ความคิดเห็นที่ 1 165 01/04/2006 ที่มาของเนื้อข่าว จากลิ้งค์นี้นะคะ http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4648&show=0 จางตงเจี้ยน วางแผนที่จะคืนจอแก้วมาเล่นละคร หลังจากห่างหายไปเป็นเวลาถึง 6 ปี หลายปีมานี้ดาราซุปเปอร์ จางตงเจี้ยน หมุนเวียนอยู่แต่ในแวดวงหนังใหญ่ จนเวลาผ่านไปถึง 6 ปี เขากลับคิดจะคืนจอแก้วอีกครั้ง ช่วงที่อยู่อินโดนีเซียเพื่อโปรโมทหนัง ไต้ฝุ่น ของเขา ในวันที่ 30 เขาได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจำนวนกว่า 300 สำนักว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมานี้ เล่นแต่หนังใหญ่ ตอนนี้อยากเล่นละครทีวีมาก ดีมั้ยคะ ?) ถ้าเจอบทดีๆ จะรับเล่นอย่างแน่นอน ตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา หลังจากที่เขาแสดงละครเรื่อง  Our Heaven แล้วจึงเริ่มมีชื่อเสียง และเล่นเรื่องต่อๆ มาอย่าง The Final Jump ,Medicine Brothers,Model  ซึ่งเป็นละครเกาหลีที่ชื่นชอบของคนทั่วไปหลายต่อหลายเรื่อง และเมื่อถึงปี 2000 หลังจากที่ จางตงเจี้ยน ได้รับบทนำใน All About Eve แล้ว เขาก็ได้หันเหตัวเองไปเริ่มเล่นหนังใหญ่ เขาได้อาศัยหนังเรื่อง The Anarchists ปูทางให้เขามีจุดยืนในวงการหนัง ส่วนในปี 2004 หนังเรื่อง เทกึกกิ ทำให้ จางตงเจี้ยน กลายเป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ยอดนิยมของมหาชน ปีที่แล้ว เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานกับหนังลงทุน 3 ชาติอย่าง The Promise  ยิ่งทำให้ จางตงเจี้ยน เป็นที่ยอมรับว่า เขาคือนักแสดงฝีมือที่ดีแห่งเอเชีย  เผลอเพียงพริบตาเดียว เขาก็ได้จากวงการทีวีมาแล้วถึง 6 ปีแล้ว เมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทต้นสังกัดของ จางตงเจี้ยน ได้เปิดเผยว่า มีวางแผนที่จะนำเขากลับมารับบทนำในละครทีวีอีกครั้ง จากนั้นจึงมีข่าวลือสะพัดว่า เขาจะคืนจอแก้วมาเรื่อยมา แต่นี่เป็นการเปิดเผยข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก และจางตงเจี้ยน เป็นคนกล่าวเอง จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou  - [ 1 เม.ย. 49 22:02:42 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 166 01/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4547$start=36&show=0 เจดีจี กับ BoA ถ่ายโฆษณาด้วยกันครั้งแรก เป็นโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อ MISSHA โดยถ่ายทำกันเป็นซีรี่ส์ชื่อเรื่องว่า “M” และออกอากาศในวันที่ 1 (คือวันนี้) เมื่อดารายอดนิยม เจดีจี ถ่ายโฆษณาคู่กับ BoA ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนทั่วไป แต่มีการกล่าวกันว่า ทั้งคู่ถ่ายทำโดยไม่ได้เห็นหน้ากันเลย แท้ที่จริงเป็นการแยกกันถ่ายทำการตามหา “M” ของ เจดีจี ซึ่งเป็นร่องรอยของ BoA ที่ทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ อย่างเช่นที่แก้วน้ำหรือที่กระจกในสโมสรแห่งหนึ่ง เป็นเส้นสนกลใน ทำให้เขาตามหาไม่หยุดหย่อน สุดท้าย BoA ก็ใช้ตลับเครื่องสำอาง“M” นี้เปลี่ยนแปลงโฉมใหม่แล้วก็พูดว่า “แฟชั่นเริ่มต้นที่ M ” ซึ่งสิ่งที่ เจดีจี ตามหา นั่นก็คือสิ่งนี้นี่เอง แผนการถ่ายทำ ต้องการให้ได้บรรยากาศของการ ค้นหา ใช้ทั้งที่สโมสร และที่studio 3 ถึง 4 ที่ในการถ่ายทำ ในฉากโฆษณา เจดีจี ต้องใช้สายตาคมๆ เป็นประกายกวาดหาร่องรอยที่ BoA ได้ทิ้งเป็นตัวอักษร“M”ไว้ ซึ่งเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงเสน่ห์อันเย้ายวนของผู้ชาย แสดง ซึ่งในเขต jiang nan (พินอิน)ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากที่ว่า มีกลุ่มคนเต้นรำร่วมอยู่ด้วย แต่ในการถ่ายทำจริงกลับพบอุปสรรค ทำให้ NG กันหลายต่อหลายรอบ อันสืบเนื่องมาจากนักเต้นสาวชอบแต่ที่จะยิ้มหวานใส่และจ้องหน้า เจดีจี อยู่อย่างงั้น จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou  - [ 1 เม.ย. 49 22:46:18 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 167 02/04/2006 http://www.jang-donggun.com/cgi-bin/yabb/YaBB.cgi?board=jdg_info;action=display;num=1143743546 ฉันกลับมาแล้ว และได้เพิ่มหน้าบันทึก เจดีจี ของฉันได้อีกหน้า เครื่องบินของฉันถึงสนามบินนานาชาติ Jakarta เวลาประมาณ 18.35 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 29 มีนาคม ฉันได้ข่าวว่า เครื่องบินของ เจดีจี จะมาถึงเวลาประมาณ 20.45 น. มันเป็น 2 ชั่วโมงแห่งการรอคอยที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของฉัน (ตลอด เวลาก็นึกประหลาดใจอยู่เหมือนกัน เพียงเพื่อจะได้พบกับผู้ชายคนนี้ ฉันทำตัวเองไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ มันเกินเลยไปถึงขั้นพวกชอบสะกดรอยตามหรือเปล่า ฉันพลาดเป้าหมายอะไรในวัยเด็กหรือเปล่า ถึงทำให้ฉันเป็นถึงขนาดนี้) ต้องขอขอบคุณพนักงานขายสาวที่น่ารัก 2 คนที่เคาเตอร์ร้านปลอดภาษีกับพนักงานเข็นกระเป๋าผู้ใจดี การนัดหมายของฉันกับ เจดีจี เป็นความจริงขึ้นมาแล้ว เจ้าหน้าที่เข็นกระเป๋าใจดีบอกทางให้ฉันไปที่เคลมกระเป๋าตรงเกท 5 และนาทีต่อมา มิสเตอร์ เจ กับ คณะผู้ติดตามก็ปรากฏตัวขึ้น มองจากระยะไกล เขาดูกระวนกระวายด้วยเขาก้มหน้าหรือไม่ก็มองด้านข้างตลอดทาง ราวกับว่า จะมีปฏิกิริยาอะไรจากผู้คนกลุ่มเล็กๆ ตรงนั้นหรือไม่ แต่เขาก็ต้องตระหนักว่า มันมีปฏิกิริยากับการมาของเขาจากฝูงชนจำนวนมากข้างนอก(แฟนๆ อินโดนีเซีย ได้สร้างความประหลาดใจให้กับเขาจริงๆ ด้วยการขนกันมา 5 คันรถเมล์ ) ไม่ต้องการให้โอกาสทองนี้หลุดมือไป ฉันจึงรวบรวมความกล้า โอ้ ฉันละไม่เก่งกับเรื่องแบบนี้จริงๆ  ความจริงแล้ว ความจริง ชั้นรู้สึกด้วยซ้ำว่า ผิวหน้าของสองข้ามแก้มม้นหนาขึ้น อย่างกระทันหัน ประมาณ 0.0 ได้ มีอะไรหนากว่านี้ อีกมั้ย (อาจเป็นความรู้สึกใบหน้าร้อนวูบวาบ..อะไร ประมาณนั้น) จากนั้นฉันก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี เดินไปยืนอยู่ข้างหน้าเขา ณ ตอนนั้น กล่อง chocolateของสวิสที่เตรียมมาให้เขาก็ถูกลืม และรูปภาพต่างๆ ที่ฉันเตรียมมาเพื่อจะขอลายเซ็นก็ หายไปกับสายลมด้วย (โห อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง กด shutter กล้องตัวเองไงก็ไม่ติด เพราะลืมเปิด flash ) ทั้งหมดที่ฉันต้องการจะพูดกับเขาก็คือ  say hi และบอกเขาว่า ฉันมาจากหลายพันกว่ากิโลเพื่อมาพบกับเขา เพียงเพื่อ Jang Dong gun  คนเดียว เย้ เย้ เย้ ชีวิต บางทีมันก็ช่างหวานซักเหลือเกิน (โดยเฉพาะเมื่อคุณได้ในคุณที่ตั้งเป้าไว้) หลังจากที่ฉันยื่นมือออกไปแล้วพูดว่า Hi ฉันเป็นแฟนชาวมาเลเซียคนหนึ่ง และฉันเพิ่งบินมาเพื่อมาหาคุณ เขาก็ยื่นมือออกมาโดยอัตโนมัติเช่นกัน แล้วก็ยิ้ม (ฉันขอบอกว่า มันเป็นยิ้มที่หวาน หวานมากๆ หวานจริงๆ ค่ะ แน่นอน มันเป็นการวิเคราะห์ของฉันเอง) แล้วเขาก็เอ่ยออกมาว่า ขอบคุณครับ (ถอนหายใจ อืม คงโล่งอกล่ะซิ ใช่ เขายังไม่ได้ไปมาเลเซียเลย คนนี้คงทนไม่ไหว ไปหาเองที่อินโดซะเลย เย้) ส่วนที่เหลือก็ค่อนข้างรีบร้อน ฉันขอจะถ่ายรูปเขา แต่ผู้จัดการมืออาชีพของเขาบอกให้ฉันคอย อะไรนะ ให้รอ ทุกอย่างมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน งั้นก็ ทำตัวให้สุภาพและเหมือนปกติธรรมดาละกัน (((ahem!!!อะไรของหล่อน)ฉันเคลื่อนไปข้างๆ และเดินก้าวยาวๆ ไปกับ มิสเตอร์ เจ (ความรู้สึกดีที่บดขยี้เหรอคะ ระหว่างความฝันกับได้เดินคลอเคลียอย่างเป็นเพื่อนสนิทกับเขา) ฉันแค่ตามไม่ทัน ก้าวยาวๆ ของพวกเขา แล้วฉันก็เลยตามหลังพวกเขาอยู่ก้าวหนึ่ง แล้วฉันก็จบมันลงด้วยการถ่ายภาพแห่งความฝันได้แค่ด้านหลังของเขา ถาม...อะไรอะ ? ฉันได้เห็นหลังเขาอย่างใกล้มากๆ และฉันก็รู้แล้วว่า ไหล่เขากว้างมากๆ (เราก็รู้ รู้ตั้งนานแล้วด้วย) จากนั้นมันก็ทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้เมื่อเขาใส่เสื้อแบบนี้ระหว่างที่โปรโมทหนัง Typhoon ที่โซล บางทีมันอาจะเป็นเทรนที่เกาหลีที่จะใส่แบบนี้ (อืม ก็เขาบอกว่า ตอนนี้สนใจศึกษาเทรนแฟชั่นอย่างมาก เล่นเปิดตำรา เปิดหนังสือแฟชั่นอ่านบ่อยมากๆ การแต่งตัวให้เหมาะสมกับบุคลิกและทันสมัยเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเขาค่ะ) ชีวิตของบุคคลผู้โด่งดังมีชื่อเสียงนี่ก็ช่างเป็นชีวิตที่ลำบากจริงๆ นะ ลำบากมาก ถึงตรงนี้ฉันขอไม่แลกชีวิตของฉันกับความโด่งดังแบบ มิสเตอร์ เจ มีหรอก (ทำไมล่ะ ? เรายังอยากเป็นแบบเขาเลย ชื่อเสียงหอมกรุ่น เขาใกล้จะเป็นวีรบุรุษสุดหล่อที่จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีอยู่แล้ว) ถึงมิสเตอร์ Jang ที่รัก กรุณาดูแลตัวเองและพักผ่อนให้พอ รับประทานอาหารที่คุณแม่ทำให้มากๆ พร้อมกับลดปริมาณบุหรี่ลงด้วย 5 5 5 คำเตือนเหมือนพวกแม่ๆ เขาทำกัน เมื่อคณะผู้ติดตามได้มาถึงด่านเครื่องตรวจ X-ray พวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้ผ่านไปได้ และฉันก็ได้ผ่านตามพวกเขาไปด้วย ฮิ ฮิ ฮิ ศุลกากรคงคิดว่าฉันเป็นหนึ่งในคณะผู้ติดตาม ก็เลย....ว้าว ว้าว ในช่วงไม่กี่อึดใจต่อมาก็ estatic   อัศจรรย์ น่าฉงน เหรอ อย่างสิ้นเชิง ฉันได้สัมผัสกับการต้อนรับของเหล่าคณะผู้ติดตาม ในช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกได้ว่า การเป็นหนึ่งในคณะผู้ติดตามมันเป็นยังไง ฉันได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่ Mr Jang มี ไม่ว่าที่ไหนที่เขาไป สนามบินแห่งไหนก็ตาม ว้าว และคนหิ้วกระเป๋าผู้น่ารักของฉันก็ไม่เคยทิ้งฉันไป เขาติดตามคณะเดินทางอยู่ด้านหลัง บางทีอาจจะนอกสายตาของฉัน และบางครั้ง เขาถึงกับฝ่าวงล้อมของผู้คนเพื่อถ่ายภาพให้ฉัน ( Terima Kasih เด็กหิ้วกระเป๋าชาวอินโดนีเซีย อืม คำนี้น่าจะเป็นการกล่าวขอบคุณภาษาอินโด) BTW Mr Jang ที่รักของพวกเรา เรียนรู้ที่จะพูด Terima Kasih ได้เก่งมากเมื่ออยู่ท่ามกลางแฟนๆ ของเขา จากคุณ : jiayou  - [ 2 เม.ย. 49 13:33:17 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 168 05/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4653&show=0 พาดหัวสุดตื่นเต้น “จางตงเจี้ยน ไม่เป็นฮีโร่ฉบับเกาหลี ” (เอ๊ะ นี่หมายความว่า หนังเรื่องนั้น ? ) การชมหนัง จางตงเจี้ยน เจ้าของรางวัล Blue Dragon Awards ยากนักที่จะลืมเลือนแววตาที่เต็มไปด้วยความหมายคู่นั้นของเขา จากเรื่อง The Coast Guard ,Friend, Medicine Brothers, The Promise จนถึงหนังยิ่งใหญ่อย่าง Typhoon ที่กำลังจะเข้าฉาย สายตาที่เปล่งประกายคู่นั้นบอกเล่าความรู้สึกทั้งหมดของตัวละครเอกที่เขาสวมอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้กำกับอย่าง เฉินไข่เกอใน The Promise หรือ ผู้กำกับ Kim Kyung Taek จากเรื่อง Friend ต่างไว้วางใจและเน้นหนักให้มีฉากการแสดงออกทางสีหน้าของเขา ตอนที่กำลังสัมภาษณ์เขาอยู่นี้ ท่าทีของราชาหนังแห่งเกาหลีผู้นี้ไม่มีความกดดันใดๆ กับการต้องตอบมากมายหลายคำถาม นอกจากบรรยายการทำงานถ่ายหนังอันยากลำบากแล้ว ยังได้ยินเขาแสดงจุดยืนในการปกป้องหนังเกาหลีอีกด้วย ทั้งยังปฏิเสธเรื่องการรับเล่นหนังเรื่อง A Better Tomorrow หรือ โหด เลว ดี เวอร์ชั่นเกาหลีอีกด้วย (อิ อิ บ้านเราก็กระหน่ำ summer sale กะเรื่องนี้ไปซะเยอะ สุดท้าย ไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหน่อไม้เจ้าค่ะ ว้า เอ๊ะ ดี หรือไม่ดีเนี่ยะ ดี เพราะไม่อยากให้เขารับบท ตี้หลุง ไง เย้) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 168.1 05/04/2006 -ถ่ายทำ ไต้ฝุ่น- อัปลักษณ์เป็นครั้งแรก ถาม- ตั้งแต่ The Coast Guard ,Friend, Medicine Brothers,จนมาถึง Typhoon  คุณมักจะเปลี่ยนบทบาทการแสดงไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อให้คนดูได้ความรู้สึกแปลกใหม่ใช่หรือไม่ ? เจดีจี – นักแสดงสมควรอย่างยิ่งที่จะพัฒนาการแสดงของตนให้มีภาพลักษณ์หลากหลายไปเรื่อยๆ ตามผลงานเรื่องใหม่ๆ ของตน ผมพยายามลองเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเอง อย่างเช่นการลดน้ำหนัก เปลี่ยนทรงผม และการ makeup เพื่อให้เข้ากับตัวละครที่แสดงมากยิ่งขึ้น ถาม- โจรสลัด xin ในหนังTyphoon จะใช่บทบาทที่เล่นได้ยากที่สุดเท่าที่คุณเคยแสดงมาหรือไม่ ? เจดีจี – ผมผ่านการแสดงที่สุดแสนโศกเศร้าและบทบาทที่ต้องเข้มแข็งมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากผมจะวิเคราะห์ถึงบทบาทที่แตกต่างกันไปแล้ว ผมจะลองจับจุดที่ผมเคยละเลยมองข้ามไป นำมาบรรจบรวมเข้ากันเป็นบทบาทของ ซิน ในหนังเรื่องนี้ครับ ถาม- เพื่อหนังเรื่องนี้ คุณต้องผอมลงไปมาก ในขณะที่คู่ปรับของคุณในเรื่อง LEE Jung-jae ได้เพาะกล้ามอย่างสวยงาม คุณรู้สึกเสียดายหรือเปล่า ? เจดีจี-  โจรสลัด“ซิน”นี้ ผมจะต้องถ่ายทอดลักษณะการดำเนินชีวิตของเขา และผมไม่คิดว่า การเพาะกล้ามเนื้อไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับเขา จากการบอกเล่าของผู้กำกับ สิ่งสำคัญของตัวละคร xin กับตัว jiang shi zong (พินอิน) ซึ่ง LEE Jung-jae รับบท จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ดังนั้น กล้ามเนื้อเป็นมัดแบบชายชาตรีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเถอะครับ ผู้กำกับกำชับผมด้วยว่า ในระหว่างที่ลดน้ำหนัก ห้ามทำอะไรที่เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเด็ดขาด (ดีค่ะ หนูก็ไม่ชอบ มันเหมือนพวกเพาะกาย ร่างกายพิการไงไม่รู้ซิ อ้วนป่องเป็นข้อๆ ไม่เอา หนูไม่ชอบ) ถ้าจะให้ผมพูด ผมอยากจะนำเสนอออกมาในภาพลักษณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้ทุกคนได้ตกตะลึงเลยครับ น่าเสียดายครับการงานโปรโมทที่สรุปออกมาไม่ได้ดั่งใจที่คิด จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 168.2 05/04/2006 ถาม- คุณมีความรู้สึกเห็นใจตัวละคร ซิน ในหนังหรือเปล่า ? เจดีจี - ซิน เป็นตัวละครที่โหดร้ายคนหนึ่ง เขาหลบหนีจากเกาหลีเหนือ สุดท้ายคิดจะทำลายล้างเกาหลีใต้ แต่ในโลกปัจจุบันนี้คงพบเห็นคนแบบนี้ได้ยาก ดังนั้น ผมก็แค่อาศัยจินตนาการประกอบขึ้นเพื่อเล่าเรื่องของเขาขึ้นมา แต่ตอนที่ทีมงานประชาสัมพันธ์เรื่องราวของหนังกับกลุ่มผู้ที่อพยพมาจากทางเกาหลีเหนือ พวกเขาต่างร่ำไห้ เมื่อผมได้ทราบถึงปฏิกิริยาที่พวกเขาเหล่านั้นมี ผมถึงได้ตระหนักว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาเอง “xin”หาได้เป็นตัวละครปลอมๆ ดังนั้น ผมจึงพยายามถึงที่สุดที่จะเล่าเรื่องของเขา ถาม- ตอนถ่ายทำคงจะลำบากน่าดู อย่างเช่น การเมาเรือ เป็นต้น? เจดีจี – ตามความเห็นของผม ไม่ว่าจะอยู่ในท้องทะเลหรือที่รัสเซีย ล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยครับ ที่ยากกลับเป็นเรื่องการออกเสียงพูดสำเนียงเกาหลีเหนือ(Hamkyungdo)ซึ่งผมไม่เคยชินเลย การเรียนพูดภาษาไทยก็ยากมากๆ เพราะผมไม่สามารถแยกแยะวรรณยุกต์ของเสียงออกได้( 5 5 5 นึกภาพพ่อคุณออกค่ะ พูดภาษาอะไร ก็ เบลอออออ ไปหมด แต่หล่อ เย้ ) ถาม - ฉากที่ต้องดวลกับ LEE Jung-jae บนเรือ ใช่ต้องฝึกซ้อมกันหลายครั้งหรือเปล่า ? เจดีจี -  ทุกคนจะได้เห็นฉากตื่นเต้นเร้าใจบนท้องทะเลในตอนท้ายเรื่องครับ ซึ่งนับว่ามีน้อยมากๆ ในหนังเกาหลี ตอนแรกที่ผมรับรู้ถึงฉากต่อสู้ดังกล่าว ผมเองก็ยังสงสัยว่า มันจะจบลงยังไง แต่มาตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ฉากนั้นเป็นอีกฉากหนึ่งซึ่งไม่แพ้หนัง Hollywood เรื่องดังๆ เลย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 168.3 05/04/2006 การร่วมงานกับ LEE Jung-jae และ Kim Kyung Taek ถาม - ช่วยเล่าถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกันกับเพื่อนอย่าง LEE Jung-jae ? เจดีจี – ผมรู้จักกับเขามานานแล้วครับ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานหนังด้วยกัน ตลอดเวลาถ่ายทำเกือบ 1 ปี ผมเห็นถึงความขยันขันแข็ง ตั้งใจทำงานของเขา ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาก็เป็นนักแสดงรุ่นเดียวกับผม ผมกลับพบว่า ผมควรที่จะเรียนรู้อะไรจากเขาได้อีกเยอะ ถาม-  ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่คุณได้ร่วมงานกับผู้กำกับ Kim Kyung Taek หลังจากเรื่อง Friend คุณพบเห็นอะไรที่ก้าวหน้าในหนังของเขาบ้าง ? เจดีจี – ในการทำงานกับผู้กำกับสมัยก่อน  มีที่เน้นหนังทำเงินในตลาด และมีไม่น้อยที่เป็นหนังประเภท ตกเป็นทาสของหนังแบบหนังตลาด  แต่ทุกเรื่องก็มีจุดให้นักแสดงนำชายได้แสดงผลงาน  เขาเป็นผู้กำกับที่โดดเด่นมากครับ ด้วยเพราะเขามีความสามารถในการจูงใจนักแสดง ในครั้งนี้ ผมตัดสินใจรับปากเล่นให้เขาทันที ทั้งที่ยังไม่ได้รับต้นฉบับเนื้อเรื่องเลย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 168.4 05/04/2006 ปัญหาเกาหลีเหนือ เป็นที่ทราบกันแล้วว่า เมื่อคราวที่จางตงเจี้ยนไปโปรโมทหนัง ไต้ฝุ่นที่ญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขาได้ออกรายการโทรทัศน์และได้พูดถึงปัญหาการแบ่งแยกเกาหลีออกเป็น 2 ส่วนด้วย หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นลงข่าวเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ถึงพิธีกรในรายการพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับความขัดแย้งจนนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน และเขาก็ได้เปิดเผยให้ทราบถึงเรื่องราวที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน เขากล่าวว่า “คุณปู่กับคุณย่าเกิดที่เกาหลีเหนือ ในระหว่างสงครามเกาหลี ได้รับความลำบากมากจึงหลบหนีมายังเกาหลีใต้ ในช่วงเวลาที่ผมเติบโตขึ้นมา ผมได้รับรู้ถึงเรื่องราวการแบ่งแยกประเทศออกเป็นเหนือใต้จากประสบการณ์จริง” ถาม - หลังจากคุณแสดงเรื่องTyphoonแล้ว อาจมีผลกระทบต่อคุณในมุมมองที่มีต่อเกาหลีเหนือหรือไม่ ? เจดีจี – เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะรอมชอมกัน เป็นเรื่องที่แสนเศร้า จะมีก็แต่ในหนังเท่านั้นที่คนเกาหลีสามารถนำเรื่องราวมาประกอบเข้ากันได้ ผมเข้าใจว่ามีแต่ในหนังเท่านั้นที่จะสามารถนำปัญหาเหล่านี้ออกมาพูดได้ พวกเราจึงสมควรถ่ายทำบอกเล่ากันต่อๆ ไป จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 168.5 05/04/2006 การกีดกันหนังที่ผลิตภายในประเทศ ด้วยรัฐบาลเกาหลีประกาศให้ตั้งแต่เดือน 7 เป็นต้นไป เริ่มบังคับใช้มาตรการจำกัดโควต้าที่ให้โรงหนังฉายหนังเกาหลี จาก 146 วันใน 1 ปีเหลือเพียง 73 วัน ราชาแห่งหนังเกาหลี(จางตงเจี้ยน)พร้อมกับเพื่อนในวงการทำการประท้วง และไปไกลถึงเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเบอร์ลิน ซึ่งตัวเขาเองยังประกาศจุดยืนต่อผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย ถาม- ล่าสุดกับมาตรการของทางการ คุณยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? เจดีจี – ถ้าจำนวนโควต้าลดลง หนังจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะฝ่ายการผลิตจะคำนึงถึงตลาด โดยจะเลือกซื้อหนังจากเมืองนอก และไม่กล้าที่จะเสี่ยงลงทุนผลิตหนังในประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น การซื้อหนัง Hollywoodมาซักเรื่องก็ใช้เงินเกินกว่าการลงทุนหนังเกาหลีใน 1 ปีแล้วละครับ (หรือเป็นเพราะเหตุนี้ใช่มั้ยที่รัก เธอถึงจะกลับมาเล่นละคร ? ฉายซ้ำฉายซาก ฉายแล้วฉายอีก ใครจะทำไม เพราะคนยังติดตามดู เย้ งั้นถ่ายทำละคร แล้วส่งไปขายอเมริกา ให้เขาติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยไป แถมปนๆ แผ่นเสียไปด้วย เวลาดูจะได้ บ้าคลั่ง ดูไม่รู้เรื่องบางส่วน เย้) ถาม - การจำกัดโควต้าหนังในประเทศ นักแสดงแต่ละคนควรทำไง ? เจดีจี – อุตสาหกรรมหนังเกาหลีสมควรจะเจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะบุคลากรทุกคนข้างในมีความประสงค์จะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 22:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 168.6 05/04/2006 เรื่องเล่นละครกับการแต่งงาน ถาม - คุณคิดจะตาม เบยอง จุน หวนคืนจอแก้วหรือไม่ ? เจดีจี -  ตอนนี้ยังไม่มีแผนการจะเล่นละครครับ (เย้ อ้าว นี่สัมภาษณ์ตอนไหนว่ะ ? ลึกๆนะ เราว่า เขาไม่เล่นละครหรอก ยังเชื่ออยู่อย่างงั้น เจียโหยว เจียโหยว เย้ ) ถาม - มีข่าวว่าคุณจะร่วมงานกับRain ในหนัง A Better Tomorrow เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ อย่างใด ? เจดีจี - ไม่เป็นความจริงครับ (เย้ 5 5 5 เอ๊ะ ยายโหยวนี่ ไม่ให้เล่นละคร ปฏิเสธไม่ได้เล่นหนังก็ เย้ อีก เอ๊ะ 5 5 5 นั่งเฉยๆ กินสมบัติเก่าไป 5 5 5 เย้ ) ถาม - เร็วๆ นี้ คุณให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ระยะเวลาอันสั้นนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะแต่งงาน เพราะตัวเองต้องตระเวนไปต่างประเทศตลอด แล้วคุณคิดว่า เมื่อไรจะถึงเวลาเหมาะสมที่จะสร้างครอบครัว ? เจดีจี – สำหรับผมแล้ว ความรักกับการงาน ความรักก็เหมือนการแสดง คนทั่วๆ ไปต่างพูดว่า ความรักกับการงานสำคัญเท่าๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่ามันอยู่ในช่วงเวลาไหน ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน บางช่วงความรักอาจสำคัญกว่าการงาน และบางช่วงการงานอาจสำคัญกว่าความรัก ผมคิดว่ามันเป็นปัญหาของช่วงเวลา หลายปีมานี้ ผมรู้สึกตลอดว่า การงานสำคัญกว่าความรัก และผมก็เชื่ออีกว่า ซักวันหนึ่ง ความรักจะทำให้ผมถึงกับ หัวปักหัวปำ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 168.7 05/04/2006 ราชา Jang (เขาเขียนอย่างงี้จริงๆ นะคะ) กับความประทับใจที่มีต่อสิงคโปร์ ตอนที่นักข่าวได้แจ้งข่าวทางอินเตอร์เน็ทว่า ราชา Jang ตอนมาเยือนสิงคโปร์ในเดือนธันวาคม เพื่อโปรโมทหนัง The Promise ความเป็นคนมีอัธยาศัยดีของเขา ได้สร้างความประทับใจไว้เป็นอย่างมาก เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องถึงเรื่องดังกล่าว เขาเปิดเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นดีใจกับข่าวที่ได้ยิน “จริงหรือครับ ผมดีใจจริงๆ ที่สามารถทำให้ทุกคนประทับใจได้  เช่นกันครับ ผมก็ประทับใจกับสิงคโปร์หลายอย่างเช่นกัน ผู้คนมีน้ำใจและกระตือตือร้นมากๆ ถนนหนทางก็สะอาดมากครับ ผมเข้าใจว่า ตอนตอบคำถามกับสื่อ ต้องเป็นเพราะความจริงจังและจริงใจ จึงจะได้ผลตอบรับออกมาแบบนี้ ” หนัง Typhoon จะออกฉายวันที่ 30 มีนาคมที่สิงคโปร์ จบข่าวค่ะ เย้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 169 05/04/2006 ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะข่าวhttp://ent.sina.com.cn/x/2006-04-05/09471039417.html หัวข้อว่า จางตงเจี้ยน หล่อจนรู้สึกเป็นปมด้อย ปลายเดือน 3 สื่อบันเทิงชั้นนำของเกาหลี ได้เชิญศิลปินจากหลายๆ ค่ายประมาณ 60 คนมาเลือกดาราที่พวกเขาชื่นชมที่สุดในใจ ผลก็คือ จางตงเจี้ยน นำโด่งเป็นที่ 1 ตั้งแต่เข้าวงการเป็นต้นมา หนุ่มน้อยผู้นี้มีบุคลิกที่นอบน้อมถ่อมตน ไม่วางมาด และไม่เคยมากเรื่อง จวบจนปีที่แล้ว 2005 ที่วงการบันเทิงเกาหลีสั่นสะเทือนกับเรื่องแฟ้มลับ The X- File จางตงเจี้ยนยังรอดพ้นจากการตามล่าหา ข่าวฉาว ของแฟ้มดังกล่าว เขาจึงโด่งดังมีชื่อเสียงด้วยเหตุนี้ ก็เหมือนที่เขาแสดงนำเป็นคุณชายในละครรักโรแมนติคเรื่องหนึ่งที่ รูปหล่อ สง่างาม ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เชี่ยวชาญในการแยกแยะ วิสัยทัศน์กว้างไกล และเป็นคนมั่นคงในรัก รักเดียวใจเดียว... จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 169.1 05/04/2006 เขาเบื่อหน่ายกับการยอมรับว่าตัวเองรูปหล่อ ตอนอายุ 20 ปี เขาสอบเอ็นไม่เข้าเป็นครั้งที่ 3 กำลังรู้สึกสิ้นหวังกับอนาคต คุณแม่เขาได้นำใบสมัครนักเรียนการแสดงของช่อง MBC มายื่นให้ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนชะตาครั้งสำคัญในชีวิต และด้วยความหล่อเหลาของเขา จางตงเจี้ยน จึงสามารถเข้าเป็นนักเรียนการแสดงอย่างง่ายดาย ในปีที่ 2 ตอนที่เขาเล่นเรื่อง Our Heaven ก็เริ่มดังกลายเป็นดารายอดนิยมขึ้นมาทันที แต่ในเวลานั้นเขากลับหันหลังในวงการ ไปเข้าเรียนในวิทยาลัยการแสดงแห่งชาติเกาหลี ผู้จัดการที่ร่วมสุขร่วมทุกข์กับเขามาหลายปีเปิดเผยเป็นการส่วนตัวว่า ครั้งหนึ่ง ตนเองได้เห็น จางตงเจี้ยน ซึ่งกำลังนอนหลับลึกอยู่นั้น ภาพที่ปรากฏช่างเป็นเค้าโครงของใบหน้าที่งามราวกับเป็นภาพวาดสีน้ำมัน จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 169.2 05/04/2006 หลังจากสำเร็จการศึกษา หวนคืนวงการอีกครั้ง จางตงเจี้ยน ได้รับความทุกข์ทรมานจากสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนัง Repechage ,Holiday in Seoul , Love Wind Love Song หรืออื่นๆ เขาจะเป็นแต่อัศวินม้าขาวตลอดกาล ผู้รับหน้าที่โปรยยิ้มพิฆาตใจสาวๆ บทบาทที่เหมือนแจกันดอกไม้แบบนี้กับ จางตงเจี้ยน ผู้มีปณิธานอันแรงกล้าที่จะเป็นนักแสดงที่ดีของเขา ได้สร้างความยากลำบากให้เขาเพียงใด เนื่องมาจากว่าเขานั้น หน้าตาหล่อมากเกินไป  ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาคงไม่สามารถแสดงเป็นคนธรรมดาๆ ได้ ในหนังรัก เขาจะต้องมีบทบาทที่อ่อนหวาน นุ่มนวลจึงจะเป็นที่ยอมรับของตามความคิดของผู้ชม จนเป็นสาเหตุทำให้เขารู้สึกว่าถึงความล้มเหลว เขากล่าวว่า หนังกับละครไม่เหมือนกัน แต่เขากลับใช้วิถีทางแบบละครไปใช้ในการแสดงหนัง (ก็ใครใช้ให้โคตรหล่อแบบนี้ล่ะ ตัวเอง) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 169.3 05/04/2006 เขาได้ทำลายภาพของพ่อหนุ่มรูปงามลงได้แล้ว “ขออย่าได้ทำลายภาพลักษณ์อันหล่อเหลานั้น ”,“กรุณากลับมาเล่นละครรักหวานแหววต่อไปเถอะ” หลังจากเข้าวงการมานานหลายปี เขาได้กลายเป็นไม่เพียงแต่ผู้ชายที่ผู้หญิงเกาหลีอยากแต่งงานด้วยมากที่สุด, ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวทางจอทีวี เขายิ่งเป็นที่หลงใหลมากขึ้นๆ ทุกทีไป แต่เมื่อเขาอายุได้ 30 เขาก็พูดว่า “ถ้าเทียบกับการเป็นดารา ผมอยากเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งมากกว่า ” กับการร่วมงานกับผู้กำกับ Lee Myung Se ใน Nowhere to Hide เหมือนกับการได้รู้จักกับโลกแห่งภาพยนตร์ใหม่อีกครั้ง และหนัง Friend โดยผู้กำกับ Kwak Kyung Taek ทำให้ทุกๆ คนเหมือนได้รู้จักกับ จางตงเจี้ยน คนนี้ใหม่อีกรอบ กับThe Coast Guard นายทหารผู้โหดเหี้ยม ใน The Promise กับทาสที่ผมเผ้ารุงรัง และใน Typhoon กับโจรสลัดที่มีบาดแผลเต็มหน้า นี่เป็นความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของ จางตงเจี้ยน ที่จะสลัดคราบภาพพจน์ที่งามหมดจดดั่งรูปปั้นของเขากับภาพลักษณ์ประเภทที่เป็นฮีโร่ตลอดกาล นำมาซึ่งความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับ“รูปโฉม”ของตัวเองจนกลายเป็นปมด้อยไป (เฮ้อ ฉันละเหนื่อยใจกะตาคนนี้จริงๆ ใครๆ เขาก็พึ่งศัลยกรรมกันเพื่อให้ได้ใบหน้าแบบนาย รู้ไว้ซะด้วย) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 169.4 05/04/2006 ในปี 2004 จางตงเจี้ยนในวัย 30 เศษทุ่มเทกายใจและหยาดเหงื่อไปกับหนัง Taegukgi จนนักวิจารณ์หนัง Hollywood เลือกให้เป็นหนังติด Top Ten ของหนังยิ่งใหญ่แห่งปี 2004 ในอันดับที่ 1 (ว้าว เพิ่งจะรู้ข้อมูลเหมือนกันค่ะ) หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลจากงาน The Blue Dragon Awards ด้วยรางวัลสูงสุดถึง 4 รางวัลคือ 1.นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม 2.นักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยม 3.นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ 4.นักแสดงยอดนิยม จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 169.5 05/04/2006 ในตอนนี้ จางตงเจี้ยน ไว้หนวดและเคราอยู่ ทำให้ได้กลิ่นอายความเป็นลูกผู้ชายตัวจริง หนุ่มราศีมีนผู้ไม่คิดจะแต่งงาน ตอนปลายเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ชาวเน็ทคนหนึ่งของเกาหลีได้ปล่อยข่าวว่า “Jang Dong Gun กับ Choi Jin Woo แต่งงานกันที่โรงแรม...” ข่าวการแอบแต่งงานอย่างลับๆ ของเขาแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว นับวันก็ยิ่งลุกลาม บริษัทจัดการของทั้งChoi Jin Woo และ Jang Dong Gun ต่างแจ้งความกับตำรวจให้สืบสวนหาต้นตอคนปล่อยข่าว หลังจากนั้นไม่มีวัน น้องชายของจางตงเจี้ยน ก็แต่งงาน ดูเหมือนหนุ่มที่เลยวัย 33 ปีอย่าง จางตงเจี้ยน จะไม่สนใจการแต่งงานซะแล้ว เพราะตั้งแต่ 4 ปีก่อนตอนที่เลิกกับแฟนสาว Yeom Jung- A เป็นต้นมา เขายังไม่เคยเปิดเผยเรื่องมีเพื่อนหญิงต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย จากการบอกเล่าของเขา เขายังไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะดูแลแฟนสาวได้เป็นอย่างดี  ถ้าทำดีกับเธอไม่ได้ถึงที่สุด ทางที่ดีที่สุดก็อย่าหาเรื่องใส่ตัวจะดีกว่า แต่เมื่อใดที่เห็นคนอื่นๆ มีรักที่หวานชื่น เขาก็อดอิจฉาและอ้างว้างไม่ได้ เขาเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว และเข้าใจด้วยว่าไม่ใช่มีเพียงความรู้สึกดีๆ เท่านั้นที่จะก่อให้สัมพันธ์เป็นความรักได้ หนุ่มราศีมีนเป็นคนใจอ่อน เต็มไปด้วยความเมตตา หนุ่มราศีมีนโรแมนติตอย่างมากด้วย เขาเข้าใจเรื่องรสนิยมเป็นอย่างดี ดังนั้น จางตงเจี้ยน คนนี้จะเอาอกเอาใจคนรักของเขาอย่างชนิดเหมือนที่คุณเคยเห็นในหนังหรือในละครเฉกเช่นนั้นเลย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 169.6 05/04/2006 คำพูดของ จางตงเจี้ยน -ตอนอยู่มัธยมปลายสถิติวิ่ง 100 เมตรของผมคือ 12 วินาที แต่มันก็ต้องใช้พละกำลังมาก -5 5 ตอนวิ่งในเมืองจีน ผมต้องวิ่งบนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตร ซึ่งห้องพักในโรงแรมทุกห้องยังต้องติดเครื่องช่วยหายใจไว้ เพื่อเป็นการป้องกันปฏิกริยาจากที่ราบสูง ผมกินยาเข้าไปเป็นจำนวนมาก และยังเคยเป็นลมด้วยครับ ตอนถ่ายฉากหนึ่งเสร็จก็ต้องสูดอ๊อกซิเจนอยู่นาน หรือไม่ก็ต้องลงไปนอนพัก -ตอนที่ร่วมงานกับผู้กำกับ เฉินไข่เกอ ใน The Promise เขาพูดว่า “ที่ทีมฟุตบอลจีนไม่เคยเอาชนะทีมเกาหลีได้นั้น ผมพบกับคำตอบในตัวของ จางตงเจี้ยน คนนี้นี่เอง” -ตอนที่ผมเข้าวงการใหม่ๆ ผมไม่ได้เป็นแบบนี้นะครับ ต่อมามาแสดงหนัง จึงสามารถแสดงออกในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้นไป ดังนั้น ผมจึงลองแสดงบทที่เขาว่ากันว่าเป็น “ผู้กล้าที่มีอารมณ์อ่อนโยน” ดู เพราะบทบาทนี้เมื่อเทียบกับบทผู้กล้าที่เข้มแข็งธรรมดาๆ จะดูสมบูรณ์แบบกว่า จริงๆ แล้ว ผมออกจะชื่นชอบหนังตลก ผมเป็นแฟน โจวซิงฉือ ด้วย แต่ผมรู้สึกว่า ผมยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเล่นตลกได้ ผมว่าต่อไปจะลองเล่นอะไรที่ให้ผู้ชมรู้สึกถึงความหฤหรรษ์ดูครับ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 169.7 05/04/2006 จางตงเจี้ยน กับจุดยืนของตัวเอง ผมจะไม่เลือกผู้หญิงสวย ขอแค่ผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อผมก็พอแล้วครับ(ดีค่ะ โล่งอก สงสัยได้แฟนนอกวงการแหงๆ ) สมัยเด็กๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็จะสนใจแต่ผู้หญิงสวยแต่เพียงภายนอก พออายุมากขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกของผู้หญิงผมจะไม่เอามาพิจารณา ถึงแม้ใครๆ จะว่าผมเป็นคนรูปหล่อก็ตาม แต่ในความเป็นจริงเมื่อผมเลือกผู้หญิงของผม ผมจะมองที่นิสัยของเธอเป็นหลักมากกว่า ในการแสดง การได้รับบาดเจ็บไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานที่สุด ที่ทรมานที่สุดคือ การต้องยกกองไปถ่ายทำในที่กันดาร ใครๆ ก็รู้ว่าหนัง เทกึกกิ เป็นหนังที่เน้นหนักถ่ายทำผู้ชายเป็นหลัก นักแสดงสาวแทบจะไม่มีให้เห็นกี่ฉากเลย ดังนั้นจึงทำให้ผมไม่ได้เจอผู้หญิงถึง 8 เดือน ! ที่น่าขำที่สุดก็คือ ตอนที่ทุกคนถ่ายทำหนังนอกสถานที่ในภูเขาเสร็จสิ้นลงแล้ว ได้ข่าวว่าฉากต่อไปจะมีผู้หญิงมาเข้าฉาก ทุกคนต่างตื่นเต้นจนถึงกับนอนไม่หลับกันทีเดียว (5 5 5 และนี่คือต้นตอของข่าวลือ เจดีจี + วอนบิน ของคุณเบดูอิน แหละค่ะ เพื่อนๆ ขา  5 5 5) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 169.8 05/04/2006 ในความเป็นตัวตนของเขาแล้ว จางตงเจี้ยน เป็นผู้ที่รักเสียงหัวเราะมากๆ และเป็นคนอัธยาศัยดีต่อทุกคน ข้อมูลโดยย่อ ความสูง 180 ซม. น้ำหนัก    68 กก. เกิด 7 มีนาคม 1972 ราศี มีน เลือดกรุ๊ป โอ ปริมาณในการดื่ม พันจอกก็ไม่เมา (เอ้า เขาโม้อีกแล้วครับท่าน 5 5 5 บอกให้มาลอง แม่โขง ที่บ้านคุณเบดูอิน ดูก็ไม่มา เชอะ แล้วจะรู้จักกับคำว่า ถอนไม่ขึ้น เย้) สิ่งที่ชื่นชอบ เล่มเกม แข่งรถ(ถ้าว่างๆ เขามักจะไปที่สนามแข่งเพื่อร่วมในการแข่งมอเตอร์ไซด์ความเร็วสูง ทั้งยังร่วมกับเพื่อนจัดตั้งสโมสรชื่อ Apache ขึ้นอีกด้วย) ร้องเพลง กระโดดร่ม และเครื่องร่อน ความสามารถทางสามารถ เกาหลี และ อังกฤษ (สมัยเรียนมัธยมปลาย ภาษาอังกฤษของเขาดีมาก แต่ตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับ ใช้ได้) โรคประจำตัว ป่วยเป็นโรค Pneumothorax คือ โพรงเยื้อหุ้มปอดมีอากาศขังอยู่ ทำให้ไม่สามารถเป็นทหาร จบค่ะ ดีใจจังเลย ติดใจกับคำพูดที่ว่า 8 เดือนในกองถ่ายไม่ได้เจอผู้หญิงเลย 5 5 5 เหี่ยวเฉาซะ เห็นน้องวอนบินเป็น ขนม ไปยังไม่รู้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 169.9 06/04/2006 credit:www.jangdonggun.com.cn JDG และ Kim Yoo- Mi ถ่ายทำโฆษณา Posco The Sharp ที่ประเทศ Czech จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 06/04/2006 JDG และ Kim Yoo- Mi ถ่ายทำโฆษณา Posco The Sharp ที่ประเทศ Czech credit:www.jangdonggun.com.cn อิจฉานางแบบมากมาย อยากอยู่ในอ้อมกอด เจดีจี เช่นนี้นะคะ ภาพนี้ หายากจริงๆ เลย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 170 07/04/2006 http://www.jang-donggun.com/cgi-bin/yabb/YaBB.cgi?board=jdg_info;action=display;num=1144378790 Source: http://news.naver.com/news/read.php?mode=LSD&office_id=112&artic le_id=0000035876§ion_id=106&menu_id=106 Mr Hong, CEO บริษัทจัดการของ เจดีจี หรือ Star M เปิดเผยว่า ตอนที่เขาไปโปรโมทหนังเมื่อเดือนก่อน ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารไปจำนวน 20 ฉบับ ร่วมทั้ง playboy ด้วย เนื้อหาก็คือเกี่ยวกับหนัง ไต้ฝุ่น และ กระแสเกาหลีฟีเว่อร์ค่ะ Pics from the Japanese "Playboy". จากคุณ : jiayou  - [ 7 เม.ย. 49 21:36:23 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 170.1 07/04/2006 credit:www.jangdonggun.com.cn ประชาชนคนเกาหลีอายุระหว่าง 10 ถึง 65 ปี ต่างชื่นชอบ Jang Dong Gun และ Jeon Ji-hyun เป็นที่สุด Jang Dong Gun ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดนักแสดงชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนฝ่ายหญิงได้แก่ Jeon Ji Hyun จากการสำรวจตั้งแต่วันที่ 25 –31  มีนาคม กระจายการสอบถามไปยังกลุ่มคนทุกเพศ อายุตั้งแต่ 13 ถึง 65 ปีใน 5 เมืองใหญ่ทั่วประเทศจำนวน 1,335 คน เพื่อสำรวจความนิยมในตัวดาราทั้งหญิงและชาย ในวงการหนังใหญ่หรือทางจอแก้ว Jang Dong Gun ได้คะแนนนิยม 17.2 % โดยตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีที่แล้วเป็นต้นมา คะแนนความนิยมของเขาเป็นที่ 1 มาโดยตลอด (เย้ ไชโย เย้ เย้ เย้ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 171 11/04/2006 http://www.rose.co.th/show_all_poll.php " คุณรู้จักและอยากดูภาพยนตร์เกาหลีเรื่องใดมากที่สุด ? " Vote Results (ผลการโหวต) Daisy "ล่าหัวใจใยตัว   ( 205 ) -> 0.26 % Typhoon "2 คม 2 พายุ   ( 53223 ) -> 68.49 % Duelisy "กระบี่บินคู   ( 24281 ) -> 31.25 % จำนวนโหวตทั้งหมด : 77709 ครั้ง จากคุณ : jewlau  - [ 11 เม.ย. 49 17:55:01 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 172 11/04/2006 Typhoon กำหนดฉาย20 เมษายน 2549 เรื่องย่อ เรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่ในทะเล ซึ่งห่างไกลจากเกาะไต้หวันไปทางเหนือประมาณ 220 กม. ได้ถูกโจรสลัดปล้นความจริงแล้วบนเรือที่ถูกปล้นมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ โจรสลัดที่ปล้นเรือลำนั้นได้ข่าวนี้มาจากเกาหลีเหนือ ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ชิน (แจง ดอง กัน) หนึ่งในโจรสลัดตอนนี้เขามีนิวเคลียร์อยู่ในมือของเขาแล้ว เขาตั้งใจจะเริ่มปฏิบัติการตามแผนของเขาที่วางเอาไว้เนิ่นนาน ก่อนหน้านั้นประมาณ 20 ปี เขาตั้งใจจะหลบหนีจากเกาหลีเหนือมาประเทศเกาหลีใต้พร้อมกับครอบครัว แต่ถูกจับได้จึงถูกส่งกลับ เพราะว่าประเทศเกาหลีใต้กลัวว่าการหลบหนีเข้าประเทศนั้นจะกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศจีน ตอนนั้นเองชินได้เห็นครอบครัวของตัวเองถูกฆาตกรรมต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่นั้นเขาก็อยู่อย่างอาฆาตคนพวกนั้นมาตลอด ในใจของเขายังคงคิดถึง ชเวมยองจู (ลี มี ยวน) พี่สาวที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อให้เกิดความโกรธแค้นที่ไม่อาจลืมเลือนได้ อีกด้านหนึ่ง คัง เซ จอง (ลี จุง แจ) ทหารเรือที่ถูกส่งไปตามล่าชิน เขาไล่ตามร่องรอยของชินตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปถึงรัสเซีย จนช่องว่างระหว่างทั้งคู่แคบลงเมื่อ ชเวมยองจู พี่สาวของชินที่มีชีวิตอยู่ด้วยอาชีพโสเภณีในตลาดมืด จึงได้รับรู้ความเป็นมาของครอบครัวจองชิน ยิ่งเขาไล่ตามชินเท่าไร หัวใจของ คัง เซ จอง ก็ยิ่งเห็นอกเห็นใจชินมากขึ้น แต่ว่า คัง เซ จอง ที่มีความทรงจำอันเจ็บปวดเกี่ยวกับพ่อที่ถูกฆ่าระหว่างการจารกรรมนั้น ทำให้เขารู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร นี่คือภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์สุดยิ่งใหญ่ของเกาหลีด้วยทุนสร้างสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตระเวนถ่ายทำทั้งในประเทศเกาหลี ไทย และรัสเซีย ครั้งแรกและครั้งสำคัญในการพบกันของซุปเปอร์สตาร์ แจง ดอง กัน จาก Taegukgi และ ลี จุง แจจาก Il Mare ผลงานการกำกับของ กวัก คยุง เต็ก จาก Friends ซึ่งเคยกวาดผู้ชมไปถึง 8 ล้านคน ใช้ทุนสร้างประมาณ 2 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 800 ล้านบท (20 ล้านเหรียญสหรัฐ) นักแสดง แจง ดอง กัน ลี จอง เจ ลี มี ยวน ผู้กำกับ กวัก คยุง เต็ก ข้อมูลจากhttp://movie.sanook.com/movie/movie_11025.php ร่วมเล่นเกมชิงบัตรดูหนังก่อนใครในวันที่ 18 เมษายนนี้ได้ที่http://movie.sanook.com/activity/activity_11028.php จากคุณ : jewlau  - [ 11 เม.ย. 49 18:18:05 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 173 13/04/2006 http://ent.sina.com.cn/v/m/2006-04-13/11301048134.html ขอเล่าแบบตัดต่อละกันค่ะ เขาพูดพาดพิงไปถึงดาราเกาหลี 3 คน โดยกล่าวว่า เริ่มเขาเริ่มต้นในวงการด้วยการเป็น นักร้อง แต่งานแสดงหลั่งไหลเข้ามาหาไม่หยุด แถมยังมีความสามารถเป็นแชมป์แข่งรถอีกด้วย ใจความสำคัญของข่าวก็คือ เขานั้นเคยอยู่ในสังกัดเพลงเดียวกับทั้ง Jang Dong Gun และ Won Bin ด้วย พอเอ่ยถึงดาราเกาหลีทั้ง 2 คน จิมมี่ก็คุยให้ฟังเลยว่า ตอนนั้น เจดีจี ก็โด่งดังมากแล้ว เป็นหนุ่มที่รูปหล่อมาก ยิ่งถึงตอนนี้ยิ่งเจริญก้าวหน้าในการงาน เขามีความเป็น แมน มากๆ ส่วน วอนบิน ตอนนั้นเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ จนถึงบัดนี้ก็ยังเป็นคนมีอัธยาศัยดี วอนบินยังเคยให้พ่อจิมมี่เป็นผู้จัดการ ช่วยเหลือให้ข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปินจีนกับเขา ส่วนดาราเกาหลีที่เหลืออีกคนคือ สาว KIM HEE SUN คนที่เป็นสาวในสเป็คของเขานั่นเอง จบข่าวตัดต่อค่ะ อะ รูปพ่อ จิมมี่ หลิน จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 174 11/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4715&show=0 จากหนังสือพิมพ์ จงกั๋วซือเป้า ในแวดวงบันเทิงเกาหลี Jung Jun Ho กับ Han Jae Suk ,Cha In Pyo และ Jang Dong Gun จะสนิทกันมากที่สุด “4 ขุนพล”เมื่ออยู่ด้วยกัน ซึ่งที่ทำร่วมกันมากที่สุดคือ การก๊งเหล้า ในนี้ คนที่คอแข็งที่สุดเห็นจะเป็น Jung Jun Ho หนุ่มหล่อ Jang Dong Gun ที่สลัดคราบ “1 จอกเมา”มาก็เพราะฝึกวิทยายุทธ์มาจาก Jung Jun Ho คนนี้นี่เอง เนื่องเพราะ Jung Jun Ho มีความสามารถในการดื่ม แถมยังขี้คุยอีกว่า “ในกลุ่มเพื่อนของผม ไม่มีใครที่กินเหล้าไม่เป็น” จบข่าวค่ะ สั้นจริงๆ ตัดทิ้งหมดเลย ไหน ตา Jung Jun Ho ขอดูหน้าหน่อย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 29 175 11/04/2006 Source: http://news.naver.com http://www.jang-donggun.com/cgi-bin/yabb/YaBB.cgi?board=jdg_info;action=display;num=1145030679 ผลสำรวจของ “ดาราที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนาง(นาย)แบบโฆษณาสินค้าทางทีวี”จัดโดยสถาบัน Brand38 research institute โดยสำรวจจากทั้งหญิงชายที่อายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 1,235 คนที่อาศัยอยู่ในกรุงโซล เป็นเวลา 6 วันนับตั้งแต่ วันที่ 2-8 มีนาคมที่ผ่านมา และนี่คือผล 1.  Lee Hyo-ri, 3.97% 2.  Jeon Ji-hyun, 3.89% 3.  Jang Dong-gun, 3.65% 4.  Lee Jun-ki, 3.56% 5.  Yoo Jae-suk, 3.24% (comedian) 6.  Park Ji-sung, 2.91% (soccer player) 7.  Kim Tae-hee, 2.51% 8.  Lee Young-ae, 1.70% 9.  Rain and Song Hye-kyo (tied), 1.94% ที่น่าสนใจก็คือ อันดับที่ 1-4 ล้วนแล้วแต่เป็นหรือเคยเป็นนาง(นาย)แบบให้กับสินค้า Giordano ทั้งสิ้น จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou  - [ วันเถลิงศก (15) 11:34:30 ] แม่สาวร้อนแรง Lee Hyo-ri, จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 175.1 11/04/2006 โฉมหน้านายแบบและนางแบบติดชาร์ทที่เหลือ มีเฮียซาลาเปาของเราด้วย เย้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 176 16/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4724&show=0 ข่าวเมื่อวานนี้เอง จากเหวินฮุ้ยเป้า (คุณxiaohw คนที่นำข่าวมาฝากก็น่ารัก บอกว่านำมาแปะให้แต่ของ จางตงเจี้ยน จริงๆ เราเห็นเธอแปะคนอื่นๆ ด้วย แต่เราไม่ขอแปล แปลของที่รักคนเดียว เย้) ดาราที่สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์จนสำเร็จ จางตงเจี้ยน หลังจากเขาสลัดคราบหนุ่มน้อยหน้ามนทิ้งไปแล้ว ก็ปฏิเสธการปรากฏตัวในจอแก้ว เล่นหนังใหญ่อย่าง Friend , The Coast Guard, Taegukgi จนมาถึง Typhoon ล้วนแล้วแต่สวมบทบาทของที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง ไม่ต้องอาศัยบทรักหวานแหววเพื่อดึงดูดผู้ชมอีกต่อไป เขาพลิกบทบาทอีกครั้งให้เป็น แบบเศร้าซึม ในเรื่อง อู๋จี๋ โดยภาพลักษณ์ภายนอกก็กระเซอะกระเซิงผมเผ้ารุงรัง ในหนังเรื่องใหม่อย่าง ไต้ฝุ่น เขารับบทเป็นโจรสลัดพเนจรไปตามย่านน้ำต่างๆ ในใจก็คิดแต่จะแก้แค้น เสื้อผ้าขาดวิ่น ใบหน้ามอมแมมกว่าครึ่งเรื่อง เพื่อรับบทดังกล่าว จางตงเจี้ยนผอมลงไป 8 กิโล ในขณะที่แฟนๆ หนังต่างเลื่อมใสในความเป็นมืออาชีพของเขา ต่างเทใจให้การสนับสนุน หนังซึ่งออกฉายในวันที่ 14 ธ.ค.ปีที่แล้ว จำนวนผู้คนใน 1 วันมีมากถึง 2 แสน 8 หมื่นคน ทำลายสถิติสูงสุดของ เทกึกกิ ที่เคยทำไว้ 2 แสน 3 หมื่นคนไว้ เป็นสถิติสูงสุดใหม่ จากคุณ : jiayou  - [ 16 เม.ย. 49 16:11:45 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 177 17/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4726&show=0 ข่าววันนี้เอง เย้ สดจริงๆ จากหนังสือพิมพ์ฉบับที่ชื่อว่า หมิงเป้า -ภาพ จางตงเจี้ยน ในชุดเบสบอลแสนองอาจ ได้ถูกนำออกเผยแพร่ ดาราเกาหลีใต้จำนวนมาก ต่างชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยกีฬาเบสบอล ปีที่แล้วมีการจัดตั้งทีมดาราเบสบอลขึ้น ใช้ชื่อว่า Playboys ประกอบด้วย Jang Dong Gun, Jung Woo Sung สองดารานำในเรื่อง Spring Days คือJi Jin Hee และCho In Sung ทั้งยังมีดาราหนังหน้าใหม่Kim Ha Neulจากเรื่อง Romance Of Their Own คือ Hwang Jung Min และพระเอกเรื่อง You're My Sunshine DTS Limited Editionคือ Hwang Jung Min เป็นต้น โดยให้Kim Seung Woo จากซีรี่ส์เรื่อง Hotelier เป็นผู้นำทีม จากคุณ : jiayou  - [ 16 เม.ย. 49 17:20:46 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 177.1 17/04/2006 เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซด์ของทีมก็ได้เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการแล้วนั่นคือwww.pb-baseball.com ในนั้นจะมีการแนะนำผู้เล่นแต่ละคน ตารางเวลาการแข่งขัน และที่มีความหมายอย่างมากที่สุดคือ ช่วงตารางเวลาการฝึกซ้อมของดาราแต่ละคน ทั้งนี้เป็นประจักษ์พยานแล้วว่า ถึงแม้แต่ละคนจะงานยุ่งขนาดไหน แต่ก็ยังพยายามเจียดเวลามาฝึกซ้อมด้วยกัน จางตงเจี้ยน ในวัย 34 มักจะใช้เวลาฝึกซ้อมเบสบอลเพื่อเป็นการรักษาหุ่น และเขาจะปกปิดช่วงเวลาที่เขาจะลงฝึกซ้อมไว้เป็นความลับ (ถ้าขืนบอกสงสัยสนามแตก แม่ยกเพียบ ไม่เป็นอันได้แข่งแน่ๆ ขนาดไปยืนประท้วงแป๊บเดียว แค่ 5 นาที ก็ดึงดูดผู้คนปาเข้าไป 2 พันแล้ว ซ้อมซะเป็นชั่วโมงแบบนี้ สนามไม่แตกให้มันรู้ไปซิ) ทีม Playboys ซึ่งจัดตั้งขึ้นมากว่าครึ่งปีแล้ว ถ่ายรูปการฝึกซ้อมไปก็เยอะมากแล้วเช่นกัน แต่เหล่าบรรดาดาราดังๆ ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ฝึกซ้อมร่วมกันซักที จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 177.2 17/04/2006 ทีมเบสบอลดังๆ ของเหล่าดาราในแวดวงศิลปินเกาหลี แบ่งออกเป็น 3 ทีม ทีมที่นำโดย An Jae Wookชื่อ JEMISAMA จะก่อตั้งมานานที่สุด ต่อมาก็คือทีม Playboys ซึ่งก่อตั้งโดย Jang Dong Gun ซึ่งถือเป็นทีมซุปเปอร์สตาร์ มีผู้ร่วมทีมเป็น 30 ดาราผู้โด่งดัง (ไม่เคยเห็นใครจะลงเลยว่า อีกทีมที่เหลือคือทีมอะไร ?) ตอนนี้ทีม Playboysภายใต้การคุมทีมของKim Seung Wooแต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเถ้าแก่ Kimคือ Jang Dong Gun งานบอลประจำปีที่แล้ว เขาได้จ่ายเงินช่วยบริษัทเรื่องจัดหาชุดที่ใส่เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านวอน หรือประมาณ 3 ล้าน 3 แสนไถปี้-เงินไต้หวัน –ก็ราวๆ  เกือบ 4 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับกิจกรรมของงานบอลประจำปี (น่ารักจังเลย เจออีกแล้วมั้ยละคะท่าน คนจิตใจดี ชอบควักกระเป๋าจ่าย ช่วยเหลือไปทั่วทุกวงการ รัก รัก รัก เจดีจีกอน คนรูปหล่อแสนดีคนนี้ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 177.3 17/04/2006 ตั้งกระบวนท่าซะตั้งนาน ยังไม่มีเวลาสู่สนามรบ ทีมที่ฟอร์มมาถึงครึ่งปี นักกีฬาล้วนเป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ และidol หรือไม่ก็เป็นศิลปินใหญ่ ทุกๆ วันในเว็บ จะมีผู้เข้าชมถึงกว่าหลายหมื่นคน  ถึงขณะนี้มีทีมเบสบอลกว่า 30 ทีมสมัครเข้ามาขอแข่งกับ Playboys ทีมแล้ว แต่น่าเสียดายที่ Jang Dong Gun และดาราคนอื่นๆ ยังไม่มีเวลาที่จะเข้าร่วมแข่งกัน โดยปกติแล้ว Jang Dong Gun จะไม่บอกว่าเขาจะไปลงฝึกซ้อม แล้วยังมีดาราคนอื่นๆ ที่ต้องทำมาหากิน ถึงแม้ว่า ภาพการฝึกซ้อมของทีมจะถ่ายภาพออกให้เห็นแล้วถึง 800 กว่าภาพก็ตาม สถิติการแข่งขันทุกอย่างยังเป็น ศูนย์ อยู่ Jang Dong Gun กล่าวว่า ตอนนี้มีความมุ่งมั่นว่า ทุกคนจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวมาฝึกซ้อมและสามารถลงแข่งขันให้จงได้ครับ จบข่าวค่ะ เย้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 178 16/04/2006 JANG DONG GUN GIVE SCHOLARSHIP เจดีจีแจกทุนการศึกษา In spontaneity, JDG donated a fund of 10,000 US$ or equal to aorund 90 million rupiahs, to Jakarta International Korean School (JIKS). ก็เป็นเงิน 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ ราวๆ เกือบ 4 แสนบาทไทย ให้กับโรงเรียนนานาชาติเกาหลี This Fund will be used as scholarship to the talented students who have problem financially. ทุนที่ให้นี้ ให้กับเด็กเรียนดีแต่ยากจน source from tabloid Bintang Indonesia , 781 edition, Second week of April 2006 แหล่งที่มาของข่าว ส่วนตัวคนเป็นข่าว หายไปไหน ? กลับมารับใช้ชาติซะดีๆ ด้วยการออกข่าวว่าจะเล่นหนังHollywood เรื่องยิ่งใหญ่ซักเรื่อง เร็วๆ เข้า จากคุณ : jiayou  - [ 16 เม.ย. 49 17:41:15 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 37 178.1 17/04/2006 JDG พบนักกอล์ฟสาว Michelle Wie ที่  Hawaii credit:www.jangdonggun.com.cn เมื่อนักกอล์ฟ Michelle Wei กับดารานักแสดงJang Dong Gun พบปะกัน (ในรายการ ขอเลือกแต่ส่วนของ Jang Dong Gun) ทั้งคู่ซึ่งต่างเป็นแฟนของกันและกัน พบปะกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นักข่าว Kim Eun-hye สัมภาษณ์พวกเขา นักข่าว : บุคคลท่านหนึ่ง อาศัยภาพยนตร์ อีกท่านอาศัยกีฬากอล์ฟ เป็นดาราที่ช่วยกันเผยแผ่กระแสเกาหลีให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พวกเขาทั้งคู่นี้ ได้มาพบกันแล้ว ด้วยพวกเขาทั้งคู่ต่างมีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะต้องมาเจอะเจอกันให้ได้ซักครั้ง เริ่มต้นด้วย Michelle Wei ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว  (ก็เหมือนๆ กันผู้หญิงธรรมดาๆ ทั่วๆ ไปคนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นระหว่างรอคอยการปรากฏตัวของเขา) (Jang Dong Gun เดินออกมา ทั้งคู่ทักทายกัน จากนั้นก็นั่งลง) Jang Dong Gun: ตัวจริงสวยกว่าในรูปนะครับ Michelle Wei : คุณอาก็เหมือนกันค่ะ (กรี๊ดด หมดกันเลย คุณอา แก่ เนอะ อา เนอะ) ( คำเรียก คุณอา ของ Michelle Wei นี้ สร้างกระแสทางอินเตอร์เน็ตอย่างใหญ่หลวง ต่อมาเหมือนจะมีการเรียกขานกันใหม่ โถ น้อง เรียกแฟนพี่ซะ แก่ เลย เราก็ รับไม่ได้นะคะ) Jang Dong Gun : ล่าสุดนี่ทำอะไรอยู่ครับ ? Michelle Wei : ก็ออกกำลังกายค่ะ. . . มีสัมภาษณ์ด้วย วันนี้มาสัมภาษณ์ได้ Jang Dong Gun: คุณพ่อผม. . . Michelle Wei: ฉันนะคะ เริ่มแรกที่ได้ดู All About Eve เห็น Jang Dong Gun ต้องขอโทษด้วยค่ะ . . .เพราะตอนนั้นจะมีความรู้สึกเลี้ยนนิดๆ มาโดยตลอด แต่กับใน Typhoon หรือใน 2009 Lost Memories ดูจะหล่อขึ้นกว่าเดิม. Jang Dong Gun: คุณพูดภาษาเกาหลีได้ดีมากเลยนะครับ Michelle Wei: ตอนอยู่อนุบาล มีเรียนอยู่ปีหนึ่งค่ะ. . . Jang Dong Gun:  ดูคุณแข่งทางทีวี คุณดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งเลยครับ ตอนนี้มาเห็นตัวจริงเข้า ทำไมกลายไปเป็นเหมือนสาวน้อยคนหนึ่งล่ะครับ Michelle Wei: ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้มาเจอกับคุณ Jang Dong Gun: ตอนผมหัดเล่นกอล์ฟใหม่ๆ ตียังไงก็ไม่ดีเลยครับ คุณพ่อของผมก็เป็นแฟนของคุณนะครับ (กรี๊ดดดดด ดีแล้วล่ะ เฮีย เฮียอย่าไปเป็นแฟนเธอละกัน เด็กเรียก คุณอา เลยนะนั่นกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด) Michelle Wei: มาลองดูที่ตู้เย็นกันหน่อย ก็จะรู้ว่ามีแต่กึ่งสำเร็จรูป,ราเม็ง Jang Dong Gun：(ชี้ไปที่ด้านข้าง) ในตู้เย็นยังมีผักดอง (กิมจิ) คุณชอบทานอะไรละครับ ? Michelle Wei: อะไรก็ชอบค่ะ ผักดอง ข้าวสวย ราเม็ง ไส้กรอกข้าว หมดทุกอย่างเลยค่ะ อะไรที่กินได้ก็ชอบหมดละค่ะ Jang Dong Gun: คุณแม่มีทำกับข้าวเกาหลีให้คุณทานอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ยครับ ? คุณทำอาหารเองด้วยหรือเปล่าครับ ? Michelle Wei: ฉันทำผักดองเป็นค่ะ (ด้านข้างๆ ไม่รู้มีใครพูดขึ้นว่า Michelle Wei อยากทำผักดองให้คุณทานมากเลย) Jang Dong Gun: (หัวเราะ จากนั้นก็ชี้ไปยังด้านข้าง) เครื่องปรุงทุกอย่างมีครบหมดแล้วครับ (เริ่มมีเสียงว่า เจดีจี แกล้งแหย่เธอ) . . . Michelle Wei: กางเกงดูไม่เลว คุณหล่อมากๆ มาโดยตลอดเลยค่ะ (Jang Dong Gun เริ่มขอให้ Michelle Weiแนะนะเทคนิคการตีกอล์ฟให้ ถามหลายหัวข้อเลย Michelle Wei ก็ให้คำอธิบาย Jang Dong Gun กล่าวว่า อยากจะทองลองวิธีที่เธอบอกซักหน่อย) ..... Jang Dong Gun : เหล่านักแสดงภาพยนตร์มีกลุ่มดารานักตีกอล์ฟ ถ้าได้ออกรอบกับคนที่รู้จักแล้วละก็  ผู้คนรอบข้าง ล้วนเป็นคนที่คุ้นเคย ดังนั้น แต่ละคน ยังไงซะจะต้องตีให้ดี พวกผู้ชายมีความทะเยอทะยานมากๆ ในการที่จะตีลูกลอยไปให้ไกลๆ ครับ( แล้วก็หันไปถาม Michelle Wei ว่า ทำยังไงถึงจะตีลูกไปให้ได้ไกลๆ แล้วก็กลับไปสู่การสอนเทคนิคอีกครั้ง) พูดเกี่ยวกับภาพยนตร์ Michelle Wei:  Jang Dong Gun เป็นนักแสดงที่ดีมากๆ  ณ ตอนนี้ฝีมือการแสดงเป็นที่ยอมรับกันว่า ดีมากๆ ในหนังเรื่อง 2009 Lost Memories เขาก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ดีมากๆ ด้วยค่ะ  ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ถึงแม้จะไม่สามารถท่องบทพูดในหนังนั้นได้ แต่ก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าดูมากๆ เป็นหนังที่ดีค่ะ Jang Dong Gun: คุณพ่อของผมก็เป็นแฟนของคุณนะครับ ตอนที่ผมโทรบอกเรื่องที่ผมจะได้มาพบคุณ Michelle Wei พอคุณพ่อได้ฟังก็ดีใจเป็นอย่างมากครับ (นักข่าว ขอให้ทั้งคู่พูด อวยพร ซึ่งกันและกัน) Michelle Wei: หวังว่าจากนี้ไปจะได้ถ่ายทำหนังดีๆ อย่างต่อเนื่องต่อไปค่ะ ขอให้สุขภาพของคุณแข็งแรงด้วย ฉันจะติดตามผลงานภาพยนตร์ของคุณเสมอไปค่ะ Jang Dong Gun: ทุกครั้งที่ผมดูคุณ Michelle แข่งกอล์ฟนี่ มักจะคิดเสมอว่า อายุน้อยแค่นี้เอง จะรับความกดดันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ  คงเป็นอะไรที่ยากลำบากมากๆ เลย แต่ถ้าไม่รู้สึกว่ากดดัน คงจะดีที่สุดเลยนะครับ  ยังไงซะก็ขอให้อย่าได้รู้สึกกดดัน จงมีความสุขกับการดำเนินชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แบบนี้ถึงจะเป็นคนที่มีความสุขครับ นักข่าว: ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันที่เกาหลี การให้กำลังใจจากคุณ Jang Dong Gun เป็นอะไรที่ดีมากๆ เลย Jang Dong Gun: ต่อไปถ้าจะทำไม่ได้ดีอย่างในปัจจุบันก็ไม่เป็นไรครับ กีฬากอล์ฟนี้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการสะสมประสบการณ์ ดังนั้น ขออย่าได้สร้างความกดดันให้กับตัวเองเกินไป ครั้งนี้ ได้มาพบกัน ผมได้เห็นถึงบุคลิกภาพอันสง่างามของสาวน้อยที่พึงมี มีความสุขกับการดำเนินชีวิตของตัวเอง แบบนี้ จะเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ แล้วละครับ Michelle Wei: ขอบคุณค่ะ Jang Dong Gun: ขออวยพรอีกครั้งให้คุณกลายเป็นนักกอล์ฟผู้มีชื่อเสียงระดับโลกนะครับ (โอบกอดกัน) นักข่าว: ถึงแม้เธอจะเป็นนักกอล์ฟผู้มีชื่อเสียงระดับโลกแล้วก็ตาม แต่พอเจอกับดาราภาพยนตร์  เธอก็กลับกลายเป็นแต่สาวน้อยวัย 17 ปีไป จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 38 18/04/2006 เรามีข่าวแปะจากหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าของสิงคโปร์ที่ชื่อ ซินเจียโปเหลียนเหอเจ่าเป้า ตามลิ้งค์คาเฟ่ตงเจี้ยน ะค่ะ และก็จะขอเล่านะคะ ไม่ขอแปลค่ะ http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4728&show=0 “ผู้ชายที่หล่อที่สุดในเกาหลี”  จางตงเจี้ยน ผู้รวบรวมความชื่นชมและความรักจากแฟนๆ จำนวนมากมาย ล่าสุด เขาได้รับมงกุฎแห่งเกียรติยศเพิ่มอีกหนึ่งรางวัลแล้ว นั่นก็คือ รางวัลที่เหล่าศิลปินในวงการเดียวกัน ยกย่องให้เขาเป็น นักแสดงภาพยนตร์ยอมนิยมที่สุดในเกาหลี   ด้วยความเป็นคนที่เป็นแมนเต็มตัว มีความรับผิดชอบ อบอุ่น โรแมนติค และเป็นมืออาชีพ อะไรที่คุณอยากได้ เขาคนนี้มีมันทั้งหมด ถ้าอย่างงั้น เสน่ห์ของผู้ชายราศีมีนอย่าง จางตงเจี้ยน อยู่ที่ไหนกันแน่ ? เขาว่ากันว่า ราศีมีน เป็นราศีสุดท้ายของวงจรจักร 12 ราศี ดังนั้น มันจึงรวมเอาจุดดีและจุดด้อยของทั้ง 12 ราศีไว้ด้วยกัน คนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 3 มีนิสัยที่สับสนวุ่นวาย พวกเขาจะดำเนินชีวิตอยู่ในโลกแห่งความฝันของเขาเอง อุปมาว่า แหวกว่ายอยู่ในความห้วงจินตนาการของตัวเอง แต่ที่น่ารักก็คือ พวกเขาต่างเป็นพวกจิตใจมุ่งมั่นและมีความรู้สึกรับผิดชอบต่อการงานอย่างสูงสุด ในขณะเดียวกันก็มักเลือกที่จะแสดงออกด้วยวิธีที่ นอบน้อม ของตัวเองเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและได้การสนับสนุนจากคนรอบข้าง จากคุณ : jiayou  - [ 18 เม.ย. 49 00:23:38 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 179.1 18/04/2006 จางตงเจี้ยน คนๆ นี้เขา “กล้าที่จะฝัน และดำเนินชีวิตแบบนอบน้อมถ่อมตน” อันเป็นความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบของหนุ่มราศีมีน ความท้าทายจากนักแสดงละครทีวี แล้วผันตัวไปเป็นนักแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเริ่มจากการปรากฏตัวแบบนักแสดงละครที่มันเลี้ยนนั้นมันไม่ง่ายเลย แต่เขาก็ยังนอบน้อมถ่อมตัวที่จะเรียนรู้ หลายปีแห่งความเพียรพยายามของเขาทำให้เขาได้รับเกียรติสูงสุดกับรางวัลราชาเจ้าของรางวัล Blue Dragon Awards จนได้ในที่สุด ความเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา เป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดของชาวราศีมีน พวกเขาจะเป็นคนที่มีจิตใจงดงามทุกคน ชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่น ยอมที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเติมเต็มให้กับคนอื่นๆ แต่นี่กลับไม่ใช่เพื่อความต้องการเป็นใหญ่เป็นโตของพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ต้องการช่วยคนอื่นเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดความมั่นใจของตัวเองของพวกเขา ความเป็นคนที่มีจิตใจงดงามนี้ ทำให้ จางตงเจี้ยน เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ และยิ่งสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก คนที่ได้สัมผัสกับเขา ต่างวิจารณ์บุคลิกท่าทางของเขาอย่างชื่นชมสูงสุด ตั้งแต่ไหนมา เขาไม่เคยปฏิเสธการขอลายเซ็นจากแฟนๆ เลย ถึงขณะที่จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด เขามักจะให้ความร่วมมือ ทำตามคำขอร้องเหล่านักข่าวเป็นประจำ ดังนั้น ในโลกแห่งวงการบันเทิงเกาหลี จึงเกิดมีคำพูดนี้ขึ้นมาว่า “จางตงเจี้ยน อยู่ในวงการบันเทิงเกาหลีมีแต่เพื่อนไม่มีศัตรู ” ด้วยความสูง 180 ซม. ใบหน้าอันงดงาม ประกอบกับอุปนิสัยของคนราศีมีน ไม่มีอะไรจะมาสกัดกั้นเสน่ห์ของจางตงเจี้ยนคนนี้ได้ โดยปกติ มันเป็นการยากที่ดารารูปงามจะสามารถพลิกบทบาทได้ จางตงเจี้ยน กลับไม่ยอมที่จะผูกมัดตัวเองกับภาพลักษณ์ภายนอกนี้ ในทุกๆ ครั้งของการแสดง เขาพยายามท้าทายกับบทที่ยากยิ่งขึ้นไป ไม่เพียงแต่เอาชนะภาพลักษณ์แบบหนุ่มรูปงามลงได้เท่านั้น มันยังแพร่ขยาย เป็นการเปิดโลกแห่งความสำเร็จทางอาชีพของเขาอย่างกว้างไกลออกไปอีกด้วย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 180 18/04/2006 http://www.adonischinese.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=12&topic=3037&show=0 Jang Dong Gun  และ  Lim Soo Jung ได้รับการประกันในวงเงินที่สูงมากๆ (เอ๊ะ ใครกัน Lim Soo Jung อ๋อ คนนี้นี่เอง) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 180.1 18/04/2006 ทั้งคู่แสดงในหนังเรื่อง ไต้ฝุ่น และ fang tang (พินอิน) ตามลำดับ มีฉากต่อสู้หลายฉาก การถ่ายทำได้วงเงินประกันคนละถึง 1,500 ล้านวอน (ประมาณ 50 ล้านเหรียญไต้หวัน ก็ราวๆ 50 ล้านกว่าๆ บาทไทย) ช่วง 3 ปีมานี้ เจดีจี เล่นแต่หนัง action เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ เขาจึงเข้าฉากเอง แต่ทางบริษัทจัดการเกรงว่า ศิลปิน จะได้รับอันตราย ดังนั้น จึงขอร้องให้ทางบริษัทผู้ผลิตหนังทำประกันให้เขา ยิ่งดาราโด่งดังมากเท่าไร เงินประกันก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงค่าตัวของดาราด้วย หนัง ไต้ฝุ่น ซึ่งลงทุนถึง 15,000 ล้านวอน หรือประมาณ 500 ล้านเหรียญไต้หวัน เจดีจี ต้องต่อสู้กับ Lee Jung Jae และยังมีฉากระเบิดอีกหลายฉาก บริษัทหนังได้จ่ายเงินเป็นค่าประกันให้กับพระเอกทั้ง 2 ในวงเงินประกันที่สูงถึงคนละ 1,500 ล้านวอน (50 ล้านกว่าๆ บาทไทย) จากคุณ : jiayou  - [ 18 เม.ย. 49 21:52:00 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 180.2 18/04/2006 เมื่อก่อนตอนที่เขาถ่ายทำหนัง เทกึกกิ เขาได้รับการประกันในวงเงิน 500 ล้านวอน (ประมาณ 16 ล้าน 6 แสนเหรียญไต้หวัน )ภายในเวลา 2 ปี ค่าตัวของเขาเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า Jang Dong Gun ในปี 2003 ซึ่งแสดงนำร่วมกับ Won Bin ในหนังสงครามเรื่อง Taegukgi ในเวลานั้น พี่น้อง(ในเรื่อง)ทั้งสองคนนี้ ได้รับการประกันในวงเงินคนละ 500 ล้านวอน ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นมูลค่าสูงลิบลิ่วแล้ว จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 43 180.3 18/04/2006 Jang Dong Gun ได้รับบาดเจ็บตรงกระดูกอ่อนที่หัวเข่าซ้าย เขาจึงได้รับค่าชดเชย แต่จำนวนเงินเท่าไรไม่เป็นที่เปิดเผย จึงไม่แปลกเลยที่เมื่อเขามาเล่นหนังเรื่อง ไต้ฝุ่น ในครั้งนี้ จะได้รับการประกันอุบัติเหตุในวงเงินที่สูงสุด จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 180.4 18/04/2006 ดาราสาว Lim So Jung ผู้โด่งดังจากละครเกาหลีเรื่อง Sorry, I Love You  ตอนถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ที่ชื่อ fang tang (พินอิน) เธอต้องแสดงเป็นนักเรียนฝึกขี่ม้าแข่ง มีฉากที่ต้องขี่ม้าหลายฉาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ เธอได้ทำประกันไว้เช่นกันในวงเงิน 50 ล้านเหรียญไต้หวัน (เท่ากับ เจดีจี) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 180.5 18/04/2006 ดาราหนุ่ม Kwon Sang Woo ที่เล่นละครเรื่อง Running Wild  มีฉากไล่ล่ากับตำรวจ เขายืนกรานที่จะเข้าฉากด้วยตัวเอง โดยยอมที่จะเสี่ยงกับฉากอันตรายมากๆ โดยไม่ใช้ตัวแสดงแทน ผู้กำกับเกรงว่าใบหน้าหล่อๆ ของเขาจะได้รับบาดแผล จึงประกันให้กับผู้ที่สวมบทเจ้าพ่อมาเฟียคนนี้ด้วยวงเงิน 500 ล้านวอน หรือ 16 ล้าน 6 แสนเหรียญไต้หวัน (เรื่องที่ว่า Running Wild ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 180.6 18/04/2006 พ่อหนุ่ม Lee Byung Hun เล่นหนัง bu hui (พินอิน)ด้วยวงเงินประกัน 300 ล้านวอน หรือราว 11 ล้านเหรียญไต้หวัน (อ๋อ พระเอก ALL IN นี่เอง เมื่อไหร่จะจำชื่อได้ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 47 180.7 18/04/2006 Jo In Sung ในหนังเรื่องใหม่ bei bi de jie tou (พินอิน) ก็รับบทเป็นมาเฟียเช่นกัน เขาสูงถึง 186 ซม. ยากที่จะหาตัวแสดงแทนได้ ฉากต่อสู้จึงต้องเล่นเอง บริษัทหนังจึงซื้อประกันให้เขาในราคา 10 ล้านเหรียญไต้หวัน Cho In Sung = Jo In Sung ตกใจหมดเลย นึกว่า แปลผิด แปะผิดไปมากมายกับดาราชายคนนี้ค่ะ จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณเบดูอิน หรือ เจ๊ใหญ่ แห่งบ้าน Loyalty to JDG ค่ะ กรุณาแปลไว้ 181-182 19/04/2006 promote ตามหน้าที่ .....อ่านก่อนดู.... เรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่ในทะเล ซึ่งห่างไกลจากเกาะไต้หวันไปทางเหนือประมาณ 220 กม. ได้ถูกโจรสลัดปล้น ความจริงแล้วบนเรือที่ถูกปล้นมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ โจรสลัดที่ปล้นเรือลำนั้นได้ข่าวนี้มาจากเกาหลีเหนือ ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ชิน (แจง ดอง กัน) หนึ่งใน โจรสลัดตอนนี้เขามีนิวเคลียร์อยู่ในมือของเขาแล้ว เขาตั้งใจจะเริ่มปฏิบัติการตามแผนของเขาที่วางเอาไว้ เนิ่นนาน ก่อนหน้านั้นประมาณ 20 ปี เขาตั้งใจจะหลบหนีจากเกาหลีเหนือมาประเทศเกาหลีใต้พร้อมกับครอบครัว แต่ถูกจับได้จึงถูกส่งกลับ เพราะว่าประเทศเกาหลีใต้กลัว าการหลบหนีเข้าประเทศนั้นจะกระทบต่อความสัมพันธ์กับ ประเทศจีน ตอนนั้นเองชินได้เห็นครอบครัวของตัวเองถูก ฆาตกรรมต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่นั้นเขาก็อยู่อย่างอาฆาต คนพวกนั้นมาตลอด ในใจของเขายังคงคิดถึง ชเวมยองจู (ลี มี ยวน) พี่สาวที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อให้เกิดความโกรธแค้นที่ไม่อาจลืมเลือนได้ อีกด้านหนึ่ง คัง เซ จอง (ลี จุง แจ) ทหารเรือที่ถูกส่งไปตามล่าชิน เขาไล่ตามร่องรอยของชินตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปถึงรัสเซีย จนช่องว่างระหว่างทั้งคู่แคบลงเมื่อ ได้พบ กับ ชเวมยอง จู พี่สาวของชินที่มีชีวิตอยู่ด้วยอาชีพโสเภณี ในตลาดมืด จึงได้รับรู้ความเป็นมาของครอบครัวจองชิน ยิ่งเขาไล่ตามชินเท่าไร หัวใจของ คัง เซ จอง ก็ยิ่งเห็นอก เห็นใจชินมากขึ้น แต่ว่า คัง เซ จอง ที่มีความทรงจำอัน เจ็บปวดเกี่ยวกับพ่อที่ถูกฆ่าระหว่างการจารกรรมนั้น ทำให้ เขารู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร นี่คือภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์สุดยิ่งใหญ่ของเกาหลีด้วยทุนสร้างสูงสุดเป็นประวัต ิการณ์ ตระเวนถ่ายทำทั้งในประเทศเกาหลี ไทย และรัสเซีย ครั้งแรกและครั้งสำคัญในการพบกันของซุปเปอร์สตาร์ แจง ดอง กัน จาก Taegukgi และ ลี จุง แจจาก Il Mare ผลงานการกำกับของ กวัก คยุง เต็ก จาก Friends ซึ่งเคยกวาดผู้ชมไปถึง 8 ล้านคน ใช้ทุนสร้างประมาณ 2 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 800 ล้านบท (20 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากคุณ : เบดูอิน  - [ 19 เม.ย. 49 10:10:50 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 49 183 19/04/2006 Complete list of top 10 for male actor category: 1.  Jang Dong-gun (17.2%) 2.  Kwon Sang-woo (5.4%) 3.  Lee Jun-ki (4.4%) 4.  Ahn Sung-ki (4.3%) 5.  Bae Yong-joon (3.6%) 6.  Won Bin 7.  Cha Seung-won 8.  Jung Woo-sung 9.  Jo In-sung 10. Choi Boo-ram จากคุณ : jiayou  - [ 19 เม.ย. 49 10:30:07 ] หล่อมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ น่ารักนะ หน้าตาหนะ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 184 มาแล้วค่ะ ข้อความแห่งคุณค่า เพื่อนๆ ให้เกียรติร่วมแจมกระทู้ เย้ 19/04/2006 วันนี้เราเจอเรื่องแปลกมาค่ะ แปลกและดีสุดๆ ด้วย ****แปลกที่ 1 คือ  เมื่อตอนเย็นเราแวะไปมาบุญครอง (กะจะไปขอคำยืนยันเรื่องซับ)  แต่ปรากฏว่า..... ดิฉันเห็นโปรแกรม Typhoon กำลังฉายอยู่ค่ะ   แปลกใจมากๆ  ก็วันนี้เพิ่งวันที่ 19  ตามโปรแกรมมันต้องเข้าพรุ่งนี้นี่นา  แต่ไม่เป็นไร  ไหนๆ  ก็มาแล้ว  ตีตั๋วซะเลย  (หนังมี  3  รอบ  14.30  17.50  21.?? ..... เราดูรอบ 17.50 ค่ะ) คนดูยังไม่เยอะเท่าไหร่ ซัก 20 นิด (ประมาณด้วยสายตา ) ตอนซื้อตั๋วเราก็ถามพนักงานแล้ว  เค้าบอกว่าพากย์ไทยทุกโรง  ไม่มี soundtrack)  แต่พอเข้าไปดูกลับพบ *****เรื่องแปลกที่ 2  เราเข้าไปดูโดยทำใจแล้วว่าเป็นฉบับพากย์   ตอนต้นเรื่องตัวละครชาวตะวันตกพูดภาษาอังกฤษกัน  ก็ยังไม่เอะใจ  แต่พอซักพัก  เฮียโผล่มาพร้อมประโยค  "ไม่-มี-พา-ยาน" (ซับขึ้นประมาณไม่เหลือพยาน  แต่หูเราได้ยินงี้อ่ะ) เฮ้ย....นี่มันไม่ได้พากย์นี่หว่า!!!! (--- เอ... หรือว่าพนักงานเค้าเข้าใจคำว่า soundtrack  ไม่เหมือนเราอ่ะ  เพราะเข้าบอกเราว่า  ไม่มี soundtrack ค่ะ ไม่ใช่หนังฝรั่ง  ... แต่สำหรับเรา  เราเข้าใจว่า  soundtrack  คือหนังที่ฉายเสียงจริง  ตามที่ฟิล์มบันทึกมา  = เสียงในฟิล์มนั่นเอง   ไม่ใช่แปลว่าต้องพูดภาษาอังกฤษซะหน่อย) สรุปว่าวันนี้  เราได้ดูเฮียแล้วแหละ  ก่อนเวลาที่คาดไว้ตั้ง 1วันแน่ะ  อยากโม้มากกว่านี้  แต่เกรงใจคนยังไม่ได้ดูอ่ะ ปล. ขอสารภาพหน่อยเถอะว่า  เกิดมาไม่เคยงงกับหนังเรื่องไหนเท่านี้เลย  หนังบ้าอะไรพูดกันตั้ง 5 ภาษา แถมแตกเป็นสำเนียงต่างๆ อีกร่วมสิบ  ไม่มึนก็บ้าแล้ว.... ยังไม่นับที่ต้องเสียสมาธิ  แบ่งสายตาจากการอ่านซับ  ไปจ้องหน้าดาราอีกแน่ะ  เฮ้อ.....) จากคุณ : คงถึงวันนั้นแล้วสินะ (ตาราไต)  - [ 19 เม.ย. 49 21:59:27 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 185 19/04/2006 คุณ เบดูอิน นำเสนอภาพ รถของ เจดีจี ด้านข้าง ....จำไว้นะ เห็นรถคันนี้ที่ไหน วิ่งตัดหน้าเลย เจ้าของมีปัญญาจ่ายอยู่แล้นนน 5 5 5 วิ่งตัดหน้า ก็ขอให้มีชีวิตรอดปลอดภัย ไปขอค่าสินไหมกับเจ้าของรถด้วยเทอญ จากคุณ : เบดูอิน  - [ 19 เม.ย. 49 23:04:12 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 52 186 20/04/2006 มีแขกเข้ามาเยี่ยมบ้าน ยืนยันความโด่งดังของ เจดีจี ดังนี้ค่ะ เพิ่งกลับจากเกาหลีค่ะ ไกด์เกาหลีถามว่า ดาราเกาหลีคนไหนดังสุด เราตอบว่า เบยองจุน ไกด์หัวเราะค่ะ บอกว่าที่เกาหลีไม่ดังแล้ว ตอนนี้คนเกาหลีชอบมาก ๆ ที่ 1 ได้แก่ แจดองกัน ที่ 2  ก็ วอนบินค่ะ เราเลยลองเดิน ๆ ถาม วัยรุ่นทั่ว ไป ก็ตอบแบบเดียวกันค่ะ ดีใจด้วยนะคะ กับพระเอกอันดับ 1 หล่อจริง ๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : Snow Queen   - [ 20 เม.ย. 49 16:28:19 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 187 20/04/2006 กับอีกหนึ่งเรื่องเล่าของผู้ที่ไปดูหนังเรื่อง ไต้ฝุ่น มาค่ะ อยากให้เพื่อนๆ  ไปดูกันให้ครบเร็วๆ จัง  เราอยากเม้าท์อ่ะ  ใครฟังเสียงในฟิล์มช่วยกันเล็งด้วยนะคะ  ว่าเฮียพูดไทยว่าอะไรบ้าง  พูดเยอะมากๆ บางประโยคชัดอย่างน่าทึ่ง  แต่บางประโยค.....  555 ว่าแต่พูดเยอะขนาดนี้  ทำไม้  ทำไม  ตอนให้สัมภาษณ์  จำได้ประโยคเดียวล่ะเฮีย  สงสัยเพราะไม่มีคนช่วยทบทวนให้แน่นอน  ต้องการคนช่วยมั้ยคะ..... ปล.  ตอนนี้  เรื่องที่เรากำลังหมกมุ่น คือ  ทำยังไง  เราจะได้ดูเสียงในฟิล์มอีกเรอบน่ะ  ไม่มีเวลาเข้าไปเลย  กลับ ตจว.ก็คงเจอแต่พากย์ล้วนๆ  สงสัยต้องรอ DVD นู่นเลยมั้ง (อย่าหาว่าเราเวอร์นะ  พนันได้เลยว่าเป็นใครก็ต้องเป็นแบบเรา  นอกจากอาการติดลมแล้ว  ยังเนื่องมาจาก  รอบแรกเจอฝูงภาษานานาชาติเข้าไปซะมึน  เลยเก็บรายละเอียดได้ไม่เท่าไหร่ด้วยอ่ะ) ปล.2  ตอนออกมาจากโรงเราออกเป็นคนสุดท้าย  นั่งดูเครดิตจนจบ (มีชื่อคนไทย  เยอะมากๆ)  ระหว่างนั้น   มีน้องๆ  กลุ่มนึง  เดินเม้าท์กันอย่างเมามันออกไปจากโรง  ไม่ต้องเงี่ยหูฟังก็รู่ว่าแฟนคลับเฮีย   พอออกมาจากโรงก็เจอน้องกลุ่มนั้น เม้าท์อยู่หน้าจอตัวอย่าง พอรู้ว่าเราก็เพิ่งดูมารอบเดียวกัน  เลยได้จับไม้จับมือทักทายผู้ร่วมอุดมการณ์ซักหน่อย... เว่อร์ซะไม่มี ปล.3 แอบฝากบ่นนิดนึงนะคะ  ทำไมหนังเรื่องนี้  ไม่ค่อยมีของที่ระลึกออกมาเลยอ่ะ  เรื่องอื่นเค้ามีทั้งโปสการ์ด  Magnet สารพัด  ไต้ฝุ่นไม่มีไรซักอย่าง  น่าน้อยเนื้อต่ำใจเป็นบ้าเลย อีกเรื่องที่ทำให้ขัดใจคือ  ไม่ใช่แค่คำบรรยายในตัวอย่างช่อง 7 วันนั้น  เท่านั้นนะคะที่ผิด  โบรชัวร์โฆษณาหน้าโรงก็ผิดตั้งเยอะแน่ะ  เวลาทำของพวกนี้  เค้าไม่ได้ดูหนังก่อนเหรอคะ  (สงสัยต้องเป็นงั้นแน่ๆ อาจจะได้แค่ paper มาแปล  แต่แหม  จะแปลให้ถูกหน่อยก็ไม่ได้เนาะ) บ่นแค่นี้แหละคะ... ไว้ถ้าเชิญเฮียมาโชว์ตัวเมื่อไหร่  ทุกอย่างจะให้อภัยหมด ปล.4 ข่าวฝากค่ะ  วันก่อนเราแวะไปร้านใต้โรงหนังลิโด  เห็นมี DVD  Love wind love song ด้วยล่ะ  ใครอยากได้รีบไปคว้าซะนะคะ  อ้อ.. มี ซีรี่ส์เรื่อง Model ด้วย  แต่เราไม่มีตังค์ซื้ออ่ะ  มันแพง  แถมเราไม่ค่อยถูกกะซีรี่ส์เท่าไหร่  ไม่ถนัดดูเรื่องยาวๆ อ่ะค่ะ เหนื่อย  ถนัดหนัง  2-3 ชั่วโมงจบมากกว่า...  และช่วงหลังเฮียก็เล่นแต่หนังให้เราดู...  เย้!!!   ตอนนี้อยากดู coast guard กะ No where มากเลย ...อ้อ friend อีกเรื่อง  ใครเห็นที่ไหนส่งข่าวด้วยนะคะ ปล.5 จบแค่นี้ดีกว่า  สงสัยจะยาวไปแล้ว  รีบเขียนๆไว้อ่ะค่ะ  ช่วงนี้  เราอาจจะได้หายตัวไป 2-3 วันเมื่อไหร่ก็ได้  มีโอกาสโพสเลยต้องรีบโพสไว้ก่อน จากคุณ : ตาราไต  - [ 20 เม.ย. 49 20:48:11 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 54 188 21/04/2006 อีกหนึ่งคำยืนยัน มาไกลจากประเทศต้นกำเนิดเทพ Adonis กล่าวว่า อุ๊ยตาย....ลืมเลย เห็นข่าวคุณโหยวเรื่องประท้วงแล้ว เพิ่งนึกได้ว่า เพื่อนที่อยู่เกาหลี เมลมาบอกว่า ทั้งสื่อ และแฟน ๆ ต่างยกให้ jang dong gun เป็น king ใน วงการบันเทิงของเค้าเลยแหละ .... มิใช่ prince เหมือน เมื่อก่อนแล้ว ... เช่นเวลาพูดถึงก็จะยกขึ้นมาว่า king of fashion ..... hallyu king ..... ตอน typhoon ฉาย เค้าก็เรียกว่า king of movies ... เท่ห์ เริ่ด ระเบิดระเบ้อแล้วเฮียเรา อิอิ คิงโพธิ์แดง จากคุณ : เบดูอิน  - [ 21 เม.ย. 49 00:49:57 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 189 21/04/2006 สาวน้อยของพวกเราในบ้านที่ อดใจไม่ไหว ขอไปดู ไต้ฝุ่น แบบ ดับเบิ้ล มาแอบช่วยตอบค่ะ ในฐานะที่ดูแล้ว ที่โปรแกรมมาบุญครอง เค้าจะเขียนงี้ค่ะ Typhoon Thai/Eng.sub = มี subtitle 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ (จริงๆ มีเกาหลีด้วย)   ถ้าเป็นโรงอื่น (เช่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว  จะเขียนแค่ THAI = พากย์ไทยค่ะ) เรื่องภาษาเราเขียนไว้ในกระทู้นี้แล้ว  ไปอ่านดูนะคะ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4300121/A4300121.html *****หนัง Typhoon กับคำว่า Thai/Eng.sub .......***** (ไม่สปอยเนื้อเรื่องนะ แต่สปอยอย่างอื่นรึเปล่าไม่รู้) ต่อไปเป็นข่าวดีของเรา  ตกลงเราจะได้ดูเฮียอีกรอบแล้วล่ะ  เพราะเลื่อนวันกลับจากเช้าวันเสาร์เป็นตอนกลางคืน  มีเวลาอีก 1 วัน  งานนี้มีเฮ  จะดูซะสองรอบติดเลย   นี่จะเป็นสถิติเรื่องที่ 2 ของเราที่ดูเกิน 1 รอบในโรง  ปกติจะอดใจไว้ดูแผ่น  (เรื่องแรกคือ โหมโรง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว  ซัดไป 4 รอบ  ดูวันเว้นวันเลย  ไม่อยากให้เฮียน้อยหน้าอ่ะ) ปล.สวัสดีเพื่อนใหม่ด้วยคนค่ะ  รู้สึกว่าแถวนี้จะมีวิธีเรียกเฮียหลากหลายแบบเหลือเกิน  สำหรับเราเรียกแค่ "เฮีย" เฉยๆ ค่ะ  ไม่ค่อยกล้าเรียกชื่อ   เคยให้อาจารย์เกาหลีออกเสียงให้ฟัง แต่เวลาพูดกับใครถ้าออกเสียงแบบนั้นเค้าจะเกิดอาการเหวออ่ะ เลยเหลือแค่ เฮีย คำเดียวเป็นอันรู้กัน (ใครไม่รู้ แปลว่าไม่สนิทกะเรา) เหมือนคำว่า "ป๋า" ที่เพื่อนเราก็จะรู้เช่นกันว่า หมายถึงป๋าเดปป์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 49 11:32:48 จากคุณ : ตาราไต (ตาราไต)  - [ 21 เม.ย. 49 11:00:35 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 190-191 22/04/2006 เจ๊เบมา ยืนยันเอง 5 5 5 หลักฐานการเข้าชม ไต้ฝุ่น ทั่วกันทั้งประเทศ เจ๊เล่าว่า มาแล้วค้า....มารายงานตัวค่ะ ..... อยากพิสูจน์ความจริงกับ SF มาบุญครอง เลยฟาดซะ 2 รอบ รวมรอบสื่อเป็น 3 รอบแล้วค่า ดิช้าน เป็นเวรเป็นกรรมของหนังเรื่องนี้ ที่พึ่ง SF มาบุญครอง เป็นหลักในการฉายแบบมีซับ .... เห็นทีทางโรงหนัง ต้องยกเครื่องอบรมพนักงานขายตั๋วขนานใหญ่แล้ว ดูเหมือนเค้าไม่เข้าใจกับคำถามว่ามีซับหรือเปล่า เค้าจะตอบตาแป๋วแหววเลยว่า พากษ์ไทยค่ะ ทั้งที่ทุกโรงที่ฉายมันซับทั้งหมด เราพิสูจน์ด้วยการดู 2 โรงซ้อน รอบ 15.10 น. กับ 18.25 น. มันก็ซับทั้งคู่ .....เนี่ย คนไม่รู้ก็นึกว่าไม่มีซับ ไม่อยากดูซะงั้น พอหนังเลิกเลยแวะไปบอกพนักงานขายตั๋วว่า นี่น้อง ถ้าใครเค้ามาถามว่า typhoon มีซับป่าว ....บอกเค้า ไปเลยนะว่าซับทุกโรง....ยังงี้ก็ไม่มีคนดูอะดิ (อยากจะบอกว่า ก...อู ....เหนื่อยนะเว้ย ... ) พี่ sin พูดออกจะช้าด ... สำ..สิบ ตัน( 30 ตัน ) ตำที่เล่าตกลงกันไว้แต่แล่ก (ตามที่เราตกลงกันไว้แต่แรก) ใครเขียนบทภาษาไทยเนี่ย ให้พี่เค้าด่าด้วย..... ซ้ม ช่าย....(สมชาย) ....แต่พี่นาวาตรีคัง ดูนาน ๆ (ซ้ำสองรอบติดกัน) ก็เท่ห์ดีเหมือนกัน ตอนดูรอบสื่อ ก็ตื่นตาตื่นใจเพราะดูเป็นครั้งแรก ดูรอบสอง คอยฟังเฮียพูดภาษาไทย แล้วก็ดูซับ ด้วย ... บางประโยคฟังไม่รู้เรื่อง พอรอบสาม คราวนี้ดูแต่เฮีย ไม่ดูซับแล้ว ฟังออกมั่ง ไม่ออกมั่ง ช่างมัน .... เพราะมีแนวโน้มว่าเราต้องเจอ กันอีกอ้ะ เพราะสัญญากับเพื่อนไว้ว่าจะเลี้ยงมันหน่อย ช่วงเว้นจากเฮีย อาจไปหนับหนุนน้องติ๊ก เจษฏ์ ซักหน่อย ส่วนเฮียก็คงกลับมาดูก่อนสิ้นเดือน ไม่งั้นเดี๋ยวรอยฉาย ไม่อำนวย.... เราว่าประโยคมันทะ:-) ๆ ....เช่น ตอนที่เฮียพูดโทรศัพท์ กับพี่สาวครั้งแรก แล้วบอกว่า " มันให้คนผิดแล้ว ไอ้สา....ด" น่ะ มันน่าจะเป็น ....มันเล่นผิดคนแล้ว หรือ ม้นไม่รู้จัก ก อู ซะแล้ว ยังจะดีซะกว่า " แล้วคำ ด่าอ้ะ ให้เฮียพูดทำไมไม่รู้ ....พูด ก อู ด้วย.... นี่หลักฐาน.... จากคุณเบดูอินค่ะ (ลืม copy เวลาโพสมา ขออภัยเจ๊) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 57 192 22/04/2006 มาแล้วค่ะ บทสัมภาษณ์ เจดีจี เราว่าน่าจะเป็นตอนที่เขาอายุ 30 หรือเมื่อปี 2002 มากกว่า มะ เชิญทัศนากันเลยตามลิ้งค์ค่ะ (ถ้าใครอยากจะเข้าไป จะได้เจออีก 2 ลิ้งค์ข้างล่างซึ่งจะนำคุณไปสู่ภาพประกอบการสัมภาษณ์ มีซาลาเปา ที่ยกมากันเป็น ซึ้ง เลยค่ะ ) http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4758&show=0 ไม่ชอบที่ตัวเอง ตาโต เกินไป ผมหวังว่าผมจะไม่มีตา 2 ชั้นแบบนี้  (อี๋ เฮียอยากตาหยีเหรอ?)ทั้งยังสามารถเปลี่ยนนิยมเป็นคนกระตือรือร้น จริงๆ ผมได้เคยลองทำดูแล้ว...ยังไงผมก็ยังไม่เคยชินกับ nickname   ผมเป็นคนไม่มี nickname หรอกครับ แต่ตอนที่ผมเข้าวงการใหม่ๆ เพื่อนๆ ในวงการเรียกผมว่า วัว เพราะผมมีดวงตาที่โตมาก ดวงตาที่มองขึ้นมาแล้วเหมือน วัว มาก แต่ผมก็ไม่ชอบดูดี ( แล้วเฮียซาร่า ของคุณ din_hom หละ ไหวมั้ยเฮีย น่ารักออก ที่นี่เรียกกัน ตรึม) จากคุณ : jiayou  - [ 22 เม.ย. 49 08:28:39 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 58 192.1 22/04/2006 (จริงๆ เริ่มรู้สึกเสียดายบทสัมภาษณ์อันนี้ค่ะ เขานำมาแปะ ไม่หมด มัน ขาดหาย เสียดาย เสียดาย จะให้เล่า โหยว ก็เก็บไม่หมดทุกหยด ) ความรู้สึกเมื่อถูกกลุ่มนักศึกษาสาว ห้อมล้อม ครั้งแรกที่ผมถ่ายทำละครซีรี่ส์เรื่อง Our Heaven ฉากนอกสถานที่ฉากแรกของผมคือ การไปถ่ายทำที่มหาวิทยาลัยสตรี มีนักศึกษาสาวจ้องมองผมเป็นจำนวนมาก (ค่ะ เพราะเฮียเรียนแต่โรงเรียนชายล้วนตั้งแต่ ปฐม 5 มั้งถึงม.ปลายเลย).... ผมก็เลยตื่นเต้นมากเลยครับ อย่างฉากที่ต้องถ่ายว่า ผมหิวข้าวนี่ ผมก็ต้องอดข้าวประมาณ 2 วันเพื่อจะเข้าฉากนี้  ตอนนี้กลับมาคิด รู้สึกผมจะจริงจังกับการถ่ายทำอย่างมากในตอนนั้น สาวๆ ห้อมล้อม จนป่านฉะนี้ 10 กว่าปีผ่านไป เฮีย ชินยัง ? จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 192.2 22/04/2006 อยากลองเล่นบทอายุ 20 เมื่อผมเข้าวงการ ก็เริ่มรับบทคนที่อายุมากกว่าตัวผมเองแล้ว ผมเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ยุคสมัยแห่งความเป็นหนุ่มสาว” แบบนี้ พอผ่านวัยเลข 2ไป ก็จะรู้สึกเสียดายมากผม ถ้าผมเป็น นักร้อง ผมเคยออกอัลบั้มหลายชุด ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงประกอบละคร ที่สำคัญก็คือ ผมชื่นชอบการร้องเพลงมาก เวลาที่ผมได้ใส่หูฟัง ผมจะชื่นชอบความรู้สึกในตอนนั้นมากครับ (ใช่ ใช่ ใช่ เห็นประจำเลย สายสีขาวๆๆๆๆ เสียบหู เจดีจี ทุกที่ที่เขาไป) ผมคิดว่า การร้องเพลงกับการถ่ายทำไม่ค่อยมีอะไรที่แตกต่างกันมากนัก แต่ผมชื่นชอบการร้องเพลงนะ ถ้าผมเปลี่ยนไปเป็น นักร้อง ละก็ คิดว่านักร้องอีกหลายคนคง โกรธ (5 5 5 เคืองที่เฮียรูปหล่อมาแย่งทำมาหากินอะดิ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 60 192.3 22/04/2006 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ จางม่านอี้ และ เหลียงเฉาเหว่ย ของจีน ตอนผมเรียนหนังสือ ดาราจีนคนแรกที่ผมรู้จักคือศิลปินหญิงชาวฮ่องกง  จางม่านอี้ ต่อมาได้ดูหนังเรื่องฮ่องกงเรื่อง “เทียนมีมี่”ผมรู้สึกว่า เธอนั่นมีเสน่ห์อย่างมาก สวยมากครับ เธอยังได้รับรางวัลการแสดงอีก รู้สึกว่าเธอเป็นศิลปินที่ความเพียรพยายามมากครับส่วนในบรรดาศิลปินชายชาวฮ่องกง ชื่นชอบ เหลียงเฉาเหว่ย (เฮียเราชื่นชอบเขาทั้ง 2 คนขนาดเมื่อทั้งคู่มาโปรโมทหนังที่เกาหลี เฮียไม่อยู่ ไปต่างประเทศ ยังฝากรถให้เขาทั้งสองคนได้ใช้ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 61 192.4 22/04/2006 เรื่องที่ไม่ถนัดที่สุด ผมไม่ถนัดที่สุดก็คือเรื่อง การเต้นรำ ทั้งยังแสดงออกทางอารมณ์อย่าง โกรธ หรือ ความรัก ไม่ค่อยดี คือมีความเคอะเขินทำตัวไม่ถูก ช่วงเวลานี้ ผมไม่ค่อยมีทักษะในการแสดงออกทางอารมณ์เท่าไร แต่ผมชอบกิจกรรมการออกกำลังกาย ผมชอบเล่นบอล (โห กว้างนะคะ เฮีย เล่นบาส หรือว่า เบสบอล)ซึ่งถ้าผมเล่น ผมจะไม่แพ้ให้ใครง่ายๆ (โม้) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 62 192.5 22/04/2006 บอกเองว่าเคยเห็นขโมย มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนเลิกเรียนกำลังจะกลับบ้าน ผมเห็นหัวขโมยกับตา พอเขาเห็นผม เขาจึงโชว์ของสิ่งหนึ่งในเสื้อนอกของเขาให้ผมดู มันเป็นมีดที่สะท้อนแสงแวววาวด้ามหนึ่ง ตอนนั้นผมไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่พอกลับถึงบ้านแล้วผมโกรธมากๆ เลย ถ้าเป็นแฟนสาวผมถูกล้วงกระเป๋านะ ผมจะไม่ปล่อยให้ขโมยลอยนวลเป็นแน่ (อืม ตอนนั้น เฮียน่าจะอยู่แค่ ม.1-2 นี่เองค่ะ ยังเด็กอยู่ เจอหัวขโมยขู่ เลยกลัว อย่าว่าแต่เด็กเลย เป็นผู้ใหญ่แล้ว ใครจะกล้าเสี่ยงเป็นพลเมืองดี ตายในอุบัติเหตุแบบนั้น) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 63 192.6 22/04/2006 กับประสบการณ์ที่เคย ขโมย ของ ตอนอยู่ป.4 ผมเคยขโมยขนมห่อหนึ่งจาก supermarket ร้านหนึ่งใกล้ๆ โรงเรียน แต่ถูกเจ้าของร้านจับได้ ผมกับเพื่อนนักเรียนอีก 2 คนร่วมกันก่อเรื่องขึ้น จริงๆ ไม่ได้ว่าไม่มีเงินจะซื้อ แต่แค่มีความรู้สึกอยากซื้อของแบบไม่ต้องจ่ายเงินดู แต่เจ้าของร้านคนนั้นดุร้ายมากครับ เขาลากผมเข้าไปทุบตีในโกดัง วันต่อมา คุณครูที่โรงเรียนและฝ่ายปกครองก็ทราบเรื่อง ตอนนั้นคุณครูให้อภัยผมเพราะผมไม่ใช่เด็กเกเร นั่นเป็นประสบการณ์ซึ่งยากที่จะลืมของผมครับ (เฮีย แกจริงใจมากๆ เลย ใครเขาจะนำมา เล่า เสียภาพพจน์หมด แต่เขาก็ เปิดเผย ค่ะ ตรงไปตรงมา น่ารักชะมัดเลย เย้ เพราะฉะนั้น อ้ายโหยว จะมาพูดอีกว่า ไม่รู้จักคนชื่อ เจดีจีกอน ไม่ได้อีกแล้วนะ จำไว้) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 192.7 22/04/2006 ถ้าเลือกจะเป็นสัตว์ชนิดไหนได้ ....ถ้าเลือกได้ ผมอยากให้ตัวเองเป็น เหยี่ยว ครับ หลายปีก่อนผมไปเกาะบาหลีเพื่อกระโดดร่ม ผมชอบความรู้สึกของเหยี่ยวตอนที่มันกำลังเหินเวหาแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เหยี่ยว ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาจู่โจมทำร้ายมันด้วยครับ (Jang Dong Gun ลูกผู้ชายตัวจริง เราเคยเจอผู้ชายที่อยากเป็นพวก นก หลายคน หนึ่งในนั้นก็ พี่ชาย ข้าพเจ้าเองค่ะ พอตัวเองมีลูก ก็ตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า นก เลย คิดดู) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65 192.8 22/04/2006 ใครจะไปสนเรื่อง “เงินทอง” ? ผมถ่ายทำหนังโฆษณาได้เงินเยอะครับ แต่ผมไม่เคยเห็นเงินเลยครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ผมท่านเป็นผู้จัดการเรื่องเงิน ผมอาจหาเงินได้มากกว่าเพื่อนๆ อีกหลายคน ดังนั้นคนอื่นๆ ต่างเข้าใจว่าผมคงร่ำรวยมาก ส่วนตัวผม ผมเข้าใจว่า ความร่ำรวยที่แท้จริง คือการรู้จักช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่มีวิธีการอันรวดเร็วที่จะช่วยทำตรงนี้ แต่ผมมีความตั้งใจตรงนี้มากครับ (เย้ โห ซาบซึ้งจังเลย เฮียพูดจากใจ โหยวก็แปลจากใจเช่นกัน รัก รัก พ่อจางตงเจี้ยน เย้ ใช่ค่ะ คนที่รู้จักพอ ก็ถือว่า รวยแล้ว คนที่รู้จักให้ นี่ยิ่งร่ำรวยเข้าไปใหญ่ จริงๆ เฮียแกเริ่มทำความดีด้วยการช่วยเหลือสารพัดการกุศลทุกรูปแบบตั้งนานมาแล้ว เพียงแต่ไม่เคยป่าวประกาศเท่านั้นเอง ไม่เป็นไร ถ้าเราเจอ เราจะมา ตะโกน บอกให้ที่นี่ค่ะ เย้) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 66 193 5 5 5 ขำกับ คห.คุณ เบดูอิน เธอช่าง โยงใย ไปเกี่ยวกับ เจดีจี จนได้ ดังนี้ 22/04/2006 นี่ดีนะที่ไปดูหนังมาแล้ว 3 รอบ ไม่งั้น....ฮึม สวยค่ะ ### ขอบคุณที่ชม ไม่อยากสวยอ้ะ อยากเหมือนทาคูยะ เพราะทาคูยะหน้าเหมือนน้องบิน แล้วเฮียก็ชอบน้องบิน อิอิ....คห. 164 สวยจังเลย มือค่ะมือ นาฬิกาก็สวย.... ยิ่งตอนกรีดนิ้วจับมีดจะสู้กับนาวาตรีคังด้วยแล้ว ชอย มงซิน เท่ห์มากค่ะ เดินย่างสามขุมเข้าหา ตัวบางเฉียบทีเดียว .... จากคุณ : เบดูอิน  - [ 22 เม.ย. 49 10:07:51 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 67 194 22/04/2006 อีกหนึ่งเสียงของเพื่อนๆ ที่ไปดู ไต้ฝุ่น ณ โรงภาพยนตร์ เมื่อวานไปดูมาแล้ว ถามพนักงานขายตั๋วเค้าก็ยืนยันว่าพากษ์ไทย น่าจับมาอบรมแบบที่คุณเบดูอินว่านั่นแหละ ฟังเฮียแกพูดภาษาไทยแล้วน่ารักมากๆๆ เราก็ชอบนะตอนพูดว่า โตโต้ กูขอร้อง แล้วจำกันได้ป่ะมีอยู่ฉากที่ต้องด่าว่า:-)  เราว่าเฮียแกเป็นคนสุภาพโดยพื้นฐาน เวลาด่าเลยไม่ได้อารมณ์เท่าไหร่ เมื่อวานเราก็ดูรอบ 18.25 นะ จากคุณ : ann (ANN-jen)  - [ 22 เม.ย. 49 12:58:06 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 68 195 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon รู้สึกว่า เรา จะเป็นคนสุดท้ายในบ้านนี้นะคะที่ไปดู ไต้ฝุ่น อืม อยากเล่ายาวๆ แบบละเอียดๆ นานๆ หลายปีไปโรงหนังที เนื่องจากเราพาเด็กๆ ไปด้วย กลัวหลานจะหนาว จึงเตรียมเสื้อไป 2 ตัว ปรากฏว่า ได้ใช้ ค่ะ ดังนั้น เพื่อนๆ ที่จะพาเด็กๆ (คงมีเราคนเดียวมั้ง) ไปดู ควรพกติดตัวไปด้วยเจ้าค่ะ หลังจากร่ำลาเพื่อนๆ ในกระทู้เบอร์ 25 แล้ว เราก็ กุลีกุจอ ไปรับหลาน ปัญหาก็เริ่มเกิดเมื่อเจ้าตัวเล็ก ไม่ค่อยอยากไปเลย หนังอะไรก็ไม่รู้ มีการเกี่ยงกันเล็กน้อย สุดท้ายก็เหมือน จำใจ ไปกับเราค่ะ พวกเรารีบ จ้ำๆ ๆ ไปที่สถานีรถไฟฟ้า ตาก็จ้องมองนาฬิกาข้อมือเป็นระยะๆ ค่ะ กลัวไปจ่ายตังค์ค่าตั๋วที่โทรจองไว้ไม่ทัน 1 ชั่วโมงก่อนหนังจะฉาย พอลงจากสถานีก็ เดินกึ่งวิ่ง และเที่ยวถามหา ลิฟท์ ไปชั้น 7 ตลอดทาง อืม เหมือนคนบ้านนอกเข้ากรุงไงไม่รู้ ระหว่างทาง เราต้องหาวิธี พิชิตใจเด็ก ค่ะ ไม่อยากให้หลานเบื่อกับการถูกอาหลอกในคืนนี้ เราก็คิดเกมให้หลานๆ ช่วยจำรหัสลับการจองบัตร ให้ทายบ้างว่า ลิฟท์ตัวไหนจะเปิดก่อนกัน และแล้ว พวกเราก็มาทันค่ะ มันเกือบจะ 5 โมงเย็นแล้ว พวกเรายืนรอเข้าคิวถูกช่อง และเห็นบอร์ดตัวอักษรไฟฟ้าสีแดงข้างบนช่องจำหน่ายตั๋ว วิ่งมาว่า ไต้ฝุ่น เสียงไทย ซับ ENG โห วินาทีนั้น คนที่เราคิดถึงคือคุณครูเบดูอินเราเอง ทำไมเขา ไม่แก้ ซักทีค่ะ กับตัววิ่งประกาศผิดๆ แบบนี้ เอ๊ะ หรือว่า เขาเปลี่ยนแล้ว รอบนี้ เราจะได้ดู พากย์ไทย ? ? ? จากคุณ : jiayou  - [ 22 เม.ย. 49 22:33:29 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 195.1 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon พวกเรา 3 คนเริ่มถกเถียงกันถึงที่นั่ง หลานสาวอยากกระเถิบเข้าไปใกล้จอ โดยขอไปนั่งแถวกลาง ส่วนอาหญิงสุดโหด สวมวิญญาณเผด็จการ ยืนยันในฐานะคนจ่ายตังค์ ว่า ไม่ยอม ให้นั่งแถวสุดท้ายเหมือนเดิม และแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนะให้เราเปลี่ยนเบอร์จาก 9-11 เป็น 5-7 ค่ะ ส่วนเบอร์ 8 ที่ดูจะอยู่ตรงกลางที่สุด มาดูคนเดียว อืม เธอคือใครกันนะ สาวมั่นแน่ๆ เราคิด พอถึงตอนจ่ายเงิน เราให้แบงค์ 500 เธอไป เธอทอนว่า 140 สุดงงเลยอะ เราจึงทำการทักท้วง แป่ว เธอคีย์ผิด คงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ แล้วก็ไปตามเจ้าหน้าที่ซึ่งเหมือนจะเป็นหัวหน้ามาคีย์แก้ที่หน้าจอ สุดเซ็งกับของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ ไต้ฝุ่น เลย เซ็ง เซ็ง เซ็ง จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 70 195.2 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon ทีนี้ มาดูเวลา อ้าว เพิ่ง 5 โมงเย็นเอง ได้ตั๋วก็ อุ่นใจ แล้ว เวลาที่เหลือขอ ทุ่ม ให้หลานสุดๆ แหม อย่างกะมันอ่านใจเราออกเลย ทั้ง 2 คน ต่างพร้อมใจกันดึงเราเข้าร้าน ไก่ โห ร้าน แด- กด่วน นี่ ไม่เคยเข้าเป็น 10 ปีเช่นกัน เบื่อเมนูที่มีแต่ ไก่ ค่ะ เราทำหรือสั่งอะไรไม่เป็นเลย และแล้วก็เข้าทางเจ้าตัวเล็ก หนูจะเอานาฬิการปลุกอัดเสียง โดราเอมอน :-) ตั้งเด่นเป็นสง่า ราคา 349.-บาท โอ้แม่เจ้า กุจะทำไงดี เอาลูกเขามาเลี้ยง....หนัง เฮ้อ นาทีนั้นตัดสินใจ หลานคงไม่โชคดีที่อาโกวจะพามาเลี้ยงหนังแบบนี้ไปอีกนาน เอา หยวน ก็ หยวน ค่าตั๋วไม่เท่าไรเลยนะคะ หนักหนาสาหัสกับเมนูของเจ้า 2 ตัวนี่ กระเป๋าฟี้บ อาโกวกัดฟัน สั่งอ้ายที่ถูกที่สุดในร้านกิน ข้าวยำแซ้บไก่ 49 บาท ฮือ ฮือ เสร็จปั๊บ เท่านั้นยังไม่พอ ตัวเล็กร้องขอ จะกินไอติม โกว หนูจะกิน เราก็เริ่มเล่นแง่ บอกกับหลานว่า ต้องหาเหตุผลดีๆ มาก่อน โกว ถึงจะซื้อให้กิน เจ้าเด็กฉลาดเป็นกรดคนนี้ ทะลึ่งน่าดู พูดเสียงดังฟังชัดว่า ก็เพราะอาโกวจะได้เป็นแฟนกับแจงดอนกันแน่นอน เราขำ หลานเห็นประโยคนี้ใช้ไม่ได้ก็แก้ใหม่ อืม หนูว่า อาโกวกับเขาต้องมีอนาคตด้วยกันแน่นอน ดูมัน เราขำ แต่ก็ไม่ให้อีก สุดท้าย เด็กงง ตอบไม่โดนใจ เราใจอ่อนเลยต้องเฉลยว่า หนูต้องบอกว่า “อาโกว ต้องซื้อให้หนูกิน เพราะหนูอุตส่าห์มาเป็นเพื่อนอาโกว ” 5 5 5 แล้วก็เสร็จเด็กค่ะ ต้องจ่ายตังค์ค่าไอติมอีก 9 บาท เจ้าตัวใหญ่ เห็นช่องทาง แต่ไม่อยากประเจิดประเจ้อแบบน้อง หันมาเล่นพนันกับเราแทน “อาโกว หนูอยากกินไอติม แต่เป็นของร้าน... หนูว่า อ้ายบิวมันกินอีกไม่กี่คำ รับรองต้องมีหนวด (ไอศครีมเปื้อนเปรอะรอบๆ ปากค่ะ)  ถ้าเป็นอย่างงั้น อาโกวก็ซื้อไอติมให้หนูกิน ถ้าไม่มีหนวด โกวก็ไม่ต้องจ่าย”   แฮะ แฮะ ก็เสร็จเจ้าตัวใหญ่อีกอะค่ะ น้องกินเลอะเทอะมากๆ โห ปากหนาๆ เป็นพวกเงาะเลย สรุป เราโดนเด็ก ถล่ม กระเป๋าฉีกในเวลา 1 ชั่วโมงอย่างรวดเร็วค่ะ เฮ้อ (5 5 5 คนเขาจะอ่านไปดู ไต้ฝุ่น ไม่ใช่เรื่อง พาเด็กไปดูหนัง อืม แต่เราก็ยังอยากเล่าอยู่ดี เย้) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 71 195.3 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon แย่แล้วคุณ chocolate_7521  "ไปดูพากษ์ไทยมาค่ะ ไป3 คน หมดไป 360 บาท " โดนเหมือนเราเลย ไม่น่าเลย เขาจัดโปรโมทชั่นนะคะ ซื้อ 2 แถม 1 ตัวเอง ไป 3 คนจ่าย 240 เก็บตังค์ไว้มาดูรอบใหม่ก็ได้ เสียดายแทน ว้า จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 195.4 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon และเมื่อทุกคนอิ่มกันแล้ว พวกเราก็ขึ้นไปนั่งรอที่ชั้น 8 กันค่ะ มีเก้าอี้นวมหลายแถว พร้อมกับตั้งจอหนังตัวอย่างให้ชม พวกเราไม่สนใจดูหนังหรอก เราโทรทางไกลไปหาหลานอีก 2 คนที่ยังอยู่ ตจว. พร้อมกับให้หลานชายทายว่า อาโกว ดูไหนตอนนี้ ดูหนัง มากี่คน สามารถหลอกใครมาได้ เป็นต้น หลานๆ หัวเราะชอบใจกันใหญ่ที่อาโกวประสบความสำเร็จ เฮ้อ ได้ดูหนังที่แฟนตัวเองเล่นซะที ที่หวาดเสียวนิดๆ ก็คือ เจ้าตัวเล็กสุดนี่ กลัวมันเซ็ง แต่เด็กก็ฉลาดนะคะ กินอิ่มแล้ว ได้ของเล่นแล้ว ก็ถึงตอนที่ต้องทำตัวดีๆ แล้วแหละ ไม่งอแงเลยค่ะ มีฝรั่งมานั่งรอด้วย ซักพักเขาก็ลุกขึ้นขอเดินขึ้นไปในโรง แต่เจ้าหน้าที่ก็กั้นไว้ก่อน เขาเป็น ฝรั่งผิวขาว ตัวอ้วนๆ วัยกลางคน เราก็สงสัยว่า ตานี้ ใช่จะมาดู ไต้ฝุ่น เรื่องเดียวกับเราหรือเปล่า ? สงสัย เดี๋ยวอาจจะรู้คำตอบ เราเจอชุด popcorn อีกระลอก หมดไปเกินพันนะ รวมทุกอย่าง อืม อย่ารวมเลย ไม่งั้นคง เข็ด สงสัยจะไม่พาเด็กๆ ไปอีกต่อไปแน่ เย้ และแล้ว ก็ถือเวลา 18.15 น. ได้ค่ะ ที่พวกเราเข้าไปในโรงหนังกัน จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 73 195.5 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon พอเข้าไปในโรง โห แทบไม่มีใครเลย แล้ว แล้วฝรั่งคนนั้น ที่แท้ เขาก็คือ เจ้าของตั๋วหมายเลข 8 นั่นเอง อ้าว มานั่งติดกับพวกเราเลย เจ้าตัวเล็กเข้าไปก่อน เลยได้นั่งติดฝรั่ง จากนั้นก็เรา และปิดท้ายด้วยหลานสาว เข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความหนาว แฮะ แฮะ เด็กๆ ขอเสื้อกันหนาว เราก็ภูมิใจที่เตรียมมาแล้วได้ใช้ ระหว่างรอ เราพยายามสังเกตผู้คนที่เข้ามาดูว่า จะมากน้อยเพียงใด ช่วยลุ้นจริงๆ รอบนี้น่าจะเป็นรอบที่คนดูเยอะที่สุดในวันเสาร์ อาทิตย์ นะคะ แต่ทำไมมันถึง น้อยแบบนี้ และแล้ว ก็ถือเวลายืนตรงถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โรงหนังก็เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมภาพประกอบ เราเหลือบไปเห็น ฝรั่ง นั่งเฉย ค่ะ ความรู้สึกตรงนั้น ณ วินาทีนั้น บอกตามตรงว่า ตำหนิจริงๆ ยูจะไม่ลุกขึ้นมายืนเคารพกันหน่อยเหรอ ? แต่ แต่มาคิดอีกที เขาคงคิดว่า เขาไม่ใช่คนไทยนี่น่า ดังนั้น...อะ ไม่เป็นไร เราหันกลับมามีสมาธิกับบทเพลงอันสุดแสนไพเราะเพลงนี้ บทเพลงสรรเสริญ พร้อมๆ กับดูภาพประกอบบนจอ ดูไปก็เกิดอาการ ตื่นตัน น้ำตาคลอเบ้าเลย ยิ่งถ้าเป็นวันเฉลิมนะคะ จุดเทียนและร้องเพลงสดุดี เราจะร้องไห้ทุกที รู้สึกสำนึกในพระบุญญาธิคุณของพระองค์อย่างใหญ่หลวง รู้สึกภาคภูมิใจที่มีองค์พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก ฝรั่งไม่เคยมี จะเข้าใจได้ไง ว่า พระองค์ สมควรเคารพรักขนาดไหน เย้ ไชโย อันนี้ถือว่าเราโชคดีที่ได้เกิดเป็นคนไทย มาถึงตรงนี้ ความรู้สึกที่มีต่อฝรั่งคนนั้นเปลี่ยนเลยค่ะ เรารู้สึกว่า ตานี่ มัน ฟาย ไปอยู่หลังเขาไหนมา ข่าวสารอะไรไม่เคยรับรู้ 5 5 5 ช่างมัน จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 74 195.6 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon ต่อไปก็ ถึงซะที โหยว มันจะเล่าเรื่อง ไต้ฝุ่น ที่มันดูมาซะที เฮ้อ เหนื่อยอ่านตามแล้วใช่มะ ? อิ อิ เราขอออกตัวก่อนว่า เราไม่เป็นกลางอย่างมาก คือเรามีใจเอนเอียงสุดๆ ค่ะ ไปทางโจรสลัดคนที่ชื่อ ซิน ดังนั้น การที่เราซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบดาราซุปฯอย่าง เจดีจี มากๆ อย่างที่สุดเช่นนี้ แล้วมาดูหนังที่แฟนตัวเองเล่น มุมมองแบบนักวิจารณ์ไม่มีให้เห็นแน่นอน หรือถ้ามี มันก็ไม่เป็นกลาง ก็อย่างที่บอก ขอเป็นเล่าจากใจ จากความรู้สึกละกันนะคะ ฉากแรกที่เขาปรากฏตัว และคำพูดประโยคแรกที่เขาพูดทำเราฮากลิ้ง เราหัวเราะก๊ากๆ ออกมาเลยไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะเรานั่งแถวหลังสุด และนั่งตรงกลางระหว่างญาติ เย้ เราก็เลย ปล่อยก๊ากออกมากับ “ มะมี พะ ยาน” ของเฮีย เออ ไม่ทราบหนัง ไต้ฝุ่น เรื่องนี้เป็นไรไปแล้ว คือ มันกลายเป็นหนังตลกสำหรับเรานะคะ จะบอกให้ เฮ้อ เฮียมาเห็นเราหัวเราะตลอดคงโกรธน่าดูชม จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 75 195.7 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon เราเริ่มมาสำนึกผิดเอาตอนที่หลานชายเจ้าตัวเล็กหันมาหาเราแล้วพูดว่า “โห ทำไมเขาร้ายกาจยังงี้ละอาโกว โห ทำไมพระเอกเขากลายเป็นแบบนี้ ” โห นาทีนั้น guilty เลยค่ะ รู้สึกผิดว่า ทำไมพาเด็กๆ มาดูหนังแบบนี้ว่ะ โหยว ไม่ทันได้คิดเลย ผิดไปจริงๆ เวรกรรม จะสั่งให้เด็กๆ ปิดตา จะทันมั้ย ? แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ปลอบใจตัวเองว่า ทำผิดไปโดยไม่ได้เจตนาเลย พ่อคุณ และแล้วหนังก็เป็นหนังเสียงในฟิล์มหรือที่เรียกกันว่า Soundtrack และมี Subtitle เป็นไทยค่ะ 5 5 5 นึกแล้วก็เหมือนที่อาจารย์เบดูอินเราบอกเลย เคานเตอร์ขายตั๋วนี้ เมื่อไรจะเปลี่ยน จะแก้ซักที หรือว่า ไม่สน จริงๆ มันจะเสียหายอะไรเท่าไร  อันนี้ก็ถือเป็น เครดิต อย่างหนึ่งนะคะ ยับเยิน เลยคืนนี้เพราะ เพราะอะไร ? ก็เพราะอย่างน้อยก็มี ฝรั่ง ตั๋ว บี8 มานั่งชม 1 คน เราแอบสังเกตเขาเป็นระยะๆ  บางทีเขาก็ เซ็ง นั่งก้มหน้าหรือไม่ก็หลับตาซะงั้น เฮ้อ ยังแอบนึกเลยในบางครั้งว่า นี่ไงยู เมื่อกี้ ไม่ลุกขึ้นมายืน คำนับ เป็นไง จริงๆ เห็นใจเขาค่ะ ไม่น่าเลย เขาสื่อสารกะใครอะไรยังไงหรือเปล่าก่อนจะตัดสินใจซื้อตั๋วเข้ามาดู หรือพี่แก มาของแก เป็นพวกปัจเจกชนนิยม ที่ไม่สนคนรอบข้าง เออ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 195.8 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon สิ่งที่เราพบต่อไปก็คือ โห คุณอะไรนะคะ คุณกฤช หรือเปล่า เขาพูดอังกฤษได้ดีมากเลย และก็เล่นได้ โอเค เลยอะ โกอินเตอร์ไปเลย โหยวเชียร์ แต่เสียดาย เขาเล่นเพียงไม่กี่ฉากก็ถูกยิงเดี้ยงไปแล้ว ถึงไม่ตายก็หยอดน้ำข้าวต้มไปอีกนาน ที่รักของโหยว ยังคงนำความบันเทิงมาให้หัวเราะเป็นระยะๆ หนังจะเครียดยังไง เราไม่เคยเครียดตาม นึกอยู่ว่า เมื่อไรจะพูดไทยอีกฟะ อยากฟัง 5 5 5 หลายต่อหลายประโยค ฟังไม่รู้เรื่องเลยที่รัก ยูแน่ใจนะว่า พูดไทย โห เราอยู่ไทยแต่เกิด ยังฟังไทยของยู มะออก เฮ้อ ขาดทักษะการฟังอย่างแรง 5 5 5 ที่ฮาสุดๆ เลยนะคะ ก็ตอนที่คุณสมชาย กะ คุณซิน มายืนพูดไทยกัน โอ๊ย เราขำจนไม่รู้จะบรรยายยังไงถูก บอกแล้วไงว่ เหมือนดูหนังตลก คือว่า ฟังไม่รู้เรื่องทั้งคู่ อยากแยกหูไปฟัง สั่งตามาอ่านซับ แหมแยกได้จริงๆ ก็ดีซิค่ะ สรุป ไม่รู้เรื่อง และนี่ละมั้งคะ ที่ทำให้คนชื่อ เบดูอิน ต้องไปดูถึง 3 รอบแล้ว  5 5 5 ใช้กลยุทธ์แบบนี้นี่เอง ดึงดูดแฟนๆ เจดีจี ที่เป็นสาวชาวไทย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 195.9 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon หลานๆ ทั้งสองไม่ค่อยอยู่นิ่ง เดี๋ยวก็ข้าวโพด เดี๋ยวก็ น้ำ เราขู่ว่า ถ้าปวดฉี่จะไม่พาไป เพราะเราจะดูหนัง เราจะไม่ยอมลุกไปไหนเด็ดขาด จำไว้นะ โชคดีเป็นของเราอีกครั้งค่ะ ที่ไม่มีการร้องขอจะเข้าห้องน้ำ ที่เห็นใจพอๆ กะฝรั่งก็คือหลานชายเจ้าตัวเล็ก เพราะเขาอ่านตามซับไม่ทัน พอมีฉากพูดไทยที หลานจะดีใจมาก เออ เป็นงั้นไป ส่วนที่เหลือๆ ของเรื่อง นอกจากขบเคี้ยวแล้วก็ตั้งท่าจะนอน แต่จะนอนลงยังไงได้ เสียงออกกระหึ่มขนาดนั้น และอย่างน้อย 2 ถึง 3 ครั้งที่หลานจะหันมาถามเราว่า เมื่อไรหนังจะจบ สรุป ผู้ชาย 2 คนข้างขวาของเรา ดูด้วยความเซ็งทั้งคู่ ส่วนสาวด้านซ้าย แม่คนนี้อ่านหนังสือ ไว มากๆ ค่ะ เธอขยันอ่านซีรี่ส์ อะไรนะ เด็กน้อย 5 คนผจญภัยอะไรเนี่ยะ เฉลี่ยวันละถึง 1 เล่มครึ่ง พามาดูหนังสบายมาก เราถามหลานว่า ฟังที่พระเอกพูดไทยออกหรือเปล่า ? หลานว่า บางคำก็ออก แต่บางครั้งก็ไม่รู้เรื่องเลย แล้วก็หัวเราะ ระหว่างดู เพื่อนๆ เชื่อมั้ย มีครั้งหนึ่งที่เราอยากจะทิ้งจอแล้วหันไปนับจำนวนผู้ชมในโรงแทน แต่มาคิดอีกที รู้สึกเราจะลำดับความสำคัญผิดพลาดซะแล้ว ช่วงเวลานี้ ต้องจ้องมอง ซิน อย่างเดียว หนังฉายไปกว่าครึ่งเรื่องแล้ว ยังมีผู้ชมเข้ามาอีก 3-4 คน พวกเขาเป็นใคร ทำไมถึงยอมที่จะเข้ามานั่งดูตอนนี้  ? ? ? อึ้งจริงๆ ค่ะ หรือว่า พวกเธอและเขาเพิ่งจะเสร็จงานและตั้งใจอย่างมากที่จะมาดูให้ได้ งั้นก็นับถือในสปิริตความรักที่มีต่อเฮีย นี่ มั่วไปโน้น จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 78 195.10 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon จริงๆ จะว่าหลานชายเซ็งมากๆ ซะทีเดียวก็ไม่ใช่ค่ะ เราและหลานพร้อมใจกันขำกับบทของ โตโต้ ที่บ้าระห่ำ ยิงกราดเหมือนฉีดน้ำสงกรานต์เลย ยิงไปเป็นร้อยไม่รู้จะถูกใครซักคนหรือเปล่า ตลกดี หัวเราะด้วยกันทั้งคู่ค่ะ 5 5 5 นี่คงเป็นแอ็ดชั่นง่ายๆ ที่เด็กก็ดูรู้เรื่องมั้งคะ ที่น่ารักก็คือ พอหลานกลับเข้าบ้าน เจออาม่า ก็มาเลย เล่าแค่ฉากนี้ฉากเดียวว่า โตโต้ ยิงผึดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ร้องเพลงวันสงกรานต์ด้วยม่า  อาม่าถามว่า สนุกมั้ย ? หลานตอบว่า สนุก (โห เด็ก ดูฉากเดียวรู้เรื่องและหัวเราะได้ก็บอกสนุกแล้ว  5 5 5 แบบนี้ สงสัย 21 ล้าน แต่ต้องพาเด็กๆ ไปดูเยอะๆ นะคะ อืม อย่าเลยค่ะ รู้สึกจะโดนจำกัดอายุคนดูหรือเปล่าที่เกาหลีและที่อื่นๆ แต่พี่ไทย สบายใจเฉิบค่ะ) หลังดูจบ เราอยากได้นักวิจารณ์ที่เป็น กลาง เราจึงต้องพึ่งหลานสาว ถามเธอว่า หนังเป็นไง สนุกมั้ย ? เธอมองเรา(อืม จะเกรงใจเราคนจ่ายตังค์อะเปล่าไม่ทราบได้ ) แล้วก็พูดว่า ก็สนุกดีโกว จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 79 195.11 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon บอกตามตรง ไม่มีฉากไหนที่ทำให้เราเศร้าจนจะร้องไห้ออกมาได้เลยค่ะ เพราะเรามัวแต่ไปจดจ่อกับบทพูดไทย นี่แหละจุดอ่อนของเราในการไปดูหนังเรื่องนี้ ถ้าเรามีโอกาสได้ดูอีก ก็จะเป็นอิหรอบเดิม ชัวร์ เพราะเราเป็นคนชอบบันเทิงอยู่แล้ว หนังยิงรันฟันแทงไม่เคยคิดจะดู แบบว่าจะห่ำหันกันบนเตียง เออ ค่อยมาว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง 5 5 5 ต่อไปคิดว่า จะเลิกเล่าเรื่องคนในครอบครัว แล้วหันมาโปรโมทหนัง ไต้ฝุ่น ของที่รักอย่างจริงจังซะที อะ ขออนุญาตเริ่มเลยนะคะ   สิ่งที่เราสัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือ Jang Dong Gun เขาคนนี้ ได้ทุ่มเทให้กับการสวมบทบาทในเรื่องนี้อย่างมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิตการแสดงของเรา เรารู้สึกได้ ถึงแม้จะไม่ลึกซึ้งตามไปกับเขาด้วยก็เถอะ เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจหลายๆ อย่างที่เขา ทุ่มเท กับมัน อะ แจกเป็นข้อๆ 1.ลดน้ำหนัก เกิดมานี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขานะคะ เราว่า เขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรตามกระแส อย่างการลดน้ำหนักนิ อย่างเขา คงไม่ทำหรอกค่ะ เพราะถึงเขาจะหน้าอ้วนๆ ซาร่า ยังไงก็ยังขายได้อยู่ดี เนื่องจากหล่อมากนั่นเอง แต่กับหนังเรื่องนี้ เขาทุ่มเทค่ะ ยิงปืนทีแก้มไม่กระเพื่อม ถือว่าสอบผ่าน ลดได้ดั่งใจ เรายังนึกเลยว่า ถ้าเขาตั้งใจจะเลิกบุหรี่จริงๆ เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน แต่นี่ ไม่อยากเลิกหรอก ไม่ต้องมาอ้างอะไรอย่างอื่นเลย จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 80 195.12 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon 2.ความอดทนเพียรพยายามกับการแปลงโฉมให้อัปลักษณ์ เขาทุ่มเทตื่นแต่เช้ามาหลังขดหลังแข็งนั่งนิ่งๆ ให้แต่งหน้า แต่แม้ ไม่ค่อยได้เห็นรอยสักเลย เอ๊ะ หรือเราจ้องแต่หน้าก็ไม่รู้ซิ พูดถึงการสัก การทำหน้าเป็นแผลก็ให้ขำคุณ สมชาย ค่ะ ซิน ทำเป็นรูปวงพระจันทร์ พอไหว ไหงเฮียสมชายแกมาเป็นรูปกากบาก หรือเครื่องหมายคูณ โห คิดแบบกันไม่ออกแล้วเหรอคะ ? ตลกอะ เอ๊ะ หรือนี่เป็นอีก 1 มุขฮา 3.การฝึกฝนทางภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย ถึงเราจะขำกับคำพูดไม่ชัดของเขายังไงก็ตาม ก็ถือว่า ให้เขาสอบผ่าน 5 5 5 เนื่องจากมีบทพูดไทยเยอะ แล้วเขาไม่เคยชินกับวรรณยุกต์ 5 เสียงของบ้านเราด้วย ก็เลยเป็นเช่นนี้ ที่น่าตีก็คือ ท่องแทบแย่ หลังปิดกล้อง ดันจำคำไทยอะไรไม่ได้เลยนอกจาก สวัสดีครับ คำเดียว 4.เขาต้องฝึกขับเรือวิ่งอีก น่าหวาดเสียวมากๆ เพราะเขาเข้าฉากเสี่ยงตาย ขับด้วยความเร็วสูงแบบนั้นด้วยตัวเอง ไม่อยากนึก หรือไม่ต้องนึกเลยดีกว่าค่ะว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันจะเป็นยังไง ฉากขับเรือเร็วๆ ที่ว่านี้ มีให้เห็นถึง 2 ตอน ขอบอกว่า ยอดเยี่ยมในความตั้งใจ ชื่นชมในผลงานที่ทุ่มเทค่ะ ที่รัก จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 81 195.13 22/04/2006 เมื่อ jiayou ไปดู Typhoon 5.ฉากที่ต้องใช้อารมณ์ โห เขาบิ้วได้แบบชนิดที่เรียกกันบ้านเราว่า น้ำตาสั่งได้ แต่อีตอนก่อนมันจะไหลออกมานี่ซิ โห เอ่ออยู่ตรงเบ้าตาดวงโตๆ ของพ่อคุณ เป็นหยดน้ำเม็ดเป้งๆ สุดยอดในการเรียกอารมณ์ตัวเองกับฉากนี้ แบบนี้ต้องเรียกว่า นักแสดงมีฝีมือจัดจ้าน ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงค่ะ เสียดายแต่เราไม่ได้ใช้อารมณ์เข้าไปร่วมจับกับเขาด้วย เราเป็นเพียงคนดูที่จ้องจะหาความสำราญกับเสียงพูดไทย มันจึง อิน ไปไม่ไกลเท่าไหร่กับความชอกช้ำในใจของซิน แต่ถ้าจะถามถึงฉากประทับใจ เราประทับใจกับฉากก่อนการต่อสู้บนสะพานในเรือฉากนั้นเป็นที่สุด เขาตะโกนออกมาไง เหมือนใช้พลังทั้งหมดในร่างที่มี เปล่งเสียงคำรามอย่างราชสีห์ออกมาแบบนั้น ฉากนี้เป็นฉากสุดยอดในใจ ประทับใจไปอีกนานแสนนานเจ้าค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 82 196 23/04/2006 คำรำพันของ จิ๋วหลิว แม่นางโหยว เล่าต่อเน้อ.... ฉากที่ป๋ารับโทรศัพท์แล้วบอกว่าไม่สนหรอกว่าใช่พี่ไหมขอดูสินค้าก่อน แล้วพอได้ยินเสียงพี่นะ แบบว่าเราก็เจ็บปวดเหมือนป๋าเลย อีพี่เรามันร้องไห้ตอนที่ป๋ากอดกับพี่สาวแต่เราแค่น้ำตาคลอ แต่เราไปซึ้งกับพี่นาวาตรีคังที่พูดว่า ผมรักแม่ครับ เอิ๊ก เอิ๊ก ทั้งซึ้งทั้งฮา  ฉากป๋าเจอพี่สาวดูในโฆษณาแป็ปๆยังเศร้ากว่าตอนดูในหนังรึว่าเราอินกับเพลงที่เขาเปิดอ่ะ คลิปที่โหลดมาตอนป๋าไปญี่ปุ่นนะ ตอนดูนะฉากนี้ฉันต้องเสียน้ำตาแน่ๆ หนังยังขาดๆเกินๆ อย่างตอนในเรือที่ป๋าเดินเข้ามา แล้วเรียกโตโต้ ดูเหมือนเมาๆแล้วก็ตัดไป แต่ก็มีบางช่วงที่เราเผลอดูซอกคอป๋า เราก็ไม่ได้ฟังเขาพูดอะไรกัน ถามอีพี่ก็ไม่รู้เรื่อง เหอ เหอ สรุปคือต้องดูอีกรอบ เพื่อนี่เราอยากดูด้วย อิอิได้เหยื่อมาอีก 1คน จากคุณ : jewlau  - [ 23 เม.ย. 49 00:40:09 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 83 197 23/04/2006 เพื่อนอีกท่าน กรุณามาร่วมแจม เย้ เราไปดูเมื่อคืน รู้สัจจะธรรมอยู่ข้อนึงนะ คนหล่อคือหล่อ ต่อให้บทหนังที่เค๊าเล่นต้องมีแผลเป็นอัปลักษ์ทั้งตัว ก็ยังหล่อออออออออออ คิดดูดิ ไปดูภาคไทยเพราะอยากดูหน้าเฮียตลอดเวลาอ่ะ ดีอะชอบๆๆๆๆ มีพี่ไท แสดงด้วยตั้งหลายคนแนะ จากคุณ : Greenflower (chollagreen)  - [ 23 เม.ย. 49 08:54:53 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 84 198 23/04/2006 อีกท่าน กรุณามาเล่าความรู้สึกที่สัมผัสได้จากหนัง ไต้ฝุ่น กัน จิ๋วหลิวและสาวๆบ้านป๋าแจงจ๊ะ  บะหมี่ไปดูมาแล้วนะ หนุกดีจ้ะ หนังเค้าลงทุน แม้ป๋าแจงจะตั้งใจให้โทรมแค่ไหน ก็ยังหล่อเท่อยู่ดี^^ เรื่องภาษาไทยของป๋า ก็ถือว่าเข้าขั้นนะ บางประโยคชัดแจ๋ว แต่บางประโยคงงอ่ะเลยต้องอ่านซับ(คนไทยฟังไทยไม่ออกต้องอ่านซับไทย เหอๆ) แต่ว่ายกนิ้วให้จ้ะสำหรับความพยายามของป๋า บางคำฝึกพูดได้ชัดกว่าดาราไทยบางคนอีกนะ หุหุ แล้วก็แสดงได้ดีมากจ้ะ ช่วงแรกดูโหดไร้วิญญาณ ช่วงหลังก็จะมีที่มาที่ไป ทำไมป๋าถึงได้หน้าโหดซะขนาดนั้น ไม่คิดว่าหนังจะมีดราม่าเยอะขนาดนี้ ก่อนไปดูคิดว่าจะแอคชั่นเยอะๆอ่ะ แต่ช่วงแรกๆไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ งงๆ แล้วก็ง่วงนอนด้วย หาวบ่อยมาก คงเพราะไปดูรอบบ่ายแก่ๆ แต่ว่าไม่หลับนะจ๊ะ ความเท่ของป๋ามาสกัดไว้จ้ะ สำหรับเรา ชอบฉากที่ป๋าร้องไห้อ่ะจ้ะ(สปอยได้เลยใช่ป่ะ) ตอนป๋ากอดพี่สาวแล้วป๋าบ่อน้ำตาแตกอ่ะ โห สุดยอด แสดงได้ดีมาก สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่โหยหามานาน เก่งจ้ะเก่ง  ส่วนอีกฉากที่ฮาดีและเพื่อนเราชอบฉากนี้มาก(เห็นพูดถึงบ่อย) ก็คงฉากวันนี้เป็นวันสงกรานต์...เซอร์ไพรส์ดี^^ คิดๆไปเรื่องนี้ก็เหมือนจะเป็นหนังไทยไปแล้ว ทั้งพูดไทย เพลงประกอบก็ไทย นึกๆอยู่ว่าถ้าเรื่องนี้ทำOST.จะมีเพลงวันสงกรานต์รวมอยู่ด้วยรึเปล่า^^" จากคุณ : บะหมี่เผ็ดร้อน   - [ 23 เม.ย. 49 23:54:01 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 85 199 23/04/2006 http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=4761&show=0 ชาวเน็ทต่างสนใจถกเรื่องราวความเป็นมาในอดีตและปัจจุบันของ จางตงเจี้ยนเป็นอย่างมาก ข่าวเมื่อวันที่ 22/04/2006 เป็นโฆษณาของกินที่จางตงเจี้ยนถ่ายทำตอนเข้าวงการใหม่ๆ หลังจากถูกนำออกมาเผยแพร่ในเว็บกระทู้ DAUM แล้ว ชาวเน็ทก็เริ่มให้ความสนใจ ต่างเข้าใจกันว่า แต่ก่อน จางตงเจี้ยน มีภาพลักษณ์ของหนุ่มหล่อต่อมาก็มีชาวกระทู้หลายต่อหลายคนที่ต่างออกมายืนยันว่า “นับถึงตอนนี้ เขาก็ยังหล่อมากอยู่เหมือนเดิม”และหรือ “เขาก็คือนักแสดงอันดับ 1 ของประเทศนั่นเอง”เป็นต้น ซีรี่ส์หนังรักของจางตงเจี้ยนในทศวรรษที่ 90 ได้รับการต้อนรับจากสาวๆ เป็นอย่างมาก ตอนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงภายในประเทศเท่านั้น เขาได้กลายเป็นสุดยอดซุปเปอร์สตาร์ที่ดังที่สุดในเอเชียไปแล้ว จางตงเจี้ยน ไม่เพียงแต่เป็นหนุ่มรูปงามที่เพียงภายนอกเท่านั้น เขายังเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงอีกด้วย ตอนนี้แฟนๆ ชาวเน็ทต่างก็รอคอยหนังยิ่งใหญ่เรื่องต่อไปของเขาหลังจาก TAEGUKGI และ The Promise เพื่อที่จะให้เขาได้แสดงบทบาทหลากหลายยิ่งขึ้น อันจะเป็นการแสดงถึงพลังความสามารถของเขาอีกครั้ง (เฮ้อ เห็นหรือยังค่ะเพื่อนๆ แฟนๆ จากทั่วโลกต่างกระหายข่าวเจดีจี พวกเธอก็ไม่มีอะไรจะเสพเหมือนเรา พยายามไปขุดข่าวอะไรแบบนี้มาก็ไม่รู้ แก้ขัด กันไปก่อน เฮ้อ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 86 199.1 ข่าวเมื่อวันที่ 23/04/2006 ภาษาญี่ปุ่นของจางตงเจี้ยน แข็งๆ อย่างไรไม่ทราบ ทั้งคนเกาหลีและญี่ปุ่นต่างกำลังล้อเขาอยู่ (อิ อิ ตกไทยไปได้ไงครับท่าน คนบ้านนี้ขำกลิ้งขำก๊ากกะภาษาไทยของเฮียอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และก็แปลก คนพูดภาษาอะไรนอกจากเกาหลีไม่เคยชัด กลับต้องมาโดนจับให้พูดแต่ภาษาต่างด้าวอยู่ร่ำไปก็ไม่รู้ แล้วใครจะไปจดจำไว้ โต-โต้-กุ ขอ-ร้อง) ล่าสุดในแผ่นโปสเตอร์ที่มีหน้าจางตงเจี้ยนโฆษณาเครื่องสำอางสตรีอยู่นั้น มีคำพูดที่ว่า  “Therefore favorite” แต่ว่าโฆษณาชิ้นนี้ เมื่อได้ชมในทีวี จะไม่ใช่เสียงของเขาเอง จึงทำให้ในเว็บไซด์บางแห่งเขียนแซวเขากันอย่างสนุกสนาน รายการTalk Show รายการหนึ่งของสถานีฟูจิทีวีในญี่ปุ่น พิธีกรทำการล้อเล่นด้วยการชี้ให้แขกรับเชิญทำรายการที่พูดภาษาญี่ปุ่นแล้วไม่เป็นธรรมชาติ  จากนั้นก็หยิบยกเอาคำพูดของ จางตงเจี้ยน Therefore favorite ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นคำนี้มาเล่น ทำให้ผู้คนหัวเราะกันงอหงาย จบข่าว (วงเล็บ คนแปลคือคุณ xiang yun ก็ต่อว่ารายการว่า ไม่รู้ข้อมูลจริงๆ ว่าเจดีจีไม่ได้พูดเอง แถมยังรู้สึกว่า พิธีกร ช่างไม่จริงใจเอาเสียเลย ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ดำเนินรายการแบบนี้ค่ะ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 87 200 24/04/2006 ข้อมูลสนุกๆ ของคนหัวคิดสร้างสรรค์ ตามลิ้งค์นี้นะคะ http://ent.sina.com.cn/x/2006-04-24/08591062549.html เขาไปดึงดาราชายชาวเกาหลีมาประกบคู่กับคำบรรยายตามตัวอักษร ตั้งแต่ A ถึง Z หาชื่อแต่ละคนเป็นภาษาอังกฤษแทบแย่ คิดว่า ถ้าหายาก เดี๋ยวแปะเป็นพินอินให้หมดซะเลย แต่ก็ โชคดี หารอดมาได้ เย้ A. . .I I = – invariable Jang Dong Gun มีคนพูดว่า ดาวตก ก็เหมือนกับ ดารายอดนิยม ฉันว่าเขาคนนี้เป็น ข้อยกเว้น เขาน่าจะเป็นดาวที่อยู่คงที่ เป็นดาวที่เจิดจรัสแสงตลอดไป รู้สึกชื่นชอบผลงานการแสดงทั้งละครและหนังของเขาเป็นอย่างมาก และหลงรักการปฏิบัติอย่างถ่อมตนกับทุกผู้ทุกคนของเขาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมีดาราสุดยอดซุปเปอร์รวมตัวกันอยู่มากน้อยเพียงใดก็ตามที จะมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ เปล่งประกาย ที่สุด ไม่ว่าจะรับบทดีหรือร้าย ถ้าเป็นเขาแสดง ทุกบทบาทจะดูมีสีสันขึ้นมาทันที คำพูดจาก Model คำพูดของคุณดุลดั่งคมมีดที่กรีดทำร้ายผม คุณก็คือจุดอ่อนของผมนั่นเอง ผมเกลียดคุณ ความรักนั่นมันไม่ผิด แค่ปล่อยมันไปเท่านั้นก็สิ้นเรื่อง ผมนี่แหละเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก แต่พอได้ฟังว่า คุณนั่นจะจากไป ผมไม่กล้าแต่จะคิดถึงวันที่อยู่โดยไม่มีคุณ ผมกลับอยากตายในอุ้มมือของคุณมากกว่า จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 88 201 24/04/2006 เจ๊ใหญ่แห่งบ้านเรา ร่วมแจม คห.ว่า . . . I – invariable Jang Dong Gun ทำไมเรามองข้ามคำนี้ไปได้น้า ....พ่อดาวฤกษ์ สุกสว่างตลอดกาล จากคุณ : เบดูอิน  - [ 24 เม.ย. 49 23:37:09 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 202 25/04/2006 เพื่อนๆ ยังเข้ามาเล่าเรื่องดู ไต้ฝุ่น กันต่อไป เย้ กลับมารายงานตัวแล้วค่า... หายหน้าไปหลายวัน  ไปย้ายถิ่นฐานมาคะ  เหนื่อยสายตัวแทบขาด  เพิ่งรู้วันนี้เองว่า  ย้ายหอของเราคนเดียวเทียบได้กับการย้ายห้องสมุดขนาดเล็กหนึ่งแห่ง  คนมาช่วยย้ายคงเข็ดไปตามๆ กัน กว่าจะกลับมาได้  กระทู้ทางนี้วิ่งข้ามกันไปซะ 2 กระทู้เลย  ขายดีจริงๆ  กลับมาซะป่านนี้  จะมาขอเม้าท์เรื่องหนังยังทันมั้ยนี่... ไม่รู้เป็นไง  อ่านที่เพื่อนๆ โพสแล้วดูแต่ละคนไม่ค่อยพูดถึงตัวหนังกันเท่าไหร่เลย  (ไม่กรี๊ดเท่าที่กรี๊ดตัวเฮียรึเปล่า) เราว่าหนังทำได้ดีมากๆ  เลยนะ  ทั้งพล็อต การตัดต่อ  สเปเชี่ยลเอฟเฟค  และแน่นอน...รวมถึงฝีมือของนักแสดงด้วย  ทุกอย่างเลย  เชื่อว่ามีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอีกมากแน่ๆ  นอกจากเงินที่ได้ไปหลายแล้ว เพื่อนเราที่ไปดูด้วยในรอบที่ 2 ของเรายังว่า  ดูโดยรวมทั้งหมด  เทียบหนังฮอลลีวู้ดสบาย เอาเป็นว่า  มาพูดถึงตอนที่เราประทับใจดีกว่า  เราว่าจุดสำคัญของหนังเรื่องนี้  นอกจากการตามไล่ล่ากันของสองหนุ่มแล้ว   หลักใหญ่เล่าเรื่องอยู่บนโศกนาฏกรรมของพี่น้องชอย  ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวเกาหลีที่ประสบชะตากรรมเลวร้ายจากการแบ่งชาติ ฉะนั้น  ในตอนสุดท้ายที่ทำให้เราสะเทือนใจก็คือ  คำพูดของคังเซจงที่เฉลยออกมาว่า  จริงๆ แล้วซินไม่ได้ตั้งเวลาระเบิด  ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายล้างเกาหลีจริงๆ  เค้าแค่ "ต้องการให้เป็นที่จดจำ ไม่อยากถูกลืมไปอย่างคนไร้ค่า"   จากนั้นก็ตัดภาพให้เห็นเครื่องตั้งระเบิดที่เปิดไว้เฉพาะสวิตซ์สีน้ำเงิน (สวิตซ์สีแดง คือ การตั้งเวลา  ที่ซินไม่ได้กด  แม้ว่าตอนแรกหนังจะฉายให้เห็นเค้าเอานิ้วทาบมันไว้แล้วก็ตาม) และฉากต่อมาก็คือการเฉลยเหตุผลของการกระทำของเค้า (ฉากที่คุณ jewlau งงนั่นเอง)  คือย้อนมาตอนก่อนที่ซินจะพาพี่สาวลงเรือ  ซินตอนนี้เปลี่ยนจากซินโจรสลัดผู้โหดร้ายกลับมาเป็นชอยมงซิน น้องชายคนเล็กของพี่   "โลกนี้โหดร้ายเกินไป  เรากลับไปอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของพ่อกับแม่เรากันเถอะ".... จากนั้นหนังปิดท้าย  ส่งอารมณ์ด้วยฉากชีวิตช่วงที่น่าจะมีความสุขที่สุดของสองพี่น้อง   ช่วงที่ชีวิตกำลังเปี่ยมด้วยความหวัง  รวมทั้งเฉลยปมที่ค้างอยู่ตั้งแต่กลางเรื่อง   จดหมายที่ชอยมงจูส่งให้เซจงเอาไปยืนยันตัวเธอกับซิน  ตอนนั้นเรารู้ข้อความในจดหมายเพียงประโยคเดียว คือ "ถึงเด็กๆ ชาวเกาหลีใต้ทุกคน" แต่เซจงรู้ข้อความทั้งหมด  และเป็นจดหมายฉบับนี้เองที่ทำให้เขาเข้าใจถึงจิตใจของซิน  ว่าคนๆ นี้ไม่ได้เป็นอาชญากรโดยสันดาน (((...ใช่แล้วล่ะ  ตรงนี้  คือการตอบคำถามของเพื่อนเราที่ว่า   ทำไมมันเข้าใจกันได้ฟ่ะ  ได้เคยคุยกันไม่กี่ประโยคเอง เราคิดว่า  หนังบอกเอาไว้ชัดแล้วว่า  เซจงเข้าใจซินจากจดหมายฉบับนั้นและเรื่องราวทั้งหมดที่พี่สาวซินเคยเล่าให้ฟัง ส่วนตัวซิน  หนังไม่ได้บอกชัดเจน  แต่เราคิดเองว่า  ลึกๆ แล้ว  ตัวเขาเองไม่ได้ต้องการทำสิ่งที่เลวร้าย  ไม่ได้ต้องการเป็นอาชญากร  บางทีจิตใจเขาอาจจะแบ่งแยกเป็น 2 ส่วน  คือดีกับชั่วที่ต่อสู้กันเองอยู่ตลอดมา   พอเซจงปรากฏตัวมันเลยเหมือนตัวตนฝ่ายดีที่ซ่อนอยู่ข้างในแสดงตัวออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ซินถึงได้เข้าใจความรู้สึกของเซจงได้ราวกับเป็นความรู้สึกของตัวเองด้วยเหตุผลนี้เอง "สหาย  สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นที่สุดตอนนี้คือ  เราทั้งคู่ต่างเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน"......))) ..... เราชอบนะที่เค้าลำดับสองฉากสุดท้ายนี้ให้มาอยู่ทีหลัง  หลังจากหนังพาอารมณ์เราพีคถึงที่สุดด้วยความตายของซินด้วยวิธีการที่คังเซจงเองยังคาดไม่ถึง   อารมณ์ที่พีคถึงที่สุดเหมือนน้ำที่ถูกเก็บไว้เต็มเขื่อน  มาถูกเจาะให้ทะลักทลายด้วยเข็มเล่มเล็กๆ  ในสองฉากสุดท้ายนี่เอง... ******************************************** ปล.คุณโหยวพาหลานไปดูด้วยเหรอคะ  หลานอายุเท่าไหร่น่ะ  ถ้าเราจำไม่ผิด  หนังเรื่องนี้ได้เรท R นะ  เราก็ไม่ค่อยแม่นเรื่องเรทหนัง  แต่น่าจะประมาณว่ามีฉากรุนแรงที่ไม่เหมาะกับเด็กๆ เล็กๆ น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 01:09:20 จากคุณ : ตาราไต  - [ 25 เม.ย. 49 00:41:59 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 90 203 25/04/2006 คุณตาราไต กรุณาเล่าสู่กันฟังต่อค่ะว่า ที่ทุกคนกรี๊ดเฮียมากกว่าหนัง .... สงสัยเป็นเพราะ อารมณ์คิดถึงน่ะ นาน ๆ จะได้เจอกันที แม้จะผ่าน ทางจอก็เหอะ ก็เลยเอาแต่เม้าท์เรื่องเฮียกัน ///// เข้าใจค่ะ  รอบแรกที่ดู  พอเฮียโผล่มา (พูดพา-สา-ทาย) เราก็นั่งเอากำปั้นทุบแขนตัวเองอั๊กๆ   ตลอดเหมือนกัน  (พอดีไปดูคนเดียวไม่รู้จะ สะกิดใคร  กลับมาเช็คกระทู้ยังเสียวๆ  ว่าจะมีใครพูดถึงผีโรงหนังประเภทใหม่หรือ เปล่า -- ผีทุบแขน) แต่พอดูรอบ 2 เนี่ย เก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้น  โดยเฉพาะในส่วนของดราม่า  เลย เกิดอาการอินหนัก  แอบรักซินมากกว่าเฮียไป 3 วินาที งานนี้ต่อให้เราไม่ได้ชื่นชม เป็นแฟนคลับเฮีย  หรือเอียไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ เราก็ว่า หนังทำออกมาได้ดีอยู่นั่นเอง  (หมายความว่า คนที่มาเล่นแทนเอีย  ต้องสื่อออกมา ได้ในระดับเดียวกะเฮียด้วยนะ) ...จริงๆ แล้ว เหตุผลที่เราอยากดูหนังที่เฮียเล่น  ไม่ใช่แค่เพราะเราชอบเฮียอย่างเดียว   แต่มาจากการที่เรารู้จักผู้ชายคนนี้มาพอสมควร (จากการอ่านบทสัมภาษณ์เค้าที่คุณ โหยวแปะมานี่เอง) เราว่า Jand dong-gun เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานและเป้าหมายสำคัญของ เขาอย่างหนึ่งคือ  เขาปรารถนาจะเป็น "นักแสดงฝีมือดี" มากกว่าจะเป็น "ดารายอด นิยม" ดังนั้น  แฟนๆ ของเขาจึงมั่นใจได้ว่า  เขาจะเลือกสรรค์งานที่เขาจะทำเป็นอย่างดี และทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่  เพื่อให้งานนั้นออกมาดีที่สุด  คุ้มค่ากับการรอคอยของ ผู้ชมที่สุด ฉะนั้น... ถ้าเฮียเลือกมาแล้ว  สิ่งที่จะออกมาสู่สายตาเราจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ******************************************* ปล.  ฉากอื่นที่เราชอบนอกจากฉากท้ายที่เป็นการลำดับเรื่องถูกอารมณ์ (เรา) แล้ว ฉากที่เป็นการสื่อความรู้สึกผ่านสายตาของเฮียก็เป็นฉากที่ดูแล้วขนลุกมากๆ เหมือน กัน   ตั้งแต่ฉากมาตรฐานตอนที่เฮียพบกับพี่สาว  และทุกฉากที่สองพี่น้องพูดคุยกัน ไปจนฉากที่เฮียคุย(จริงๆคือ แดกดัน) คังเซจง ตอนที่นั่งรถไปหาพี่สาวซินด้วยกัน ฉากนั้นเราว่าสายตาเฮียก็สุดยอด  และที่เราชอบมากๆ  ถึงมากที่สุดคือ ตอนที่ซินอุ้ม พี่สาวออกมาจากเกสท์เฮ้าส์  ตอนนั้นเซจงมีโอกาสยิงซิน  แต่พอเห็นถนัดว่ามงจูถูก ยิงเขาก็ชะงักไป  ขณะที่ซินเองเมื่อหันมาเห็นก็ชะงักไปเหมือนกัน   --ช่วงเวลาที่ทั้งคู่สบตากันขณะนั้น ทำให้เราอยากรู้จริงๆ นะว่าเขาคิดอะไรกันอยู่-- แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 03:38:52 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 02:58:56 จากคุณ : ตาราไต  - [ 25 เม.ย. 49 02:50:24 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 91 204 25/04/2006 สวัสดีค่ะ ทุกคน ขอออกความเห็นฉากสุดท้ายในหนังหน่อยนะ ตอนที่ซินเอาพี่สาวลงเรือเล็ก เราคิดว่าเป็นตอนที่ทั้งคู่ตายไปแล้ว และซินจะพาพี่สาวไปพบพ่อแม่และครอบครัว (เราคิดว่าพี่คนอื่นๆคงตายพร้อมพ่อแม่น่ะ)   เราเห็นหนังเกาหลีบางเรื่องอย่างซางดู ที่จะพูดถึงชีวิตหลังความตายว่าจะไปเป็นอย่างที่ฝันไว้ เราเลยคิดว่าไต้ฝุ่นก็คงต้องการสื่ออย่างนี้เหมือนกันน่ะ จากคุณ : chocolate_7521  - [ 25 เม.ย. 49 10:59:35 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 92 205 25/04/2006 http://ent.qianlong.com/4543/2006/02/07/1400@2997827.htm ปี 2006 ดาราเกาหลีกรีธาทัพออกตะลุยเมืองนอก ตลาดญี่ปุ่นถือเป็นฐานที่มั่นแรกในการบุกเข้ายึด Jang Dong Gun ราชาแห่งหนังเกาหลี เมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เขาได้เดินทางไปญี่ปุ่นพร้อมกับ Lee Young Jae Kim Seung Woo และ Rain ไปร่วมแสดงในงาน 2005- 40 ปีความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เกาหลี ในขณะเดียวกัน เขาผู้ซึ่งเป็นดารานำในหนังเรื่อง Taegukgi กลายเป็นจุดสนใจของผู้สื่อข่าวบันเทิงญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก (แสดงว่า หนังเรื่องดังกล่าว ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นค่ะ) หลังจากนั้น 4 เดือน ในตอนที่เขาไปไปญี่ปุ่นอีกครั้งเพื่อโปรโมทหนัง The Promise นั้นเหล่าบรรดาแฟนๆ ต่างทุ่มเทเหมารถ เหมาห้องพักโรงแรมเพื่อตามล่าเขาคนนี้ โปสเตอร์ที่แจกหรือสินค้าที่ขายในงานดังกล่าวขายหมดจนขาดตลาดอย่างรวดเร็ว จบข่าวตัดแปะค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 93 206 26/04/2006 สนุกดี อ่าน คห. เพื่อนๆ กันต่อค่ะ # 60   ขอออกความเห็นฉากสุดท้ายในหนังหน่อยนะ ตอนที่ซินเอาพี่สาวลงเรือเล็ก เราคิดว่าเป็นตอนที่ทั้งคู่ตายไปแล้ว และซินจะพาพี่สาวไปพบพ่อแม่และครอบครัว (เราคิดว่าพี่คนอื่นๆคงตายพร้อมพ่อแม่น่ะ)   เราเห็นหนังเกาหลีบางเรื่องอย่างซางดู ที่จะพูดถึงชีวิตหลังความตายว่าจะไปเป็นอย่างที่ฝันไว้ เราเลยคิดว่าไต้ฝุ่นก็คงต้องการสื่ออย่างนี้เหมือนกันน่ะ /////////อืมๆ  ประเด็นนี้ก็น่าสนใจนะ  พอดีเราไม่ค่อยถนัดวิธีคิดแบบนี้เท่าไหร่   ใจเลยคิดถึงในแง่การลำดับเนื้อเรื่องเป็นอันดับแรก   ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนกันนะคะ   เป็นแนวคิดใหม่สำหรับเราเลยนะเนี่ย ************************** คุณหวานต้องอ่านที่คุณ ตาราไต เธอเขียนหรือคนอื่นๆ ในลิ้งค์ที่คุณ jewlau กรุณานำมาฝากก่อนไปชมภาพยนตร์นะคะ เธอเขียนดีจริงๆ อ่านแล้วรู้เลยว่า เธอ รัก เจดีจี ขนาดไหน   //////////// โอ้ว้าว.. พูดอย่างนี้เดี้ยนก็เขินแย่สิคะ  จริงๆ เราว่าเราออกแนวฟุ้งไปซะมากกว่า   ปกติถึงชอบดูหนังและชอบเก็บประเด็นมาคิดตีความต่ออยู่บ้าง  แต่เราก็ไม่เคยริอ่านจะลงมือวิเคราะห์ วิจัย วิจารณ์หนังเรื่องไหนเป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้มาก่อนเลยนะ   ครั้งนี้ถือว่าเป็น "วีรกรรมทำเพื่อเฮีย" เลยนะนี่ สารภาพตามตรง  เราเห็นการโปรโมทที่แสนจะเงียบฉี่  กับกระแสที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ ซะขนาดนี้  แล้วหวั่นใจอ่ะ ไม่ได้กลัวหนังได้ตังค์น้อยแล้วจะไม่มีใครเชิญเฮียมาหรอกนะ   แต่กลัวว่า... ถ้าหนังทำเงินในเมืองไทยน้อย  เฮียจะรู้สึก fail กับเมืองไทยอ่ะ อยากให้เฮียรู้สึกประทับใจกับเมืองไทย อยากให้เฮียรู้ว่าแฟนๆ ชาวไทยรักและชื่นชมความสามารถของเฮีย อยากให้เฮียรู้ว่า  ทุกสิ่งที่เฮียทุ่มเทในการทำงานนั้น  เรารับรู้และสัมผัสมันได้ค่ะ จากคุณ : ตาราไต  - [ 26 เม.ย. 49 01:28:38 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 94 207 26/04/2006 http://ent.sina.com.cn/x/2006-04-26/10281065365.html Jeon, Ji Hyun กะ Woo Sung Jung ไปโปรโมทหนัง DAISY ที่เมืองจีนด้วยกัน ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาๆ ที่ต้องมีการให้สัมภาษณ์กัน ก็เอา สัมภาษณ์กันไป มาถึงตา Woo Sung Jung คราวนี้ เขาเมื่อ 5 ปีที่แล้วเคยรับบทเป็น นักฆ่า มาก่อนจากหนังเรื่องหนึ่ง มาคราวนี้ ในหนังเรื่องใหม่ก็เล่นเป็นนักฆ่าอีกครั้ง เขาบรรยายความว่า จริงๆ เป็นแค่มือปืนคนหนึ่งเท่านั้น (อืม แล้วมันต่างกะนักฆ่าตรงไหน ?) ในเรื่องยังมีบทดราม่า เล่นฉากเลิฟซีนมากอีกด้วย ดังนั้น เขาในครั้งนี้จึงดูเท่ห์กว่าเรื่องเก่า Woo Sung Jung เขาว่า ในเรื่องนี้ เขาต้องมีอารมณ์เปล่าเปลี่ยว เหงาๆ แต่ในชีวิตจริงๆ เขาชอบสนุก ชอบหยอกล้อ คบเพื่อนฝูง และแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเอง ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นักข่าวรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ดูสุขุมเยือกเย็นเท่าไรเลย (อยากที่คาดเดากันไปเอง เพราะอะไร อ่านต่อไปค่ะ) Woo Sung Jung ชื่นชอบความเป็นอุดมคติ เขาเชื่อว่า หนังหรือละครในยุคปัจจุบันนี้ก็คือความเป็นอยู่อย่างอุดมคติของผู้คน บางทีผู้คนอาจไปไม่ถึงตรงนั้น ผู้กำกับและนักแสดงจะเป็นคนนำพาผู้ดูไปเอง ผมจะไม่นำเอาแค่เนื้อเรื่องมาแสดง แต่ผมจะใส่จินตนาการแบบอุดมคติของผมเข้าไปด้วย มันจะทำให้ผู้คนประทับใจและตราตรึงกับผลงานมากยิ่งขึ้น ผมชื่นชอบผู้กำกับ จางอี้โหมว มากที่สุด โดยเฉพาะหนังเรื่อง ฮีโร่ กะ คนมีดบิน เป็นหนังที่ดีมากๆ ครับ มาแล้ว อะ ข่าวที่อยากนำเสนอ ตรงนี้เลย นิดเดียว เนื่องจากเป็นข่าวพาดพิง Woo Sung Jung  กับ Jang Dong Gun ต่างเป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ผู้โด่งดังด้วยกันทั้งคู่ เมื่อนักข่าวถามว่า “คุณรู้สึกว่า คุณ 2 คน ใครหล่อกว่ากัน ?” Woo Sung Jung ก็ถ่อมตนโดยพูดว่า “Jang Dong Gun หล่อครับ เขามีเสน่ห์ในส่วนที่ผมไม่มี” ใครจะไปคาดคิดว่า มีคนตะโกนขึ้นมาจากข้างล่างเวที“คุณก็มีเสน่ห์แบบที่เขาไม่มีเช่นกัน ” ทำเอาตา Woo Sung Jung หัวเราะเสียงดังไม่หยุดเลย เหมือนเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เล่าให้ฟังกันสนุกๆ นะคะ อย่าซีเรียส ไง เราก็รักที่รักของเราอยู่ดี เย้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 95 207.1 เจ๊เบ comment JWS ถ่อมตนโดยพูดว่า “Jang Dong Gun หล่อครับ เขามีเสน่ห์ในส่วนที่ผมไม่มี”.... โถ....ตอนเล่น musa คุณพี่ก็หล่อนะค้า แต่บังเอิญไปเล่นกะจูจินโม เราก็เลยต้อง เอนเข้าหาจูจินโม อย่างช่วยไม่ได้ จากคุณ : เบดูอิน  - [ 26 เม.ย. 49 23:06:30 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 96 208 26/04/2006 เพิ่งไปเห็นข่าวนี้ที่เว็บ jangdonggun-club ไม่รู้ที่นี่เคยคุยกันไปหรือยัง  แต่เราเพิ่งรู้อ่ะ ******************************************** Typhoon  ทำรายได้งดงามทีเดียวที่ประเทศเกาหลี โดยเปิดฉาย 5 วันแรกก็ฟันเงินไปแล้วถึง 11 ล้านเหรียญ >>>>>ทำให้ทางดรีมเวิร์กเกิดตกหลุมรักและเกิดอาการดวงตาเห็นเงินทันที เข้าประชิดตัวทาบทามเจรจาขอซื้อไปขายได้มั้ยตัวเอง ซึ่งทางผู้กำกับ Kwak Kyong Taek ก็ตอบรับด้วยความยินดี และเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงปุ๋ยเตรียมบินไปตัดต่อใหม่สำหรับเวอร์ชันที่จะฉายในอเมริกาแล้ว หนังไปฉายที่ไหนก็เวิร์คสุดๆ  ทำไม้ ทำไมตอนมาฉายในไทยถึงได้เงียบนักอ่ะ จากคุณ : ตาราไต  - [ 26 เม.ย. 49 22:24:24 ] ปล.  ขยายความข่าวข้างบนอีกหน่อย /////////////////////////////////////////////////////// ไม่ใช่แต่ฝั่งเอเชียที่หนังจากเกาหลีวิ่งแซงหน้าคู่แข่ง แต่วันนี้ชักจะหยุดไม่อยู่ซะแล้ว เพราะล่าสุดหนัง Typhoon ของผู้กำกับ Kwak Gyeong-taek ดังข้ามฝั่งไปถึงอเมริกา โดย DreamWorks ได้ตัดสินใจซื้อหนังเรื่องนี้ไปจัดจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว และ Typhoon ก็ได้กลายเป็นหนังที่มีการซื้อขายแพงที่สุดของเกาหลีไปแล้ว (ราคาเท่าไหร่ไม่ได้บอกไว้) ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ อาทิ เป็นหนังที่มีพระเอกชื่อดังแห่งยุค Jang Dong-gun แจง ดอง กัน ร่วมแสดง, ความสำเร็จจากการเปิดฉายในบ้านของตัวเอง โดยมีผู้เข้าชมแล้ว 1.8 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 วัน ชนะ Sympathy for Lady Vengeance ของ Park Chan-wook ซึ่งมีผู้เข้าชม 1.4 ล้านคน เมื่อตอนเปิดตัว เอาน่ะ  ถ้าหนังฉายในไทยไม่เวิร์ค  ก็ขอให้ไปเวิร์คที่อเมริกาแล้วกันนะเฮีย  เอาให้คนไทยเสียดายไปเลย...... จากคุณ : ตาราไต  - [ 26 เม.ย. 49 22:40:10 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 209 27/04/2006 เพื่อนๆ น่ารักค่ะ ทยอยมาให้ความเห็นเรื่องหนัง ไต้ฝุ่น ดีจ้า...ทุกๆคน มีเรื่องมาเล่า พอดีลูกพี่ลูกน้องเราคนนึงเค้าก็ชอบเฮียแจงเหมือนกัน แต่....แต่ เค้าบอกว่าจะรอซื่อ vcd เรื่องไต้ฝุ่นมาดู เราเลยประณามเค้าแบบว่าคงหนัก เพราะสามารถทำให้เค้าเปลี่ยนใจไปดูที่โรงเรียบร้อยแล้ว ชิชะ มีอย่างที่ไหนไม่ยอมไปดูที่โรง...เค้าพยายามจะให้ถึง 20 ล้านกันอยู่ ไม่รู้พี่แกลากเพื่อนฝูงไปอุดหนุนเฮียกี่คน จากคุณ : แอน (ANN-jen)  - [ 27 เม.ย. 49 12:17:16 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 98 210 27/04/2006 มาอ่านข่าวตัดต่อกันค่ะ ฝ่ายหญิงบ้างนะ ตามลิ้งค์ http://ent.zgjrw.com/News/2006427/Ent/345477273000.shtml Jeon, Ji Hyun กะ Woo Sung Jung ไปโปรโมท หนัง DAISY ที่เมืองจีน คราวนี้เป็นตาของ Jeon, Ji Hyun ได้ให้สัมภาษณ์บ้าง เมื่อถูกถามว่า ใครหล่อกว่ากัน ? นักข่าว – ผมจำได้ว่าประมาณปี 2000 คุณกับ Woo Sung Jung ได้ร่วมถ่ายทำโฆษณา Giordano ด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันใช่หรือเปล่าครับ ? (เดาว่านักข่าวไปชายละกันค่ะ) Jeon – จริงๆ พวกเราร่วมงานกันมาตั้งนานแล้วค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ถ่ายโฆษณาร่วมกันมาบ้าง ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่ละปี พวกเราได้ร่วมงานกันตั้งแต่ 4 ครั้งขึ้นไป นักข่าว – จะช่วยวิจารณ์ Woo Sung Jung ให้หน่อยได้มั้ยครับ ? Jeon – Woo Sung Jung เขาเป็นรุ่นพี่ฉันค่ะ และก็เป็นคนดีมากด้วย เขาดูแลฉันเป็นอย่างดี การได้มาร่วมถ่ายทำ DAISY ด้วยกันนี้ ระหว่างเรา 2 คนจะเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะในฉากหรือด้านอื่นๆ ฉันคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน เขาคือแบบอย่างให้กับฉันได้ค่ะ นักข่าว -  5 5 5 รู้สึกว่าคุณจะวิจารณ์ Woo Sung Jung อย่างเลิศเลอเลยนะครับ ถ้างั้น คุณรู้สึกว่า Woo Sung Jung กับ Jang Dong Gun ใครหล่อกว่ากัน ? Jeon –(หัวเราะ) ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ถามคำถามแบบนี้กับฉันล่ะคะ ? อืม.........ฉันไม่สามารถพูดได้ ฉันกับ Jang Dong Gun ได้ทำงานร่วมกัน 1 ครั้ง แต่พวกเราไม่ค่อยจะสนิทกันมาก ฉันรู้สึกชื่นชมเขามากๆ ว่าปัจจัยภายนอกต่างๆ จะไม่สามารถกระทบคนอย่างเขาได้  เขายังมีวิธีในการทำงานที่พิเศษสุดในแบบฉบับของเขาเอง โดยเขาสามารถหลอมละลายปัจจัยภายนอกที่กดดันเขาได้ ทำให้ฉันอยากเป็นอย่างเขามากเลยค่ะ นักข่าว – คุณยังไม่ตอบคำถามที่ว่า ใน 2 คน ใครหล่อกว่ากันเลย ? Jeon – 5 5 5 ทำไมคุณถึงได้ถามคำถามนี้ เขา (Woo Sung Jung ) ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน แล้วฉันจะพูดอะไรได้ (หัวเราะ) จบข่าวค่ะ (แปลว่า เจดีจี หล่อกว่าไง แต่เธอพูดไม่ได้ เกรงใจคนข้างๆ อะ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 99 211 27/04/2006 ภาพนี้ตัดจากคอลัมน์ ไปดูมาแล้ว ของหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ.2549 เจ้าค่ะ เชิญทัศนา จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 100 212 27/04/2006 อันนี้ โฆษณาค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 101 213 27/04/2006 นี่ก็ด้วย จากฉบับเดียวกัน ดีใจจัง ซื้อฉบับเดียว แปะได้ 3 ครั้ง 5 5 5 แต่อันนี้จากซีรี่ส์เรื่องดังที่เป็น อมตะ ไปแล้วครับท่าน จะบอกให้ จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 214 28/04/2006 http://news.sina.com.cn/o/2006-04-28/08018809218s.shtml จากหนังสือพิมพ์ ฮวนฉิวซือเป้า พาดหัวข่าวว่า “คนเกาหลีนิยมชมหนังประเภทไหน” หนังเกาหลีนับวันจะยิ่งได้รับความสนใจจากชาวเกาหลีเอง หนังที่เกี่ยวพันกับการชิงดีชิงเด่นในราชสำนักอย่าง The King And The Clown เมื่อออกฉายตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเรื่อยมา สามารถสะสม ดึงดูดยอดผู้ชมได้ทะลุเกิน 12 ล้าน 3 แสนคน กลายเป็นหนังที่มียอดสถิติผู้เข้าชมสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ไปแล้ว คนเกาหลีที่นิยมชมหนังเกาหลีเอง ไม่ใช่จะหลับหูหลับตาตื่นเต้นไปกับดาราดังหรือทุนสร้างมหาศาล หนังที่สร้างทุนน้อยหลายเรื่องกลับได้รับคำวิจารณ์เป็นอย่างดี หนังที่ทำยอดผู้ชมสูงสุดในปี 2005 คือเรื่อง Welcome to Dongmakgol หนังเรื่องนี้ใช้วิธีโรแมนติคในการนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของชาวเกาหลีสู่สายตาประชาชน หน่วยรบเล็กๆ ของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ได้พลัดหลงจากกองทัพใหญ่และโซซัดโซเซหลงเข้าไปในดินแดนที่มีชื่อว่า หมู่บ้าน Dongmakgol ไม่คิดเลยว่า คนในหมู่บ้านที่ตัดขาดจากโลกภายนอกแห่งนี้ กลับมีปฏิกิริยากับเรื่องการขัดแย้งระหว่างคนจากโลกภายนอกในแง่ที่ขบขัน ศัตรูทั้ง 2 ฝ่ายต่างอาศัยในหมู่บ้านอันแสนอบอุ่นนี้อย่างสันติสุข จนอยู่มาวันหนึ่ง ได้เจอกับการรุกรานจากสหรัฐอเมริกา พวกเขาจึงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อหมู่บ้านดังกล่าวอย่างไม่คิดชีวิต หนังเรื่องอื่นๆ ในปีเดียวกันที่สามารถดึงดูดผู้ชมจำนวนมากได้แก่Marathon หรือว่า Sympathy for Lady Vengeance ล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนดูทั้งสิ้น ในขณะที่หนังยิ่งใหญ่ของKwon Sang Woo เรื่อง Running Wild หรือว่า Typhoon ของ Jang Dong Gun ถึงแม้จะเป็นหนังที่ลงทุนมหาศาล แต่จำนวนผู้ชมในประเทศกลับไม่ค่อยมาก (ยังไงหนังไต้ฝุ่นก็ติดอันดับ Top 20 อยู่ดีด้วยจำนวนผู้ชมเฉียดๆ 5 ล้านคน) Idolผู้โด่งดังของเกาหลี Bae Yong Joon และSon Yae Jin แสดงนำใน April Snow ถึงแม้จะได้รับการต้อนรับอย่างดีที่ญี่ปุ่น แต่ในเกาหลี มีผู้เข้าชมแค่ 7 แสน 5 หมื่นคน จริงๆ แล้ว คนเกาหลียิ่งชื่นชอบหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงอย่าง Friend และ Marathon เป็นอาทิ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่ให้ความสมจริงในระดับที่เข้มข้นเพราะในสังคมเกาหลีมีหนังเกาหลีให้เลือกมากมาย คนเกาหลีไม่ชอบที่จะต้องใช้เวลาไปมองสิ่งที่ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง (ว้า ไม่ชอบหนังมีจินตนาการกันบ้างเลย เฮ้อ ) จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 103 215 ข้อความเจียโหยวที่เพื่อนๆ ซึ้งกัน เอ๊ะ มันยังไง ? ความเห็น29 ของคุณโหยว ซึ้งจัง จากคุณ : chocolate_7521  - [ 28 เม.ย. 49 16:15:53 ] คห.29 ที่ว่า คืนนี้เราคิดถึงคุณ ตาราไต เป็นพิเศษค่ะ เพราะพออ่านบทความของเธอในหลายๆ กระทู้ที่เธอ ทุ่มเท เพื่อเฮียแล้ว ทำให้นึกสะท้อนถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาเช่นกันค่ะ คืนนี้สบอารมณ์เราครองคอม หลานๆ หนีไปดูซีดีหนัง แถมไม่มีข่าวให้แปลอีกค่ะ นึกสนุก ขอคุยความในใจกันดีกว่า มองย้อนกลับไปไม่นานเลยก่อนที่เราจะมาชอบ เจดีจี อืม เราก็ไปบ้าคลั่งดารานักร้องไต้หวันวงหนึ่ง ชนิดที่เข้าไส้เข้าพุงเหมือนกัน สินค้าและบริการต่างๆ ไม่ต้องพูดถึง ซื้อดะเหมือนคนวงนอกมองแฟนๆ ที่บ้าคลั่งดาราอย่างเสียสติเขาทำกัน เคยแม้กระทั่งต้องไปอ้อนวอนดีลเลอร์มอเตอร์ไซด์ยี่ห้อหนึ่งซึ่งไม่รู้จักกันเลย ให้เขาขายตั๋วคอนเสิร์ตที่เขาได้มาฟรีๆ ให้ หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เรายังขอแผ่นโปสเตอร์ขนาดเท่าคนจริงใส่รถแท็กซี่กลับบ้านด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปนี้ เรียกได้ว่า ทุ่มเทสุดๆ แล้วค่ะในความรู้สึกของตัวเอง เราก็อยากจะรักษาความชื่นชอบนั้นไว้ให้นานๆ แต่ไหง สุดท้ายเราก็เปลี่ยนใจอีกจนได้ พอเราเลิกรักดาราคนไหนแล้ว เราจะ น่าเกลียด มาก น่าเกลียดกว่าตอนคนเห็นเราบ้าดาราแล้วน่าเกลียดซะอีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคย ถนอม เราพร้อมจะยอม ทิ้ง ไปค่ะ หรือไม่ก็ แจกจ่ายให้เพื่อนฝูง ญาติมิตรไปหมด ไม่เหลือเยื้อใยต่อกันเลยจริงๆ จริงๆ เราก็ไม่ได้ชอบการกระทำที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ เราอยากปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ เราอยากรักและชื่นชอบดาราหรือใครซักคนที่ข้างใน ไม่ใช่ความหลงใหล ชั่วขณะแต่ภายนอกแบบนั้น เราว่า เราไม่เอาอีกแล้วล่ะ เราอยากมีใครซักคนที่เป็น “ขวัญใจ” เป็น “Idol” ที่จะไม่เปลี่ยนแม้วันเวลาผ่านพ้นไป เป็นคนที่เราสามารถรักเขา และเติบโตไปพร้อมๆ กัน บนเส้นทางชีวิตที่เราได้เลือกและทำมันในทุกๆ วันให้ดีที่สุด เผื่อซักวันอาจจะมีใครบางคนที่จะจดจำเราได้บ้างหลังจากเราตายไปแล้ว เย้   เราก็ถามตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า เราจะสามารถรักษาสถานภาพความรักที่เรามีต่อผู้ชายคนนี้ คนที่ชื่อ Jang Dong Gun ได้อีกนานแค่ไหน ? อืม ดูเหมือนคำตอบจะเป็นคำว่า ไม่ทราบแน่ ค่ะ แต่เขาคนนี้ ถูกใจเราจริงๆ เขามีทุกอย่างที่เราอยากได้ในตัว ผู้ชาย จริงๆ เราก็ไม่อาจจะสรุปลงไปได้ว่า ต่อจากนี้ไปอีกกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี ที่เรายังคงชื่นชอบเขาอยู่ อนาคตไม่สามารถประกันความรู้สึกดีๆ นี้ได้ แต่สิ่งที่เป็นจริงและไม่เคยเปลี่ยนนั่นคือตลอดระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ชายคนนี้ คนที่ชื่อ Jang Dong Gun ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : jiayou  - [ 28 เม.ย. 49 00:32:12 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 104 216 28/04/2006 กับอีกหนึ่งความประทับใจดีๆ มีให้ เจดีจี ผ่าน คห.ร่วมแจมของคุณ เบดูอิน ค่ะ ลืมบอก เมื่อวานที่หายไปก็มัวนั่งดู the promise ด้วยแหละ เพื่อนมาขอดูที่บ้าน แล้วให้อธิบายให้ด้วย มันดูไม่เข้าใจ ...เราก็บอก ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเล้ย เนื้อหาไม่ได้ซับซ้อนอะไรสักหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า .....ดวงตาโต ๆ ของเฮียเนี่ย มันบอก อะไรได้หลายอย่างจริง ๆ นะ เวลาเล่นหนัง เค้าจะเป็น อีกคนหนึ่งเหมือนอย่างคุณที่เขียน n face บอกไว้เลย ตอนยิ้มเขิน ๆ กึ่งดีใจ ที่นายพลกวงหมิงชวนไปอยู่ด้วย ตอนที่ใช้ผ้าพันแผลตัวเอง ... แต่ตอนที่เรายิ้มไม่หุบ คือตอนที่จัดที่นอนให้นางเอก ตอนจะวางหมอนอ้ะ ที่ถามนางเอกว่า ตรงนั้นเหรอ .... แล้วก็ลุกออกไป อย่างเขิน ๆ โอ๊ย ที่จริงเรารักหนังเรื่องนี้อ้ะ .... ยิ่งดูความทุ่มเท จากแผ่นแถมเบื้องหลังด้วยนะ รู้เลยว่า ทำไมผู้กำกับหรือใครต่อใคร ถึงอยาก ทำงานกับเฮียอ้ะ ..... เดี๋ยวคืนนี้กลับไปทบทวนอีกรอบดีกว่า ...คิดถึง จากคุณ : เบดูอิน  - [ 28 เม.ย. 49 17:42:21 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 105 217 28/04/2006 จากเว็บไซท์ของ SBS ....ดาราเค้าพูดถึง JDG ว่ายังไง ในเรื่องความหล่อ รายการบันเทิงของ SBS ออกอากาศเมื่อว้นที่ 23 มีนาคม เป็นตอนพิเศษที่มีชื่อว่า Meet JDG and Kim Soo-ro in LA .... JDG (เฮีย)กับ Kim Soo-ro (KSR) เดินทางไปร่วมงาน Power Korea ที่ LA ปรากฎว่าแฟน ๆ ต่างให้ความสนใจกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รายการนี้ย้งแสดงให้เห็นว่า JDG ก้บ KSR(ที่เล่นเป็นคนที่ฆ่านางเอก Lee Eun-joo ใน 'Taegukgi') เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน JDG ย้งไปดูรอบ VIP เรื่อง “Vampire Cop Ricky”. ที่ KSR แสดงด้วย ก่อนหน้านี้ KSR ไปออกรายการของ SBS ชื่อ Yashim Manman ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 May 2005 เขาบอกว่า อุตส่าห์มาโซล ก็เพราะก็คิดว่าตัวเองหล่อไม่เป็นสอง รองใครเหมือนกัน จนกระทั่งไปพบ JDG เข้าเป็นครั้งแรกในวันหนึ่ง เขาบอกว่า " ตอนนั้นผมไปร่วมงานของสถานี แล้วผมก็ได้พบคนหล่อตัวจริงอย่าง JDG มันเป็นการ ร่วมงานอย่างไม่เป็นทางการ ผมจ้องมองเขาอยู่นานถึง 10 นาที ด้วยความพิศวงว่า อา....ความหล่อมันเป็น อย่างนี้นี่เอง จากคุณ : เบดูอิน  - [ 28 เม.ย. 49 23:04:29 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 106 218 28/04/2006 ในการให้สัมภาษณ์กับ  Star News เมื่อวันที่ 19 เมษายน .... Kim Sung-eun ดาราสาวยอดนิยม แห่งจอแก้ว จากละครเรตติ้งสูงสุดของปีนี้ ‘Bizarre Bunch ’ บอกว่า " ชั้นชื่นชอบ JDG มาตั้งแต่ เด็กแล้วละ แต่ไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อนเลย .... ชั้นพบ ขาครั้งแรกในคอนเสิร์ต ‘Hallyu all stars ที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว .... เขาหล่อมาก แล้วชั้นก็พูดอะไรไม่ออกเลยละค่ะ จากคุณ : เบดูอิน  - [ 28 เม.ย. 49 23:11:45 ] จากคุณ : jiayou - [ 30 มิ.ย. 51 23:55:05 ]