Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    The Dark Knight กับความประทับใจก่อนที่หนังจะลาโรง(มีสปอยล์แน่ๆครับ)

    ผมเพิ่งได้มีโอกาสไปดู The Dark Knight เมื่อวานนี้เอง(วันที่ 20)

    หลายคนอาจจะสงสัยว่า ไอ้หมอนี่มันเพิ่งไปดูอะไรตอนนี้ หนังเค้าฉายมาเป็นชาติทำไมมันไม่รู้จักไปดูวะ ก็ขอตอบว่า นอกจากจะไม่ว่างเพราะเรียนหนักมากแล้ว ผมยังค่อนข้างดูถูกหนังแนว Superhero ของฝรั่งอีกด้วย เนื่องจากไม่เชื่อในอุดมการณ์ของฮีโร่พวกนี้ และในความเป็นจริง ฮีโร่พวกนี้มันจะช่วยชาติหรือคนในสังคมได้ซักเท่าไหร่กันเชียว เพราะอย่างน้อย ในแง่สัญลักษณ์ ผมว่าหนังสือ นิยาย วรรณกรรมเพื่อชีวิตต่างๆ หรือตัวการ์ตูนต่างๆ สามารถทำหน้าที่นั้นได้อยู่แล้ว ดังนั้น ผมจะดูหนังพวกนี้ ก็ต่อเมื่อเพื่อนๆลากไปดูด้วยกันเท่านั้น เพราะหลังจากหนังจบ ก็จะได้เฮฮากัน สนุกสนานด้วยกัน และที่ผ่านมา หนังฮีโร่ที่ผมพาเพื่อนไปดูเอง ก็มีแค่ Hellboy เท่านั้น เพราะชอบ Guillermo del Toro และอิทธิพลของ Pan's labyrinth ซึ่งเป็นหนังเรื่องก่อนของเขาในเนื้องาน
       ส่วน The Dark Knight ยอมรับว่าตอนแรกสุด ไม่ได้สนใจเลย เพราะเหตุผลข้างต้น คือ เป็นหนังฮีโร่ ท่าทางจะห่วย ประกอบกับ batman ภาคก่อนหน้านี้ คือ Batman Begins ที่ได้ดูทาง HBO ก็พบว่า เนื้อหาน่าเบื่อมาก และการที่นำ Batman มาทำเป็นฮีโร่แบบ เรียลลิสติก คือทำให้ดูไม่ใช่ฮีโร่ ก็ทำให้หนังน่าเบื่อไม่แพ้กับหนังแนวนี้ที่ทำให้ ฮีโร่คือ ฮีโร่จริงๆ อย่างไรก็ตาม หนังก็ดูดีพอใช้ตรงที่ความดราม่าของเนื้อหา
      แต่ด้วยการที่เห็นข่าวบันเทิงรายงานว่า ทีมงาน The Dark Knight จะเสนอชื่อ Heath Ledger เข้าชิงรางวัลออสการ์ เนื่องจากฝีมือการแสดงอยู่ในระดับยอดเยี่ยมมาก ซึ่งข่าวนี้ออกมาก่อนที่หนังจะฉาย ก็ทำให้ผมสนใจเหมือนกันว่า ทำไมเพื่อนๆของ Heath Ledger ถึงได้ชมฝีมือของเขาถึงขนาดนี้ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ ที่คนๆหนึ่งจะได้รับเสนอชื่อให้ชิงรางวัลออสการ์ เพียงเพราะเขาเสียชีวิต เมื่อเหตุผลนี้ประกอบกับเหตุผลต่อมา คือเพื่อนที่ไปดูมาแล้ว บอกว่าดีมาก ทั้งๆที่เพื่อนคนนี้จะชอบหนังแนวอาร์ตๆ ศิลปะๆมากกว่า ก็ทำให้ผมตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะต้องไปดูสักที แต่ผมก็ทำใจไว้แล้วล่ะ ว่าหนังมันใกล้จะลาโรงขนาดนี้แล้ว หนังมันต้องโดนหั่นบ้างแน่ๆ เป็นเรื่องปกติ ผมก็ เอาวะ ช่างมันเหอะ ปรากฎว่า เค้าไม่ตัดหนังเลยครับ! สุดยอดมาก ผมดูโรงพารากอนซีนีเพล็กซ์ครับ(ผมไม่ได้โฆษณาให้เค้านะ แต่มันดีตรงที่ไม่ตัดหนัง ผมก็เลยชม แค่นั้นเองครับ)
      ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงกว่า เกือบ 3 ชั่วโมง ผมประทับใจกับ แบทแมน ภาคนี้มาก เหตุผลแรก ก็คือ หนังนำเสนอให้ แบทแมน เป็นตัวสร้างปัญหาให้กับ Gotham นอกจากจะเป็นฮีโร่อีกด้วย เนื่องจาก มีการพิจารณากันว่า แบทแมนเป็น"ไอ้โม่งนอกกฎหมาย" และ เป็นตัวการที่ทำให้คดีอาชญากรรมลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เช่น การลอบสังหารนายกเทศมนตรี ผู้พิพากษา และผบ.ตร.ของ Gotham ซึ่งต้องบอกกันก่อนว่า ผมไม่ทราบว่า มีการ์ตูน Superhero หรือ Anti-hero ของฝรั่งเรื่องไหนบ้าง ที่ทำให้ฮีโร่ของเรื่องต้องกลายเป็นปัญหาของบ้านเมือง ไปพร้อมๆกับการเป็นฮีโร่ประจำเมืองด้วย เพราะผมไม่ได้ติดตามการ์ตูนพวกนี้มากนัก
      เหตุผลประการที่สอง คือ ตัว Joker ครับ ต้องยกเครดิตให้ Heath Ledger จริงๆ พี่แกเล่นตีบทแตกกระจาย ชนิดที่นึกไปไม่ถึง เกย์ใน Brokeback Mountain เลยครับ ดูแล้วรู้เลยว่า ทำไมทีมงานถึงเสนอชื่อแกเข้าชิงรางวัลออสการ์ ทั้งๆที่หนังแนวนี้ เป็นหนังตลาด ไม่น่าจะมีสิทธิ์ได้เข้าออสการ์ แต่ผมว่างานนี้ Heath Ledger น่าจะลอยลำ แมร่ง! ผมชอบพี่แกจริงๆนะ กับฉากกดระเบิดโรงพยาบาล ขอชมว่า กวนตรีนได้ใจ! ไอ้โจ๊กเกอร์มันเดินออกมาจากโรงพยาบาลทั้งชุดนางพยาบาลเหมือนคนบ้า(อื่ม...คิดๆดูอีกที โจ๊กเกอร์มันก็คนบ้านี่นะ 55+) คือเดินเหมือนมีอะไรไปถ่วงตรงฮั๋มมัน 5555+ แล้วก็กดระเบิด สักพักนึงก็....เอ๊ะ ทำไมมันระเบิดน้อยจังวะ อื้ม...ต้องมีไรผิดพลาดแน่ๆ แล้วโจ๊กเกอร์แมร่งก็กดๆๆๆๆๆ เฮ้ย ระเบิดสิเว้ย ซักพักก็ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สร้างความตื่นตระหนกได้อย่างสุดยอด บอกตรงๆว่า นอกจากฉากเปิดตัวฉากแรก โจ๊กเกอร์ก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับผมได้ทุกฉาก ทั้งๆที่ปกติ ผมเป็นคนใจแข็ง ดูหนังแบบนี้แล้วอย่าหวังว่าจะได้ตื่นตกใจนะเนี่ย! แล้วอีกอย่าง ขอถามหน่อย คุณเชื่อไหมว่า โจ๊กเกอร์ไม่ใช่นักวางแผนอย่างที่มันบอกกะ Harvey Dent สำหรับผม ผมไม่เชื่อว่ะ ผมว่าโจ๊กเกอร์นี่แหละ โคตรแห่งนักวางแผนเลย ผมไม่รู้นะ ว่าในการ์ตูน โจ๊กเกอร์เป็นไง บอกตรงๆว่า แบทแมน ผมไม่สนใจอ่านเลย ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว ในการ์ตูน โจ๊กเกอร์มันคืออะไรยังไง แต่โจ๊กเกอร์ในหนังเรื่องนี้ โคตรแห่งนักวางแผน!
       เหตุผลที่สาม หนังเรื่องนี้ มองมนุษย์ในแง่ดีจริงๆ จากฉากเรือเฟอร์รี่สองลำ ที่ไอ้โจ๊กเกอร์ตัวแสบมันวางระเบิดเอาไว้ และให้ที่กดระเบิดสองอัน แจกเรือคนละลำ คือเรือนักโทษ กับเรืออพยพประชาชน โดยบอกว่า เรือลำไหน กดระเบิดเรืออีกลำนึงก่อน เรือลำนั้นก็จะรอด แรกสุด นักโทษก็ทะเลาะกัน แต่ประชาชนบางคน บอกว่า ระเบิดเรือนักโทษไปซะ พวกมันเป็นขยะ เป็นอาชญากร เป็นพวกชั้นต่ำ แล้วก็มีการโหวตกันในเรือ ผมก็นึกขยะแขยงว่า พวกมรึงนั่นแหละ สมควรเข้าคุก สักพักนึง ทางผู้คุมเรือประชาชน ก็สังเกตุว่า "เวลาผ่านมาตั้งขนาดนี้ แต่พวกเรายังมีชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะว่าคนทางนั้น ยังไม่กดระเบิด" ตรงนี้แหละ ผมน้ำตาซึมเลยครับ คนใจแข็งอย่างผมน้ำตาซึมเลย T_T แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ เพราะต่อมา ก็มีนักโทษผิวดำตัวใหญ่คนนึง เดินออกมาหาผู้คุม พร้อมกับบอกว่า "ส่งที่กดระเบิดมาให้ผม ผมจะทำอย่างที่คุณควรทำเองไปนานแล้ว จากนั้น คุณจะบอกคนอื่นก็ได้ ว่าผมแย่งที่กดระเบิดไปจากคุณ" ผมงี้ ลุ้นระทึกเลย ก็คิดในใจว่า ไอ้ชั่วเอ๊ย ไอ้เวงงง แต่ซักพัก พี่มืดเค้าก็โยนที่กดระเบิดทิ้งทะเลไป โอ้ววววว น้ำตาซึมอีกแล้ว T_T ต่อมา มาทางเรือประชาชน ก็มีไอ้หัวโล้นคนนึง พูดกับคนคุมเรือว่า "พวกนั้นเป็นขยะ เป็นพวกเดนสังคม และพวกมันเลือกที่จะเป็นเอง ดังนั้น ผมจะขอกดระเบิดเอง" ผมก็คิดในใจ(อีกแล้ว)ว่า ไอ้ชั่วเอ๊ย ซักพักนึง มันบอก "ผมทำไม่ได้" โอ้วววว น้ำตากรูซึมอีกแล้ว ประทับใจมากๆ คนดีจริงๆ T_T หลายคนอาจจะงง ว่า เอ๊ะ ทำไมผมนี่ช่างเชื่อคนง่ายจริงๆ หนังเค้าหลอกให้ตื่นเต้นลุ้นระทึกไปงั้นๆแหละ แมร่งยังเชื่อเค้าอีก อ้าว คุณ ถ้าคุณไปดู คุณก็จะรู้ แหม ดนตรีประกอบนี่ เล่นหลักจิตวิทยากะเราเลย เพราะดนตรีค่อยๆลากเสียงให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นใครก็ต้องใจระทึก! เหอๆๆ แต่รู้ป่ะ เพื่อนของผมคนนึงที่ชอบฉากนี้เพราะโจ๊กเกอร์อ่ะ แมร่งบอก กูชอบโจ๊กเกอร์ฉากนี้ ทำหน้าตาได้ใจมาก ตรงที่มันบอกว่า เฮ้อ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้เลย ต้องให้จัดการเองอยู่เรื่อย ผมก็แบบ อารายวะ มรึงนี่ -*- ไอ้ซาดิสต์เอ๊ย เซ็งงงงงงงง = =" แต่ก็มีเพื่อนอีกคนนึงนะ ที่ชอบฉากนี้เหมือนผม เพราะเหตุผลเดียวกันกับผม ^^ คือผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนคนแรกหรอก แต่ว่าแหม...นึกว่าชอบด้วยเหตุผลเดียวกัน = =
      ยังมีเหตุผลปลีกย่อยอีกเยอะ ที่ชอบ แบทแมน ภาคนี้ ทั้งชุดของแบทแมน ที่เรียบหรู แต่ดูดี อีกทั้งรถมอไซค์ที่เท่มากๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะตอนที่รถของแบทแมนจะระเบิด แล้วล้อของรถแบทแมนหลุดออกมา กลายเป็นมอไซค์ เอ้อ รถของแบทแมน เค้าเรียกว่าไรนะ ผมลืม - -a อ้อ ฉากที่แบทแมน ใช้รถมอไซค์จัดการโจ๊กเกอร์ในรถคอนเทนเนอร์คันใหญ่ก็เจ๋งสุดๆ ส่วนหน้าตาของ Harvey Dent ตอนเป็น Two-face ก็อืมมมมม น่ากัวว่ะ ผมว่า เป็นหนังฮีโร่สำหรับผู้ใหญ่นะเรื่องนี้ เด็กไม่ควรดู ฉากน่ากลัวๆเยอะอ่ะ อย่างฉากโทรศัพท์ในท้องนักโทษ อะไรอย่างงี้ ขนาดผม ผมยังกลัวเลย แค่ไอ้โจ๊กเกอร์โผล่มา ก็น่ากลัวสุดๆแล้ว ><"
       สรุป เป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมก็โชคดีมาก ที่ได้ดูก่อนลาโรง วันนี้ ผมเข้าไปเช็ครอบหนังที่เว็บเมเจอร์ ให้น้องคนนึง ปรากฎว่า เหลืออยู่รอบเดียวที่พารากอน อ้า...เรานี่โชคดีจริงๆ เพราะดูเหมือนผมจะดูก่อนวันออกโรงเพียงไม่กี่วันเท่านั้นครับ ^^ แต่สงสารน้อง ไม่ได้ดู รอซีดีละกัน ^^" แต่ดูหนังตอนคนน้อยๆนี่ดีนะครับ ไม่มีปัญหาอะไรจากคนข้างๆเลย

    แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 01:39:32

    แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 01:35:04

    จากคุณ : กลับมาแล้วคนดี - [ 22 ส.ค. 51 01:32:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom