CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "สี่แพร่ง" ... 4 ผี + 4 สั้น + 4 แนวทาง + 4 ความรู้สึก = 1 ความบันเทิงที่เกือบ..ลงตัว

      ชอบ.. "เหงา" มากที่สุด (22 คน)
      ชอบ.. "ยันต์สั่งตาย" มากที่สุด (2 คน)
      ขอบ.. "คนกลาง" มากที่สุด (69 คน)
      ชอบ.. "เที่ยวบิน 224" มากที่สุด (44 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 137 คน

     16.06%
     1.46%
     50.36%
     32.12%


    หมายเหตุการโหวต : โหวตคราวนี้ ขอเปลี่ยนรูปแบบตัวเลือกสักหน่อย ...เพราะในเมื่อ สี่แพร่ง ทำการแตกเป็น 4 หนังสั้น ก็เลยให้โหวตเอาเรื่องที่ชอบที่สุดละกันครับผม

    หนังผีรวมเรื่องสั้น ต้องถือว่าไม่ได้เป็นของใหม่สำหรับวงการหนังบ้านเราอีกต่อไปแล้ว ...เพราะในเมื่อหลายปีก่อน เราก็เคยได้เห็นทั้งหนังผีเอเชีย ที่มีคนไทยอีกหนึ่งผู้กำกับคนเก่งอย่าง "อุ๋ย-นนทรีย์" โกอินเตอร์ไปกำกับหนี่งในตอนของ "อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต (Three)" ...และก็ยังมีที่เป็นหนังไทยแท้ๆ แต่เป็นงานของผู้กำกับฮ่องกง(???) "ออกไซด์ แปง" กับ "ผีสามบาท"

    แต่ถึงกระนั้นแล้ว ในวันนี้ ที่เทรนด์หนังผียังไม่ตกตามไป (แม้ตัวเงินรายได้จะค่อนข้างง่อนแง่นไม่น่าไว้ใจไปกว่าก่อนก็ตาม) ...การถือกำเนิดของหนังผีรวมเรื่องสั้น ก็ต้องย่อมเป็นเรื่องที่สร้างความเสี่ยงได้ไม่น้อย ...ทั้งที่จะต้องมีการแบ่งสัดแบ่งส่วนเรื่องราวให้ไม่สามารถนำเสนอหรืออวดอ้างอะไรได้เต็มๆ แล้วไหนยังจะรวมไปถึงเรื่องของการโปรโมตให้คนดูเกิดจุดสนใจในยุคที่คนดูหนังคาดหวังหาความแปลกใหม่จากหนังผีได้น้อยลง...นี่ยังไม่รวมกับกรณีที่หนังรวมเรื่องสั้นทั่วๆไป หลายเรื่องมักต้องประสบถึง ระดับความแตกต่างทางความชอบที่มีมากกว่า ลดหลั่นกันตามๆไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ย่อมจะทำให้คนดูไม่สามารถเต็มอิ่มกับหนัง 1 เรื่องใหญ่ได้อย่างเต็มที่

    และกับ "สี่แพร่ง" ...หนังผีรวมเรื่องสั้นครั้งใหม่(ของวงการหนังไทย)และครั้งแรก จากการผนึกกำลังผู้กำกับหนังผีๆแห่งค่าย GTH ...ก็ยังประสบกับกรณีหลังที่ว่ามาไม่ต่างกันเลย

    เมื่อหนังสั้นทั้ง 4 ตอน ต่างถูกกำหนดบทบาทให้แตกต่างภายใต้กำมือของผู้กำกับ 4 คน ที่สร้างแนวทางให้ไม่เหมือนกัน ...มันเลยเป็นเรื่องที่ง่ายมาก สำหรับคนดูที่จะเกิดการตัดสินความชอบดี อยู่บนเกณฑ์ความรู้สึกที่โดนกับเรื่องราวรูปแบบไหนเป็นพิเศษ ...ถึงแม้สารที่สื่อ(ผ่านการโฆษณา)ของเหล่าผู้กำกับ จะพยายามโปรโมตให้หนังแต่ละเรื่องเหมือนเป็นเครื่องเล่นท้าสยอง 4 ตัว ที่ต่างก็มีความเสียวในตัวของมันเองเหมือนๆกัน แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่คนดูต่างคนก็ต่างความคิด จะออกจากโรงหนังมาบอกเล่า ความเสียวมากไปถึงเสียวน้อย(จนอาจไม่เสียวเลย) ไม่เหมือนกัน

    ...
    ..
    .

    "เหงา" ...เปิด 1 เรื่องใหญ่ ด้วยหนังผีพันธุ์แท้เรื่องแรก (หลังจากเคยทำแต่ผี...เห็นผี แบบ "สตรีเหล็ก" จนมาถึง "แก๊งชะนีกับอีแอบ") ของผู้กำกับที่ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ตัวใหญ่ของ GTH "ยงยุทธ ทองกองทุน" ...เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หญิงสาวผู้หนึ่ง ที่ชีวิตบัดซบ เพราะเจอแต่เรื่องเลวร้ายมาพัวพันกับชีวิต (อาจไม่ถึงขั้นน้ำเน่าตบกันแหลกเท่า แอร์กี่ ...หรือมิได้นำพาเช่นอย่าง อีเย็น) ทั้งตกงาน รถคว่ำ ขาเดี้ยง แล้วอาจต้องรวมไปถึง การเป็นสาวโสดนั่งนิ่งบนคาน ที่เปลี่ยวเหงา กับช่วงเวลา 3 เดือนอันทรมาน ที่ต้องทนอยู่แต่ในห้องพักแคบๆ ขาดซึ่งการพูดคุยหรือมิได้พบปะใคร ...นอกไปจากจะมีโทรศัพท์เอาไว้ส่ง SMS แก้เหงาถึงเพื่อนสนิทสาวไปวันๆ

    แต่แล้วเรื่องหลอนๆก็ถูกส่งให้มาเกิด โดยมิได้นำพา เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งส่ง SMS มาขอคุยเป็นเพื่อนกับหญิงสาว เพื่อต้องการจะได้แก้เหงาครือๆกัน ...หากแต่หนุ่มที่ว่านั้น ดันเป็นใครคนหนึ่งซึ่งกำลังมีชีวิตอยู่คนเดียวอย่างเปลี่ยวเหงามาจนครบ 100 วันแล้ว!!?

    "เหงา" ...ย่อมต้องถือเป็นเครื่องพิสูจน์การพลิกแนวที่น่าสนใจเป็นครั้งแรก ของผู้กำกับอารมณ์ดีที่เพียรพยายามทำหนังอารมณ์ขันมาโดยตลอด ...และเวลา 20 กว่านาทีสั้นๆนี้ มันก็ได้พิสูจน์ออกมาว่า พี่สิน ควรจะได้ใบสูติบัตรแจ้งเกิดแล้ว กับการเป็นผู้กำกับหนังผีฝีมือเจ๋ง ที่สามารถเอาคนดูให้รู้สึกโดนหลอก กลอกอารมณ์จนหลอนได้อยู่หมัด ...หนังตอนนี้ ใช้วิธีการเล่าเรื่องที่แทบไม่มีไดอะล็อกใดๆ

    ออกมาจากปาก นอกไปจากเสียงกรี๊ด ร้องห่มร้องไห้ของ "เอ๋-มณีรัตน์" ซึ่งต้องเล่นหนังทั้งตอนนี้แบบคนเดียวครองจอ เนื้อๆและเน้นๆ ...ซึ่งสิ่งเดียวในบทหนังที่จะทำให้เรารู้เรื่องโดยไม่ต้องคิดเยอะ ก็คือ ข้อความ SMS ที่ถูกส่งตรงมาจากชายแปลกหน้า ที่แสดงออกถึงความน่ากลัวของเทคโนโลยีอันล้ำหน้า เสียจนเอาชีวิตคนหลายคนไปทิ้งไว้กับความคาดหวังโดยไม่จำเป็นต้องพบหน้าค่าตาของคนที่ปลายสายเลย

    ก็ไม่รู้หรอกว่า ผู้กำกับ พี่สิน จะต้องการแสดงความนัยน์แอบแฝง ถึงเทคโนโลยีวันนี้อะไรบ้างหรือเปล่า? (อาจจะเป็นที่ผมเองคิดมากไปก็ได้อยู่) ...แต่สำหรับการดู เหงา เรื่องนี้ โดยไม่คิดอะไร ก็เป็นสิ่งที่ให้อะไรคืนมากับคนดูได้อย่างคุ้มค่า ...ไม่ว่าจะเป็น การกำกับอารมณ์ผ่านความเงียบใบ้ของตัวละคร ที่สามารถเลือกใช้บรรยากาศสภาพแวดล้อมมาเป็นตัวล้อมกรอบ ให้คนดูติดกับดัก และทนทุกข์ทรมานไปตามสิ่งที่ตัวละครของ คุณเอ๋ ต้องพบเจอ(อย่างที่เป็นไปตามสูตรหนังผีสำเร็จรูป ...ดนตรีโหม ภาพกระพือ และ ตู้มมม!!!)อย่างเลี่ยงไม่ได้ ...ทั้งนี้ การแสดงของ คุณเอ๋ ก็เอาหนังที่เป็นของเธอคนเดียวได้อยู่ ...ใช้สีหน้า และแววตา ในการสร้างภาพกลัว จนชวนให้เราต้องตามลุ้นการต่อสู้กับสิ่งที่คนมองไม่เห็นไปถึงจุดจบ ..ที่อาจจะไม่แปลกใหม่นัก แต่ภาพรวมของมัน ก็ทำออกมาในเกณฑ์ดีมาก และได้ใจผม(คนที่ไม่ค่อยปลาบปลื้มกับหนังผี)ไปเต็มๆ

    นี่เป็นตอนของ สี่แพร่ง ...ที่ผมชอบมากที่สุด (ให้เป็นคะแนน 9.5/10)

    ...
    ..
    .

    "ยันต์สั่งตาย" ...หลังจากโชว์ของเหนือด้วย เทคนิคซีจี จนน่าตื่นตา(แต่ก็ไม่เนียนไปทั่ว จนแอบขัดใจ) ใน "บอดี้ ศพ #19" ..."ปวีณ ภูริจิตปัญญา" ก็ได้กลับมาในเวลาอันรวดเร็ว กับอีกหนึ่งเรื่องราวตอนสั้นๆในหนังสือการ์ตูน "จิตหลุด" ของนักเขียนบทคนสนิทอย่าง "เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์" ...ซึ่งหนึ่งในตอนของหนังสือเล่มนั้น ก็เคยถูกสร้างมาเป็นหนัง อันเป็นงานแจ้งเกิดของ "มะเดี่ยว-ชูเกียรติ" (ที่อาจไม่เป็นทางการเท่า "รักแห่งสยาม") กับ "13 เกมสยอง" ...ที่คนหลังเองก็เคยมีจิตผูกพันกับผู้กำกับปวีณ เข้ามาช่วยเขียนบทของ บอดี้ ให้พร้อมกันกับ เอกสิทธิ์ ที่ก็เคยช่วยไปเขียนใน 13 คู่กับมะเดี่ยว มาด้วยเหมือนกัน (โอ้ย!! สายสัมพันธ์เวียนวน ...คนเขียนก็งงกับภาษาตัวเอง)

    เรื่องราวในตอนนี้ พูดถึง...กลุ่มเด็กอาชีวะวัยรุ่นเลือดร้อน(อันเป็นสิ่งมีชีวิตที่พบเห็นได้เป็นปกติตามท้องถนนทั่วไป ยันถึงริมฟุตบาท และลามไปบนรถเมล์ก็ด้วย... โอ้ย! จะบรรยายอะไรให้มันมากมาย)ที่รวมหัวกันกลั่นแกล้งเพื่อนนักเรียนที่เป็นลูกของสัปเหร่อ(โปรดอย่าถามว่า สัปเหร่อ คนนี้เป็นใคร ...เพราะหนังบอกเอาไว้แค่ สัปเหร่อสักคน เป็นพ่อของเด็กคนนี้) ให้เกิดความอาฆาตแค้น จนสุดท้ายก็กลายต้องมาเจอดีกับการโดนเล่นของที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย อันหมายปลิดชีพให้กับคนทุกๆคนที่มองเห็นมัน

    ถ้าจะให้นิยามของหนังสั้นตอนนี้แล้ว ...ก็ต้องคิดถึงว่ามันเป็นเรื่องของการหนีตายแบบ "Final Destination" ที่เอาไสยศาสตร์ล้างแค้นอย่าง "ลองของ" ไปผสมรวมจนมันออกมาเป็นหนัง... ที่ 'ป่นปี้' และ'เลอะเทอะ' ...อันเป็นเรื่องหนึ่งและเรื่องเดียวใน สี่แพร่ง ที่ควรกำจัดทิ้งออกไปมากที่สุด

    อยากจะเสียดายแทนผู้กำกับ กอล์ฟ-ปวีณ เป็นอย่างยิ่ง ที่เคยมี บอดี้ ศพ #19 เป็นเครดิตเปิดตัวเองได้อย่างสวย (ถึงแม้ส่วนหนึ่งจะต้องยกความดีความเจ๋งยิ่งยวดให้กับบท ของคุณมะเดี่ยว กับเอกสิทธิ์ ด้วยก็ตาม) และกลายเป็นความหวังใหม่ของวงการหนังผีไทยที่น่าจับตามอง ...หากแต่ศักยภาพเหล่านั้น กลับไม่สามารถพบเห็นได้เลยจากงานหนังสั้นที่ต๋อยด้อย จนไม่อาจเกิดความอยากสนุกไปกับมันได้

    สิ่งเดียวที่ผมมองว่าล้ำค่า และเป็นสิ่งที่ ยันต์สั่งตาย มี แต่ใช้ได้ไม่คุ้มค่าเลย ก็คือ การแสดงของ "สายป่าน-อภิญญา" ...ที่บทจะให้เธอเด่น ก็เด่นแบบแกนๆ มีความหมายเป็นเพียงแค่ เด็กสาวคนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกสงสารคนเป็น หากแต่ก็ไม่เคยห้ามปรามให้เพื่อนๆเลิกกลั่นแกล้งซะอย่างงั้น

    ส่วนที่เหลือจากนั้น ...ไม่ว่าจะการกำกับ บทหนัง ไปกระทั่งการโชว์เหนือด้วยมุมกล้องที่สั่นไหว ให้ความเป็นหนังแอ๊คชั่น-เรียลลีตี้ ...ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ กอล์ฟ-ปวีณ สอบตก ...แต่ก็ยังไม่อาจจะเลวร้ายได้เทียบเท่ากับ งานซีจี ที่ขยันสร้าง ขยันขาย แต่ไม่มีตรงไหนที่จะทำให้น่าซื้อได้เลย เมื่อเอาไปเปรียบกับ บอดี้ ที่เคยสร้างมาตรฐานซีจีไทย(ให้ดีขึ้นมาพอสมควร) ...ถ้านึกภาพความเลวร้ายของมันไม่ออก ให้ลองนึกถึงผีซีจีใน "บ้านผีสิง" (หนังผีของ ทราย เจริญปุระ...ที่ไม่น่าจดจำมากที่สุด) ในเวอร์ชั่นที่ดูจะมีรายละเอียดมากกว่านิดๆ แต่แทบจะมีคุณภาพเข้าข่ายแย่ ไม่ต่างกันเลย

    ในความคิดผม ...ยันต์สั่งตาย ควรจะขยายเรื่องราวอันมีศักยภาพ(ของคุณ เอกสิทธิ์)เอามาทำเป็นหนังเรื่องยาวซะจะดีกว่า ...เอาความเป็นเรื่องสั้น มาบั่นรายละเอียดให้น้อย แล้วยัดปริมาณความเป็นหนังสยอง ไว้มากจนกลายเป็นล้น และให้ผลลัพธ์ที่ฝืดเฝือในท้ายที่สุดเช่นนี้

    นี่เป็นตอนของ สี่แพร่ง ที่ผมชอบน้อยที่สุด ...หรือจะพูดว่า ไม่มีอะไรให้ชอบเลย ซะดีกว่า (ให้เป็นคะแนน 4/10)

    แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 17:57:29

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 28 เม.ย. 51 17:15:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom