ความคิดเห็นที่ 1 ทนดูไม่ได้ครับจะร้องไห้เลยรีบเปลี่ยนอย่างไว เดี๋ยวเสียฟอร์มต่อหน้าน้องๆ จากคุณ : ความจริงโหดร้ายเสมอ - [ 27 พ.ค. 51 21:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ ถ้าอายะจะเรียนที่นี่ต่อจริง ๆ ถึงปากจะบอกไม่ช่วยแต่เพื่อน ๆ ก็คงช่วยเหลืออยู่ดีแหล่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่บางคนไม่อยากช่วยก็พอเข้าใจนะคะ อย่างเราเรื่องบางเรื่องง่ายกว่านี้ยังไม่ค่อยอยากจะให้ความร่วมมือเลย แต่กลัวเรื่องอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับอายะมากกว่า ดีไม่ดีจะพาลทำให้เพื่อนประสบอุบัติเหตุไปด้วย คนที่จะเสียใจที่สุดก็คืออายะเอง จากคุณ : MikaRin - [ 27 พ.ค. 51 21:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันนี้ฉากที่น้ำตาไหลออกมาเลยคือ ตอนที่อายะบอกพ่อว่าอย่าหักโหม และก็ไม่ให้แม่ลาออกจากงานดูแลสุขภาพ จริงจริงตอนอายะขึ้นบันไดไปเรียนหนังสือ น่าจะใช้เสลี่ยงยกอายะขึ้นไปเลย จะได้ไม่ต้องคอยประคองอายะและไม่เสียเวลาเพื่อนเพื่อน หรือายะอาจจะอยากเดินด้วยขาตัวเอง จากคุณ : numsainoi - [ 27 พ.ค. 51 21:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าไม่น่าต้องพูดจาผลักไสอายะขนาดนั้นนะ พวกผู้ปกครองก็ แย่มากๆเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยนะ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ขนาดรร. เราสมัยม.ปลายยังมีคนพิการในห้องเลยนะ เป็นคนตาบอด ต้องมีคนคอยพยุงเวลาย้ายห้องน่ะ เวลาเรียน จดก็ช้ากว่าคนอื่นเหมือนกัน เข้าห้องช้าเหมือนอายะ ก็ไม่มีใครที่ไม่ช่วยเหลือนะ ตอนนี้เรียนมธ แล้ว^ ^เรียนดีด้วยนะ แต่อาจจะต่างกันตรงที่อายะเป็นโรคที่อาการแย่ลงเรื่อยๆ อย่างน้อยก็น่าจะให้อายะใช้เวลาที่รร อีกหน่อยนะ ไม่น่า พูดจากันแบบนั้นเลย สงสารอายะ ดูตอนนี้หดหู่มากๆ จากคุณ : lieberdich - [ 27 พ.ค. 51 22:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกจุดที่ผมมองคือ ครูแก้ปัญหาไม่ถูกจุดด้วยครับ คือปล่อยให้ัเพื่อนสองคน ดูแลอายะตลอดเวลา ก็ไม่ไหวสิครับ น่าจะมีขอให้ผลัดกันบ้างคอย ดูแลชุดละสอง คาบเรียนก็ได้ อย่าว่าแต่เพื่อนเลย ให้ญาติกันเองนี่แหละ ต้องมาดูแลคนเป็นอัมพาต ถ้าไม่ใช่พ่อแม่หรือพี่น้องคลานตามกันมา คิดว่าทำได้ไหว...ไปนานแค่ไหนครับ แบบต้องดูแลเขาทุกวันนะ ไม่ใช่แค่มาเยี่ยมให้กำลังใจ กระทู้ซ้ำ ต้องขออภัย ตั้งแล้วเพิ่งเห็นครับ จากคุณ : sundown - [ 27 พ.ค. 51 22:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่ามันแก้ปัญหาได้นะ ถ้าโรงเรียนจะช่วยบ้าง เช่น ทำไมต้องย้ายห้องเรียนบ่อยๆ ก็เรียนห้องเดิม แล้วให้อาจารย์มาสอน ย้ายเฉพาะที่จำเป็น เช่น ไปห้องวิทยาศาสตร์ ก็จัดตารางสอนไปช่วงหลังพักเที่ยง แล้วเรื่องจดกระดาน ก็ไม่ต้องจด แต่ทำ sheet แจกให้เลย นั่งฟังอย่างเดียวก็พอ ดูเหมือนในชีวิตจริงโรงเรียนคงอยากจะให้รีบๆ ไปซะ ไม่อยากให้มาเกะกะ แต่ไม่กล้าไล่ เพราะคนญี่ปุ่นเป็นแบบนี้แหละ ขี้เกรงใจ ไม่ชอบพูดตรงๆ จากคุณ : TingTing - [ 27 พ.ค. 51 22:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราเป็นอายะเราก็จะย้ายโรงเรียนค่ะ ถึงอยากจะอยู่กับเพื่อนๆซักเท่าไหร่ แต่ถ้าทำให้คนรอบข้างต้องลำบาก ถึงเค้าจะไม่พูดออกมาตรงๆ เราก็รู้ได้นี่คะ ว่าคนอื่นกำลังลำบากเพราะเราอยู่ ไปเรียนที่อื่น ใช่ว่าจะติดต่อเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่าไม่ได้นี่นา ส่วนถ้าในห้องเรียนของเรามีเพื่อนที่มีปัญหาแบบนี้ เราก็จะช่วยค่ะ ช่วยเท่าที่ตัวเองจะช่วยได้ ไม่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเราลำบากที่ช่วยเค้า จากคุณ : Dek[N]a[R]o[K] - [ 27 พ.ค. 51 22:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับคห. 6 ค่ะ น่าจะให้เรียนประจำห้องเดียวไปเลย แต่ก็เข้าใจเพื่อนๆอายะนะ เราเองเคยเจอเพื่อนที่มีปัญหาทางการเดิน  สงสารก็สงสาร อยากช่วยก็อยากช่วย แต่นานเข้าก็ต้องยอมรับว่าเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าเลือกได้ ก็ยอมลำบากเองดีกว่าให้เพื่อนต้องเสียใจ จากคุณ : . (glassy mask) - [ 27 พ.ค. 51 22:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราอิน กับ ตัวละครมากไปหรือป่าวครับ เข้าใจอยู่ในที่นี่สงสาร อายะ แต่ ลอง สมมุติว่าเราเป็นผู้ปกครอง เด็กคนอื่นสิครับ  โลกความจริงมันโหดร้ายเสมอ   สงสารน่ะสงสาร แต่ จะให้ทุกคนในห้อง เรียนช้า คอยดูแลอายะ มันก็ลำบาก  ดูจากเรื่องนี้นึกถึงเรื่อง Dargon Sagura  ในตอนที่นางเอก ต้องออกจาก Class พิเศษ เพื่อไปทำงานที่ร้าน แทนแม่ ที่ป่วย  ครูพิเศษก็ปล่อยไป แต่เพื่อนๆ ไม่ยอม จะไปช่วย  แต่คุณครู กลับบอกว่า เสียเวลา ทำอย่างนั้น แทนที่จะดีกับทั้งสองฝ่าย กลับกลายเป็นผลร้าย แต่ พวกเพื่อนๆ ไม่ยอม  แบ่งเวลา ตอนเย็น ไปช่วย นางเอก  ซึ่งตอนแรกๆ ก็ดีอยู่หรอก แต่นานๆ ทุกคนเริ่มล้า ไหนกลางวันจะต้องติวเข้ม เรียนหนัก กลางคืน ต้องไปช่วยเพื่อน จน เพื่อนคนอื่น เริ่ม บ่น ทุกคนเริ่มแตกเสียงกัน  แถม ผลการเรียน ก็ตก ที่ยกตัวอย่างมา มันคือโลกแห่งความจริง  ก็เลยมาถามทุกๆคน ว่า ถ้าลูกของเรา ต้องอยู่ร่วมห้องเรียนกับ อายะ  เราจะเห็นแก่ตัว อย่างผู้ปกครองคนอื่นมั้ย  ที่ลูกเราอาจต้องเรียนช้ากว่าห้องอื่น ยิ่งถ้าใกล้เอนทรานซ์ จะโอเคมั้ย  มันมีปัจจัยหลายอย่าง   ที่บางครั้ง การที่เราเป็นคนดูเฉยๆ เราก็พูดได้ อย่างในละคร มีที่ที่เหมาะกับ อายะ อยู่แล้ว ความเป็นเพื่อน มันไม่จำเป็นต้องเรียนห้องเดียวกัน   ซึ่ง จากละคร สุดท้าย อายะก็เข้าใจ โลกแห่งความจริง บางทีมันโหดร้าย แต่เราก็มีทางออกเสมอ ที่จะทำให้ทุกฝ่าย โอเค จากคุณ : jedijoke - [ 27 พ.ค. 51 22:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจทุกคนในเรื่อง ตอนกลางๆเรื่องก็คิดแล้วว่าอายะไม่น่าฝืนยื้อแล้ว จากคุณ : 4 - [ 27 พ.ค. 51 22:28:49 A:117.47.128.76 X: TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราเข้าใจเพื่อนๆนะ ถึงบางคนจะแสดงออกมารุนแรงไปหน่อย แต่เพราะไม่สนิทกับอายะจัง เลยทำให้ยังเห็นแก่ผลประโยชน์ ของตัวเองมากไป แต่ก็ต้องเข้าใจนะ เด็กเรียนก็แบบนี้แหละ ส่วนเพื่อนสนิทเราว่าที่เค้าบ่นๆออกมาก็นั่นแหละคือเหตุผลของเค้า เราคิดว่าอายะจังเข้าใจเพื่อนๆนะ ถึงได้ยอมรับทุกอย่างและจากไปด้วยดี เราว่าหนังเค้าสร้างปมตรงนี้มาเพื่อบอกแง่มุมของทั้งสองด้านนะ ทั้งด้านของคนป่วยเองที่อยากใช้ชีวิตให้เหมือนคนปกติเหมือนเคย และคนปกติที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนป่วย คนพิการ ที่บางครั้ง ถึงจะมีความสงสารหรือความเห็นใจบ้าง แต่ก็ใช้ว่าจะคอยซัพพอร์ต คนไม่ปกติได้ตลอด ก็อย่างที่พ่ออายะพูด พ่อแม่ทุกคนไม่ผิดหรอก เพราะพ่อแม่คนไหนๆก็เห็นแก่ลูกตัวเองทั้งนั้นแหละ เราต้องเข้าใจเค้าด้วย จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 27 พ.ค. 51 22:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าใจตัวละครอื่นเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเราจะคิดเหมือน อะโซคุง นะ จากคุณ : ame-hana - [ 27 พ.ค. 51 22:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จริงๆอายะก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าสักวันก็ต้องไป แค่อย่างถ่วงเวลา  อยากอยู่กับเพื่อนๆ (จากตอนเจ็ด) รวมทั้งไม่รู้ว่าตัวเองทำให้เพื่อนไม่พอใจได้ขนาดนี้ รู้ว่าทำให้ลำบากในระดับหนึ่ง แต่ไม่คิดว่ามันมากขนาดไหน? เพราะว่าทุกๆคนพูดว่าไม่เป็นไรๆ  ก็คงคิดว่า แม้จะรบกวนอยู่บ้าง แต่เพื่อนๆก็ยังคงคอยช่วย ดังนั้นก็เลยยังคิดว่าอยากอยู่ต่อ อายะเองพอได้ยินจากปากเพื่อนๆก็คงจะไม่ได้โกรธเพือ่นหรอก แต่ต้องเกลียดตัวเองที่ไม่รู้ว่าเพื่อนคิดแบบนี้  ทั้งๆที่อยู่ด้วยกัน อีกอย่าง  เหมือนกับว่ามันสิ้นสุดแล้ว ความหวังที่จะอยู่ที่โรงเรียน รวมทั้งพ่อที่ต้องทำงานหนักขึ้น  แม่ต้องลาออกจากงาน เลยเห็นแก่ตัวไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่าต้องห่างไปอยู่โรงเรียนคนเดียว ไม่มีเพื่อนเลย  คงจะกังวลมากๆ ส่วนอะโซ  บทนี้เขียนออกมาได้เทพมากๆค่ะ  เข้าใจอายะทุกอณู   ขณะที่คนอื่นบอกว่าไม่เป็นไรๆ  แต่เขากลับบอกว่าให้พูดตรงๆ เป็นเราๆก็ไม่กล้าพูดหรอกว่าไม่อยากช่วย  และก็คงมานินทาลับหลังเหมือนกัน อะโซเองที่พูดออกไปว่าตัวเองก็เป็นคนนึงที่ช่วยอะไรไม่ได้ เราว่าจุดนั้นเศร้ามากๆเลย  คิดว่านี่คงเป็นจุดเปลี่ยนของอะโซเลยล่ะ เพื่อนๆในห้องเราว่าก็โอเคนะ  เป็นเราๆก็ลำบากใจเหมือนกัน   หากว่าเราเป็นนักเรียนที่ต้องขยันเรียนเพื่อมหาลัย ทนสอบเข้าม.ปลายชื่อดัง  เป็นความหวังของพ่อแม่ แล้วพอมีปัญหาแบบนี้มันก็ต้องมีบ้างที่จะเห็นแก่ตัว  มากน้องตามแม่คน ไม่ใชว่าเขาผิดหรอก  ที่ผิดคือทำไมโรคนี้มันถึงเลือกอายะต่างหาก จากคุณ : aonton - [ 27 พ.ค. 51 22:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สงสารอายะจัง แต่เข้าใจเพื่อนๆของอายะ และผู้ปกครองทุกคนเหมือนกัน โลกแห่งความเป็นจริงมักจะโหดร้ายเสมอ ที่แย่ที่สุดคือ เราด้วยซ้ำที่อาจเป็นคนทำให้มันโหดร้าย จากคุณ : --นางฟ้าปีกใส-- (นู๋เล็กเด็กง้องแง้ง) - [ 27 พ.ค. 51 22:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าไม่สนิท มีอายะอยู่นานๆไป ก็คงอึดอัด มีเม้าส์ มีรำคาญ ถ้าเพื่อนสนิท ทำแบบไม่บ่น อาจเพราะเราไม่ได้โฟกัสเรื่องเรียนอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วอายะและครอบครัวควรเรียนรู้อยู่ในที่ของตน การสร้างความลำบากใจ การสร้างภาระให้เพื่อน เรื่องนี้โรงเรียนไม่แก้ปัญหา ไม่มีครูที่ทำเพื่อนักเรียนอยู่ในซีรีย์เรื่องนี้เลย ชอบเวลาอายะกับอาโซอยู่ด้วยกันแล้วเพลงโคนายูกิขึ้น...เป็นเพลงของคนสองคนจริงๆ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 28 พ.ค. 51 03:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเป็นผมจะแนะนำตรงๆเลยว่าน่าจะย้ายไปเถอะนะ ดีที่สุดสำหรับตัวอายะเองด้วย เพราะโรงเรียนเองก็ไม่มีความพร้อมที่จะดูแล สัญญาว่าจะนัดเพื่อนๆไปเยี่ยมบ่อยๆ แต่ถ้าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เอาให้จบเทอมนี้ก่อน ผมว่าอีกจุดคือควรผลัดกัน ดูแลครับ ไม่ใช่ให้เพื่อนสองคนคอยดูทุกวันทั้งวัน ก็คงไม่ไหวหรอกครับ เรื่องการเรียน ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่คนทั้งห้องจะต้องมารอคนคนเดียว มันไม่ใช่เรื่อง ครูก็สอนไปเลยแบบปกติ เพียงแต่อาจพูดช้าลงนิดนึงก็พอแล้ว ให้อายะนั่งฟังเอาความ เข้าใจ แล้วค่อยเอาของเพื่อนไปทวนที่บ้านเอง เพื่อนที่คอยดูแลก็ควรผลัดกัน คนละ สองคาบก็ได้ จะได้ไม่ต้องสายทุกครั้ง ถ้าทำแบบนี้แต่แรก ผมว่าอายะยังน่าจะเรียนที่เดิมต่อได้อีกนานพอสมควรโดยไม่มีปัญหา จากคุณ : sundown - [ 28 พ.ค. 51 08:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17  คล้าย  ๆ  คห.13  คะ จริง ๆ มันน่าจะมีทางแก้ไขปัญหานี้นะ เช่น อายะ มา รร. เร็วขึ้น ตอนเข้าเรียน ก็นั่งฟังทำความเข้าใจ แล้วเอาโน้ตของเพื่อนไปอ่านตอนเย็น ก็ได้ แต่ก็อย่างว่านะ  อีกหน่อย อาการคงจะแย่กว่านี้ มีปัญหาด้านการเข้าห้องน้ำอีกเนาะ.....มันก็คงจะลำบากเพื่อน ๆ แต่คิดว่า พออาการหนักถึงขั้นนั้น   ด้วยน้ำใจของอายะ เขาคงไม่ปล่อย หรือ ให้ตัวเองเป็นภาระของใครหรอก เราเชื่อว่า อายะ คิดอย่างนั้นนะ เพื่อน ๆ น่าจะให้เวลา อายะ อีกสักหน่อย..... อึม..... . จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 28 พ.ค. 51 09:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมคิดว่าอายะควรไปอยู่โรงเรียนคนพิการครับ เพราะที่นั่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่า มีกิจกรรมให้ร่วมทำ และที่สำคัญสภาพแวดล้อมรอบๆตัวคือคนที่ป่วยเหมือนกัน บางคนอาการหนักกว่าแต่ยังมีจิตใจที่เข้มแข็งกันอยู่  มันทำให้มีกำลังใจมากขึ้น ถ้าใครได้ดูหนังใหญ่เรื่องเดียวกันนี้ หนังจะใช้เวลาส่วนใหญ่เน้นเรื่องราวของการใช้ชีวิตในโรงเรียนคนพิการของอายะจังเป็นหลัก กำลังใจของเธอก็ได้มาจากที่นั่นส่วนหนึ่งครับ จากคุณ : Leopaul - [ 28 พ.ค. 51 10:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่ญี่ปุ่น เวลาเข้าห้องเรียนเขาต้องรอลูกศิษย์ทุกคนหรือคะถึงจะสอน โรงเรียนในไทย ถึงเวลาเขาก็สอน ถ้าเพื่อนมาสาย 15 นาที ครูก็เข้าใจนะว่าจราจรติดขัด สงสารอายะ แต่หลานสาวอยากดู พี่ปลาหัวสิงห์วุ้น (นิมิตรมาร) ก็เลยเปลี่นยนช่อง จากคุณ : อัตตสิกขา - [ 28 พ.ค. 51 11:51:43 ]