ความคิดเห็นที่ 1 เคยฟังคําพูดของท่านึงกล่าวไว้ว่าให้คนญี่ปุ่นสลับมาอยู่เมืองไทย แล้วให้ไทยสลับกันไปอยู่ญี่ปุ่น 10ปีเมืองไทยจะก้าวกระโดด ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นจะก้าวถอยหลัง เพราะคุณภาพคนต่างกัน ฟังๆก็อึ้งๆนะจากสงครามโลกครั้งที่2เขาวิ่งไปไกลกว่าเราเท่าไรเพราะคนอย่างเดียวเลย ละครเขาแสดงถึงความเอาจริงเอาจังในหน้าที่แต่ละคน แต่ของเรายังว่ากันด้วยเรื่องเงินเท่าไร จากคุณ : จขกท. - [ 21 ก.ย. 51 13:58:37 A:125.24.217.193 X: TicketID:178717 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ละครไทยหลายเรื่องคุณภาพดีกว่า ละคร J/K นะครับ K ซีรี่บางเรื่องติดลูกโง่ด่วยซำ พระเอก นางเอก ไม่รู้เป็นไงพอรู้ตัวจะตายต้องหนี ทุกที แทนที่จะไปรักษาตัวให้หาย จากคุณ : Achaki Oddy - [ 21 ก.ย. 51 14:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ........................................................ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 14:56:45 จากคุณ : nutandpop - [ 21 ก.ย. 51 14:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 555 เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า เสด็จพ่อ ร.5 ท่านส่งคนไปเรียนการรถไฟที่ยุโรป พร้อมกับที่ ญี่ปุ่นส่งคนไปเรียนเหมือนกัน ปัจจุบัน รถไฟไทย เทียบกับ ญี่ปุ่น T_T จากคุณ : หัวหอม (หัวหอมยิ้มได้) - [ 21 ก.ย. 51 14:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็มันจริงนี่หว่า รึว่ารับไม่ได้ จากคุณ : มือปืนกระสุนมาร - [ 21 ก.ย. 51 14:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จริงนะ ไม่เถียงเลย จากคุณ : GIMJUM - [ 21 ก.ย. 51 14:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาพยักหน้าเห็นด้วย... แล้วถ้าละครไทย เอาเนื้อเรื่องของญี่ปุ่น - เกาหลีมาทำเป็นเวอร์ชั่นไทยโดยตรงเลยล่ะ  จะออกมาดีไหม??? เหมือนที่ไต้หวัน เอาเนื้อเรื่อง F4 มาจากการ์ตูนญี่ปุ่น  แล้วสร้างเป็นละครที่ดังระเบิดไปทั่วเอเชีย.....ญี่ปุ่นสร้างF4 เอง ก็ยังดังเอง ถ้ามี F4 ไทยขึ้นมาบ้าง ???.......จะเป็นไงน้า  ???? แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 14:40:25 จากคุณ : Blue apple - [ 21 ก.ย. 51 14:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังมีประชดแบบตัวอิจฉาในละครโผล่มาด้วย เอาแค่ J ซีรี่ย์ดีกว่า k ซีรี่ย์บางทีก็คล้ายๆละครไทยอัพเกรดเหมือนกัน จากคุณ : จขกท - [ 21 ก.ย. 51 14:48:10 A:125.24.217.193 X: TicketID:178717 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องจริงที่อ่านแล้วแสนจะเจ็บปวดใจ อิอ จากคุณ : อยู่กันแค่นี้ก็มีความสุขดี - [ 21 ก.ย. 51 14:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห.7 โหยก๊อปเขามา หน้าไม่อาย บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : kuramaza - [ 21 ก.ย. 51 14:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คห.1 คับใช่คับคนก็มีส่วนแต่อีกอย่างเรื่องระบอบของการปกครอง ก็มีส่วนนะครับดูอย่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ซิ ก็คนเกาหลีเหมือน กันแต่ระบอบการปกครองต่างกัน ความเจริญยังต่างยังกับฟ้ากับดิน จากคุณ : คนพันธุ์ร็อค - [ 21 ก.ย. 51 15:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เขาว่ากันว่า พระเจ้าเห็นว่าแผ่นดินไทย มีดีมากไปหน่อย ... เลยส่งคนไทยชนิดที่ไม่ได้ความมาเกิดเยอะหน่อย เพื่อลดแฮนดี้แค็ป ไม่งั้นประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจเกินหน้าเกินตา ประเทศอื่นเขา อิอิอิ จากคุณ : sk-sint - [ 21 ก.ย. 51 15:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดูแต่นั่น  จิมมี่ เพจ นี่นา.. จากคุณ : vincentlenon - [ 21 ก.ย. 51 15:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราว่าคนไทยเก่งน้า สู้เค้าได้สบายเลยล่ะ แต่ที่ขาดคือความเป็นชาตินิยม เราว่าส่วนหนึ่งที่พัฒนาญี่ปุ่นมาได้ขนาดนี้ ทั้งที่เคยแพ้สงคราม จนประเทศต้องพบเจอแต่ความยากลำบาก เพราะความเป็นชาตินิยมเนี่ยแหละ ญี่ปุ่นทำสินค้าขึ้นมาแล้วคนญี่ปุ่นก็ช่วยกันใช้ แม้มันจะไม่ดี แต่มันก็ของชาติเค้าเอง ช่วยกันใช้ก็มีเงินมาช่วยหมุนเวียน ให้คุณภาพของเค้าดีขึ้น จนสามารถส่งขายออกทั่วโลกได้ นี่แหละ คือความยิ่งใหญ่ของความเป็นชาตินิยมของญี่ปุ่น ส่วนเรื่องละคร เลิกพูดเหอะ พูดไปก็เท่านั้น ถ้าผู้ใหญ่ระดับบิ๊กๆทางช่องน้อยสียังคิดได้แค่ว่า ถ้าทำละครแนวอาชีพ หรือตีแผ่ความจริงทางสังคมแล้วจะโดน เล่นงานเหมือนคราวสงครามนางฟ้า 55555555555555555555+++++ อยากจะขำกลิ้งลิงกับหมีให้มันล้มประดาตายกันไป ถ้าขนาดระดับบิ๊กยังมีสมองคิดได้แค่นี้ก็ไม่ต้องหวังถึงพวกลูกกระจ๊อก อย่างบรรดาผู้จัดทั้งหลายหรอก สิ้นหวังกับละครไทยไปได้เลยพวก นี่พูดแค่เนื้อเรื่องนะ ส่วนเรื่องโปรดั๊กชั่น พูดไปก็อีกยาว จบดีกว่า เมื่อย!!! บอกไปก็เหมือนเป่าปี่ใส่หูค...