ความคิดเห็นที่ 1 หมอผิดเต็มๆ แย่จังสงสารพ่อแม่น้องนะคะ เห็นในข่าวแล้วสะเทือนใจ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 20 ส.ค. 51 10:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ  ยอมไม่ได้ จากคุณ : lovecatnaja - [ 20 ส.ค. 51 10:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นใจพ่อแม่ครับมีลูกคนเดียวเสียด้วย คนของคลีนิคที่ออกมาพูดผมดูจากทีวีก็พูดไม่ดีเลย คนเรียนหมอเน้นแค่เรียนเก่งผมว่าควรเน้นที่มโนธรรมด้วย จากคุณ : ปลาแขยง - [ 20 ส.ค. 51 10:21:15 A:202.91.19.194 X:195.189.143.57 TicketID:183394 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นหน้าตาท่าทางหมอ วีธีพูด ที่ออกมาชี้แจงหน้าคลีนิคแล้วหมดศรัทธา สงสารพ่อแม่เด็ก จากคุณ : อมยิ้มอันใหม่ - [ 20 ส.ค. 51 10:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อเช้าตอนดูเช้าวันใหม่ เห็นหน้าศพลูกเมๆๆไม่มีเซนเซอร์เลย จากคุณ : meaning_me - [ 20 ส.ค. 51 10:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "ทำกิ๊ฟมาสองปีกว่าจะได้ลูกคนนี้ พอได้ก็มีเวลาชื่นชมแค่ปีแปดเดือน ..ก็จากไป" บอกได้คำเดียวว่า "ชุ่ย" จากคุณ : kublur - [ 20 ส.ค. 51 10:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฮ้อ!! น่าสงสารพ่อแม่เค้าจัง T_T จากคุณ : ผี 5 แพร่ง (ppstlineage) - [ 20 ส.ค. 51 10:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เด็กเป็นปอดบวมหรือไข้หวัดธรรมดา หมอยังไม่มีปัญญาแยกแยะออก ไปขายเฉาก๊วยซะดีกว่าไม่เดือดร้อนใคร ชุ่ยมาก จากคุณ : pyramidas - [ 20 ส.ค. 51 10:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลงทุนมากมายทำกิฟเพื่อสร้างชีวิตลูก แต่พอลูกป่วย พ่อแม่รู้แล้วว่าอาการแย่ลงเรื่อยๆ ทำไมยังรอหวังพึ่งการรักษาชีวิตลูกจากบัตรทองล่ะ เด็กได้รับการดูแลปกป้องที่ดีจากพ่อแม่แล้ว...จริงหรือ??? สงสารเด็กจัง จากคุณ : ใบบาง - [ 20 ส.ค. 51 10:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คลินิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : offey - [ 20 ส.ค. 51 10:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พ่อแม่เขาพาลูกไปหาหมอถึง2ครั้งนะครับแต่หมอยืนยันว่าไม่เป็นอะไรมาก ผมว่าเรื่องนี้จะไปโทษพ่อแม่เขาไม่ถูกนะครับในเมื่อยืนกรานแบบนั้นชาวบ้านไม่ได้เรียนหมอมาจะแยกแยะออกไหมว่าเป็นโรคอะไรนะครับ ผมว่าอย่าไปซ้ำเติมพ่อแม่เขาเลยครับ มันดูทุเรศครับ จากคุณ : อะฮ้า - [ 20 ส.ค. 51 11:02:51 A:202.91.19.194 X:195.189.142.58 TicketID:180730 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็คิดคล้าย คห.9 ครับ... กว่าจะได้ลูกคนนี้มาลำบากแทบตาย... แต่ป่วยแล้วเห็นอาการลูกแย่... ทำไมต้องรอใบส่งตัวจากคลีนิคด้วย... ลูกผมไอนิดเดียวผมก็แจ้นไปโรงพยาบาลแล้วครับ... เด็กบอกอะไรเราไม่ได้หรอกครับ... แต่ก็นะสงสารคนเป็นพ่อแม่ครับ... คงแทบขาดใจเลยทีเดียว... ผมเห็นลูกไม่สบายยังอยากให้เราไม่สบายแทนเองซะเลย... ขอให้หลับสบายนะหนูนะ... จากคุณ : คนแก่...ผี (nobitong2002) - [ 20 ส.ค. 51 11:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก้องี้แหละ  พอเห็นเป็นบัตรทองมา ก้อไม่ค่อยอยากจะรักษาแล้ว เป็นทุกที่แหละ   ต้องมีเงินอย่างเดียวถึงจะเต๊มที่ จากคุณ : ^-^ ng (ningnoi) - [ 20 ส.ค. 51 11:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คืออ่านแล้วมันก็แปลกๆนะ กรณีของพ่อแม่ พ่อแม่บอกว่ากว่าจะได้ลูกคนนี้มาต้องใช้วิธีทำกิ๊ฟ -- การทำกิ๊ฟต้องใช้เงินพอสมควรนะ -- แล้วทำไมไม่พาลูกไปโรงพยาบาลแต่แรก แล้วเห็นท่าลูกไม่ดี ทำไมต้องมัวรอใบส่งตัวจากแพทย์ สุดท้ายสรุปว่าพามาคลีนิคเพราะต้องการใช้บัตรทอง เพราะบ้านยากจน -- ตกลงยากจนแล้วเอาเงินทำกิ๊ฟมาจากไหน กรณีคลีนิค เข้าใจว่าการวินิจฉัยโรงบางอย่าง อุปกรณ์ของคลีนิค ย่อมไม่ครบเท่าของโรงพยาบาล แล้วปอดบวมอาการเริ่มแรกก็ดูเหมือนเป็นไข้ธรรมดา แต่ทีนี้เมื่อคนไข้ขอใบส่งตัว ทำไมคลีนิคไม่ยอมออกให้ จากคุณ : Loveable - [ 20 ส.ค. 51 11:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณคห.9 ผมว่าก็เป็นอีกมุมมองนึงที่น่าคิดนะครับ แล้วก็อย่าเผลอไปเหมารวมว่าเอะอะอะไรหมอต้องไปดีนะครับ เท่าที่รู้จักมาเป้นอาชีพที่ถูกฟ้องร้องบ่อยจริงๆ อีกหน่อยคงหนีไปทำคลีนิคความสวยความงามกันหมดแล้ว เฮ้อ... จากคุณ : -ATICUS_T- - [ 20 ส.ค. 51 11:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นว่าแต่หมอ ผมขอขวางคลองหน่อยแล้วกัน ตอนป่วยก็เห็นหมอเป็นพระเจ้า พอตอนคิดเงินก็เห็นหมอเป็นXXX หมอรักษาคนไข้หายดีก็ทำได้แค่เสมอตัวเท่านั้น จากคุณ : T7Promoter - [ 20 ส.ค. 51 11:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อวานตอนเย็นก็นั่งดูทีวีข่าวนี้เหมือนกัน .... เฮ้อ .... ขอเสริมเรื่องหมอไม่มีคุณภาพหน่อยนะครับ อนาคตจะยิ่งหนักกว่านี้นะครับ .... เพราะว่าเขารับหมอเข้ามหาวิทยาลัยเกินที่การรองรับการศึกษาจะรับไหว เพื่อนผมมันบอกว่า ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ๆ ของคณะมัน (แพทย์) ต้องเข้ามาเรียนแบบแออัดกัน ที่เรียนก็ไม่พอ ครูใหญ่ก็ไม่พอ ... ครูใหญ่มุ่นอุ้ยปุ้ยหมดเลย (ภาษาอีสานแปลว่าเละตุ้มเป๊ะ) เฮ้อ ... จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง - [ 20 ส.ค. 51 11:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอแสดงความคิดแตกต่างนิดนึง เมื่อเช้าดูข่าวแล้วเค้าบอกลูกป่วยมากแล้วมาขอใบส่งตัวไปโรงพยาบาลที่คลีนิคอะไปตั้ง2ครั้ง ถ้าเป็นเรา ลูกเป็นมากขนาดนั้นไม่รอใบส่งตัวแล้วอะไปหาเลยดีกว่าชีวิตลูกสำคัญที่สุดรอไม่ได้ นี่รอๆๆจนอาการหนักมากๆแล้วค่อยไปเสียดายอะไรกับเงินค่ารักษา จากคุณ : nu_tam0501 - [ 20 ส.ค. 51 11:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมเราก็แอบคิดเหมือนกันทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลใหญ่ ๆ เลย รู้ว่าลูกเป็นเยอะขนาดนั้น สงสารน้องอะ.... จากคุณ : **หิมะใต้พระจันทร์** - [ 20 ส.ค. 51 11:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าถ้าหมอใส่ใจคนไข้อีกนิดในเมื่อคลีนิคเครื่องมือไม่พร้อมทำไมเขาขอใบส่งตัวถีงไม่ทำให้ ตอบสังคมข้อนี้ก่อน แล้วอาชีพขายผลไม้เร่คงไม่มีเงินมากนักหรอกแต่ที่เค้าทำกิฟต์เพราะอยากได้ลูกมากครับอาจเป็นเงินเก็บของเค้าทั้งชีวิตก็ได้ ผมว่าถ้าอาชีพหมอลำบากก็ลองไปขายผลไม้เร่แบบพ่อแม่เด็กดูครับว่าอาชีพไหนลำบากกว่ากัน จากคุณ : ยิ่งแก้ตัวยิ่งเกลียด - [ 20 ส.ค. 51 11:23:14 A:202.91.18.194 X:195.189.142.57 TicketID:183394 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มองอีกแง่นึงนะคะ นักข่าวไปสัมภาษณ์หมอโดยตรงแล้วให้เค้าตอบแบบนั้นเลย เราว่ามันก็ตอบไม่ได้เต็มปากอ่ะ เพราะเค้าก็คงต้องมีจรรยาบรรณที่จะไม่พูดเรื่องของคนไข้อ่ะ แต่นะ ลูกเค้าทั้งคน ก็ต้องถามหาความรับผิดชอบ แถลงข่าวเป็นเรื่อง เป็นราวเถ๊อะ จากคุณ : มาดามนอยด์ (NunG_KyO) - [ 20 ส.ค. 51 11:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จะเล่าให้ฟัง ทำไม คลินิก ถึงรับ 30 บาทได้? 1.เป็นโครงการลดความแออัด ของ OPD case ในกรณีนี้ คือ ลดความแออัด ของโรงพยาบาลภูมิพล 2.คลินิกตรวจรักษา ในกรณี OPD (คนไข้นอก) ได้ครับ เมื่อตรวจรักษา ก็จะนำข้อมุลไปตั้งเบิกที่โรงพยาบาล 3.การขอใบส่งตัว หากเป็นกรณีเช่นนี้ เป็นการส่งตัวจาก OPD case ของคลินิก ไปยัง โรงพยาบาลภูมิพล ถ้าโรงพยาบาล ภูมิพลจับ นอนโรงพยาบาล (Admit) คลินิกไม่ต้องเสียเงินครับ แต่ถ้าโรงพยาบาลภูมิพล ไม่จับ Admit แต่ตรวจที่ OPD แล้วให้คนไข้กลับบ้าน คลินิกต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้เต็ม ๆ (คลินิก คงกังวลในกรณีนี้) นี่คือ กรณีศึกษา ที่คุณจะรู้ถึง ระบบ 30 บาทของประเทศไทย หากมีข้อสงสัย เรื่อง 30 บาท (prameprame@hotmail.com) โครงการนี้ดีและไม่ดี มีทั้งสองอย่างครับ จากคุณ : รู้ไว้ซะ - [ 20 ส.ค. 51 11:26:30 A:117.47.97.219 X: TicketID:184797 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณหมอที่คลีนิคเนี่ยผิดอยู่แล้ว ประเด็นนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ก็เหมือนที่หลาย ๆ คนบอกคะ ไม่เข้าคุณพ่อกับคุณแม่จริง ๆ ว่าจะรอใบส่งตัวทำไม เห็นลูกตัวเองทุกวินาทียังต้องรออะไรอีก รีบส่งโรงพยาบาลได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินก็ตาม ยังไงเราต้องเอาชีวิตคนที่เรารักไว้ก่อน ไม่ได้คิดจะว่าพ่อแม่นะคะ เพียงแต่ไม่เข้าใจจริง ๆ จากคุณ : ปากกาด้ามเดียว - [ 20 ส.ค. 51 11:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ...ขอให้คิดทั้งสองมุมนะครับ... ...แล้วมาวิเคราะห์ดีๆ....เราจะได้ไม่ต้องโทษหมอหรือโทษพ่อแม่เด็ก.... ...ในส่วนของหมอเองผมว่าทุกที่ก็คงเซ็งกับบัตรทองพอสมควรแล้ว ...จึงทำให้การรักษามีคุณภาพน้อยลงไป...(เพราะหมอค่อนข้างทำงานหนักมาก) ...ในส่วนของพ่อแม่เองก็ไม่ควรนิ่งนอนใจรอจนถึงนาทีนี้...เพราะดูมีฐานะทีเดียว ...................................................................... ....เราคิดได้ทั้งสองมุมนะครับ... ...ทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี.... ...ขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนตัวของเราที่ใส่ลงไปในเหตุการณ์ด้วย... .................................................................... จากคุณ : ครู ข้างวังฯ - [ 20 ส.ค. 51 11:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าคิดแบบ คห 9  และ 19  ถือว่าระบบ 30  บาทล้มเหลวใช่มั้ย  ถึงจะต้องให้เลือกทางอื่นเมื่อคิดว่ารุนแรง และอีกประเด็น พ่อ แม่ คงเชื่อ ครึ่งหนึ่งที่ว่าหมอว่าไม่เป็นอะไรมาก ก็เลยไม่คิดว่าฉุกเฉิน   อย่างงี้ต้องคิดใหม่ พ่อ แม่ ใกล้ชิดลูกมากสุด  อย่าเชื่อหมอทั้งหมดไว้เตือน ให้ระมัดระวัง จากคุณ : nmnm - [ 20 ส.ค. 51 11:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รู้ครับเรื่องลดความแออัดสำหรับเคสคนไข้นอกนะรู้มานานแล้วครับไม่ต้องบอกส่วนเหตุผลที่ไม่ส่งตัวเพราะกลัวรับภาระค่าใช้จ่ายฟังแล้วแย่ยิ่งกว่าเดิม เจ้าหน้าที่คลีนิกคนที่ออกมาพูดเนี่ยพูดจาแย่ครับออกแนวกระแดะสะบัดสะบิ้ง ความเห็นส่วนตัวครับ จากคุณ : U SHUT UP - [ 20 ส.ค. 51 11:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห.9 สรุปบัตรทองมันห่วย รักษาอะไรไม่ได้ ถ้ารักลูกจริงต้องมีเงินไปรักษากับเอกชนเหรอครับ คห.16 แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหนอ่ะ ที่เค้าด่าหมอกันเนี่ย ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องเงิน เค้าด่าหมอรักษาห่วยต่างหาก กรณีอย่างนี้ โทษพ่อแม่เด็กได้เหรอครับ เค้าก็พาไปหาหมอแล้ว หมอดันบอกไม่เป็นไร จะให้ทำไงล่ะ ตัวเองก็ไม่ได้เรียนหมอมาจะได้เก่งกว่าหมอ สุดท้ายทนไม่ไหวก็ต้องพาลูกไปโรงพยาบาล ใครมันจะไปรู้ว่าจะโชคร้ายเจอหมอวินิจฉัยโรคมั่ว ป.ล. นี่ยังไม่ได้ด่าหมอนะครับ รอผลชันสูตรก่อน จากคุณ : Avalance7 - [ 20 ส.ค. 51 11:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เฮ้อ  เศร้าแทนทุกฝ่าย อย่าไปโทษพ่อแม่เลย ชาวบ้านจะไปรู้ได้ยังไงว่าอาการแบบนี้จะถึงตาย เพราะก็ได้ยาจากหมอไปแล้ว  ยังไงก็คงไมถึงตายหรอก  ถ้าผมคิดแทนพ่อแม่ตอนนั้นนะครับ  เวลาเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ชอบมีคนบอกว่าทำไมไม่อย่างนั้นไม่อย่างนี้  แต่ผมว่าพ่อแม่เด็กเขาก็มีความเชื่อในหมออยู่ว่าต้องรู้ดีที่สุดครับ  แต่เผอิญมาเจอหมอไม่เก่งมากกว่า ขอยกตัวอย่างใกล้ตัวว่าตอนที่คุณพ่อผมยังอยู่ (แต่แก่มากแล้วและมีผู้ช่วยพยาบาลดูแล - ท่านเป็นอัลไซเมอร์) มีอยู่วันหนึงคุณพ่อตัวร้อน แต่ไม่มากนัก มีอาการหายใจถี่ กระวนกระวายเล็กน้อย แม่ผู้ช่วยพยาบาลบอกว่ามีไข้เลยเช็ดตัว ส่วนผมดูแล้วก็ไม่กังวลอะไรคิดว่าเป็นเรื่องของคนแก่ที่บอบบาง  แต่คุณแม่ที่เคยเป็นพยาบาลดูแล้วเรียกรถพยาบาลมารับ พอไปถึงคุณหมอบอกว่าน้ำท่วมปอดถ้ามาช้าอาจเสียชีวิตภายในเวลา1-2 ชั่วโมง ขนาดผมและผู้ช่วยพยาบาลยังไม่คิดว่าซีเรียสเลย  ของอย่างนี้บางทีก็ตัดสินใจพลาดได้ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 11:56:33 จากคุณ : ผู้ชายซอยสิบ - [ 20 ส.ค. 51 11:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราเห็นด้วยกะ คห.27 จากคุณ : สินีนาถ - [ 20 ส.ค. 51 11:54:50 A:58.9.125.222 X: TicketID:174430 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอแสดงความเสียใจครับ จากคุณ : ใส่พริกเม็ดเดียว - [ 20 ส.ค. 51 11:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สงสารน้องเค้าจังครับ วัยกำลังน่ารักเลย จากคุณ : เพียวคุง - [ 20 ส.ค. 51 11:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นานาจิตตัง จากคุณ : zinnowwhite - [ 20 ส.ค. 51 12:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับ คห.27... พ่อแม่รวยรึจนไม่รู้ แต่เอาลูกไปรักษาที่คลีนิคตั้ง 2 รอบแล้วหมอบอกว่าไม่เป็นไรหนิ พ่อแม่ไม่ใช่หมอ ให้ทำไง หมอว่าไงก็ต้องว่าตามไว้ก่อนจิ ก็ต้องพาลูกกลับมากินยาที่บ้าน จนแบบว่าเห็นอาการลูกจนไม่ไหวจะทนแล้ว ช่าง mang หมอคลีนิค หอบลูกไปโรงบาลดีกว่า เพียงแต่ไปช้าแค่นั้นเอง แค่นี้ก็ใจสลายแล้ว ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนจะงกขนาดให้ลูกตายหรอกนะ ขอแสดงความเสียใจด้วย! จากคุณ : แฟนพี่บีม - [ 20 ส.ค. 51 12:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นหน้าตาท่าทางหมอ วีธีพูด ที่ออกมาชี้แจงหน้าคลีนิคแล้วหมดศรัทธา - เห็นเพื่อนที่ไปรักษาที่นี่ บอก คนนั้นไม่ใช่หมอครับ เป็นเภสัช คนจ่ายยาอะไรนี่แหละครับ อืมเราก็แอบคิดเหมือนกันทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลใหญ่ ๆ เลย รู้ว่าลูกเป็นเยอะขนาดนั้น สงสารน้องอะ.... - ถ้าจะใช้สิทธิ์บัตรทอง ก็ต้องไปคลีนิคตามที่ระบุไว้ก่อน ถ้าไม่สามารถรักษาได้ ก็ค่อยทำใบสั่งตัวไปที่ รพ ที่ใหญ่กว่า แบบนี้ถึงจะได้ใช้สิทธิ์ครับ ถ้าไปเองโดยตรง ต้องออกเองทุกอย่างครับ ระบบมานเป็นแบบนี้ทำยังไงได้ละครับ และใช่ว่า ใช้บัตรนี้ไปรักษาที่ รพ ใหญ่ จะได้รับการรักษาเหมือนคนที่จ่ายเงินเองนะครับ จากคุณ : monsungja - [ 20 ส.ค. 51 12:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 น่าสงสารน้องมากครับ จากคุณ : kimijang - [ 20 ส.ค. 51 12:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เราว่าพ่อแม่ ก็คงเชื่อคุณหมอแหละว่า ไม่เป็นไรมากในเบื้องต้น แต่พอเห็นไม่หาย ก็เริ่มเอ๊ะใจว่า เป็นไรหนักหรือเปล่า คงอยากเอาลูกเข้าแอดมิต ในโรงพยาบาลซะที เลยไปขอใบส่งตัว เพราะก็เป็นสิทธิ์ ที่พึงได้ ทีนี้คงสายเกินไปแหละ พอเด็ก เสียชีวิต พ่อแม่ก็เลยย้อนกลับมา ในกระบวนการที่ทำให้เกิดการล่าช้า และการวินิจฉัยที่ผิดพลาดของหมด เป็น step step ไป เหมือนแบบ พ่อแม่ก็ไม่รู้ล่วงหน้าหรอก ว่า อาการแบบนี้จะทำให้ลูกเสียชีวิตได้ แบบถึงโรงบาล แล้วคงรักษาได้ทันอะ จากคุณ : ลินจง - [ 20 ส.ค. 51 12:30:14 A:203.121.164.58 X: TicketID:154026 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มีลูกเหมือนกัน เข้าใจหัวอก สุดๆเลยค่ะ... เศร้าใจ จากคุณ : ปั๊บโปะจัง - [ 20 ส.ค. 51 12:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อ สงสารพ่อแม่น้องเขามากๆ เรื่องแค่นี้แต่เขาต้องเสียลูกไป RIP จากคุณ : Slurbody - [ 20 ส.ค. 51 12:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 40 38 เป็นไรมากมั้ยนั่น แล้วมันคือะไรอ่ะ เห็นมา 2 ทู้แล้วอ่ะ จากคุณ : Journalise - [ 20 ส.ค. 51 12:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เศร้าแทนจริงๆ เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยค่ะ เชื่อว่าหลายๆคนเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : Queen of hearts - [ 20 ส.ค. 51 12:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พ่อแม่ไม่ได้เรียนหมอมาจะรู้ได้ไงว่าเป็นมากหรือเปล่า ก็หมอยืนยันตั้ง2ครั้งว่าไม่เป็นไรๆเดี๋ยวหายแสดงว่าพ่อแม่ผิดที่เจือกเชื่อหมอเองหรือไงครับ แล้วก็หาเหตุผลทึ่ไม่ส่งตัวไปรพ.ด้วยนะครับหวังว่าคงไม่ใช่กลัวรับภาระค่าใช้จ่ายเองเหมือนคห.22บอกนะครับเพราะมันทู่เรด ผมก็ยังไม่ได้ว่าหมอเหมือนกันครับ จากคุณ : คนดีชอบแก้ไขคนจานลายชอบแก้ตัว - [ 20 ส.ค. 51 12:56:45 A:202.91.19.194 X:195.189.143.57 TicketID:183394 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านข่าวแล้วเศร้ามากๆ คลีนิคนั้นอยู่แถวบ้านดิชั้นด้วยค่ะ และดิชั้นก็เคยพาลูกไปรักษาครั้งนึง ตอนนั้นลูกดิชั้นตาแดง อายุประมาณขวบเศษๆ แต่ก็หายเป็นปกติดี ที่พาไปหาที่คลีนิคนั้น เพราะว่าไม่สะดวกที่จะพาไปโรงพยาบาลประจำของแก แต่นั่นเป็นครั้งเดียวเท่านั้นที่ไป เพราะดิชั้นรู้สึกว่าที่นั่นไม่ใช่คลีนิคเฉพาะทางของเด็ก อย่างไปโรงพยาบาลเราก็ไปแผนกกุมารเวช เฉพาะทางนั้นๆ ดิชั้นเข้าใจความคิดเห็นที่ 9 นะคะ ใจพ่อแม่ เวลาลูกเป็นอะไรนิดหน่อย ก็ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ที่ไว้ใจที่สุด ให้เร็วที่สุด สำหรับเรื่องความเจ็บป่วยของลูก เป็นอะไรที่พ่อแม่จะ ต้องรีบที่สุด จะรอดูอาการ ไม่ได้เลย คลีนิคนั้นก็แย่ค่ะ แย่ที่วินิจฉัยประมาทเกินไป ดิชั้นสงสารหัวอกพ่อแม่ของน้องคนนั้นนะคะ แต่อีกใจก็แอบนึกว่า..ทำไมเค้าไม่รีบพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทำไมเค้าถึงรอ.. เศร้าค่ะ จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 20 ส.ค. 51 13:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 บอกเเล้ว  หลังจากจบเเพทย์เเล้วให้ไปเรียนนิติศาสตร์ต่อด้วย เอาเเบบให้ถึงเนตืเลยนะ โอกาสเเบบนี่เกิดได้เสมอเเหละ จากคุณ : Egist - [ 20 ส.ค. 51 13:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แล้วทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลเลยหล่ะ ถ้ามั่นใจว่าลูกตัวเองไม่ได้เป็นแค่นี้ คุณหน่ะห่วงแต่สิทธิ์ค่ารักษา 30 บาท ที่ต้องรอให้คลีนิคนี้ทำใบส่งตัวไปให้กับโรงพยาบาล มันคุ้มกันมั้ย ขอโทษนะที่ต้องพูดอย่างนี้ สงสารคุณเหมือนกัน ที่ต้องเสียลูกชายวัยน่ารักไป แต่ถ้าคุณไม่ห่วงเรื่องสิทธ์ค่ารักษา ก็คงไปเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จากคุณ : แค่เธอก็พอ - [ 20 ส.ค. 51 13:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห.45เค้าไม่ได้เรียนหมอจะรู้ไหมครับเขาไม่ฉลาดหัวแหลมเหมือนคุณนี่ครับ จากคุณ : U SHUT UP - [ 20 ส.ค. 51 13:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดำรงตนด้วยความไม่ประมาท จากคุณ : unimox - [ 20 ส.ค. 51 13:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ระบบแย่ค่ะ.. เพิ่งไปหาหมอในโครงการสามสิบบาทกลับมา ไปตั้งแต่แปดโมงเช้า สรุปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลยแม้แต่ยาสักเม็ด ต้องไปใหม่พรุ่งนี้เพราะส่งไปอีกแผนก เรา: โห...พี่เราปวดมากนะ ถึงได้มาหา ทำไมนัดใหม่เป็นพรุ่งนี้ล่ะ นางพยายม: ถ้าจะหาวันนี้ก้ต้องเสียค่าใช้จ่ายปกตินะ เรา :(((แมร่ง)))) ปล.อันที่จริงไม่ได้ปวดมากจนถึงขั้นทนไม่ไหวหรอก แต่อยากรู้เหตุผลของเค้าเท่านั้นล่ะ ว่าจะยังไง เซ็งสังคม!!! จากคุณ : ผู้หญิงกลางคืน - [ 20 ส.ค. 51 13:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มารยาทการตรวจตามกำลังเงินที่จ่ายครับ จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 20 ส.ค. 51 13:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านข่าวแล้วเศร้าจังค่ะ จะน้ำตาคลอเลย สงสารคุณพ่อ แม่ และลูกมากๆ ค่ะ เข้าใจเลยว่าเค้าจะรู้สึกยังไง เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ จากคุณ : MorganJ - [ 20 ส.ค. 51 13:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ระบบสามสิบบาทมันห่วยแตกค่ะ ไอ้ที่โปรโมทว่าดีอย่างงั้นดีอย่างงี้มันก็มีแต่สร้างภาพและเป็นส่วนน้อยมากกกกกก จะโทษก็คงต้องคิดไปถึงคนคิดโครงการแล้วล่ะ เพราะหมอตามโรงพยาบาลเขาประท้วงโครงการนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ป.ล.ไม่มีความเห็นเรื่องประท้วงฯเพราะได้รับข่าวทางเดียว จากคุณ : setsu-chin - [ 20 ส.ค. 51 13:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พ่อแม่ถึงไม่ฉลาด ก็ควรมีความเฉลียว ไม่ใช่ว่าหมอดี แต่เท่าที่เข้าใจ พ่อแม่ก็มัวแต่ห่วงบัตรทอง จากคุณ : เย็นสิทธิ์ - [ 20 ส.ค. 51 13:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คนที่ว่าพ่อแม่เด็กระวังเกิดกับลูกตัวเองนะครับ ของแบบนี้ จากคุณ : เหอๆ - [ 20 ส.ค. 51 13:55:08 A:202.91.18.194 X:91.203.96.18 TicketID:183394 ]

ความคิดเห็นที่ 54 52 หึ  หึ  ตอบได้ไร้ความเมตตามาก จากคุณ : ผู้ชายซอยสิบ - [ 20 ส.ค. 51 13:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สงสารเด็กที่เสียไป เห็นใจพ่อแม่เด็ก คลีนิก....โนคอมเม้นต์ ได้แต่ถอนใจ...เฮ้อ ปล. โหวตกระทู้แล้วครับ จากคุณ : buddhi - [ 20 ส.ค. 51 13:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไอ้พวกที่ว่าๆเหน็บๆพ่อแม่ของน้องคนนี้ สักวันนึง มีลูกแล้วแกจะเข้าใจเอง ว่าทำไม ... สงสารพ่อแม่ของน้องคนนี้มาก ขอให้น้องไปสู่สุคติ จากคุณ : เรายังไม่มี แต่เข้าใจ (phonomenon) - [ 20 ส.ค. 51 14:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พ่อแม่เสียลูกทั้งคนกลับมาซ้ำเติมอีกผมว่าคนที่คิดแบบนี้แย่มากไม่อยากนึกถึงคนที่ต้องอยู่ด้วยเลยสงสัยไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่ถึงไม่รู้ว่าหัวอกพ่อแม่เป็นยังไง จากคุณ : ร็อตไวเลอร์ - [ 20 ส.ค. 51 14:10:50 A:202.91.19.194 X:195.189.142.180 TicketID:180730 ]

ความคิดเห็นที่ 58 - ไม่พาไป รพ. เพราะกลัวไม่มีเงินจ่าย อันนี้ คงไม่ใช่เรื่องจะอ้างได้ ลูกป่วยจะกู้ยืมเงินใครก็ต้องทำไปก่อน เพื่อรักษาชีวิตไว้ ต่อให้ต้องขายรถขายบ้าน ก็ต้องทำ จะมานั่งรอบัตรทองได้ยังไง - คลีนิคไม่ออกใบส่งตัวให้เพราะ (อาจจะ) คนที่ตรวจ ไม่ใช่หมอจริงๆ อาจจะเป็นแค่พนักงานบริบาลเท่านั้น ถ้าออกใบส่งตัว เรื่องจะแดงออกมา ทำให้คลีนิคโดนปิดได้(ตอนนี้อาจจะโดนเช่นกัน) สรุป ก็คือ 1.ทางคลีนิค มีอะไรปกปิดไว้ จึงไม่ออกใบส่งตัวคนไข้ จึงพยายามให้รักษาแต่ยากิน 2.ทางพ่อแม่ กลัวว่าเงินไม่พอรักษา จึงยื้อขอใบส่งตัวจากคลีนิคให้ได้แต่คลีนิคไม่ออกให้(เพราะเหตุผลข้อ 1 ) และพ่อแม่ คงไม่คาดคิดว่าอาการลูกจะรุนแรงจนตายได้ จึงนิ่งนอนในหวังบัตรทอง จากคุณ : ศิลาโรเซ็ตต้า - [ 20 ส.ค. 51 14:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 58ถ้าไม่ใช่หมอแล้วเปิดคลีนิคได้ไงยิ่งเป็นกรณีนี้คลีนิคควรรับผิดชอบครับ แต่ดูคนของคลีนิกที่ออกมาพูดเมื่อเช้าแล้วกระแดะจังอันนี้ส่วนตัวครับ จากคุณ : สงสารเด็ก - [ 20 ส.ค. 51 14:22:57 A:202.91.19.194 X:91.203.96.30 TicketID:180730 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ใครช่วยไปกระตุกให้เฮียสอสัมภาษณ์ถามพ่อแม่เด็กให้รู้เรื่องรู้ราวเลยสิครับว่าทำไมเขาไม่รีบพาลูกไป รพ. ฟังคำตอบจากปากเจ้าตัวเองจะได้หายสงสัย ไม่ต้องมานั่งเทียนเดาโน่นเดานี่กันอย่างนี้ ทั้งที่ยังไม่ทันได้รู้เรื่องทั้งหมด จากคุณ : Bowling Bash - [ 20 ส.ค. 51 14:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อย่าคิดว่าหมอจะดีทุกคนเลยค่ะ ก็แค่อาชีพหนึ่งที่เค้าก็เป็นคนไม่ใช่ว่าจะจำสิ่งที่เรียนมาได้ครบ เคยรักษาฟันกับหมอจบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งไปถึงหมอบอกว่าต้องถอนฟัน O_O ไปหาหมอคนที่ 2 บอกว่ารักษารากฟัน(และถามย้อนด้วยว่าหมอไหนบอกให้ถอน) รักษาแล้วอยู่ดีมาเป็น 10 ปี.. กลับมาประเด็น จขกท. ถามหน่อยเหอะค่ะ ว่าพ่อแม่คนไหนมั่นใจในตนเองขนาดที่ว่ากล้าต่อปากว่า ..ไม่ หมอวินิจฉัยผิด ในใจพ่อแม่เค้าก็คงอยากให้อยู่ภายใต้การดูแลของหมอตลอดเวลามากกว่า จึงอยากให้อยู่โรงพยาบาล คนที่ไม่ใช่หมอมีถึง 1% มั้ยคะ ที่วินิจฉัยอาการได้ว่าไม่ส่งโรงพยาบาลไม่ได้!!! ถ้าพูดว่าไม่เป็นไร ไม่หนักขนาดต้องส่ง คนเป็นพ่อเป็นแม่ซึ่งไม่ได้เรียนหมอ ถึงแม้มีความรู้ติดตัวบ้าง ถ้าไม่ใช่มีเส้นสาย มีสิทธิสั่งหมอว่าให้ส่ง กล้าและมั่นใจแหกคำสั่งหมอ??? เมื่อหมอวินิจฉัยว่าให้กลับบ้าน และคุณสรุปจากหมอได้ว่าอาการไม่รุนแรงขนาดนั้น ทั้งที่ในใจอยากให้อยู่ภายใต้การดูแลของหมอ แต่หมอบอกไม่เป็นไรกินยาๆ เดี๋ยวหาย ภายใน"วันเดียวกัน" เด็กจากไป พ่อแม่คนไหนคิดว่ารวดเร็วขนาดนั้น เพราะในวันเดียวกัน หมอยังเพียงกินยาเดี๋ยวก็หายยยย จากคุณ : MoonClock~* - [ 20 ส.ค. 51 14:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 62 59ข่าวเที่ยงวันคุณวิศาลเอามานั่งสัมภาษณ์แล้วครับ เขาบอกว่าหมอยืนยันว่าไม่เป็นอะไรไม่จำเป็นต้องนอน ย้อนดูสิครับหรือคุณวิศาลจะเดา จากคุณ : บอกเฉยๆ - [ 20 ส.ค. 51 14:58:31 A:202.91.19.194 X:195.189.142.148 TicketID:180730 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คลินิกสามสิบบาท กำลังแย่หนัก ไม่มีหมอ   บางทีคนมาตรวจไม่ใช่หมอ เพราะหมอจริง ไม่มีใครทำหรอก อะไร ๆ ก้อ จำกัด เครื่องมือไม่พร้อม แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 21:12:33 จากคุณ : นะ (phobias) - [ 20 ส.ค. 51 15:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 64 59ขอโทษครับ บอกความเห็น60 จากคุณ : บอกเฉยๆ - [ 20 ส.ค. 51 15:01:23 A:202.91.19.194 X:195.189.142.148 TicketID:180730 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สงสารน้องเค้าจัง T__T จากคุณ : มินเอง - [ 20 ส.ค. 51 15:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นพูดถึง 30 บาทกันนัก อยากบอกว่าพวกหมอๆนะไม่ชอบหรอกกับ 30 บาทเพราะมันเหนื่อยมากกว่าเดิมเยอะ แต่ชาวบ้านนะชอบเพราะไม่ต้องเสียเงินก็ได้ยาฟรีๆ บางคนไม่ได้เป็นอะไรมากยังจะมาเอายาเลย บางคนลูกเป็นไข้ก็จะมาเอายาไม่เช็ดดตัวลดไข้ให้ลูกหวังพึ่งยาเพียงอย่างเดียว ในกรณีที่เด็กเป็นไข้หวัด ผู้ที่การรักษาจะต้องแนะให้พ่อแม่สังเกตอาการผิดปกติด้วย เช่น หายใจเร็วมากกว่า 50 ครั้ง/นาที หายใจชายโครงบุ๋ม ไม่รู้ว่าเขาได้อธิบายหรือเปล่า  เฮ้อ ชีวิตเกิดมาก็ยาก อยู่ก็ลำบาก น่าสงสาร จากคุณ : โอเอซิสกลางทะเลทราย - [ 20 ส.ค. 51 15:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 59   58ถ้าไม่ใช่หมอแล้วเปิดคลีนิคได้ไงยิ่งเป็นกรณีนี้คลีนิคควรรับผิดชอบครับ แต่ดูคนของคลีนิกที่ออกมาพูดเมื่อเช้าแล้วกระแดะจังอันนี้ส่วนตัวครับ จากคุณ : สงสารเด็ก - [ 20 ส.ค. 51 14:22:57 A:202.91.19.194 X:91.203.96.30 TicketID:180730 ] ความคิดเห็นที่ 62   59ข่าวเที่ยงวันคุณวิศาลเอามานั่งสัมภาษณ์แล้วครับ เขาบอกว่าหมอยืนยันว่าไม่เป็นอะไรไม่จำเป็นต้องนอน ย้อนดูสิครับหรือคุณวิศาลจะเดา จากคุณ : บอกเฉยๆ - [ 20 ส.ค. 51 14:58:31 A:202.91.19.194 X:195.189.142.148 TicketID:180730 ] ความคิดเห็นที่ 64   59ขอโทษครับ บอกความเห็น60 จากคุณ : บอกเฉยๆ - [ 20 ส.ค. 51 15:01:23 A:202.91.19.194 X:195.189.142.148 TicketID:180730 ] แค่สงสัยว่าขอโทษตัวเองทำไม จากคุณ : Loveable - [ 20 ส.ค. 51 15:14:04 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คิดว่าอาการน่าจะประมาณไข้ขึ้นสูง แต่ยังไม่ถึงขั้นชัก พ่อแม่จึงนึกว่าหนักแต่ไม่ถึงกับหนักหนาเกินเยียวยา เด็กยังเล็กมาก การป่วยก็จะดูเยอะกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว พ่อแม่อาจคาดไม่ถึงได้ แต่คนเป็นหมอ 2 ครั้งคาดเดาไม่ได้เลยเชียวเหรอ ใช้หูฟังก็น่าจะพอรู้ว่าปอดผิดปกติ ถ้าใครจะด่าว่าพ่อแม่เด็กโง่ ก็ยังโง่และเลวน้อยกว่าหมอคนนั้นอีกหลายขุม จากคุณ : ลงเอย - [ 20 ส.ค. 51 15:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เขาพิมพ์ผิกมังครับ55 แต่ผมชอบความเห็นของคุณลงเอยจัง ชัดเจนที่สุดครับ จากคุณ : U SHUT UP - [ 20 ส.ค. 51 15:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของพ่อแม่ด้วยนะครับ สมัยนี้โรคภัยเยอะเหลือเกินอย่างคนเป็นหวัดสมควรใช้ผ้าปิดจมูกหรือMASKเพื่อป้องกันการแพร่สู่คนรอบข้างอย่างญี่ปุ่นนี่ถ้าใครเป็นหวัดเขาจะใช้MASKจนเป็นนิสัยเลยนะครับของเมืองไทยพระพี่นางก็ทรงรณรงค์แต่ไม่ค่อยมีใครใช้ครับ ส่วนเรื่องนี้ผมเห็นใจพ่อแม่เด็กครับมีลูกชายคนเดียวอีกด้วย เศร้าครับ จากคุณ : จขกท - [ 20 ส.ค. 51 15:48:54 A:202.91.19.194 X:195.189.142.48 TicketID:184483 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คงต้องฟังความเห็นแพทย์ก่อนอีกที ผมไม่ใช่หมอเลยไม่แน่ใจว่าปอดบวมจะมีอะไรที่สามารถ วินิจฉัยโรค (diagnostic) แยกได้เลยทันทีหรือเปล่า คงไม่สามารถฟันธงว่าหมอในคลินิกผิดโดยทันทีได้เหมือนนักข่าวหรือผู้ชมบางท่าน เพราะหลายๆโรคจำเป็นต้องดูอาการไปสักพักถึงจะแยกแยะวินิจฉัยโรคได้ เช่นหวัดธรรมดา กับไข้เลือดออก วันแรกๆต่อให้่เป็นหมอเทวดาก็ดูไม่ออกครับ หลายๆครั้งที่ชาวบ้านมาตรวจ อาการไม่ต่างจากหวัดธรรมดา หมอให้ยาแก้ปวดลดไข้กลับบ้านแล้วบอกถ้าไม่ดีขึ้นให้กลับมาใหม่เพื่อวินิจฉัยอีกครั้ง แต่พออาการไม่ดีขึ้นจริงๆ ชาวบ้านกลับไม่เชื่อหมอคนเดิม ไปหาหมอที่อื่นแล้วตรวจพบไข้เลือดออก (เพราะเป็นช่วงเวลาที่วินิจฉัยได้แล้ว) ก็กลับมาฟ้องหมอคนเดิมหาว่าวินิจฉัยโรคผิดไปซะงั้่น เรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจกันด้วยครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 20 ส.ค. 51 16:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สงสารน้องมากๆครับ น่าตาน่าเอ็นดู เสียชีวิตยังใส่ชุดทหารอยู่เลยโตขึ้นคงอยากเป็นทหาร ไปสู้กับโจรใต้ ขอให้น้องหลับให้สบายนะครับ RIP แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 16:51:42 จากคุณ : Jadetree - [ 20 ส.ค. 51 16:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผมว่าเรื่องนี้ ดูๆแล้วทางคลีนิคผิดแน่นอนครับ เพราะเคยเจอกับตัวเองในกรณีเรื่องการขอใบส่งตัวเนี่ย ไม่รู้ทำไมไม่ยอมออกให้ ลีลา โยกโย้ อยู่นั่นล่ะ แล้วอย่างกรณีที่เกิดกับน้อง คนที่ออกมาว่าพ่อแม่น้องเนี่ย คิดกันยังไงครับเนี่ย น่าจะเข้าใจว่ากรณีนี้มันเกิดได้จากหลายๆสาเหตุผสมๆกัน เช่น - พาไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร - เด็กอาจจะไม่ได้แสดงอาการอะไรมากก็ได้ บางคนบอกว่าพ่อแม้รู้ว่าลูกอาการหนัก ทำไมมัวแต่รอบัตรทอง คุณรู้ได้ยังไงว่าพ่อแม่เค้ารู้ครับ เค้าไม่ได้เรียนด้านนี้มา ถึงอาจจะมีอาการบ้าง แต่ในเมื่อหมอมันบอกว่าไม่เป็นอะไร เค้าก็คงจะต้องฟังหมออยู่บ้าง จริงไหม - ไม่มีเงิน ซึ่งการไปโรงพยาบาลมันก็ต้องใช้เงิน บางคนบอกให้ไปกู้หนี้ยืมสิน เอ่อ.....เคยไหมครับ แบบว่าไม่รู้จะหันหน้าทางไหนน่ะ พึ่งใครไม่ได้ เคยไหมครับ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่เขาเสียดายเงินค่ารักษาหรอก ผมว่า ผมเองเคย ไม่สบาย แต่ไม่มีเงินจะไปหาหมอ ก็ใช้วิธีซื้อยากินไปรอจนมันหายเอง ใครไม่เคยอยู่ในสภาวะแบบนี้ ไม่รู้หรอกครับ ไปโรงพยาบาล ไม่มีเงินไป ใครหน้าไหนมันจะรักษาให้ ลองพิจารณาดู รวมๆกันหลายๆสาเหตุแล้วเนี่ย ผมว่าพ่อแม่เด็กไม่ผิดครับ แต่ผิดที่หมอเต็มๆ จากคุณ : ก เอ๋ย ก เ็ป็ด - [ 20 ส.ค. 51 17:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คคห 69 ถูกต้องค่ะ เราสงสารพ่อแม่เด็กน่ะ คนมีลูกเหมือนกัน จากคุณ : ส่าหรี สีรุ้ง (ส่าหรี สีรุ้ง) - [ 20 ส.ค. 51 17:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เราเคยป่วยตอนเด็กๆ แบบหนักมากๆ ปวดท้องไม่รู้เพราะอะไร ปวดบิดเลย ไปหาคลีนิคแรก บอกว่ากระเพาะ ให้ยามา ก็ยังไม่หาย คืนนั้น ก็ไปหาอีกคลีนิคนึง ทีนี้เรื่องใหญ่เลย บอกว่าเป็นไส้ติ่ง เอาล่ะสิ พ่อแม่ชั้นไม่เป็นอันทำอะไร พาควบมอไซค์สามคนพ่อแม่ลูกไปโรงบาลเลยค่ะ หมอให้เจาะเลือด แต่ก็ไม่เจออะไร แต่เราก็ยังปวดท้องอยู่ มีคนแนะนำให้ไปรพ.เด็กเลย หมอเกือบผ่าไส้ติ่งแว้วววว สรุปว่าเป็นลำไส้อักเสบ นอนพักไม่กี่วัน หมอเอายามาสอดตรูด ก็หาย ดูสิคะ หมอสามที่ยังวินิจฉัยไม่เหมือนกันเลย นี่ถ้าบ้าจี้ไปผ่าไส้ติ่งออกเนี่ย แล้วมันไม่ใช่ จะเกิดไรขึ้น ผ่าตัดไส้ติ่งก็ผ่าตัดใหญ่เหมือนกันนะ สำหรับเด็กป. 5-6 เราว่าเด็กๆ ทุกคนคงจะมีช่วงที่ป่วยหนัก เป็นวิกฤตของพ่อแม่กันทุกคนนะ ขึ้นอยู่กับว่า จะดวงแข็งพ้นช่วงนั้นไปได้หรือเปล่า ข่าวนี้ก็เศร้านะ แต่แอบตกใจว่า เค้าไปทำกิ๊ฟท์มาเลยเหรอ สงสารอ่ะ คงรักมากที่สุดแล้ว.... เป็นเราที่แรกไม่หาย ก็ไปโรงบาลเลยค่ะ ขนาดเราตรวจเป็นโรคอะไร ยังต้อง cross check หลายโรงบาลเลยค่ะ เพื่อความมั่นใจ จากคุณ : pompoko - [ 20 ส.ค. 51 17:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มีโอกาสได้อ่านวิจัยเกี่ยวกับ Error in Medicine อะไรซักอย่างเนี่ยล่ะค่ะ เชื่อไม๊ค่ะว่า มีการวิเคราะห์ตามหลักสถิติแล้วพบว่า การเดินเข้าไปรักษาโรคที่โรงพยาบาลหรือคลีนิคทุกที่ทั่วโลก พบว่าเสี่ยงอันตรายต่อขีวิตมากกว่าขึ้นเครื่องบินซะอีก อันนี้พูดถึง สาเหตุจากความผิดพลาดต่างๆนะคะ เห็นใจหัวอกพ่อแม่ค่ะ เศร้าเลย จากคุณ : spirit mountain - [ 20 ส.ค. 51 17:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เราว่าเป็นความห่วยของระบบ 30 บาทอ่ะ เจอกับตัวเอง ปวดท้องเป็นถุงน้ำในรังไข่ ไปอัลตราซาวด์ที่รพ.พยาไท 3 หมอให้ผ่าตัด แต่เหมาจ่าย 65,000.- เราก้อไม่มีปัญญาอ่ะ ดิ้นรนขอย้ายสิทธิ์บัตรทองมาที่กรุงเทพฯ ได้รพ.เกษมราษฎร์ แต่คลีนิคต้นสังกัดไม่ส่งต่อ อ้างว่า ทานยาแก้ปวดรักษาได้ ส่วนเหตุผลที่ไม่ทำใบส่งตัวให้เพราะคลีนิคกำลังจะหมดสัญญา กับรพ.เกษมราฎร์เดือนกันยาหรือตุลาจำไม่ได้ ให้รอไปก่อนประมาณ 1 เดือน สุดท้ายไปเสียเงินจ่ายคลีนิคพิเศษของศิริราชหมอฉีดยาให้ หายปวดท้องไปพักนึง อยากบอกว่าดวงดีเลือกคลีนิคต้นสังกัดดี ก้อโครตโชคดี แต่ถ้าเลือกคลีนิคเห็นแก่ตัว แมร่งชีวิตแทบตายทั้งเป็น ทุกวันนี้เก็บเงินไว้ทำประกันชีวิตดีกว่า อย่างน้อยตอนเข้า รพ. ก้อพอจะมีคนให้ความสำคัญบ้าง จากคุณ : เหมียวววววว (meawtha) - [ 20 ส.ค. 51 18:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่ใช่หมอ ย่อมไม่เข้าใจหมอ ไม่ใช่ผู้สูญเสีย ย่อมไม่เข้าใจผู้สูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดความผิดพลาด แต่เนื่องจากไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ 100% โอกาสผิดพลาดมันเกิดได้ อยู่ที่องค์ประกอบปัจจัยต่างๆ ส่งยานอวกาศขึ้นไประเบิดก็ยังเกิดขึ้นมาแล้วทั้งที่ควบคุมด้วยคนระดับสุดยอด คอมระดับเทพ ไม่มีคำว่า"แน่นอน 100%" ในทางการแพทย์ มีแต่เพียงคำว่า"ไม่แน่นอน"นั่นแหละที่ 100% อยากให้ขึ้นไปอ่าน #71 ซะก่อน อย่าเพิ่งประณามกันจนเกินไปนัก อย่าลืมว่าที่พึ่งสุดท้ายของคุณยามเจ็บไข้ก็คือหมอ ไม่ใช่หมอ ย่อมไม่เข้าใจหมอ ไม่ใช่ผู้สูญเสีย ย่อมไม่เข้าใจผู้สูญเสีย จากคุณ : meddy hao - [ 20 ส.ค. 51 18:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 76 เค้าไม่ได้ว่าเอายาจากคลีนิคนะที่เปอเซ็นต์ ตายสูงกว่าอะ เค้าว่าการจ่ายใบสั่งยาผิด เช่นจ่ายโดยไม่ถามว่าคนป่วยแพ้ยาชนิดนี้มัยเป็นต้นจ๊ะ และเป็น hospital ไม่ใช่ clinic หรือ เฮดแอนโชเดอ นะ เป็นระหว่างรักษาด้วย ไม่ใช่เอายามากินเองที่บ้าน จากคุณ : . - [ 20 ส.ค. 51 19:10:33 A:124.121.158.70 X: TicketID:176211 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เห็นด้วยกับ 27 ดูข่าวแล้วเศร้ามาก  พ่ออุ้มศพลูกมา  แล้วก็ยืนอยู่เฉยๆ นิ่งๆ ไม่ร้องไห้ ไม่พูด ไม่อะไรทั้งสิ้น  มองหน้าศพลูกตัวเองเท่านั้น   ผมเห็นแล้วก็คิดในใจ  นี่เป็นอีกภาพนึง  ที่คนรวยคนมีเงิน ไม่มีวันเข้าใจ..... จากคุณ : ความตายสีชมพู - [ 20 ส.ค. 51 19:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ไม่สบายตัวร้อนปวดหัว ไปหาหมอประกันสังคม... นั่งรอ1ชม. พบหมอ3นาที รับยา กลับบ้าน จบข่าว จากคุณ : aPPle_station - [ 20 ส.ค. 51 19:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 พ่อก็เส้นเลือดหัวใจตีบ ไปหาหมอโดยใช้บัตรประกันสังคม หามพ่อไปหาหมอ หมอให้รอก่อน ต้องทำเรื่องเบิกจากประกันสังคม ต้องรอหมอของประกันสังคมตรวจก่อน ต้องไปเบิกแฟ้มคนไข้จากประกันสังคมเอง และต้องนำมาคืนเอง ..บลา..บลา..บลา.. เฮ้อ............... จากคุณ : ไก่กา อาราเร่ - [ 20 ส.ค. 51 20:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อืม  อยากจะบอกว่าทุกคนก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เรารัก ถ้าจ่ายได้ทุกคนย่อมอยากจ่าย แต่ผมเชื่อว่าพ่อแม่คู่นี้ไม่มีทางเลือก  น้องชายผมรักษาโรคไตและสุดท้ายได้เปลี่ยนไตรวมเวลารักษา 4 ปีหมดไป 6 ล้านกว่า ทุกวันนี้ก็ยังต้องจ่ายค่ายาเดือนละ 2 หมื่น(ถึงเปลี่ยนไตแล้วก็ยังต้องกินยา)  พ่อผมก่อนตายด้วยโรคปอดรักษาอยู่ 3-4ปีหมดไป 3-4ล้าน (เงินพ่อ ลูกไม่มีปัญญา)  ครอบครัวผมที่เลือกจะรักษาเอกชนหมดไป 10 ล้านถามว่าเสียดายเงินมั้ยไม่เสียดาย  แต่ถามว่าฐานะเปลี่ยนไปมั้ย กระเทือนมั้ยกระเทือนมากทุกวันนี้แม่และพวกเราจะแซวกันว่า 3-4ปีนี้ห้ามป่วยนะ รอเก็บเงินก่อนนะ เงินหมดแย้ว! ทุกวันนี้กลายเป็นครอบครัวบ้าออกกำลังกายเพราะกลัวป่วยครับ แล้วก็ซื้อประกันไว้เยอะมากจนจะกินแกลบอยู่แล้ว สรุปว่าเราต้องช่วยตัวเองครับ อย่าหวังพึ่งใครหรือบัตรอะไรเลย นี่แหละชีวิตคนไทย แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 20:34:25 จากคุณ : ผู้ชายซอยสิบ - [ 20 ส.ค. 51 20:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าเทียบทางสถิติ คนไข้ที่ใช้ 30 บาทมีกี่รายที่เกิดปัญหาขึ้น  ถ้านำจำนวนคนไข้ทั้งหมดที่ได้รับการรักษาจากระบบ  อาจะเป็นค่าที่ออกมาน้อยมากซึ่งแสดงว่าระบบยังสามารถให้บริการประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ระบบ 30 บาท อาจจะดูยุ่งยาก ซับซ้อน  แต่ถ้าคุณเข้าใจและพยายามปรับตัวให้เข้ากับระบบ  ก็จะยังพอเป็นประโยชน์อยู่บ้าง  ญาติๆเรารักษาจอประสาทตาก็ฟรี   ผ่าเข่าก็ฟรี  รถพยาบาลไปรับไปส่งก็ฟรี  แต่จากข้อมูลพบว่าขณะนี้  รพ.ฯแทบจะไม่มีเตียงว่างเพราะผู้ป่วย 30 บาทนอนกันเต็มเกือบทุก รพ.ฯ  ถ้าถึงจุดจุดหนึ่งประเทศไทยก็คงเหมือนอเมริกาที่ถ้าไม่ใกล้ตาย  ก็ไม่ได้มาตรวจที่ รพ.ฯ  เพราะถ้าไม่ฉุกเฉินก็ต้องรอนัดพบหมอก่อนอาจจะนานเป็นเดือนเป็นหลายเดือน  เพราะหมอจะทำงานแบบจำกัดมากเพราะต้องทำให้เกิดคุณภาพ  แล้วเมืองไทยล่ะคนไข้ล้น รพ.นและทุกคนคาดหวังว่าจะได้รับการตรวจรักษาที่ดี ถูกต้อง รวดเร็ว  แล้วผู้ให้บริการในระบบสุขภาพของเมืองไทยจะทำอย่างไร อยากให้ช่วยกันมองระบบว่าควรปรับปรุงอย่างไรมากกว่า  เพราะถ้าคิดจะว่าก็จะมีเรื่องให้ว่าได้ตลอด  ถ้าช่วยกันคิดช่วยกันแก้เราอาจจะได้อะไรดีขึ้นมาบ้างก้ได้ จากคุณ : นานนุนนอน - [ 20 ส.ค. 51 21:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ช่วยคิดแล้วเค้ารับฟังความคิดผมหรือเปล่าละครับ การแสดงความคิดเห็นที่ไม่หยาบคายถือว่าทำได้ในสังคมประชาธิปไตยเพราะคือเสียงสะท้อนความรู้สีกของประชาชนที่เจอมาถ้าแตะต้องไม่ได้ต้องออกมาแถออกมาโต้ตอบผมว่าจะยิ่งทำให้ติดลบอีกนะท่าน จากคุณ : U SHUT UP - [ 20 ส.ค. 51 21:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 86 หมอไม่ใช่ทุกคนที่ดี และเก่ง เราพูดได้เลยค่ะ แม่เราเสีย เพราะหมอเนี่ยแหละ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนั้นความรู้ไม่ถึง ไม่รู้เรื่อง แต่พอรู้มันก็แค้นค่ะ  คนเป็นหมอก็มาจาก 100 พ่อพันแม่ บางคนก็ซักแต่เรียนขอเกรดเอาไว้ก่อน แข่งกันจะเป็นจะตาย จนลืมสิ่งสำคัญ บางคนที่เขาไปเรียนหมอได้ เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าผ่านสัมภาษณ์ไปได้ยังไง เพราะตอน ม.ปลายก็เห็นอยู่ว่า สติไม่ค่อยดี เดินยังลอยๆ เอ๋อๆ พูดกับคนอื่นยังไม่รู้เรื่อง เลยค่ะ เฮ้ออ เราอยากให้คัดมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่คะแนนถึงแล้วได้ แต่หมอที่ดีๆก็มีเยอะ เพราะสถานการศึกษา เขาก็พยายามสอนเรื่องจรรยาบรรถเข้าไปอยู่ ตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจ มีบางคนที่จบไปแล้วลืม หมอก็มีดีและไม่ดี เหมือนสังคมทั่วไป แต่เราก็เบื่อความเห็นที่เข้าข้างหมอตลอดเหมือนกันค่ะ   งานนี้พูดตามตรงเราเห็นใจพ่อ แม่เด็กค่ะ จากคุณ : moslop - [ 20 ส.ค. 51 22:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 87 กรณีน้องโฟรโมสต์ การชันสูตรศพทางนิติวิทยาศาสตร์ จะช่วยพิสูจน์อะไร http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6908285/X6908285.html อ่านที่ #20 ไม่มีนางฟ้าในชีวิตแพทย์ http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/05/L5396923/L5396923.html จากคุณ : meddy hao - [ 20 ส.ค. 51 23:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ส่วนตัวเห็นด้วยกับ คคห.9 เรื่องหมอวินิจฉัยผิดก็ส่วนนึง  แต่รู้ว่าลูกอาการดูแย่ถึงต้องไปหาหมอ 2 รอบก็ส่วนนึง  ถ้าเป็นดิฉันก็วิ่งไปโรงพยาบาลตั้งแต่รอบแล้ว  บัตร 30 มีสิทธิ์ใช้ก็จริงแต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ร่างการมีภูมิต้านทานอย่างเราๆ ก็น่าลุ้นรอเวลา  แต่เด็กเล้กขนาดนี้จะมารอลุ้นทำเรื่องส่งก็กระไรอยู่น่ะ  เฮ้อ .. ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ จากคุณ : นักกินหมูกระทะ - [ 20 ส.ค. 51 23:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอเเสดงความเสียใจ กับทางครอบครัวด้วยนะครับ.... จากคุณ : water_front - [ 21 ส.ค. 51 00:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สงสารและเห็นใจหัวอกพ่อแม่มากค่ะ จากคุณ : มิสยูนิเวอร์ส - [ 21 ส.ค. 51 00:22:03 A:58.9.13.78 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 เราเองก้อมีลูก    เราเห็นใจพ่อแม่ที่เสียลูกแน่นอน พ่อแม่คงนึกไม่ถึงว่า  หวัดไข้  จะทำให้ตายได้ (คราวหน้าถ้าลูกเราเป็นไข้หวัด  เราจะพาไปนอนพ่นยา แล้วแอดมิด เอกชนเลย) หมอคลีนิก  แน่นอนตรวจสอบไม่ดีพอ แต่บางโรค  เชื้อรุนแรง  ก้อวินิจฉัยโรคยาก เด็กตายด้วยไข้หวัด คงไม่ถึง 0.01%   แล้วแต่หมอคนไหนโดนแจ็คพอต หมอมีประสบการณ์ไม่ดีจากนโยบาย 30 บาทมาเยอะ  และจากพ่อแม่คู่นี้ด้วย พ่อแม่ให้สัมภาษณ์ว่า   "ไปคลีนิคนี้หลายครั้ง   ไม่ยอมให้ใบส่งตัวเลย พ่อแม่เคยพาไปโรงบาลหลายครั้ง    ต้องจ่ายเองทุกครั้ง" นั่นหมายความว่า   พยายามวีนและอภิสิทธิ์ว่า  ลูกฉันป่วยหนักและต้องไป รพ. หลายครั้ง ลูกใคร  ใครก้อรัก     แต่ถ้าทุกคนวีนอภิสิทธิ์หมด........ แค่จามครั้งเดียว  คงต้องส่ง รพ.หมดแล้วค่ะ.... (อ่านภาค 2 ต่อนะคะ   จะเล่าเรื่องพี่สาวแท้ๆที่เป็นหมอให้ฟัง) จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 21 ส.ค. 51 00:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 พี่สาวเรา เป็นจิตแพทย์เด็ก รพ.รัฐบาล ตั้งแต่เรียนจบ.....เธองานหนักเหลือเกิน   นอกจากเวลางาน....ทุกนาที มีคนโทรปรึกษาเธอตลอดเวลา   บางวันถึงเช้า  แทบไม่นอน   ทำไมต้องรับสาย....  คนบ้า  มันอาจตายได้ทุกเมื่อ... แถมราชการ  มีใบสั่งให้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่  แทบทุกสัปดาห์ วันนึง  เมื่อเพื่อนถูกรุมโทรมที่อังกฤษ   จนคลุ้มคลั่ง พี่สาวเราถูกมอบหมายให้บินไปรับ.....เธอรับเชื้อไวรัสที่รุนแรงมาก ด้วยร่างกายที่อ่อนเพลีย....เธอตาย หลังกลับมาไม่กี่วัน แม่เรา   เป็นหมอตา รพ.รัฐบาลใหญ่ จนปัจจุบัน ยังไม่สามารถเกษียณได้   เพราะหมอหายาก ปีที่เริ่ม 30 บาท   หมอลาออกจากราชการ 50% ทั่วประเทศ เดิม ทำงานตั้งแต่ 7 โมงถึงเย็น   ไม่เคยได้ออกไปกินข้าวเที่ยง ตอนนี้  แค่ไปห้องน้ำ ยังไม่ได้เลย   จนเป็นกะเพาะปัสสาวะอักเสบ ขนาดเป็นหัวหน้าแผนก   ซึ่งรับเฉพาะโรคตา   ไม่รับโรคหวัดโรคทั่วไป ตรวจจนเป็นลม  ล้มลงไปแขนหัก   เข้าเฝือกเสร็จยังต้องตรวจต่อเลย แค่ให้เห็นภาพว่า  "หมอ งานหนักขนาดไหน?" เราเลยไม่เรียนหมอ  เรียนวิศวะแทน จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 21 ส.ค. 51 00:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เห็นใจพ่อแม่เด็กนะคะ คงแทบขาดใจเลยทีเดียว ขนาดเวลาเราเห็นหลานป่วยนะ แบบเป็นห่วงจนนอนไม่หลับเลย แล้วนี่เขาเป็นพ่อแม่เห็นลูกตายไปต่อหน้าต่อตา คงจะเสียใจมาก ไม่ได้ว่าหมอไม่ดีเพราะเราก็ไม่ได้ติตตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด แต่ส่วนตัวเรา เรามีความรู้สึกติดลบกับคนอาชีพนี้นะ จากประสบการณ์โดยตรงของเราเองตลอด แต่ก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าถ้าหมอผิดก็น่าจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน ไม่อยากแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เป็นคนมองอาชีพนี้ติดลบอยู่แล้ว จากคุณ : ขอเป็นหวานใจของนายแบดบอย - [ 21 ส.ค. 51 04:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 94 #92 หมอทำงานหนัก เราก็เห็นใจหมอเหล่านั้นค่ะ ในสังคมไทยหมอก็ยังถูกยกย่องให้อยู่สูงกว่าอาชีพอื่นๆ คนมักให้ความนับถือ และไว้วางใจด้วยชีวิต ทุกครั้งเราไปหาหมอ เราจะยกมือไหว้หมอเพื่อเป็นการขอบคุณที่ดูแล และให้การรักษา ทำให้เราพ้นทุกข์จากโรคภัย ให้ชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ที่สมควรถูกกล่าวหาคือเหลือบสังคมที่แฝงตัวมาในรูปแบบของนักบุญ คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ได้มาจากอาชีพ จากมันสมองที่ดีที่พระเจ้ามอบให้มาเป็นพิเศษ หลักการตอนเรียนหมอ ตอนจะเอ็นท์หมอ ตอนเด็กที่โตขึ้นอยากเป็นหมอเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ กระเด็นหลุดหายไปไหนหมด รูปแบบดั้งเดิมผู้คนยกย่องหมอเป็นผู้ช่วยชีวิตค่ะ ไม่ใช่นักแสวงหาผลประโยชน์ หมอปัจจุบันจำนวนไม่น้อยกำลังทำแบบหลัง คิดดูให้ดีควรสนับสนุนพวกเหลือบนี้ต่อไปไม๊ และเราควรเอาชีวิตของเราและคนที่เรารักไปฝากไว้กับหมอประเภทนั้นเหรอ บรรพบุรุษเราก็เป็นหมอค่ะ ได้รับพระราชทานนามสกุลให้มีความหมายว่า "ผู้เจริญด้วยเมตตา" สิ่งนี้มันไม่ควรเปลี่ยนค่ะ ไม่ว่าโลกมันจะหมุนไปยังไง เสียใจกับพ่อแม่น้องด้วยจริงๆ ค่ะ หมอเป็นอาชีพที่ประมาทไม่ได้ เผลอเรอไม่ได้ และไม่ควรเห็นแก่ได้ใดใดทั้งสิ้น นักบัญชีคำนวนตัวเลขผิดก็ยังแก้ไขได้ แต่หมอวินิจฉัยผิดเพราะละเลย เอาชีวิตลูกเค้าคืนมาได้ไม๊ จากคุณ : pyramidas - [ 21 ส.ค. 51 11:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ผมก็ใช้ 30 บ. ที่คลีนิกนั้น ก็ไม่เหนมีปัญหาอะไรนะคับ บริการก็โอเคอ่ะ ไม่รูสิ แต่ก็เสียใจกับครอบครัวน้องโฟโมส นะคับ จากคุณ : toto - [ 21 ส.ค. 51 13:58:04 A:61.90.249.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 เราว่า เราควรรอฟัง ทั้ง 2 ข้าง ดีกว่านะ เพราะเราก็เห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายอ่ะ หมอ เค้าคงไม่อยากให้เกิดเหตุกาน อย่างนั้นหรอก ส่วนคุณแม่น้องเค้าก็คงไม่อยากหั้ยเกิดเช่นเดียวกัน เห็นใจค่ะๆๆๆ จากคุณ : pui - [ 21 ส.ค. 51 14:05:00 A:61.90.249.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 ต่อไปอาชีพหมอคงไม่มีใครอยากเปนกันแล้วมั้งค่ะ อนาคตก็รักษากันเองเถอะ จากคุณ : เบื่อ - [ 21 ส.ค. 51 14:09:09 A:61.90.249.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 เราก็งง เหมือนที่หลายคนคงสงสัยว่า มีเงินทำกิ๊ฟ แต่ไหง๋ลูกป่วย ถึงต้องมานั่งรอใช้สิทธิ์ด้วยละ 30 บาทเนี้ย เราเองก้มีนะ แต่เราจะใช้บางครั้ง อ่ะ คือ ถ้ามันเป็นมากจริงๆๆ เราก็ไปหา รพ ใหล้บ้านแล้ว เพราะเราก็ต้องการ ถึงมือหมอหั้ยเร็วที่สุด ไม่มัวมาใช้สิทธิ หรอก เพราะ เรามีสิทธิ์ที่ รพ .หนึ่ง กว่าจะตรวจ นานจะตาย เกิดเปนไรก่อน จะทำไง เราไม่อยากเสียใจแบบนี้ จากคุณ : ต้นน้ำ - [ 21 ส.ค. 51 14:52:39 A:61.90.249.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 95-98  จะมาเป็นคนละคนทำไมคะเนี่ย ip มันโชว์หราอยู่ ไม่อายเหรอ เห็นใจทั้งหมดค่ะ ทั้งหมอ ทั้งพ่อแม่เด็ก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด จากคุณ : kook7 - [ 21 ส.ค. 51 19:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สำนักงานประกันสุขภาพ >>> ช่วยนำกรณีดังกล่าวไปพิจารณาด้วยครับ การกำหนดโรงพยาบาลให้แก่ผู้มีบัตรทองว่าต้องเป็นโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล มีการตรวจสอบหรือมีมาตรการในการควบคุมที่ดีพอหรือยัง อย่าไปถือว่าเรื่องดังดล่าวต้องรอคนมาร้องเรียนแบบนี้เลย มาช่วยกันทำให้มาตฐานสาธารณสุขคนไทยสูงขึ้นหรือดีขึ้นกว่าเก่าด้วยครับ คห9 ... มันไม่มีเงินอ่ะเข้าใจไหม๋ ไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอก จากคุณ : เอ - [ 21 ส.ค. 51 20:28:09 A:10.11.12.19 X:58.8.175.156 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านหลายๆความเห็นแล้วก็เศร้าใจอยู่ลึกๆ กรณีนี้หมอผิดที่วินิจฉัยผิด.. แต่ว่าอย่างน้อย ไม่มีหมอคนไหนในโลก ที่อยากให้คนไข้ของตัวเองตายหรอกค่ะ จากคุณ : Cheriez - [ 21 ส.ค. 51 21:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 102 หมอคลินิคก็แย่อย่างนี้เยอะมาก  ขนาดพ่อเรา เป็นตำรวจ  ท้องร่วงอย่างหนัก ไปหาหมอคลินิคใกล้บ้าน (อ. บึงสามพัน จ. เพชรบูรณ์) แบบว่าไม่ได้ใช้บัตรทองด้วยซ้ำ จ่ายค่ารักษาเต็มที่ แต่....หมอไม่รู้นึกว่าพ่อเป็นชาวบ้านเพราะซ้อนมอเตอร์ไซต์ไป   หมอบอก อาการหนัก ให้ไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัด  โดยไม่ยอมปฐมพยาบาลเบื้องต้นอะไรให้เลย ผลที่ได้ ปรากฏว่า พ่อเราไปไม่ถึงโรงพยาบาล เสียชีวิตระหว่างทาง เราอยู่กรุงเทพฯ มารู้ตอนพ่อเสียแล้ว เสียใจที่สุด  อยากจะถามหมอที่คลินิคเหลือเกินว่า  หัวใจทำด้วยอะไร  ถ้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้กลูโคลส สักหน่อย จะดีกว่าไม่ทำอะไรเลยมั้ย เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมานี้เอง อยากให้หมอมีความรับผิดชอบมากกว่านี้  เปิดคลินิค เพื่ออะไร  ความเป็นคนไม่มีเลยเชียวหรือ จากคุณ : cvook (cvook) - [ 21 ส.ค. 51 21:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เข้ามางงกับ 95-98 ด้วย เธอบ้าไปแล้ว แถมคำพูดทุกคำเอนเอียงไปอีกฝั่งด้วยสิ จากคุณ : ขอเป็นหวานใจของนายแบดบอย - [ 22 ส.ค. 51 03:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 104 หมอบอก อาการหนัก ให้ไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัด  โดยไม่ยอมปฐมพยาบาลเบื้องต้นอะไรให้เลย - อาการหนักคลินิกรักษาไม่ได้ ก็ต้องรีบไป รพ ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ จะมาเสียเวลารักษาเบื้องต้น ที่ไม่สามารถแก้ไขอาการได้ทำไมละครับ แก้ปังหา ก็ต้องแก้ให้ตรงจุด หมอที่คลินิกก็ทำถูกต้องแล้วนี่ครับ อย่างลูกเป็นไข้เลือดออก หมอที่คลินิกบอกให้รีบส่งตัวไป รพ เพื่อใช้เวลาที่มีค่าไปถึง รพ ให้เร็วที่สุด แบบนั้นผิด แล้ว ถ้าหมอรู้ว่า เด็กเป็นไข้เลือดออก แต่ยังเสียเวลาให้ยาพาราลดไข้เบื้องต้น นอนรอดูอาการ ทำให้เสียเวลาอันมีค่าแทนที่จะรีบส่งไป รพ จนทำให้เด็กตาย ก็จะโทษหมอที่คลินิกอีกว่า ทำไมไม่บอกให้รีบส่งไป รพ ตกลง หมอคลินิกนี่ ผิดทั้งขึ้นทั้งล่องเลย ฤ ครับ จากคุณ : monsungja - [ 22 ส.ค. 51 12:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 105 95-98 กล้าทำเนอะ จากคุณ : ลินจง - [ 22 ส.ค. 51 16:44:03 A:203.121.164.58 X: TicketID:154026 ]

ความคิดเห็นที่ 106 rep 104 ครับ คนท้องเสีย ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้น้ำเกลือครับ ยิ่งถ้าอาการรุนแรงถึงขั้นความดันตก ชีพจรเร็ว+เบา ยิ่งต้องรีบให้ครับแล้วจากนั้นค่อยส่งไป หมายถึงจิ้มให้น้ำเกลือได้ปุ๊บเอาขึ้นรถไปเลย เพื่อที่ระหว่างทางจะได้มีปริมาณสารน้ำทดแทนที่สูญเสียไปจากการถ่ายหนัก แล้วถ้าถ่ายมากๆ ผู้ป่วย(บางรายเท่านั้น)ก็มีโอกาสที่จะน้ำตาลในเลือดต่ำ ก็ต้องให้กลูโคสครับ จากคุณ : MFBooBoo - [ 23 ส.ค. 51 11:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ปัจจุบัน ระบบ 30 บาท ทำให้หมอทำงานหนักมาก หมอบางคนต้องตรวจคนไข้เกือบ 100 คนในเวลา 3 ชม. ลองคิดดูว่าเฉลี่ยแล้วใช้เวลาต่อคนเท่าไร ทั้งนี้หมอก็ไม่ได้ละเลยที่จะตรวจอวัยวะระบบสำคัญที่นำคนไข้มาสู่เรา เช่น มีไข้ ไอ เราก็เน้นตรวจระบบการหายใจ ซึ่งก็คือ การดูคอ และฟังปอดเป็นหลัก อาจทำให้ดูเหมือนว่าหมอไม่ค่อยได้ตรวจอะไรเลย ทั้งนี้อาจด้วยประสบการณ์ และเวลาจำกัดแถมถูกบีบคั้นด้วยการเร่งจากคนไข้ที่รอหลายสิบคนหน้าห้องตรวจ จะให้เราตรวจตับ ไต ไส้ พุง ทั้งหมดได้ยังไง ...บางทีก็นึกในใจ ทำไมไม่เห็นใจเราบ้าง ข้าวก็ยังไม่ได้กิน มือก็เขียนสั่งยาจนเมื่อยไปหมด เสียงก็แทบจะไม่มี ยังบ่นเราอยู่ได้ ใช้ว่าที่ขณะที่คุณรอตรวจ เราไปนอนเล่น ดูทีวี ซะที่ไหน...เฮ้อ เซ็ง บางคนก็บ่นว่าทำไมมีหมอแค่คนเดียว ไม่เอาหมอมาช่วยตรวจอีก ...นี่คุณเห็นพวกเราเป็นหนุษย์หุ่นยนต์กันหรือไง แค่อยู่เวรกันครั้งละคน เราก็แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว ทุกวันนี้ทำงานเฉลี่ย 16 ชม.ต่อวัน ยังไม่พอใจอีกหรือ ... ใครว่าหมอเห็นแก่เงิน เราคนนึงที่ไม่ใช่ล่ะ ใครอยากได้เงินก็เอาไปเลย เราอยากมีเวลาพักผ่อน ทำงานวันละ 8 ชม. เหมือนคนอื่นเขามากกว่า... แล้วใครจะตรวจคนไข้ล่ะ พอคิดยังงั้น ก็คงได้แต่คิดน้อยใจ ทำงานแทบได้ ไม่เห็นได้กำลังใจเลย รักษาหายมาหลายร้อย ไม่มีใครชม อย่าให้พลาดสักคน เล่นเอาตาย ไม่ต้องได้ผุดได้เกิด แบบนี้แหละ ต่อไปจะไม่มีหมอรักษาให้คุณอีกแล้ว อย่างใน กรณีน้องที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมเพราะหมอไม่ส่งตัว ก่อนอื่น เราต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยจริงๆ ที่มาพูด ไม่ได้เข้าข้างหมอหรอกนะ หากหมอทำผิดจริง โดยเฉพาะในเรื่องจรรยาบรรณ ก็ควรถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่อยากให้คุณลองมองในมุมมองอื่นบ้าง อย่ามองหมอในแง่ลบอย่างเดียว ขอทำความเข้าใจเรื่องการส่งตัวสักนิด ปกติไม่ใช่ว่าใครมาขอใบส่งตัวเราก็จะให้ได้หมด ต้องพิจารณาว่าสมควรต้องส่งตัวไป รพ.ใหญ่หรือไม่ เหตุผลของคนอื่นอาจจะคิดเรื่องไม่อยากให้ รพ. ต้องเสียเงินตามไปจ่ายหรือเปล่า ยังไงเราไม่รู้ แต่สำหรับเรา คนไข้ที่เราสามารถดูแลได้ ก็ควรจะได้รับการดูแลใน รพ. ชุมชน ไม่ใช่ว่าสักแต่จะเอาแต่ส่งไป รพ. จังหวัดท่าเดียว ทั้งๆที่การรักษาก็ไม่ต่างกันเลย เพราะจะทำให้ รพ.จังหวัด ต้องรับภาระหนัก เกิดภาวะดูแลผู้ป่วยไม่ทั่วถึง สุดท้ายก็เกิดการฟ้องร้องกันอีก ... เฮ้อ น่าสงสารจริงๆ อย่างมีกรณีนึง คนไข้มีอาการไข้สูงมาหลายวัน เจาะเลือดเป็นลักษณะการติดเชื้อไวรัส ซึ่งอาจจะเป็นไข้เลือดออกหรือไข้หวัดทั่วไปก็ได้ เราก็ไม่นิ่งนอนใจ ให้นอน รพ. เฝ้าระวังภาวะไข้เลือกออกเต็มที่ ไม่ว่าจะให้น้ำเกลือ เจาะเลือดเป็นระยะ ทั้งๆที่ตามตำราแพทย์ สามารถให้คนไข้กลับบ้านแล้วนัดมาเจาะเลือดด้วยซ้ำไป แต่เค้าก็ไม่ต้องการแค่นั้น อยากรักษาต่อ รพ.ใน จังหวัด ด้วยเหตุผลที่ว่า คนข้างบ้านเป็นไข้เลือดออกชนิดรุนแรงถึงขนาดต้องส่งตัวรักษาที่ รพ.ในกรุงเทพ... เราก็อธิบายแล้วว่า ยังไม่มีภาวะจำเป็นที่ต้องส่งตัว เพราะยังไม่เข้าระยะไข้เลือดออกด้วยซ้ำ และถึงเป็นไข้เลือดออก ทุกที่ก็รักษาเหมือนกัน เราเขียนให้ไม่ได้หรอก แต่ก็บอกไม่ได้ว่าคุณจะไม่เป็นแบบคนข้างบ้าน ถ้าคุณมีสัญญาณเตือนว่าจะมีอาการของไข้เลือดออกที่รุนแรง เราก็จะส่งคุณเข้า รพ.ใหญ่ทันที ไม่มีใครอยากให้คนไข้แย่ในมือเราหรอก ...สุดท้าย คนไข้ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ... อย่างนี้หมอผิดหรือที่ไม่เขียนใบส่งตัว??? อย่างในกรณีที่เป็นข่าว เด็กมีอาการอย่างไรกันแน่เมื่อไปที่คลินิก ถ้าเด็กอาการแย่จริง มีไข้สูง หอบเหนื่อย ซึม (ซึ่งเป็นอาการของปอดอักเสบตามที่เป็นข่าว ) มันทำให้ชวนคิด ดังนี้ 1. หมอกล้ามาก ที่นิ่งนอนใจปล่อยให้กลับไปกินยาที่บ้าน ทั้งๆที่เด็กอาการแย่ และก็น่าจะรู้ว่าปอดอักเสบในเด็ก ต้องนอน รพ. และดูแลเรื่องระบบการหายใจอย่างใกล้ชิด ทั้งๆที่พ่อ แม่ ก็ขอให้ส่งตัวไป รพ.ภูมิพล ถึง 2 ครั้ง ทำไมคุณถึงบอกว่าเป็นแค่หวัดธรรมดา... นี่ความรู้ของคุณแย่มาก... หรือเคียดแค้นครอบครัวนี้มาแต่ชาติไหน ถึงได้ทำกับเขาแบบนี้ ... หรือถ้าไม่ใช่ล่ะ อาการที่เด็กไปคลินิกอาจจะเหมือนหวัดธรรมดาจริงๆก็ได้... 2. หมอไม่ให้ใบส่งตัว แล้วทำไมพ่อแม่ยังนิ่งนอนใจ ปล่อยให้เด็กที่เหนื่อยหอบแฮ่กๆ กลับมานอนที่บ้านได้ ทั้งๆที่คุณก็เคยเจอภาวะที่ขอใบส่งตัวไม่ได้ตั้งหลายครั้ง คุณก็ไป รพ.ใหญ่แล้วให้เขาให้สิทธิ์ฉุกเฉินมาแล้วนี่นา ทำไมครั้งนี้ไม่ทำ ทั้งๆที่อาการแบบนี้ หมอที่ไหนเห็นก็ให้ฉุกเฉินทั้งนั้นแหละ หรือต่อให้คุณต้องจ่ายเงินเอง ด้วยความที่เป็นพ่อแม่ที่รักลูก เราเชื่อว่าคุณจะทำ...หรือว่า ...เด็กจะไม่ได้มีอาการแย่จริงในตอนนั้น ที่พูดมายืดยาว เพื่ออยากให้มองข่าวใน 2 มุมมอง อย่าเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นหมอ ก็ให้แง่ลบไว้ก่อน อยากให้เข้าใจพวกเราบ้าง ว่าไม่ใช่เทวดาที่จะเห็นอนาคตว่าเป็นยังไง ที่เรารักษา ก็คืออาการที่คนไข้มาหาเรา ณ เวลานั้น แต่อนาคตมันบอกไม่ได้หรอก เพราะว่าหมอไม่ได้อยู่กับคุณ 24 ชม.นี่นา... จากคุณ : ช่วยพิจารณาในอีกมุมมอง - [ 24 ส.ค. 51 21:38:22 A:203.113.21.205 X: ]