PANTIP.COM : A6967025 วันเปิดตัวหนัง ที่ USA เดือนไหนดี - ไม่ดี เค้าคิดกันยังไงครับ [ภาพยนตร์]

ความคิดเห็นที่ 3

..

ช่วงหนังทำเงินของ USA มีอยู่ สองช่วงใหญ่ๆครับ

แน่นอนว่าช่วงแรก คือ summer ใน USA ซึ่งปีหลังๆ หนังทำเงินเริ่มประเดิมกันตั้งแต่ พ.ค. เลย ... จากนั้นก็ลากยาวมาจนถึงประมาณปลาย ก.ค. ต้น ส.ค.

หนังฟอร์มยักษ์ ฟอร์มใหญ่ ทุนสูง ต่างๆ มักจะลงฉายกันช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงปิดเทอม และมีวันหยุดยาว จึงมีโอกาสดึงรายได้กันแบบยกครอบครัว

เดือน พ.ค. มี Memorial Day ซึ่งจะหยุดในวันจันทร์สุดท้ายของเดือน พ.ค. ปีนี้ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull ขอจอง และทำเงินไปกว่า 315 ล้าน

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ขอเปิดตัวในเดือนนี้ เช่น Star Wars: Episode I - The Phantom Menace ฉาย 19 พ.ค. ฟันเงินไป 431 ล้าน

Spider Man ภาคแรก ฉาย 3 พ.ค. เก็บไปเหนาะๆ 403 ล้าน

Iron Man ฉาย 2 พ.ค. ได้ไป 317 ล้าน

เดือน มิ.ย. แม้ไม่มีวันหยุดยาว แต่ก็เป็นการเริ่มต้น summer แบบเต็มตัว หนังที่เปิดฉายในเดือนนี้ จึงฟอร์มยักษ์ไม่แพ้กันครับ เช่น

Jurassic Park 11 มิ.ย. ทีเร็กส์เขมือบไป 357 ล้าน

Wall -E 27 มิ.ย. Ratatouille 29 มิ.ย. Cars 9 มิ.ย. ... เกิน 200 ล้านทุกเรื่อง

Batman 5 ภาคแรก ก่อน The Dark Knight ก็เลือกเปิดตัวในเดือนนี้ทั้งหมด

มากันที่เดือน ก.ค. ที่ว่ากันว่า จะเป็นเดือนที่ หนังเรื่องไหน หวังจะเป็นแชมป์ประจำปี มักจะเลือกเปิดตัวในเดือนนี้ เพราะตรงกับวันหยุดยาว 4 ก.ค. วันชาติสหรัฐนั่นเองครับ

ซึ่งในทศวรรษที่ผ่านมา ต้องยกให้เจ้าพ่อ วิล สมิธ ที่ขอจองหนังฉายวันชาติมาหลายครั้ง แล้วก็ทำเงินได้ดีเสียด้วย

ปีนี้ Hancock จองไว้ 2 ก.ค. แต่ขี้เมาไปหน่อย เลยได้เเค่ 227 ล้าน (แต่ก็เยอะแล้วล่ะนะ)

ปีแจ้งเกิด วิล สมิธ Independence Day เปิดฉากลุยกับมนุษย์ต่างดาววันที่ 3 ก.ค. เก็บไป 306 ล้าน

Men in Black ทั้ง 2 ภาค ก็เลือกฉายช่วงเดียวกัน ทำเงินไป 250 และ 190 ล้านโดยประมาณ

นอกจากนี้ หนังในเดือน ก.ค. ยังมีฟอร์มใหญ่อีกมากมายนับไม่ถ้วนครับ ไม่ว่าจะเป็น The Dark Knight ในปีนี้ 18 ก.ค. (รายได้ไม่ต้องไปพูดถึงแล้วล่ะ)

Transformers (319 ล้าน) Pirates of the Caribbean ภาค 1 และ ภาค 2

หรือแม้กระทั่งหนังโรแมนติก คอเมดี้ อย่าง Runaway Bride (30 ก.ค.) ก็ขอเป็นตัวเลือก แทรกไว้ท่ามกลางหนังฟอร์มใหญ่ ซึ่งเจ๊จูก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กวาดไปสบายๆ 152 ล้าน

เดือน ส.ค. แม้จะเป็นช่วงเปิดเทอมแล้ว แต่ยังพอมีหนังทำเงิน หลงมาฉายเก็บตกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แล้วทำรายได้ดีซะด้วยครับ

The Bourne Ultimatum ภารกิจเริ่มต้นที่ 3 ส.ค. จบลงที่ 227 ล้าน

Rush Hour 2 ขอเปิดตัววันที่ 3 ส.ค. ด้วย รายได้เทียบจะเท่ากันเลยที่ 226 ล้าน

Signs ของเอ็ม ไนท์ เปิดตัว 2 ส.ค. ... 227 ล้าน อีกเรื่อง แต่หนังขึ้นหิ้ง อย่าง The Sixth Sense เปิดตัว 6 ส.ค. ได้ไป 293 ล้านแน่ะ

จากนั้นตลาดหนังใน USA จะเงียบๆครับ ไปเริ่มชิงชัยรายได้กันอีกทีช่วงปลายปี เริ่มประมาณเดือน พ.ย.

เพราะหนังหวังรางวัล เริ่มจะทยอยฉายกันออกมาแล้ว และก็เป็นช่วงวันหยุดยาว Thanksgiving (พฤหัสที่ 4 ของเดือน พ.ย.) เดือนนี้จึงเป็นช่วงที่หนังทำเงินได้ดีไม่แพ้กับช่วงกลางปีครับ หนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง บางครั้งก็เลือกมาเปิดตัวช่วงนี้ เช่น

Harry Potter and the Sorcerer's Stone (317ล้าน)
Harry Potter and the Chamber of Secrets (261ล้าน)
Harry Potter and the Goblet of Fire (290ล้าน)

3 ภาคนี้ ฉายกลางเดือน พ.ย. ทั้งหมด

Toy Story 2 , Monsters, Inc. และ The Incredibles เกิน 200 ล้านทุกเรื่อง

หนังตระกูลเจมส์ บอนด์ ก็เลือกฉายในช่วงเดือนนี้ครับ

ปิดท้าย ที่ ธ.ค. แน่นอนอยู่แล้วว่า เป็นช่วงหนังหวังรางวัล ฉายก่อนวันหมดเขตพิจารณา ซึ่งหนังหวังรางวัลหลายเรื่อง ก็เป็นหนังทุนสูง กะจะกวาดทั้งเงิน ทั้งกล่อง ก็ต้องมาฉายเดือนนี้แหละ

(แต่จริงๆแล้ว วันคริสตมาสต์ ไม่ค่อยมีผลมากมายครับ เพราะเป็นช่วงที่คนใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่า อากาศมันหนาวด้วย)

หนังเดือน ธ.ค. ต้องยกให้ Titanic ก่อนเรื่องอื่น (19 ธ.ค.)
ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาที่ดีมาก เรื่องความได้เปรียบในเรื่องการยืนระยะของรายได้

Titanic ไม่ใช่หนังประเภท คนต้องแห่กันไปดูใน 3 วัน 5 วันแรก เเต่อาศัยการบอกปากต่อปาก และ ยืนระยะฉายไปให้ใกล้กับวันประกาศรางวัลออสการ์มากที่สุด ดังนั้น การเลือกฉาย ปลาย ธ.ค. จึงทำให้ หนังสามารถยืนระยะไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีหนังฟอร์มยักษ์แบบ summer มาเป็นตัวตัดรายได้นั่นเองครับ

The Lord of the Rings ทั้ง 3 ภาค ฉายกลางเดือน ธ.ค. ทั้งหมด จริงๆแล้ว หนังระดับนี้ ฉายช่วง summer ได้สบายครับ แต่คงหวังผลด้านรางวัลด้วย ถึงเลือกฉายปลายปีดีกว่า

..

จากคุณ : POGGHI - [ 5 ก.ย. 51 14:15:42 ]