CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หวานมันส์ .... ชำแหละหนัง: The Dark Knight, เราเรียนรู้อะไรจากแบทแมนบ้าง? และอะไรคือความหมายของการเป็นฮีโร่ ?

      10 - 9.5 / 10 GRADE A (48 คน)
      9 - 8.5 / 10 GRADE A - (11 คน)
      8 - 7.5 / 10 GRADE B + (1 คน)
      7 - 6.5 / 10 GRADE B - (1 คน)
      6 - 5.5 / 10 GRADE C (0 คน)
      5 - 4.5 / 10 GRADE D (0 คน)
      4 - 3.5 / 10 GRADE D - (0 คน)
      3 - 2.5 / 10 GRADE F (0 คน)
      2 - 1.5 / 10 GRADE F (0 คน)
      1 - 0 / 10 GRADE F (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 61 คน

     78.69%
     18.03%
     1.64%
     1.64%
     0.00%
     0.00%
     0.00%
     0.00%
     0.00%
     0.00%


    [SPOILS]

    .... Batman สร้างจากหนังสือการ์ตูนของค่าย DC และแต่งโดย Bob Cane แน่นอน มีหนังสือการ์ตูนเยอะ และก็ถูกสร้างมาให้ชมทางสื่อค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะการ์ตูนและหนัง แล้วในฉบับนักแสดงจริงที่คนจำได้สุดๆก็เห็นจะเป็นฉบับทีวีซีรี่ส์สมัยยุค 50-60 ที่เป็นประมาณแนวเด็กๆเน้นสีสัน และก็ตลกฮาๆต่างๆ เป็นแบทแมนในฉบับที่ยังไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ครับ ซึ่งค่อนข้างสนุกดีสำหรับแบทแมนฉบับนี้ แต่ปัญหาคือว่าแบทแมนฉบับที่ผมพูดถึงนั้น ยังดูเหมือนว่าคนดูยังสัมผัสถึงตัวละครยังไม่ค่อยถึงซักเท่าไหร่ เพราะว่าทุกๆตัวละครในฉบับนี้ล้วนแล้วสร้างมาเพื่อผ่อนคลายความเครียดก็เท่านั้น! แต่ถ้าใครได้ดูในสมัยเมื่อ 14 ปีก่อนที่ฉายช่อง 5 และได้น้าต๋อยมาให้เสียงพากย์ ผมว่ามันเป็นแบทแมนที่ไม่ต้องไปจริงจังอะไรกับมันมากซักเท่าไหร่ (แถมทุกๆตัวละครในแบทแมนฉบับนั้นเป็นพวกเจ้าสำอางกันหมดเลย เหอะๆๆๆๆ)

    .... พอมาฉบับหนังที่เชื่อว่าทุกๆคนจำได้แน่ๆก็คงหนีไม่พ้นฉบับปี 1989 ผลงานการกำกับของ Tim Burton และได้ Michael Keaton นั่นคือครั้งแรกที่เรื่องราวของ Batman เริ่มจะมาจริงจัง (พอๆกับนิยายภาพฉบับของ Frank Miller และ Alan Moore ที่เคยแต่งไว้) ซึ่งเพราะหนังแบทแมนฉบับนี้ได้ขึ้นสู่จอเงินอย่างเป็นทางการ ทำให้ชื่อของ Tim Burton แจ้งเกิดตามมา!

    .... แน่นอนเมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จ ก็ต้องเกิดภาคต่อหลังจากนั้น เลยมี Batman Returns มาอย่างต่อเนื่องไม่คาดสาย Tim Burton ยังคงทีมงานเดิมเกือบทั้งหมด แต่หนังภาคต่อกลับถูกใจน้อยกว่าภาคแรกเยอะมาก เพราะภาคนี้ดูเหมือนจะใส่ความเถื่อนมากเกินไป จนแฟนๆหนังและการ์ตูนไม่ค่อยชอบมุมมองใน Batman ภาคนี้ซักเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือว่า ทำไม Batman ฉบับ Tim Burton ถึงมีคนชอบค่อนข้างพอควร และภาคต่อมาคนเริ่มจะชอบน้อยลงกว่าเดิม ก็ภาคแรกเป็นครั้งแรกที่ใส่ความจริงจังและด้านมืดเข้าไปในตัวละครอย่างลงตัวและมีสาเหตุ แล้วมันค่อนข้างซื่อสัตย์ก็รากฐานเก่าของ Batman ต้นฉบับซะด้วย ทำให้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่คนดูยังรักอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

    .... แต่ปัญหาเดียวของฉบับ Tim Burton ก็คือเขายังติดอยู่กับความเผ้อฝันอยู่เยอะทีเดียว ทำให้พวกเมือง Gotham ในหนังนั้น ยังไม่ค่อยดูน่าเชื่อถือซักเท่าไหร่และติดอยู่โลกจินตรนาการเกินไปอยู่ ขณะที่ฉบับ Joel Schumacher เหอะๆๆๆๆ ไม่รู้จะบอกอย่างไรดี ? ได้แต่ "หายใจเข้าก็เฮ้อที หายใจออกก็เฮ้อที" ยอมรับว่าดูตอนเด็กๆแล้วสนุก แต่พอโตขึ้นเอามาดูอีกที โอ้ ตาเถน! อะไรกันหว่า ? มันยังกับหนังพจน์ อานนท์เลยอ่ะ ทั้ง Batman Forever และ Batman & Robin ไม่อยากพูดถึงจริงๆ ไม่อยากพูดเลยครับ แล้วนั่นคือจุดจบของหนัง Batman ยุค 90 อย่างน่าผิดหวังและไม่อาจยกโทษได้!

    Christopher Nolan ชื่อนี้ทำให้นักดูหนังแนว Cult คงคุ้นกันเป็อนอย่างดี ซึ่งเขาสร้างความขนลุกและความตื่นตาให้แก่คนดูทุกๆคนอย่างชัดเจน เพราะหนังแต่ละเรื่องที่เขาทำนั้นอาศัยความฉลาดฉไลของตัวเอง จากประสบการณ์การศึกษาต่างๆที่เขาจบมา นำมาสู่หนังที่มีเต็มประเด็น,ความอาคม, อุดมการณ์, ความแปลกแยก และแน่นอนสิ่งที่คาดไม่ถึง ย้อนไปดูผลงานหนังใหญ่เรื่องแรกของเขาที่ใช้แรงใจตัวเองมามาอย่างแน่วแน่ มาสู้ภาพยนตร์แนว Cult ที่ทำให้อเมริกาฮิตติดใจอย่างเอาเขาไปร่วมงาน

    .... The Fellowing ซึ่งปัญหาความคิดอันหลากแหลมที่อยู่ในหัวเขาถูกนำมากลั่นกลองอย่างเป็นจังหวะทำให้คนดูพบหลายอย่างที่คาดไม่ถึง

    .... มาสู่ผลงานชิ้นเอกของเขา Memento เหมือนกับผลงานเรื่องแรกของเขา แต่เรื่องนี้คิดหนักและท้าทายคนดูสุดๆ มันค่อนข้างเป็นหนังที่ลึกลับถึงใจ จนไม่มีใครคาดฝันได้ว่า บทสรุปที่แท้จริงคืออะไร ที่แน่ๆคือหนังของ Nolan เรื่องนี้องค์ประกอบทุกอย่างโดยรวมดีมากๆ (อาจจะดีพอๆกับ Pulp Fiction เลยก็ได้) โดนที่ซ่อนปริษนาบางอย่างให้พระเอกของเรื่องและคนดูช่วยกันตามหาพร้อมๆกันว่ามันคืออะไร แล้วสุดท้ายแล้วก็ต้องช็อคกับบทสรุปของหนังเรื่องนี้!

