Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับรัชกาลท่ ๕ ที่คุณไม่เคยรู้...

    เปิดตำนาน “ไกลบ้าน”

    การเสด็จประพาสต่างประเทศในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเกิดขึ้น ๔ ครั้ง โดยในครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2413 เป็นการเสด็จประพาสประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และชวา (อินโดนีเซียในปัจจุบัน) จากนั้นในปี พ.ศ 2414 ทรงเสด็จประพาสประเทศอินเดียและพม่า โดยสองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อทอดพระเนตรแบบแผนการปกครองที่ชาติยุโรปนำมาใช้ปกครองเมืองขึ้น และนำมาปรับปรุงใช้ภายในสยามประเทศ
    การเสด็จประพาสต่างประเทศครั้งที่ 3 สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) อันเป็นกรณีพิพาทที่ทางฝรั่งเศสส่งเรือรบ 2 ลำ ตีฝ่าป้อมพระจุลจอมเกล้า ซึ่งเป็นแนวป้องกันของไทยที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา และในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 กองทัพเรือของสยามได้ยิงตอบโต้เรือรบของฝรั่งเศสจนทำให้เรือนำร่องของฝรั่งเศสถูกยิงเกยตื้น แต่เรือรบของฝรั่งเศสสองลำ สามารถตีฝ่าแนวป้องกันของสยาม เข้ามาเทียบท่าอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศสในเขตพระนครได้สำเร็จ ครั้งนั้นสยามต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศสเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านฟรังก์ ที่สำคัญกว่านั้นคือ สยามต้องยอมสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส เป็นพื้นที่กว่า 143,000 ตารางกิโลเมตร  นับว่าเป็นการสูญเสียดินแดนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
    การเสด็จประพาสยุโรปครั้งนั้น นับเป็นครั้งแรกที่กษัตริย์สยามเสด็จไปถึงดินแดนยุโรปอันไกลโพ้น  ไปประกาศก้องให้ทั่วโลกรู้จักสยามมากขึ้นว่าเป็นชาติอารยะชาติหนึ่งที่ไม่ล้าหลังและไม่ด้อยศักดิ์ศรีไปกว่าชนชาติใด  ป้องกันไม่ให้มหาอำนาจใช้ข้ออ้างเรื่องนี้มาเป็นเหตุเข้ามายึดครองสยามเป็นเมืองขึ้น  นับว่าเป็นพระวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศของพระองค์ที่นำพาสยามประเทศให้รอดพ้นจากการตกอยู่ใต้อาณัติของมหาอำนาจยุโรป

    อีกสิบปีต่อมา  พ.ศ. 2450 พระองค์ตัดสินพระทัยเสด็จประพาสยุโรปอีกครั้ง!!!

    เวลานั้น ประชาชนสยามได้รับรู้ว่า พระอาการประชวรของพระองค์อันสืบเนื่องจากการทรงงานหนักคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ที่ประชุมคณะแพทย์ชาวยุโรปลงความเห็นว่า แพทย์ชาวเยอรมันผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และอากาศแบบยุโรป น่าจะสามารถรักษาพระโรคได้ดีกว่าที่จะรักษาต่อไปในประเทศ ซึ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนชื้นตลอดทั้งปี แต่ทว่ายังคงมีมิติอื่นที่นอกเหนือจากการเสด็จเพื่อรักษาพระวรกายอย่างที่เข้าใจกัน สาเหตุนั่นคือการเดิมพันอธิปไตยของสยามจากสนธิสัญญาหลายฉบับที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศ สร้างความวิตกให้กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นคือสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ในการยกเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับดินแดนด่านซ้ายจังหวัดเลย ตราด และเกาะต่างๆ ที่อยู่ใต้แหลมสิงห์ไปจนถึงเกาะกูด กลับมาเป็นของไทย โดยฝรั่งเศสได้ทำการถอนทหารออกจากจันทบุรี พร้อมกับยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้แก่สยามในปี พ.ศ. 2449

    ตลอดระยะเวลา 225 คืน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับพระราชภารกิจแต่ละวันนับตั้งแต่เสด็จลง “เรือพระที่นั่งมหาจักรี” ออกจากกรุงเทพฯ ผ่านสถานที่ต่างๆ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ศรีลังกา อียิปต์ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม เดนมาร์ก นอร์เวย์ และมอลต้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงประสบ หรือสิ่งที่ทอดพระเนตรตลอดเส้นทาง เป็นทำนองการบันทึกจดหมายเหตุ หรือรายงานประจำวัน และทรงพระราชทานแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี) หรือ “สมเด็จหญิงน้อย” ผู้ซึ่งสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมชนกนาถในตำแหน่งเลขาธิการฝ่ายใน รวมจำนวน ๔๓ ฉบับ และโปรดให้เรียกพระราชหัตถเลขานี้ว่า  “ไกลบ้าน”

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 51 12:26:48

    จากคุณ : ออกหลวงมงคล - [ 6 ก.ค. 51 12:25:50 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom