ความคิดเห็นที่ 1 คำอธิบายของมิเรียทำให้กาลาเทียผู้เคยเห็นความสามารถของทั้งอลิเซียและเบธมาแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ทันที "พวกนั้นสามารถคืนร่างกลับเป็นมนุษย์ได้เหมือนเดิมนี่" "ได้ยินว่าอลิเซียกับเบธน่ะเสร็จสมบูรณ์แล้ว" มิเรียเล่าเสริมทันทีที่ได้ยินคำยืนยันจากปากกาลาเทีย "แต่กรณีของสองคนนั้นเป็นกรณีพิเศษที่ต้องใช้เด็กแฝดเท่านั้นจึงจะทำสำเร็จ ซ้ำยังมีจุดอ่อนที่ถ้ารู้ว่าคนที่กลายร่างเป็นมารอวตารฝากจิตไว้กับคนไหน ก็จัดการกับคนนั้นซะก็สิ้นเรื่อง ดังนั้น ถึงจะบอกได้ว่าการทดลองสำเร็จไปแล้วอย่างหนึ่ง แต่จะให้สมบูรณ์ถึงขนาดส่งไปรบในดินแดนนั้นได้น่ะยังอีกนาน" คำอธิบายของมิเรียทำให้บรรดาลูกน้องคนอื่นๆ ที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของอลิเซียกับเบธมาก่อนขมวดคิ้วอย่างงงๆ ขณะที่กาลาเทียซึ่งรู้เรื่องอยู่แล้วไม่สนใจ กลับเสไปถามมิเรียว่า "รู้ละเอียดดีนี่ ข้อมูลขนาดนี้ทำยังไงถึงสืบมาได้ด้วยตัวคนเดียวน่ะ?" "ไม่ใช่แค่คนเดียว" มิเรียปฏิเสธ "มีผู้ร่วมมืออยู่ด้วย" "หา?" กาลาเทียส่งเสียงเป็นเชิงประหลาดใจ งานอันตรายแบบนี้ยังหาคนอื่นมาร่วมมือได้อีกหรือ "เรื่องรายละเอียดคงพูดมากไม่ได้ก็จริง แต่ข้อมูลนี่เชื่อถือได้แน่" อดีตนัมเบอร์ 6 ขององค์การตัดบทเอาดื้อๆ "ข้าลองเอามารวมกับข้อมูลที่ตัวเองสืบมาได้แล้ว ไม่มีตรงไหนที่ย้อนแยงกันเองเลยแม้แต่นิดเดียว" "นี่ละ คือข้อมูลทั้งหมดที่ข้าสืบมาได้จนถึงตอนนี้" จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สิ้นประโยคสุดท้ายของมิเรีย ก็เหลือแต่เพียงความเงียบและกิริยาตกตะลึงไม่อยากเชื่อของเหล่าเคลย์มอร์รอบตัว "ทะ ทำไงดี..." คลาริสผู้ฝีมืออ่อนสุดในกลุ่มพึมพำเสียงสั่น หน้าซีดหดเหลือแค่สองนิ้ว ดวงตาอวดแววขวัญหาย "ข้า... ข้าเผลอรู้เรื่องใหญ่ขนาดนี้เข้าแล้ว..." ฝ่ายกาลาเทียซึ่งดูจะตั้งสติได้ดีกว่าใครเพื่อนนั้นก็หันไปถามมิเรียว่า มีอะไรที่ตัวเองพอจะช่วยได้บ้างหรือไม่ "ช่วยคุ้มครองยัยหัวสีตกกับยัยเปี๊ยกนั่นอยู่ที่เมืองนี้ที" คือคำตอบของมิเรีย "องค์การคงไม่คิดจะใช้วิธีการรุนแรงทันที แต่ถ้าเกิดกรณีนั้นขึ้นมาจริง ก็ช่วยหาทางทำอะไรด้วยวิชาสัมผัสจิตปีศาจระยะไกลให้ที" แถมยังหยอดลูกยอส่งท้ายอีกว่า ถึงตอนนี้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่องค์การก็คงสร้างเคลย์มอร์ที่เก่งทัดเทียมกับกาลาเทียออกมาไม่ได้ง่ายนัก เจอคำชมเข้าไปแบบนี้ กาลาเทียก็มีแต่ต้องยิ้มและรับปากโดยดีเท่านั้น หลังเจรจากับกาลาเทียเสร็จ มิเรียก็พูดขึ้นมาว่า "ได้เวลาเจรจาแลกเปลี่ยนกับเมืองนี้แล้วสินะ" คืนนั้นหลังจากที่จัดการเรื่องราวต่างๆ ในเมืองจนเรียบร้อยแล้ว พวกแคลร์ก็เริ่มจัดการเรื่องเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ของเมืองศักดิ์สิทธิ์ลาโบน่า โดยมิเรียซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนั้นรับบทเป็นผู้เจรจากับนักบวชระดับผู้นำของเมืองโดยมีซินเธียกับทาบาธ่าไปเป็นผู้ติดตาม ส่วนพวกแคลร์คนอื่นๆ ก็มานั่งดวดเหล้าสบายใจเฉิบกับซิดและการ์ค ซึ่งก็นั่งดื่มกันไปแบบเงียบๆ ตามประสาเคลย์มอร์ มีแต่เฮเลนคนเดียวที่ดันออกอาการกระดี๊กระด๊าเพราะน้ำเปลี่ยนนิสัย กิริยาก๊งแล้วซ่าของเฮเลนทำให้ซิดรู้สึกผิดคาดเอามากๆ เพราะพี่แกนึกว่าเคลย์มอร์กินเหล้าแล้วจะไม่เมาซะอีก "คนครึ่งปีศาจอย่างพวกเราสามารถขับแอลกอฮอล์หรือพิษออกจากร่างกายได้ตามใจตัวเอง" แคลร์อธิบายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบๆ ขณะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ "ในทางกลับกัน ก็สามารถบังคับให้แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้ตามใจตัวเองเช่นกัน เพราะงั้น จะกินเหล้าแล้วเมา รึกินแล้วไม่เมา ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเองว่าอยากเมารึไม่อยากเมา" "แล้วเจ้าล่ะ?" ซิดอยากรู้ "บังคับให้แอลกอฮอล์เข้าไปในเลือดรึเปล่า?" "ครึ่งนึง" แคลร์ตอบ "แต่ดูเหมือนแต่ไหนแต่ไรจะไม่ได้คออ่อนอยู่แล้วละนะ" จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุยเรื่องสัพเพเหระจบ แคลร์ก็เข้าเรื่องทันที โดยบอกซิดกับการ์คว่ามีเรื่องอยากจะถามถึงได้มาหาทั้งสองคนถึงที่แบบนี้ "เรื่องของเจ้าลาคิ เด็กที่เคยอยู่กับเจ้าใช่มั้ยล่ะ?" ซิดแทรกขึ้นมาก่อนที่แคลร์จะทันได้ถามอะไร สร้างความตกใจให้แคลร์มากจนเผลอใช้เสียงดังถามโดยไม่รู้ตัว "รู้ได้ยังไง... หรือว่า...!!" "ฮื่อ" อัศวินประจำอารามรับ "เจอกันเมื่อราวๆ หนึ่งปีก่อนน่ะ" แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องของลาคิเท่าที่ตัวเองรู้ตอนได้เจอกันในครั้งนั้นให้ฟัง "จู่ๆ ก็โผล่มาที่เมืองนี้ มาถามเรื่องของเจ้า ตัวงี้โตเป็นยักษ์ปักหลั่นเลยล่ะ" แคลร์นั่งนิ่งอ้าปากค้างไปกับคำตอบของซิด ขณะที่อัศวินประจำอารามก็เล่าต่อไป "พอข้าตอบว่าไม่รู้ เจ้านั่นก็ไปจากเมืองทั้งอย่างนั้นเลย" ว่าพลางยักไหล่เซ็งๆ "แต่เอาเถอะ ท่าทางเจ้าตัวก็สบายดีละนะ" คำรับรองท่อนท้ายของอัศวินประจำอารามเรียกรอยยิ้มนุ่มนวลที่มุมปากของแคลร์ในทันที สายตาเรียบเฉยเปลี่ยนไปเป็นนุ่มนวลยามนึกถึงเด็กน้อยที่เป็นเหมือนภาพเงาของตัวเธอเมื่อครั้งอายุเท่ากัน "ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ สินะ... ลาคิ..." "แถมยังพาเด็กตัวเล็กๆ มาด้วย เห็นแล้วเหมือนกับตอนมากับเจ้าเลยล่ะ" สีหน้านุ่มนวลของแคลร์เปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจทันทีที่ได้ยินคำพูดท่อนนี้ "เป็นเด็กผู้หญิง พอข้าถามว่าลูกเหรอ เจ้านั่นงี้ส่ายหัวดิกเชียว แล้วบอกว่าเป็นลูกของญาติที่ฝากมาให้เลี้ยง ก็เห็นๆ อยู่หรอกว่าท่าจะโกหกแหงๆ แต่เห็นเจ้าตัวท่าทางไม่อยากพูดถึง ก็เลยไม่ล้วงลึกมากกว่านี้" "เด็กผู้หญิง...ตัวเล็กๆ..." แคลร์พึมพำกับตัวเอง สีหน้ามีแววครุ่นคิด "น่า ไงๆ ก็ผ่านมาตั้ง 7 ปีแล้วนี่" ซิดพยายามให้กำลังใจ "โตขึ้นมาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเชียวล่ะ ในหลายๆ ทางนะ" "เห็นบอกว่าจะเดินย้อนไปตามเมืองที่เคยไปกับเจ้าน่ะ" การ์คผู้นั่งเงียบมาตลอดการสนทนาเริ่มพูดบ้าง "ไม่ได้ถามว่าจะไปไหนก็จริง แต่เห็นมุ่งหน้าไปทางตะวันตกของที่นี่น่ะ" เล่าจบ การ์คก็ให้กำลังใจต่อว่า "ไงๆ ต่างฝ่ายต่างก็ยังมีชีวิตอยู่นี่นา เพราะงั้นสักวันคงได้พบกันแน่" จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตัดฉากมายังเส้นทางตัดผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงที่ฟุ้งกระจาย ชายแก่คนหนึ่งควบรถม้าที่บรรทุกของจนเพียบแปล้ตะบึงมาตามทางด้วยกิริยาร้อนรนราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่าง ตอนนั้นเองที่ชายแก่สังเกตเห็นร่าง 2 ร่างเดินสวนมาจากเส้นทางตรงกันข้าม ทั้งสองสวมผ้าคลุมปิดบังร่างกายและใบหน้าจนมิด รู้เพียงแต่ว่าร่างหนึ่งนั้นสูงใหญ่กว่ามาตรฐานของคนปกติ ในขณะที่อีกร่างนั้นสูงเพียงครึ่งเดียวของคนร่างสูงเท่านั้น เห็นดังนั้น ชายแก่ก็หยุดรถม้าของตน แล้วส่งเสียงเรียกนักเดินทางทั้งสองไว้พร้อมเตือนว่าอย่าไปเมืองข้างหน้าดีกว่า เพราะในเมืองนั้นมีปีศาจออกมาปรากฏกาย แล้วจึงเร่งขับรถม้าจากไปพร้อมพึมพำแช่งด่าอย่างฉุนเฉียว "บ้าเอ๊ย เหมือนเมื่อ 7 ปีก่อนไม่มีผิดเลย" ตัดฉากกลับเข้ามาในเมืองซึ่งกำลังตื่นตระหนกและหวาดกลัวที่มีปีศาจมาปรากฏตัวอีกครั้ง "เหมือนเมื่อ 7 ปีก่อน" สถานการณ์ที่ตึงเครียดทำให้ชาวเมืองบางส่วนเริ่มออกอาการฉุนเฉียวโมโหร้าย บางส่วนก็เริ่มทะเลาะกันเอง "ซอมซ่อชะมัด ผิดกับเมื่อก่อนลิบเลยแฮะ" เสียงพูดของใครคนหนึ่งดังขึ้น คนทั้งหมดหันไปมอง พบกับร่างสูงใหญ่ของนักเดินทางที่เจอกับชายแก่บนรถม้าเมื่อกี้ยืนอยู่ เด็กที่มาด้วยกันนั่งอยู่บนไหล่ขวา ทั้งสองต่างสวมชุดคลุมปิดบังใบหน้าจนเกือบมิดจนมองไม่เห็นหน้าตา ได้ยินใครแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาพูดจาไม่ดีกับเมืองของตนเช่นนั้น พวกที่ทะเลาะกันอยู่ก็เลิกทะเลาะกันเองหันมาแยกเขี้ยวใส่นักเดินทางแปลกหน้าทั้งสองแทน แต่นักเดินทางร่างใหญ่ไม่สน กลับหันไปถามเด็กที่นั่งอยู่บนไหล่ของตนแทนว่า "คนไหน?" เด็กน้อยนิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้นิ้วไปยังชายคนหนึ่งในกลุ่มคนที่ยืนอยู่ จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "โอเค" คนร่างใหญ่รับคำ พลางยกร่างเด็กหญิงลงจากบ่ามาวางให้ยืนบนพื้น "รอตรงนี้นะ เดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้ว" กลุ่มพวกที่ทะเลาะกันเห็นคนร่างใหญ่ไม่สนใจตนก็ยิ่งโมโหขึ้นเสียงดังขึ้นไปอีก แต่แล้วก็ต้องชะงักอ้าปากค้าง เมื่อคนร่างใหญ่นั้นยื่นมือเข้าไปในผ้าคลุม แล้วดึงเอาดาบเล่มใหญ่หนาหนักเล่มหนึ่งออกมาถือไว้ในมือ พริบตานั้น คนในผ้าคลุมพลันขยับตัวอย่างรวดเร็วผิดกับรูปร่าง พรวดเดียวเข้ามาถึงตรงหน้าชายที่เด็กน้อยชี้นิ้วใส่เมื่อกี้ และก่อนที่ใครจะทันได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ดาบยักษ์พลันตวัดวูบ ฟันแขนขวาของชายคนนั้นจนขาดกระเด็น ชายชาวเมืองแผดเสียงร้องโหยหวนเพราะแขนหลุดกระเด็นจากร่าง บังเกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ชาวบ้านที่เหลือทันทีที่จู่ๆ ก็มีนักรบแปลกหน้ามาไล่ฟันเพื่อนร่วมเมือง แต่คนในผ้าคลุมไม่สนใจ ดาบยักษ์เงื้อขึ้นแล้วตวัดเข้าใส่ชายแขนขาดหมายศีรษะเป็นเป้า หากเป็นชาวบ้านธรรมดา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คงเป็นภาพชายคนหนึ่งหัวขาดกระเด็นพร้อมสีหน้าหวาดกลัวตกตะลึงถึงขีดสุด แต่ที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่ภาพนั้น เมื่อชายคนดังกล่าวกลับตวัดตัววูบ โดดตีลังกาทีเดียวข้ามหัวคนร่างใหญ่ไปอยู่ด้านหลังในบัดดล ความตะลึงบังเกิดขึ้นในหมู่ชาวบ้านอีกรอบเมื่อชายแขนขาดเงยหน้าขึ้น ดวงตา ใบหน้า และเรียวฟันในปากกลับบิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลงไปเป็นเหมือนพวกปีศาจในบัดนั้น เจ้าปีศาจยกมือข้างที่เหลือชี้ตรงไปยังชายร่างใหญ่ แล้วยืดกรงเล็บออกไปโจมตีใส่แผ่นหลังที่เปิดว่างในทันที แต่คนร่างใหญ่ก็ไวทายาด หมุนตัวกลับมายกเกราะแขนขึ้นป้องกันกรงเล็บแม่นาคของเจ้าปีศาจไว้ได้ ภาพกรงเล็บที่แข็งแกร่งขนาดแทงทะลุกำแพงหนาหนักได้สบายๆ ของตนถูกดีดกระเด็นออกไปคนละทางด้วยเกราะแขนเพียงอันเดียวทำเอาเจ้าปีศาจถึงกับเบิกตาค้างอย่างตะลึง นักรบในผ้าคลุมอาศัยจังหวะที่เจ้าปีศาจมัวแต่ตะลึง ตวัดดาบฟาดเข้าใส่ทันที แต่เจ้าปีศาจก็ปฏิกิริยาตอบรับรวดเร็วไม่น้อย พลิ้วตัวโดดหลบพ้นจุดตายไปได้ฉิวเฉียด เว้นแต่ขาขวาที่หลบไม่พ้น ถูกคมดาบตัดจนขาดกระเด็นตามแขนไปอีกข้าง เจ้าปีศาจแผดเสียงร้องโหยหวน ขณะเสียหลักล้มลงกับพื้นในทันใด ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอีกต่อไป เพราะแขนกับขาหายไปอย่างละข้าง "อะไรกัน เจ้านี่ ยังกับเคลย์มอร์ไม่มีผิด" เจ้าปีศาจขวัญบินไปจากกาย ด้วยไม่เคยเห็นมนุษย์หน้าไหนเล่นงานปีศาจได้ถึงขนาดนี้นอกจากเคลย์มอร์ด้วยกัน "ต้องหนีแล้..." คำว่าหนียังไม่ทันจบประโยค ปลายดาบเล่มยักษ์พลันแทงเข้าเต็มหน้าของเจ้าปีศาจ แล้วตวัดออกข้างเต็มแรง ผ่าหัวของมันจนขาดเป็นสองซีกในทันที ชั่วขณะก่อนที่เจ้าปีศาจจะล้มไม่หายใจไปตลอดกาล มือข้างที่เหลือของมันพลันเกี่ยวเข้ากับขอบผ้าคลุมของร่างยักษ์นั้น ส่งผลให้ผ้าคลุมที่สวมอยู่หลุดลงมากองอยู่กับพื้น เผยให้เห็นร่างที่แท้จริงที่อยู่ใต้ผ้าคลุมนั้น จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "ผะ... ผู้ชาย!!" เสียงชาวบ้านร้องอื้ออึงด้วยความตะลึงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถือเพศใด "ไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่เคลย์มอร์แต่กลับฆ่าปีศาจได้" นักรบหนุ่มยกดาบขึ้นพาดไหล่ด้วยกิริยาสบายๆ ใบหน้าอ่อนเยาว์ผุดรอยยิ้มอารมณ์ดี ขณะที่กวาดตามองชาวบ้านรอบๆ ตัวด้วยประกายตาสดใสจนไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคนเดียวกับที่ฟันเจ้าปีศาจจนหัวขาดกลิ้งไปกลิ้งมา "ไม่ได้กลับมาบ้านเกิดซะนาน กลับมาก็วุ่นวายกันขนาดนี้เลยเรอะ" อดีตเด็กชายผู้กลายเป็นนักรบเหี้ยมหาญพึมพำกับตัวเอง "ดูท่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่เหมือนกันสินะ" จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เจ้าชายแคสเปียน!!! คือความรู้สึกแรกที่ผมนึกขึ้นมาในใจหลังจากได้เห็นลาคิที่กลับมาในตอนนี้จริงๆ ครับ เล่นเอาผมเผลอคิดเลยเถิดไปใหญ่ว่า ไอ้อีกทวีปที่กำลังรบกันจะเป็นจะตายอยู่นี่คงไม่ใช่ "นาร์เนีย" หรอกนะ (ลองนึกภาพพวกระดับผู้บริหารขององค์การมาคุกเข่าต่อหน้าลาคิ แล้วบอกว่า "ได้โปรดช่วยกอบกู้นาร์เนียด้วย" สิครับ... ขำๆ นะอย่าซีเรียส) ปริศนาเริ่มหยอดเข้ามาอีกรอบแล้วแฮะ ทั้งเรื่อง "ผู้ร่วมมือ" อีกคนที่ช่วยมิเรียในการรวบรวมข้อมูลมาได้ถึงขนาดนี้ ทั้งเรื่องของลาคิที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องของเด็กหญิงปริศนาที่ติดตามอยู่ข้างตัวของลาคิ ซึ่งตอนนี้เดาไม่ได้เลยว่าเนื้อเรื่องจะเดินไปทางไหนกันแน่ ยิ่งแพนกล้องไปทางฝั่งลาคิด้วยแบบนี้แล้ว ยิ่งชวนให้ลุ้นไปอีกว่าตอนหน้าจะดำเนินเรื่องทางฝั่งลาคิต่อไปเลย หรือว่าจะดำเนินเรื่องทางฝั่งแคลร์อีกครั้ง อยากเห็นวันที่สองคนนี้กลับมาเจอกันเร็วๆ แฮะ อนึ่ง ลาคิเทพจริงๆ ฟ่ะ คนละอารมณ์กับเด็กขี้แยทำอะไรไม่ค่อยได้ในเล่มต้นๆ ลิบลับ แถมยังจัดการปีศาจได้โดยไม่ต้องเป็นเคลย์มอร์อีกต่างหาก อยากรู้จริงๆ ว่าอีสเลย์ฝึกให้ยังไงถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ (จะว่าไป คนที่ฆ่าปีศาจได้โดยไม่ต้องใช้พลังปีศาจก็ยังมีเทเรซ่าอีกคนนี่นา แต่ขานั้นเค้าเป็นเคลย์มอร์ เพราะงั้นร่างกายน่าจะต่างจากคนอยู่แล้ว) อีกอันที่อยากรู้ก็คือ ดาบกับเกราะที่ใช้อยู่ตอนนี้นี่ได้มาจากไหน โดยเฉพาะเกราะนี่แข็งแกร่งถึงขนาดป้องกันการโจมตีของปีศาจได้เลย ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นเกราะปกติก็คงทะลุไปแล้ว (การโจมตีของพวกปีศาจนี่บางตนแรงขนาดทะลุกำแพงไม้หรือกำแพงคอนกรีตได้เลยนะครับ) รอดูตอนหน้าสถานเดียวครับ :) จากคุณ : Drake - [ 8 มิ.ย. 51 00:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาอ่านครับ : ) จากคุณ : flamefox - [ 8 มิ.ย. 51 01:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ห..หล่อขึ้น คนเดียวกันกับไอ้เด็กขี้แยตอนนั้นเปล่าเนี่ย? ขอบคุณสำหรับสปอยค่า จากคุณ : KanataN - [ 8 มิ.ย. 51 01:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใกล้จบแล้วสินะ ปมเริ่มคลายแล้ว ใกล้ climax เข้าไปอีกนิด ขอบคุณสำหรับ spoil ครับ จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) - [ 8 มิ.ย. 51 01:03:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แบบว่าอ่านอังกฤษมาเต็มๆก่อนดูกระทู้นี้แล้ว พอเห็นหัวกระทู้ ผมงี้ฮากลิ้ง ลาคิมันเทพจริงๆนะเนี่ย ถึงฝ่ายตรงข้ามจะยังเป็นอสูรธรรมดาก็เถอะ จากคุณ : ob the air - [ 8 มิ.ย. 51 01:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อัพเลเวลอบิลิตี้ "พระเอก" แล้วสินะ... จากคุณ : Reko-J - [ 8 มิ.ย. 51 01:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 class up เด็กขี้แย----------> ผู้กล้า. จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) - [ 8 มิ.ย. 51 01:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เกราะสุดยอดนี่ทำให้นึกถึงตอนที่แล้ว ที่ว่าเกราะกับดาบสุดยอดทำขึ้นที่อีกทวีปนึง อาจจะเป็นที่นั่นก็ได้ จากคุณ : welzer - [ 8 มิ.ย. 51 01:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เออ... เด็กสาวปริศนาที่อยู่กับลาคิ ผมอยากจะเดาล่วงหน้าว่าเป็นลูกของอีสเลย์กับพริสซิลล่าอ่ะนะ เพราะมีความสามารถในการจับจิตปีศาจแบบนี้ มันประเภทเดียวกับนักรบครึ่งปีศาจClaymoreนี่เลย คงไม่ได้รับเลี้ยงมาจากองค์กรแน่นอน แต่ลูกของมารอวตารนี่มันจะเป็นไปได้เหรอ?? จะระงับความกระหายเนื้อด้วยตัวเองนี่ได้เหรอ?? หรือ อาจจะเป็นลูกของพวกสายเลือดมังกรจากแผ่นดินใหญ่ก็เป็นไปได้เช่นกัน ถ้าเป็นมารอวตารประเภทเดียวกับอีสเลย์หรือพริสซิลล่านี่คงจะยั้งความกระหายเนื้อมนุษย์นี่ไม่ได้แน่ๆ จากคุณ : ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร (spiralhead) - [ 8 มิ.ย. 51 02:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สนุกสุดยอดจริงเรื่องนี้!!! ขอบคุณคุณ Drake สำหรับ spoil ครับ. เดาต่อไปด้วยความมันส์ว่า... - เด็กคนนั้น คือ ลูก ของอีสเลย์และพริสซิลล่า! (ตามมาด้วยเพราะติดลาคิแจ...) - ลาคิ แท้จริงแล้ว คือ สายเลือดเผ่ามังกร!!! แปลงร่างได้หลังอัพเลเวลมากกว่านี้. ถ้าเป็นงี้คงมันส์น่าดู...^^ จากคุณ : Finrod Tasardur - [ 8 มิ.ย. 51 02:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ เล่าได้สนุกมาก จากคุณ : พับผ่าสิ - [ 8 มิ.ย. 51 02:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลาคิเท่ เท่ เท่มากๆ กะไว้ว่ามันคงดูดีขึ้น แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ หยั่งกะเปลี่ยนหัวใหม่ ขอให้ได้เจอแคลร์เร็วๆละกันนะ ถ้าเป็นแบบหุ่นเชิดสังหารคงไม่ีไหว กว่าจะเจอกันเกือบจบ จากคุณ : inxni (inxni) - [ 8 มิ.ย. 51 03:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มากรี๊ดอีกรอบ หนูลาคิหล่อค่า  อยากให้เจอแคลร์ไวๆ แคลร์คงตกใจแย่ จากเด็กขี้แย กลายเป็นเก่งเทพ (แต่คงยังสู้แคลร์ไม่ได้...ใช่มั๊ย?!) จากคุณ : amamizu - [ 8 มิ.ย. 51 04:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลาคิเหรอนั่น *0*" จากคุณ : หลงทางเป็นงานอดิเรก - [ 8 มิ.ย. 51 04:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับสปอยมากๆ ครับ ว่าแต่กองพันเหยี่ยวจะมารับมะไหร่หล่ะ จากคุณ : Natakuiz - [ 8 มิ.ย. 51 04:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ใกล้จบจริงๆนั่นแหละ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นการ์ตูนรายเดือน เวลาสู้กันทีนึงก็ประมาณ2-3ตอน คุยกันเยอะๆอีกประมาณ1ตอน(อาจมีย้อน อดีตอะไรอย่างงี้) คาดว่ากว่าจะจบน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า1หรือ2ปีเป็นอย่างต่ำ จากคุณ : My Dying Bride - [ 8 มิ.ย. 51 05:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไชโย  ฮูเล่  บันไซ  ยูเรก้า   ในที่สุดเรื่องนี้ก็มีพระเอกแล้วเฟ้ย ขอบคุณคุณ DRAKE มากๆครับ ถ้าเป็นผู้หญิงจะไปขอแต่งงานเลย จากคุณ : X_BM - [ 8 มิ.ย. 51 06:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีกทวีปก็คือ มิดแลนด์นั่นเอง !!! ที่ๆอิสเลย์ได้ทิ้งชีวิตให้กับนักรบดำไปเรียบร้อย และลาคิก็ได้ฝึกปรือกับนักรบดำเป็นเวลา 7 ปี! จากคุณ : Jarod - [ 8 มิ.ย. 51 07:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รูปนี้ได้จากแถวๆนี้แหละ จากคุณ : Jarod - [ 8 มิ.ย. 51 08:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เดาว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือ พริสซิลล่า เลยด้วยซ้ำ ที่ค่อย ๆ ย้อนกลับเป็นเด็ก ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง จากคุณ : abc - [ 8 มิ.ย. 51 08:59:31 A:125.24.128.130 X: TicketID:062703 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #25 เปลี่ยนซะ 555+ จากคุณ : GaMBiT - [ 8 มิ.ย. 51 09:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คิกคิก เปิดมาเห็นสปอย  เลยเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวเราะกลิ้งมากลิ้งไปอยู่คนเดียว เราบ้าปายเลี้ยว  เอิ้ก เอิ้ก \o/  เย้ พระเอกมา.. เหมือนดาบใหญ่ขึ้นป่ะ?  คุณ Drake บรรยายซะลาคิหล่อเหลา น่าหลงใหลขึ้นอีกบานเลย    อ๊า  เท่ห์.. ที่จริงลาคิก็ฉายแววตั้งแต่เด็กแล้วนะ  ถึงจะตัวนิดเดียว แต่ก็ยังทำตัวเป็นลูกผู้ชายลุกขึ้นมาปกป้องแคลร์ตั้งหลายครั้ง ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้ ถูกอัดกระเด็นไปก็ตาม ตอนถูกยัยโรคจิตโอฟิเลียเล่นงานซะเลือดกระฉูด เพื่อทำสงครามประสาทกับแคลร์ แล้วลาคิไม่ยอมร้องซักแอะเพื่อไม่ให้แคลร์กดดัน จะได้มีสมาธิต่อขาที่ขาด  นั่นก็สุดยอด..  แม่ยกมาเองเลย ฮา เฮเลนเมาน่ารักอ่ะ  อย่างจี้  ตัดกับภาพของเคลย์มอร์ที่ปกตินิ่งๆ เงียบขรึม ออกแนวเย็นชาซะด้วยซ้ำ เห็นกระดี๊กระด๊าเหมือนคนธรรมดาแล้ว รู้สึกดีแฮะ รู้สึกว่าเธอๆ ทั้งหลาย ก็แค่สาวน้อย ที่มีสิทธิ์มีชีวิตปกติสุขเหมือนคนทั่วไป -- แอบคิดเผื่อแคลร์กับลาคินั่นแหล่ะ คริคริ กร๊าก ขำ#23 "ถ้าเป็นผู้หญิงจะไปขอแต่งงานเลย"  555..    อ่าน อ่านไปเจอ #25  อีก..  กร๊าก ชอบบ..      ไปดีกว่า หิวข้าวแล้ว คิคิ จากคุณ : กะติ๊ด - [ 8 มิ.ย. 51 09:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราคิดเหมือน # 26 ว่าเด็กนั่นคือ พริสซิลล่า เพราะรีเฟิล หนึ่งใน "คนในห้วงอเวจี" มารอวตารระดับสุดยอด ที่อยากได้แคลร์หนักหนา ก็มีร่างเป็นเด็กเฉยเลย เห็นตอนแรกยังงง ทำไมอดีตเคลย์มอร์เป็นเด็กหล่ะ ตอนที่พริสซิลล่าเจอลาคิครั้งแรก เราก็ว่าดูเหมือนจะวาด ให้เด็กลงกว่าตอนที่สู้กับเทเรซ่า  ยังคิดว่าอุปทานไปเอง จากคุณ : กะติ๊ด - [ 8 มิ.ย. 51 10:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กรณีของรีเฟิลเป็นclaymoreรุ่นเเรกที่อายุน้อยสุดครับ จากคุณ : -*- (Gloriana) - [ 8 มิ.ย. 51 10:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลุ้นตั้งแต่เห็นชื่อตอนแล้วค่ะ พอลาคิเปิดผ้าคลุมเท่านั้นแหละ... ห...หล่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด *ตายไปเรียบร้อย* ขอบคุณคุณ Drake สำหรับ spoil ค่ะ จากคุณ : หนูเล็กนิดเดียว - [ 8 มิ.ย. 51 10:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ รอคอยต่อไปด้วยใจจดจ่อ จากคุณ : reJoyce - [ 8 มิ.ย. 51 12:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ราคิ เห็นต้อนแรกถึงกลับเคลิ้ม จากเป็นเด็กที่ไม่ค่อยชอบขึ้หน้าเลย กลายมาเป็นคนที่ข้าไฝ่หา 55 จากคุณ : ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน - [ 8 มิ.ย. 51 12:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะ ลาคิมาอย่างเท่ห์ทีเดียว จากคุณ : minnie (minnie_RR) - [ 8 มิ.ย. 51 13:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ จากคุณ : แค่คนขมๆคนหนึ่ง - [ 8 มิ.ย. 51 16:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เดาว่า.. การฝึกให้เป็นเคลย์มอร์โดยรับสิ่งแปลกปลอมเข้าอยู่ร่างกาย ตั้งแต่อายุยังน้อย อาจมีข้อดีคือ ร่างกายปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เลยทำให้มีพลังสูง แต่ข้อเสียก็คือ ภาวะจิตใจที่ยังไม่เข้มแข็งพอ ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้ ควบคุมพลังปีศาจไม่ได้ กลายเป็นถูกจิตปีศาจควบคุมเป็นปีศาจไป หรือมีผลข้างเคืยงอื่นๆ ตามมา เช่น กลายเป็นเด็กเล็กๆ บางคนเฉพาะจิตใจ บางคนทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่รู้ว่ามีส่วนทำให้เมียต้าเป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า พริสตอนเจอลาคิก็ยังดูสติสตังค์ไม่ค่อยเต็มร้อย   แต่ถ้าตอนหน้า ปรากฏหนูน้อยนั่น ไม่ใช่พริส ก็อย่าลืมเอาแนวคิดนี้โยนทิ้งขยะไปนา   ฮา อย่างกรณีพริสซิลล่าที่มีพลังแฝงอยู่เยอะมาก เป็นอันดับ 2 แล้วแท้ๆ  เจอเทเรซ่าที่ตายังไม่ทันเปลี่ยนสี ก็กวาดอันดับ 2-5 ลงไปกอง ก็เกิดอาการช้อค กลัวจนเพ้อ ขยับตัวไม่ได้  แล้วก็สติแตกคลุ้มคลั่งขึ้นมา จนกลายเป็นปีศาจไปอย่างง่ายดาย ในการออกศึกใหญ่ครั้งแรกเท่านั้น เทียบแล้วตอนนั้นพริสซิลล่ายังโตกว่าแคลร์ตั้งเยอะ  แต่จิตใจแคลร์กลับแข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่ร้อยเท่า ม่ายงั้นคงสั่นคลอนหัวใจ ของหญิงแกร่งเก่งอย่างเทเรซ่าไม่ได้นิ น้องแคลร์ของเรา เธอก็เลยก้าวข้ามขีดจำกัดไป ให้เพื่อนๆ และคนอ่านตกใจขวัญกระเจิงเล่น.. แล้วเธอก็ก้าวข้ามกลับมาได้   ซะงั้น  ไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย โฮะโฮะ   ยังลุ้นให้แคลร์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถดึงเอาพลังของเทเรซ่า เคลย์มอร์ในตำนาน ที่แฝงอยู่ในตัวออกมาใช้ได้ เสมือนได้เห็นเทเรซ่าออกมาโลดแล่นอีกครั้งหนึ่ง (เรายังทำใจยอมรับการตายของเทเรซ่าไม่ได้นั่นแหล่ะ เรื่องของเรื่อง) แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 51 18:08:08 จากคุณ : กะติ๊ด - [ 8 มิ.ย. 51 18:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบ จากคุณ : yatiko - [ 9 มิ.ย. 51 09:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รอดูกึ๋นพระเอก ซะละ มาทีหลังดังกว่า แถมมาพร้อมกับช่วงเล่าเรื่อง สายเลือดมังกร ซะด้วย ให้สงสัยต่อไป 55+ จากคุณ : PromMasamune (PromZero) - [ 9 มิ.ย. 51 09:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไอ้กระผ้มว่า เด็กนั้นต้องเป็นลูกของ พริซิลากับอีสเลย์ แน่นอน + เป็น"สิ่งที่" ลิเฟินบอกว่าเก็บได้ แน่ๆๆ จากคุณ : Lerman (Lerman) - [ 9 มิ.ย. 51 13:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าหากว่าเป็นพริสซิลล่าขึ้นมาจริงๆ แคลร์จะทำยังไงล่ะเนี่ย จากคุณ : Mobile Dog - [ 9 มิ.ย. 51 13:55:55 A:119.42.69.92 X: TicketID:171910 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ ที่สงสัยก็คือ ลาคิฆ่าปีศาจได้ แล้วชาวเมืองนั้นต้อง.....  จ่ายตังที่ใคร จากคุณ : nemesises - [ 9 มิ.ย. 51 18:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ลูกลาคิกับพิซิล่า แฮ่ะๆ จากคุณ : Ice-man - [ 9 มิ.ย. 51 18:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #41 ไม่ต้องกังวลไป..  จ่ายทีเราก็ได้   ด้วยความยินดี..   คิกคิก เห็นตอนแรก ยังแอบหวาดหวั่นอยู่เหมือนกันว่า จะเป็นลูกลาคิกับพริส เล่นแต่งตัววับๆ แวบๆี่ มานอนกอดก่ายอยู่เรื่อย ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะเฟร้ย... แต่คิดดูแล้วถ้าเป็นยังงั้นจริง.. เล่นจูบก่อนจากพร้อมคำมั่นหมายขนาดนั้น.. ลาคิคงไม่มีหน้าไปพบแคลร์อีก คงหลบลี้หนีหน้า แทนที่จะตระเวนตามหาอย่างนี้ ว่าม่ะ.. ถ้าเป็นลูกพริสกับอิสเลย์ก็คงจะีดีที่สุดสำหรับแคลร์.. แต่ดูไม่น่าจะใช่สไตล์คนเขียน ม่ายงั้นตัวละครตัวโปรดของเราคงไม่ทยอยคอขาดเป็นว่าเล่น ชอบใครเป็นไม่ได้สินา... ฮึ จากคุณ : กะติ๊ด - [ 9 มิ.ย. 51 20:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาเป็นขาประจำอีกรายหนึ่ง จากคุณ : worawit_num - [ 9 มิ.ย. 51 21:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อีสเลย์ "ฝึก" ลาคิมาดีจน "ช่ำชอง" ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!~ orz orz orz จากคุณ : VoidOne - [ 10 มิ.ย. 51 02:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับสปอย์ด้วยคนค่า เรื่องนี้ อ่านแล้วคาใจมั่กๆ อิอิ จากคุณ : น้องเรย์น่า - [ 10 มิ.ย. 51 23:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 วะ วะ วะ วะ ว้าวววววว   หล่อได้อีกนะพี่กัส   เอ้ย!!  ลาคิ -*-             ฟืด! ฟัด!  รอม่ายไหวง๊างงงงงงง   รอลาคิมาตั้ง นานแสนนาน....                                               สมหวังซะทีงิ   ว่าแต่ ล่ำบึ๊ก สมแมน                                 ถูกใจเจ๊มากมายนะตะเอ๊งงงงง                                     ฮุยเลฮุยๆๆ    ตั้งหน้าตั้งตารอ  *W* จากคุณ : หนมจีนน้ำเงี๊ยว - [ 11 มิ.ย. 51 05:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แวะเข้ามาตอกบัตร อ่านบทบรรยายของคุณ Drake จบภาพที่ลอยขึ้นมาในหัวคือภาพใน คห.25 เลย ตอนนี้ถึงแม้จะมีรายละเอียดต่างๆใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นส่วนขยายภาพสงครามอีกทวีป หรือแม้แต่ว่า  Claymore ก็เมาเหล้าเป็น!!!! ฮา แต่สิ่งที่ถูกดึงดูดความสนใจทั้งหมดไปก็คือ   หนุ่ม(ไม่)น้อย ลาคิที่ไม่ได้ปรากฏตัวเสียนาน อ่านจบตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกประหนึ่งว่ากำลังอยู่หน้าเวทีละครใหญ่ที่กำลังบรรเลงเพลงโหมโรงที่มีท่วงทำนองเร่งเร้าปลุกกระตุ้นจนถึงที่สุด......และฉับพลันทุกสรรพเสียงก็หยุดลง เพื่อให้ผู้ชมได้มีเวลาสูดหายใจเข้าอย่างเต็มปอดก่อนที่จะพบกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้นตื่นเต้นตระการตา จนบางคนอาจลืมหายใจ เสียอย่างเดียวช่วงพักหายใจมันนานเป็นเดือนเลยทีเดียวกว่าตอนใหม่จะออกนะซิครับ ฮา!!!!! ปล.รออ่านความเห็นคุณ เทเรซ่าหน้ายิ้ม (Claymore) อยู่นะครับ จากคุณ : spica - [ 12 มิ.ย. 51 09:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ต้องขอขอบคุณ คุณDrake มากจริงๆ ค่ะ สำหรับสปอยฯ เรารู้สึกทึ่งกับสำนวนที่คุณDrake รังสรรค์ออกมา ช่างเป็นอรรถรสชั้นเลิศจริงๆ ค่ะ สำหรับตอนนี้ เรามีความคิดอยู่ 2 ข้อ.. - เรื่อง "ผู้ร่วมมือ" คนแรกที่เรานึกขึ้นมาแทบจะในทันที คือ "ลุวุล"(ชื่อเรียกจาก เล่ม 9) ชายชุดดำที่เคยเป็น ผู้รับเงินจากงานของแคลร์ คนคนนี้เท่าที่เราเห็น แตกต่างจากคนในองค์การคนอื่นๆ และจากที่เราสังเกต(คิดเอง)เท่าที่จำได้ คำพูดของลุวุล "เหมือน" จะเข้าข้าง(ช่วย)ทางพวกแคลร์ มากกว่าองค์การ ขอยกตัวอย่างเท่าที่จำได้ล่ะกันนะคะ.. ลุวุล เคยพูดว่า เรื่องที่องค์การแอบหวังไว้ว่า แคลร์จะสืบทอดพลังของเทเรซ่าไว้ได้ ในทำนองที่ว่า ดูเหมือนจะหมดหวังนะ ( การพูดคุยในองค์การหลังจากที่โอฟีเรียตาย แคลร์หนีหาย ) ( แต่เรารู้สึกว่า ลุวุลพูดเหมือนว่า ให้องค์การเลิกสนใจในตัวแคลร์ ทั้งที่เหมือนรู้ดีว่า แคลร์ชนะโอฟีเรียและหนีหายไปเอง จากคำที่ลุวุลนึกในใจ เมื่อทางองค์การสั่งให้กาลาเทียไปจัดการเรื่องแคลร์.. ) ลุวุล เคยพูดปรามกาลาเทีย ตอนที่กาลาเทียพูดจาเหมือนรู้ไส้องค์การดี เหมือนไม่ให้กาลาเทียเป็นเป้าขององค์การมากไป.. ลุวุล "อาจ"เป็นคนที่เสนอให้ "ไม่ควรประหารกาลาเทียและแคลร์" ( เพราะผิดวิสัยที่องค์การจะปล่อยคนที่ไม่ซื่อไว้ ) และ "อาจ" คิดแก้ไขให้ด้วย โดยว่า กาลาเทียยังมีประโยชน์อยู่นะ แคลร์ส่งไปทางเหนือดีกว่า.. ( ปรามแคลร์และจีน ไม่ให้คิดสู้กับราฟาเอลล่า เดี๋ยวตายเปล่านะ.. ) ลุวุล เพิกเฉยกับการที่ กาลาเทียแอบดู อลิเซียและเบธ แถมเหมือนพูดให้กาลาเทียเข้าใจมากขึ้น และปรามไม่ให้เข้าไปยุ่ง.. ลุวุล ไม่แย้ง เรื่องที่มีมติให้เพิกเฉยกับเรื่องที่คลาริสรายงานเรื่องดาบ ( ทั้งที่ลุวุลเชื่อว่า มิเรียไม่ยอมตายง่ายๆ .. ) ที่สำคัญ.. "ลุวุล เหมือนรู้เรื่องต่างๆ มากกว่าใครๆ ในองค์การ แต่ไม่ปริปากกับทางองค์การ" ( แถม ลุวุล หา ราฟาเอลล่า เจอ? โดยบอกว่า ใช้สัญชาตญาณหาคนระดับราฟาเอลล่า? ) ( ดีไม่ดีลุวุล เสนอเรื่องให้ ราฟาเอลล่า กลับเข้าองค์การด้วยซ้ำ.. ) ขอสรุปค่ะ - -" สำหรับเรา "ลุวุล" น่าจะเป็นตัวละครสำคัญ ที่มี "จุดประสงค์ของตัวเขาเอง" ค่ะ.. - ส่วนเรื่องเด็กน้อย บนหลังของลาคิ หนุ่มใหญ่ แวบแรกคิดว่า ลูกของพริซิลล่าค่ะ.. ( แต่ง่ายไปหรือเปล่า?) และความคิดที่ว่า เป็นพริซิลล่าเองเลย( มีสาเหตุที่เปลี่ยนไป ) ก็เป็นไปได้อยู่ค่ะ ที่น่าสนใจ คงไม่พ้นการเล่าถึง 7 ปีที่หายไปของลาคิล่ะค่ะ.. ขอแสดงความคิดเห็นเท่านี้ล่ะกันค่ะ (ยาวแล้ว) ***การคาดเดาของเราล้วนๆ ค่ะ มิควรถือเป็นมั่นเหมาะ*** จากคุณ : Claymore - [ 13 มิ.ย. 51 22:56:31 ]