 |
หลังจากดู The Dark Knight เสร็จ : คนดี - ผู้ร้าย, ผู้ร้าย - คนดี, ผู้ดี - คนร้าย, คนร้าย - ผู้ดี (เอ๊ะยังไง?)
ตัวละครเชิง Hero ทุกตัวย่อมมาคู่กับตัวร้าย ซึ่งในการ์ตูน DC และ Marvel ตัวเอกและผู้ร้ายมักจะเป็นการสะท้อน character ของกันและกัน อย่างเรื่องแบตแมนนี้ซึ่งเน้นปมทางจิตของผู้ชายที่สวมหน้ากาก มีสองตัวตน นำเหตุการณ์ร้ายแรงในอดีตมาเปลี่ยนเป็นพลังในเชิงสร้างสรรค์ ปกป้องชาวเมือง ในขณะเดียวกันตัวร้ายก็มีปมทางจิตของตัวเองซึ่งมีเหตุมาจากเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างในอดีต แต่เขาเหล่านั้นกลับแปรสภาพให้เป็นพลังเชิงทำลาย
ก่อนที่จะได้ดูภาคนี้หลายท่านคงทราบกันอยู่แล้วว่าแบตแมนเคยเจอ เหตุการณ์อะไรมาบ้างก่อนที่จะมาเป็นแบตแมน(เพราะฉะนั้นตัวละครจึงดูน่าเชื่อถือ) ในขณะที่ตัวร้ายคู่บุญอย่างโจ๊กเกอร์ ไม่มีใครรู้ปมมาก่อนเลยว่า เขาเป็นใคร เพราะอะไรเขาถึงทำชั่วได้ขนาดนี้ และในเรื่องเองก็ไม่มีการบอกไว้ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวละครที่ไม่มีปูมหลังดูน่าเชื่อถือได้ก็คือความบ้า อย่างเสมอต้นเสมอปลาย และความเชื่อในตัวละครว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความคิดเชิงศีลธรรมอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย หรือแม้กระทั่งเรื่องของผลประโยชน์เงินทองใดๆ ก็ตาม สิ่งที่เขาทำเป็นเพียงสิ่งที่เขาเห็นว่า"มันสนุกอ่ะ" เท่านั้น ซึ่งในทางการแสดงแล้วถือว่าเป็นตัวละครที่นักแสดงเข้าถึงได้ยากมาก (เพราะฉะนั้นขอซูฮกพี่ฮีธ จริงๆ ที่ทำให้โจ๊กเกอร์น่าเชื่อได้ขนาดนี้) ในขณะเดียวกันจุดสมดุลระหว่างตัวละครทั้งสองตัวนี้ก็คือ ฮาวี เดนท์ หรือทูเฟซ ซึ่งในขณะที่เราได้ดูหนัง เราเติบโตไปกับเขา เราเห็นว่าเขาเป็นคนยังไงในตอนแรก เหตุการณ์ร้ายแรงที่เขาเจอ และเขาเปลี่ยนไปยังไงในตอนท้าย นี่คือตัวละครที่เป็นมนุษย์ปุถุชนที่สุด จนเรารู้สึกกลมกลืนไปกับตัวละครจนไม่อาจตัดสินว่าเขาคือผู้ร้าย หรือเขาคือคนดี ซึ่งต่างจากความรู้สึกที่มีต่อแบทแมนและโจ๊กเกอร์อย่างเห็นได้ชัด
หนังเรื่องนี้แม้จะเป็นหนังบ็อกซ์ออฟฟิส แต่ก็สามารถตั้งโจทย์ที่คนดูต้องไปคบคิด ในระดับจิตใจได้ โจ๊กเกอรคือตัวละครเชิงความคิดเรื่องของความชั่ว ที่ไม่มีเกณฑ์ทางจิตวิทยาใดๆ มาวัด... หากมองย้อนเข้ามาในชีวิตจริงคนอย่าง ฮาวี...คนที่เราไม่อาจรู้ได้ว่า เขาคือ คนดี - ผู้ร้าย, ผู้ร้าย - คนดี, ผู้ดี - คนร้าย, คนร้าย - ผู้ดี นี่แหละคือความน่ากลัวในโลกสีเทาที่เราอยู่
จากคุณ :
fiassy
- [
วันอาสาฬหบูชา 22:43:47
]
|
|
|
|
|