ย ไปนั้นแหละ จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 21 ก.ย. 51 15:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดสร้างสรร จิตสำนึกในแบบฉบับตนเอง ถ้าย้อนไป 20 ปีก่อน ละคร และ หนังเกาหลี ยังตามไทยอยู่หลายขุมเลย ตอนนี้เป็นไง เขาทำเป็นอุตสาหกรรมส่งออกแล้วครับ ของเรายังครัวเรือนเหมือนเดิม   แต่ในแบบฉบับโลก เราทะลุไปมากกว่า ในหนังที่ทำออกมา  เพาะคำว่ากลิ่นอายแบบฉบับไทยมีเสน่ห์กว่า เช่น องค์บาก ในสายตาชาวโลก องค์ประกอบของไทยโดยร่วมมีเสน่ห์มากกว่าเกาหลีเพียบ เป็นรอง แค่ อินเดีบ กับ ญี่ปุนเท่านั้นในเอเชีย แต่ทรัพยากรตรงนั้นดันแปลงเป็นทรัพย์ไม่ได้หมด จะโทษใครล่ะพี่น้องนอกจาก คนไทยเราเอง จากคุณ : solo one - [ 21 ก.ย. 51 16:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งบซีรีย์ญี่ปุ่นโดยธรรมดาอยู่ที่ 4-50 ล้านเยนค่ะ อย่างไรก็ตามมันก็แล้วแต่ ... ปัจจัยอย่างอื่นด้วย เป็นต้นว่า ดารา คนเขียนบท แนวเรื่อง ก็เป็นเหตุให้งบมันบานออกไปเหมือนกัน แต่ทางสถานีเค้าทุ่มทุนกันเต็มที่ แล้วละครทางฟากญี่ปุ่นก็สั้นค่ะ ประมาณ 10-12 ตอน เพราะว่าออกอากาศอาทิตย์ละครั้งเท่านั้นเอง (แต่มีให้เลือกเยอะช่อง และ เยอะแนวมากเลย) ทางโน้นเวลาเขาทำละครเรื่องอาชีพคิมุว่ามันไม่มีตัวร้ายน่ะ มันมีแต่คนที่ ... ทำเพราะเหตุผลบางอย่างบางประการ และ ทำเรื่องเกี่ยวกับอาชีพที่เคารพความเป็นอาชีพ หรือ วิชาชีพของเค้าน่ะค่ะ เรียกได้ว่าเป็นไปลักษณะสร้างสรรค์ แต่ก็ไม่ได้จริงจังเกินไป ส่วนของตรงนี้คงอยู่ที่ความสามารถของคนเขียนบทด้วยละมั้ง เพราะ บางทีเค้าไม่ได้บอกอะไรเราตรง ๆ ต้องมีคิดให้ลึกซึ้งกันบ้าง ในส่วนของนักแสดง ... เวลาจะรับบทอะไร เขาไปเรียนกันจริงจังหัดกันเป็นเดือน ๆ เป็นต้นว่า บทนักดนตรีก็ต้องไปหัดเล่น จะเป็นนักกีฬาก็ต้องไปหัด ไปซ้อม จะเป็นช่างตัดผม เป็นนักบิน เป็นหมอ ก็ต้องไปหัดไปซ้อม แม้จะเป็นอยู่แล้วก็เหอะ ซึ่ง .. ก็ทุ่มนะ ไม่ใช่ว่าดาราของเขาจะว่าง เพราะ ทางโน้นก็ยุ่งพอตัว เพียงแต่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัย ความตรงเวลา และ ความประพฤติน่ะค่ะ ประมาณว่า ให้ทำอะไรต้องทำให้ได้ และ ทำให้ดี ลืมบอกว่าที่โน่นมีระบบเรตติ้งที่ดีด้วยค่ะ ละครแรง ๆ ไปอยู่หลังสี่ทุ่มหมด แรงมากไปเที่ยงคืนเลย อย่าง Glorydays ก็เที่ยงคืนค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 17:00:22 จากคุณ : kimurafreek - [ 21 ก.ย. 51 16:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราต้องมีความเป็นชาตินิยมมากกว่านี้ แล้วก็รู้จักการลงมือทำกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่แค่พูด แล้วก็พูด แล้วก็..........ได้แต่พูด จากคุณ : arnata_first - [ 21 ก.ย. 51 16:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่างเรื่อง Karei naru ichizoku เรื่องนี้ถือเป็น masterpiece ของวงการละครญี่ปุ่นเลย แต่ไม่รู้ว่าจะมาดังในไทยไหมเรื่องแบบนี้ จากคุณ : kimurafreek - [ 21 ก.ย. 51 16:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าลืม "รัฐ ไม่ส่งเสริม" ด้วยนะคะ ทุกวันนี้ โมเสท เต็มจอแล้ว จากคุณ : ป้าตัวกลม - [ 21 ก.ย. 51 16:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คิมุว่าเรื่องบทเรื่องสำคัญค่ะ ลองดูผลงานของนักเขียนบทโทรทัศน์ดังต่อไปนี้นะคะ เป็นนักเขียนบทที่ส่วนตัวแล้วชอบในผลงานค่ะ 1. คิตางาว่า เอริโกะ : ราชินีละครรัก คนนี้ติดตามผลงานของเธอมานาน เธอคนนี้สมญาคือ ราชินีละครรัก ค่ะ สไตล์ของคิตางาวะ เอริโกะ จะเขียนบทละครรักโรแมนติคซะส่วนใหญ่ หากเป็นคนที่สร้างคาแรคเตอร์ตัวละครได้หลากหลาย และ ให้อารมณ์ที่ลึกซึ้ง เธอสร้างชายหนุ่มใสซื่อ เอาจริงเอาจัง อย่าง นัตสึเมะ ใน saigo no koi สร้างหนุ่มน้อยขี้อาย แต่ก็เปี่ยมด้วยอารมณ์ และ ความฝัน อย่าง ฮิเดโตชิ เซนะ สร้างผู้ชายหนักแน่นจริงจัง เข้มแข็ง และ เป็นผู้ใหญ่อย่าง โอคิชิม่า ชูจิ ตัวละครหญิงของเธอก็เช่นกันแม้จะอยู่ในโทนเรื่องโรแมนติคเธอก็สามารถสร้างคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไปได้ อย่างไรก็ดี ... แม้เธอจะเขียนบทละครรักโรแมนติคซะส่วนใหญ่ แต่เมื่อเธอเขียนละครแนวลึกลับสืบสวนเธอก็ทำได้ดี ใครจะเชื่อว่านักเขียนบทที่เขียน Asunaro Hakusho, Aishiteru to ittekure, Long Vacation, Beautiful life, Orange day, tatta hitotsu no koi, Love Story จะเป็นคนเดียวกับที่เขียน One million star falling from the sky ใครจะคิดว่าคนที่สร้างสรรค์เซนะคุง ชูจิคุง จะเป็นคนเดียวกับที่สร้างผู้ชายอันตรายอย่าง คาตาเสะ เรียว o____O!! สรุปสุดท้ายก็บอกได้ว่า หากมองหาละครรักโรแมนติค จำชื่อ คิตางาวะ เอริโกะ เอาไว้ไม่ผิดหวังค่ะ สำหรับคิมุแล้ว Masterpiece ของเธอคือ one million starฯ ค่ะ อ้อ คุณ คิตางาวะ แต่งงานแล้ว มีลูกหนึ่งคน และ เธอชอบ B'z ค่ะ 2. โนจิม่า ชินจิ : เรื่องรักหักมุม ถ้าจะนับคิตางาวะ เอริโกะ เป็นนักเขียนบทมือทองฝ่ายหญิง โนจิม่า ชินจิ คงจะเป็นนักเขียนบทมือทองฝ่ายชายค่ะ โนจิม่าซังเขียนเรื่องได้หลายแนว ไม่ว่าแนวโรแมนติค แนวลึกลับ แนวครอบครัว แต่ความเด่นของโนจิม่าที่คิมุสังเกตเห็น คือ เรื่องปม  การหักมุม หรือ ความแปลกของเนื้อเรื่องค่ะ ละครที่ทำให้โนจิม่าซังโดดเด่นขึ้นมาคงหนีไม่พ้น 101 proposal คุ้น ๆ ใช่มั้ยคะ ใครทันดูตื้อรักนายกระจอกบ้างเอ่ย ถ้าเก่าไปไม่เป็นไร... ใครจำ Hitotsu yane no shita ได้บ้างคะ 1+5 มารักกันนะ นี่ก็เป็นผลงานของโนจิม่า ชินจิ เช่นเดียวกัน ละครที่เด่นในเรื่องการหักมุมของโนจิม่าซัง เช่น stawberry on the short cake, bara no nai hanaya, lipstick ละครรักก็เช่น Pride, Golden Bowl สำหรับ Masterpiece ให้ 101st marrigae proposal ค่ะ 3. ฟุคุดะ ยาสึชิ : อารมณ์ขันแสบทรวง เปล่านะคะคุณฟุคุดะไม่ได้เขียนบทละครแบบเฮฮาติงต๊อง แต่เป็นอารมณ์ขันแบบเสียดสี ประชดนิด ๆ จิกกัดหน่อย ๆ ไม่เน้นโรแมนติค ฟุคุดะซังทำบทละครที่เดินเรื่องด้วยอาชีพได้ดีค่ะ อาทิเช่น ฮีโร่ และ กาลิเลโอ ถ้าใครอยากชมละครที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระ พร้อมแต่งแต้มด้วยอารมณ์ขันแสบ ๆ  คัน ๆ ก็ลองติดตามผลงานของคุณ ฟุคุดะ ดูนะคะ ผลงานล่าสุดของคุณ ฟุคุดะ คือ CHANGE นั่นเองค่ะ Masterpiece ขอยกให้ HERO ค่ะ 4. อาซาโนะ ทาเคะโอะ : เรื่องรักหลากรส อยากได้รักแบบไหน อาซาโนะซังจัดให้ รักของหนุ่มสาวชาวเมืองอย่าง Love Generation รักระหว่างรบอย่าง Love 2000  รักนิรันด์แบบ kamisama mou sukoshi dake หรือจะเป็นรักวัยรุ่นล่าสุดอย่าง Last friends มองหาเรื่องรักหลายสไตล์ต้อง อาซาโนะ ทาเคโอะ ค่ะ 5. อิซึมิ โยชิฮิโระ : ละครครอบครัวยกให้เขา ละครส่งเสริมสถาบันครองครัวปนขำขัน สร้างเสริมความเข้าใจในครอบครัว เมื่อลูกสาวอยากมีแฟน เมื่อลูกสาวจะแต่งงาน เมื่อลูกอยากจะออกไปอยู่ข้างนอก หรือ มีปัญหาหย่าร้าง อ๊า....จะทำอย่างไรดี หาแง่คิด หามุมมอง ของคนในครอบครัวผ่านบทละครของคุณ อิซึมิ ได้เลยค่ะ เป็นต้นว่า Moko dono, papa to musume, hito ni yasashiku ค่ะ ผลงานล่าสุดของคุณ อิซึมิ คือ Rookies นะคะ 6. โอชิมะ ซาโตมิ : ละครเรียกน้ำตา แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาของโอชิมะซังจะเป็นการดัดแปลงบทประพันธ์(หมายถึงไม่ได้คิดพล็อตเอง) แต่ฝีไม้ลายมืออันเฉียบขาดของเธอในการเรียกน้ำตาผู้ชมใน น้ำตาหนึ่งลิตร และ tokyo tower ~ me mom and somtimes dad ก็การันตีฝีมือได้อย่างดี การคิดเรื่องเองก็ยากตรงต้องใช้จินตนาการมาก ๆ แต่การเขียนบทละครที่ต้องดัดแปลงจากบทประพันธ์ก็ยากเหมือนกัน ดัดแปลงอย่างไรไม่ให้เสียอรรถรส ดัดแปลงอย่างไรไม่ให้ออกทะเล ถือว่าเธอคนนี้มีความสามารถอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : kimurafreek - [ 21 ก.ย. 51 16:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ประเด็นคล้าย ๆ กับบอลไทยจะบอลโลกเลย จากคุณ : lotviler - [ 21 ก.ย. 51 17:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนแรกว่าจะตอบแบบสาธยายยาวๆ แต่คิดไปคิดมา ตอบง่ายๆ กระชับดีกว่า ที่สร้างไม่ได้เป็นเพราะ 1.กึ๋นของประชากรส่วนใหญ่ในบ้านเรา ยังรับไม่ได้กับเนื้อหาหนักๆ - ลองนึกภาพ ชาวบ้านร้านตลาด นั่งดู one liter of tears ด้วยอาการติดงอมแงมสิครับ มันเป็นภาพที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะนิสัยคนบ้านเรา ชอบความบันเทิงแบบเน้นความเฮฮา ประเภทตัวร้ายตบนางเอก แล้วตอนจบ นางเอกมาตบตัวร้ายคืน ไอ้แบบนี้ล่ะ สุดยอดแห่งความเมามันส์ในอารมณ์ ถ้าพูดถึงความตายในซีรี่ย์ญี่ปุ่นดีๆ จะต้องมีความหมาย มีอารมณ์ มีความเศร้าสร้อย แม้แต่ตัวร้ายในซีรี่ย์ก็ยังไม่ได้ตายกันบ่อย ถ้าพูดถึงความตายในละครบ้านเรา จะต้องหมายถึงการแก้แค้น เอาคืน ไฟรักพิษสวาท อารมณ์เวลาที่มีการตายมักจะเป็นแบบ สมน้ำหน้ามัน ตายซะได้ก็ดี เลวสุดๆ ขวางพระเอกนางเอกอยู่ได้ สมมติว่าสร้างละครสืบสวนสอบสวน โดยเอาชีวิตคุณหญิงหมอพรทิพย์มาดัดแปลงสร้างเป็นละคร โทนของละครเป็นแนวจริงจัง ซีเรียส ไม่มีตลก ไม่มีชิงรักหักสวาท มีแต่การตัดเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างตัวเอก ทนายฝ่ายตรงข้าม ตำรวจสืบสวนสอบสวน ฯลฯ แล้วออกอากาศชนกับละครแนวหลงเงาจันท์ มีอั้มเป็นนางเอก สเตฟานเป็นพระเอก ปูไปรยาเป็นนางร้าย คิดว่า ชาวบ้านจะเลือกดูอันไหน ??? ฐานความคิดมันต่างกัน เหมือนเอามติชนสุดสัปดาห์ไปยัดใส่มือคนที่อ่านแต่ขายหัวเราะ ยังไงๆ ก็ไม่มีวันจะเปิดอ่านหรอก 2.ต่อให้สร้างจริง ใจคนไทยเราก็ยังรับไม่ได้อยู่ดีว่า นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย ถ้าเอาโตเกียวทาวเวอร์ มาสร้างเป็นแบบไทย(เอาเป็นบรรหารทาวเวอร์ก็ได้) ให้พระเอกมาจากสุพรรณ เข้ามาทำงานในเมืองกรุง ต่อมาคุณแม่เกิดเป็นโรคมะเร็ง ก็เลยรับมาอยู่ด้วยกันที่หอพักรูหนูในกรุงเทพ (นึกสภาพห้องเป็นแบบพวกคลิปหลุดนศ. ประมาณนั้น) แค่อ่านสองบรรทัดข้างบน ก็คงพอคาดเดาได้แล้วว่า ละครจะรุ่งหรือร่วง -_-" ถ้าเอาเรื่องโนดาเมะ(รักกุ๊กกิ๊กในมหาลัยดนตรี) มาดัดแปลงสร้าง เป็นกลุ่มเด็ก ม.ปลาย ที่มุ่งไขว่คว้าตามฝันที่จะสร้างวงดนตรีของตัวเอง บทพูดประมาณว่า "เนี่ย ในอนาคตนะ เราฝันว่า เราอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเองแหละ" "เราเชื่อว่าเราทำได้" "เป็นกำลังใจให้เรานะ" ตัดภาพมาที่คนดูซึ่งเป็นแซ๊บ สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ12 ขโมยตังค์แม่ไปโมมอร์เตอร์ไซต์ เราจะทำใจให้เชื่อได้มั้ยว่า เรื่องแบบในละคร มันเกิดขึ้นจริงในบ้านเรา แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 17:14:51 จากคุณ : na_dol - [ 21 ก.ย. 51 17:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จริงๆเราชอบละครไทยสมัยเอ็กแซ็คทำใหม่ๆนะ  พวกทอฝันมาวิน   แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานรู้สึกว่ามันกลับไม่พัฒนาไปไหน   ตอนนั้นเราก็ดูควบคู่กับละครญี่ปุ่นไปด้วย ก็มีเปรียบเทียบกันนะ ความรู้สึกว่าชอบของทั้งสองก็มี  อาจจะต่างกันนิดหน่อย ที่ลักษณะของสังคม  แต่คิดว่าตอนนั้นระดับคุณภาพต่างกันไม่มากมายอะไร ของไทยอาจจะด้อยเรื่องภาพ แสง ฉากไปหน่อย   แต่ที่เหลือก็ดี  เทียบเคียงกันได้เลย เคยดูพวกละครทุนต่ำของญี่ปุ่นค่ะ  เราว่าทำได้ดีนะ  อย่าง boku to kanojo xxx  ทำได้ดีค่ะ  ไม่ได้มีฉากที่ฟุ่มเฟือยอะไร **แก้ไขค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 17:33:57 จากคุณ : aonton - [ 21 ก.ย. 51 17:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าใช่  คุณก็คงเป็นคนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยเจริญได้เท่านี้ ป.ล.  ผมก็ด้วย จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 21 ก.ย. 51 17:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านไปอ่านมา เหมือนมีพวกเกาหลี ญี่ปุ่น( ปลอมๆ)เข้ามาในกระทู้นี้แฮะ จากคุณ : CHUMPLA - [ 21 ก.ย. 51 18:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ละครไทยขายเพื่อตลาดคนไทย ความต้องการคนส่วนใหญ่ชอบแบบนี้ ละครไทยก็เลยไปได้ประมาณนี้ เรื่องดีๆก็มีนะ สร้างสรรค์สังคม แต่สังเกตได้เลยว่า จะไม่ค่อยดัง เรตติ้งไม่ดี เราว่า ละครไทยถอยหลัง แต่หนังไทยกลับก้าวไปข้างหน้า พลอตเรื่องดี ทำภาพเจ๋งขนาดต่างชาติยังไปรีเมค มีซื้อไปขายนอก หนังไทยก็ขายคนไทยแต่ ยินดีฉีกแนวมากกว่า สร้างพลอตใหม่ๆมากกว่า ละครไทย แต่หนังไทยก็รองรับเพียงคนเฉพาะกลุ่มที่จะไปดูตามรสนิยม แต่ละครคนดู เป็นคนกลุ่มใหญ่มากในประเทศอยู่ดี มันเป็นลงรากฝังลึกไปแล้วจะพัฒนาละครไทย ต่อให้เงินมากมายแค่ไหน เราว่า ก็ยังเหมือนเดิม แค่บ้านใหญ่ขึ้น แต่งตัวหรูขึ้น แต่ พลอตก็ยังย่ำอยู่กับที่อยู่ดี ตราบใดที่ทัศนคติ คนไทยชอบดู ละครแนวเดิมๆ ขายฝัน น้ำเน่า เอาเป็นว่า อยากให้ คนจัดละคร เลือกบทประพันธ์ดีๆ พลอตดีๆ หลากหลาย มีส่วนสร้างสรรค์สังคมแฝงบ้างก็ยังดี จะให้เปลี่ยนไปเลย ยากมากๆ จากคุณ : milano - [ 21 ก.ย. 51 18:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ซีรีส์ญี่ปุ่น เกาหลี ที่เน่าๆ ก็เยอะ หลายๆ เรื่องก็เป็นสูตรสำเร็จ จากคุณ : yunkyak - [ 21 ก.ย. 51 19:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คงเข้าใจอะไรไม่ตรงกันแล้วครับ55 ไอ้้เรื่องเทียบนะคงยากเขาลํ้ากว่าเราเยอะมาก ไม่ต้องเทียบก็รู้Kยังสู้Jไม่ได้ ที่ตั้งนี่หมายถึงว่าที่สุดฝีมือของเรากับเขาในเงื่อนไขเรื่องทุนกับคุณภาพมากกว่า ไม่ต้องสนคนดู เพราะว่าบอกแล้วว่าเป็นงานแลกเปลี่ยนกันเราไม่ได้ดูของเราเขาก็ไม่ได้ดูของเขา อยากรู้ว่าทางผู้จัดละครบ้านเราจะเอาทุน100ล้านไปสร้างละครที่ดีที่สุดโยนยกข้ออ้างทั้งหมดทิ้งไป ใช้กึ๋นมาวัดกัน ทําไมเลือกเรื่องนี้ ทําไมเลือกคนนี้ แสงแต่งหน้าทําผม ฉากอะไรมันจะมาตราฐาน สูงเท่ากับทุนที่มีหรือเปล่า ไอ้ที่ว่าคนไทยก็ดูแบบไทยๆมันน่าเบื่อเหมือนกัน ทีละครบ้านเขาเรายังติดกันงอมแงมเลยทั่วโลกก็ดูกัน ทั้งๆที่เขาก็โคตรจะเพื่อตลาดคนญี่ปุ่นเลย จากคุณ : จขกท - [ 21 ก.ย. 51 19:36:17 A:125.24.217.193 X: TicketID:178717 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห.12 แปลกแต่จริง ... ว่าคนไทยอย่างนั้น คนไทยอย่างนี้ ... แล้วไง ? คนอ่านก็คนไทย คนเขียนกระทู้ก็คนไทย คนตอบๆ ก็คนไทย .... แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 20:02:53 จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง - [ 21 ก.ย. 51 20:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อืม จริงๆตอนนี้เราว่าละครไทยกำลังมานะ ตอนนี้ละครเกาหลีกับญี่ปุ่นเริ่มขาลงแล้วนะ จริงๆ เข้าไปดูเว็บบอร์ดจีนก็ได้ แล้วเราอยากจะบอกว่าที่ละครไทยกำลังไปได้อย่างนี้ เป็นเพราะคนๆเดียวเลย ซึ่งคนๆนั้น ไม่เคยโทษว่าเป็นเพราะละครเราไม่พัฒนา ประเทศเราไม่ชาตินิยม รัฐบาลไม่สนับสนุน หรือว่ามีเด็กของเราไปนิยมญี่ปุ่น เกาหลีมากกว่า แต่เค้าเชื่อของเค้าว่าเค้าอยากเผยแพร่ละครไทยที่เค้าคิดว่ามันสนุก ใครจะดูก็ช่าง ไม่ดูก็ช่าง เค้าจะทำซับไตเติ้ลละครไทยแล้วโหลดลงยูทูปคนเดียว เราไม่รู้จักเค้าเป็นใคร รู้แต่ว่าใช้นามแฝง wihsboniko, wazabizan, wasashimi แล้วก็ทำซับไตเติ้ลละครไทยไปแล้ว เกือบสิบเรื่อง เรื่องแรกๆที่ทำ ยังมีแฟนเป็นคนลาว เขมร ม้ง ที่อยู่อเมริกา (คือเป็นแฟนละครไทยดั้งเดิมอยู่แล้ว) ต่อมา เรื่องที่ทำให้มีคนขยายวงกว้างในการดูละครไทยคือ จำเลยรัก เพราะwishboniko ทำซับสด คือละครออกคืนนี้ พร่งนี้คนในยูทูปได้ดูแบบซับแล้ว ทำให้ละครดูสด เหมือนได้ดูกับคนไทย เลยเริ่มมีคนฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และแม้แต่อาหรับ ตามมาดูบ้าง ตอนนี้ละครที่เค้าทำซับไตเติ้ลถูกทำเป็นซับไตเติ้ลภาษาจีนแล้วทุกเรื่อง และตอนแรกที่มีเค้าทำคนเดียว ตอนนี้ มีอีกหลายคนเลยที่ช่วยกันทำซับไตเติ้ล แล้วคนเริ่มหันมาดูละครไทยเยอะขึ้นมาก แล้วผลมีเยอะมากเลย คือ คนฟิลิปปินส์ กับมาเลเซียเข้าไปคุยเรื่องละครไทยในบอร์ดของคนเขมร แชทเป็นเพื่อนกัน แล้วความหมั่นไส้ไทยเรื่องซีเกมส์มันหดหายไปหมด เรื่องที่เขมรมีเรื่องกับไทย เขมรก็ว่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย สิงคโปร์กับจีนที่เคยคิดว่าไทยด้อยพัฒนา ดูละครไทยก็จะแบบ เฮ้ย มันไม่ได้ด้อยพัฒนานี่หว่า ประเทศมันก็เหมือนๆเรานี่แหละ แถมเพลงมันก็เพราะด้วย ต้องไปหามาฟังแล้ว คิดดูคนในอาหรับที่เคยคิดว่าเราจน ยังต้องเปลี่ยนความคิด เพียงเพราะเห็นหริณน้องพระเอกจำเลยรักฟังไอพอด ตอนนี้ละครตบจูบที่เราว่ามันบ้านนอกน่ะ ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในประเภทของละครไทยที่ชาวฟิลิปปินส์ชอบมาก เพราะหาดูที่อื่นไม่ได้ (อันนี้ไม่รู้จะภูมิใจดีไหมนะ) เค้าเรียกว่า slap & kiss genre ตอนเรารู้เรื่องละครไทยกำลังมาในตลาดโลก ใหม่ๆนะ เรามาเห็นกระทู้ที่เค้าว่าละครไทยสู้ละครเกาหลีไม่ได้ แหวะ รสนิยมไม่ได้เรื่อง เราก็ระทดระท้อ แต่ตอนนี้เราคิดได้แล้ว wishboniko ไม่เคยออกมาว่า ไม่เคยระทดระท้อเลย เค้าก็ทำอย่างทีเค้าเชื่อมั่นของเค้าคนเดียวอย่างสงบ แล้วเราก็พบว่า มีเค้าแค่คนเดียวก็เปลี่ยนโลกได้ ไม่ต้องพึ่งรัฐบาล ไม่ต้องมาร้องป่าวประกาศว่าละครเราก็ดี๊ ไม่ต้องทำไรทั้งนั้น เราเชื่อว่าถ้าละครดี มันจะขยายตลาดได้ แล้วโปรดักชันหรืออะไรๆอย่างอื่นจะดีขึ้นตามมาเอง ละครเกาหลีแต่ก่อนก็ธรรมดานะ ถ้าใครเป็นแฟนเกาหลีแต่แรกจะรู้ นักแสดงก็ไม่กล้าจูบกันจริงด้วย แต่เนื่องจากต้องแข่งกับไต้หวัน นักแสดงเกาหลีเลยเริ่มใจกล้ามากขึ้น มุมกล้องก็ลงทุนมาก(ดู my gilr สิ มุมกล้องโคตรเจ๋ง) เมื่อก่อนก็น้ำเน่าธรรมดาเหมือนเรานี่แหละ ไม่เชื่อไปดู all about eve ก็ได้ ตอนนี้ที่พัฒนาได้เพราะมันส่งออกได้ไง จากคุณ : ปัน (ปัน) - [ 21 ก.ย. 51 20:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณ คห30. ที่ให้ความรู้ครับ  และทำให้ ผมภูมิใจกับละครไทยอีกขึ้นตั้งเยอะ......และที่สำคัญ ขอบคุณwihsboniko, wazabizan, wasashimi  ด้วยครับ ที่ช่วยเผยแพร่.....ความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก จากคุณ : bornkung - [ 21 ก.ย. 51 21:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เพราะคนไทยเป็นพวกชอบประชด เสียดสี และดูถูกชนชาติตัวเองค่ะ ชอบที่จะด่า  มากกว่าหาข้อมูล   ถ้าคุณหาข้อมูล  ต้นทุนการถ่ายทำของแต่ละชาติ  มาเทียบอัตราแลกเปลี่ยน  แล้วเทียบค่าของเงิน   มันจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากกว่ามาพูดกันลอยๆ ถ้าคุณหาข้อมูลอันดับเรตติ้งของละคร เกาหลี  ญี่ปุ่น  ไทย  มาเปรียบเทียบ แล้ววิเคราะห์  มันดูเป็นเหตุผลกว่า ถ้าคุณศึกษาอ่านตำรา  หรือสมัครเรียนเขียนบท   ตามแหล่งต่างๆที่เปิดสอน คุณจะเข้าใจ  หรือสร้างสรรค์บทละคร  ที่ดีเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศได้ แต่พอมาอ่านชื่อ จขกท.  อ้อ  ก็แค่เด็กชายคนหนึ่ง  เท่านั้นเอง งั้นขยันตั้งใจเรียน  แล้วก็เรียนรู้เพื่อมาปฎิวิตวงการละครไทยแล้วกันนะคะ อนาคตของประเทศ  รอคุณอยู่ จากคุณ : ตาลเฉาะ - [ 21 ก.ย. 51 22:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 wihsboniko, wazabizan, wasashimi   เขาเป็นใคร ขอขอบคุณ จากคุณ : SeiGaKu - [ 21 ก.ย. 51 22:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราว่ามันก็แล้วแต่ความนิยมของคนส่วนใหญ่ล่ะค่ะ สำหรับเราก็ดูบ้าง ทนไม่ไหวก็ไม่ดู อย่างพวกของเกาหลี หรือ ญี่ปุ่น เราก็ให้โอกาสเท่ากันนะ คือ ถ้าชอบถ้าดี ก็ดู ถ้าไม่ชอบ ไม่คิดว่าดีก็ไม่ดูนะ พยายามทำความเข้าใจผู้ผลิตว่าเค้าต้องเอาใจตลาดหลักๆ ไม่ได้แยกว่าเป็นของใครทำ ของเค้า ของเรา ไม่ได้สนใจหรือให้ค่าเริ่มต้นมันมาก-น้อยกว่ากัน เพราะอย่างนั้น ให้เงินมาก เงินน้อยอาจจะไม่ได้สำคัญเท่าทัศนคติคนทำ กับเรามากกว่า ถ้ามันตรงกัน มันสื่อสารกันก็โอเค ถ้ามันไม่ตรงกันก็ไม่ต้องรับ ให้เขาสื่อสารกับคนที่เค้ารับได้ดีกว่า จากคุณ : Mithrandia - [ 21 ก.ย. 51 23:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คห.12  ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมาจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ชาวต่างชาติเขียนถึงประเทศไทยค่ะ ประมาณว่า ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติสวยงาม ดีทุกอย่าง ยกเว้นคนไทย คห.30  เคยได้เข้าไปดูเวบบอร์ดของอาหรับที่โพสต์เรื่องจำเลยรักเหมือนกันค่ะ ปล.เพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 23:55:29 จากคุณ : lemonza - [ 21 ก.ย. 51 23:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หึหึno.32ที่เขียนมาแปลว่าไม่ได้อ่านเลยนี่นา พูดดูดี แต่...... เพราะคนไทยเป็นพวกชอบประชด เสียดสี และดูถูกชนชาติตัวเองค่ะ ชอบที่จะด่า มากกว่าหาข้อมูล ***ขนาดด่ากันมาหลายสิบปียังไม่ไปไหนเลย คําว่าดูถูก ก็ดูถูกนี่ไม่ได้ดูผิด ข้อมูลเพียบทั้งสัมภาษณ์ ทั้งบทความ สิ่งที่เห็นผ่านจอทีวี แต่ส่วนน้อยรับไม่ได้พาไปเรื่องชาตินิยมซะงั้น หนังนํ้าเน่าหนังตลาดๆทําให้คุณภาพดีก็ได้ ไม่ทําเองk นํ้าเน่ากว่าคุณภาพการถ่ายทํายังดีกว่าเลยเสื้อผ้าหน้าผมแสงฉาก บทการแสดงการกํากับเทียบกันแล้ว นํ้าเน่าคุณภาพกว่า ถ้าการ ติ คือการดูถูกชนชาติตัวเอง แล้วหลับหูหลับตาชื่นชมนี่สุดยอดพลเมืองหรือไงครับ ฮ่องเต้จีนยังต้องมีขุนนางที่เอาไว้ ติ โดยเฉพาะเลย ไม่ใช่ฟังแต่พวกละเมอชมอย่างเดียวอันนั้นชาติบรรลัย ถ้าคุณหาข้อมูล ต้นทุนการถ่ายทำของแต่ละชาติ มาเทียบอัตราแลกเปลี่ยน แล้วเทียบค่าของเงิน มันจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากกว่ามาพูดกันลอยๆ ***โจทย์คือเงิน100ล้านกับ50ล้านกับการบริหาร จิตสํานึกในการทํางานละครของแต่ละประเทศ อ่านดีๆก่อนนะโจทย์คืออะไร ถ้าคุณหาข้อมูลอันดับเรตติ้งของละคร เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย มาเปรียบเทียบ แล้ววิเคราะห์ มันดูเป็นเหตุผลกว่า ***อ้างเรตติ้ง?? เขาคุยกันเรื่อคุณภาพการทําละครไม่ได้ดูเรตติ้งเอาของทีวีบันเทิง หรือของทีวีพูลดีล่ะแล้วจะเทียบอะไรยังงงๆอยู่ ดูตาเปล่าไม่ออกหรือจ๊ะว่ามันต่างกันขนาดไหน เอาเรตติ้งของมายาเชนแนลไหม ถ้าคุณศึกษาอ่านตำรา หรือสมัครเรียนเขียนบท ตามแหล่งต่างๆที่เปิดสอน คุณจะเข้าใจ หรือสร้างสรรค์บทละคร ที่ดีเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศได้ ***คนแต่งคนสอนนั่นยังไม่สามารถเป็นแบบอย่างได้เลย ถ้าไม่ใช่อ.ที่สอนตามหนังสือ ก็พวกมือเขียนอาชีพมารับงานสอน แล้วสอนไปเพื่ออะไร ที่สุดก็ใช้ไม่ได้อย่างที่สอนก็เห็นผลงานอยู่แล้ว แต่พอมาอ่านชื่อ จขกท. อ้อ ก็แค่เด็กชายคนหนึ่ง เท่านั้นเอง งั้นขยันตั้งใจเรียน แล้วก็เรียนรู้เพื่อมาปฎิวิตวงการละครไทยแล้วกันนะคะ อนาคตของประเทศ รอคุณอยู่ ***ถ้าป๋มเรียนจบแล้วอย่างแรกที่ป๋มจะทําคือสมัครสส.เพื่อจะได้เป็นรมต.ศึกษาจะได้พัฒนาการศึกษาให้เด็กสมัยนี้รู้ว่าอะไร เรียกว่าคุณภาพ อะไรคือการติแบบลอยๆ อะไรคือการติแบบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไข อะไรคือการอ่านก่อนตอบ อะไรคือการตอบแบบไม่อ่าน อะไรคือการเชียร์แบบตาบอด อะไรคือตอบแบบไม่ใช้หมอง ตอนนั้นเด็กยุคผมคงโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากกว่าคนยุคนี้ที่ยังชมชอบการแสดงที่แข็งแป๊ก แสงที่ไม่เป็นธรรมชาติ การแต่งหน้าแบบงิ้วๆ เนื้อเรื่องที่วนไปวนมาแค่เอางานดีๆมารีเมคให้ห่วยๆ ตบตีแย่งกัน ฆ่ากันยิงกันสะบั้นหั่นแหลก เด็กยุคผมคงงงๆกับการที่มีคนออกมาปกป้องแบบหน้ามืดตามัวแทนที่จะติให้แก้ไข เด็กยุคผมคงยินดีกับการที่ละครคุณภาพ ออกฉายมีคนดูกันทั่วโลกมากกว่า วนเวียนแถวๆอินโดจีน เด็กยุคผมคงรวมตัวกันประท้วงที่มีละครแบบไร้คุณภาพออกมา ฉายผ่านทีวี เด็กยุคผมคงเข้าใจได้ว่าหนังตลาดๆให้ชาวบ้านดูมันก็ทําให้ดีได้ ถ้าจะทํา ที่สําคัญคือเด็กยุคผม คงเข้าเน็ตแล้วอ่านหัวข้อกระทู้และเนื้อกระทู้และทําความเข้าใจก่อนตอบ จากคุณ : จขกท. - [ 22 ก.ย. 51 00:01:47 A:125.24.217.193 X: TicketID:178717 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ต้องมากมายว่าต้องเป็นหนังปีนบันไดดู เอาหนังตลาดสุดๆมาเรื่องนึงจะเน่าสนิทบู๊สนั่นยังไงก็ได้ ที่เอาดาราให้สมบทบาท การพูดการแสดงเป็นธรรมชาติ แสงเงาสมจริง เสือผ้าหน้าผมแบบคนธรรมดาเป็นตามช่วงเวลาและบทบาท บทแม่น่าจะแก่กว่าลูกไม่ใช่สวยกว่าลูกอีก พระเอกนางเอกวันๆไม่ต้องทํางาน แต่ขับรถยุโรปใช้เงินยังกับบ้านพิมพ์แบ๊งค์ปลอม เวลาคุยกัน แดกดันกัน ใช่สีหน้าแบบคน เน้นคนจริงๆเขาเป็นกัน บทตัวประกอบให้หาคนที่เล่นเป็นมาเข้าฉากหน่อยพูดยังกับหุ่นยนต์ เวลามีฉากบู๊ดุเดือด ก็ศึกษาเรื่องอาวุธหน่อย ยิงปืนแต่ประกายไฟยังกับใช้แก๊ป เก่งโคตรๆยิงปืนแม็กนั่มมือเดียว ใช้m16ยิงใส่พระเอก หมดแม็กไม่โดนเลยแค่เฉี่ยวๆ พระเอกลุกยิงตอบนัดเดียวคาที่ ระเบิดตูมตามทั้งเรื่องไม่มีสะเก็ดมาทําร้ายพระ นางของเราได้ ฯลฯ เอาง่ายๆเลยคือเรื่องพื้นฐานทั้งนั้นแต่ทําไมมันถึงได้หายากขึ้นทุกทีก็ไม่รู้ จากคุณ : จขกท - [ 22 ก.ย. 51 00:13:31 A:125.24.217.193 X: TicketID:178717 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าบทยังแก้ไม่ได้.... ขอเนื้อเรื่องเดิม.... แต่โปรดักชั่นดีขึ้น.... จากคุณ : UNFORTUNATELY - [ 22 ก.ย. 51 02:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 #22 ถ้าเอาเรื่องโนดาเมะ(รักกุ๊กกิ๊กในมหาลัยดนตรี) มาดัดแปลงสร้าง เป็นกลุ่มเด็ก ม.ปลาย ที่มุ่งไขว่คว้าตามฝันที่จะสร้างวงดนตรีของตัวเอง บทพูดประมาณว่า "เนี่ย ในอนาคตนะ เราฝันว่า เราอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเองแหละ" "เราเชื่อว่าเราทำได้" "เป็นกำลังใจให้เรานะ" ตัดภาพมาที่คนดูซึ่งเป็นแซ๊บ สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ12 ขโมยตังค์แม่ไปโมมอร์เตอร์ไซต์ ^ ไม่ดีเหรอคะ แซ๊บจะได้รู้ไงว่าโลกเนี้ยมีอะไรน่าทำอีกตั้งเยอะ เราชอบละครญี่ปุ่นตรงเค้าจูงใจให้มุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเองค่ะ ดีกว่าปล่อยให้แซ๊บดูละครแบบเดิมแล้วก็นั่งปลงชีวิตต่อไปนะ จากคุณ : เร่ร่อน - [ 22 ก.ย. 51 06:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ู^ ^ ^ ก็ดีครับ กลัวแต่ว่า มันจะไม่ดูน่ะสิ มาตอบอีกที ถ้าเอาแบบไม่มีแฟคเตอร์อื่นๆมาพิจารณา ผมว่าคนไทยทำได้ครับ และทำได้ดีมากด้วย (แต่เฉพาะบางค่ายเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ทั้งวงการ) ตัวอย่างเช่น ละครในโอกาสพิเศษของค่ายเวิร์คพอยท์ เช่นละครชุด "พ่อ" ที่มีห้าเรื่องย่อย มีบทเนื้อหาการถ่ายทำที่ละเมียดละไม รวมถึงเพลงประกอบที่แต่งขึ้นใหม่อย่างไพเราะ "พ่อถอดรองเท้าไว้ ให้เห็นตรงนอกชาน ครั้นเจ้าเด็กน้อย ลองใส่สวม เดินภูมิใจ" ผ่านมาหลายปีผมยังจำได้เลย(แต่ไม่แน่ใจว่าถูกรึเปล่า -_-") หรือละครชุด ตีลังกาท้าฝัน กล่าวถึงกลุ่มนศ.ที่รวมทีมกันเล่นตะกร้อ ฉะนั้น ถามว่าทำได้มั้ย ตอบเลยครับว่าทำได้ แต่ถามว่ามีคนดูไหม (แล้วคุณๆเคยดูกันไหมครับ เรื่องตีลังกาท้าฝันอ่ะ???) แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ถ้าจะเปลี่ยนทั้งวงการ ให้ละครมันดีขึ้น มีบทที่ดีขึ้น ดาราละเมียดละไมขึ้น จะทำได้มั้ย ?? คงต้องพิจารณาตัวอย่างนี้ครับ สเตฟานเล่นละครเป็นพระเอกเรื่องแรก หลงเงาจันทร์ เล่นแข็งทื่อชนิดสากกระบือเรียกพ่อ หินลับมีดเรียกพี่ แต่ชาวบ้าน แม้แต่คนในพันทิปก็ยังคลั่งไคล้กันมาก จนกลายเป็นพระเอกสุดฮอตไปได้(ในสภาพทื่อๆเป็นสากกระเบืออย่างนั้นแหละ) ละครหมวยอินเตอร์ ที่กำลังออกอากาศอยู่ ถ่ายทำก็แบบง่ายๆบ้านๆ ไม่มีความละเมียดละไม บทก็ห่วย ไม่มีความสมเหตุสมผล นางเอกหน้าขาววอกทั้งๆที่อยู่ในชุดนอน แต่ชาวบ้านก็ชอบดู ดูแล้วก็หัวเราะชอบอกชอบใจ จำเลยรัก ด่ากันใหญ่ว่ารีเมคแล้วรีเมคอีก แต่ด่าไปก็ดูไป ต่อให้ไม่ดูก็ยังชำเลืองมอง วิจารณ์ไป เน้นว่า เป็นกันทุกคน ตั้งแต่แม่ค้า ไปยันหมดที่เข้าเวรในโรงพยาบาล จนแอฟทักษิอร ขึ้นแท่นเป็นดาราแถวหน้า โฆษณาอื้อเลย ผมไม่ได้สนับสนุนผู้จัดละครให้ทำละครง่ายๆบ้านๆออกมานะครับ และผมไม่ได้ดูแบบจริงจังซักเรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็น แรมพิศวาส หลงเงาจันทร์ หมวยอินเตอร์ จำเลยรัก ฯลฯ(เพราะไม่ชอบดูแนวนี้) ตรงกันข้าม เมื่อก่อน ผมเคยด่า ประชดประชันด้วยซ้ำ แต่พอลองมองดูคนอื่นๆ ดูพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ดูย่าผมที่บ้าน ที่หัวเราะเอิ้กอ้าก ชอบดูละครน้ำเน่า ก็เลยพอจะเข้าใจได้ ว่าในเมื่อคนส่วนใหญ่ ยังพอใจ ยังชอบความบันเทิงแบบง่ายๆถูกๆแบบนี้ การจะให้ผู้ผลิตมานั่งละเมียดละไม มันก็คงเป็นเรื่องเกินความจำเป็น ทั้งนี้ถ้ามีผู้จัดรายไหน จะใส่ใจรายละเอียด เรื่องตัวละคร นักแสดง บท ฉาก ฯลฯ ให้มากกว่านี้หน่อย ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี มีแต่คนชื่นชมครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 51 10:03:13 จากคุณ : na_dol - [ 22 ก.ย. 51 07:15:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คห.30 เราคิดว่านั้นไม่ใช่ประเด็นของกระทู้นี้ค่ะ แต่ก็ดีใจนะคะถ้าเป็นแบบที่คุณเล่ามาจริงๆ ในฐานะคนที่มาบอกข่าวที่เราน่าดีใจที่เราไม่เคยรู้เลยให้ใจไปเลยค่ะ จริงๆเราคิดว่าประเด็นของ จขกท.คือ ทำยังไงให้มันไม่ย่ำอยู่กับที่เหมือนที่เคยเป็น ละครไทยอาจจะสนุก เราไม่เถียงค่ะ เพราะมันก็แนวชวนฝันแบบซีรี่ย์เกาหลีน่ะแหละ แต่ทำยังไงให้มันดีขึ้นน่ะค่ะ จริงอยู่ว่าคำว่าดีของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนแค่สนุกดูผ่อนคลายก็เป็นละครที่ดีได้ แต่สังคมไทยต้องการอะไรมากกว่านั้นค่ะ จะดีแค่ไหนถ้าละครไทยสามารถชักจูงให้เด็กไทยหันไปเล่นดนตรีคลาสสิค ได้แบบที่โนดาเมะทำให้เด็กญี่ปุ่นเป็นแบบนั้น จะดีแค่ไหนถ้าละครไทย เป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจสร้างพลังใจให้คนไทยให้สู้ชีวิตแบบที่ซีรี่ย์ญี่ปุ่นทำ จะดีแค่ไหนถ้าละครไทยมีหลากหลายแนวให้คนไทยได้มีโอกาสเลือกดู ไม่ใช่สักแต่ว่ามีแนวซ้ำๆ เดิมๆ ให้ดูอยู่ตลอดเวลา คิดว่าตอนนี้พวกเราไม่ได้กำลังพูดถึงความฮอตฮิต หรือเป็นที่รู้จักของทั่วโลกแค่ไหน แต่เรากำลังพูดถึงว่าจะทำยังไงให้พล็อตเรื่อง บท โปรดั๊กชั่นต่างๆของละครไทยดีขึ้นต่างหาก ที่ติก็เพราะอยากเห็นละครไทยในทิศทางที่ดีขึ้นนะคะ ไม่ใช่จะเหยียบซ้ำให้จมไป เราเชื่อค่ะว่าถ้าละครไทยทำได้ดีกว่านี้ คนที่ติดตามคงจะไม่ได้มีแต่คนดูในยูทูปหรอก จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 22 ก.ย. 51 07:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 wsihboniko, wazabizan, wasashimi  รู้สึกจะคนเดียวกันนะครับ เขาเป็นคนไทยนี่ล่ะครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นแฟนคลับโฬม แล้วก็เล่นอยู่ทั้งในเฉลิมไทย ในบอร์ดช่อง 3 ด้วยครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ผมเข้าบ๊อกยูทูปของเขาแทบทุกวันครับ คนต่างชาติเยอะมาก ผมไปบอร์ดที่คนต่างชาติคุยกันเรื่องละครไทยก็เพราะเขานี่แหละครับ ยังขอบคุณอยู่ทุกวันที่ีช่วยเผยแพร่ละครไทย จากคุณ : รพินทร์ - [ 22 ก.ย. 51 09:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนไทยที่ดีก็มี คนไทยที่ชั่ว ก็เยอะ ... ละครไทยที่เห็นๆ คุณคิดว่า "ส่วนมาก" เป็นผลงานที่ดี หรือผลงานที่เลว อย่าเอาแค่คำว่า "คนเขียนก็เป็นคนไทย" มายึดโยง มันหยาบและตีขลุมเกินไป ผมเขียนไว้ชัดเจนว่า "พระเจ้าส่งคนไทยชนิดที่ไม่ได้ความมาเกิดเยอะหน่อย" .. ผมไ่ม่ได้เขียนว่า "พระเจ้าส่งคนไทยทั้งหมดมาเกิดมีแต่ชนิดที่ไม่ได้ความ" นั่นแปลว่า ในมุมมองของผม เมืองไทยนี้ ดีนักหนา .... แต่ "คนไทยชนิดเฮงซวย" มันมีมากไปหน่อย ... คนทั้งประเทศเป็นคนดีหมดไม่ได้ เป็นคนชั่วหมด ก็ไม่ได้!!! แต่ทุกวันนี้ คนชั่วๆมัน Rule ประเทศและสังคม เกือบทุกภาคส่วน .. ไม่งั้นประเทศเราจะเป็นอยู่อย่างที่เห็นนี้เหรอครับ ... นี่คือความจริงใช่หรือไม่ครับ จากคุณ : sk-sint - [ 22 ก.ย. 51 10:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านผ่านๆ ตา เรื่อง คนเขียนบทเกาหลี ฆ่าตัวตาย เพราะเงินน้อย งานหนัก เราว่าบท สำคัญ คนญี่ปุ่นชอบอ่านหนังสือด้วย เราว่าละครญี่ปุ่น ฮาๆ กะโหลกกะลา ก็ยังแฝงสาระแบบไม่เอียน ส่วนเกาหลี หลังๆ ไม่ได้ดูเท่าไหร่ ไม่ขอออกความเห็น ช่วงแรกๆ ดู autumn in my heart, winter love song, อะไรพยาบาทสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว เขาให้รายละเอียดในตัวละคร  อาหาร เหมือนเราผูกพันกับเรื่องไปด้วย (มีมากตอน ด้วย) และเขาทำละครน้ำเน่า(บางเรื่อง)ให้น่าดูได้ ละครไทยที่ดีๆ ตอนเด็กที่จำได้ก็  คู่กรรม มีฉากทำอาหาร พูดเรื่องวิถีชีวิต (มีหลายตอนกว่าละครตอนนี้) ละครไทยตอนนี้ไม่ได้ดูแล้ว เพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย อาศัยมาเก็บข่าวแถวนี้เอา ความรู้สึกส่วนตัวนะ ตอนนี้ หนังไทย บนเว็บโหลดต่างประเทศ กระแสตอบรับดี ทั้งหนังผี  หนังบู๊   เห็นแล้วก็ภูมิใจ  สมองคนบ้านเราก็มีดีเหมือนชาติอื่นเขา แต่บางทีอยู่ที่อะไรหลายๆ อย่าง (ถ้าพูดแล้วมันก็ยาว) เป็นกำลังใจให้คนไทยนะคะ คนที่เข้ามาตอบก็คงรักประเทศอยากให้หนังละครบ้านเราได้ดี (และได้ตังค์)ทั้งนั้น แต่คนเราสไตล์การแสดงความคิดเห็นไม่เหมือนกัน รักกัน ๆ ปล.บางคนในเว็บต่างประเทศ บอกว่า จีจ้า เก่งกว่าเฉินหลงอีก     น้องเขาเก่งมาก เราเพิ่งดูจบวันนี้เอง จากคุณ : .. (unlovely) - [ 22 ก.ย. 51 14:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ฮึ้ย...กลับเข้ามาดู (โคตรหายากเลย กระทู้ที่นี่ตกเร็วจริงๆ)  เราเป็นคห. 30 ดีใจจังได้ถูกใจกะเค้าด้วย ฮี่ๆขอบคุณนะค้า แต่ถึงยังไง เราก็ต้องยอมรับว่า เราตอบไม่ตรงประเด็นจริงๆ เค้าถามมาอย่างนึง ไพล่ไปพล่ามอีกเรื่องเฉยเลย  (เราอยากเล่าเรื่องนั้นมากกว่านี่นา) ต้องยอมรับว่ายังมีละครห่วยๆอีกจมเลย แล้วก็อย่าเพิ่งไปโทษงบหรือผู้จัดเลย เพราะเค้าทำตามกลไกตลาด คนดูชอบยังไงเค้าก็ทำยังงั้นแหละ ละครบางเรื่องในสายตาเรา เราว่าไม่สร้างสรรค์สังคมเลย และโปรดักชันแย่มาก แต่ก็เป็นยังไงไม่รู้ เรตติ้งโคตรดี  เราก็ไม่สามารถไปดูถูกรสนิยมคนอื่นด้วยว่า ทีเค้าชอบน่ะมันห่วย เพราะเราไม่อาจเอาบรรทัดฐานตัวเองไปตัดสินคนอื่นได้ สไตล์ใครสไตล์มัน แต่ใช่ว่าละครจะแย่ไปหมดทุกเรื่อง  เรามองว่าที่ดีๆก็มี เราก็ส่งเสริมไว้ให้มาก ที่คิดว่ามันแย่ก็อย่าไปพูดถึงมัน อย่าส่งเสริม เดี๋ยวมันก็หายไป แล้วก็จะมีคนที่พยายามทำละครดีๆให้เราได้ดูกันมากๆ และพัฒนาขึ้นเอง จากคุณ : ปัน (ปัน) - [ 22 ก.ย. 51 21:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อย่างหนึ่งคือ ประเทศไทย ไม่มีเป้าหมายหลักที่แน่นอน นโยบายไม่ว่าจะชุดไหนๆ จะมุ่งไปสะทุกด้าน ผมเข้าใจว่ามันต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน แต่ควรจะโฟกัสให้แคบว่านี้หน่อย สร้างด้านๆ หนึ่ง ให้มันเป็น core competency ของประเทศไทย เรื่องท่องเที่ยวก็ได้ แล้วค่อยเอางบกำไรจากด้านนั้น มาพัฒนาๆ ด้านอื่น เล่นพัฒนาพร้อมกันไปทุกด้านอย่างงี้ จะเป็นครัวโลก จะเป็นศูนย์กลางแฟชั่น จะเป็นแหล่งการลงทุนชั้นยอด ฯลฯ ก็ตายสิครับ - - กลายเป็นเป็ดน้อยก๊าบๆ จากคุณ : ต่ายหมายจันทร์ - [ 25 ก.ย. 51 21:46:40 ]