าคุก  แต่ความละอายต่อบาปนี่กฎหมายสอนไม่ได้  คนที่ดูแลนั่นแหละต้องสอน  ถึงเด็กรู้ว่าทำอย่างคาวีแล้วต้องเข้าคุก  แต่ถ้าเขาไม่ละอายต่อบาป  มีโอกาสเขาก็ทำ กฎหมายมีไว้ลงโทษคนผิด..ใช่ค่ะ แต่นักกฎหมายทุกคนก็ถือว่าการให้โอกาสในการแก้ตัวใหม่ดีกว่าการลงโทษ คดีที่คาวีทำ  เท่าที่ดูๆ เป็นคดีที่ยอมความได้นะคะ เช่นข่มขืนผู้ใหญ่ หน่วงเหนี่ยวกักขัง  ถ้านางเอกเขาไม่เอาเรื่อง  เราก็จะไปบังคับให้เขาเอาเรื่องยังไงได้ เว้นแต่เรื่องทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ อันนี้เป็นลหุโทษ (คาดว่าไม่บาดเจ็บนะคะ แค่ตบหน้าเบาๆใช่ไหม?) อันนี้ยอมความไม่ได้  แต่จริงๆศาลก็คงไม่ค่อยลงโทษหรอกมั้งคะ  น่าจะให้รอลงอาญา   การรอลงอาญาก็คือการให้โอกาสในการแก้ตัวใหม่ไงคะ ถ้าผู้ประพันธ์หรือผู้เขียนบทเขายึดถืออุดมคตินี้ก็คงไม่ผิดอะไร แต่ถ้าคุณยึดอุดมคติว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ เอ็งไม่ควรจะได้มีความสุขเลยแม้ว้าเอ็งจะกลับตัวเป็นคนดีแล้วก็ตาม ข้าจะต้องจิกหัวเอ็งมาลงโทษให้ได้อย่างสาสมกับความผิดในอดีตที่เอ็งเคยกระทำ อันนี้ก็เป็นความเห็นของคุณที่เราก็มิอาจก้าวล่วงได้ มันก็เป็นคติที่ดี..ตาต่อตา  ฟันต่อฟัน แต่คุณแน่ใจหรือคะว่าการลงโทษดีกว่าการให้ความรักจริงๆ (เราหมายความถึง "อาชญากร" มากมายในสังคมไทยด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่คาวี) ส่วนตัวเรา  เราเชื่อว่าไม่ว่าคนจะเคย "เลว" หรือ "เล้วเลว" แค่ไหน เขาเปลี่ยนได้ค่ะ เราเชื่อว่ามนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ และไม่ว่าจะด้วยวิธีการลงโทษ หรือวิธีการค่อยๆให้ความรักคอยให้เขาปรับตัว ถ้ามันทำให้เขากลับตัวได้จริง วิธีไหนก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ  ขอให้เราได้คนดีกลับคืนสู่สังคมแล้วกันเถอะ ปล. เราไม่ด่าหมูแฮมและไม่หวังจะลากคอเขามาลงโทษ อันนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายไป  มันมีหลายวิธีที่เขาจะต้องชดใช้เยียวยาความผิดที่เขาทำ แต่ที่สำคัญคือเราอยากให้เขา (และคนอื่นๆที่เป็นแบบเขา) เลิกขับรถ และเลิกนิสัยวู่วามแบบนั้น ถ้าเขากลับตัวได้เหมือนคาวีตอนจบคงดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 01:19:57 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 01:17:28 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 01:07:31 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 01:01:43 จากคุณ : G_Narya - [ 19 เม.ย. 51 00:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาหนับหนุนจขกท. ว่าเห็นด้วย และช่วยคุณ yibby กดโหวต แต่ขอนีสสส์นะคะ เมื่อไหร่จะเข้าใจซะทีว่าบางทีไปเอาประเด็นในละครมาเป็นเรื่องจริงๆ ไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นละคร ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาอาจทำเพื้อเรียกเรตติ้ง ก็ว่ากันไปในจุดนั้น ก็โจมตีไปเลยว่าไม่ดี ไม่เหมาะสม แต่ไม่เกี่ยวว่าคนดูละครเรื่องนี้จะยอมรับการข่มขืนสีครั้งในละคร หรือเท่ากับว่าพวกเขายอมรับการข่มขืนในชีวิตจริง ถ้าจะจ้องเอาเหตุผลความจริงกันทุกเม็ด ก็ต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว นารินอาจไม่ได้ถูกข่มขืนถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกอาจใช่ แต่ครั้งต่อๆ มาอาจสมยอม ดิ้นเป็นพิธี เพราะว่าตั้งแต่ครั้งแรก ๆ เสื้อผ้าไม่ขาด อย่างว่าแต่กกน.เลย เตียงเรียบไม่ยับยู่ยี่สักนิด ศาลไม่ยอมรับฟ้องแน่ๆ ตำรวจก็อาจด่าซ้ำว่าโกหกเจ้าพนักงาน ข่มขืนยังไงนอนหลับได้ถึงเช้า นอนร้องไห้หันสะโพกยั่วผู้ชายขนาดนั้น คุณไม่เห็นหรอก เพราะคุณไม่รู้ว่าตอนตัวละครในห้องอยู่กันสองคน หลังจากหมดฉากที่ดีดดิ้น ด่าๆๆ แสดงให้เห็นว่าถูกข่มขืน แล้วตัดโฆษณา ตอนนั้นนารินอาจร้องเสียงอื่นก็ได้ นารินอาจไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ เพราะเสื้อผ้าก็สีขาว เตียงก็ขาว นอกจากไม่ยับแล้วก็ไม่เปื้อนเลือดด้วย ดังนั้นคนคู่นี้ก็อาจทำทีเป็นว่าข่มขืนกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นรสนิยมแบบหนึ่งก็ได้  เรียกว่าซาดิส์มาโซคิสต์ไง คุณนิกิตา อุตส่าห์พล็อตให้เห็นซะขนาดนั้น เห็นภาพเลยค่ะ อะไรจะจริงขนาดน๊านนน แต่ถ้าบางคห.จะเอาความจริงขนาดนั้นมาตอกย้ำก็ต้องเอาความจริงขนาดนี้ล่ะ จากคุณ : chaosy - [ 19 เม.ย. 51 01:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาโหวตนะ สองกระทู้ข้างบนเกี่ยวกับสวรรค์เบี่ยงเราก็โหวตไป แต่มีอีกอันที่หายไม่เคยกับไปไม่ได้โหวต จขกท เราชอบตัวละครแบบ Round Character แบบคาวีด้วยคะ เหมือนชีวิตคนจริงๆ นะ แบบ Flat character เราก็ไม่ชอบคะ ในชีวิตจริงก็ไม่มีเหมือนกัน จากคุณ : Kyoko san - [ 19 เม.ย. 51 01:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จะมี "ผู้ใหญ่" คนไหนไหม ที่ดูละครเรื่องนี้แล้วตระหนักได้ว่า ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญ และลูกๆ หลานๆ ของคุณก็เปราะบางมากกว่าที่คุณคิด? มี "ผู้ใหญ่" คนไหนบ้างที่โทษตัวเอง หากเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่สังคมไม่ปรารถนา? .............................. ชอบข้อความนี้จังเลย จากคุณ : พริกตุ้ม - [ 19 เม.ย. 51 01:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่มเติม เราขอเสนอเรื่องต่อไปถ้าใครจะสร้างละครที่มีฉากพระเอกรังแกนางเอก ขอให้นางเอกสู้สุดใจขาดดิ้นเลย กัดหู ข่วนหน้า ถีบเป้า ถองพุง เอาแจกันฟาดหัว มันจับเราอุ้มใส่รถก็รีบหนีลงมา อย่านั่งเฉยเหมือนสมยอม แย่งกุญแจรถมาเขวี้ยงทิ้งซะ ทางที่ดีพกเสปรย์พริกไทยหรือเครื่องช็อตไฟฟ้าติดตัวไปด้วย มันพุ่งเข้ามาเมื่อไหร่..ช็อต..โทรแจ้งตำรวจ จะได้เป็นแบบอย่างสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หญิงแกร่ง อย่ายอม..อย่ายอม.. ถึงมานจะหล่อถึงจะรักมานก็อย่าให้มานรังแกเอาได้ ศักดิ์ศรีสตรีไทย 55+ จากคุณ : G_Narya - [ 19 เม.ย. 51 01:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอีกที ขอเป็นฝ่ายตามอ่านละกันครับ เขียนอะไรไปเดี๋ยวจะเป็นหลักฐานในชั้นศาล 555+ (ความจริงตอนนี้อื้อๆอยู่ นึกอะไรไม่ออก) ผมชอบกระทู้แบบนี้นะ ถกกันเป็นเหตุเป็นผลดี ไม่ใช่กระทู้เฮโล เหมือนกระทู้อื่นๆ แต่ไม่รู้ว่ากระทู้ที่ใช้สมองในการคิดและเขียนความคิดเห็น จะได้ขึ้นโหวตบ้างหรือเปล่า ก็หวังๆอยู่ ป.ล.รออ่านความคิดเห็นท่านอื่นต่อไป <+>___<+> จากคุณ : yibby - [ 19 เม.ย. 51 01:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เหตุผลหนึ่งที่เรายังดูละครน้ำเน่า ก็เพราะว่าไม่ว่าตัวละครจะเริ่มต้นอย่างย่ำแย่ขนาดไหน สุดท้ายก็จบลงได้ด้วยดี ไม่ว่าคาวีจะเลวชาติขนาดไหน สุดท้ายก็กลับตัวเป็นสามีที่ดีเป็นพ่อที่ดี ไม่ว่าคนรอบข้างจะโกรธเกลียดเขาแค่ไหน สุดท้ายทุกคนก็พร้อมให้อภัย ไม่ว่ายายนารินหรือลีลาจะแค้นฝังหุ่น หรือมีทิฐืขนาดไหน สุดท้ายพวกหล่อนก็เปิดใจให้กับความสุข และเลือกสมานฉันท์ ไม่ว่าละครน้ำเน่าจะเน่าขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มันมอบให้ผู้ชม ก็คือความหวัง และความอิ่มเอม ท้ายที่สุดละครน้ำเน่าจะมองโลกในแง่ดีและจบลงอย่างมีความสุขเสมอ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยในชีวิตจริง ถ้ามีใครสักคนทำตัวเลวร้ายได้แบบคาวี ในชีวิตจริงๆ เราก็ยินดีให้เขากลับตัวกลับใจ มากกว่าจะส่งเขาไปเข้าคุก คาริล ยิบราลบอกไว้ว่า " บ่อยครั้งที่เราได้ยิน เธอกล่าวขวัญถึงผู้กระทำความผิดพลาด ด้วยคำพูดประหนึ่งว่า เขาผู้นั้นมิใช่พวกเธอคนหนึ่ง แต่เป็นผู้แปลกหน้าและเป็นผู้เข้ามารังควานโลกของเธอ แต่เรากล่าวว่า ผู้บริสุทธิ์และทรงคุณธรรม ไม่อาจก้าวขึ้นเหนือสิ่งสูงสุดอันดำรงอยู่ในเธอแต่ละคนได้ เช่นเดียวกัน ผู้เลวทราม และผู้อ่อนแอ ก็ไม่อาจตกต่ำกว่าระดับต่ำที่สุดของเธอได้ ดังเช่นใบไม้แต่ละใบไม่อาจแปรเป็นสีเหลืองได้โดยทั้งลำต้น โดยไม่ได้มีความรู้อย่างเงียบ ๆ ฉันใด ผู้กระทำผิดก็ไม่อาจกระทำชั่วได้โดยปราศจากความมุ่งมาด อันแอบแฝงอยู่ในเธอทั้งหมดฉันนั้น จากคุณ : chaosy - [ 19 เม.ย. 51 02:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 และจงจำสิ่งต่อไปนี้ด้วย แม้ว่าโลกนี้จะกดทับบนดวงใจของเธอเพียงใด ผู้ถูกฆ่านั้นจะต้องมีส่วนรับผิดในการฆาตกรรมของตนเอง ผู้ถูกลักขโมยเป็นผิดด้วยในการที่ถูกขโมย ผู้ประพฤติถูกต้องก็มิพ้นมลทินจากการกระทำของผู้ต่ำช้า และผู้มีมือสะอาดก็แปดเปื้อนด้วยเพราะการกระทำของอาชญากร ถูกแล้ว บ่อยครั้งที่ผู้ต้องหากลายเป็นเหยื่อของผู้บาดเจ็บ และที่ยิ่งบ่อยกว่านั้นก็คือผู้ถูกลงทัณฑ์ กลายเป็นผู้ต้องแบกภาระของผู้ไม่มีผิด และผู้ไม่ถูกติเตียน เธอไม่อาจแยกผู้เที่ยงธรรมออกจากผู้มีอคติ และแยกผู้มีธรรมออกจากคนเลวทราม เพราะเขาทั้งหลายนั้นยืนเผชิญแสงแดดอยู่ด้วยกัน เช่นเดียวกับเส้นด้ายดำขาวถักทออยู่ด้วยกัน และเมื่อเส้นด้ายดำขาดลง ผู้ทอก็จะตรวจดูผ้าทั้งผืน และก็จะตรวจดูหูกที่ใช้ทอด้วย ถ้าเธอคนใดจะพิจารณาตัดสินภรรยาผู้นอกใจ ก็ขอจงชั่งดวงใจ และหยั่งวัดวิญญาณของสามีนางด้วย และผู้ใดจะโบยผู้กระทำผิด ก็ขอจงมองเข้าไปในวิญญาณของเจ้าทุกข์ และถ้าเธอคนใดจะลงทัณฑกรรมในนามของคุณธรรม และจะเหวี่ยงขวานตัดพฤกษ์ร้าย ก็ขอเขาจงได้มองลึกลงไปยังรากของมัน และเขาก็จะพบโดยแน่แท้เทียวว่า รากของต้นไม้ทั้งดีและเลว ทั้งที่มีผลและไร้ผลทั้งหมดนั้น เกี่ยวรัดกันอย่างสนิทแนบใน ท่ามกลางดวงใจอันเงียบสงัดของพิภพ และเธอผู้เป็นตุลาการมุ่งความเที่ยงธรรม เธอจะพิพากษาอย่างไรสำหรับผู้ไม่ผิดตามทางโลก แต่เป็นโจรทางวิญญาณ และเธอจะลงทัณฑ์อย่างไรต่อบุคคล ซึ่งมีการกระทำหลอกลวงและข่มเหง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ต้องทุกข์และถูกข่มเหงด้วย เธอจะลงโทษสถานใดแก่ผู้ที่มีความเสียใจ สำนึกผิดยิ่งกว่าความผิดพลาดของตนเองนัก จากคุณ : chaosy - [ 19 เม.ย. 51 02:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 (ท่อนนี้อ่านยากสักนิด แต่ไม่อยากตัด เพราะจบบทแล้ว) ก็ความสลดสำนึกในความผิดนั้น เป็นไปตามบัญญัติเที่ยงธรรม อันเธอย่อมจะพอใจยิ่งแล้วมิใช่หรือ เธอย่อมไม่อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์สำนึกผิด หรือปลดเปลื้องความสำนึกผิดนั้นออกจากผู้มีผิดได้ มันจะมาเยือนในยามราตรีโดยไม่ต้องการคำเชื้อเชิญ เพื่อมนุษย์นั้นจะได้ผวาตื่นขึ้นและพินิจดูตนเอง และเธอผู้ต้องการเข้าถึงความยุติธรรม เธอจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่คอยเฝ้าดูกรรมทั้งหลายในแสงสว่างเต็มที่ จากนั้นเท่านั้นที่เธอจะได้ทราบว่า ทั้งผู้ยืนตรงอยู่และผู้ล้มไปแล้วเป็นมนุษย์คนเดียว และทิวากาลแห่งอาตมันในตน และเธอก็จะได้เห็นว่า ก้อนหินซึ่งวางอยู่ที่เสามุมของโบสถ์นั้น มิได้มีระดับสูงไปกว่า ก้อนที่วางเป็นรากฐานลึกที่สุดของโบสถ์เลย ที่เจ้าของกระทู้ว่ามา ก็ทำนองนี้ อ่านแล้วนึกถึงท่านคาลิล จาก The Prophet แต่ไม่ได้พิมพ์เอง ตัดมาจาก http://olddreamz.com/bookshelf/prophet/prophet.html เผื่ออยากอ่านต่อกัน จากคุณ : chaosy - [ 19 เม.ย. 51 02:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณคุณ G_Narya มากครับ ที่ช่วยออกมาปรามผม กลับไปอ่านความเห็นล่าสุดของตัวเองก็ดูมีอารมณ์พิกล เดี๋ยวจะกลายเป็นคนก้าวร้าวแบบคาวีโดยไม่รู้ตัว 55 ขอบคุณความเห็นของทุกคนเลยครับ รู้สึกยินดีเช่นกัน ที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างมีเหตุผล จากคุณ : crazybaz - [ 19 เม.ย. 51 03:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยอดเยี่ยมค่ะ คุณเจ้าของกระทู้ โหวตนะคะ จากคุณ : ถิงฟาง - [ 19 เม.ย. 51 03:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โหวต เพราะ สังเกตุ จะเจอ พวก มนุษยชน ทั้งนั้นอ่ะ แบบ บ้าๆๆ  รับไม่ได้อารายนิดอารายหน่อย แบบอิงตามกระแส ทั้งที่ชีวิตจิง มัน ยิ่งกว่าละคร อีก จากคุณ : ภาณุพัชร์ - [ 19 เม.ย. 51 04:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่อยากโต้เถียงแล้ว  แต่อยากใส่ข้อความนี้ในทุกกระทู้ของสวรรค์เบี่ยงนะ ประเด็นของเราอาจจะแตกต่างจากคนอื่น   ความหวังของเรา คือ อยากเห็นละครไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น  หลุดพ้นจากวังวนเดิมๆ มากกว่า เราก็เป็นได้แค่เสียงเล็กๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับสวรรค์เบี่ยง  คงไม่มีสิทธิ์อะไร  คงต้องตามๆเค้าไป และทำใจ "ละครก็คือละคร"   เซ็งคำนี้  แต่ต้องทำใจนะ.... ก็ข้างนอกไม่มีการเคลื่อนไหว คนสร้างก็ได้ใจต่อไป..... หากแม้แต่ละครเรายังทักท้วงอะไรไม่สำเร็จ จะไปควบคุมอะไรกับโลกแห่งความจริง "ละครก็คือละคร"   ต่อไปเราคงถูกสื่อครอบงำด้วยความคิดนี้   และเห็นดีเห็นงามไปกับ "สิ่งไม่ดีงาม" ในสื่อ และสนับสนุนเสพสื่อแย่ๆ ต่อไป จนสื่อสร้างสรรค์ไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ปล.  ความคิดเจ้าของกระทู้น่าสนใจมาก แต่เห็นด้วยกับความเห็นที่  12   แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 05:38:06 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 04:54:53 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 04:54:23 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 04:51:10 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 04:49:00 จากคุณ : ThisLonelyMe - [ 19 เม.ย. 51 04:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เพิ่มเติม เราขอเสนอเรื่องต่อไปถ้าใครจะสร้างละครที่มีฉากพระเอกรังแกนางเอก ขอให้นางเอกสู้สุดใจขาดดิ้นเลย กัดหู ข่วนหน้า ถีบเป้า ถองพุง เอาแจกันฟาดหัว มันจับเราอุ้มใส่รถก็รีบหนีลงมา อย่านั่งเฉยเหมือนสมยอม แย่งกุญแจรถมาเขวี้ยงทิ้งซะ ทางที่ดีพกเสปรย์พริกไทยหรือเครื่องช็อตไฟฟ้าติดตัวไปด้วย มันพุ่งเข้ามาเมื่อไหร่..ช็อต..โทรแจ้งตำรวจ จะได้เป็นแบบอย่างสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หญิงแกร่ง อย่ายอม..อย่ายอม.. ถึงมานจะหล่อถึงจะรักมานก็อย่าให้มานรังแกเอาได้ ศักดิ์ศรีสตรีไทย 55+ จากคุณ : G_Narya ดูคุณไรในเรื่องสายใยสวาทหรือเปล่าค่ะ พฤติกรรมทั้งหมดที่คุณเขียนมา อยู่ในตัวคุณไรเลยค่ะ พลาดหนแรกหนเดียวซึ่งพระเอกก็เจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน แต่คุณไรไม่สามารถช่วยตัวเองได้มากเนื่องจากเป็นผู้หญิง เห็นด้วยกับคุณจขกท. นะค่ะ ดังนั้นต่อไปนี้พวกที่ชอบไปข่มขื่นชาวบ้านตามข่าวในหนังสือพิมพ์ ดิฉันคงต้องเห็นใจว่าเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากสังคมและครอบครัวจนทำให้ต้องมาแสดงออกด้วยการข่มขื่นแล้วละคะ บางคนก็ว่ามันก็แค่ละคร บางคนก็บอกว่าละครมันก็มาจากส่วนหนึ่งของชีวิตจริง ตกลงจะให้เอาอันไหนเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจค่ะ ถ้าบอกแค่ว่ามันก็คือละคร ประเด็นที่จขกท.ตั้งมันก็ตกไป จะเอาอะไรกับละครกันละ แต่ถ้ามาจากชีวิตจริงส่วนหนึ่ง คนที่มีการกระทำระดับคาวีเวอร์ชั่น 2008 ไม่ใช่คนปกติโดยทั่วๆ ไปแล้วค่ะ มีอาการผิดปกติทางจิตซึ่งสมควรจะได้รับการบำบัดค่ะ ช่วยยกความดีของคาวีในเวอร์ชั่นนี้มาให้ดูหน่อยค่ะดิฉันยังหาไม่เจอเลย ขนาดแซมเพื่อนสนิทที่ดีกับคาวีมากๆ และดีมาตลอด พูดจาดีๆ สักนิดคาวียังไม่เคยทำเลย คาวีเวอร์ชั่นนี้เขาเรียกว่าขาดสามัญสำนึกด้วยตัวเองค่ะ เพราะมีประโยคนึงตอนจับนารินไปข่มขื่น แล้วนารินบอกว่าจะแจ้งตำรวจ คาวีพูดว่า "แจ้งไปเลยไม่กลัวหรอก อย่างมาก็โดนแค่กักขังหน่วงเนี่ยว ฉันมีเงินมากพอที่จะจ่าย เท่าไรฉันก็จ่ายได้" ก็คือว่าสำนึกนั้นมีแต่ขาดการนำมาใช้ แล้วอย่างนี้จะมั่วไปโทษสังคม โทษพ่อแม่ทำไมค่ะ น่าจะโทษตัวเองได้แล้วเพราะคาวีไม่ใช่เด็กๆ ที่สมองยังไม่ทำงานเพียงพอที่จะคิดเองได้อีกหรือ จากคุณ : live-walk - [ 19 เม.