Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    กระทู้นี้แตกประเด็นมาจากกระทู้โน้น

    ทำไมผมถึงเป็นคนที่เล่าเรื่องค้างๆคาๆเช่นนี้

    คราวนี้จะเอาให้จบรวดเดียวเลย

    เราจะว่ากันถึงประเด็นสึนามิเพียวๆ

    หลังจากคุณๆขาประจำอ่านจนจบ(กว่าคุณๆจะเข้ามาอ่านผมคงรวมเล่มขายได้แล้วมั้ง ธุระเยอะกันจริงๆนะ)

    รวมทั้งคุณๆขาจรด้วยนะจ๊ะ(ถ้ามีความอดทนพอที่จะรอให้จบ...ซึ่งผมจะพยายาม)

    ขอให้ทุกท่านไว้อาลัย "แด่ผู้จากไป" เป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง( 1 นาทีจะพอหรือสำหรับจำนวนคนขนาดนั้น)

    ผมล้อเล่นครับ แค่ครึ่งชั่วโมงก็พอ(HA...)

    *จากนี้จะให้นามสมมุติทั้งหมดนะครับ(ยกเว้นเพื่อนผมที่เผลอใช้ชื่อจริงไปแล้ว แต่ช่างมัน...มันยังไม่ตาย HA...)
    ----------------------------------------------------------------------------
    (ต่อจากตอนที่ 1 ในกระทู้โน้น)

    วันที่ 25 ธันวาคม เวลา13.45 น.(ประมาณ)
    เขาหลัก-พังงา

    หลังจากคุณน้าพาผมเดินชมสปาแห่งความภาคภูมิใจจนทั่ว (ในใจนึกว่าเพิ่งมาถึงใหม่ๆทำไมไม่พาไปพักหรือนวดก่อนนะ...) เสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นหน้าร้าน   เสียงผู้หญิงโหวกเหวกที่ดังมาฟังดูคุ้นๆหู และเมื่อตั้งใจฟังดีๆก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการสื่อ

    จับใจความได้ประมาณว่า "มันมาถึงแล้วเหรอ ไอ้คนลืมญาติ!!!" อะไรประมาณนี้แหละครับ ผมไม่ค่อยได้ยิน(อันที่จริงไม่ตั้งใจจะฟังครับ)

    ผู้หญิงที่เดินเข้ามาในร้าน 2 คน นั้น 1 คน(ที่โหวกเหวก) ผมรู้จักดีกับอีก 1 คนที่เดินตามมาทีหลัง นั่นเป็นสาวแปลกหน้า ทันทีที่เห็นหน้าผมเขาดูเหมือนจะชะงักไปชั่วขณะ

    แนน เป็นลูกของป้า(ซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้องของผมเอง) กับ กร สาวชาวดอยส่งตรงจากเชียงราย ทั้งคู่เดินเข้ามาทำท่าอ่อนเพลียก่อนที่แนนจะอุตส่าห์เดินมาตบกบาลทักทายผมด้วยมธุรสวาจาว่า "สันดาน!"

    คนเขาหลักทักกันแรงแฮะ...

    แนน เป็นคนแบบนี้เองล่ะครับ แม้จะหน้าตาบ้านๆ คมๆตามประสาสาวใต้ ภายนอกดูแข็งๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอก็มีใจที่อ่อนโยนรักสัตว์ หลักฐานก็คือฟาร์มสุนัขในปากเธอนั่นล่ะครับ(มันทำให้ผมกังวลว่าสปีชี่ย์สายพันธุ์พวกเราเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า   หากเป็นเช่นนั้นจริงคงต้องลดระดับความแรงด้วยการผสมกับสายพันธุ์ล้านนาเพื่อลดดีกรีความดุลงบ้าง...เอ๊ะ ผมไม่ใช่กระต่ายนะ)

    แนนกับผมมีระดับความสัมพันธืที่ขึ้นๆลงๆ ด้วยเพราะผมนั้นขึ้นมาใช้ชีวิตที่สมุทรปราการตั้งแต่ 2 ขวบ ส่วนแนนนั้นอยุ่ที่นครศรีธรรมราชมาตลอด   เมื่อผมกลับบ้านที่นครฯ ช่วงปิดเทอม เราจะเหมือนคนแปลกหน้า เอาแต่จดๆจ้องๆไม่ยอมคุยกัน

    ต่อเมื่อเราเริ่มจะสนิทสนมกันนั่นแหละครับผมก็ได้เวลาเปิดเทอมต้องกลับสมุทรปราการด้วยความอาลัย

    ก่อนที่ผมจะกลายเป็นคนแปลกหน้าอีกครั้งในช่วงปิดเทอมครั้งต่อไป...ตกลงเราเป็นยังไงกันหนอ

    อาจเป็นเพราะเติบโตมากับสังคมเมืองหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ทำให้ผมค่อนข้างห่างกับญาติๆ เป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใครไม่ติดต่อใครไม่โทรหาใคร และนั่นเป้นที่มาของคำแดกดันทุกครั้งที่เจอหน้าแนน และ "ไอ้คนลืมญาติ" คือสมญาที่เจ้าหล่อนตั้งให้ก่อนจะแพร่ลุกลามราวกลาดเกลื้อนไปทั่วหมู่ญาติๆของผม

    "กร"เป็นสาวชาวเหนือ ผมยาว ขาว หน้าตาให้เกรด B แต่ก้พูดได้ว่าสเปกหนุ่มกรุงเทพล่ะครับ...ผมไม่ค่อยรู้เรื่องของสาวคนนี้มากนักเพราะนั่นเป้นการพบกันครั้งแรกของเรา   ผมรู้คร่าวๆว่าเธอเรียนจบจากราชมงคลแห่งหนึ่งทางเหนือพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ก่อนจะลงมาทำงานเป็นพนักงานสปากับน้าผมทั้งแก๊ง ในขณะที่กำลังรอรับปริญญา

    และผมก็ได้รุ้สาเหตุที่เธอชะงักชั่วครู่เมื่อเจอหน้าผม...เพราะเธอเคยเห็นรูปผมที่แนนเอามาพรีเซนต์...ตอนนั้นเธอพูดว่า "แบบนี้เรียกหล่อแล้วเหรอ" ก่อนจะพบว่าตัวจริงนั้นทรงเสน่ห์กว่าที่เห็นในรูปเยอะ (อันหลังนี่ผมเพ้อไปเองนะครับ HA...)

    เขาหลักเป็นเมืองเล็กๆที่ดูสงบแต่ก็มีความคึกคักอยู่ในที คุณจะพบจุดกึ่งกลางระหว่าง "สังคมมนุษย์" กับ "ธรรมชาติ" ที่อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย...ผู้คนที่นี่อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง และที่สำคัญผมไม่เคยเห็นผู้คนที่ไหนจะ "ขำ" แทบทุกครั้งที่ผมเล่นมุกแม้ว่ามันจะฝืด(สำหรับผม) ปานใด

    อาจจะเพราะเมื่อยามกลางวันที่นี่จะเป็นที่ที่คุณจะตื่นขึ้นมาพร้อมพลังงานชีวิตที่เต็มเปี่ยม

    อาจจะเพราะเมื่อยามกลางคืนที่นี่คุณจะได้พบกับ "สวรรค์สีน้ำเงิน(ผมแอบตั้งชื่อให้เมืองนี้เอง)" ท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่ได้มืดมิดสำหรับที่นี่ คุณจะพบคริสต์มาสได้ในทุกๆคืนที่นี่(สำหรับขาประจำ...คุณสังเกตความฝังใจบางอย่างของผมกับคริตสมาสหรือยัง)

    อาจจะเพราะฝรั่งที่นี่ชอบกิน "โรตี"...ร้านขายโรตีที่นี่ขายแทบไม่ทัน ฝรั่งต่อคิวซื้อยาวมากๆๆๆๆๆๆ

    อาจจะเพราะความจริงใจของพ่อค้าที่นี่ "โถ่น้อง...แบบนี้ที่จตุจักรก็มีขาย น้องจะมาซื้อที่นี่ทำไมอ่ะ มันแพง"

    ที่นี่จึงเป็นเมืองที่ไร้เดียงสา...และผมเองก็สามารถทำตัวไร้เดียงสาได้อย่างไม่ประดักประเดิด

    ผมหลงรักที่นี่ราวกับเมื่อครั้งผมหลงรักสาวรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมเลยเชียว(ผมชอบคนแก่...บอกไปยังนิ)

    คืนนั้นคุณน้าพาผมกับเพื่อนไปกินมื้อเย็นที่สุดจะโรแมนติก ร้านอาหารริมทะเล สายลมเอื่ยๆ ดนตรีคลอเบาๆ เบียรืวุ้น...และพนักงานสาวชาวพม่า

    เราเดินกลับกัน...ระหว่างนั้นสาวน้อยคนหนึ่งก้เดินมาสะกิดให้ช่วยซื่อโคมลอย(ผมนึกว่าจะมีแต่ที่เชียงใหม่)

    ผมอธิฐานขอให้ผลสอบได้ 2.7 อีกครั้ง และหากสิ่งศักสิทธิ์จะไม่" งก" พรเกินไปนัก ผมก็แอบขอให้อนาคตผมรุ่งโรจน์...เช่นดอกไม้ไฟ   แม้จะดับไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ขอส่องแสงตระการตาสักทีเถิด

    โคมไฟลอยขึ้นสูงมาก...สูงจนผมใจหาย(ผมกลัวความสูง) หลังจากหยุดไต่ระดับความสูง มันส่องแสงแข่งกับดาวเกลื่อนท้องฟ้าอยู่พักหนึ่ง...น้าผมก้พูดขึ้นว่า

    "สงสัยชีวิตแกจะรุ่งโรจน์จริงๆว่ะ"

    อารมณ์นั้นผมเองก็อดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้ แต่จริงๆแล้วผมหวั่นใจบางอย่าง แต่ผมไม่เอะใจอะไรเลย ทั้งไพ่ทาโรต์ เดธ แฮงก์แมน เดอะทาวเวอร์ ที่จับได้ก่อนเดินทาง ไม่ได้เตือนอะไรผม

    เพราะมันพูดไม่ได้

    มันจึงบอกผมไม่ได้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น

    ตอนนั้นลมสงบแล้ว...ไฟตามร้านต่างๆทะยอยดับแล้ว...แหล่งชอปปิ้งเริ่มร้างคน

    พวกเราเองเดินกลับร้านอย่างอิ่มใจ...ผมและเพื่อนเริ่มใจหายเมื่อคิดว่าพรุ่งนี้จะต้องกลับ แล้วผมจะบรรยายให้เพื่อนๆที่มหาลัยฟังได้อย่างไรกันนี่...คงต้องพาพวกมันมาดูกันเองเสียแล้ว

    ที่เขาหลักยามค่ำคืนมันสงบนิ่งแบบนี้อยู่แล้ว...หรือมันนิ่งจนผิดปกติแต่เราไม่ทันสังเกตกันหนอ

    ตอนนั้นผมไม่ทันคิดจริงๆ

    (ติดตามตอนต่อไป...)

    จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา - [ 26 ส.ค. 51 10:38:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom