PANTIP.COM : A6601234 หาเรื่องอดีต ตอน.. "เมขลา '31" รางวัลแรกของเขาและเธอคู่นี้ .. [วิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 2

สำหรับดาราที่มาถึงงานก่อนใครทั้งหมด ได้แก่พิธีกรรายการพลิกล็อค ของ เจ.เอส.แอล. คือ "ปัญญา นิรันดร์กุล" ซึ่งมารอแต่งหน้าไว้ก่อนตั้งสองสามชั่วโมง เพราะกลัวว่าเกิดดารามากันเยอะๆ การทำงานจะขลุกขลัก ก็ดีไปอย่างที่ไม่ต้องมารอคิวแต่งหน้า เพราะแต่งเสร็จก่อนใครเพื่อนเลย ดาราเริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. มากันเป็นคู่ๆ ก็คู่ใครคู่เขา มองดูเองก็แล้วกัน ฝูงชนกับบรรยากาศรอบๆ บริเวณงานยังคึกคัก เพราะทุกๆ คนมาคอยชมความงามของดาราที่ร่วมงาน แต่ละคนเฉิดฉายมาในชุดราตรีสั้นโชว์ขาอ่อนกันเป็นแถวๆ ว่ากันตั้งแต่ "ปาหนัน ณ พัทลุง" ซึ่งหนูเก๋ไม่เคยแต่งสั้นมาก่อน ปีนี้เกิดอะไรขึ้นมาก็ๆไม่รู้ เล่นเอาคนในวงการแปลกหูแปลกตากันเป็นแถวๆ กับชุดราตรีสั้นเลยเข่าขึ้นไปประมาณครึ่งน่อง โอ๊ย...ใจหาย ใจคว่ำ เพิ่งจะรู้ว่าขาอ่อนหนูเก๋ก็สวยเอาเรื่องเหมือนกัน ควงคู่มากับเพื่อนซี้ "ปาริฉัตร ไพรหิรัญ" แต่รายนี้สั้นจนเคยชินเลยไม่ค่อยจะแปลกเท่าไหร่ แต่แปลกตรงที่มีลูกแล้วก็ยังสวยไม่สร่างอยู่นั่นเอง ตามมาติดๆกันก็คือ "พิศมัย วิไลศักดิ์, ดวงตา ตุงคะมณี, สีดา พัวพิมล" สามคนแยกกันไม่ออก เข้ามาให้ทุกๆคนได้เห็นหน้าแล้วหายแว้บไปกับตา โดยอ้างว่าไปหาข้าวรับประทาน เอ...สงสัยไปทานข้าวกันไกลน่าดู จนงานเลิกก็มองไม่เห็นวี่แววของสามสาวเลย

กับทีม "กันตนา" มากันเหนียวแน่นทั้งลูกสาวลูกเขย ซึ่งนำทีมโดยคุณพ่อคนเก่ง ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก ก็มารับรางวัลกันไปตามระเบียบ ผลรางวัลก็รายงานกันให้ทราบกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ขาดไปหนึ่งคู่ คือ รสริน และ นิรัตติศัย สงสัยคงกำลังเห่อลูกก็เลยไม่ได้มาร่วมงาน อุ๊ย...อะไรจะขนาดนั้นจ๊ะ หนูบุ๋ม "รัญญา ศิยานนท์" คนที่น่ารักของ "วรายุฑ มิลินทจินดา" ปล่อยบนปล่อยล้าง คงมีแต่ตรงกลางที่ปกปิดไว้ด้วยชุดราตรีสั้นสีขาวที่ดูแล้วสุดจะเซ็กซี่ และน่ารักในสายตาของหลายๆคนที่เพ่งมองจนหนูบุ๋มต้องเขินซะแทบแย่ ก็หวาดเสียวกันเป็นระยะๆ ในขะที่เธอย่างก้าว เล่นเอานักข่าวคอยจ้องว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับ รัญญา ศิยานนท์ บ้าง

ไม่เคยขาดสำหรับสามีภรรยาที่น่ารักอีกคู่หนึ่งคือ "อภิรดี และ โอภาส ทศพร" ที่ควงคู่กันมาเชิญรางวัลให้กับดาราที่ได้รับพร้อมกับรายการหน้าแตกอีกต่างหากกับหนูแก้วที่ยืนรอเก้ๆกังๆ บนเวทีไม่รู้ว่าใครจะเชิญใครลงจากเวทีกันแน่ อ้าว..ก็ตัวแก้วไงที่ต้องลงตามดารา เอ้า..ได้ฮากันอีกนิดหนึ่ง พอๆกับพ่อ "บิณฑ์ บันลือฤทธิ์" ที่พอมอบรางวัลให้หนูกระแต "สมฤดี นุ่มอำพันธ์" ก็จะเชิญ "แคล้ว ธนิกุล" ลงด้วย อ้าว..จะลงได้ไง รางวัลยังแจกไม่หมดเลย เล่นเอาพ่อท้อปเขินแทบแย่ หนูกระแตสุดจะทนไหวเลยปล่อยหัวเรากันตรงนั้นซะเลย

เอ้า..นี่ก็มาแปลก สวยซะไม่มีกับความงามของแม่ลูกอ่อน "ผุสรัตน์ ดารา" พอย่างเข้ามาในงาน แม้แต่นักข่าวบางคนที่มีตั้ง 4 ตา ยังจำไม่ได้ว่านี่คือ ผุสรัตน์ ดารา นางเอกจักรๆวงศ์ๆ นึกว่าแขกมาร่วมงาน แถมชมให้ฟังว่าสวยเหมือนดารา เอ้า..ทีนี้รายการหน้าแตกเป็นของนักข่าวบ้าง อายเค้ามั้ยพี่.

เซอร์ไพรส์กันเป็นแถวๆ มาแล้วพร้อมเสียงหัวเราะตามแบบฉบับ หนูอูม "วิยะดา อุมารินทร์" ที่แอบไปทำมาหากินอยู่ แอล.เอ. กลับมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ ในวงการ เลยถูกสัมภาษณ์มากที่สุดเพราะหยุดคุยไปนาน และดาราที่ตามมาอีกมากมาย เช่น "ขวัญฤดี กลมกล่อม" นางเอกจากรัตนาวดี "สุรัตนา ข้องตระกูล" "ฉวีวรรณ บุญปรก" "อรพรรณ พานทอง" "ธานินทร์ ทัพมงคล" "สถาพร นาควิลัย" "วทัญญู มุ่งหมาย" "พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์" คนนี้ขาดไม่ได้กับผู้ที่จะควงมาด้วย "จามจุรี เชิดโฉม" และทีมงานจาก "รอยไถ" ก็แสดงสปิริตมาร่วมงานด้วยทั้งทีม หลังจากถ่ายหนังเสร็จก็บึ่งกลับมาร่วมงานทันที เพราะ "ไพโรจน์ ใจสิงห์" ก็มีผลงานทางทีวีหลายเรื่องเหมียนกัลล์ โถ..น่าสงสาร "ธนาภรณ์ รัตนเสน" จัง พอมาถึงงานได้ที่นั่งหนูก็ขอหลับซักงีบก่อน เพื่อเอาแรงไว้ขึ้นไปเชิญรางวัล เล่นเอาคุณแม่ต้องปลุก บอกว่าถึงคิวลูกศรตื่น..ก็จะไม่ให้หลับได้ไง ทั้งเรียน ทั้งรำ ทั้งเต้น เวลากินไม่ได้นอน แต่พอเวลานอนไม่ได้กิน โธ่..ชีวิตของชะเอม สำหรับ "จารุณี สุขสวัสดิ์" อุตส่าห์ห้อรถคู่ใจมาจากบางสะเหร่ สัตหีบ เพื่อมาร่วมงาน ก็ไม่เสียหลาย เพราะคว้ารางวัลดารานำดีเด่นไปครอง บอกดีใจที่ซู้ด.. ส่วนดาราชายดีเด่น "ยุรนันท์ ภมรมนตรี" มาล่าสุด.. เพราะมัวรอ วทัญญู มุ่งหมาย อยู่ที่บ้าน เล่นเอาเลยเวลานัด เลยต้องห้อรถมาก่อน ส่วนเจ้าแมนพอมาถึงก็ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ เพราะดันไปชนเอากับรถคนอื่นเลยเสียเวลาไปหน่อย แต่ก็ถึงงาน...เฮ้อ โล่งใจไปที รถพังช่างมัน ขอให้ตัวเจ้าของรถอยู่ปลอดภัยก็แล้วกัน.. อุ๊ย..หันไปเห็น สถาพร นาควิลัย อะไรจะขนาดนั้น ไปคว้ากางเกงของลุงมาใส่มั้ง กางเกงเลยใหญ่เกินตัวไปหน่อย

จากคุณ : จข (คนหยังเขียด) - [ 12 พ.ค. 51 19:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7

นี่คือบทสัมภาษณ์หลังได้รับรางวัลของดาราละคร 5 ท่านนี้

"ชลิต เฟื่องอารมย์"

ปีนี้ก็เป็นไปตามความคาดหมายว่าเขาควรจะได้รับรางวัลเมขลา ในฐานะผู้แสดงประกอบชายดีเด่นไปครอง ในละครเรื่อง "เวิ้งระกำ" ซึ่งสีหน้าและท่าทางของชลิตดูจะไม่ตื่นเต้นมากนัก เพราะรางวัลเช่นนี้เขาเคยได้รับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2524 ในละครเรื่อง "ไฟอารมณ์" แต่เมื่อผลประกาศออกมาอย่างเด่นชัด ชลิตก็อดจะปลื้มใจไม่ได้ โดยเขากล่าวว่า
"ละครเรื่อง เวิ้งระกำ ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ยอมรับเลยนะครับว่ายาก...ยากมากจริงๆ และเป็นการที่เราต้องเสี่ยงกับบทนี้พอสมควรเลยนะ เพราะธรรมดาบทแบบนี้จะไม่เคยเล่นมาก่อนเลย ก็ไม่ทราบว่าถ้าเล่นออกไปแล้วจะเป็นยังไง แต่ปรากฏว่าพอเล่นไปแล้วทุกคนชอบ ก็ดีใจนะฮะ...เพราะบท ทองคำ ต้องเล่นเป็นคนที่กลัวเมียมาก ไปที่ไหนๆใครๆเค้าก็เรียก ไอ้ทองคำ ก็ต้องเล่นตั้งแต่หนุ่มๆ จนกระทั่งแก่ ที่ว่ายากก็ตรงบททองคำจะไม่มีบทพูด เราต้องเล่นด้วยอารมณ์ แสดงออกทางสีหน้าท่าทางแทน ทีนี้มันอยู่ที่ว่าช่วงหนุ่มถึงแก่เราจะเปลี่ยนตัวเรายังไง ไม่ให้เหมือนกัน พอแก่แล้วพี่ก็เริ่มทำท่าทางเดินหลังค่อมไปไหนก็เดินตามเมียต๊อก..ต๊อก(หัวเราะ) มันไม่มีบทพูดนี่ฮะ เราก็ต้องใช้เล่นแอ็คชั่นเอา ก็ดีใจนะครับที่วันนี้ สิ่งที่เราได้ทำมาอย่างเต็มที่..ก็ได้รับผลตอบแทนคือรางวัล"

"เยาวเรศ นิสากร"

