ความคิดเห็นที่ 20
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้กับคำว่า "หนังการ์ตูนที่มีเนื้อหาไม่ใช่เด็กๆ" อย่างเต็มที่ และผมว่าคำนี้แหละเป็นคำนิยามอีกคำหนึ่งสำหรับ Wall-E ได้เป็นอย่างดี ทุกๆฉากสอดแทรกข้อคิดไว้อย่างเต็มเปี่ยม,ตั้งใจและแนบเนียน แล้วก็เห็นด้วยกับคำพูด จขกท อีกครั้งว่า "เพราะ Wall-E คือหนัง 'รักโลก'ที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่จำเป็นต้องเสนอผลการวิจัยอะไรให้ลึกล้ำเกินสมองคนจะเข้าใจ" ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดูหนังแต่ไม่ชอบคิดมาก เรื่องนี้ก็สามารถยัดเยียดความรู้สึก "รักโลก" ให้คุณได้อยู่ดี :D
เรื่องอื่นๆ จขกท ก็พูดไปหมดแล้ว ผมขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มอีกแนวละกัน สำหรับผมแล้วเรื่องนี้จะออกแนว "ประชดแบบน่ารักแต่เจ็บจริงๆ" ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ด่าแบบจิกๆด้วยสายตาแต่ไม่ต้องใช้คำพูด สื่อสารกันด้วยภาพล้วนๆ
ไม่ว่าจะในแง่ของการมองโลกในอนาคตของ pixar ซึ่งวางและหยอดเรื่องราวต่างๆไว้ในหนังเช่น
ภาพที่ถ่ายจาก top view ให้มองเห็นเป็นตึก พอได้ดูดึๆแล้วมันเกิดจากกองขยะที่มากมายมหาศาล ที่เกิดจากการบริโภคนิยมของมนุษย์! จนมานำมาสร้างเป็น "ตึก" icon ของระบบทุนนิยม ดูออกแนวสะท้อน เสียดสีและประชดประชันกับสภาพสังคมปัจจุบันที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น หรือแม้ตอนที่ยาวอวกาศบินออกนอกโลก แล้วต้องฝ่า ซากดาวเทียมจำนวนมาก มากจนเหมือนกลุ่มอุกกาบาต เพื่อบินออกไป
การที่ให้ แมลงสาบ เป็นสัตว์ตัวเดียวในเรื่อง และทำให้มันเหมือนกับว่ามันเป็นสัตว์ตัวสุดท้ายบนโลกจริง(ซึ่งจริงๆก็ไม่รู้ว่ามีอีกรึเปล่านะ เอาเท่าที่เห็นแล้วกัน) พอเห็นมันครั้งแรก ก็เข้าใจทันทีว่า ผู้กำกับจะบอกอะไร แล้วมันก็ทำให้รู้สึกว่า เออไอ้ตัวนี้แหละ เหมาะที่สุดสำหรับบทนี้แล้ว ไม่มีอะไรตายยากเท่า แมลงสาบ อีกแล้ว
การที่พูดถึงคน(เช่นกัปตัน หรือเจ้าของ BNL ในเรื่อง)เป็นคนแสดงจริงๆในตอนแรก แล้วค่อยๆกลายพันธุ์เป็น animation ได้อย่างแนบเนียน เหมือนต้องการสื่อถึงการกลายพันธุ์จากหลักการ ใช้และไม่ใช้ ส่วนไหนของร่ายกายที่ไม่ได้ใช้ก็จะไม่ได้ถูกพัฒนา ก็จะเริ่มลดประสิทธิภาพของมันลงไป อย่างเช่น ตอนที่มีคนหล่นจากยานพาหนะส่วนตัวแล้วจำเป็นต้องให้หุ่นยนต์มาช่วยยกขึ้น หรืออย่างในตอนจบที่ยานร่องลงถึงโลก คนแทบจะเดินเองไม่เป็น
การที่ใส่ การแสดงออก,ความรู้สึก,อารมณ์ ลงไปในสิ่งของ ซึ่งเป็นแนวที่ pixar ถนัดและทำได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างความรู้สึกของความเป็น"คน" จนทำให้คนดูมองข้ามตัวตนที่แท้จริงของตัวละครไปได้อย่างดี แต่พอตัวละคนที่เป็น "คน" ในเรื่อง กลับใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ คือทุกๆวันทำกิจกรรมเหมือนกันๆ พอตอนที่เสื้อผ้าเปลี่ยนสีใหม่ ทุกคนก็กดเปลี่ยนกันทั้งยาน เหมือนมีโปรแกรมใหม่ออก ทุกคนก็ download มา update ตัวเองให้ทันสมัยอยู่เสมอๆ อาหารที่กินกันบนยานก็กลายเป็นของเหลว เหมือนเติมน้ำมันให้กับหุ่นยนต์มากกว่า
ถ้าได้ดูฉากตอนหนังจบไปแล้วที่ เอายุคต่างๆของศิลปะมาสื่อถึง วิวัฒนาการรอบใหม่ ของคนในอนาคต ที่นำเอาเครื่องมือแบบ high technology มาทำเกษตรกรรมพื้นฐาน เป็นการกัดที่เจ็บดีจริงๆ
ตอนนี้นึกออกเท่านี้อ่ะคับ หรือว่าผมคิดมากไปก็ไม่รู้นะ ไม่รู้มีใครรู้สึกเหมือนผมรึเปล่า แต่ยังไงก็ชอบอ่า แนะนำให้ไปดูกันๆ
จากคุณ :
ดูแล้วรักเลย (gecomax)
- [
24 ส.ค. 51 03:18:31
]
|
|
|