PANTIP.COM : A6596911 ไอ้หมื่นย้อนรอยนิดหน่อย ท่านชอบ The Mummy ภาคไหนกว่ากันครับ [ภาพยนตร์]

ไอ้หมื่นย้อนรอยนิดหน่อย ท่านชอบ The Mummy ภาคไหนกว่ากันครับ

The Mummy ภาคแรกเยี่ยมสุด (23 คน)
The Mummy Returns สนุกมากก (8 คน)
ก็โอเคพอกันทั้งสองตอนนั่นแหละ (7 คน)
มันสนุกตรงไหนบอกทีสิ (0 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 38 คน

60.53%
21.05%
18.42%
0.00%

ลองมาให้โหวตนะครับ อยากรู้ว่าชอบตอนไหนกว่ากัน เพราะเหตุอันใด

The Mummy (1999)
เดอะ มัมมี่ คืนชีพคำสาปนรกล้างโลก

แนวหนัง ผจญภัย - แอ๊คชั่น

หนังผจญภัยสุดมันส์ กับการเอา The Mummy ฉบับเก่ารีเมคใหม่ (ผมว่ามัน รีอิมเมจินมากกว่าครับ เพราะมันคนละแนวกับของเก่าโดยสิ้นเชิงเลย) ซึ่งมัมมี่ฉบับนี้ยังคงเป็นอิมโฮเทพ (Arnold Vosloo) พระครูชั้นสูงแห่งอียิปต์ที่โดนลงทัณฑ์ด้วยเวทย์มนต์พอมดาย มหาคำสาปที่จะทำให้ผู้ที่โดนตกอยู่ระหว่าง 2 ภพ มิได้ผุดได้เกิด แต่หากมีใครไปปลุกเขาขึ้นมา เขาจะมาพร้อมพลังอำนาจที่สามารถล้างโลกได้ทั้งใบ แล้วกลุ่มนักล่าสมบัติที่นำโดย ริค โอ' คอนเนลล์ (Brendan Fraser) และ เอฟเวอร์ลีน (Rachel Weisz) บรรณารักษ์ห้องสมุดในเมืองอียิปต์ ดันไปปลุกพี่อิมเข้า งานนี้ก็เลยเป็นเรื่องครับ

สำหรับผู้กำกับ Stephen Sommers แล้ว ผมต้องยกให้เป็นจอมรีอิมเมจจินอีกคนของวงการ ใน Van Helsing เป็นไงครับ พี่แกสร้างตำนานใหม่ขึ้นมาเต็มๆ (หลายคนเฉยกระเดียดไปทางไม่ชอบ แต่ผมนี่ชอบแบบสุดตีนจริงๆ) สำหรับเรื่องนี้ก็ตามเคย พี่แกปรับแนวมาเป็นแบบของพี่แกเอง คือแอ๊คชั่น - ผจญภัย เพราะฉบับเดิมนั้น มันเป็นหนังสยองนะครับผม ประมาณ Dracula ปี 1931 น่ะแหละ แต่มาอันนี้นี่โอ้โห ตีกันจนแทบไม่มีเวลาสยองเลย มีฉากน่ากลัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งหนังก็ดูเพลินครับ มันส์ได้ตลอด มีพักบ้างนิดหน่อย (ไม่เหมือน Van ครับ รายนั้นเล่นถอดเบรคออกไปทั้งดุ้น ดูแล้วเหนื่อยชิบเผง)

หนังลงตัวมากครับ ฉาก Action และ Effect ยอดมาก การเดินเรื่องก็เร้าใจและเอามันส์อย่างเดียวเลย สาระไม่ต้องไปคิดครับ ทำออกมาสไตล์ป็อบคอร์นอยู่แล้ว (ได้รส เอามันส์ และไม่คำนึงถึงสารอาหาร) ดาราก็จัดว่าลื่นทั้งนั้นครับ Fraser ถือว่าเข้าวงการมาเพื่อบทนี้เลยก็ว่าได้ เหมาะจริงๆ ครับ ส่วน Weisz นี่ผมก็ไม่เคยเห็นเธอสวยขนาดนี้มาก่อนเลยครับ เรื่องอื่นๆ ดูป้าๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่กับเรื่องนี้เธอฉายเสน่ห์จริงๆ แล้วยังต๊องแบบน่ารักอีกด้วย

พี่ Arnold Vosloo นี่ผมก็ชอบแกมานานแล้วครับ ตั้งแต่ Darkman ภาค 2 - 3 แล้วก็ Hard Target ของเฮีย John Woo เพราะหน้าตาพี่แกเป็นเอกลักษณ์ดี (หลายคนบอกหน้าแกเหมือนพี่ Nicholas Cage ซึ่งก็เหมือนอยู่ครับ แต่ผมว่ามันคนละโทนนะ หน้าพี่ Cage มันเป็นแนวหมาเศร้า แต่พี่ Vosloo มันตัวร้ายชัดๆ) และเขาก็ถือว่าเกิดมาเพื่อบทนี้เหมือนกันครับ ดูแล้วมาดดีจริงๆ อีกคนที่มาเพื่อฮาคือ John Hannah พี่ชายจอมป่วนของเอฟเวอลีนที่คอยเรียกเสียงฮาได้ดี กับอีกคนก็ Kevin J. O'Connor ดาราที่ร่วมแสดงในหนังของ Sommers มาหลายเรื่องแล้วก็ก็มาเป็นตัวฮาอีกคน แต่ออกแนวโฉดหน่อยน่ะครับ และที่ลืมไม่ได้คือพี่ Oded Fehr ในบทอาเด็ด เบย์ ผู้พิทักษ์เผ่ามาไจล์ที่เท่ห์และลึกลับดีจริงๆ

ผมว่าคนที่ชอบหนังแนวนี้น่าจะดูกันหมดแล้วมั้งครับ มันส์ขนาดนี้ แต่ถ้าใครพลาดก็หามาดูเถอะครับ ผมถือว่าเป็นอะไรที่มันส์จริงๆ

เป็นอีกหนึ่งหนังผจญภัยที่ไม่สร้างความผิดหวังให้คนดูครับ
สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=29-06-2005&group=11&blog=2

จากคุณ : เทพบุตรตบะแตก!! - [ 11 พ.ค. 51 11:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 1

The Mummy Returns (2001)
เดอะ มัมมี่ รีเทิร์น ฟื้นชีพกองทัพมัมมี่ล้างโลก

แนวหนัง ผจญภัย - แอ๊คชั่น

ภาคต่อที่ยังสานต่อความมันส์ได้อย่างครบครันแบบไม่มีตกหล่น กับฉากแอ๊คชั่นที่อุดมสมบูรณ์สิ้นดี Effect กระจายและความลับที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยจากภาคที่แล้ว ก็ตามมาสร้างความเซอร์ไพร์สให้คนดู เหตุการณ์หลังจากภาคแรก 9 ปี บัดนี้ริค (Brendan Fraser) และ เอฟเวอลีน (Rachel Weisz) ได้แต่งงานกันและมีพยานรักแล้วนั่นคือ อเล็กซ์ (Freddie Boath) เด็กชายวัย 9 ขวบที่ชาญฉลาด และครอบครัวของริคของจะมีความสุขดีอยู่หรอกหากไม่มีพวกเหล่าร้ายที่นำโดย บัลตัซ ฮาเฟซ (Alun Armstrong) และ มีลา (Patricia Velasquez) ทีไ่ด้ก่อการปลุกชีพอิมโฮเทพ (Arnold Vosloo) ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งงานนี้พี่อิมของเรามีเป้าหมายจะครองโลกทั้งใบ โดยมีแผนจะปลุกกองทัพของราชันย์แมงป่อง (The Rock) ขึ้นมาใช้เป็นเครื่องมือ ซึ่งแน่ละครับ ริคและพรรคพวกก็ต้องกลับมารับมือกับพวกมัน

หนังภาคนี้ สาระอาจจะน้อยกว่าภาคแรก (จริงๆ คือไม่มีสาระเลยมากกว่าครับ) แต่ความมันส์ผมว่าเยอะไม่แพ้กันเลยนะ มันส์ตลอดไม่มีพักสไตล์เดียวกับ Van Helsing เลยทีเดียว ดนตรีก็มันส์ขึ้นพริ้มขึ้น (จากฝีมือของ Alan Silvestri) รวมไปถึงความลึกของตัวละครอีกต่างหาก แล้วยอมรับเลยว่าภาคนี้ นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้ดี Fraser กับ Weisz ก็ดูเหมือนคู่รักกันจริงๆ และรายหลังนี่ดูสวยกว่าภาคที่แล้วอีก, John Hannah ก็ฮากันเข้าไป แม้แต่วายร้ายอย่าง พี่อิม (Vosloo) ก็ยังมีมิติเลยครับ แม้หนังจะเอามันส์ตลอดไม่มีสาระก็จริง แต่ทุกฉากนักแสดงต่างได้ใช้ความสามารถเชิงการแสดงทั้งนั้น และมันไม่ได้โอเว่อร์แอ๊คด้วยนะครับ โดยเฉพาะพี่ Vosloo กับฉากในตอนท้ายที่พี่แกต้องเจอกับเรื่องเจ็บปวดที่สุดในชีวิต มันชัดเจนเลยครับว่าเขาคิดอย่างไร โดยไม่ต้องพูดออกมาซักคำ

งาน Effect ดีมาก และที่ต้องยอมรับคือ เป็นการใช้ Effect อย่างสร้างสรรค์ครับ คือไม่ได้แค่สักแต่ยัดๆๆๆ ความตื่นเต้นเข้ามาเท่านั้น แต่ทุกฉากหลังมันผ่านการคิดออกมาแล้วครับว่าควรเป็นอย่างไร เช่นแากปราสาทแต่ละแห่งที่พวกริคต้องตามรอยพี่อิมไป และโดยเฉพาะตอนอยู่ในป่าหน้าปิรามิดนั่น ใบไม้มันเขียวสดไปทั่ว ให้อารมณ์และบรรยากาศของดินแดนที่ยังไม่เคยมีใครเข้าไปถึงจริงๆ

แล้วผมถือว่าหนังได้เดินตามกฎง่ายๆ ที่ชาญฉลาดของการทำหนังภาคต่อซักเรื่อง นั่นคือ การเอาสิ่งที่คนดูยังไม่รู้ในภาคแรกมาต่อเติมเสริมยอด ภาคนี้จึงมีรายละเอียดมากมายเลยครับ ตั้งแต่อดีตชาติของแต่ละคน รวมไปถึงตำนานราชันย์แมงป่องอีก ซึ่งผมชอบนะ คืออะไรแบบนี้มันช่วยให้ภาคแรกมีเนื้อมีความแน่นมากขึ้น และมันทำให้ต่อเนื่องทางอารมณ์ด้วย คนอื่นไม่ทราบจะเป็นเหมือนผมอย่างนี้มั้ยนะครับ แต่ผมชอบมากอ้ะกับอะไรแบบนี้ ยิ่งเอามาดูต่อกันนี่ยิ่งสนุกครับ เพราะมันเหมือนดูหนังเรื่องยาวมากๆ เรื่องหนึ่งอยู่และยิ่งถ้ามันเป็นหนังแนวมันส์ๆ แบบนี้แล้วล่ะก็ ความสนุกและอารมณ์มันจะต่อเนื่องมากๆ เลยครับ

นี่ถือเป็นหนังแนวผจญภัยภาคต่อที่ทำได้ดีครับ ทุกส่วนลงตัวมากๆ สาระคงไม่ต้องพูดถึงกัน ก็ถ้าอยากหาหนังมีสาระดูก็คงไม่ใช่เรื่องนี้แน่นอนครับ แต่ถ้าอยากหาหนังเอามันส์ดูสนุกเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

มันส์ มันส์ มันส์ จริงๆ นะ
สองดาวครึ่งกว่าๆ บวกๆ อีกแล้ว

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=10000tip&month=06-2005&date=29&group=11&gblog=740

จากคุณ : หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!!) - [ 11 พ.ค. 51 11:52:50 ]