ย. 51 07:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มุมมองของจขกท ก็ดีค่ะ และคิดว่าหลายคนในนี้ก็คงแยกแยะได้ แต่ชาวบ้าน เด็ก และเยาวชน เวลาเค้ารับสารอะไรเข้าไป เค้าจะย่อยสารได้ละเอียดแบบคุณหรือคะ คนที่ออกมาต่อต้านละครเรื่องนี้ เค้าไม่ได้ออกมาต่อต้านเพื่อคุณๆ ในนี้ที่ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่มีความคิด ฉลาด รู้จักแยกแยะทั้งนั้นหรอกค่ะ แต่เค้ามุ่งไปยังผู้เสพที่เป็นเด็ก และเยาวชน ที่ยังไม่รู้จักแยกแยะ การกรองสารก็ยังไม่ดี เห็นอะไร ได้ยินอะไร ก็รับเข้าไปหมด และถ้าเราจะฝากความหวังไว้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่ได้ ยอมรับว่าความผิดอยู่ที่พ่อแม่แน่นอน แต่ถ้าเราจะฝากความหวังไว้กับพ่อแม่เพียงอย่างเดียว แล้วรอโทษพวกเค้าเวลาที่ลูกเติบโตเป็นคนเลว มันคงสายเกินไป ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ได้ต้องถึงกับจะให้แบนหรอกค่ะ แค่บทอะไรที่มันรุนแรง ภาพอะไรที่มันสื่อถึงความรุนแรง ไม่ต้องมี หรือถ้ามันจำเป็นนัก ก็ใช้เป็นแค่ตัวละครพูดถึงก็ได้ค่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 19 เม.ย. 51 07:37:38 A:119.11.41.251 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 32 การลงโทษที่เหมาะสมในละคร  จะทำให้เด็กไม่กล้าเอาเยี่ยงไงครับ #17 ถ้าเด็กทำผิด  เหตุใดเราจึงต้องทำโทษ  ทำเพื่อให้เขารู้ว่า  ถ้าเขาทำผิดข้างนอกบ้าน  เขาก็จะต้องได้รับโทษด้วย การส่งเสริมให้ทำความดี  การพูดจาในแง่บวก  เพื่อให้เด็กทำสิ่งที่ดี  เป็นสิ่งที่ดีกว่าการทำโทษเมื่อเด็กทำผิด แต่เมื่อมีการกระทำผิด  ก็ต้องมีการลงโทษ  เพื่อไม่ให้เขากระทำผิดหนักมากกว่าเดิม ผมเคยห้ามเด็ก ๆ เข้าไปเล่นในที่บางที่ซึ่งมีอันตราย  เมื่อเด็ก ๆ ไม่เชื่อฟัง  ผมทำโทษแรงมาก  ไม่ใช่ด้วยความโกรธ  หรือเกลียด แต่ทำเพื่อไม่ให้เขาเข้าไปเสี่ยงอันตรายอีก ผมเป็นคนโชคดี  ที่เวลาที่ทำชั่ว  กรรมไม่เคยปล่อยให้ผมลอยนวลจนมีโอกาสทำชั่วครั้งที่สอง ดังนั้น  ผมเห็นว่า  การให้เห็นภาพของการรับโทษจากการกระทำของตัวเอก จะทำให้ไม่เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ สงสัยจะมีคนสงสารหมูแฮมมากขึ้น  เพราะเคยเห็นเอาไปเปรียบกับคาวี ตอนนี้  สงสัยจะอยากให้อภัยหมูแฮมมากขึ้นกันแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ  ครอบครัวคนเจ็บคนตาย  ยังไม่ได้เงินชดเชยเลย หมูแฮมไม่มีสำนึกว่าต้องชดใช้ให้  โดยที่ศาลไม่ต้องสั่ง เขาต้องรักษาดูแลกันไปอย่างลำบาก  แต่ท่าทางคนที่นี่จะให้อภัย  เพราะเพียงจะเข้าข้างคาวีในละคร หมูแฮมกับคาวีนี่ไร้สามัญสำนึกทั้งคู่  คนหนึ่งไม่มีเพราะพ่อแม่ไม่มี แต่คาวีนี่ไร้สามัญสำนึก  เพราะคนเขียนบทไม่มี ไปธุระก่อนนะครับ  วันนี้จะเริ่มยุ่ง  อาจไม่มีเวลามาตามกวนใจให้ไม่สบายใจอีก ผมด่าแรง  ก็ด่าละคร  ด่าผู้จัด  ผู้กำกับ  คนเขียนบท   เพราะคิดว่าทำแล้ว  อย่างน้อยจะทำละครแบบนี้อีก  คงไม่ได้เสพสุขจากเรตติ้งอย่างเดียวหรอกครับ  จะต้องโดนด่าแน่ ผมไม่ได้อินกับละคร  เพราะไม่ได้ดูมานานแล้ว  จะไปอินได้อย่างไร  ที่เขียน ๆ ก็อ่านมา เพราะดูถึงแค่ตอนตบ  และเปิดมาเจอตอนทำให้พ่อล้มลงด้วยโรคหัวใจอีกครั้ง แต่คนที่อิน  คือคนที่พยายามเข้าใจ  เห็นใจ  และให้อภัยตัวละครคาวีที่คนเขียนบทสร้างขึ้นมาอย่างไร้สำนึกนี่ต่างหาก แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 09:59:10 จากคุณ : jedi-jaidee - [ 19 เม.ย. 51 09:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ที่จขกท.กล่าวมาก้อดีค่ะ แต่ท่านผู้ชมหลายท่าน ก้อมีความคิดเปนของตัวเอง เขาดูว่าอันไหนสมเหตูสมผล ละครจบก้อคือจบ วันรุ่งขึ้น ทุกอย่างคือความจริงที่เราต้องเผชิญกับมันต่อไป ไม่ใช่ว่าดูแล้วจะโดนเลียนแบบไปซะหมดทุดอย่าง บางคนเข้าดูละครวันต่อมาลุกไปทำงานก้อไม่ได้คิดจะไปกระทำชำเราหรือเปลี่ยนตัวเองให้ร้ายเหมือนพระเอกจะได้มีคนเขามาสนใจหรอกค่ะ แต่ถ้าพ่อเเม่ได้ดูสิคะจะเปนประโยชน์กว่าตรงที่ว่า จะได้สอนลูกได้ว่า ตรงนี้ไม่ดีนะ เปนตัวอย่างที่ไม่ควรทำนะ ตอนเดี้ยนเป็นเด็กๆ พ่อ แม่ก้อสอนไปด้วย โตมาก้อยังสอนไปดูไป มันก้ออยู่ที่สถาบันครอบครัวด้วยค่ะ ** ละครคือความบันเทิงอย่างหนึ่ง มีทั้งแง่ดีและแง่ลบ อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะปฏิบัติตามหรือดูแล้วก้อจบไปวันๆ จากคุณ : Purple Lilac - [ 19 เม.ย. 51 09:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับจขกท และ ชอบมากๆกับ คห 18 ของคุณ chaosy ค่ะ เฉพาะประเด็นข่มขืนนะ คือเราไม่รู้ความคิดทั้งหมดของนาริน เราว่าจากทั้งหมดที่กล่าวมา เธอก็สมรู้ร่วมคิด ในการถูกลักพาตัวไปไม่น้อย จิตใจคนมันซับซ้อน ในเวลา 2 วันนั้น มันมีทั้งหวานทั้งขมนะ หากนารินโดนคนอื่นที่ไม่ใช่คาวีข่มขืน เธออาจะเสื้อผ้าฉีกขาด หัวกระจุย ไม่อ่อนระทวย หันสะโพกเช่นนั้นก็ได้ หรือนายคาวี นอกจากนารินแล้ว จะได้เที่ยวไปข่มขืนใครต่อใครที่ไม่ถูกใจแก เช่น เริ่มฤกษ์ แซม หรือ แม้แต่เจ้าล่ำก็ได้ แต่เขาไม่ได้ทำ ใช้แต่ปากแกว่งหาเท้าไปเรื่อย เรื่องนี้ประเด็นก็ก็ยังเป็นความรัก อยากได้เป็นของตัว ที่ประกอบไปด้วยการสมยอมถึงไม่ 100 เปอร์เซนต์ แต่มันมีอยู่ เชื่อว่าถ้าไม่มีเรื่อง รายละเอียดการทรมานแบบชวนฝันซาดิสม์ของพระเอก เรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นที่มาที่ไปของมนุษย์หมูแฮมได้ดีเรื่องนึง และถ้าไม่มีไอ้ สามสี่ครั้งนั้นละครก็ไม่ได้ด้อยลง แต่เรตติ้งอาจน้อยลงน่ะใช่ นรกอยู่ในใจคาวีตลอดเวลาเราเชื่อว่าอย่างนั้นนะ แต่ถ้าเป็นหมูแฮมจริงๆในสังคมถ้า พ่อแม่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดกับพฤติกรรมลูกก็แย่สุดๆ ก็นั่นแหละ สังคมป่วยยากเยียวยาซะแล้ว แล้วเราก็ยังไม่เห็นการลงโทษแบบแท้จริงในสังคมไทยเลย ไอ้เรื่องไปเอาชนะกันในศาล มีแต่จะเจ็บใจเพราะแพ้อำนาจเงิน เฮ้อ จากคุณ : ทำไมต้องล็อกอิน - [ 19 เม.ย. 51 10:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จะมี "ผู้ใหญ่" คนไหนไหม ที่ดูละครเรื่องนี้แล้วตระหนักได้ว่า ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญ และลูกๆ หลานๆ ของคุณก็เปราะบางมากกว่าที่คุณคิด? มี "ผู้ใหญ่" คนไหนบ้างที่โทษตัวเอง หากเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่สังคมไม่ปรารถนา? ชอบมากค่ะกับประโยคนี้ จากคุณ : tayeng - [ 19 เม.ย. 51 10:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบครับ เป็นมุมมองที่ดีมาก ๆ ผมคิดว่าคนเราต้องมีโอกาสที่จะได้พบกับสิ่งดี ๆ และสิ่งเลว ๆ ด้วย มิใช่เพียงแต่พยายามที่จะปกปิดจุดไม่ดี และหยิบยื่นแต่สิ่งดี ๆ เท่านั้น เพราะในสังคมจริง ๆ แล้วมันมีทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกัน และคนที่จะยืนอยู่ได้ในสังคมนี้ โดยที่ไม่กลายเป็นคนเลว ๆ ไปนั้น เป็นเพราะการอบรมสั่งสอนที่จะรู้จักผิดถูก แยกแยะ และไม่ทำในสิ่งที่เลวร้าย จากคุณ : อืมมม - [ 19 เม.ย. 51 11:39:25 A:10.224.9.45 X:133.62.137.102 TicketID:148450 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นคนในกระทู้นี้วิเคราะห์ตัวละครกันแล้ว ผมล่ะนับถือเลย ช่างลุ่มลึกกันเสียจริง บางที..แม้กระทั่งคนเขียนบทเอง อาจจะนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าตัวละครที่เค้าสร้างขึ้นมามันจะมีความสลับซับซ้อน มีเงื่อนปมทางอารมณ์และจิตใจที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อนถึงเพียงนี้ แหม...จริงๆก็แค่อยากจะเขียนบทแรงๆ ให้สะใจพระเดชพระคุณคนดู เรทติ้งจะได้พุ่งกระฉูดเท่านั้นล่ะ ไม่ได้คิดเป็นอื่นเลยพับผ่า แต่ตอนนี้สวรรค์เบี่ยงได้กลายเป็นละครชีวิตรักกึ่งจิตวิทยาแกมปรัชญาไปซะแล้ว ...อืมมมม ก็ดีวะ คนที่ชอบดู ชื่นชม ส่งเสริมละครเรื่องนี้ พวกคุณโชคดีนะครับที่ได้เกิดมาในประเทศไทย ประเทศที่คุณสามารถรับชมละครแบบนี้ได้ในฟรีทีวี ในช่วงเวลาไพรม์ทาม ถ้าคุณดันไปเกิดในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ผู้ผลิตสื่อมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม คุณจะไม่มีวันได้ดูอะไรแบบนี้อย่างเด็ดขาด ปล. เห็นด้วยกับ #12 ครับ จากคุณ : จตุรเรพ - [ 19 เม.ย. 51 13:06:18 A:68.122.159.207 X: TicketID:143603 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คห. 29 คะ อย่าเพิ่งท้อค่ะ เราก็เข้าใจความหวังดีของคุณนะคะ แต่เรายังเชื่อในเรื่องกติกา ความแตกต่างและความหลากหลายค่ะ ประเด็นที่น่าจะประท้วงกัน น่าจะเป็นความรุนแรงมากเกินไปของละคร หรือประเด็นความไม่สมจริงของตัวละคร ที่โหดร้ายเกินกว่าจะเป็นพระเอก ไม่ใช่ประเด็นเยาวชน หรือการเลียนแบบตัวละคร และจะไปโยนความผิดปัญหาสังคมทั้งหมดให้ผู้จัดก็ดูจะเกินจริงไปมาก (ก็เลยนึกถึงปรัชญาชีวิต ซึ่งอาจจะเว่อร์ไปนิด คือกระทู้บางกระทู้ก็ออกจะ พิพากษาคณะผู้จัด และผู้ชมที่ชื่นชอบสบ. เกินความจริงไปมาก) ดิฉันคิดว่าวิธีที่คุณๆจะสร้างสรรค์สังคม ไม่ใช่การมาด่าว่าคนอื่นที่เขาเห็นต่างจากตัวเอง  หรือด่าคนทำแบบสะใจที่เห็นๆ ในหลายกระทู้ แต่ทำได้หลายอย่างเช่น แบน ปิดทีวี  ไม่ดูละครเรื่องนี้ ไม่ให้ลูกดู หรือ  ช่วนกันรณรงค์ให้คนไทยดูทีวีกับลูก ให้คนไทยช่วยกันปกป้องลูกจากสิ่งชั่วร้ายในทีวี รวมทั้งฉากที่ไม่เหมาะสม หรือช่วยกันเห็นความสำคัญของการจัดเรตติ้ง อย่าให้เด็กอายุน้อยว่า 15 ดูเด็ดขาด ละครเรื่องนี้และอีกหลายๆ เรื่องห้ามเด็กเล็กดูเด็ดขาดไม่งั้นน่ะเกิดกระทู้เล่นทำหนังสดอีกแยะแน่ๆ การสร้างสรรค์สังคมไม่ใช่การผลักภาระไปที่ผู้จัดสถานเดียว แล้วบอกว่าตัวเองเป็นคนดีของสังคม ถ้าละครแบบสวรรค์เบี่ยงต้องระงับการออกอากาศ ดิฉันคิดว่า รายการโทรทัศน์ประมาณ 80 % ก็ต้องระงับด้วย รวมทั้งโฆษณาและข่าว และสื่ออื่นๆเช่นหนังสือพิมพ์ด้วย เดี๋ยวนี้เด็กที่บ้านเห็นศพก็เฉยๆ เพราะว่าดูรูปศพทุกวัน กินข้าวไปดูไป ในรายงานข่าว หรือนสพ.บนโต๊ะ คุณจะไปตามจับกันยังไงไหวละคะ ?? คนข้างบนที่พูดถึงสื่อของประเทศที่พัฒนาแล้ว ดิฉันดูซีรีสย์หลายเรื่อง มีแต่รักๆ ใคร่ๆ นัวเนียกัน ซึ่งเป็นรายการที่เรตติ้งดีมาก และฉายในช่วงไพรม์ไทม์ ประเด็นไม่ใช่สื่อต่างประเทศมีจิตสำนึกต่อสังคมมากกว่าสื่อไทยหรอกค่ะ แต่ผู้บริโภคของประเทศที่พัฒนาแล้ว มีวิจารญาณและอำนาจในการเลือกสรร มากกว่าผู้บริโภคไทย หากพ่อแม่เห็นว่าสวรรค์เบี่ยงไม่ดี ถึงเวลานั้นก็ร่วมกันปิดทีวี เล่นกับลูก ช่วยกันปิดสัก 1 ล้านครอบครัว ขี้คร้านจะสะเทือนถึงผู้จัดว่า ทำละครแบบนี้ไม่มีคนดูแล้วนะ แต่การประท้วงด้วยการโหมกระทู้ในพันทิพ ยิ่งมีแต่จะเพิ่มเรตติ้ง ส่วนตัวดิฉันไม่ดูละครหลังข่าวมานานแล้ว เอาเวลาที่พอจะว่างไปดูหนังดีๆในเคเบิ้ล ชีวิตดีมากเมื่อไม่ต้องถูกบังคับให้ดูฟรีทีวี แต่ที่ดูเรื่องนี้ เพราะต้องยอมรับว่านักแสดงและการกำกับการแสดงเป็นแม่เหล็กค่ะ ส่วนบท+เนื้อเรื่อง ไม่ได้คาดหวังเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ผู้หญิงอย่างนาริน ถ้ามีอายุถึงวันนี้ก็น่าจะเลย 60 เป็นเด็กสมัยนี้มีแต่จะกระโดดใส่คาวี ผู้ชายอย่างคาวี ที่เลวแล้วมีคนรักขนาดนี้ ก็ไม่มีอยู่จริง ใครๆ ก็รู้ค่ะ ดูเรื่องนี้ ก็เหมือนดูขุนแผน ก็ดูว่าใครมาเล่น เวอรชั่นนี้เล่นเป็นยังไง ตีความบทได้ดีไหม มีฝีมือไหม ไม่มานั่งบ่นว่าขุนแผนมันเลว เอามาสอนในหลักสูตรได้ยังไง (ก็มันเป็นวรรณคดีเอก)  ไม่มานั่งด่าว่าควรเปลี่ยนตอนจบของขุนแผน จากคุณ : chaosy - [ 19 เม.ย. 51 14:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากเห็นคนที่ตามตำหนิสวรรค์เบี่ยง ไปชื่นชมละครน้ำดีอีกหลายเรื่องจัง แต่ทำไมหนอ ถึงไม่มีเลย ด่าว่ากันล่ะมาเร็วเชียว แต่เรื่องชมไม่มีเห็นเงา . . . ตามอ่านต่อไป ^_^ จากคุณ : yibby - [ 19 เม.ย. 51 14:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบกระทู้นี้ค่ะ ชอบหลายๆ คห ในนี้ด้วย ตรงกับที่เราอยากจะพูดทุกอย่าง แต่ว่า เป็นคนพูดไม่เก่งเท่านี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 16:29:59 จากคุณ : alack - [ 19 เม.ย. 51 16:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้โดนใจนะพูดได้มีเหตุผลเลยค่ะ โหวตๆๆ จากคุณ : Co, (coco rocha) - [ 19 เม.ย. 51 19:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณทุกความเห็น  โดยเฉพาะความเห็นที่ 38 ที่ช่วยจุดประกายความคิดดีๆ หลายๆ อย่างครับ ไม่ทราบว่าจะมีใครเข้ามาอ่านอีกหรือไม่ (ที่จริงพิมพ์ตอบไปตอนกลางวัน แต่เน็ตดันเดี้ยง T^T เศร้าเรย) เพียงแค่อยากย้ำว่า ผมไม่ได้คิดสนับสนุนคนอย่างคาวี เพียงแต่ผมไม่คิดว่า ตัวละครในเรื่อง จะทำให้เกิดการเลียนแบบ หากสังคมเราเข้มแข็งพอ และแน่นอนว่า การป้องกันไม่ให้ลูกหลานในบ้าน มีพฤติกรรมแบบคาวี คงไม่ใช่เพียงแค่ "ป้องกัน" ไม่เห็นเขาเห็นต้นแบบในสื่อ เพราะมันเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ผมเชื่อแน่ว่า คนอย่างหมูแฮม (โดนอีกแล้ว) คงไม่ได้ไปเลียนแบบพฤติกรรมใครมาจากไหน แม้เขาจะดูแต่อิคคิวซัง เขาก็คงเป็นแบบนี้ ดังนั้น ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่การสร้างความ "แข็งแรง" ทางใจ ให้กับเด็กๆ มากกว่าจะเป็นการปิดกั้น ไม่ให้เขาเห็น "โลกแห่งความจริง" ซึ่งไม่ได้มีแต่สีขาว คนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ รู้ผิดชอบชั่วดี จึงน่าจะเก็บเกี่ยวอะไรได้จากชีวิตของ "คาวี" มากไปกว่าการมองว่าเขาเป็น "คนชั่ว" ที่สังคมต้องประณาม กำจัด และปกปิดไม่ให้ใครเห็น ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอีกครั้งครับ จากคุณ : crazybaz (crazybaz) - [ 20 เม.ย. 51 01:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 บวกบทนางร้าย ยอมเสียตัว มอมเหล้าพระเอก ไปด้วยงั้น  จะได้ครบๆ ผชขืนใจผญ  ผญ(ที่อยากจะ)ขืนใจผช ด้วย จากคุณ : ดู ดู๊ ดู ดู เธอ ทำ (นู๋ก้อยจ้ะ) - [ 20 เม.ย. 51 02:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขออีก ส่วนตัวคิดว่าประเด็นจริงๆ เรากำลังสนับสนุนสื่อเลวที่หวังกอบโกยกำไรโดยขาดจิตสำนึก ละครสวรรค์เบี่ยง แม้จะคิดได้ตามที่เจ้าของกระทู้บอก แต่มันทำออกมาอย่างไร้รสนิยมมาก เราคิดว่า เจตนา ของผู้สร้างเรื่องนี้ เห็นแก่ตัวค่ะ ตอบแค่นี้ ก็ได้แต่เศร้าใจถ้าเสียงชื่นชม พร้อมเข้าใจ มากกว่าเสียงติติง จากคุณ : B (ThisLonelyMe) - [ 20 เม.ย. 51 06:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ประเด็นของผมคือ  สังคมของเราไม่เข้มแข็งทางความคิดเพียงพอ แน่นอน  ผมไม่ดูพูดถึงสังคมพันทิพ  ผมกำลังพูดถึงสังคมทั้งประเทศของเรา มุมที่ จขกท. เราจะหาประโยชน์จากละครเรื่องนี้ได้  แม้ว่าคนเขียนบทจะทำเพื่อเรตติ้ง  ก็ต่อเมื่อสังคมของเราเข้มแข็งพอ ซึ่งถ้าหากสังคมของเราเข้มแข็งทางความคิดพอ  ละครเรื่องนี้คงไม่ได้ฉายช่วงเวลานี้แน่นอน หวังว่าคงชัดเจนและเพียงพอที่ผมจะต่อต้านละครเรื่องนี้ จากคุณ : jedi-jaidee - [ 20 เม.ย. 51 13:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กลับมาขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่ตั้งกระทู้สร้างสรรค์ให้ฉันได้เข้ามาแจมกับเพื่อนๆหลายคนที่เข้าใจในประเด็นเดียวกัน และขอเก็บกระทู้เข้าคลัง จะเอาไปเป็นกรณีศึกษา เวลาต้องทำกิจกรรมเท่าทันสื่อกับเด็กๆค่ะ จะเอากระทู้นี้ให้เด็ก(เด็กไทยที่ใครๆว่าโง่นักหนา คิดเองไม่ได้) ลองให้เขาวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน (คิดแทนเขาอยู่) ดูสิเขาจะว่ากันยังไง ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กคิดได้ว่าอะไรถูกหรือผิด แต่ไอ้ที่ทำน่ะ ไม่ใช่ไม่รู้ รู้ว่าผิด แต่จะทำ (เพราะ.....ฯลฯ) จากคุณ : เชื่อในพลังของเยาวชน (chaosy) - [ 21 เม.ย. 51 00:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ คห. 46 chaosy ... ขอตอบ คห. นี้ของคุณได้ทันทีตรงนี้เลยค่ะ ...ว่าเด็กเขาก็ต้องตอบว่าเขาคิดเองได้นะซิคะ (ถึงเด็กเขาจะตัวเล็ก ก็เล็กแต่ตัวนะคะ เขามีอัตตาของตัวเขาเองด้วยเหมือนกัน) ...แล้วในฐานะที่คุณและดิฉันเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่เนี่ย จะยอมปล่อยให้เขาทำตามที่เขาคิดเองกันต่อไปหรือเปล่าละคะ ขนาดประโยคสุดท้ายของคุณ ...คุณยังบอกเองเลยว่า "เด็กทำผิด ทั้งที่รู้ว่าผิด ก็ยังทำอ่ะค่ะ" ...นั่นแสดงว่าเขายังไม่มีวิจารณญานถ้วนถี่ ในการตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแบบผู้ใหญ่ไงคะ ...แล้วคุณยังคิดว่าผู้ใหญ่ควรปล่อยให้เด็กเขาคิดเอง เลือกเสพย์สื่อละครด้วยตัวเองอีกหรือคะ ...แล้วจะรู้ได้อย่างไงละคะ ว่าเด็กแต่ละคนเลือกเสพย์ตรงส่วนดีส่วนเสียตรงไหน ของละครแต่ละเรื่องบ้าง อีกอย่างหนึ่งนะคะ ...คงต้องระวังคำถามชี้นำให้เด็กตอบด้วยค่ะ ถ้าเอา คห. ในนี้ไปให้เด็กอ่าน ...แล้วมีการถามคำถามไปในเชิงลบ เด็กเขาก็คงตอบแบบลบๆออกมาเหมือนกันอ่ะค่ะ ...แต่ถ้าให้เด็กอ่านเอง เขาคงไม่มานั่งคิดว่า คห. ไหนบ้างกำลังว่าเขาโง่ เพราะแต่ละ คห. ก็ไม่ได้รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว ไม่ได้โกรธเคืองกัน จะต้องมานั่งจำเพาะว่าเขาอยู่ทำไม จริงๆแล้ว ...หลักการสอนเด็กเนี่ย อันหนึ่งเท่าที่ดิฉันพอจะทราบก็คือ ...การค่อยๆถ่ายทอดความรู้ ค่านิยม และสิ่งดีงามให้เด็ก ด้วยหลายวิธีการ เพื่อให้เด็กซึมซับและค่อยๆเรียนรู้ไป ไม่ใช่หรือคะ ซึ่งมันใช้ระยะเวลาหลายปีทีเดียวในการปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ ...การดุด่าว่ากล่าว วิพากษ์วิจารณ์ หรือตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง เป็นสิ่งที่ครูห้ามกระทำไม่ใช่หรือคะ????????? มันไม่ใช่วิธีการสร้างสรรค์ให้เด็กดีขึ้นแต่อย่างใด ...แล้วการที่เราเอากระทู้ที่มี คห. แตกต่างกันอย่างไม่มีข้อสรุปแบบนี้ไปให้เด็กดู นี่จะกลายเป็นการไปสร้างความรู้สึกอยากจะโต้ตอบผู้ใหญ่กลับบ้าง ให้แก่เด็กหรือเปล่าคะ มุมมองอีกด้านหนึ่ง แค่ฝากไว้ให้คิดน่ะค่ะ ... จากคุณ : มิสยูนิเวอร์ส - [ 21 เม.ย. 51 22:43:58 A:58.9.13.105 X: TicketID:167542 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ ที่จริงมาบอกกล่าวเจ้าของกระทู้ คิดว่าจบกระทู้ไปแล้ว ไม่ได้ถามอะไรใคร แต่ก็คุยด้วยได้ค่ะ(อุตส่าห์มาเขียนตั้งมาก) 1.  บรรทัดที่ 1   -------------- "...แล้วในฐานะที่คุณและดิฉันเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่เนี่ย จะยอมปล่อยให้เขาทำตามที่เขาคิดเองกันต่อไปหรือเปล่าละคะ" ---------------- ดิฉันเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพสิทธิและกระบวนการคิดของเด็กๆ ค่ะ ผู้ใหญ่จะปล่อยหรือไม่ปล่อย ถ้าเด็กจะทำตามที่เขาคิด เขาก็จะทำ คุณจะไปตามบังคับ ตามห้ามทุกเรื่อง ทุกเวลาเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้จึงไม่ใช่การบังคับ ไม่ปล่อย ซึ่งเป็นพื้นฐานจากความไม่เชื่อใจ แต่คือการปลูกฝัง ให้รสนิยมที่ดี และเชื่อมั่นในตัวเขา ซึ่งต้องกระทำตั้งแต่เยาว์วัย 2. ที่คุณพูดว่า ----------------------- "ขนาดประโยคสุดท้ายของคุณ ...คุณยังบอกเองเลยว่า "เด็กทำผิด ทั้งที่รู้ว่าผิด ก็ยังทำอ่ะค่ะ" ...นั่นแสดงว่าเขายังไม่มีวิจารณญานถ้วนถี่ ในการตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแบบผู้ใหญ่ไงคะ ...แล้วคุณยังคิดว่าผู้ใหญ่ควรปล่อยให้เด็กเขาคิดเอง เลือกเสพย์สื่อละครด้วยตัวเองอีกหรือคะ ...แล้วจะรู้ได้อย่างไงละคะ ว่าเด็กแต่ละคนเลือกเสพย์ตรงส่วนดีส่วนเสียตรงไหน ของละครแต่ละเรื่องบ้าง ----------------------------- ดิฉันไม่ได้บอกว่า "เด็กทำผิด ทั้งที่รู้ว่าผิด ก็ยังทำอ่ะค่ะ" (กลับขึ้นไปอ่านใหม่นะคะ อย่าแปลงสาร..) ดิฉันพูดว่า "ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กคิดได้ว่าอะไรถูกหรือผิด แต่ไอ้ที่ทำน่ะ ไม่ใช่ไม่รู้ รู้ว่าผิด แต่จะทำ (เพราะ.....ฯลฯ) " .... นั่นหมายถึงว่า การที่เด็กทำผิดทั้งๆ ที่รู้ว่าผิด ก็เพราะเหตุผลอื่น..อีกมากมาย เช่น ประชดพ่อแม่ ท้าทายครูที่ชอบคิดแทน ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่ที่รู้ว่าอะไรถูกผิด แต่ก็ทำ ตั้งแต่นายกฯ ลงมายังสมาชิกพันทิพ ที่ใช้วาจาหยาบคายด่าคนอื่นที่คิดไมเหมือนตน ดังนั้นด้วยความหมายนี้ ดิฉันจึงหมายถึงว่าเด็กมีวิจารณญาณ แต่การที่เขาจะปฏิบัติอย่างไร เป็นคนละเรื่องกับวิจารณญาณ การปฏิบัติเป็นเรื่องของ appreciation ทำเพราะรู้สึกดีและอยากทำ  หรือเป็นเรื่องของอารมณ์ เช่นทำเพราะอยากเท่ห์ อยากมีพวก ฯลฯ ในขณะที่คุณอ่านแล้วกลับตีความว่าเด็กไม่มีวิจารณญาณ ไม่สามารถคิดได้แบบผู้ใหญ่ แต่ดิฉันคิดว่า หลายๆ ครั้งเด็กคิดได้ดีและใจกว้างกว่าผู้ใหญ่ และไม่ใช่ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วจะฉลาด ดี หรือมีวิจารณญาณเสมอไป ดูหลายๆ กระทู้ก็คงจะรู้ ว่าผู้ใหญ่เหล่านี้ช่างคับแคบ เหมารวม ก้าวร้าว ละเมิดสิทธิ์ และแยกแยะไม่ออก แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 51 13:14:04 จากคุณ : chaosy - [ 22 เม.ย. 51 12:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ย่อหน้าที่ 3 ของคุณ อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเจตนาของคุณ  ลองอ่านดูใหม่นะคะ ---------------------------- " ......อีกอย่างหนึ่งนะคะ ...คงต้องระวังคำถามชี้นำให้เด็กตอบด้วยค่ะ ถ้าเอา คห. ในนี้ไปให้เด็กอ่าน ...แล้วมีการถามคำถามไปในเชิงลบ เด็กเขาก็คงตอบแบบลบๆออกมาเหมือนกันอ่ะค่ะ ...แต่ถ้าให้เด็กอ่านเอง เขาคงไม่มานั่งคิดว่า คห. ไหนบ้างกำลังว่าเขาโง่ เพราะแต่ละ คห. ก็ไม่ได้รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว ไม่ได้โกรธเคืองกัน จะต้องมานั่งจำเพาะว่าเขาอยู่ทำไม จริงๆแล้ว ...หลักการสอนเด็กเนี่ย อันหนึ่งเท่าที่ดิฉันพอจะทราบก็คือ ...การค่อยๆถ่ายทอดความรู้ ค่านิยม และสิ่งดีงามให้เด็ก ด้วยหลายวิธีการ เพื่อให้เด็กซึมซับและค่อยๆเรียนรู้ไป ไม่ใช่หรือคะ ซึ่งมันใช้ระยะเวลาหลายปีทีเดียวในการปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ ...การดุด่าว่ากล่าว วิพากษ์วิจารณ์ หรือตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง เป็นสิ่งที่ครูห้ามกระทำไม่ใช่หรือคะ????????? มันไม่ใช่วิธีการสร้างสรรค์ให้เด็กดีขึ้นแต่อย่างใด...." ------------------------------- อ่านแล้วก็งงว่าต้องการจะบอกอะไรฉัน ทีคุณบอกว่า "การดุด่าว่ากล่าว...บลาบลา "ใครดุคะ ดิฉันดุหรือ ?? งง ประเด็นคืออะไร   ดิฉันพูดว่า... "จะเอากระทู้นี้ให้เด็ก(เด็กไทยที่ใครๆว่าโง่นักหนา คิดเองไม่ได้) ลองให้เขาวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน (คิดแทนเขาอยู่) ดูสิเขาจะว่ากันยังไง..." ก็หมายความตามนั้น ไม่ได้คิดจะดุด่าเด็ก หรือตำหนิเด็กอะไรตามที่คุณเขียนทั้งนั้น คุณฟังไม่ได้ศัพท์เลยนะคะ ดิฉันก็เพียงแต่จะเอากระทู้ไปให้เด็กอ่าน และลองให้เด็กเป็นฝ่ายวิพากษ์บ้าง ว่าอ่านแล้วเขาคิดยังไง รู้สึกยังไงมั่ง ก็เท่านั้น ดึงประเด็นไปสอน ในเวลาหรือในชั่วโมงที่เหมาะสม เพื่อฝึก critical mind วิจารณญาณ ต่อกระบวนการที่เกิดขึ้นในโลกจริง ?? ไม่ใช่การสอนเด็กอย่างสร้างสรรค์ตามที่คุณกรุณาสั่งสอนชั้นมายืดยาวหรือ?? เด็กๆ ของฉันฉลาด จึงไม่จำเป็นต้องเสี้ยมหรือเปิดประเด็นเชิงลบเลย เพราะเด็กเข้าถึงกระทู้นี้และหลายๆกระทู้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยฉํนเลย ที่จริงในพันทิพนี้ก็มีเด็กๆ ของฉันเข้ามาเยอะ  (ไม่มีใครห้ามนะคะ ไม่มีเรตติ้ง ไม่มีป้ายหรือข้อความห้าม) ความหยาบคายก้าวร้าวของผู้ใหญ่หลายๆ คนที่บอกว่ารักเด้กรักสังคม ไม่ทราบว่าเป็นตั้วอย่างที่ดีตรงไหน เด็กของฉันดูคาวี ก็เข้าใจว่าเป็นตัวละคร ต้องการสร้างเรตติ้งและไม่มีจริง แต่เด็กเข้ามาอ่านความเห็นถึงละครที่เขาดู กลับมีแต่คำถามว่า ทำไมผู้ใหญ่ถึงรุนแรงและพูดไม่รู้เรื่อง คนจริงๆใช่ไหมที่เขียนความเห็นเหล่านี้ ??? คนเหล่านี้เป็นใคร ?? ดิฉันก็ชักสงสัยค่ะ ผู้ปรารถนาดีอย่างแรงกล้าต่อเยาวชนของชาติ จนต้องมาตามจิกกัด ด่าว่า ผู้ชมที่ชื่นชอบละครสวรรค์เบี่ยง พวกคุณเป็นใครกัน ????? ทำไมพูดไม่รู้เรื่องนัก ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของคู่แข่ง  ของผู้จัด+ดารา+ช่อง ก็แล้วไป ฉันคงไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้าพวกคุณเป็นคนที่ทำงานด้านเยาวชน หรือรณรงค์เรื่องสื่อสร้างสรรค์จริงๆ วิธีการเช่นนี้น่าเป็นห่วงค่ะ รับรองได้ว่าก่อแต่สงคราม แต่ไม่สามารถสร้างมวลชนได้เลย เพราะเป็นการรณรงค์ที่ไร้เหตุผลและละเมิดสิทธิของผู้อื่นตลอดเวลา ขอให้ฉันเข้าใจผิดก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 51 13:11:02 จากคุณ : chaosy - [ 22 เม.ย. 51 13:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถึงคุณ chaosy ... ถ้าคุณบอกว่า ดิฉันแปลงสารของคุณ แล้วเข้าใจผิดไปเอง ...ดิฉันก็จะจบคำพูดดิฉันที่ คห. นี้ละคะ (คือมันลำบากที่จะพูดกันต่อน่ะค่ะ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับ) ... แต่ดิฉันก็คงไม่สามารถกล่าวคำขอโทษใดๆ กับคุณหรอกนะคะ ...เพราะดิฉันมั่นใจว่า ดิฉันอ่านแล้วเข้าใจไม่ผิด ยังคง confirm ตาม คห. เก่าที่เขียนไว้แล้ว) ... ส่วนรายละเอียดที่คุณมาเพิ่มเติมที่สอง คห. หลังเนี่ย ...เป็นตัวดิฉัน ดิฉันก็คงจะเพิ่มเติมลงไปแบบคุณเหมือนกัน และจะเติมมันลงไป ก็ต่อเมื่อดิฉันรู้สึกว่า ตัวเองพูดพลาดไปแล้วใน คห. ก่อนหน้านั้นอ่ะค่ะ 55555555+++++ อ้อ ...สุดท้ายที่อยากจะถามคือ รู้สึกเมื่อยมือบ้างมั้ยคะ ตอนนั่งพิมพ์สอง คห. ข้างบนดิฉันเนี่ย ....ยาววววววววววววววจังนะคะ ขนาดดิฉันเอง (เป็นฝ่ายโดนคุณตอกกลับแท้ๆ) ยังขี้เกียจอ่าน หาประเด็นมาเถียงใหม่กับคุณเลย ...สงสัยนักเรียนของคุณเนี่ย คงต้องเป็นระดับหัวกะทิของประเทศแน่ๆเลย อิ อิ จากคุณ : มิสยูนิเวอร์ส - [ 24 เม.ย. 51 00:19:12 A:58.9.13.104 X: TicketID:167542 ]