ความคิดเห็นที่ 1 ได้ดูหนังเรื่องนี้มาแล้วครับ...ชอบและประทับใจดี และก็ทราบว่า เพื่อนๆ ในห้องนี้ชอบในประเด็นอื่นๆ เช่น ฉาก สถานที่ หรือดนตรีประกอบ         แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมเก็บเอามาเป็นคำถามกับตัวเอง และอยากจะรู้ว่า                         "เรื่องราวของความรัก ในชีวิตจริงของใครหลายๆ คน"                ...จะมีบ้างไหม ที่ความรู้สึกประทับใจกันและกันของคนสองคน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้                                      "หัวใจวูบไหว"                                    จนอาจเกิดเป็นจุด "เริ่มต้นของความรัก"                                แต่แล้วอาจจะเพราะใครสักคน                                             "มีความรักของตัวเองในรูปแบบอุดมคติ"                                                  หรือ                "ยังไม่กล้าที่จะปล่อยหัวใจที่จะรักเขาหรือเธอไปหมดทั้งใจ"                             อาจจะเพราะความร้าวรานในวันเก่า  กลัวความผิดหวัง , ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง , ไม่อยากที่จะปวดร้าวอีกแล้ว                                                 จึง                             "หยุดความสัมพันธ์ที่กำลังจะก้าวหน้า"              และวางเงื่อนไขให้กับ ตัวเอง และ "คนที่กำลังจะเป็นคนรัก"                      ทั้งๆ ที่ในหัวใจโหยหา-อยากจะอยู่เคียงใกล้กัน                                            นำไปสู่                          "การพิสูจน์ ถึงความมั่นคง ที่จะมีให้กันและกัน"                       โดยใช้ข้อกำหนดของระยะเวลา มาเป็นสิ่งพิสูจน์                                              เช่น   "เราจะไม่ติดต่อกันและกันภายใน 1 ปีนะ...และเมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้าเรายังมีกันและกันไม่เปลี่ยนแปลงล่ะก็ เราจะมาเจอกันในสถานที่เดิมๆ ตรงนี้ ตรงที่มีความหมายระหว่างเราสองคน"                  ...ฟังดูแล้วมันอาจจะเป็นความรักที่ อุดมคติ ไปหน่อยใช่ไหม(หลายคนอาจนึกในใจว่าน้ำเน่า)                                         จึงอยากรู้ว่า         "ความรักอย่างนี้มีจริงหรือปล่าว และเกิดขึ้นกับเพื่อนๆ คนไหนบ้างครับ"                              ...คิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ.... .................................................................................................              สำหรับผม...ผมคิดว่า ถ้ามีคนที่เรา "กำลังเริ่มต้นรัก" และเราตั้งใจที่จะจริงจังกับเธอ แต่แล้วเธอเป็นคนสร้างเงื่อนไขอย่างนี้                               ...ก็คงต้องทำตามที่เธอบอก...       เเม้จะคิดถึง เป็นห่วง หรือหวง หรือกลัวว่าเราโง่เองไปคนเดียว(ถูกหลอก) และใช้เวลาหนึ่งปีคิดถึงคนๆนี้ ไปโดยเปล่าประโยชน์ก็ตาม                ...แต่อย่างน้องเราก็จะได้เรียนรู้ เข้าใจตัวเอง และเลือกที่จะรอคอยอย่างเห็นคุณค่าของความรัก เพราะ                       "กว่าจะรักกันจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ"       ที่สุดแล้ว อย่างน้อย 1 ปีที่ผ่านไปดดยเปล่าประโยชน์ มันก็เป็นการรอคอยอย่างมีความหวังและมีความสุขไม่ใช่เหรอ .................................................................................................                           ...งั้น อีกปีนึงเจอกันนะครับ :)          ป.ล ขอบคุณหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้นึกถึงประเด็นความรักในแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 51 23:20:04 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 51 22:37:32 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 51 22:34:59 จากคุณ : เอ๋taxiครับผม - [ 11 มิ.ย. 51 22:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องไหนอ่ะครับ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเชียนชื่อกะเบอร์โทรลงในหนังสือแล้วขายไปละครับ จากคุณ : HOWL - [ 11 มิ.ย. 51 22:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พอดีมีคำถามที่ตั้งไว้ในใจ ที่เกิดขึ้นกับหนังอีกเรื่องนึง ก็คือเรื่อง "ปิดเทอมใหญ่ฯ"                        ในส่วนของ "เหิร" กับ "นวล"                 (นวลน่ารักนะ-และชอบเรื่องของนวลที่สุดละ)        เคยมีคนตั้งกระทู้ไปแล้วว่า "ถ้าเป็นเหิร" จะยอมลงรถไฟไปกับ "อ้อย" ไหม?                           แต่สำหรับผม ผมกลับมาคิดว่า          ...ถ้าผมเป็น "นวล" (อ้าว กลายเป็นผู้หญิงซะงั้น) ผมจะยอมยกโทษให้ไอ้เจ้าเหิรมันไหม?                                 ถ้าผมเป็นนวลคงเครียดน่าดู เหมือน "หมดความเชื่อถือในตัวเหิร" อีกต่อไป  เพราะจากในเรื่อง ดูเหมือนนวลเป็นคนที่ เชื่อใจ และไว้ใจในตัวเหิรมากๆ               ก้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ในเมื่อเสียงในโทรศัพท์มันชัดแจ้งออกอย่างนั้น         ที่ทำได้ก็คงต้องดูว่า "เหิรชอบโกหก หรือกลบเกลื่อนบ่อยมั๊ย หรือโกหกเป็นนิสัยหรือปล่าว หรือเป็นคนชอบพูดความจริง"              ...ถ้าเหิรเป็นคนชอบพูดโกหกเป็นนิสัย ก็คงต้องจบกัน ................................................................................................                   แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง จากคุณ : เอ๋taxiครับผม - [ 11 มิ.ย. 51 22:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่าน คคห. ที่ 2 แล้วนึกถึงหนังเรื่องโปรดของผมเรื่องหนึ่ง... serendipity... จากคุณ : pomkung (nitid1977) - [ 11 มิ.ย. 51 22:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าพูดถึงสมัยนี้ 1 ปี สำหรับเรา มันนานเกินไปนะ และถ้ามีเงื่อนไข มาเกี่ยวข้องอีก บอกว่าไม่ต้องมาเจอกัน 1 ปี คงเป็นไปไม่ได้ เรา ก็เคย น่ะ เคยบอกกับเพื่อนคนหนึ่งน่ะ ถ้าหากเราอายุ 40 แล้ว ยังไม่มีใคร เราจะไปอยู่ด้วยกันน่ะ ไม่ได้เจอกันมามากกว่า 15 แล้ว น่ะ ตอนนี้ใกล้ 40 แล้ว ยังไม่เห็นเค้าเคยติดต่อกันมาเลย บอกตรงๆ ตอนนั้น เราลึกซึ้งกันมากมายย เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน มันดูช่างยาวนานเกินไป แล้วก็ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้รอเค้า และเค้าก็คงไม่ได้รอมาเจอเราเช่นกัน คิดว่า หนึ่งปีมันนานเกินไป สำหรับคนสองคน ที่รักกันมากมาย อย่างนี้น่ะ เฮ้อออออ แต่อยากบอกเค้านะ ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว ! อย่าให้ถึง 40 เลยอ่ะ มันแก่กันเกินไป อิอิ จากคุณ : udoreviews - [ 11 มิ.ย. 51 23:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนหนังเรื่อง my sassy girl เลย จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 11 มิ.ย. 51 23:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อืมมม อ่านแล้ว ชีวิตเรากะลังเป็นแบบนี้ รู้จักกะคนๆหนึ่ง แต่ให้ไม่ติดต่อทำไม่ได้หรอก เพราะความรู้สึกยังไม่ชัดเจน ก็ได้แต่พยายามต่อไป เพราะอยู่ห่างกันแล้ว โอกาสที่จะเจอกัน แทบเป็นศูนย์ในปีนี้ แต่ถ้าปีหน้าอาจจะได้มีโอกาส เฮ้อออ คิดแล้วเศร้า หนังเรื่องไหนคะเนี้ย จากคุณ : nana_toon - [ 11 มิ.ย. 51 23:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 serendipity เหมือนกัน จากคุณ : nuttool - [ 11 มิ.ย. 51 23:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าความชอบมันไม่มากพอที่จะรอเวลา ถึง 1 ปี ได้อ่ะ สำหรับเรานะ แต่สำหรับแม่หญิงลาวนั้น อาจจะเป็นบทพิสูจน์ความรักที่ดีก็ได้ ดังนั้นพระเอกของเราคงเข้าใจแล้ว เฝ้ารอ ... จนมาพบกันอีก จากคุณ : ทาโกะยากิลูกโต๊โตกรอบนอกนุ่มใน - [ 11 มิ.ย. 51 23:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในชีวิตจริงจะมีไหมที่ "หัวใจผูกพันกับใครที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน แล้วกลับบอกว่า อย่าติดต่อกันเลยนะ...อีกปีนึงค่อยเจอกัน"  ของผมคล้ายๆ นะ แต่ต่างตรงที่ ไม่ได้เคยเจอกันเลย แล้วอยากจะเจอมากๆ (ปกติคุย ทางวีดีโอน่ะ)ติดตรงที่ไม่ไ่อยู่ใกล้ด้ แต่ก็ได้แค่ติดต่อกันทางอีเมล์ แล้วก็จดหมายและ โปสการ์ด เท่านั้น ตอนนี้ 1 ปีกว่าแล้ว  ยังติดต่อกันเช่นนี้อยุ่ ได้แต่เขียนว่าคิดถึงไปกับอีเมล์ทุกฉบับครับ แต่ตอบกลับมาก็ดีใจไปนาน  ตอนนี้ก็ยังไม่รุ้ว่าจะได้เจอกันเมื่อไหร่  คล้ายๆไม๊ จากคุณ : ยอดมนุษย์กลิ่นสตรอเบอร์รี่~* - [ 11 มิ.ย. 51 23:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.imeem.com/kamzz/music/6puCBswB/groovin_man_feat/   ตามมาด้วยเพลงนี้แล้วกัน ประตูเวลา จากคุณ : ยอดมนุษย์กลิ่นสตรอเบอร์รี่~* - [ 11 มิ.ย. 51 23:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "เรื่องราวของความรัก ในชีวิตจริงของใครหลายๆ คน ...จะมีบ้างไหม ที่ความรู้สึกประทับใจกันและกันของคนสองคน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ "หัวใจวูบไหว" จนอาจเกิดเป็นจุด "เริ่มต้นของความรัก"  แต่แล้วอาจจะเพราะใครสักคน                    "มีความรักของตัวเองในรูปแบบอุดมคติ" หรือ   "ยังไม่กล้าที่จะปล่อยหัวใจที่จะรักเขาหรือเธอไปหมดทั้งใจ" ^ ^ ^ ^ เขียนดีจังชอบ ความรู้สึกคนเราบางครั้ง มันก็เป้นแบบนี้ หากถามว่าในความจริงจะมีมั้ยน้า ไม่รู้สิ คงมี แต่ยังไม่เคยเจอกับตัว เคยแต่หัวใจวูบไหว ^ ^ จากคุณ : bactor - [ 11 มิ.ย. 51 23:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ แอบลอก คคห. 4 และ 8 นะครับ คิดถึง Serendipity เหมือนกันเลยครับ จากคุณ : Power Tough Guy - [ 11 มิ.ย. 51 23:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จาก ปสก....3 วันจากก็เป็นอื่นแล้ว ฮี่ๆๆๆ ถ้ายังไม่ถึงขั้นที่ชอบมากๆจนเกือบจะพัฒนาไปเป็นความรักได้ ก็ไม่น่าจะประคองความรู้สึกให้มั่นคงไปจนถึง 1 ปีหรอก ในชีวิตจริงๆ คนเราต้องมีสังคม ต้องเจอผู้คนในชีวิตเยอะแยะจนอาจทำให้ลืม หรือไปเจอคนใหม่ๆที่ทำให้หวั่นไหวได้ ปล.เคยคิดอย่างนี้กับคนๆนึงเหมือนกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป (ยังไม่นานเท่าไหร่เลย - -") ความรู้สึกแบบนั้นกับคนๆนั้นมันเก๊าะหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ 5555 จากคุณ : เมรุมาศ - [ 12 มิ.ย. 51 00:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าเป็นสมัยตอนเริ่มเป็นสาว คงจะบอกว่า เชื้อ เชื่อ ค่ะ แล้วก็ทำตาเคลิ้มฝันหลังจบประโยค แต่พอวัยเริ่มใกล้เลขสามเข้าไปทุกที อย่างตอนนี้..พอได้ยินได้ฟังคนรอบข้างพูดถึงความรักอารมณ์ประมาณนี้ สิ่งที่อยากบอกก็คือ...ชีวิตมันไม่ใช่หนังเกาหลีนะน้อง นะพี่ นะเพื่อน ไม่ได้หมดศรัทธากับเรื่องความรัก หรือแอนตี้ความโรแมนติกอะไรนะคะ เพียงแต่เห็นว่ามันน่าจะรักกันอยู่บนพื้นฐานของความจริง ของความเป็นธรรมชาติ...ไม่ต้องไปหมกมุ่นครุ่นคิด กะเกณฑ์อะไรกะมันมากอะค่ะ โดยทัศนคติส่วนตัว คนรักกัน รู้สึกดีๆต่อกัน ก็คุยกัน เจอกัน ทำความเข้าใจกัน ช่วยเหลือกัน ศึกษาเรียนรู้กันและกัน ผูกพันกัน มันน่าจะเป็นบททดสอบ บทพิสูจน์ และทำให้ความรักจีรังยั่งยืน(ไม่ก็จบๆกันไปเลย) ยิ่งเป็นเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ ใจฐานะคนดู ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เป็นเรื่องราวฝันๆใสๆน่ารักดีค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่ เพ้อไปหน่อยมั้ยคะ...เจอกันไม่กี่วัน คุยกันไม่กี่คำ จะมาพิสูจน์ร้ง พิสูจน์รักอะไรกันเล่าคะคู้ณณณ จากคุณ : ม่านฝน - [ 12 มิ.ย. 51 00:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้นะครับ เลยไม่ทราบว่าแม่หญิงพูดอะไร แต่ถ้ามีประเด็นนี้จริง ๆ สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ก็คือ การไม่ได้มีคำร่ำลา ไม่มีการพูดคุยกันสองคน การอคอย  จะมีความหวัง และมีความสุข ก็ด่อเมื่อมีคำมั่นไว้ให้กัน แต่การจากกันโดยไม่มีสิ่งใดให้หวัง จะได้พิสูจน์กันเสียทีว่า ใครทนต่อความเสียใจได้มากกว่ากัน มั้งครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 00:25:14 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 00:23:34 จากคุณ : P Q BOY - [ 12 มิ.ย. 51 00:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยากตอบความเห็นที่ 15 ครับ คือตัวเรา ถ้าเป็นวัยรุ่น อาจจะรู้สึกว่าความรักแบบในเรื่องนี้ ดูเพ้อฝัน แต่ตอนนี้เราอายุสามสิบกว่าแล้ว และก็รู้สึกว่าความรักนั้น มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะว่าเจอกันกี่วันหรือมากน้อยแค่ไหน เรารู้สึกรักได้ด้วยเวลาสั้นด้วยซำไป แต่กลับรู้สึกว่า การรักษาความรักที่เกิดขึ้นนั้นต่างหากที่เป็นเรื่องยากกว่า