    .... Insomnia อาจเป็นงานที่ด้อยที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่เพราะว่ามันแย่หรือมันไม่สนุกแต่ยังใด แต่มันธรรมดาอย่างมากหนังเป็นการอาศัยดาราดังๆอย่าง Al Pachino กับ Robin Williams มาประทะคารมกับเนื้อหาที่เราเห็นบ่อยๆแล้วในหนังฮอลลีวู๊ด แต่สิ่งนึงที่มันติดตาหนังเรื่องนี้คือทุกตัวละครมีความหมายและเป็นตัวสื่อของความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน แต่เมื่อเทียบกับ Memento แล้ว มันยังไม่หนักแน่น หลังจากที่พี่แกกลับมาคืนฟอร์มได้จาก

    .... Batman Begins เขาคนนี้เลือกสร้างสรรค์ผลงานใหม่ของเขาด้วยการจับความถนัดเดิมที่เขามีต่อ The Fellowing และ  Memento มาสู่หนัง Cult ยุคใหม่อย่างเต็มที่ ที่ตรึงตาตรึงใจคนดูมาแล้วทั่วโลกแล้วมันก็กลายเป็นหนังที่คนดูจดจำไปในความทรงจำเรียบร้อยแล้ว

    .... The Prestige หนังต่างกับที่ผลงานที่ผ่านมาของเขาก็ตรงที่ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความลี้ลับที่ใครหลายๆคนมักสงสัยอยู่แล้วนั่นคือเรื่องมายากล เขาใช้ความสงสัยของคนดูเกี่ยวกับมายากลมาเป็นธีมเรื่องเพื่อให้คนดูเกิดความสงสัย นึกตาม และ คาดไม่ถึง อย่างที่เขาเคยทำใน Memento เพียงแต่ว่าเรื่องนี้โทนจะเปลี่ยนไปแต่อารมณ์ไม่ต่างจาก Memento เลย ทำให้ผมชอบเรียบหนังเรื่องนี้ในชื่อเล่นที่ว่า Memento 2: Magic Battle ซึ่งด้วยความเขลาของหนังเรื่องนี้ ทำให้หนังที่ฉายช่วงเดียวอย่าง The Illusionist อายม้วนเสื่อกลับบ้านไปเลย

    .... ซึ่งบอกได้ว่างานผลงานแต่ละเรื่องของ Nolan นั้นแสดงวิสัยทัศน์ที่มีความเป็นส่วนตัวเยอะอยู่มากทีเดียว ปกติผลงานของผกก.บางท่านที่มีบทสรุปพริ้วไหวอย่างคาดไม่ถึงนั้น จะมีโทนไม่เหมือนกันไม่ว่าจะพี่มาโนชหรือ David Fincher ก็มีโทนหนังที่แตกกันไปของเขา แต่ของ Nolan มักจะเน้นด้านมืดมนต์ของมนุษย์เราอยู่เยอะมากทีเดียว แล้วในแต่ละเรื่องของเขาค่อนข้างให้คนดูได้เห็นถึงแก่นแท้หรือเนื้อร้ายของมนุษย์ในหนังของเขาหลายๆเรื่อง ผมเชื่อว่าเขาคนนี้คงจบทางด้านมนุษย์ศาสตร์หรือไม่ก็สังคมศาสตร์ก็เป็นได้ เพราะหนังแต่ละเรื่องของเขาพูดถึงสะภาวะคนเราได้อย่างถึงเนื้อถึงไส้เลยทีเดียว

    Batman Begins คือการตีความแบบใหม่ของแบทแมนตลอดกาล เหมือนกับนิยายภาพ Batman ที่แต่งโดย Alan Moore และ Frank Miller ซึ่งต่างกับฉบับของ Bob Cane หลายขุม แล้วดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้ค่อนเป็นการรีบู๊ทแฟรนไชร์ได้ยังน่าปลื้มมากๆ สำหรับแฟนๆแบทแมนทั้งหลาย เพราะหนังเรื่องนี้นั้นสลัดภาพเดิมเกี่ยวกับ Bruce Wayne และ Batman ทิ้งหมด เป็นการตีความเข้าใจใหม่ที่ใส่ความเป็นจริงแบบโลกเราเขาอย่างดูมีมิติและชวนกลมกลืนไปกับมัน หนังเป็นเหมือนแบทแมนที่ใส่พลังและชีวิตชีวาที่เราสามารถลึกซึ้งไปตัวละครและเรื่องราวของหนังได้อย่างไม่อยากขาดสาย

    .... Christopher Nolan เสี่ยงอย่างมากที่จะตีความ Batman ในมุมมองของเขาและอาศัยความเป็นจริงมากกว่าหนังฮีโร่หลายๆเรื่อง เพราะหนังเรื่องนี้เน้นที่ Bruce Wayne มากกว่า Batman หลายเท่าก็ว่าได้ แล้วอาศัยพลังความรู้สึกต่างๆมนุษย์นั้นกันอยู่ทุกวันนี้คือความเกลียดชังและการโกรธแค้นที่อยู่ในใจ นำมาสู่ความกลัวและความเจ็บปวดในที่สุด หนังแสดงให้เห็นว่า Bruce Wayne มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น เขายอมที่จะทำตัวเป็นคนปิดทองหลังพระเพื่อที่จะเป็นบุคคลอีกตัวตนของเขาอย่างเต็มที่ ด้วยการแสดงของ Christian Bale ทำให้เราเริ่มรู้สึกแล้วว่านักแสดงคนนี้เริ่มมีความน่าสนใจและติดตามซะแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาผ่านหนังมาเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครแลเห็นความสามารถซักเท่าไหร่ จนกระทั่งเขาตีบท Bruce Wayne แตกได้อย่างสำเร็จ มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของเขาก็ว่าได้ เป็นหนังซูปเปอร์ฮ๊โร่ที่ตีความรู้สึกแบบใหม่ให้กับคนดูอย่างสุดซึ้ง และท้าทายอารมณ์ที่แตกต่างไปจากหนังแนวนี้ แล้ว Nolan ได้ให้คนเข้าใจว่า "แบทแมนที่แท้จริงควรจะเป็นแบบไหน ?"

    หลังจาก Batman Begins ผ่านไป 3 ปี ก็มีภาคใหม่ออกมา แต่เดิมมันไม่เชิงจะเป็นหนังที่ถูกกล่าวขาญประจำซัมเมอร์นี้หรอกครับ แต่ต้องย้อนไปเมื่อต้นปี 2007 หนังภาคใหม่ต่อจาก Batman Begins ซึ่งได้ชื่อว่า The Dark Knight ทำให้หลายๆคนเริ่มสงสัยว่า ทำไมหนังแบทแมนภาคใหม่นี้ ไม่มีชื่อ Batman นำหน้า และไม่เพียงเท่านั้นทีม PR ของหนังเร่งทำการประชาสัมพันธ์แบบแปลกๆ ไม่ว่าจะทางสื่ออนไลน์และทางสื่อหนังสือการ์ตูน มีการประชาสัมพันธ์อย่างช่างกล้ามากๆ เหมือนประมาณว่ามีตัวประหลาดออกมาปั่นป่วนโลกความเป็นจริงอย่างชัดเจน โดยที่ใช้เจ้า Joker ซึ่งถูกกำหนดวางให้เป็นตัวร้ายภาพใหม่นี้ตั้งแต่ภาคที่แล้ว และการมาของ Joker ในสื่อประชาสัมพันธ์จะดึงดูดให้คนมาสนใจอย่างไม่ขาดสาย เพราะยิ่งโปรโมทมากเท่าไหร่! หนังเรื่องนี้คนดูทั่วโลกยิ่งสนใจมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการโปรโมทแต่ละอย่างก็สร้างปริศนาให้คนดูไปขวานหาต่อ (รูปแบบคล้ายๆกับ Cloverfield) และการได้ Heath Ledger มาเล่นเป็น Joker นั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่แหวกแนวอย่างมาก เพราะไม่ใครเคยคิดว่านักแสดงอย่างเขาจะตีบทบ้าบิ่นได้ เพราะนักแสดงอย่าง Jack Nicholson ก็ฝากฝีไม้ลายมือจนขึ้นระดับเทพไปแล้ว เพราะเหตุนี้มันจึงเป็นแรงพลักดันทำให้ The Dark Knight กลายเป็นภาพยนตร์ที่ใครหลายๆคนเฝ้ารอดูแห่งปีก็ว่าได้ ยิ่งเสียชีวิตของ Heath Ledger เมื่อต้นปี มันยิ่งการทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้น

    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 21:05:51

    จากคุณ : billy bob - [ 6 ส.ค. 51 15:10:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom