ตอนนี้สำหรับบางคนอาจจะดูเรียบๆ ไปนิดถ้าเทียบกับที่ต้องรอลุ้นกันมาเป็นเดือนๆ ว่าจะเดินเรื่องต่อไปอย่างไร แต่บทพูดปูเรื่องก็ยังทิ้งอะไรที่น่าสนใจไว้ไม่น้อยเช่นเคย (แม้จะไม่เท่าตอนก่อนๆ ก็เถอะ)
สนุกกับการอ่านนะครับ! :)
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วหลังจากที่ลาคิปรากฏตัวขึ้นจัดการปีศาจที่หมู่บ้านอันเป็นบ้านเกิดของตนเรียบร้อย
ณ ที่แห่งหนึ่งห่างไกลออกไป เคลย์มอร์คนหนึ่งผู้มีทรงผมและใบหน้าละม้ายคล้ายวีนัส วิลเลี่ยมส์ ยอดนักเทนนิสสาวมือวางอันดับโลก ก็ต้องขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ เมื่อพบว่าจิตปีศาจที่ตนเพิ่งสัมผัสได้เมื่อตะกี้นี้จู่ๆ ก็หายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ไม่เห็นจับสัมผัสของพวกเดียวกันได้เลย กินยาข่มจิตปีศาจอยู่ก็ไม่น่าใช่" นักรบตาสีเงินนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจ "ไปดูหน่อยดีกว่า"
ตัดฉากกลับมายังหมู่บ้าน หลังจากจัดการปีศาจที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเสร็จ ลาคิกับเด็กหญิงปริศนาก็มายืนอยู่ต่อหน้าบ้านที่ตนเคยอาศัยอยู่กับพี่ชายในหมู่บ้านนี้เมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งบัดนี้เหลือแต่เพียงซากปรักหักพังเพราะขาดคนดูแล
"ลาคิ... ลาคิใช่มั้ย...?" เสียงตะกุกตะกักดังมาจากด้านหลัง ชายหนุ่มหันกลับไปมอง พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยืนอออยู่ แต่ละคนอวดแววตกตะลึงแกมหวาดหวั่นเต็มใบหน้าและสองตา เพราะนึกไม่ออกว่าเด็กชายอ่อนแอคนหนึ่งที่เดินลับหายไปยังทุ่งร้างหลังจากครอบครัวถูกฆ่าตายหมดเมื่อ 7 ปีก่อนจะรอดมาได้อย่างไร "หรือว่าเจ้าเป็นปีศาจ กลับมาทำให้หมู่บ้านนี้ต้องทุกข์ทรมานอีก..."
หมับ!! เงื้อมมือแข็งแกร่งราวคีมเหล็กตวัดฟวั่บ คว้าคอเสื้อของชาวบ้านปากเสียคนนั้นไว้ในบัดดล เล่นเอาทั้งหมดในที่นั้นถึงกับสะดุ้งเฮือก เพราะนึกว่าคงได้มีโอกาสเห็นคนเป็นเหยื่อปีศาจกันจะๆ ตาแล้ว
แต่ที่ลาคิทำหลังจากคว้าคอเสื้อชายปากเสียผู้นั้นไว้ ก็คือ "แหกปากตะโกนใส่จนสุดเสียง" เพียงเท่านั้น...
"ได้สติรึยัง?" ลาคิถามชายปากเสียที่ยืนเอามือกุมหูของตนด้วยอาการงุนงง "เข้าใจอยู่หรอกว่าโดนปีศาจจู่โจมตั้งหลายครั้งเลยสติแตก แต่ช่วยใจเย็นๆ กันหน่อยได้มั้ย"
"คิดดีๆ ซี่ ถ้าข้าเป็นปีศาจจริง จะฆ่าปีศาจด้วยกันไปทำไม" อดีตเด็กชายผู้ถูกอัปเปหิจากบ้านเกิดเริ่มให้เหตุผลเมื่อเห็นชาวบ้านคนอื่นเริ่มมีทีท่าสงบลง "แล้วข้าก็ไม่จำเป็นต้องมาปรากฏตัวในร่างมนุษย์แบบนี้ด้วย ที่สำคัญ ถ้าตัวจริงข้าถูกเปิดเผยจริง ป่านนี้พวกเจ้าทุกคนก็คงโดนเล่นงานกันหมดแล้วล่ะ"
เหตุผลของลาคิทำให้ชาวบ้านต่างนิ่งเงียบเพราะเถียงไม่ออก ได้แต่ฟังไอ้หนุ่มที่พวกตนเคยรวมหัวกันขับไล่ไปจากหมู่บ้านพูดต่อไป
"ก็รู้อยู่หรอกว่าคนโดนอัปเปหิอย่างข้าไงๆ ก็คงไม่ได้รับการต้อนรับ" ลาคิบ่นพึมพำ แต่ใบหน้าแย้มยิ้ม "แต่เล่นทำเหมือนข้าเป็นปีศาจกับแบบนี้ ใจร้ายจริงๆ เลยน้า แต่เอาเถอะ ข้าน่ะเสียครอบครัวไปเพราะปีศาจก็จริง แต่รู้สึกว่าทุกคนจะสูญเสียอะไรบางอย่างไปเหมือนกันนี่นะ"
น้ำเสียงของลาคิราบเรียบราวกับกำลังพูดคุยกันตามปกติ ไม่มีวี่แววเคียดแค้นขู่อาฆาตอยู่ในน้ำเสียงเลยแม้แต่น้อย ทำเอาชาวบ้านแต่ละคนถึงกับเงียบไป
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 51 01:36:16