เรารักษาความรู้สึกหรือดูแลคนที่เรารักได้ดีแค่ไหนนั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เรื่องในหนังนั้น เกิดขึ้นจากผู้ชายคนหนึ่งที่เข้าไปเที่ยวเมืองปากเซ แล้วเขาก็ชอบเมืองลาว หลงใหลกับเสน่ห์ของลาว และวันหนึ่งที่เมืองปากเซ เขาเจอสาวลาว แล้วรู้สึกว่าสาวคนนั้นน่ารัก เธอชื่อสอนไพรวัลย์ เหมือนชื่อนางเอกในหนัง ชายหนุ่มที่เอาเรื่องมาเขียนและทำเป็นหนัง เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสอนไพรวัลย์อยู่บ่อยๆ แต่ด้วยอะไรไม่รู้เขาไม่เจอเธอมาร่วมหนึ่งปีแล้ว จนหนังฉาย เขาก็ยังรู้สึกรักและคิดถึงเธออยู่ โดยที่ผู้หญิงเองก็รู้ตัวมาตลอด ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบห่างๆกันอยู่แบบนี้มาตั้งแต่วันแรก เรื่องแบบนี้ อาจจะไม่ใช่ความรัก เป็นแค่ความรู้สึกที่ดีต่อกันก็ได้ โดยที่ไม่ต้องมีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้อง แต่เราว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ ความรักต้องเป็นรูปแบบเดิมๆงั้นหรือ หรือแค่นี้เป็นความรักไม่ได้ จากคุณ : คนไทยที่อยู่ในลาว - [ 12 มิ.ย. 51 02:35:34 A:124.121.171.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ของผมครับ ชีวิตจริง ตัวตนจริง ผ่านไป 1 ปีจริงๆ มีหลักฐานให้พิสูจน์ครับ จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก - [ 12 มิ.ย. 51 03:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในหนังก่อนจะถึงฉากนี้มันมีที่มาที่ไปไม่ใช่เหรอ พระเอกลงรูปตัวเองกับแฟนคนไทยในโทรศัพท์แบบนั้น ถ้าจะจบด้วยอีก 1 ปี ค่อยมาว่ากันก็ไม่แปลก เหมือนกับให้เวลาไปเคลียร์ตัวเองว่าจะเอาไงกันแน่ จากคุณ : DEDETE - [ 12 มิ.ย. 51 09:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ของเรารอมา 7 ปี ไม่ได้เจอหน้ากันแต่ก็คุยโทรศัพท์กันนะ สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกันเพราะอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างทุกวันนี้จึงมีแต่ความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน จากคุณ : กล้วยไม้สีจาง - [ 12 มิ.ย. 51 09:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นึกถึง Before Sunrise จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 12 มิ.ย. 51 10:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "หัวใจผูกพันกับใครที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน แล้วกลับบอกว่า อย่าติดต่อกันเลยนะ...อีกปีนึงค่อยเจอกัน" ความหมายของคำนี้ฟังดูเศร้าๆยังไงไม่รู้ค่ะแต่เราเคยพูดกับเพื่อนชาย สมัยประถมที่เค้ากำลังจะย้ายบ้านเหมือนกันน่ะว่า ถ้าตอนอยู่มหาลัยเรากลับมาเจอกันใหม่น่ะ พอขึ้นมหาลัยจริงๆกลับไม่ได้รับการติดต่อแล้วเราก็ไม่ได้ติดต่อไป หึหึหึคนเราจะมีใครมั่นคงได้อย่างในหนังบ้างไหมน่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - -- - - - - -- - - - ขอตอบคห.ที่3 สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวเราว่าเหิรไม่ได้เป็นคนชอบพูดโกหกอ่ะค่ะ เหมือนอยากจะพูดไม่จริงเพื่อให้คนที่รักสบายใจหรือสำหรับเราเรียก โกหกขาวอ่าแต่ถ้าเป็นเราๆไม่ให้อภัยน่ะมันแล้วยิ่งมาบอกเราอีก เป้นเราคงกระโดดถีบเหิรเลยหล่ะถ้าเราเป็นนวล จากคุณ : nOoploy - [ 12 มิ.ย. 51 10:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าเรารู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว คิดว่าคงจะเป็นคนถอยออกมาดีกว่าค่ะ คงไม่รอเป็นปีแล้วค่อยกลับมาเจอกันอ่ะนะ จากคุณ : cotton_ud - [ 12 มิ.ย. 51 11:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเหตุการณ์เหมือนกับในหนังเลยเนี่ย...คงไม่มีใครรอหรอกมั้งคะ มันไม่มีเหตุผลหรือคำตอบว่าทำไมต้องรอ เป็นปีด้วย (ขนาดนางเอกยังไม่รอเลย) แต่ถ้ามีเหตุผลให้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วหัวใจก็ผูกพันกัน....น่าจะรออยู่ จากคุณ : kao_poon - [ 12 มิ.ย. 51 11:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับผมแล้ว การกระทำของคนๆนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ "ฉลาด" และ "เข้าท่า" มากๆ คนเพิ่งเจอกันได้อาทิตย์เดียว ตกหลุมรักกัน แถมฝ่ายนึงยังมีคนรักอยู่แล้วด้วย จะมาคบกันเลยมันก็ดูจะเป็นการด่วนตัดสินใจไปหน่อย สู้เก็บรอเวลา ให้เรามั่นใจว่าเรารักเค้าจริงๆ คอยมาพบกันอีกครั้งก็ยังไม่สาย อีกอย่าง มันก็เป็นสิ่งที่ยุติธรรมสำหรับสองฝ่ายด้วยล่ะ ถ้าฝ่ายนึงไม่มา ก็แปลว่าเค้าไม่ได้คิดถึงเราแล้ว (แม้ว่าเค้าจะเป็นฝ่ายเสนอขอตกลงนี้ให้ก็ตาม) ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งฟูมฟาย เพราะถือว่าเรารอแล้ว เค้าไม่รอเรา ก็อยู่ในข้อเสนอนั้นด้วยเช่นกัน ความรักมันบอกไม่ได้หรอกว่าใครจะมานั่งรอใคร ถ้าเกิดทั้งคู่พร้อมจะรอกัน มันก็เข้าคู่กันได้เอง จากคุณ : CARAGIO - [ 12 มิ.ย. 51 12:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่า ความรู้สึกประมาณนั้น หลายๆคนก็น่าจะเคยเป็นนะ อารมณ์ประมาณไม่แน่ใจว่า ไอ้ที่เรารู้สึกอยู่ มันคือรัก หรือมันจะนำไปสู่รักรึเปล่า หรือมันแค่ความหลงชั่วครู่ เป็นแค่ความรู้สึกหวั่นไหวแค่ช่วงหนึ่งซึ่งไม่นาน เดี๋ยวก็จางไป อารมณ์ประมาณไม่แน่ใจว่า เราจะเอาไงดี ถอยก่อน หรือ ไปต่อ .. ลองดูซักตั้ง อารมณ์ไม่แน่ใจว่า ข้างหน้ามันจะเป็นไง เกิดไม่เวิร์ค เราจะเจ็บมั้ย  หรือ เราจะตัดซะตั้งแต่ตอนนี้ดี ซึ่งเหตุผลก็อย่างที่คุณเอ๋ taxi บอกเลยค่ะ ตรงมากๆเลย ของเรานี่ เพราะ "ยังไม่กล้าที่จะปล่อยหัวใจที่จะรักเขาหรือเธอไปหมดทั้งใจ  กลัวผิดหวัง " แต่ว่า ทางออกที่แต่ละคนเลือกก็ต่างกัน บางคนผลักให้เป็นเรื่องของเวลา ใช้เวลาเป็นตัวตัดสินไปเลย  (ไม่รู้จะเอาไง ...ไว้ค่อยว่ากันใหม่..) บางคนก็ตัดสินใจเลย เอาวะ ลุยต่อ คบๆให้รู้ (จะได้เลิกๆไปสะ 55) ในขณะที่บางคนเลือกจะถอยยย ดีกว่า.... และบางคนก็ยัง กลัวๆกล้าๆต่อไป .. ( ช่วงพีค อึดอัดทนไม่ไหว ค่อยมาตั้งกระทู้ถาม ณ สวนลุม 555 ) เราเอง เคยแบบเลือกใช้เวลาเหมือนกัน แต่ของเราไม่ถึงปีนะ  ได้เดือนเดียวเองที่ไม่ได้คุยไม่ได้เจอ (มันทนไม่ไหว ... .ไม่ไหวววว ) แล้วก็เลย เอาฟะ ลองดู คบๆให้รู้ไป สรุป เราเชื่อว่า ในชีวิตจริง มีนะ แล้วก็เยอะด้วย ที่จะใช้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ หรือช่วยตัดสินอะไรบางอย่าง เพียงแต่ว่าแต่ละคนก็จะใช้ระยะเวลาต่างกัน ..  คืนนึง  สามเดือน  อาจจะเป็นปี หรือสิบปี .. แล้วลงท้าย ที่ต่างกันอีกก็คือ  เรื่องราวที่ลงเอยของแต่ละคนอะ แก้ไขเพิ่มเติมนิดนึง สำหรับเรา เราเชื่อว่า  ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน สุดท้าย คนที่จะตัดสินหรือทำให้เรื่องมันลงเอยยังไง ก็คือ คนเรา นี่แหละ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 12:20:58 จากคุณ : pigipinky - [ 12 มิ.ย. 51 12:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ....พาย บลูเบอร์รี่ ....กุญแจ ....ความรัก ....360 วัน ....หว่อง กา ไว เรื่องนี้หรือเปล่าเอ่ย จากคุณ : นาย Ex-man - [ 12 มิ.ย. 51 13:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 งง ไม่เข้าใจ รัก แต่ไม่อยากเจอ serendipity มันมีปม นี่เรือ่งแต่งงาน แต่ชีวิตจริงเป็นงั้นก็บ้าละ จากคุณ : lightfellow - [ 12 มิ.ย. 51 13:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ...พี่ lightfellow ครับ..ต้องขออภัยด้วย ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ไรท์ DVD เตรียมไว้ให้แล้ว แต่ยังไม่ได้จัดส่งให้เลยอ่ะครับ(เรื่องหนังที่คุณถามมาในกระทู้ก่อนๆ น่ะครับ) ฮือ ฮือ          ป.ล จัดส่งหนังที่เพื่อนๆ ขอแบ่งปันกันดูให้หลายคนแล้วนะครับ(หลายคนคงได้รับแล้ว) แต่ของบางคนยังตกค้างอยู่(ประมาณ3-4 คน)...ขออภัยมา ณ ที่นี้แล้วจะรีบจัดส่งให้นะครับ .................................................................................................        และขอบคุณสำหรับความเห็นของเพื่อนๆ ทุกคนในกระทู้นี้ครับ         ...หลายคน หลายความคิด ทำให้เราได้มองเห็นแง่มุมที่แตกต่าง คำตอบของเพื่อนๆ หลายๆ คน คือแนวคิดที่เออนะ...ทำไมเราไม่ได้คิดอย่างนี้มาก่อน              ชอบตรงที่การแสดงความคิดเห็นของหลายๆ คน หลายๆ ครั้งที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงมุมมองที่เรา อาจมองข้าม มอง ไม่เห็น หรือ คิดไม่ถึงน่ะครับ                ผมชอบความเห็นของคุณ CARAGIO #25 จัง             แต่ในชีวิตจริงมันคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากนะ                                 ที่ "ความรัก"                          จะเกิดขึ้นได้กับคนที่ไม่ติดต่อกันเลย                    (ทั้งๆที่รู้ว่า มีความหวังรออยู่ในอีกหนึ่งปีนะ) ................................................................................................                             แต่ช่วงเวลา 1 ปี นั้นล่ะ                               "รัก เรา เขา หรือ เธอ"                                    จะเป็นยังไง   - ใน 1 ปี เราต้องทรมานแค่ไหน ที่เราอยากพบเจอ อยากพูดคุย กับคนที่เรามีความหวังแต่เราไม่สามารถทำได้  - ใน 1 ปี ใครนะ...ใครกันที่ หัวใจจะแปรเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นเรา เขา หรือเธอ - ใน 1 ปี เวลาที่เรา เขา หรือ เธอ เหงา ท้อแท้ ผิดหวัง หรือต้องการกำลังใจ "จากคนที่เราหวังว่าจะให้หมดใจในอีก 1 ปี" แต่เราไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ล่ะ จะทำยังไง .................................................................................................                                       หลายคนว่า                                   ชีวิตเหมือนหนัง                                      อีกหลายคนว่า                             หนังไม่มีทางเหมือนชีวิตจริง                                    ...............................................................................                          แต่ไม่ว่า ความรักของใคร จะเหมือนหนัง                                      หรือไม่เหมือนหนัง                                 คนที่รู้ก็มีแค่ คนสองคน                      ที่อยู่ในเรื่องราวความรัก ระหว่างกันและกัน จากคุณ : เอ๋taxiครับผม - [ 12 มิ.ย. 51 14:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตรงเลย รอเหมือนกัน เกือบปีล่ะ บางทีมานั่งคิด รอทำไม ทั้งที่ในใจมันมีคำตอบล่ะนะ ว่าเค้าคงไม่กลับมา โดนเพื่อนประณามอยู่บ่อยๆ ว่า แก่แล้วยังงี่เง่าอีกนะแก.. รออยู่ได้ เจ็บจี๊ดๆในใจ จากคุณ : black wild berry - [ 12 มิ.ย. 51 15:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่รู้สินะ ไม่คิดว่าคนสมัยนี้จะมารอกันนานขนาดนี้ แค่เดือนเดียวก็เปลี่ยนไปไหนต่อไหนแล้ว ไม่เชื่อว่ารักแท้ มีจริงค่ะ มีแต่ในหนังกะหนังสือที่เค้าแต่งขึ้นมาให้คนอ่านคนดูเพ้อฝันไปเท่านั้นแหละ จากคุณ : Unjie2828 - [ 12 มิ.ย. 51 19:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รักหนังเรื่องนี้มากก หัวใจอิ่มเอม อมยิ้มทั้งเรื่อง หนังดูแล้ว น่ารัก ๆ อธิบายไม่ถูก เวลาอนันดายิ้ม ใสมากกกกก เหมือนน้ำเปล่าเลย ตอนนางเอกยิ้มอีก มันดูใส ๆ แต่จริงใจที่สุด ขอบคุณที่ทำหนังดี ๆ ให้ดูนะคะ จากคุณ : ฟ้าฝนไม่เป็นใจ - [ 12 มิ.ย. 51 20:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เรานึกถึงเรื่อง LOve me if you Dare ที่นางเอกบอกว่า "งั้นเราไม่เจอกันอีก 10 ปี " 10 ปี ผ่านไป ไวยังกะโกหก ............................................ ตามไปดูเองในหนังนะจ๊ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : เจ้าจุก - [ 12 มิ.ย. 51 23:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 บางความเห็น แทบจะสปอยท้ายเรื่องเลยนะนั้น - - เราว่า 1 ปี ถ้าชอบกันจริงๆ คงไม่นานหรอก   สำหรับเรานะ ถ้าประทับใจคนๆ นั้นจริงๆ แต่ถ้า 1 ปีผ่านมาแล้ว  คนๆ นั้นไม่อยู่ให้เรารอ   เราคงเสียใจมากอ่ะ T^T สปอย ------------------------------------------------------ ในเรื่องสะบายดี เราชอบนะ ที่นางเอก บอกพระเอก 1 ปีค่อยเจอกันอ่ะ เพราะจะได้ ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยกัน  พระเอกกับนางเอก ก็เพิ่งรู้จักกัน คำว่ารักคงเร็วไปอ่ะ  นางเอกจะได้พิสูจน์ไง  พระเอกรัก หรือแค่ประทับใจ จุดนี้แหละ ที่เราชอบ เพราะคาดไม่ถึงจริงๆ จากคุณ : CuteBaby - [ 13 มิ.ย. 51 00:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราก็นึกถึงหนังเรื่องโปรดของเราค่ะ Serendipity - Can once in a lifetime happen twice? จากคุณ : Dolce Caramella - [ 14 มิ.ย. 51 01:05:42 ]