อะแฮ่ม ข้อความที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้นะครับ
ผม Turn off เจ้าของกระทู้ ที่โพสผิดห้อง [ กราบขออภัย ]
ไป copy มาจากน้องคนนึงที่ผมแอบเห็นใจเค้านิดๆ เข้ามาให้ผมช่วยดูให้
เด็กๆเค้าแสดงความคิดเห็นในมุมมองของเค้าครับ
ซึ่งๆๆ ผมคิดว่า บางมุมมองก็มีเหตุผลนะครับ
โชคดีที่ผมพ้นช่วงนั้นมาแบบสบาย มะได้เรียน ^_____^
ไปเจอมาครับ
----------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ เพื่อนๆนักศึกษาวิชาทหารทุกคน :D
ผมเป็นนักเรียนชั้น ม.6 ครับผม
เมื่อครั้งผมเรียน นศท. ชั้นปีที่1 ผมก็ตัดทรงผมเกรียน 3 ด้าน และปฏิบัติมาโดยตลอดครับ
ในชั้นปีที่ 2 ผมเรียนที่ ร1พัน1รอ ครับ ก็มีกฏให้ตัดรองทรงสูง [ที่สุด] ครับ
ก็ยึดกฏระเบียบตัด รองทรงสู๊งงงง ที่สุด มาตลอดครับผม
ในขณะนี้ผมกำลังจะศึกษาในชั้นปีที่ 3 ครับ
โดยเรียนกับ ศูนย์การกำลังสำรอง ( ศูนย์ใหญ่ วิภาวดี )
ในวันมอบตัวชั้นปีที่ 3 ก่อนถึงวันมอบตัว ผมตัดผมรองทรงสูงเรียบร้อยครับ แต่ไม่ได้สูงมากที่สุด
ผมจึงโดนคุณครูฝึก ไล่ไปตัดผมครับ บางคนก็ให้ไปตัด บางคนก็ให้ผ่าน มาตราฐานไม่เหมือนกันเลยครับ
ผมเดินไปที่โรงอาหารป้ายติดอยู่ว่า นศทไม่รุจักรองทรงสูง ตัดขาวสามด้าน
พอผมนั่งตัด เค้าไถหัวผมโก๋น เหมือนบวชเลยครับ มันเลยกลายเป็น สกีนเฮดจ์
ซึ่งผมก็งงๆอยู่ เพราะครูฝึกเป็นคนห้ามเองว่าไม่ให้ตัดทรงสกีนเฮดจ์ครับ
กลับบ้านมาผมก็นั่งน้ำตาตกเลยครับ พ่อแม่ของผมท่านก็ไม่พอใจ จะร้องเรียนครับ
[ แต่ผมก็ต้องขอยอมรับว่าผิดจริง จึงไม่ได้ไปร้องเรียนใดๆครับ ]
ในวันมอบตัว รด. ไม่ทราบว่าผมฟังข้อมูลผิดพลาดหรือปล่าวครับ
เห็นเขาบอกกันมาว่า เปลี่ยนกฏ เป็นให้ตัดเกรียน ผมรู้สึกใจเสีย เลยครับ
คือผมไม่ได้คิดที่จะไว้ผม แบบ.....[ขอใช้คำนะครับ] ไว้ผมแบบทุเรศ..... !!!
ซึ่งมองแล้วไม่ใช่ ทหาร ครับ พวกยาวลากไทร ปิดหน้า ปิดตา เสียภาพพจน์ทหารครับ !!
ครอบครัวผมก็เป็นครอบครัวทหารครับ ผมเข้าใจในเรื่องนั้นดี
แต่ที่ผมขออนุญาตเสนอความคิดคือ " ขอแค่ให้ มีผมมาปิดหัว มั่งอ่ะครับ "
ผมขออนุญาตที่จะคิดเห็นว่า
นักเรียนชั้น ม.6 ส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะโตเข้าสู่ช่วงหนุ่มสาวกันแล้ว
อายุก็ 18 พอดี ซึ่งผ่านพ้น ช่วงวัยเด็กแล้ว ขับรถได้แล้วครับ.....
และในปีหน้าจะเป็นปี่ที่จะจบช่วงมัธยม และก้าวเข้าสู่รั้วของมหาวิทยาลัย
แล้วก็เป็นปีสุดท้าย ของนักเรียนส่วนใหญ่ที่ศึกษาหลักสูตร รักษาดินแดน
ผมคิดว่าการที่ไว้ผม รองทรงสูงแบบสุภาพ นี่ดีนะครับ แต่ถ้าตัดเกรียนแบบ ม.ต้น
ผมก็ใจเสียครับ...........
ผมอยากฝากความเห็นส่วนตัวไว้นะครับ
การเรียน รด. เป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนครับ ผมเข้าใจ และผมก็พร้อมที่ปฏิบัติตาม
กฏระเบียบ ถึงแม้กฏระเบียบจะเข้มมากสักเท่าไหร่ เราก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามอยู่แล้วครับ
เพราะเราได้เข้ามาเป็น " นักศึกษาวิชาทหาร " ของศูนย์กลางกำลังสำรองแล้ว
แม้คำพูดต่างๆที่ผมพิมพ์เสนอความคิดเห็นมานั้น อาจจะไม่สามารถเสนอเป็นแนวคิดในการปรับปรุงกฏระเบียบ
แก้ไข กฏระเบียบต่างๆได้ เพราะทางศูนย์เป็นผู้ออกกฏครับ ไม่ใช่นักศึกษา
ในมุมมองของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ( อายุ 16-18 )
กล่าวถึงความกดดันที่ได้รับ เมื่อผมจบชั้นปีที่ 3 ไป โดยส่วนตัวคงจะไว้ผมยาวมากๆแน่
เพราะเก็บกดมานานครับ กฏระเบียบที่เคร่งมากเกินไป บางทีกดดันผู้เรียนครับ
มันสร้างความรู้สึกให้ไม่อยากเรียน และมันยังสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีให้ผู้เรียนรู้สึก
เกลียดทหารครับ ( ขอโทษนะครับที่ต้องใช้คำนี้ ) คำนี้มันหลุดออกมาจากปากของนักเรียน
ที่เรียนหลายๆคนครับ ที่ผมเคยได้ยิน ซึ่งเขาต่างบอกกันว่า ที่พูดคำนี้เพราะว่า
มันอดไม่ได้ครับ และมันก็ฝังใจ !!!
การเรียน นศท แทนที่จะช่วยปลูกฝังให้เด็กรักชาติ รักทหาร รักระเบียบวินัย
ผมไม่อยากจะให้เพื่อนๆหลายคนคิดว่าเรียนเพื่อหลีกหนีการเกณฑ์ทหาร ครับ
แต่พอเรียนแล้วสิ่งที่ได้ .........
กลับกลายเป็นว่า จบ3 ปี ไม่ได้ปลูกฝังอะไรให้นักเรียนเลยครับ
มันกลับปลูกฝังให้นักเรียนกลับรู้สึกต่อต้าน [เกลียดทหาร] เกลียดระเบียบวินัย
แล้วที่เรียนมาเราได้รับอะไรบ้างหละครับ?
ผมไม่อยากให้เราเกิดความรู้สึกแบบนี้ออกมาครับ
ไม่อยากให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับ ทหาร
ครูฝึกบางท่านก็เคยได้ยินครับ ที่นักเรียนว่าๆกัน แต่ท่านหลายคนไม่ใส่ใจ
ในส่วนเล็กๆน้อยๆ
ก็เพราะส่วนเล็กๆน้อยนี่แหละครับ
ผมอยากจะชี้ให้ทุกท่าน ครูฝึก ครูใหญ่ เห็นครับว่า........
แค่ปัญหาเล็กๆน้อยๆ กะแค่ทรงผมบนหัว ครูฝึกบางท่านไม่ใส่ใจเลยครับ
และครูม.ปลายที่ รร ก็มักปลอบว่า ทนหน่อยเดี๋ยวก็ยาวแล้ว !!! อีก 3 ปีเอง !!!
แต่ไอเรื่องๆเล็กๆน้อยๆนี่แหละครับ
มันส่งผลถึงจิตใจและปลูกฝังทัศนคติที่ไม่ดีต่อเด็กครับ ? อย่างไร ?
วัยรุ่นช่วงนี้อยู่ในช่วงกำลังโตครับ กำลังอยู่ในช่วงรักสวยรักงาม
การทำแบบนี้มันทำให้ เกิดการฝังใจครับ
ผู้ใหญ่มองว่าเรื่องกะแค่ผมบนหัวเป็นเรื่องเล็ก
แต่สำหรับมุมมองของเด็กแล้ว ...... เรื่องใหญ่ครับ
ผมไม่อยากให้สิ่งเล็กๆน้อยๆ มันมาทำเป็นการสร้างทัศนคติที่ไม่ดีต่อนักเรียนครับ
อยากให้สบายๆใจกัน มากกว่า ทั้งผู้เรียน และระเบียบวินัยที่เป็นกลาง
อยากให้เสมือนกับว่า
เราเรียนเพราะจำเป็น + รักในชาติและเห็นถึงคุณค่าของชายไทย ที่เป็น ทหารรักษาดินแดน
เราค่อยๆปลูกจิตสำนึก รักทหาร และยอมรับในกฏระเบียบวินัย
การปลูกฝังระเบียบวินัยนั้น เราต้องค่อยๆทำ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ และมีการผ่อนปลนบ้าง
ในการสร้างระเบียบวินัยขั้นแรกเพื่อปลูกฝังให้เด็ก ไม่ใช่ มี10 ใส่ไปเต็ม 10 ครับ
การทำแบบนี้มันจะสร้างความกดดันและทัศนคติที่ไม่ดีในเรื่องนั้นๆ
เด็กเขาจะคิดต่อต้าน และ เกลียดในสิ่งเหล่าๆนั้นครับ
ท่านเคยเห็นเด็กที่มีปัญหากับครอบครัวไหมครับ ?
มันมีอยู่ 2 ประการครับ
1. ครอบครัว ปล่อยปะละเลยในตัวเด็ก
*2. ครอบครัวจำกัด ตีกรอบสิทธิในตัวเด็กมากเกินไป
ผลออกมา = เด็กมีปัญหาครับ
ผมอยากเปรียบเทียบให้ท่านเห็นครับ
ครอบครัวนั้นก็เปรียบเสมือนศูนย์กำลังสำรองแหละครับ ที่รักและหวังดีต่อลูกๆทหารทุกคน
แต่การหวังดีของพ่อแม่นั้น บางทีลูกกดดันและไม่อาจที่จะเข้าใจได้ครับ
เราจึงต้องมีสายกลางและการพอดี มันเป็นตัวกำหนดขอบเขต ในการมีความสุขกันทั้งสองฝ่ายครับ
สำหรับกฏระเบียบผมอยากให้มันพอดีๆครับ ไม่หย่อนและไม่ตรึงเกินไปครับ
จะได้สบายใจและถูกระเบียบกันทั้งสองฝ่าย
ขออนุญาตออกความเห็นครับ...
ขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ ครูฝึกที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับ
ขอขอบพระคุณหากข้อความนี้สามารถมีโอกาสส่งถึง ท่านผู้ใหญ่ ศูนย์กลางกำลังสำรองครับ
Edit
############################
######################
################
###########
###
หวายย เข้ามาอ่านตกใจหมดเลย !!!! 58 คห
กระทู้ลงผมหมดเลย จขกท ตายๆ ^^
ผมผ่านพ้นช่วงนั้นมาแล้วค้าบบบ ไม่ละอ่อนขนาดนู้นน !!
เพียงแต่มีน้องที่ใกล้ชิดเค้ามีปัญหา
ไปเจอบทความแล้วเค้าให้ดูให้ เค้าจะไปทำเรื่องหนะครับ
ผมเห็นแล้วน่าสนใจดี อยากดูว่าท่านๆ เคยมีปัญหากดดันกันป่าว
เลยมาโพสให้ดู ..............
แต่ผมมีแนวโน้มสนับสนุนครับ ขนาดผมไม่ได้เรียน
วัยรุ่นเนอะครับ อยากสวย อยากดี อยากเท่ อยากงาม
เข้าใจความรู้สึกของเค้าเลยหละ !!!
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 51 22:51:48
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 51 22:48:48
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 51 22:34:30
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 51 22:33:56