เป็นดารารุ่น เพชรา เชาวราษฎร์ เคยได้รับตุ๊กตาทองจากภาพยนตร์มาแล้ว และเมื่อหันมาเล่นหนังเล่นละครทีวี เธอก็ได้รับรางวัลถึงสามปีซ้อน เพราะจากละครเรื่องแรก "มัสยา" เรื่องที่สอง "แหวนทองเหลือง" และมาเรื่องนี้ "อีสา" ซึ่งเป็นผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่เธอแสดงอย่างสุดฝีมือ กับรางวัลตัวที่สามที่เธอได้รับในครั้งนี้
"พี่ดีใจมากค่ะ เพราะเล่นมาทั้งสามเรื่องก็ได้รับทั้งสามเรื่อง แสดงว่าฝีมือพี่ยังมีและคงหากินได้อีกนาน แต่จะเป็นบทอะไรไม่เคยเกี่ยง ขอให้บทเด่นแบบที่ผ่านมาก็แล้วกัน ได้แสดงออกมากๆ เราก็มีกำลังใจเล่นและเมื่อได้แสดงแล้วก็สุดหัวใจเลยทีเดียว ก็ไม่ทราบจะพูดอะไรอีก นอกจากฝากขอบคุณแฟนๆ ด้วยแล้วกันนะคะ ขอบคุณนะคะ..ถ้าจะให้พูดอีกก็จะพูดว่าดีใจ ภูมิใจ ดีใจ ภูมิใจ แค่นี้แหละ ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นี่คะ ความสำเร็จของการทำงานที่เราได้รับก็เปรียบเสมือนกำลังใจที่ดีที่สุดของพี่ค่ะ"

"ไพรัช สังวริบุตร"

กับรางวัลสูงสุดของงานเมขลาในปีนี้ ในฐานะผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง "แผลเก่า" คุณหรั่งกล่าวถึงความยากลำบากกับการทำงานมาปีกว่าว่า
"ก็ดีใจ(หัวเราะ) ปลื้มใจ..น่าจะได้นะ เพราะละครเรื่องแผลเก่า อาเหนื่อยกับมันมาปีกว่าเห็นจะได้ มันยุ่งยากวุ่นวายเยอะแยะไปหมดที่ทำละครเรื่องนี้ และเราเองก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะของเดิมเค้าก็ดีอยู่แล้วใช่มั้ย ซึ่งเราเองก็กลัวว่าทำไปแล้วอย่างน้อยๆ ใกล้กับของเดิมที่เค้าเคยทำไว้ก็ยังดี คือหนังใหญ่ คุณเชิด ทรงศรี เค้าทำไว้ดีมาก พอมาทำเป็นละครเรื่องแผลเก่า ถ่ายทำกันเป็นปี จนแผลมันตกสะเก็ดไปแล้วใช่มั้ย(หัวเราะ) แต่ยังไงๆ ก็อยากจะทำให้สำเร็จ เพราะจริงๆแล้ว อาเป็นคนที่ชอบเรื่องของไม้ เมืองเดิม มาก ซึ่งแต่เดิมอาเริ่มถ่ายหนังครั้งแรกก็เรื่อง รอยไถ ของไม้ เมืองเดิม ใช่มั้ย ก็รักและชอบมานานกว่า 30 ปี คือเป็นคนชอบรักของเก่าๆ ถ้าจะว่าไปแล้วของเก่าของไทยเรามีอะไรดีๆเยอะเลยนะ อาก็หาโอกาสนำเสนอทุกอย่างที่สามารถทำได้ทันทีไม่รอช้า ทีแรกก็กลัวเหมือนกันนะ ก่อนจะทำละครเรื่องแผลเก่า เพราะกลัวที่ว่าเรื่องเดิมจริงๆ เค้ามีน้อยมาก แล้วเราเอามายืดมันก็ต้องเสียแน่ แต่หนังทีวีมันจำเป็น เราจะทำแค่ตอนสองตอนก็ไม่ได้ เราก็เลยสอดแทรกอะไรบางอย่างที่มันตื่นเต้น สนุกสนานคละเคล้าลงไปให้คนดูชอบ..ก็ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เท่าที่เห็นกันแล้วล่ะนะ ทางช่อง 7 สี"

มาถึงพระเอกของงาน "ยุรนันท์ ภมรมนตรี"

พระเอกจากจอเงินที่กระโดดลงจอแก้วเล่นละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" เป็นผู้พิชิตรางวัลไปครอง โดยพ่อแซมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะไม่ได้เตรียมตัวเพื่อจะมารับรางวัลเลย ซ้ำยังมาสายที่สุดในงานด้วย ก็ได้กล่าวว่า..
"ก็ตั้งแต่แซมเข้าวงการบันเทิงมา 8 ปีแล้วเนี่ย ก็ได้แต่นั่งปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าซักวันโอกาสคงมีถึงแซมบ้าง และถ้าเกิดได้จริงๆ คงจะต้องดีใจที่สุดเลย และวันนี้แซมก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเลยนะ สำหรับบท คาวี ที่แซมได้รับรางวัลในครั้งนี้นะฮะ ก็พอสมควรล่ะนะ..เพราะคาวีบทมันจะร้ายก็ร้ายเหลือมนุษย์คนอื่นเค้า แต่พอบทมันจะอ้อนเค้านะ ก็อ้อนซะเหลือเกินเลย อารมณ์ของบทตัวนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทีแรกคนดูเค้าจะเกลียด แต่ตอนหลังต้องพยายามทำให้คนดูเค้าสงสารให้ได้ โดยปกติแซมจะไม่รับละครมากนัก นานๆถึงจะเล่นสักเรื่อง ก็ต้องดูบทที่ดีๆหน่อย อยากเล่นบทที่ต้องใช้ความสามารถของเรามากๆเลย พอประกาศว่าแซมได้รับรางวัล ก็ตื่นเต้นดีใจนะฮะ เพราะนี่คือรางวัลของแซมตัวแรกในชีวิตของการเป็นนักแสดงมา 8 ปี กับรางวัลที่ได้รับวันนี้ คงไม่มีผลอะไรมากกับวงการหรือเรื่องอื่นๆ แต่เป็นผลกับแซมมากที่สุด ก็ตรงต่อไปนี้แซมยิ่งต้องระวังตัวให้มาก ต้องพิถีพิถันกับการแสดงให้ดีเป็นสองเท่าตัว และรางวัลที่แซมได้รับวันนี้นะฮะ สิ่งแรกที่จะทำคงต้องกราบรางวัลงามๆ สัก 3 ที เพราะรางวัลเป็นสิ่งที่แซมเคารพ และก็ต้องขอขอบคุณกับผู้ที่มีพระคุณทุกๆคน สุดท้ายก็ต้องเอาไปอวดคุณแม่หน่อยหนึ่งล่ะครับ.."

และนางเอกของงาน "จารุณี สุขสวัสดิ์"

หลังจากหายหน้าหายตาไปจากวงการแสดงไปเกือบสองปีเต็มๆ จากสาเหตุหลายๆประการ ทั้งด้านสุขภาพและจิตใจ อีกทั้งหน้าที่การงาน เมื่อเธอเคลียร์ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างลงได้เรียบร้อย ก็เริ่มรับงานเองและได้กระโจนเข้าสู่วงการแสดงละครทีวีหลายต่อหลายเรื่อง.. และรางวัลเมขลาที่เธอได้รับในครั้งนี้จากละครทีวีชุดยาวของกันตนา เรื่อง "ตะรุเตา" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เปิ้ลได้รับรางวัลหลังจากได้แสดงละครทีวีมาสองสามเรื่อง เพิ่งจะมาประสบความสำเร็จจากเรื่องนี้นี่เอง กับความรู้สึกกับรางวัลที่ได้รับ
"เปิ้ลดีใจมากเลย เพราะเป็นผลงานที่เปิ้ลมีความตั้งใจมากเลยกับงานชิ้นนี้ เพาะกว่าจะถ่ายทำได้สำเร็จก็ลำบากมาก แต่ความลำบากเมื่อออกมาเป็นผลงานที่ทุกๆคนยอมรับก็โอ.เค.ค่ะ เปิ้ลดีใจจนบอกไม่ถูกแล้วค่ะ กับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้... ขอบคุณทุกๆคนที่ให้การสนับสนุนเปิ้ลมาตลอด และเปิ้ลคิดว่าเปิ้ลจะทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ให้สมกับที่แฟนๆสนับสนุนเปิ้ล ขอบคุณมากเลยค่ะ..ตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกแล้วค่ะ ดีใจและภูมิใจมากเลยค่ะ.."
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 20:03:52

จากคุณ : จข (คนหยังเขียด) - [ 12 พ.ค. 51 19:41:29 ]