Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    โผล่ประจันหน้า"เสี่ยเจียง" คืนดี "จา พนม"

    โผล่ประจันหน้า"เสี่ยเจียง" คืนดี "จา พนม"  
    Openmm.com MovieINEntertainment วันที่ 5 สิงหาคม 2551

                 พระเอกผกก.นักบู๊โผล่ สตช.ปรึกษา ''จงรัก'' เรื่องความปลอดภัย ภายหลังมีปัญหากับ ''สหมงคลฯ'' แล้วมีชายชุดซาฟารีสะกดรอยตาม พร้อมปรึกษาเรื่องสัญญาที่เซ็นกับต้นสังกัด ด้าน ''จงรัก'' พร้อมให้การคุ้มครอง ปัดยุ่งเรื่องสัญญา แนะให้ไปคุยกันเอาเองไม่เกี่ยวกับตร. ''เสี่ยเจียง'' เซอร์ไพรส์ ตามจาเข้าสตช. ทำเอา ''จา'' หน้าซีด ''จงรัก'' เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ได้บทสรุปลงตัว ''เสียเจียง-จา'' จับมือ ทำหนังองค์บาก 2 ต่อ เริ่มเดินเครื่องจันทร์นี้


    ท่าทางไม่จบง่ายๆ สำหรับกรณีของพระเอกผู้กำกับฯ นักบู๊ ''จา'' พนม ยีรัมย์ หลังหายตัวไปจากกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ''องค์บาก 2'' นานกว่า 3 เดือน ทำให้การถ่ายทำหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ต้องสะดุด และต่อมาทาง ''เสี่ยเจียง'' สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ บิกบอสค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกมาแถลงข่าวว่า พระเอกผกก.นักบู๊ ได้ใช้งบประมาณในการสร้างหนัง และชี้แจงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการหายตัวไปของ ''จา'' แต่ไม่คิดติดใจเอาความ โดยบอกว่า ''จามันลูกกู'' และเรียกให้กลับมาคุยกัน เพื่อทำหนังต่อให้เสร็จ

    ขณะที่ทางด้าน ''จา'' ก็ไปปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยการไปให้สัมภาษณ์เปิดใจผ่านรายการโทรทัศน์ ไปนั่งสมาธิเพียงต้องการเรียกสติกลับมา และกล่าวสวนทางกับการแถลงข่าวของ ''เสี่ยเจียง'' ทุกประการ และยืนยันว่าตนไม่ได้ใช้เงินถ่ายหนังเรื่อง ''องค์บาก 2'' เกินงบ ต่อมาทางพระเอกผกก.นักบู๊ได้ส่งทนายเป็นตัวแทนเข้ายื่นข้อเสนอ 7 ข้อต่อ ''เสี่ยเจียง'' หนึ่งในจำนวนนั้นคือขอเงิน 55 ล้านบาท ใช้ในการทำหนังต่อ ขอแบ่งรายได้จากหนัง ''องค์บาก 2'' 20 ล้าน และขอยกเลิกสัญญาที่เซ็นไว้กับสหมงคลฟิล์มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 แต่ทาง ''เสี่ยเจียง'' ไม่ตอบรับข้อเสนอใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับยืนยันว่า ''จา'' ต้องเข้ามาเจรจากับบริษัทด้วยตัวเองเท่านั้น

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. เวลา 14.00 น. ที่ชั้น 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพนม ยีรัมย์ หรือ จา พนม พระเอกผู้กำกับฯนักบู๊ชื่อดัง พร้อมด้วยนายจารุพล ธีระเดช ทนายความส่วนตัว นายทองดี และนางริน ยีรัมย์ พ่อและแม่ ''จา'' พร้อมทั้งญาติรวม 9 คน ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.(ปป 3) เพื่อปรึกษาและขอความช่วยเหลือหลังเกิดข่าวฉาวกับต้นสังกัด บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล กรณีที่หายตัวไปขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก 2 โดยอ้างว่าถูกชายชุดซาฟารีติดตาม และมีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทร.มาหา และมีบุคคลนิรนามโทร.นัดให้ไปพูดคุยกัน

    ทั้งนี้ ''จา'' ซึ่งแต่งกายด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีเหลือง กางเกงสแลกสีดำ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก เพราะต้องการมาปรึกษาเรื่องความปลอดภัย หลังมีปัญหาสัญญากับทางค่ายสหมงคลฟิล์ม และปัญหาที่ครอบครัวต้องไปแจ้งความ โดยเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้น จึงไม่รู้สึกสบายใจ โดยพระเอกผกก.นักบู๊ยืนยันว่า ตนไม่ได้ถูกขู่ฆ่าแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าอีกหรือไม่

    ''เรื่องที่ครอบครัวไปแจ้งความกับตำรวจ ก็เกรงว่าจะทำให้ทางค่ายเข้าใจผิด และสร้างความไม่พอใจให้ผู้ใหญ่ จนอาจเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งคิดว่าอีกสัปดาห์จะไปหาครอบครัวเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น'' จา พนม กล่าว

    สำหรับเรื่องความขัดแย้งกับ บริษัท สหมงคลฟิล์ม ต้นสังกัด จา พนม ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด

    ด้าน พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับ ''จา'' ในเบื้องต้นเป็นเรื่องที่ ''จา'' เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเอง ซึ่ง เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง ที่ต้องให้ความคุ้มครอง หากทางด้าน ''จา'' ร้องขอมา และหากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือมีการกระทำละเมิดกฎหมายแต่ในเรื่องของสัญญาที่จาเซ็นไว้กับต้นสังกัด ต้องไปคุยกันเอง และจากนี้คงต้องมีการสอบถามเรื่องที่ถูกข่มขู่อย่างละเอียดก่อน ส่วนจะมีการส่งตำรวจไปดูแล ''จา'' หรือไม่ คงต้องถามความต้องการจากเจ้าตัวก่อน

    ต่อมาเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ''เสี่ยเจียง'' ซึ่งเดิมได้แจ้งไว้ว่า จะออกมาแถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีต่างๆ อีกครั้ง พร้อมด้วย ''หนึ่ง'' อัครพล เตชะรัตนประเสริฐ ลูกชาย ''เสี่ยเจียง'', ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร และ ผู้ที่ดูแลหนังเรื่ององค์บาก 2 ในทุกส่วน เวลา 16.30 น. ที่เฮาส์อาร์ซีเอ ได้เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพบกับ ''จา'' โดยที่พระเอกผกก.หนังบู๊ไม่รู้ล่วงหน้าว่า ทาง ''เสี่ยเจียง'' จะเดินทางมา

    ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึง พร้อมด้วย ''หนึ่ง-อัครพล'' ลูกชาย และ ทนายความส่วนตัว ''เสี่ยเจียง'' ได้ ให้สัมภาษณ์กับบรรดาสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า

    ''ก็ดีใจที่ได้เจอจา เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ เราไม่ได้พบหน้ากันมา 1 เดือนเต็มแล้ว''

    หลังจากนั้น พล.ต.อ.จงรัก ก็ได้ถามทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อมวลชนเพื่อให้เป็นพยานเลยหรือไม่เสี่ยเจียงที่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกล่าวว่า

    ''ตนเองนั้นไม่มีปัญหายังไงก็ได้''

    ผิดกับทางด้าน ''จา'' ที่มีสีหน้าหมองคล้ำ และมีท่าทีวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด กล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มว่า

    ''ขอคุยกันเป็นส่วนตัวก่อนแล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง''

    ซึ่งหลังจากนั้นทั้งหมดก็ได้ย้ายไปคุยกันเป็นการส่วนตัว ที่ห้องพักของรองผู้บัญชาการตำตรวจแห่งชาติ จนกระทั่ง เวลา 16.30 น. ทั้งหมดได้เปิดโต๊ะให้บรรดาสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวตั้งแต่เที่ยงให้สัมภาษณ์กันพอหอมปากหอมคอ

    โดยเสี่ยเจียงเป็นฝ่ายชี้แจงก่อนว่า จากการพูดคุยกับฝ่ายของจาได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินการถ่ายหนังเรื่ององค์บาก 2 ต่อโดยจะเริ่มถ่ายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้อีกครั้ง เพื่อให้อีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเสร็จ

    ''สัญญาเก่าพับทิ้งยอมให้จามาถ่าย 20% ที่เหลือให้เสร็จก่อน จบแล้วเราจะทำยังไงต่อให้มาคุยต่อหน้าพี่จงรัก แค่นั้นแฟร์ๆ ไม่มีอะไร'' เสี่ยงเจียงกล่าว

    ในส่วนของเงินที่จะนำเข้าไปเพิ่มในการถ่ายนั้น ''เสี่ยงเจียง'' กล่าวว่า เวลานี้ทาง สหมงคลฯ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะต้องเพิ่มเข้าไปอีกจำนวนเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามต้องทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาอย่างมีคุณภาพ

    ''ให้งบประมาณยังไม่จำกัดจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องใช้เพราะหนังจะจบแล้ว บริษัทต้องทำออกมาให้ดีให้ได้ บริษัทไม่เคยสร้างหนังออกมาไม่ดี แต่ขอให้ถ่ายให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกครั้งซึ่งเมื่อถ่ายเสร็จและออกฉาย จา พนม จะได้เงินจากตรงนี้เพียง 20เปอร์เซ็นต์หลังจากหักจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว'' เสี่ยเจียงกล่าว

    ทั้งนี้ ''เสี่ยเจียง'' กล่าวด้วยว่า สำหรับการถ่ายทำหนังองค์บาก 2 อีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนี้ จะให้จามาเบิกเงินสดที่สหมงคลฯ ด้วยตนเอง จะได้มีการับรู้ว่าเงินถูกเบิกออกไปจำนวนเท่าไหร่ จะไม่จ่ายผ่านบัญชีของจาเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

    ''การให้เงินเพิ่มในแต่ละครั้งนั้นจะให้จามาเบิกเงินสดที่สหมงคลฯเองเพราะจะได้เห็นว่าเงินให้ไปเท่าไหร่ ถ้ายังโอนเข้าบัญชีแบบเดิมอยู่เงินคงไม่ถึงจาอย่างแน่นอน ซึ่งเสี่ยพูดพาดพิงถึงในเรื่องเงินที่หายว่าอาจจะหายเข้าไปในกระเป๋าพ่อจา บ้านจา หรือเอาไปซื้อตึก ที่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการทำหนังแต่อย่างใด ต่อไปมีความจำเป็นแค่ไหนค่อยมาเบิก บริษัทจะไม่ส่งเงินให้พ่อเขา ให้ค่าบ้านหรือค่าอะไรอีกแล้ว นอกจากเขาเดินเข้ามาเบิกเอง มาเบิกเป็นเงินสดให้เขาไปจ่ายเอง ไม่งั้นเวลาผมส่งเงินไปเขามีความรู้สึกไม่ได้รับเงินเพราะเงินไปถึงที่บ้านเขาแต่ในบัญชีพ่อเขา ในบัญชีบ้านเขาบ้าง เรื่องส่วนตัวที่เขาทำ เช่นซื้อตึก มันเป็นของที่เขาพอใจ ไม่ใช่อยู่ๆ เราอยากไปส่งไปเสือกให้อย่างนั้น ส่งเงินให้เขาต้องอยู่ที่เขาสั่ง แล้วบริษัทเห็นว่าควรช่วยเขาก็ช่วย'' เสี่ยเจียงกล่าว

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกของจาหลังได้เคลียร์กับเสี่ยเจียงครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ว่ารู้สึกอย่างไร จาตอบคำถามด้วยคำพูดเรียบๆ ราวกับสงวนคำพูดคำต่อสื่อมวลชนที่มาคอยอย่างใจจดใจจ่อมากว่าครึ่งวันว่า เวลานี้รู้สึกสบายใจแต่ยังไม่สามารถรับปากได้ว่า หนังองค์บาก 2 จะถ่ายทำเสร็จเมื่อไหร่

    ''สบายใจครับ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี แต่หนังอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะถ่ายเสร็จเมื่อไหร่ยังให้คำตอบไม่ได้ครับ'' จากล่าว

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถาม ''เสี่ยเจียง'' ว่า ทำไมไม่คุยกับจาให้จบก่อนหน้านี้ ด้านเสี่ยเจียง กล่าวกลับมาด้วยคำพูดที่ค่อนข้างจริงจังว่า  ''ก็เขาไม่อยากคุยแล้วกูจะคุยยังไง'' เสี่ยเจียงกล่าว

    ด้านจาเมื่อผู้สื่อข่าวถามจี้ว่า จะยังเป็นนักแสดงของสหมงคลฟิล์มฯ อยู่หรือไม่ ก็มีท่าทีซีเรียสมากขึ้น แต่ยังพยามฝืนยิ้มอย่างสบายใจ แต่ไม่ทันที่จาได้ตอบบคำถามนี้ ''เสี่ยเจียง'' แทรกขึ้นมาทันทีว่า

    ''ยังเป็นนักแสดงอยู่จะทำเรื่องต่อไปก็ได้ ไม่ทำต่อไปก็ได้ บริษัทก็จ่ายเงินทุกเดือนให้'' เสี่ยเจียงกล่าว

    ผู้สื่อข่าวยังจี้ถามย้ำจาอีกครั้งว่าจะอยู่สหมงคลฟิล์มฯ ต่อไปหรือไม่ จากลับเงียบไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น มีแต่ทนายความส่วนตัวกล่าวขึ้นมาว่า

    ''จบเรื่องนี้จะมาพูดกันอีกรอบนึงครับ''

    ต่อข้อซัถามว่า การที่เดินทางมาพูดคุยกันต่อหน้า พล.ต.อ.จงรัก ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะไม่มีการไปคุยกันแบบ 2 พ่อลูกแล้วใช่หรือไม่ ด้าน ''เสี่ยเจียง'' กล่าวว่า

    ''ใช่ เพื่อให้เขาสบายใจในความปลอดภัย อย่างน้อยตำตรวจไทยเชื่อถือได้''

    ต่อข้อซักถามว่าวันนี้บอกอะไรกับจาบ้าง ''เสี่ยเจียง'' กล่าวว่า

    ''ก็บอกให้เขาไปทำหนังเถอะดีๆ เหลืออีกนิดเดียวทำให้จบ ที่ผ่านมาคงเป็นความเข้าใจผิดกันเพราะทางเรายืนยันว่าไม่ได้คิดจะไปทำอะไรเพราะสร้างหนังกันมาตั้ง 3 เรื่องก็ถ้าฝ่ายนี้อาจจะไม่สบายใจหรืออาจจะมีมือที่ 3 ยังไงก็แล้วแต่ แต่ขณะนี้ตกลงกันได้แล้วก็จะให้งานมันเดินหน้าต่อไป'' เสี่ยเจียงกล่าว

    ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อจบการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้ว ทางเสี่ยเจียง และจา ลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณ พล.ต.อ.จงรัก ที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยปัญหาจนจบลงด้วยดี  จากนั้น ''เสี่ยเจียง'' และ ''จา'' ได้จับมือกันต่อหน้า พล.ต.อ.จงรัก และสื่อมวลชน จากนั้นเสี่ยเจียง และจาก็เดินไปเข้าลิฟต์ลงจากชั้น 3 พร้อมกัน และแยกย้ายกันกลับออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเสี่ยเจียงได้เดินทางไปแถลงข่าวต่อที่เฮาส์ อาร์ซีเอ ตามที่กำหนดไว้


    ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามดารา

    ติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์ได้ที่ : http://www.openmm.com/movie

     
     

    จากคุณ : nau - [ 5 ส.ค. 51 08:02:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom