ความคิดเห็นที่ 1 คิดถึงเหมือนกันนะคะ เรื่องนี้เป็นละครที่เรารักที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เอารายชื่อนักแสดงมาให้ดูกันเลย ละครโทรทัศน์ เรื่องตำรับรัก บทประพันธ์ ชูวงศ์ ฉายะจินดา บทโทรทัศน์ ปราณประมูล กำกับการแสดง  มานพ สัมมาบัติ ผลิตโดย บริษัท ดาราวีดีโอ จำกัด ออกอากาศ ปี พ.ศ. 2532 ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์   (14 กรกฎาคม – ตุลาคม 2532 รวมทั้งสิ้น 54 ตอน) ** วันออกอากาศวันสุดท้าย วันที่เท่าไหร่ไม่ทราบค่ะ รายชื่อนักแสดง 1.บดินทร์ ดุ๊ก  เป็น ประณต   2.สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ เป็น บังอรสุวรรณี               3.ตวงสิทธิ์ เรียมจินดา เป็น ประภาส                   4.ปิยะดา เพ็ญจินดา เป็น ฉมชบา 5.ศตวรรษ ดุลยวิจิตร เป็น ศุกลวัณณ์ 6.จามจุรี เชิดโฉม เป็น กระเช้ารัตน์ 7.พรสุดา ต่ายเนาว์คง เป็น สุนทรี 8.ชาญ วรานุรังษี เป็น พันธุ์เมธางค์ 9.ชาลีนี ดารา เป็น สอางค์อัปสร 10.ชลวิทย์ สุขอุดม เป็น บรรเลง 11.สมชาย สามิภักดิ์ เป็น พระยาพิษณุเสนา 12.นริศรา ธรรมกามี เป็น รุจีประภา 13.ชัยณรงค์ ช่างเกิด เป็น สันทิศ   14.นัยนา คชแสง เป็น พิณ 15.ศิริวรรณ  ทองแสง เป็น แม่ของไภษัตย์ 16.ชัย ราชพงษ์  เป็น คุณเนตร 17.ประวิตร สุจริตจันทร์ เป็น เจ้าพระยาบริรักษ์สกลเขต                                                                               18.ศิรินภา สว่างล้ำ เป็น แม่วรรณ 19.วิไลลักษณ์ ไวงาน เป็น ปารวดี 20.กฤติยาภรณ์ ตรีรัตนพันธุ์ เป็น ลูซี่ 21.วทัญญู มุ่งหมาย เป็น ไภษัตย์ 22.ทัศนีย์ สีดาสมุทร เป็น แหวน 23.สมยศ เปรมอนันต์ เป็น พ่อของกระเช้า 24.จิตตรา จำเริญศักดิ์ เป็น ตลับ (แม่คุณแต้ว) 25.ราชิด ชูเมือง  เป็น พ่อของคุณแต้ว 26. กนกวรรณ พลอยชัด  เป็น แม่ของกระเช้า 27.เมฆ เมืองกรุง เป็น แย้ม ( พ่อของประภาส) 28. ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ เป็น สุณิสา 29.ด.ญ. อรชุมา ธรรมกามี เป็น คุณแต้ว (ตอนเด็ก) 30.ด.ญ. ธิติยา นพพงษากิจ เป็น คุณหนูเล็ก(ตอนเด็ก) ** ขาดรายชื่อคนเดียวที่ไม่ทราบ คือน้าพรรณ คุณน้าของกระเช้าค่ะ ปล. ละครเรื่องตำรับรักเวอร์ชั่นนี้ เขียนบทโดย คุณแอ๊นท์ ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์ค่ะ (ปราณประมูล) ซึ่งคุณแอ๊นท์จะเขียนบทให้กับตัวละครทุกตัวละคร ยกเว้น คุณใหญ่ พันธุ์เมธางค์ คุณเล็ก ดวงหทัย เป็นคนเขียนให้ค่ะ ซึ่งถ้าใครเคยดู จะทราบว่าคุณใหญ่จะปากร้ายๆพูดจาว่าน้องๆแรงๆตลอดเลย ** ขอบคุณข้อมูลทั้งหมด จากคุณชาญ วรานุรังษีค่ะ^^ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 00:07:26 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 51 21:07:44 จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพลงตำรับรัก คำร้อง, ทำนอง  วิทยา อัมภสุวรรณ เรียบเรียง ศาสสัณฑ์ บุญญาสัย ขับร้อง ปิยะนุช วรานนท์ รักเอยความรักคืออะไร ใครนะใครให้คำตอบได้บ้างหนา รักนั้นมีต้นกำเนิดเกิดจากไหนใครนำมาอีกใครหนารู้จักรักคนแรก หรือรักคือความหวังกำลังใจ ความรักคือการให้ไร้การตอบแทน ใจสองใจตรงกันร่วมความฝันรักกันเหนียวแน่น มีสุขแสน หรือเศร้าเคล้าน้ำตา * ความรักมีมากความหมายฉะนี้ หรือบางทีรักคือความอิจฉา รักมีไหมให้ความเมตตา หรือเป็นนักฆ่า พล่าผลาญใจคน ความรักเนาว์ เราสองปองในใจ ทำฉันใดให้ใจเราหายมืดมน ให้เราพบทางสว่างดุจน้ำค้างชะโลมใจตน ฉ่ำกมลสุขล้น...รักสองเรา (* ซ้ำ) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 00:10:38 จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้เราเขียน เรียบเรียงเองค่ะ ดีไม่ดีอย่างไร ขออภัยล่วงหน้าค่ะ ^^ ย้อนรำลึก ‘ตำรับรัก’ ละครดังในอดีต “ รักเอย ความรักคืออะไร ใครนะใครให้คำตอบได้บ้างหนา”  ทายกันได้มั้ยคะ ว่าเป็นเพลงประกอบละครเรื่องอะไร หลายๆคนที่เกิดทันและได้ชมละครก็คงจะทราบว่าเป็นเพลงประกอบละครตำรับรักนั่นเองค่ะ  หากย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2532 ละครโทรทัศน์เรื่องตำรับรัก ได้แพร่ภาพออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7  ซึ่งละครเรื่องนี้เมื่อแรกนั้นไม่ได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนเลย ว่าจะผลิตละครเรื่องนี้ นับว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ยังไม่มีละครที่จะนำมาออกอากาศ เมื่อเป็นเช่นนี้ทางช่อง 7 เลยมอบหมายให้ บริษัทดาราวิดีโอ ผลิตละครเรื่องตำรับรัก เพื่อออกอากาศให้ทันท่วงที ดังนั้น ตำรับรัก จึงเปิดกล้องในวันที่ 9 กรกฎาคม 2532 และออกอากาศในวันที่ 14 กรกฎาคม 2532 บรรดานักแสดงและทีมงานทั้งหมดมีเวลาเตรียมตัวกันประมาณ 5 วันเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นละครจานด่วนก็คงจะไม่แปลกนัก ซึ่งการผลิตละครครั้งนี้ผู้เขียนบทคือ ปราณประมูล และกำกับการแสดงโดยคุณมานพ สัมมาบัติ ผู้กำกับแห่งค่ายดาราวิดีโอ ตำรับรักบทประพันธ์ของชูวงศ์ ฉายะจินดา ป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวสองคู่ คือ บังอรสุวรรณี กับประณต และ ประภาส กับฉมชบา ซึ่งกว่าความรักของทั้งสองคู่จะลงเอยกันได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความพยายามมากมาย จนในที่สุดก็สมหวัง นอกจากจุดเด่นจะอยู่ที่คนทั้งสี่คนแล้ว ยังมีการแสดงให้เห็นถึงความรักของบรรดาพี่น้องของบังอรสุวรรณี ซึ่งแต่ละคนเมื่อมีความรักก็ประสบปัญาหาแตกต่างกันไป นอกจากนี้ละครยังแสดงให้เห็นด้านความรักเป็นประการสำคัญ ยังให้ข้อคิดและการแก้ปัญหาเมื่ออยู่ร่วมกันในครอบครัวใหญ่ย่อมเกิดปัญหา การเห็นอกเห็นใจกันของคนในครอบครัว และการกตัญญูต่อบิดามารดาอีกด้วย ตำรับรัก เวอร์ชั่นปี 2532 นำแสดงโดยบดินทร์ ดุ๊ก รับบท ประณตและ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ รับบท บังอรสุวรรณี ร่วมด้วย   ปิยะดา เพ็ญจินดา ตวงสิทธ์ เรียมจินดา ศตวรรษ ดุลยวิจิตร จามจุรี เชิดโฉม ชาญ วรานุรังษี และนักแสดงอีกมากมาย จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาดูรูปกันบ้างค่ะ เริ่มที่พระเอกของเราเลย บดินทร์ ดุ๊ก  เป็น ประณต จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คิดถึงสิเรียมอ่ะ เมื่อไรจะกลับมาเล่นละครอีก จากคุณ : ดาว (ดาวราตรี) - [ 11 ก.ย. 51 21:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ เป็น บังอรสุวรรณี (จำได้มั้ยคะ บ้านหลังนี้ใช้เป็นฉากละคร ของดาราวิดีโอหลายๆเรื่องเลย คู่กรรม แม่หญิง บ้านทรายทอง ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะอยู่แถวๆ บางแคค่ะ) พี่แอน น่ารักจังค่ะ จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ทราบค่ะคุณดาวราตรี อิอิ คิดถึงเหมือนกันค่ะ แต่พี่เค้าคงไม่รับละครแล้วมั้งคะ ------------------------------------------ ตวงสิทธิ์ เรียมจินดา เป็น ประภาส จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอารูปเล็กๆแล้วกันนะคะ ภาพใหญ่มากเลย ------------------------------------- ปิยะดา เพ็ญจินดา เป็น ฉมชบา จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนต่อมาค่ะ ผลงานชิ้นแรกของเขา หล่อมากค่า.. ^_^ ----------------------------------------- ศตวรรษ ดุลยวิจิตร เป็น ศุกลวัณณ์ จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปที่ได้มานี่คือ เป็นช่วงที่ถ่ายทำตอนคุณกลางเสียชีวิตนะคะ เพราะฉะนั้น นักแสดงจึงต้องแต่งดำค่ะ ----------------------------------------------- จามจุรี เชิดโฉม เป็น กระเช้ารัตน์ จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พรสุดา ต่ายเนาว์คง เป็น สุนทรี จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชาญ วรานุรังษี เป็น พันธุ์เมธางค์ ผู้ซึ่ง เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องราวดีๆในอดีตและภาพถ่ายสวยๆแก่ข้าพเจ้าเอง ขอบพระคุณมากที่สุดเลยค่ะ ได้ทราบถึงการทำงานด้านละคร เพราะพี่ชาญเลย ^^ ขอบคุณที่อนุญาตให้ลงภาพด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 51 21:55:50 จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชาลีนี ดารา เป็น สอางค์อัปสร (พี่สา เป็นนักแสดงที่เราคิดว่า สวยมากๆ ชอบเธอค่ะ คิดถึงนะคะ ใครเป็นแฟนละครจักร์ๆวงศ์ๆ คงจะจำได้) จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 21:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ศิรินภา สว่างล้ำ เป็น แม่วรรณ (ชอบคุณศิรินภา ในเรื่องนี้มากค่ะ) จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สมชาย สามิภักดิ์ เป็น พระยาพิษณุเสนา จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประวิทย์ สุจริตจันทร์ เป็น เจ้าพระยาบริรักษ์สกลเขต       (คุณลุงประวิทย์ ถ่ายที่สมาคมชาวอุบลราชธานีนะคะ คิดว่าใช่ สถานที่แห่งนี้ ใช้ถ่ายละครของดาราวิดีโอ หลายเรื่อง บ้านทรายทอง ดวงตาสวรรค์  อีสา คู่กรรม และที่เราคุ้นที่สุดคือ เคหาสน์สีแดงค่ะ อิอิ สวยงามมากเลย  อ้อ ส่วนใหญ่ที่สังเกต คือจะใช้ถ่ายละครพีเรียดค่ะ ) จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 นริศรา ธรรมกามี เป็น รุจีประภา (คนต่อมานี่คือ แหม่มค่ะ เป็นน้องอ่อน ที่น่ารักมากที่สุด บทน้องอ่อนนี่พี่แหม่มเล่นได้ดีมากเลยค่ะ ถ่ายกับพี่ชาญค่ะ น่ารักจังเลย) จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต่อมาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังค่ะ คุณปราณประมูล กับ คุณใหญ่ พันธุ์เมธางค์ จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยดู ๆๆๆๆๆ จำได้ว่าเด็กมากๆเลยอ่ะแต่เพลงยังติดหูเราอยู่เลย ชอบๆ จากคุณ : asita - [ 11 ก.ย. 51 22:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ มณฑิภา โกมลทัต ธุรกิจกองถ่ายของกองละคร ตำรับรัก ช่อง 7 ค่ะ คุณมณฑิภา ทำหน้าที่ ธุรกิจกองถ่ายหลายเรื่องนะคะ เคหาสน์สีแดง เมียหลวง (2532) แล้วก็ถ้าจำไม่ผิด อุบัติเหตุ (สิเรียม) มีหน้าที่ นัดนักแสดง ให้มาตรงเวลา แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 22:30:04 จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คิดถึงเรื่องนี้มาก ๆ เหมือนกัน   เลอะเลือนจนจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร  อยากให้มาสร้างใหม่จังเลย......    อีกเรื่องที่คิดถึง  "พี่เลี้ยง"  ชอบมาก ๆ เอามาทำใหม่ทีสิ    ใครมีรูปรบกวนลงให้หายคิดถึงทีน้า....... จากคุณ : วันวานรำลึก (น้ำท่วมหลังเป็ด) - [ 11 ก.ย. 51 22:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบเหมือนกันค่ะ รักละครเรื่องนี้ที่สุดในชีวิตเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะได้มารับรู้เรื่องราวดีๆจากละครเรื่องนี้เลย ดีใจมากที่สุด ที่ได้ข้อมูลดีๆของละครเรื่องนี้มาค่ะ ^_^ ทำให้เรารักผลงานละครเก่าๆของดาราวิดีโอมากๆค่ะ ---------------------------------------------------------------- สุดท้ายขาดไม่ได้ คุณนพ มานพ สัมมาบัติ  ผู้กำกับการแสดงค่ะ (คุณมานพ เป็นผู้กำกับการแสดงที่เรานับถือมากค่ะ ชื่นชมในผลงานที่สุดเลย  ถือเป็นผู้กำกับในดวงใจเลยค่ะ เพราะทำให้เรา มีความสุขกับละครหลายเรื่อง ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนชื่อไป แต่ก็จะติดตามผลงานค่ะ ) จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/08/A5763096/A5763096.html ภาพจากละครบางส่วนค่ะ ที่พอหามาได้ค่ะ จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 22:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ที่จริงเราว่าจะตั้งกระทู้รำลึกเกี่ยวกับเรื่องตำรับรักอยู่ค่ะ แต่ว่าที่ทำข้อมูลไว้ยังขาดอีกเยอะมาก คือเรื่องย่อ ไม่มีเวลาทำเลยค่ะ คือว่ายังทำไม่เสร็จ ก็ไม่ขอลงแล้วกันนะคะ ขออภัย เลยกลายเป็นกระทู้รำลึกไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ค่ะ ^^ ** เอื้อเฟื้อข้อมูลและภาพถ่ายโดย คุณชาญ วรานุรังษี ขอบพระคุณมากค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 19:27:40 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 51 23:04:21 จากคุณ : kanomping - [ 11 ก.ย. 51 23:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามารำลึกความหลัง จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 11 ก.ย. 51 23:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คิดถึงคุณหนูเล็ก..คนแสนงอน คุณแต๊ว...ผู้น่ารัก น่าสงสาร กรี๊ดดด กี่ปีมาแล้วนี่ ตอนนั้นนอกจากจะกรี๊ดคุณประณตแล้ว เด็กๆ อย่างเราก็แอบชอบคุณใหญ่นะ ชอบคนนิสัยเกเร อิอิ จากคุณ : จิงดิ - [ 11 ก.ย. 51 23:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ค่ะ ติดใจคุณแต้วมาก ๆ ตอนนั้นยังเรียนประถมอยู่เลย ได้ดูไม่ประติประต่อ ตอนนี้พยายามหาเรื่องนี้ดูแต่ก็หาไม่ได้เลย จากคุณ : กล้วยไม้เที่ยงคืน - [ 11 ก.ย. 51 23:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามางอแง ว่าอยากดูค๊าาาาา   จากคุณ : panmile_pink - [ 12 ก.ย. 51 00:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จำได้แต่ฉากที่เขาวัง กับ ไตเติ้ลตอนที่นางเอกตอนเด็กวิ่งหางเปียสะบัดหันกลับมามองหน้าพระเอกค่ะ จากคุณ : kanapad - [ 12 ก.ย. 51 02:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จำได้เลือนลาง แต่รู้สึกเลยว่าชอบมากมากๆๆๆ ตอนนั้นเราพึ่ง 9 ขวบเอง 2532 ขอบคุณ  คุณ  kanomping   มากนะคะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 08:29:01 จากคุณ : wisunsaya - [ 12 ก.ย. 51 08:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ kanomping ดิฉันอยากให้กิฟท์คุณอีกนะคะ แต่หมดเกลี้ยงเลยคะ ขอโทษจริงๆๆ ถามต่อนิดนึง ตำรับรักอีกเวอร์ชั่น ใครแสดงคะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 09:05:41 จากคุณ : wisunsaya - [ 12 ก.ย. 51 08:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบมากๆๆๆเช่นกันค่ะ เรื่องนี้ อยู่ป.5  จำได้ว่า ต้องขอให้คุณแม่ยืมนิยายเรื่องนี้มาอ่านด้วย ชอบ คู่ พระนาง ทั้ง 2 คู่เลยค่ะ   ขอบคุณ จขกท มากนะคะ ที่เอาภาพ+ข้อมูลมาลงให้หายคิดถึง ^_________^ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 09:09:42 จากคุณ : pharcy - [ 12 ก.ย. 51 09:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สิเรียมน่ารักมาก ๆ ครับ ตอนนั้นผมเด็กมาก แต่ยังร้องเพลงประกอบได้จนจบเพลง เพลงเพราะจริง ๆ จากคุณ : 007 (panaratb) - [ 12 ก.ย. 51 09:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องนี้ติดมากๆๆตอนประมาณ ป4 ได้อ่ะ หนุกดีเนอะๆๆ จากคุณ : JadE_G - [ 12 ก.ย. 51 09:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ คุณkanompingมากคะ ชอบจัง รูปและละครเก่า คลาสสิคดีคะ จากคุณ : หญิงจัน - [ 12 ก.ย. 51 09:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เอารายชื่อนักแสดง จากละครตำรับรัก ทางช่อง 3 มาให้ดูค่ะ เรื่อง ตำรับรัก (ช่อง 3) บทประพันธ์  ชูวงศ์ ฉายะจินดา บทโทรทัศน์  เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์ กำกับการแสดง สรวงสุดา ชลลัมพี ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี จำกัด ออกอากาศ ปี 2542 รายชื่อนักแสดง 1. วรรธนะ กัมทรทิพย์  เป็น ประณต 2. พรชิตา ณ สงขลา เป็น บังอรสุวรรณี 3. ธีระศักดิ์ พันธุจริยา เป็น ประภาส 4. พรวิภา ปฐมากินันท์ เป็น ฉมชบา 5. ตระการ พันธุมเลิศ เป็น ศุกลวัณณ์ 6. ดุสิตา อนุชิตชาญชัย เป็น กระเช้ารัตน์ 7. สุนทรี ( ไม่ทราบชื่อ) 8. โชคชัย เจริญสุข เป็น พันธุ์เมธางค์ 9. ปรางวลัย เทพสาทร เป็น สอางค์อัปสร 10. กีรติ เทพธัญญ์ เป็น บรรเลง 11. สุเชาว์ พงษ์วิไล เป็น พระยาพิษณุเสนา 12. วรรณเลขา ชาญเลขา เป็น รุจีประภา 13. สันทิศ (ไม่ทราบชื่อ) 14. พิณ (ไม่ทราบชื่อ) 15. ธัญญารัตน์ โลหะนันท์ เป็น แม่ไภษัติย์ 16. อภิชาติ หาลำจียก เป็น คุณเนตร 17. อดุลย์ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็น พระยาบริรักษ์สกลเขต 18. รสริน จันทรา เป็น แม่วรรณ 19. ดวงใจ หทัยกาญจน์ เป็น ปารวดี 20. นิออน อิศรา เป็น ลูซี่ 21. กิตติพันธุ์ พุ่มสุโข เป็น ไภษัตย์ 22. อัจฉรา ทองเทพ เป็น แหวน 23. สมยศ เปรมอนันต์ เป็น พ่อกระเช้า** (นักแสดงคนเดียวกับ ปี 2532) 24. พิราวรรณ ประสพศาสตร์ เป็น ตลับ 25. ไพโรจน์ ใจสิงห์ เป็น พ่อคุณแต้ว 26. ปทุมวดี โสภาพรรณ เป็น แม่กระเช้า 27. วิศิษฐ์ ยุติยงศ์ เป็น แย้ม 28. อรสา พรหมประทาน เป็นน้าพรรณ *** ในเวอร์ชั่นนี้ ไม่มีตัวละคร คุณหนูเล็กกับคุณแต้วตอนเด็กค่ะ รู้สึกในละครจะใช้นักแสดงรุ่นเดียว คือตอนโตเลย คือ คุณเบ็นซ์ พรชิตา ณ สงขลา และคุณพรวิภา ปฐมากินันท์ *** ต้องขออภัยอย่างมากค่ะ คือว่า ตัวละคร สุนทรี กับสันทิศ นั้นในเวอร์ชั่นนี้ กล่าวถึงนะคะ แต่ว่าดิฉันไม่ทราบขื่อนักแสดงค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 20:57:46 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 10:28:58 จากคุณ : kanomping - [ 12 ก.ย. 51 10:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คิดถึงๆ ละครสมัยเด็ก^^ จากคุณ : ~SeaSandStar~ - [ 12 ก.ย. 51 10:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จำได้แต่ฉากที่เขาวัง กับ ไตเติ้ลตอนที่นางเอกตอนเด็กวิ่งหางเปียสะบัดหันกลับมามองหน้าพระเอกค่ะ จากคุณ : kanapad    - [ 12 ก.ย. 51 02:34:24 ] ฉากนี้เป็นวันฉากเปิดกล้องค่ะ ถ่ายทำที่จวนผู้ว่า ฯจังหวัดนครปฐมค่ะ ที่พระเอกขี่จักรยาน แล้ว นางเอกตอนเด็กวิ่งน่ะค่ะ ที่จริงเราเขียนบันทึกเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ไว้นะคะ อยากให้อ่านเหมือนกัน แต่เขิลๆค่ะ แหะๆ เราเล่าเรื่องไม่เก่งเท่าไหร่ด้วย แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 13:27:40 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 12:05:13 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 12:00:28 จากคุณ : kanomping - [ 12 ก.ย. 51 11:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคุณ kanomping อีกครั้งนะคะ จากคุณ : wisunsaya - [ 12 ก.ย. 51 12:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ คุณ kanomping มากค่ะ ดารารวิดีโอสมัยก่อนมันขลังจริงๆนะ จากคุณ : หางเปีย หูหมา - [ 12 ก.ย. 51 12:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น่ารักจังเลยค่ะ  เราก็เป็นแฟนละครพี่แอนสิเรียม  เราชอบพี่แอน-พี่บดินทร์ ดุ๊ก เล่นคู่กันน่ารักจริงๆ  เดี๋ยวต้องไปหามาดูซะแล้ว  2532 เรายังอยู่ประถมอยู่เลย  จำได้ว่าติดมากๆ จากคุณ : อุลตร้าซอรัส - [ 13 ก.ย. 51 04:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น่ารักจังเลยค่ะ  เราก็เป็นแฟนละครพี่แอนสิเรียม  เราชอบพี่แอน-พี่บดินทร์ ดุ๊ก เล่นคู่กันน่ารักจริงๆ  เดี๋ยวต้องไปหามาดูซะแล้ว  2532 เรายังอยู่ประถมอยู่เลย  จำได้ว่าติดมากๆ จากคุณ : อุลตร้าซอรัส   - [ 13 ก.ย. 51 04:47:07 ]   ------------------------------------------------------------------ เห็นด้วยค่ะ เราชอบ พี่แอนสิเรียมแสดงกับ พี่บดินทร์ ดุ๊กที่สุดเลยค่ะ เราว่าเข้ากันดีค่ะ เคยอ่านสัมภาษณ์สมัยพี่แอน แสดงทวิภพค่ะ * นับตั้งแต่เล่นหนังเล่นละครมาผ่านพระเอกมากี่คน แอน - เรื่องแรกก็บดินทร์ ดุ๊ก เรื่องตำรับรักต่อมาก็อุบัติเหตคู่กับลิขิต แล้วก็มาบดิทนทร์ ดุ๊ก เรื่องปีศาจแสนกล แล้วก็อนันต์ ความรักของคุณฉุย แม่หญิง พี่แซม ยุรนันท์ และโอ วรุฒ เรื่อง ละอองดาว แล้วก็พี่ตั้วเรื่องนี้(ทวิภพ) อ้อ พี่เบิร์ดด้วยในวันนี้ที่รอคอย เกือบลืม แล้วก็มีหนังใหญ่พี่หนุ่ม สันติสุข เรื่อง กอดคอกันแหวว และก็ ศตวรรษ เรื่องวิมานมะพร้าว อ้อ บิลลี่อีกคนทั้งหมดก็ 10 คนพอดี ( พี่แอน สิเรียม เคยเล่นละคร เรื่อง แต่งกับงาน กับพี่บิลลี่ค่ะ เรื่องนี้ฉายปี 2531หรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ คุณมานพ สัมมาบัติ กำกับการแสดง) * บทบาทพระเอกคนไหนเด็ดสุด แอน -  อย่างพี่เอ อนันต์ กับโอนี่ใกล้เคียงกัน ตลก " แอนคิดว่าดุ๊กนี่แหละเป็นพระเอกที่ไม่มีปัญหาเลย เล่นกันได้" ตอนเล่นกับเจค ศตวรรษ เค้ายังหน้าใหม่อยู่ พระเอกคนอื่นเค้าก็เซียนมาแล้ว ตอนนั้นบทเจคค่อนข้างยาก ผู้กำกับค่อนข้างดุ เจคก็จะโดนเคี่ยวที่สุดเลย ไม่มีบรรยากาศรื่นเริงในกองถ่าย ส่วนใหญ่จะเครียด มันยากด้วย บิลลี่นี่ก็เหมือนเล่นกับพี่ชาย เค้าไม่ค่อยสอน เล่นไปเรื่อยๆ ส่วนพี่แซมนี่สุดยอดในระดับหนึ่ง อ่านบทแป๊บเดียวจำได้แล้ว ที่มา : หนังสือเฉพาะกิจมาตรฐานข่าวสด ทวิภพ หน้า 28 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 51 09:24:22 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 51 08:53:46 จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 08:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีค่ะ เพื่อนๆที่อ่านกระทู้ตำรับรัก เราขอนำเรื่องย่อมาลงให้อ่านแล้วกันนะคะ แต่เรายังทำไม่เสร็จหรอกค่ะ อุตส่าห์ทำเอาไว้ เลยคิดว่านำมาลงสักหน่อยคงจะดี เผื่อใครอยากทราบน่ะค่ะ แต่เรายังทำไม่เสร็จนะคะ ขออภัย ^^ เราเขียนเรื่องย่อ ยาวหน่อยค่ะ เพราะคิดว่าอยากใส่ชื่อตัวละครให้ครบ จะได้ทราบว่า ใครแสดงเป็นใครบ้าง แต่ว่าตัวละครเยอะมากค่ะ เลยยังทำไม่เสร็จสักที ขอโทษนะคะ ^_^ ----------------------------------------------------------- เรื่องย่อ ตำรับรัก ที่เมืองเพชรบุรี ประภาสไปเที่ยวงานลอยกระทงกับประณตและกระเช้ารัตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา ระหว่างที่พายเรือกลับบ้านประภาสพบกระทงใบหนึ่งลอยมา ในกระทงมีตุ๊กตาตัวเล็กน่ารัก 1 ตัวและมี ธนบัตรใบละสิบบาท 1ใบ เขาเก็บตุ๊กตาตัวนั้นไว้ และให้เงินสิบบาทกับกระเช้ารัตน์ เมื่อถึงบ้านเขาหยิบตุ๊กตาตัวน้อยขึ้นพิจรณาและเกิดความคิดว่าตุ๊กตาตัวนี้เป็นของใคร และในที่สุดเขาก็หลับไป ในฝันประภาสพบเด็กหญิงคนหนึ่งยืนส่งยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก เมื่อตื่นเช้ามาประภาสเกิดทะเลาะกับนายแย้มพ่อเลี้ยงของเขาเป็นการใหญ่ เพราะประภาสหนีไปเที่ยวงานลอยกระทงโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงไม่มีคนซื้อเหล้าให้พ่อดื่ม ทำให้นายแย้มโกรธมาก ด่าทอประภาสและทุบตีเขาอย่างรุนแรง นางพิณผู้เป็นแม่ทนไม่ได้จึงบอกให้ประภาสหนีไป ประภาสหนีออกจากบ้านด้วยสภาพบอบช้ำทางกายอย่างสาหัส  การหนีออกจากบ้านทำให้เขาได้พบคุณแต้ว ลูกสาวท่านข้าหลวงเด็กหญิงมีอายุ 10 ขวบ  ก่อนที่เขาจะหมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นประภาสพบว่าคุณแต้วอยู่กับเขา เด็กหญิงปรนนิบัติดูแลประภาสอย่างดี ทำให้ประภาสประทับใจในความมีน้ำใจของคุณแต้วมาก และเมื่อได้คุยกับคุณแต้วทำให้ประภาสได้รู้ว่าตุ๊กตาในกระทงที่เขาพบวันนั้นเป็นของเธอนั่นเอง มื่อท่านข้าหลวงได้พบกับประภาส ท่านข้าหลวงเกิดความประทับใจในตัวของประภาสมากเพราะประภาสเป็นเด็กเรียนหนังสือเก่ง มีความซื่อสัตย์ นางพิณแม่ของประภาสจึงยกลูกชายใหกับท่านข้าหลวงเพราะคิดว่าถ้าประภาสยังอยู่กับนางต่อไปคงไม่มีทางเจริญก้าวหน้าแน่นอน ท่านข้าหลวงก็ยินดีรับประภาสเป็นบุตรบุญธรรมด้วยความเต็มใจ วันหนึ่ง ประณต กับ ประภาส ไปที่บ้านกระเช้ารัตน์ เพื่อชวนเธอไปเที่ยวเขาวัง และประภาสก็ได้บอกกับประณตด้วยว่าเขาจะต้องไปเรียนแพทย์ต่อที่กรุงเทพ ประณตนั้นดีใจกับเพื่อนด้วย  เขาคิดว่าวันหนึ่งเขาอาจจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพบ้าง เพราะสนใจเรียนด้านอักษรศาตร์ จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วันที่ไปเที่ยวเขาวังมีประณต กระเช้ารัตน์ และประภาสซึ่งทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆและเด็กๆทุกคน การมาเที่ยวครั้งนี้ทำให้ประณตได้รู้จักกับบุตรธิดาทั้งห้าของพระยาพิษณุเสนา  ซึ่งประกอบด้วย พี่ต้น มีชื่อจริงว่าศุกลวัณณ์  คุณใหญ่(พันธุ์เมธางค์)  คุณกลาง(สอางอัปสร) คุณหนูเล็ก(บังอรสุวรรณี) และน้องอ่อน (รุจีประภา)  ฝ่ายท่านข้าหลวงจึงแนะนำให้ บุตรธิดาทั้ง 2 คนของเขา คือประภาส และฉมชบา (คุณแต้ว) รู้จักกับบุตรธิดาของพระยาพิษณุเสนาด้วย ประณตไม่ค่อยถูกชะตากับคุณหนูเล็กเพราะเธอมีทีท่าไม่เป็นมิตรกับเขาเลย เมื่อเด็กๆทั้งหมดได้มีโอกาสคุยและทำความรู้จักกันทำให้ประณตสังเกตเห็นความแตกต่างทั้งรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณของพี่น้องทั้งห้าคน  เขาแปลกใจมากกับคำยกย่องที่ใช้เรียกระหว่างบรรดาพี่น้องทั้งห้าคน เมื่อสอางอัปสรบอกให้พี่ต้นกับคุณพี่ใหญ่ช่วยเล่าเรื่องสนุกๆให้ฟัง ประณตคิดว่า ทำไมคุณกลางเรียก พี่ต้น และเรียกคุณใหญ่ว่า คุณพี่ใหญ่   ในขณะเดียวกัน บรรดาลูกๆของพระยาพิษณุเสนาก็ประหลาดใจกับคำเรียกระหว่างพี่น้องของประภาสกับคุณแต้ว ประภาส เรียกน้องว่าคุณแต้ว แต่ก็ทำให้ พี่น้องทั้งห้าคนอดหัวเราะและนึกถึงครอบครัวตัวเองไม่ได้ ทั้งนี้เพราะว่าประภาสเป็นบุตรบุญรรมของท่านข้าหลวง นั่นเอง เมื่อวันเวลาผ่านไปประภาสได้ไปศึกษาต่อในกรุงเทพ ส่วนประณตยังอยู่ที่เมืองเพชรซึ่งไม่มีใครทราบว่าประณตมีญาติพี่น้องหรือ ญาติผู้ใหญ่บ้างหรือไม่ เขาอาศัยอยู่กับ พ่อคือคุณเนตร และคุณปารวดีผู้เป็นแม่ ซึ่งดูลักษณะ รูปร่าง หน้าตาผิวพรรณดูเป็นผู้ดี ครั้นพอประณตถามพ่อว่า เขามีญาติๆบ้างมั้ยพ่อและแม่กับหลีกเลี่ยงที่จะตอบ  ทำให้ประณตน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาของตนเอง แต่คุณเนตรผู้เป็นบิดาได้บอกประณตว่า ตัวเขาก็เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล ขออย่าให้ประณตคิดมากเลย กระเช้ามาหาประณตที่บ้านเพื่อบอกเขาว่า หล่อนจะเข้ากรุงเทพไปอาศัยอยู่กับน้าพันซึ่งเป็นช่างตัดเสื้อ ประณตรู้สึกใจหายที่ต้องห่างจากคนรัก  ดังนั้นประณตจึงตั้งใจจะมาขออนุญาตพ่อกับแม่ไปเรียนต่อในกรุงเทพ แต่ยังไม่ทันที่ประณตจะขออนุญาต พ่อกับแม่ก็เป็นฝ่ายอนุญาตเขาก่อน ทำให้ประณตรู้สึกตื่นเต้นมาก ได้แต่เก็บความดีใจไว้ (คุณประณต กับแบ๊งก์สิบบาท เดี๋ยวหาดูได้ยากแล้วค่ะ) จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตำรับรัก (ต่อ) เวลาผ่านไปหลายปี บังอรสุวรรณีและฉมชบา(คุณแต้ว)เติบโตขึ้นและได้เข้าศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และวันนี้เป็นวันที่คุณประภาสจะกลับมาจากต่างประเทศหนูเล็กบอกกับแต้วว่าพี่ต้นจะเป็นคนพาเธอกับแต้วไปรับคุณประภาส ระหว่างรอพี่ต้นมารับ หนูเล็กได้ปรับทุกข์กับแต้วเพื่อนสนิทถึงบรรดาพี่น้องของเธอว่า พี่ต้นเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกับน้องๆ อย่างการจะมารับคุณประภาสวันนี้ พี่ต้นเป็นผู้รับอาสาเอง เพื่อความสบายของหนูเล็กกับแต้ว ทำให้คุณแต้วซึ้งน้ำใจพี่ต้นมากๆ ผิดกับคุณพี่ใหญ่ พี่ที่ไม่เคยมีน้ำใจกับน้องเลย แม้กระทั่งเจ้าคุณพ่อจะขอยืมรถไปใช้ทำธุระ พี่ใหญ่ก็ไม่อนุญาต เหตุผลก็คืออายชาวบ้านถ้าจะต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน ตัวเองเป็นถึงลูกท่านเจ้าพระยาการทำเช่นนี้คงไม่เหมาะ ส่วนคุณพี่กลางไม่ค่อยสนใจน้องๆเท่าไหร่ พี่กลางรักอยู่กับคุณอภิชัยซึ่งเป็นคนจีน ทำให้เจ้าคุณพ่อไม่ชอบนัก เพราะเจ้าคุณพ่อไม่อยากได้เขยและสะใภ้เป็นชาวต่างชาติ วันที่คุณอภิชัยส่งเถ้าแก่มาสู่ขอคุณพี่กลาง พอเจ้าคุณพ่อรู้ความจริง กลับไล่คุณอภิชัยและบรรดาผู้ใหญ่ฝ่ายคุณอภิชัยกลับไป พี่กลางถึงกับร้องไห้จนหมดสติ ส่วนน้องอ่อนนั้นอายุยังน้อยอยู่ในความดูแลของพี่ต้นและหนูเล็ก เมื่อถึงสนามบินดอนเมือง พี่ต้น หนูเล็ก และคุณแต้ว แวะรับประทานอาหารในร้านแห่งหนึ่งที่นี่เองทำให้ทั้ง 3 คนได้พบกับ ประณตอีกครั้ง ทั้ง 4คน รู้สึกดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง ประณตเรียนจบอัษรศาสตร์จุฬา และไปศึกษาต่อที่อังกฤจนจบ ทั้ง 4 คนคุยกันอย่างเป็นกันเอง  แต่คุณต้นก็สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของน้องสาวที่ดูนิ่งๆ วางท่าทีเงียบขรึมกับประณต ประณตเองเมื่อพบคุณหนูเล็กอีกครั้งเขารู้สึกประทับใจในความงามของคุณหนูเล็กมาก เมื่อได้พบกับประภาส คุณแต้วดีใจมากที่ได้พบพี่ชายอีกครั้งหลังจากที่เขาไปเรียนต่อหลายปี ประณตก็ทักทายเพื่อนเก่าอย่างเป็นกันเอง และประภาสได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักกับไภษัตย์เพื่อนของเขาที่รู้จักกันที่ต่างประเทศ  ไภษัตย์มีท่าทีสนใจคุณแต้วและคุณหนูเล็กจนออกนอกหน้า ทำให้ประภาสรู้สึกไม่พอใจ ขากลับพี่ต้นชวนประณตกลับด้วย เขาจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคุณหนูเล็กมากขึ้น แต่เขาก็ละอายใจมากที่นึกชอบพอคุณหนูเล็ก เพราะประณตมีกระเช้ารัตน์เป็นคนรักอยู่แล้ว จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตำรับรัก (ต่อ) ท่านข้าหลวงจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับประภาสที่กลับมาจากเมืองนอก พี่ต้นจึงอาสาเป็นคนขับรถพาบรรดาเพื่อนๆของคุณหนูเล็กและน้องอ่อนไปซื้อผ้าตัดเสื้อ เมื่อถึงร้านตัดเสื้อทุกๆคนจึงได้ทราบว่าเป็นร้านของน้าพันญาติของกระเช้า และทำให้คุณหนูเล็กได้พบกับกระเช้าคนรักของประณต หนูเล็กเงียบขรึมไป พี่ต้นรู้ว่าประณตกับคุณหนูเล็กมีใจให้กันจึงตัดสินใจว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยที่เขาจะเป็นฝ่ายดึงกระเช้ามาจากประณต เพื่อเปิดทางให้คุณประณตรักและเข้าใจกับคุณหนูเล็ก แม้ว่าเขาจะต้องทำให้คุณสุนทรีหญิงที่เขารักเสียใจ และทำให้สันทิศน้องชายสุนทรีเข้าใจผิด หรือแม้แต่คุณหนูเล็กก็ผิดหวังกับพี่ต้นมาก ที่พี่ชายของตนแย่งคนรักของประณต ที่พี่ต้นต้องทำเช่นนี้เพราะเขาทราบดีว่าประณตกับคุณหนูเล็กจะไม่มีวันลงเอยกันได้เลย ประณตนั้นมีฐานะด้อยกว่าคุณหนูเล็ก และอีกประการนึงประณตก็มีคนรักแล้วคือกระเช้า เมื่อถึงวันงานเลี้ยงต้อนรับประภาส พี่กลางได้ขอชุดที่หนูเล็กตัดไปใส่ พี่ต้นจึงต้องไปซื้อชุดใหม่ให้หนูเล็กใส่ หล่อนซึ้งน้ำใจพี่ต้นมาก ในงานหนูเล็กจึงโดดเด่นสวยงามเป็นที่ประทับใจกับผู้พบเห็นรวมทั้งประณตด้วย  วันหนึ่งประณตมาขอแต่งงานกับกระเช้า เพราะว่าเขาเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง ทั้งนี้เพราะเริ่มรักคุณหนูเล็กอย่างเต็มหัวใจ แต่กระเช้ากลับปฏิเสธ เพราะคุณต้นได้มอบแหวนเพชรเม็ดงามให้หล่อน กระเช้าจึงคิดการณ์ไกลว่า หากวันหนึ่งได้เป็นสะใภ้ตระกูลอมรคงมีสมบัติร่ำรวยมหาศาล เมื่อที่มหาวิทยาลัยมีงานพี่ต้นจึงบอกให้ประณตไปดูหนูเล็กแสดงละคร ประณตกับคุณหนูเล็กจึงได้มีโอกาสพบกันบ่อยขึ้น ส่วนพี่ต้นก็มีกระเช้าเป็นเงาตามตัว หนูเล็กไม่พอใจกับการกระทำของพี่ต้นแต่เธอก็ตำหนิไม่ได้เนื่องจากพี่ต้นเป็นพี่ชายที่เธอรักและเคารพ คุณแต้วมาหาพี่ประภาสที่เรือนสีเขียวของเขาซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับบ้านของคุณแต้ว  หล่อนพบคุณไภษัตย์ ซึ่งเขาสนใจเธอมาก แต่คุณแต้วให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน ประภาสมีความรู้สึกรักคุณแต้วในฐานะคนรัก แต่ไม่สามารถแสดงออกได้มาก เนื่องจากเขาเป็นบุตรบุญธรรมของพ่อแม่คุณแต้ว  เขาคิดว่าถ้าพ่อแม่คุณแต้วรู้ความจริงคงไม่เห็นด้วยแน่น่อน ประภาสจึงได้แต่เก็บความในใจไว้และแสดงความห่วงใยและหวังดีกับคุณแต้วเท่าที่จะทำได้ จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 บรรเลงเพื่อนชายที่หนูเล็กสนิทมากที่สุดเขาแอบหลงรักหนูเล็กมานาน วันหนึ่งเขาขอหนูเล็กแต่งงาน แต่เธอปฏิเสธทำให้บรรเลงอยากรู้ว่าหนูเล็กรักใคร และเขาก็ได้รู้ว่าผู้ชายที่คุณหนูเล็กรักคือประณต บรรเลงเสียใจแต่ก็ยอมหลีกทางให้เพราะประณตเป็นคนดี ส่วนเขาเมื่อเห็นว่าน้องอ่อนหวังดีและแอบชอบพอเขาอยู่ บรรเลงจึงเปลี่ยใจมารักกับน้องอ่อน ประณตได้พูดคุยกับคุณหนูเล็กเขาถามว่าระหว่างคนรวยมีสมบัติมากมาย กับคนที่มีแต่ตัวเท่านั้นเธอจะเลือกรักใคร หนูเล็กบอกว่าเธอจะเลือกคนที่เธอรักแม้ว่าคนนั้นจะไม่ร่ำรวยก็ตาม ประณตรู้สึกดีใจมากๆที่ได้ยินคำตอบนี้จากเธอ คุณอภิชัยเขียนจดหมายมาบอกสอางอัปสรว่าผู้ใหญ่จะจัดการให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจึงอยากให้คุณกลางเจรจาตกลงกับเจ้าคุณพ่อให้รู้เรื่องว่าจะยอมให้เขาแต่งงานกับคุณกลางหรือไม่ สอางอัปสรอึดอัดใจมาก  แต่หล่อนตัดสินใจคุยกับเจ้าคุณพ่อ ว่าหล่อนรักคุณอภิชัยและอยากแต่งงานกับเขา เจ้าคุณพ่อได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก ถึงกับตบหน้าคุณกลางอย่างแรง สอางอัปสรตกใจและเสียใจจึงนำเรื่องมาปรึกษากับแม่วรรณ แต่แม่วรรณก็ช่วยอะไรไม่ได้ หล่อนได้แต่เห็นใจคุณกลาง สอางค์อัปสรเสียใจอย่างหนัก หล่อนไม่รู้จะพึ่งใครได้อีก จึงตัดสินใจกระโดดน้ำตายในบ่อหลังบ้านเช้าวันรุ่งขึ้น แม่วรรณกับน้องอ่อนมาพบศพ จึงโทรศัพท์แจ้งเรื่องให้แก่เพื่อนๆพี่กลางทราบ รวมถึงประณต กระเช้ารัตน์  ประภาส และคุณแต้วด้วย การเสียชีวิตของคุณกลางครั้งนี้ทำให้ทุกคนโศกเศร้ามาก โดยเฉพาะเจ้าคุณพ่อ เพราะหลังจากที่เจ้าคุณพ่อตบหน้าคุณกลาง ก็เสียใจกับการกระทำของตัวเอง และให้น้องอ่อนไปตามพี่กลางมาพบ เพื่ออนุญาตให้แต่งงานกับคุณอภิชัย แต่คุณกลางก็มาจมน้ำเสียชีวิตไปก่อน ในงานศพของพี่กลางเจ้าพระยาบริรักษ์สกลเขตได้มาเป็นแขกในงานด้วย ท่านเป็นพี่ชายของพ่อของเจ้าพระยาพิษณุเสนา ดังนั้นพระยาบริรักษ์สกลเขตจึงมีศักดิ์เป็นคุณลุงของพระยาพิษณุเสนา ท่านมีอายุราวๆ 80ปี การมาร่วมงานของท่านในครั้งนี้ ทำให้ท่านพบกับประณต ทำให้ท่านเกิดความสงสัยมากว่าประณตเป็นลูกหลานใคร เพราะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับประณต และคิดว่าประณตมีลักษณะคล้ายคนๆนึง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พระยาบริรักษ์สกลเขตได้สอบถามเรื่องราวของประณตกับพระยาพิษณุเสนาว่าเป็นใครมาจากไหนแต่ก็ไม่ได้ทราบคำตอบที่แน่ชัดเลย ทราบเพียงแค่ว่าเป็นเพื่อนของลูกๆมาช่วยงานพี่กลางเท่านั้น ประณตมาคุยกับกระเช้าเขาพูดว่าหากเขาจะแต่งงานกับคุณหนูเล็กก็ย่อมได้ เพราะเขากับกระเช้าไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว กระเช้าได้ยินดังนั้นก็รู้สึกวาบหวิว เมื่อรู้ว่าจะต้องสูญเสียคนรักไป  ประณตขอกระเช้าแต่งงานอีกครั้งหล่อนก็ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า หล่อนเป็นคนจนมาก่อน ดังนั้นหล่อนจะไม่แต่งงานกับคนจนอีกเด็ดขาด กระเช้าบอกประณตว่าหล่อนจะแต่งงานงานกับคุณต้น พอได้สมบัติจากคุณต้นก็จะขอหย่ากับเขา และมาแต่งงานกับประณต ทำให้เขาโกรธมากถึงกับผลักกระเช้าล้มลงประณตจึงพาหล่อนมาคุยให้ห้องพัก  แต่หล่อนแสร้งทำมารยาให้ประณตเข้ามาใกล้ชิด เมื่อประณตรู้ตัวว่าหลงกล เขาก็รีบเดินหนีไป กระเช้าคิดว่าหล่อนต้องเอาชนะประณตให้ได้ คุณนายตลับคุยกับท่านข้าหลวงถึงประภาสว่า เขามาจับมือคุณแต้วนับว่าเป็นกิริยาไม่เหมาะสมคุณนายว่าประภาสไม่รู้จักบุญคุณที่อุตส่าห์ชุบเลี้ยงเขามา แต่ประภาสจะมารักคุณแต้ว เพื่อจะได้ครอบครองสมบัติของคุณแต้ว ประภาสเดินมาได้ยินพอดี เขากราบขอโทษ บิดามารดาเลี้ยง และบอกว่าเขาจะย้ายไปอยู่บ้านพักที่กรมชลประทาน คุณแต้วใจเสียแต่ก็ต้องยอมให้ประภาสไปพักที่อื่น พี่ต้นบอกกระเช้าว่าเขาและน้องอ่อนไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกทั้งหมดจากเจ้าคุณพ่อ เนื่องจากเขาเป็นลูกแม่วรรณซึ่งมีฐานะเป็นเมียบ่าว คนที่จะได้สมบัติทั้งหมดคือคุณหนูเล็ก ทำให้กระเช้ารู้สึก อิจฉาประณตลึกๆเพราะหล่อนคิดว่าหากใครได้แต่งงานกับคุณหนูเล็กคงจะได้สมบัติมากมายมหาศาลทีเดียว แหวนซึ่งเคยเป็นเพื่อนกับกระเช้า ประภาส และประณต มาหาคุณแต้วที่บ้านตามคำสั่งของไภษัตย์ เพื่อให้แหวนมาบอกคุณแต้วว่า ประภาสเป็นพ่อของลูกหล่อน แหวนเล่าให้คุณแต้วฟังว่า หล่อนรู้จักกับประภาส และ เมื่อหล่อนท้อง ประภาสก็เดินทางไปเมืองนอก พอคลอดลูก แหวนก็เลี้ยงลูกเองมาตลอด เมื่อคุณแต้วได้ยินดังนั้นก็เสียใจมากหล่อนไม่คิดว่าพี่ประภาสของหล่อนจะเป็นคนไม่รับผิดชอบ แหวนเองก็รู้สึกไม่ดีที่โกหกคุณแต้วทั้งที่จริงแล้ว ภูษิตคือลูกของหล่อนกับไภษัตย์ แต่หล่อนทำไปเพราะไภษัตย์บอกว่า ถ้าหล่อนทำให้คุณแต้วมาแต่งงานกับเขาได้ เขาจะยอมรับภูษิตเป็นลูกของเขา แหวนจึงต้องทำเพราะหล่อนอยากให้ภูษิตมีพ่อ จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตำรับรัก (ต่อ) เมื่อเวลาผ่านไปคุณหนูเล็กกับคุณแต้วต่างก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ดังนั้นเจ้าคุณพ่อจึงอยากให้คุณหนูเล็กแต่งงานมีครอบครัว เจ้าคุณพ่อจะได้หมดห่วง วันหนึ่งขณะที่พระยาพิษณุเสนานอนพักในห้องเพราะป่วยด้วยโรคหัวใจซึ่งมีคุณหนูเล็กคอยดูแล เจ้าคุณพ่อบอกคุณหนูเล็กว่า อยากให้คุณหนูเล็กแต่งงานออกเรือนไปกับคนที่หนูเล็กรัก จะเป็นใครก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนไทย คุณหนูเล็ก รับปาก เจ้าคุณพ่อจึงแนะนำว่า บรรเลงเป็นคนดี แต่หนูเล็กปฎิเสธ หล่อนบอกว่าหล่อนไม่ได้รักบรรเลง น้องอ่อนต่างหากรักบรรเลง เจ้าคุณพ่อเลยหมดห่วงน้องอ่อนไปอีกคน เจ้าพระยาพิษณุเสนาจึงถามถึงประณตว่า ประณต นามสกุลอะไร หนูเล็กบอกกว่า นามสกุล ปริวรรตกุล เจ้าคุณพ่อคลับค้ลายคลับคลาเหมือนรู้จัก แต่ก็เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบทันที จึงให้คุณหนูเล็กตาม คุณใหญ่ พี่ต้น และน้องอ่อนมาพบ คุณหนูเล็กรีบไปตามทุกคนทันทีด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อพบคุณพี่ใหญ่หนูเล็กบอกเขาว่า เจ้าคุณพ่ออาการไม่ดีแล้ว ต้องการพบพี่ใหญ่ แต่คุณใหญ่ไม่สนใจ เขากำลังเก็บของเพื่อไปอยู่กับลูซี่คนรักของเขาที่อังกฤษ คุณใหญ่ให้เหตุผลว่า เจ้าคุณพ่อตัดเขาออกจากกองมรดกแล้ว ดังนั้นก็นับว่าไม่ใช่พ่อลูกกันอีก พี่ต้น น้องอ่อนและคุณหนูเล็กพยายามทัดทานอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แม่วรรณจึงแนะนำว่า ให้ไปบอกเจ้าคุณพ่อว่าคุณพี่ใหญ่ยังไม่กลับก็แล้วกัน เมื่อทุกคนมาที่ห้องก็พบว่าเจ้าคุณพ่อที่รักของลูกเสียชีวิตแล้ว ยังความโศกเศร้าให้กับแม่วรรณ และลูกๆทุกคน ทางบ้านอมราเวศม์โทรศัพท์มาแจ้งข่าวเรื่องพระยาพิษณุเสนาสิ้นชีวิตให้ที่บ้านฉมชบาทราบ คุณแต้วถึงกับตกใจ ซึ่งระหว่างนั้นหล่อนกำลังทำพิธีหมั้นกับไภษัตย์อยู่ คุณแต้วจึงรีบมาที่บ้านคุณหนูเล็กอย่างเร่งด่วน เมื่อคุณแต้วมาถึงหล่อนปลอบใจคุณหนูเล็กว่า การตายเป็นเรื่องธรรมชาติ ทำใจเถอะ อย่าคิดมาก เมื่อมีการทำบุญงานศพของพระยาพิษณุเสนา ประณตจึงกลายเป็นแขกประจำของบ้านอมราเวศม์ ความอ่อนน้อมถ่อมตนและมีสัมมาคารวะของประณตทำให้คุณวรรณเอ็นดูเขาไม่น้อย เมื่อพบหน้าคุณประณตครั้งใดคุณวรรณก็รู้สึกเหมือว่าเคยพบเขามาก่อนแต่ไม่ทราบว่าที่ไหน วันหนึ่งเมื่อคุณวรรณจัดของในห้องของสามี ทำให้คุณวรรณพบ รูปถ่ายของพระยาบริรักษ์สกลเขตซึ่งมีลักษณะเหมือนกับคุณประณตมาก คุณวรรณได้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อหลายปีมาแล้ว จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อคุณวรรณยังเล็กหล่อนได้เข้ามาอยู่ในบ้าน อมรเวศม์ ตอนนั้นเจ้าพระยาพิษณุเสนายังหนุ่ม และหล่อนได้เติบโตขึ้นพร้อมกับรรดาพี่น้องของท่านเจ้าพระยาพิษณุเสนา และนานวันเข้าจึงเกิดเป็นความรัก คุณวรรณจึงยอมมอบกายให้กับท่านเจ้าพระยาฯ แต่วันหนึ่งคุณวรรณก็ต้องตกใจเมื่อได้ข่าวว่า ท่านเจ้าพระยาฯจะต้องแต่งงานกับคุณปารวดีซึ่งเป็นลูกสาวของท่านเจ้าพระยาบริรักษ์สกลเขต  ซึ่งคุณวรรณก็รู้จักสนิทสนมคุณปารวดีเป็นอย่างดี  แต่เจ้าพระยาพิษณุเสนาไม่ได้รักคุณปารวดี คุณปารวดีเองก็ไม่ได้มีใจให้เขา คุณวรรณจึงไปคุยกับคุณปารวดี สองต่อสอง ปารวดีบอกคุณวรรณว่าหล่อนมีคนรัก ชื่อคุณเนตร ปริวรรตกุล ซึ่งเป็นหลานของคุณหญิงบริรักษ์ฯแต่ผู้ใหญ่ขัดขวาง  คุณวรรณคิดว่าคุณปารวดีก็มีอุปสรรคเรื่องความรักเหมือนกันกับหล่อน เมื่อถึงวันแต่งงานของคุณปารวดีกับคุณเนตร ก็ไม่มีใครพบสองหนุ่มสาวเลย ท่านเจ้าพระยาบริรักษ์สกลเขตได้ส่งคนออกตามหาแต่ก็ไม่พบ คุณวรรณ ลาออกจากบ้านอมราเวศม์ไปอาศัยอยู่บ้านญาติ ซึ่งขณะนั้นหล่อนกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เจ้าพระยาพิษณุเสนาได้อยู่กินกับภรรยาคนใหญ่ของเขาอย่างซื่อสัตย์ กระทั่งคุณหญิงพิษณุฯเสียชีวิตและทิ้งลูก ทั้งสามให้อยู่ในความปกครองของเขา คือ พันธุ์เมธางค์ สอางอัปสร บังอรสุวรรณี เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าพระยาพิษณุเสนา จึงไปรับคุณวรรณภรรยาเก่า และบุตรชายคนโต ศุกลวัณณ์  กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย จากนั้นรุจีประภาลูกสาวคนเล็กก็เกิดในปีแรกที่คุณวรรณกลับมาบ้านอมราเวศม์ ความลับไม่มีในโลกเมื่อคุณวรรณลำดับเรื่องราวต่างๆจนได้ความ หล่อนคิดว่าประณตคงเป็นหลานชายของพระยาบริรักษ์สกตเขตอย่างแน่นอนแต่หล่อนก็ไม่ได้บอกให้ใครทราบ เพราะเกรงว่าถ้าไม่เป็นความจริง มรดกทั้งหมดอาจตกไปอยู่กับคนอื่นได้ และพี่ต้นกับน้องอ่อนซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากหล่อนอาจไม่ได้สมบัติเลย คุณหนูเล็กมาที่บ้านคุณแต้ว เพื่อปรึกษาเรื่องของแหวน หนูเล็กบอกแต้วว่าให้ใจเย็นๆเรื่องที่แหวนพูดว่าภูษิตเป็นลูกของพี่ประภาสอาจไม่เป็นความจริงก็ได้ เมื่อแหวนมาที่บ้านคุณแต้ว หนูเล็กก็ซักถามแหวนเกี่ยวกับลูกชายของเธอ หนูเล็กถามแหวนว่า ลูกชายเกิดเมื่อไหร่ก่อนหรือหลังคุณประภาสไปนอก แหวนว่าเกิดก่อนคุณประภาสไปเมืองนอก หนูเล็กซักต่อ ว่าลูกชายกี่ขวบ แหวนว่า ขวบกว่าๆ หนูเล็กว่าแหวนคงจะจำผิด เพราะว่าพี่ประภาสไปนอก ประมาณ 2 ปี ลูกชายน่าจะอายุ 2ขวบกว่าๆ แหวนหน้าซีด และจนมุม เมื่อเห็นประภาสมาบ้านคุณแต้ว แหวนยิ่งตกใจและหน้าซีด ทำอะไรไม่ถูกทนความอับอายไม่ได้จึงเดินหนีไป และเมื่อหนูเล็กกับคุณแต้ว มาที่บ้านไภษัติย์ และได้พบกับแหวน คุณแต้วจึงทราบว่าแหวนอยู่กินกับคณไภษัตย์ คุณแต้วจึงถอนหมั้นทันที จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 15:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตำรับรัก (ต่อ) ประณตขอคุณหนูเล็กแต่งงาน คุณหนูเล็กตอบตกลง ดังนั้นงานหมั้นและงานแต่งงานของคุณหนูเล็กจึงถูกจัดขึ้นภายในงานมีญาติและเพื่อนพ้องมาร่วมงานกันมากมาย กระเช้าก็มาด้วย หล่อนรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นประณตกับคุณหนูเล็กมีความสุข จึงคิดวางแผนให้คุณหนูเล็กกับประณตเข้าใจผิดกันโดยการเขียนจดหมายฝากคนในงานเอามาให้ประณต ระหว่างที่กำลังรับแขกกับคุณหนูเล็ก ระหว่างนั้น ประณตขอตัวไปที่อื่น เมื่อมีคนนำจดหมายมาให้ซึ่ง คนนำมาให้บอกว่าให้คุณประณต คุณหนูเล็กจึงรับไว้ พี่ต้นบอกให้คุณหนูเล็กเปิดดูเผื่อว่าจะเป็นเงินที่นำว่าช่วยงานแต่งานก็ได้ เมื่อหนูเล็กเปิดอ่านจึงได้รู้ว่ากระเช้าเขียนถึงคุณประณต ใจความว่า ประณตมาหลอกแต่งงานกับคุณหนูเล็กเพื่อหวังสมบัติ พอได้สมบัติแล้วก็จะหย่ากับคุณหนูเล็กและมาแต่งงานกับกระเช้า ผู้หญิงที่ประณตรักที่สุด เมื่อคุณหนูเล็กอ่านจบก็เสียใจและโกรธประณตมาก หล่อนไม่คิดว่าประณตจะแต่งานกับเธอเพื่อหวังสมบัติ เมื่อประณตมาพบคุณหนูเล็กเขาก็เห็นว่าเธอมีอารมณ์เปลี่ยนไป เมื่อถามถึงสาเหตุคุณหนูเล็กให้ประณตอ่านจดหมายฉบับนั้น .... โปรดติดตามอ่านได้ในหนังสือตำรับรักนะคะ (ทำไว้เท่านี้ค่ะ ขออภัยคนอ่านจริงๆนะคะ ^^) จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 16:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องนี้ นังกระเช้า ได้เกิด กลายเป็นนางร้ายอันดับ 1 ของเมืองไทย จากคุณ : MaX FiRE - [ 13 ก.ย. 51 20:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เรื่องนี้ นังกระเช้า ได้เกิด กลายเป็นนางร้ายอันดับ 1 ของเมืองไทย จากคุณ : MaX FiRE     - [ 13 ก.ย. 51 20:17:47 ]   ---------------------------------------------------------------------- ละครเรื่องนี้ดังมากนะคะ เราเองก็ยังเด็ก ไม่ทราบเท่าไหร่ว่าดังแค่ไหน แต่ชอบมากๆค่ะ เดี๋ยวเราเอาบันทึกบางส่วนมาให้อ่านนะคะ จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 21:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ย้อนรำลึกสู่อดีตกับ ละครตำรับรัก(เวอร์ชั่น บดินทร์ดุ๊ก+สิเรียม)จากคำบอกเล่าของ คุณพันธ์เมธางค์ ( ทางโทรศัพท์) วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกดีวันหนึ่ง  วันนี้คือวันอังคารที่  26 ก.พ. 51 ฉันได้มีโอกาสคุยกับ พี่นักแสดงที่เคยแสดงเรื่องตำรับรัก  พี่ชาญแสดงเป็นคุณใหญ่(พันธุ์เมธางค์)  เราคุยกันถึงเรื่องราวในอดีตมากมาย ซึ่งเกี่ยวกับละครเรื่องนี้  พี่ชาญเล่าว่า ละครเรื่องนี้ เปิดกล้อง วันที่ 9 กรกฎาคม 32  เป็นละครที่ถ่ายไปออกอากาศไปตามสไตล์ ละครช่อง 7  ผู้กำกับ คือ คุณมานพ สัมมาบัติ บอกว่า ละครเรื่องนี้ต้องแป็กแน่ๆเลย เพราะว่าเป็นละครที่ขัดตาทัพ นำมาคั่นเวลาออกอากาศก่อนที่ละครฟอร์มใหญ่จะออกอากาศ ประมาณนี้ละมั้ง ตามความเข้าใจของฉัน แต่ละครกลับดังมากๆ เพราะพี่ชาญเล่าต่อว่า “ พี่นะ ขนาดปลาเค็มยังกินไม่ได้เลยอ่ะผิง”   พี่ชาญว่า เค้าไม่ขายให้ แม่ค้าบอกว่า “ กับพี่กับน้องทำไมใจร้ายขนาดนี้” ประมาณนี้  ฉันฟังแล้วก็นึกขำ แต่พี่ชาญบอกว่า คนสมัยก่อนเค้าจะอินกับละครมาก ไม่เหมือนคนสมัยนี้ที่เข้าใจอะไรมากขึ้น ว่ามันคือการแสดงพี่ชาญเล่าด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจเมื่อนึกถึงอดีต ละครเรื่องตำรับรัก ถ่ายไปออกอากาศไป ทำให้นักแสดงต้องอยู่ในกองถ่ายตลอด ฉันถามพี่ชาญว่า พี่ไม่เหนื่อยหรือ พี่ชาญบอกว่า ก็เหนื่อย แต่ถ้าเหนื่อยก็พัก บางทีเราก็ปูเสื่อนอน นั่งกันในกองถ่าย นักแสดงทุกคนนนี่เรียกว่า ห้ามป่วย ห้ามตายกันเลย  คราวนี้ฉันเลยถามเรื่องลักษณะการทำงานตามกองถ่ายละครว่าเป็นอย่างไร การทำงานช่อง 3 นี่คือ ลิมิตไม่เกินเที่ยงคืน แต่ถ้าช่อง 7 ถ่ายรื่อยๆ ไม่มีลิมิต พี่ชาญบอก ฉันดีใจมากที่ได้มีโอกาสคุยกับพี่ชาญนักแสดงในเรื่องตำรับรัก เพราะเป็นละครที่ฉันชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่งในอดีต พี่ชาญว่า พี่ดีใจกว่าอีก เพราะว่าตามหามานานหาไม่ได้เลย พี่เจอแต่เวอร์ชั่นช่อง 3  มันเป็นละครที่พี่อยากได้มากๆ พี่เค้าบอกว่า คนดูอาจจะดูแล้วก็ผ่านเลย แต่เราร่วมแสดงอยู่ในนั้น เรารับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในตอนนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่า เออ ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่รู้สึกว่าระลึกถึงอดีต และช่วงเวลาเหล่านั้น พี่ชาญเองก็รู้สึกด้วย  อาจจะมากกว่าฉันด้วยซ้ำเพราะมันเป็นตัวพี่เค้าเอง แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 51 21:03:55 จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 21:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ฉันเห็นพี่ชาญยังคุยเรื่อยๆ ฉันเลยถามพี่เค้าว่า” ทำไมคุณใหญ่ ดุจัง “พูดจาก็ไม่เพราะเลย ว่าน้องๆแรงๆ “ พี่ชาญบอกว่า ใช่ แรงแต่ก็ไม่หยาบ แล้วเค้าก็ไม่ดูดเสียงด้วย พี่ชาญเลยทำให้ฉันได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นคือ คุณแอ๊น (ปราณประมูล)ซึ่งเขียนบทละครเรื่องนี้จะเขียนให้กับตัวละครทุกตัว ยกเว้นคุณใหญ่จะให้ คุณเล็ก (ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์) เขียนให้ (ฉันคิด...มิน่าทำไมแรงขนาดนี้) เรายังคุยกันถึงนักแสดงในเรื่องหลายคน มีคนนึงที่ฉันอดถามไม่ได้ว่า เธอเป็นใคร เพราะชอบหน้าตาและการแสดงของเธอมาก จำได้ว่าคุ้นหน้าเธอมากตอนเด็กๆ “พี่ชาญคะ คนที่เล่นเป็นแม่วรรณนี่ใครเหรอคะ”ฉันถาม พี่ชาญบอกว่า เธอชื่อ ศิรินภา สว่างล้ำ หรือ พี่ต๋อย เป็นนางงามมาก่อน มิน่าล่ะ ฉันชอบเธอเพราะรู้สึกว่าเธอสวยมากๆ เล่นละครดีด้วย พี่ชาญเสิรมว่า พี่ต๋อยเคยบอกว่า จะไม่เล่นละครแล้วเพราะเล่นทีไรได้เล่นเป็นแม่ทุกทีเลย.. อิอิ ฉันถามพี่ชาญว่าพี่เจค ศตวรรษ เวลาไปทำงานไปสายหรือเปล่า พี่ชาญบอกว่า พี่เจคตรงต่อเวลานะ แต่ ได้ฉายาว่า “พระเอกร้อยเทค” ฉันหัวเราะ ถามว่า ทำไมเหรอคะ พี่ชาญบอกว่า พี่เจคเพิ่งได้ตำแหน่งโดม่อมแมนในปีนั้น เป็นละครเรื่องแรกของพี่เค้า เวลาแสดงไดอะล็อกจะยาวมากๆ พี่เจคจำไม่ค่อยได้  พอพูดได้ประโยคหนึ่งก็ต้องตัดต่อกันทีนึง เรียกว่าลำบากเหมือนกัน แล้วพี่ชาญเสิรมต่ออีกว่า จะมีมอเตอร์ไซด์มารอรับเทปที่กองถ่ายเลย เพื่อนำไปออกอากาศให้ทันเวลา อีกคนที่นึกถึงคือพี่จอย จามจุรี เชิดโฉม ซึ่งได้ข่าวว่าแฟนที่เค้าไม่ให้เล่นละครแล้ว ก็เลยไม่ได้เห็นหน้าพี่เค้าทางทีวีนานแล้ว พี่ชาญบอกว่า เวลาเจอพี่จอยเราดีใจกันจะตาย...ฉันว่าพี่เค้าคงคิดถึงกันนั่นเอง ผลงานพี่ชาญก็มีหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน พี่ชาญบอกว่า ประมาณปี 30 - 32  จะเล่นให้กับช่อง 7 มีเรื่องแต่งกับงาน (บิลลี่ + สิเรียม) เมียหลวง (ยุรนันท์ + ปรียานุช) ตำรับรัก เชลยศักดิ์ (รับเชิญ1ตอนเท่านั้น) ของกันตนา มี เรือนแรม ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน บ้านสอยดาว  จากนั้นก็มาเล่นให้ช่อง 3 เรื่องบ้านทรายทอง เป็นเพื่อนกับคุณพงษ์พัฒน์  แล้วก็ละครจักรๆวงศ์ๆ ของ คุณต้อย เศรษฐา ศิระฉายา จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 21:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ฉันถามพี่ชาญว่า ทำไมไม่รับงานละครอีก พี่ชาญว่า เดี๋ยวนี้มีเด็กรุ่นใหม่ๆเยอะแยะ บางคนอายุยังน้อยแต่ก็ได้เล่นบทแม่แล้ว แต่การรับบทแม่นี่ความจริงไม่ต้องใช้นักแสดงที่มีอายุมากก็ได้ เพราะขอให้มีความรู้สึกที่เป็นแม่ได้ก็พอ พี่ชาญแกว่าอย่างั้น แล้วแกก็คุยว่าถึงสมัยก่อนว่า “ พี่น่ะทันยุครุ่น ป๋า ส. (ส. อาสนะจินดา) แกไม่ได้สอนแค่การแสดงอย่างเดียวนะ แกสอนเรื่องการทำงาน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน และอะไรอีกหลายอย่าง ก่อนจะจากลากัน พี่ชาญพูดถึงเรื่องตำรับรักว่า พี่อยากได้เรื่องนี้  เพราะละครเรื่องนี้มีอะไรหลายอย่างที่น่าจดจำ  คือ ละครเรื่องแรกของ  พี่เจค ศตวรรษ พี่กุ้ง ตวงสิทธิ์   พี่ชาญบอกว่าฉันว่า “ผิงลองคิดดูสิ นักแสดงในเรื่องนี้ ปัจจุบันยังมีใครมีผลงานอยู่บ้าง แทบจะไม่มีเลย” จะมีก็แต่ คุณวิไลลักษณ์ ไวงาน ซึ่งยังคงมีงานละครอยู่บ้าง และ พี่เอ๋ ปิยะดา มีละครบ้างเล็กๆน้อยๆ นอกนั้นก็ไม่มีใครแสดงละครเลย อ้อ พี่เจค ศตวรรษก็ยังแสดงอยู่ด้วย พี่บดินทร์ ดุ๊กก็ไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกริก พี่แอน สิเรียมถึงแม้จะยังมีชื่อในวงการบันเทิงแต่เค้าก็ไม่ได้แสดงละครแล้ว พี่ต๋อย ศิรินภา ก็ไปเปิดร้านเพชรที่สยามพารากอน พี่จอยก็แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ก็จริงของพี่ชาญเค้านะ ฉันมานั่งคิดแล้วก็ใจหาย แต่ก็เข้าใจสัจธรรมของวงการบันเทิงบ้านเรามากขึ้น ฉันเคยได้ยินนักแสดง ดารา นักร้อง หลายคนพูดกันมากว่า งานในวงการมันเป็นงานระยะสั้น ไม่ยั่งยืน  เมื่อก่อนพวกพี่ๆนักแสดงเหล่านี้ เคยมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป 19ปี ชื่อของพวกพี่ๆแทบจะเลือนหายไปจากความทรงจำ บอกตรงๆฉันไม่คิดเลยว่าในชีวิตของฉัน จะมีโอกาสได้คุยกับนักแสดงรุ่นเก่าอย่างพี่ชาญ แล้วทำให้ฉันได้รับรู้เรื่องราวดีๆในอดีตเกี่ยวกับละครในดวงใจของฉัน ขอขอบคุณ พี่ชาญ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ปล 1. (ตอนแรกเราเข้าใจว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่นำมาขัดตาทัพละครฟอร์มยักษ์ค่ะ แต่พอได้คุยกับพี่ชาญอีกที พี่เค้าบอกว่า เป็นละครที่ไม่ได้ปั้น หมายความว่าช่วงนั้นยังไม่มีละครเรื่องใดออกอากาศเลย ทางสถานีเลยมอบหมายให้ดาราวิดีโอหยิบรื่องนี้มาทำ คงเป็นละครที่ไม่ได้เตรียมการล่ะมั้ง เรียกว่าเป็นละครจานด่วนก็คงจะไม่ผิด) ปล. 2 ดิฉันเขียนบันทึกเกี่ยวกับละครเรื่องนี้เพราะความชอบละครเรื่องนี้โดยแท้ค่ะ   ทำเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะคะ ถ้าเขียนอะไรพาดพิงถึงผู้อื่นโดยไม่เป็นการสมควร ขออภัย ณที่นี้ด้วยค่ะ ^^ *** ขออนุญาตแก้ไขข้อความค่ะ^^ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 51 12:34:31 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 51 21:47:12 จากคุณ : kanomping - [ 13 ก.ย. 51 21:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ละครเรื่องนี้เพลงเพราะ ภาพด้านบนนี่  สิเรียมสวยมาดๆ แบ๊วสุด จากคุณ : nokdeeka - [ 14 ก.ย. 51 03:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาเพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะ อาจจะช้าไปหน่อย ---------------------------------------------------- คุณชูวงศ์ ฉายะจินดาค่ะ ผู้ประพันธ์ เรื่องตำรับรัก ' พี่ชาญเล่าให้ฉันฟังว่า คนแต่งนิยายเรื่องนี้คือคุณชูวงศ์ เป็นผู้หญิงนะ เดี๋ยวจะคิดว่า ชื่อชูวงศ์ เป็นผู้ชาย ตอนที่เราถ่ายทำละครเรื่องนี้ เราได้ส่งละครบางตอนนำไปให้คุณชูวงศ์ได้ชม คุณชูวงศ์ บอกว่า ขอบคุณมากที่ทำให้ตัวละครในหนังสือนิยายของเขามีชีวิตขึ้นมา' บันทึกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.พ. 51 นี่เป็นข้อความจากบันทึกของฉันค่ะ เมื่อครั้งที่ได้คุยกับพี่ชาญ พี่เค้าเล่าถึงคุณชูวงศ์ ผู้ประพันธ์เรื่องตำรับรักให้ฟังด้วยค่ะ จากคุณ : kanomping - [ 5 ต.ค. 51 22:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ประวัตินักเขียน ชื่อ : ชูวงศ์ ฉายะจินดา ประวัติย่อ              ชูวงศ์ ฉายะจินดา เป็นทั้งชื่อ-นามสกุลจริงและนามปากกาซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ยังมีนามปากกาอื่น ๆ อีก คือ กล้วยไม้ ณ วังไพร , แก้วเจียระไน , กรทอง ทั้ง ๓ นามปากกาใช้เมื่อการเขียนนวนิยายในระยะแรก เทิดพงศ์ ใช้เมื่อเขียนเรื่องสั้น และ ชูวงศ์ ฉายะจินดา ใช้ในการเขียนนวนิยายจนถึงปัจจุบัน            ชูวงศ์ ฉายะจินดา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ เป็นบุตรคนสุดท้องในพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมดห้าคนของ คุณพระชาญบรรณกิจ (ถวิล ฉายะจินดา) อดีตรองอธิบดีกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลัง และ นางชาญบรรณกิจ (ช่วง ฉายะจินดา)                        ชูวงศ์ ฉายะจินดา อาศัยอยู่ที่เมืองเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย มากว่า ๒๕ ปี จนถึงปัจจุบัน มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ โชติรส           ชูวงศ์ ฉายะจินดา ได้รับการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนเล็ก ๆ ใกล้บ้านชื่อ "โรงเรียนสนิทราษฎร์บริบูรณ์" จากนั้นศึกษาที่โรงเรียนราชินี ถนนมหาราช เมื่อเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้น คุณพระชาญบรรณกิจ (ถวิล ฉายะจินดา) จึงได้อพยพครอบครัวไปหลบภัยที่ตำบลวัดแจ้งร้อน จึงได้เข้าเรียนหนังสือต่อที่ โรงเรียนวิสุทธิ์กษัตริย์ พระประแดงชั่วคราว เมื่อโรงเรียนราชินีอพยพไปเปิดสอนที่ตำบลผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชูวงศ์ ฉายะจินดา จึงกลับไปเรียนที่โรงเรียนราชินีตามเดิม พ.ศ. ๒๔๘๘ สงครามมหาเอเชียบูรพาสงบโรงเรียนจึงย้ายกลับกรุงเทพฯ ชูวงศ์ ฉายะจินดา เรียนจบชั้นมัธยมบริบูรณ์ (เตรียมอักษรศาสตร์) ปีที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐  จากนั้นเข้าเรียนที่ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต เคยได้รับรางวัลเหรียญเงินในวิชาสันสกฤต เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔                       ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับทุนรัฐบาลออสเตรเลีย ภายใต้แผนการโคลัมโบ ไปศึกษาต่อที่ University of Melbourne ณ เมืองเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย ในสาขาวิชาวาทศิลป์ (Rhetoric)           พ.ศ. ๒๔๙๕ เข้ารับราชการครูวิชาภาษาไทยที่โรงเรียนศิริศาสตร์ สี่พระยา (โรงเรียนศิริทรัพย์ในปัจจุบัน) ๑ ปี แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ดีจึงลาออ ต่อมาเข้ารับราชการครูที่โรงเรียนราชินี สอนอยู่ได้ไม่นานก็ป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ จึงลาออกจากอาชีพครูเข้ารับราชการที่กรมชลประทาน ในแผนกสารบรรณ นาน ๓ ปี                       พ.ศ. ๒๕๐๐ ชูวงศ์ ฉายะจินดา ได้กลับเข้ารับราชการครูอีกครั้งที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์           พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้เข้ารับราชการที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ในตำแหน่งอาจารย์แผนกวิชาภาษาไทย ที่นี่งานเขียนของ ชูวงศ์ ฉายะจินดา ปรากฏสู่สายตาผู้อ่านซึ่งเป็นนักเรียนและเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน โดยตีพิมพ์ลงในหนังสือที่ระลึกของโรงเรียนพร้อมๆ กับเขียนนวนิยายลงตีพิมพ์ในนิตยสารหลายฉบับ ต่อมาได้ลาออกมาประกอบอาชีพนักเขียนเพียงอย่างเดียว และได้ทำงานอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนสอนตัดผมและตัดเสื้อดาวรุ่งและเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ดาวสยามร่วมด้วย           ตั้งแต่สมัยชั้นมัธยมต้น ชูวงศ์ ฉายะจินดา สนใจวิชาเกี่ยวกับภาษาไทย โดยเฉพาะวิชาการเขียนเป็นพิเศษ ในช่วงแรกเริ่มจากหัดเขียนเรียงความ ต่อมาฝึกเขียนเรื่องสั้นไว้อ่านกันเองเฉพาะกลุ่ม เรื่องสั้นที่ได้เขียนมามีกว่า ๔๐ เรื่อง           นอกจากเขียนเรื่องของเธอแล้ว ชูวงศ์ ฉายะจินดา ยังชอบอ่านวรรณกรรมต่างประเทศ เธอจึงได้รับแรงบันดานใจจากการอ่านวรรณกรรมของ O.HENRY เรื่อง "THE DIAMOND OF KALI" เธอจึงได้แปลและเรียบเรียงขึ้นโดยใช้ชื่อว่า "เพชรของเจ้าแม่กาลี" นอกจากนี้เธอยังมีผลงานแปลออกมาอีกมากมาย           ชูวงศ์ ฉายะจินดา ได้รับเชิญให้ไปดูงานต่างประเทศหลายครั้ง จึงเกิดแรงบันดาลใจเขียนสารคดีเชิงท่องเที่ยวขึ้น ฉันรักสแกนดิเนเวีย เป็นสารคดีเชิงท่องเที่ยวเรื่องแรกเมื่อได้รับเชิญเป็นตัวแทนสตรีไทยไปดูงานที่ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ได้แก่ เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ นอกจากนี้ยังได้เขียนสารคดีเชิงท่องเที่ยวเรื่อง ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า เมื่อครั้งเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ร่วมกับเพื่อนนักเขียน ได้แก่ สุภัทร สวัสดิรักษ์ , อมราวดี , สุภาว์ เทวกุลฯ และสุวรรณี สุคนธา            ชูวงศ์ ฉายะจินดา เริ่มเขียนนวนิยายเมื่ออายุ ๓๐ ปี เมื่อนิตยสาร ศรีสัปดาห์ ได้เปิดสนามให้นักเขียนใหม่ได้ประลองฝีมือ โดยได้รับการสนับสนุนจาก มล.จิตติ นพวงศ์ บรรณาธิการนิตยสารศรีสัปดาห์ นวนิยายเรื่องแรกซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจจากการอ่านนวนิยายของ ดอกไม้สด คือ ตำรับรัก ขนาดยาว ๕๐ ตอน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ทำให้ชื่อ ชูวงศ์ ฉายะจินดา เป็นที่รู้จักของนักอ่านโดยทั่วไป เรื่องต่อมาคือ ม่านบังใจ นวนิยายทั้งสองเรื่องได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างสูง ชูวงศ์ ฉายะจินดา เขียนนวนิยายลงในนิตยสารอีกหลายฉบับ            ชูวงศ์ ฉายะจินดา มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะราชินีนวนิยายพาฝันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน                        ชูวงศ์ ฉายะจินดา หยุดเขียนนวนิยายนานเกือบ ๒๐ ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เมื่อเดินทางไปพำนักอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียพร้อมบุตรชาย จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้กลับเข้าสู่วงวรรณกรรมอีกครั้ง ตามคำชักชวนของ สุภัทร สวัสดิรักษ์ บรรณาธิการอาวุโส นิตยสารสกุลไทยเริ่มเขียนนวนิยายเรื่อง เกสรหน่ายแมลง ลงพิมพ์ในนิตยสาร สกุลไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผลงานนวนิยายต่อมาคือ ฆาตกรกามเทพ มายา-เสน่หาอลเวง พี.อาร์.หมายเลขหนึ่ง ฟ้ามีตะวัน หัวใจฉันมีเธอ ชีวิตนี้มีไว้เพื่อเธอ (อุบัติเหตุ เภทภัย หัวใจรัก) และ เหมือนเราจะรักกันไม่ได้ ที่กำลังพิมพ์ในนิตยสาร สกุลไทย           ชูวงศ์ ฉายะจินดา กล่าวว่าที่กลับมาเขียนนวนิยายอีกครั้ง ด้วยเหตุผลเดียวคือ เกิดมาเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ และมีอายุสูงปูนนี้ จึงขอฝากข้อคิดบางประการเพื่อคนรุ่นใหม่ในสังคมจะได้ไม่ลืมหลักธรรมเก่า ๆโดยใช้นวนิยายที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อคิดเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านมุมมองของผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากคนหนึ่ง นามปากกา - กล้วยไม้ ณ วังไพร  (ระยะแรก) - เทิดพงศ์  (เรื่องสั้น) - กรทอง  (ระยะแรก) - ชูวงศ์  ฉายะจินดา  (ปัจจุบัน) งานขียนครั้งแรก            - เรื่องสั้นเรื่องแรกที่ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ ชื่อ หนึ่งในห้าร้อยจำพวก ผลงานรวมเล่ม      เรื่องสั้น - ใบไม้ร่วงที่เกาลูน            - ในมุมกลับ            - เหยื่อรายแรก            - สองนาง            - ฆาตกรรมที่โต๊ะบิลเลียด            - คาถาอายุวัฒนะ            - เหตุเกิดเมื่อวันแม่ - ผู้หญิงมือสอง - เพชรร้าว   งานแปล - เห็ดมฤตยู แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง "THE VOKE IN THE NIGHT" ของ WILLIAM HOPE HODGESON   นวนิยาย -          เสี้ยนชีวิต ลงในสตรีสาร -          เงาอโศก ลงในเดลิมิเลอร์ -          จำเลยรัก -          เงาอโศก -          สุดสายป่าน -          พระเอกในความมืด (วิญญาณหฤหรรษ์) -          พระจันทร์แดง     ขอบคุณเคดริตภาพจากhttp://www.askmedia.co.th/book/webboard_reply.php?id=10706 ขอบคุณประวัติจาก http://www.praphansarn.com/new/c_writer/detail.asp?ID=42 จากคุณ : kanomping - [ 5 ต.ค. 51 22:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอลง รูป ผู้กำกับอีกครั้งค่ะ ปลื้มจัด ^_^ คุณมานพ สัมมาบัติค่ะ จากคุณ : kanomping - [ 25 ต.ค. 51 17:34:58 ]