ความคิดเห็นที่ 11
ผมขอวิจารณ์อีกแบบ
แค่คำวิจารณ์ส่วนตัวนะครับ
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
Indiana Jones and the Kingdom of Crystal Skull การผจญภัยบทใหม่ของหนุ่มใหญ่อย่าง Indy
ย้อนความซักนิด : หลังจากปี 1981 ทั่วโลกก็อ้าแขนต้อนรับนักผจญภัยที่ขรึมนิดนึง ดูซุกซน แต่ไม่ได้โง่ เป็นหนุ่มนักประวัติศาสตร์ระดับอาจารย์ ที่มาพร้อมการผจญภัยทั่วโลกที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านมา 19 ปี George Lucas และ Steven Spielberg นำหนุ่มคนนี้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แม้จะไม่ได้เป็นหนุ่มน้อยที่ใครๆเคยรู้จัก แต่การผจญภัยของเขาก็เรียกความตื่นเต้นได้เช่นเดิมหรือไม่
งานเบื้องหลัง : อำนวยการสร้างโดย George Lucas ( เจ้าพ่อ Star War ทั้ง 6 ภาค ) กำกับการแสดงโดย Steven Spielberg ( ผลงานที่แค่พอรู้จักอย่าง Indy ทั้ง 3 ภาค กำกับ Jurassic park 2 ภาคแรก และหนังทหารธรรมดาๆ อย่าง Saving private Ryan )กำกับภาพโดย Janusz Kaminski( ผลงานหน่ะเหรอ ก็แค่เป็นผู้กำกับภาพของ Schindler's List , Saving Private Ryan ( สองเรื่องนี้ ได้รางวัลออสการ์ Best Cinematography ) , The Lost World: Jurassic Park , Minority Repoet และปีที่แล้วกำกับภาพในผลงานที่ค่อยจะหวังรางวัล ( เล๊ยยยย ) อย่าง The Diving Bell and the Butterfly ) ทำดนตรีประกอบโดย John Williams ( ประวัติการทำงานหน่ะเหรอ Indy 3 ภาค ,Star war 6 ภาค ,E.T. , Jurassic park , Harry Potter ทุกภาค และ Spider-Man เป็น อทิ ) และ Visual Effect Supervisor อย่าง Pablo Helman ( มีผลงานอย่าง Munich และ War of the world )แค่นี้ หนังหวังเอฟเฟคอื่นๆ ที่จะลงชิงชัย summer นี้ก็ต้องหลบฉากออกให้หมดไปแล้ว และก็เป็นอย่างที่เห็น งานเอฟเฟค ไม่มีข้อตำหนิใดๆได้เลย ละเอียดละออและดูดีไปหมด งานเอฟเฟคที่ได้ บางครั้งถ้าไม่ตั้งใจมอง คุณก็แทบไม่รู้เลยหล่ะว่า ฉากหลังที่ถ่ายทำมัน Bluescreen ชัดๆ องค์ประกอบเล็กๆน้อย รวมถึงเสื้อผ้า หน้า ผม ถูกต้องเต็ม 10 ทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการแปลงกาย cate Blanchett ให้ดูเป็นลุคนายทหารหญิงที่ดุดันและกลายเป็นศัตรูของอินดี้ที่น่าจดจำมาที่สุดคนหนึ่งไปตลอดกาล ดนตรีประกอบมาแบบเน้นๆและแน่นอน สไตล์จอห์น วิลเลี่ยม มาแบบชุดเล็กไม่เป็นกับเขาซะด้วย แต่กระนั้น ทั้งหลายทั้งปวงที่ดีมาตลอดเรื่อง กลับต้องมาเสียหมาด้วยฉากมนุษย์ต่างดาวที่ดูเฟคมากๆๆๆๆๆ ทำใม??!!! ไม่เข้าใจ !!! คนที่สามารถสร้าง E.T. ให้โลดแล่นบนจอได้อย่างมีชีวิตชีวาตั้งแต่ 1982 ( ในขณะที่หนังเรื่องอื่นตอนนั้น เอฟเฟคยังกับภาพยนตร์จักรๆวงค์ๆ ช่อง 7 อยู่เลย ) รวมถึง ทำมนุษย์ต่างดาวใน War Of the World ให้ระทึกได้เหมือนจริงขนาดนั้น แต่กลับใช้งานเอฟเฟคที่ดูแข็งกระด้างมาทำมนุษย์ต่างดาวในหนังเรื่องนี้เนี๊ยนะ แม้จะแค่ 1-2 นาที แต่แปะยี่ห้อ Spielberg & Lucas ทั้งที เรื่องแค่นี้ทำใมต้องพลาดด้วยหล่ะ !!!
บทภาพยนตร์ : ว่ากันตามจริง Indy คือ หนังต้นแบบการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและลุ้นระทึกระดับตำนาน ( โดยเฉพาะภาคแรกที่เยี่ยมระดับเข้าชิง 1 ใน 5 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ ) แต่ผ่านมา 19 ปี Indy หาได้เป็นหนึ่งเดียวอีกต่อไป เมื่อ The Mummy เปิดตัวพร้อมการผจญภัยแบบอียิปโบราณได้อย่างมีเอกลักษณ์ รวมถึงรุ่นหลังๆอย่าง National Treasure ที่มาพร้อมการผจญภัยแบบ อเมริกั๊นนน อเมริกันและเข้าถึงง่ายและได้ใจผู้ชมยุคใหม่ แล้ว Indy หล่ะ !!! โจทย์ของอินดี้ออกจะยากกว่าชาวบ้านตรงนอกจากต้องสร้างความแตกต่างแล้ว ยังต้องมีเอกลักษณ์และมนเสน่ห์ให้ได้เหมือนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน George Lucas และ Jeff Nathanson ( เจ้าของบทที่น่าชื่นชมอย่าง catch me if you can ) วางพล๊อตได้น่าตื่นเต้นเช่นเดิมแต่ขาดไปส่วนของปมสรุปที่แสนจะธรรมดาและไม่อึ้งได้อย่างต้นฉบับ ส่วนผู้เขียนบทอย่าง David Koepp ( คนนี้ชั้นครูนะจ๊ะ เพราะผลงานระดับมาสเตอร์พีซมีมากมาย ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง Death Becomes Her , Jurassic Park , Mission Impossible , Men in Black , Panic Room และ หนึ่งในสุดยอดหนังทำเงินแห่งยุคอย่าง Spider-Man ) เขียนบทออกมาได้ระทึกยึ่งเช่นที่เคยทำได้ แต่มันทำออกมาแบบ " ปลอดภัยไว้ก่อน " มากเกินไป ทำให้ดูตลาดๆ ที่เน้นแต่แอคชั่นมันหยดติ่งเท่านั้น แน่นอน แม้ชั้นอาจารย์อย่าง Koepp ก็คงปวดหัวไม่ใช่น้อยที่จะต้องมาเขียนบทภาพยนตร์นิยายผจญภัยที่มีชื่อเสียงยาวนานมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ Hollywood แม้ตัวเขาเองจะขึ้นชื่อเรื่องการเขียนบทให้สนุกและเร้าใจคนดูได้แต่ต้นจนจบก็จริง แต่ท่านอาจารย์กลับไม่สามารถดึงเอาเสน่ห์ของอินดี้ออกมาได้ ( ทั้งหมด ) แน่นอน หากมองในแง่การเป็นหนัง summer ที่ต้องให้สนุกและเน้นความบันเทิงเต็มตัว อินดี้ภาคนี้ไม่มีอะไรเสีย เพราะสามารถให้ความสนุกและน่าสนใจตั้งแต่ฉากแรกจนฉากจบ แต่มันไร้เสน่ห์และก็ไม่น่าตื่นเต้นเหมือนภาคก่อนๆ Trilogy เดิมนั้นวางมาแล้วสมบูรณ์แต่การเติมภาค 4 เข้ามาแค่อยากเรียกหาแฟนๆอินดี้ มากกว่ามาเติมเต็มชีวิตชีวาอย่าง Star War 3 ภาคแรกที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น นี่เองคือข้อแตกต่าง ในขณะที่หนังผจญภัยรุ่นหลังๆ ยังมีช่องว่างของเรื่องราวให้ต่อเติมได้อีก แต่กับอินดี้มันผิดไป บทสรุปที่ได้ คือการเป็น Indy ฉบับ Box Officie Hunter ที่สร้างมาเพื่อล่าเงินในกระเป๋าคนดูมากกว่ามาสานต่อตำนานอย่างที่คาดหวังไว้ ไม่ได้บอกว่าหนังไม่สนุก หนังสนุกมากทีเดียวหากจะพูดถึงหนังแอคชั่นผจญภัยรับ summer แต่ถ้าจะพูดถึงความเป้นภาพยนตร์ที่สานต่อตำนานจาก 3 ภาคแรก เรื่องนี้ไม่มีให้และไม่น่าสนใจจะจำ !!!
การแสดง : ว่ากันตามจริง Harrison Ford ในบท Dr.Henry " Indiana " Jones, Junior ณ. ขณะนี้ มันโรยราไปแล้วFord ดูเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัดบนจอ ขาดความกระฉับกระเฉงบทจอไปแล้ว เขาไม่อาจเป็น Pierce Brosnan ที่สามารถขึ้นจอเป็น James Bond ได้อย่างกระฉับกระเฉง แม้อายุจะไม่ใช่น้อย แต่ก็อย่างที่เห็น ถ้าจะสร้าง Indiana Jones มันก็ต้องมี Ford แต่ขึ้นจอกันแบบชราภาพ ( โดยใช้เอฟเฟคลบรอยตีนกาแบบใสกิ้งชนิด Smooth E ยังยกมือไหว้ ) ก็ต้องยอม , Shia LaBeouf ให้การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย แต่มันดูหลงยุคไปหน่อย เขาเหมาะในบทหนุ่มทะเล่อทะล่ากลางเมือง New York มากกว่าจะเล่นหนังย้อนยุค แม้จะให้ความพยายามที่น่าชื่นชม , Karen Allen หมดยุคเธอไปแล้ว เธอทำได้แค่ทำให้หนังเรื่องนี้มีคนแสดงครบ เฉยๆ , Cate Blanchett ในบท Irina Spalko คือไข่แดงตัวจริง หากใครได้ดูฉบับ Soundtrack จะพบว่าการขึ้นจอด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแน่นๆรัวๆแบบรัสเซียของเธอช่างมืออาชีพมากนัก นี่ไม่นับการแสดงที่แทบจะโดดออกจากเพื่อนร่วมก๊วน เธอคือสีสันตัวจริงของหนัง กด Ford ให้ดูเป็นรองบนจอได้แทบจะทุกฉากที่ขึ้นจอพร้อมกัน , Ray Winstone และ Jim Broadbent ทำได้ดีตามมาตรฐานการการแสดงระดับสูงของพวกเขา
การกำกับ : Spielberg ตรับ คุณทำอะไรเนี๊ย!!! ไม่เข้าใจว่าทำใมคุณต้องขุดเอาไตรภาคระดับตำนานของคุณมาป่นแบบนี้ มันลดระดับความเป็นอินดี้ลงอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่จริง มีบทภาพยนตร์ดีๆเป็นร้อยๆที่ประเคนใส่ตักคุณตลอดเวลา แต่ทำใมต้องมาหากินกับของเก่า เอาเงินเข้ากระเป๋าสตูดิโอด้วยวิธีผิดๆแบบนี้กันเล่า ว่ากันตามเนื้อผ้า Spielberg กำกับหนังเรื่องนี้ได้มาตรฐานที่แฟนๆวาดหวังที่จะเจอ แต่ไม่เข้าใจว่า หากยังมีไฟอยู่ในตัว ทำใมพ่อมดแห่ง Hollywood อย่างคุณต้องหากินกับมนต์เดิมๆด้วยหล่ะ แถมมาทำให้มนต์เสื่อมลงอีกต่างหาก
กดคะแนน : 7.75 เต็ม 10 ได้คะแนนขนาดนี้เพราะความสนุก ลุ้นระทึกแบบหนัง Summer ทั่วไป แต่ไม่ใช่หนังผจญภัยที่น่าจดจำแบบ Indy ที่เรารู้จัก
ชอบ : งานเบื้องหลังที่ไร้ตำหนิ ( แต่ ... ) , การแสดงของ Blanchett , ความสนุกตื่นเต้นที่หนังมอบให้ ไม่ชอบ : เอฟเฟคมนุษย์ต่างดาวมันแสนจะกิ๊กก๊อก , ความชราของ Ford , การทำให้ Indy ขาดมนต์ขลังอย่างที่เคยเป็น ( ข้อนี้หัก 2 แต้มไปเลย )
จากคุณ :
Bud-to-budding
- [
3 มิ.ย. 51 03:00:09
]
|
|
|