Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มารู้จัก 'โรคติดเกมส์' กันดีกว่า (แน่ใจแล้วหรือว่า คุณไม่ติด) + เหตุผลที่ทำให้ เกมส์ เกิด 'โรคติด' มากกว่าดูหนังดูละคร

    ...กระทู้นี้แตกประเด็นมาจากกระทู้

    <<<<< จากข่าวมาชวนคุย : ถ้ากล้วยฆ่าคุณได้ ด้วยวิธีการทอด ฉันใด เชื่อหรือไม่ 'เกมส์กับหนัง' ก็ทำร้ายคนได้ฉันนั้น >>>>>
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6863192/A6863192.html


    ...เพราะเห็นว่า ตีเหล็กต้องตีตอนที่ร้อนๆฮ่าฮ่าฮ่า

    ดังนั้นจึงขอโอกาสเปิดกระทู้ใหม่เพื่อให้ได้รู้จักกับ โรคติดเกมส์ ว่ามันคืออะไร

    ...ปัญหา โรคติดเกมส์ หรือ Game addiction เป็น ปัญหาลำดับต้นๆที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกวันในปัจจุบัน ปัญหาที่พ่อแม่มาปรึกษาหมอ เช่น ติดจนขโมยเงินไปเล่น ติดจนโดดเรียน ติดจนกลับบ้านดึกๆ ติดจนไม่กินข้าวกินปลา

    และ ใช่ว่า ครอบครัวจะมีปัญหาเสมอไป หลายครอบครัวก็อบอุ่น แต่ พ่อแม่ไม่รู้มาก่อนว่า เกมส์จะก่อปัญหา จึงให้ลูกเล่นเกมส์ตามแต่ใจชอบตั้งแต่เด็ก


    ... ความข้ดแย้งจากหน้ากระทู้ จะเห็นได้ว่ามาจาก คนส่วนใหญ่ ยังไม่รู้จักยังไม่รู้จริงกับโรคนี้ ทำให้

    ฝ่ายหนึ่งเหมารวมด่าคนเล่นเกมส์ เหมารวมว่าเกมส์ไม่ดี

    ในขณะที่อีกฟากก็สรุปเองว่า เกมส์ไม่มีปัญหา พวกผู้ใหญ่ไม่เล่นไม่รู้จริง

    ... ทำให้ ปัญหาแก้ไม่เคยถูกจุด 'ผู้ใหญ่สั่งแบน เด็กต่อต้าน' แล้ว มันก็จะจางหายเมื่อข่าวสงบ


    โรคติดเกมส์ ก็เหมือนกับโรคส่วนใหญ่ของจิตใจที่คนยังไม่รู้จักกันดี เคยได้ยินแต่คำ’เขาว่า’ จึงทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา ตัวอย่างเช่น โรคติดเหล้า ก็นึกว่า เป็นนิสัย หากแท้จริง การติดเหล้าเกิดจาก สมองเสพติด

    หรืออย่าง โรคซึมเศร้า ที่หลายคนไปแนะนำว่า ไม่ต้องกินยา เพราะเคยได้ยิน'เขาว่า' ยาเป็นสารเคมี คิดว่า ยาจะสะสม จนผู้ป่วยหลายคนอาการไม่ดีขึ้นเพราะหยุดยา

    นั่นยืนยันให้เห็นว่า คำ 'เขาว่า' กระจายในสังคมมากกว่า 'ข้อเท็จจริงทางการแพทย์"

    ภาวะซึมเศร้า ไม่เหมือน โรคซึมเศร้า

    อกหัก รักคุด แฟนตาย แม่ยายด่า ฯลฯ อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ การปลอบใจ เข้าหาธรรมะ หรือ ท่องเที่ยว สามารถช่วยได้ไม่นานก็หาย

    แต่

    โรคซึมเศร้า คือ โรคที่มีความผิดปกติในสมอง ที่ สมองในส่วนควบคุมอารมณ์ความรู้สึกมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ เกิดอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ เบื่อไปหมด ฯลฯ ซึ่ง ในเมื่อเป็นโรคทางสมอง การปลอบใจ หรือ ท่องเที่ยว หรือ ธรรมะ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยได้ จำเป็น ต้องใช้ยาเพื่อปรับเปลี่ยนสารเคมีที่แปรปรวนให้ปกติ



    มาถึง เกมส์

    A. อะไรคือ โรคติดเกมส์  ?

    ... ติดเกมส์ กับ โรคติดเกมส์ ต่างกัน

    ติด ก็แค่ ชอบ อยากเล่น เล่นบ่อย

    แต่ โรคติดเกมส์ ก็เหมือน ติดเหล้า ตรงที่ เป็น ภาวะสมองติดยา มีความแปรปรวนของสมอง และ นำมาซึ่ง ปัญหา ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัว แต่คนใกล้ชิดบอกได้ เช่น เสียการเสียงาน , เสียการเรียน , แยกตัว เริ่มไม่เข้าสังคม หรือ มีปัญหากับแฟน กับพ่อแม่ กับ เพื่อนๆ


    question ถ้าอยากรู้ว่า ฉันติดแล้วหรือไม่ ? ลองไล่ดูว่า มีอาการตามนี้หรือเปล่า


    1.Tolerance คือ การที่เคยกินเหล้าขนาดเดิมแล้วเริ่มไม่ได้ความรู้สึกพอใจเหมือนเดิม เช่น เดิม 1 แก้วก็เฮฮา ต่อมา 1 แก้วก็งั้นๆ ต้องเพิ่มเป็น 1 กั๊ก แล้วก็ต้องค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    สำหรับเกมส์ คือ แต่เดิม สิบนาที ก็สนุกสบายพอใจ ต่อมา สิบนาทีผ่านไปก็เฉยๆ ต้องเล่นนานกว่าเดิม เป็น หนึ่งชั่วโมง เป็นห้าชั่วโมง เป็นสิบชั่วโมง ถึงจะรู้สึกสนุกหรือพึงพอใจเหมือนแต่ก่อน


    2.Withdrawal คือ อาการถอนหลังหยุด เช่น หยุดเหล้า แล้วมีอาการ มือสั่น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ

    สำหรับเกมส์ เช่น ถ้าหยุดแล้วหงุดหงิด กระสับกระส่าย พาล ต้องหาทางเล่นให้ได้ (เคยมีบางรายถึงขนาด ทำร้ายพ่อแม่ เพื่อให้ได้เล่นเกมส์ ทั้งๆที่ เป็นเด็กที่ไม่มีปัญหาใดๆมาก่อน)


    3.ใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ให้ความสำคัญกับ เกมส์ มีความคิดหมกมุ่นกับเกมอย่างมาก เช่น หลับตาก็เห็นแต่ Raknarok ลืมตาก็มองบ้านมองโรงเรียนเป็น Sim city , คิดวนเวียนวางแผนเพื่อเอาชนะการเล่นเกมครั้งต่อไป ในเวลาเรียนหรือเวลาทำงาน


    4.ต้องใช้ปริมาณในการดื่มเหล้ามากกว่าที่ตั้งใจไว้ ส่วนเกมส์ ก็คือ ต้องใช้เวลาในการเล่นมากไปกว่าที่ตั้งใจไว้ คุมเวลาไม่เคยได้


    5.ความสามารถในการเรียนหรือทำงาน สัมพันธภาพกับคนรอบข้าง แย่ลง เช่น ละเลยหน้าที่ความรับผิดชอบ งานแย่ลง ผลการเรียนลดลง , ยอมข้าวอดน้ำอดนอน , ทะเลาะกับแฟนกับแม่บ่อยขึ้นในเรื่องของเกมส์


    6.มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาแต่ก็ยังคงใช้สารเสพติด หรือ เล่นต่อไป เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เช่น เป็นตับแข็งแต่ก็ยังกินเหล้าต่อไป หรือ เริ่มเสียสายตา เกรดเริ่มตก งานเริ่มแย่ แต่ก็ยังคงปกป้องเกมส์ต่อไป


    7.พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เล่น เช่น โกหกแม่โกหกแฟนเพื่อให้ได้เล่น หรือ ทำผิดกฎสังคม อย่าง ขโมยเงินหรือโดดเรียนได้เพื่อเล่นเกมส์


    exclaim หากอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วคิดในใจว่า

    “ โธ่ อยากเลิกเมื่อไหร่ก็เลิกได้ แค่ตอนนี้ยังไม่อยากเลิก “

    ให้รู้ไว้ว่า

    คำพูดแบบนี้ เป็นคำพูดของ คนติดสารเสพติดส่วนใหญ่ ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดแล้ว และ ในที่สุด ไม่เคยเลิกสำเร็จ


    smile หากอยากพิสูจน์ ลองหยุดเล่นเกมส์ แบบหักดิบ ซัก หนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่มีอาการดังกล่าวที่ว่ามา ถือว่า ยังห่างไกลกับโรคติดเกมส์

    ถ้าหักดิบ แล้ว มีอาการ หักดิบ แล้ว มีปัญหา แนะนำว่า อย่ามองเป็นเรื่องเล็กๆ ควรรีบปรึกษาคนใกล้ตัวหรือพบแพทย์




    idea B.ทำไม เกมส์ ถึงทำให้เกิด โรคติดเกมส์ มากกว่า โรคติดหนังติดละคร



    เกมส์ ต่างจาก หนังหรือละคร ก็ตรงที่


    1.คนเล่น จะมีโอกาส อิน ได้ง่ายกว่าหนังหรือละคร เพราะ คนเล่น จะแทนตัวเองเป็น ตัวละคร ในเกมส์ตั้งแต่เริ่มโดยอัตโนมัติ

    ...มาริโอ ใช่ว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

    อย่าทำเป็นขำว่า เด็กเล่นมาริโอ จะกระโดดลงท่อไม่ได้ เพราะ ถ้าให้เด็กสามขวบสี่ขวบเล่นมาริโอวันแล้ววันเล่า เชื่อเถอะว่า วันหนึ่งถ้าเด็กเจอเต่า ต้องอยากลองกระโดดเหยียบเต่าเหมือนในเกมส์ หรือวันหนึ่งเห็นท่ออาจลองมุดลงไปในท่อ ซึ่งตรงนี้ ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูที่เป็นปัญหา แต่เป็น ธรรมดาของระดับพัฒนาการทางความคิด ที่เด็กจะลอกแบบตามสิ่งที่เห็นได้ง่าย

    เพราะเวลาเล่น ตัวเราจะกลายเป็นตัวละคร แล้วความรู้สึกติดตัวหลังเล่น จะตามมาอย่างไม่รู้ตัว ขึ้นอยู่กับว่า ภูมิคุ้มกัน ในตัวเองของแต่ละคนจะมีมากหรือน้อยเพียงใด


    2.เกมส์ มีหลักการ ติด เหมือน หวย หรือ บิงโก ฯลฯ นั่นคืออาศัย rewarding system กับ ทฤษฎี conditioning  

    ...มีการทดลอง ให้ หนูวิ่งหาทางออกในกล่อง แล้ว ถ้าวิ่งแล้วหาทางออกไม่ได้ซ้ำๆ หรือ วิ่งไปเจอไฟช็อตซ้ำๆ หนูจะไม่อยากหาทางออกอีก

    ดังนั้น ลองนึกภาพดูว่า

    ถ้าเล่นหวยแต่แรกแล้วโดนกินแล้วโดนกินซ้ำๆ จะไม่อยากเล่นอีก
    ถ้าเล่นเกมส์แล้วแพ้แต่แรก แพ้ซ้ำๆ เล่นไม่ถูกจริต จะไม่อยากเล่นอีก


    แต่ ปัญหาของการติดหวยติดเกมส์ มาจาก การเคยชนะ หรือ เคยได้ สลับ กับ การแพ้

    เช่น

    ถูกหวยหรือเล่นตู้สล็อตแล้วได้รางวัลแล้วชนะ รู้สึกดีใจ ตื่นเต้น จึงอยากได้มาอีก

    เล่นเกมส์แล้วชนะ รู้สึก ภูมิใจ รู้สึกเก่ง รู้สึกดี ความรู้สึกด้านบวกเป็นแรงกระตุ้นให้ อยากรู้สึกดีๆแบบนี้อีก

    ในทางกลับกันลองนึกภาพดู

    ถ้าเกมส์ใดที่เราเล่น ชนะซ้ำๆทุกๆครั้ง โอกาสติดเกมส์จะน้อย เพราะจะเริ่มเบื่อ

    แต่พอเคย ชนะ แล้ว มาแพ้

    เล่นแล้วแพ้ รู้สึก หงุดหงิด รู้สึกผิดหวัง คิดว่าตัวเองทำได้ดีกว่านี้ คิดว่าอยากจะเอาชนะ ไม่อยากเลิก

    ซึ่ง พฤติกรรมซ้ำๆ ถ้าเกิดมากเกินไปวนไปวนมา จะมีผลต่อสมองในส่วนที่เรียกว่า brain rewarding system ทำให้ เกิดสารเคมีแปรปรวนไป เมื่อต้องเลิก จะเกิดอาการ withdrawal ตามที่ต้องเขียนไว้ข้างต้นตามมา


    3.เกมส์ยุคใหม่ๆ มีความ สมจริง มากขึ้น ทำให้ คนเล่นติดง่ายขึ้น เนื่องจาก ได้ อิสรภาพ(freedom) ได้ เพื่อน และ ได้ ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง(self esteem)

    ..ในสังคมจริง เป็น แค่คนธรรมดาๆ แต่ ในเกมส์ เป็น พระราชา เป็น คนสำคัญที่สังคมในเกมส์ต้องการ ได้รับคำชื่นชม

    ในสังคมจริงถูกกดขี่ ข่มเหง ควบคุม แต่ในเกมส์ ไม่มีใครคุมเราได้ เหม็นขี้หน้าก็ฆ่าทิ้ง

    ในสังคมจริงแม่ด่าครูว่าเรียนไม่เก่ง แต่ในเกมส์ สร้างเมือง เป็นนายก มีแต่คนชอบ

    ในสังคมจริง มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ในเกมส์ เราเลือกแต่คนที่ชอบเราได้

    ในสังคมจริง หาเพื่อนยาก แต่ใน เกมส์ มีเพื่อนคอเดียวกันมาก

    ฯลฯ


    ...ดังนั้น จะเห็นได้ว่า

    เกมส์ มีปัจจัยที่ทำให้ ติด ได้ง่ายมาก

    การแก้ปัญหา ไม่ใช่ แบน เกมส์

    การแก้ปัญหา ไม่ใช่ ห้าม เล่นเกมส์

    การแก้ปัญหา ไม่ใช่ ไปเซ็นเซ่อร์เบลอเกมส์ เหมือนที่ทำกับ หนัง

    แต่

    เรา ต้อง รู้จัก ภาวะนี้ และ รู้ว่า เกมส์เหมือนดาบสองคม เหมือนเช่น ของทุกชนิดในชีวิต ที่มากไปย่อมไม่ดี ต้องมีเวลาที่เหมาะสมในการเล่น

    เรา ต้องรู้ว่า เกมส์เหมือนหนังเหมือนละคร ที่มีช่วงอายุที่เหมาะกับการเล่น และ ก็มีบางเกมส์ที่ควรหลีกเลี่ยงจริงๆ

    เรา ต้องรู้ว่า เกมส์ มี ภาวะเสี่ยงต่อการติดได้ง่าย กว่าปัจจัยอื่นๆ

    เรา ต้องเริ่มเตือนตัวเองให้รู้จัก หยุด หรือ ถอย เวลาที่เริ่มมีอาการติด

    เรา ต้องหันมามี ความรับผิดชอบ มากกว่านี้ เช่น พ่อแม่เพิ่มเวลาหรือหากิจกรรมดีๆแทนที่ซื้อเกมส์ให้ลูกไว้เพื่อไม่ให้ออกไปไหนแต่สุดท้ายลูกติดเกมส์ หรือ เจ้าของร้านเกมส์ต้องเอาจริงไม่ใช่หวังแค่จำนวนเงินของลูกค้าเยาวชน ฯลฯ


    และ สุดท้ายยืนยันเหมือนกระทู้ก่อนว่า

    ... อย่าลืมว่า ถึง กล้วยจะฆ่าคุณได้ด้วยวิธีการทอดดดดดดดดดดดดด แต่ ถ้ากินให้เหมาะสม เราก็ไม่เป็นอันตราย

    ถ้าจะกินต่อ จขกท.หรือคนอื่นๆก็ไม่มีใครมีสิทธิไปต่อว่า

    และสำคัญที่สุดคือ คนเอากล้วยเข้าปาก สุดท้ายก็คือ ตัวเราเอง

    แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 51 00:57:30

    แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 14:12:34

    แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 12:20:55

    แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 12:06:29

    แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 10:49:21

    แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 10:41:15

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 7 ส.ค. 51 10:37:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom