| ยุทธเลิศ สิปปภาค (4 คน) |
|
 |
|
| พจน์ อานนท์ (2 คน) |
|
 |
|
| เรียว กิตติกร (8 คน) |
|
 |
|
| ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร (7 คน) |
|
 |
|
| ยงยุทธ ทองกองทุน (6 คน) |
|
 |
|
| บัณฑิต ฤทธิ์ถกล (11 คน) |
|
 |
|
| พาณิชย์ สดสี (0 คน) |
|
 |
|
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 38 คน |
"หนังตลก" ใช่ว่าจะเอาตลกมากำกับฯ ใช่ว่าจะเอาตลกมาเล่น
กว่าจะเป็น "หนังตลก" ให้ได้ดูกันนั้น..ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนหลากหลายอาชีพ จะเห็นว่าทุกๆเรื่องล้วนมีคุณภาพ มีสิทธิ์เข้าตากรรมการได้ ถ้าคุณจะยอมยิ้มอย่างขำๆไหม
ปัจจุบัน มีหนังตลกที่ทำเงินเกินเกณฑ์หนึ่งร้อยล้านบาทอยู่ 5-6 เรื่อง และหนังตลกที่ทำได้ดีเทียบเท่ากับหนังไม่ตลกก็มีตั้งหลายเรื่องนับไม่ถูก ซึ่งก็มีทั้งผลงานของผู้กำกับที่เป็นดาราตลก และผู้กำกับที่มิใช่ดาราตลก ..แต่ก็สามารถทำตลกให้คนดูสุขใจจนได้เงินได้ทองมากมายขนาดเนี้ย
ตลกกำกับหนังที่แฟนๆให้ความไว้วางใจสูงสุดอันดับต้นๆ ก็มีตั้งแต่ยุคของล้อต๊อก มาถึงยุคของ หม่ำ จ๊กมก, จตุรงค์ มกจ๊ก และ โน้ต เชิญยิ้ม
ส่วนคนธรรมดาที่กำกับหนังตลกก็มีอยู่มากมายทั้งที่คุ้นชื่อและไม่ค่อยคุ้นชื่อ คนที่เราๆคุ้นชื่ิอก็คือผู้กำกับที่ให้ความไว้วางใจเป็นอันดับต้นๆ มีผลงานภาพยนตร์แนว comedy (หรืิอเอาดาราตลกมาเล่น) ที่โดดเด่นจนกลายเป็นมาสเตอร์พีซของตนเองไปแล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งแง่รายได้ คำชม และรางวัล ไม่ก็อย่างใดอย่างหนึ่ง ผมเองก็พอเอ่ยชื่อได้แค่นี้ มีใครบ้างนะ.. แต่ว่าคนต่อไปนี้จะเป็นตัวเลือกให้คุณได้ร่วมแสดงความชื่นชอบที่สุดแห่งยุคกัน มีเพียง 7 ท่าน
1.ยุทธเลิศ สิปปภาค
ชายชื่อ ต้อม จบจาก ศิลปากร แจ้งเกิดจากการกำกับหนังเรื่องแรก "มือปืน โลก/พระ/จัน" ซึ่งใช้ดาราตลกคาเฟ่มาประกบกับ เต๋า สมชาย เข็มกลัด ทำเงินจนทะลุร้อยล้าน สร้างชื่อให้เขาและอาร์เอส(เพียงเรื่องเดียวในชีวิต) หลังจากนั้นก็ทำต่ออีกหลายเรื่องให้ค่ายไหนก็แล้วแต่ ส่วนมากมักเป็นหนังตลก ใช้ดาราตลกหลากหลายระดับ ไม่ว่าจะตลกคาเฟ่ ตลกปัญญาชน ตลกร้อยล้าน หากไม่นับเรื่องอีติ๋มฯ ผลงานที่ผ่านมาของเขาก็มี "บุปผาราตรี" 1-2 (เด่น เด๋อ ดู๋ ดี๋), "โกยเถอะเกย์" (เปิ้ล หอย จากสาระแน), "สายล่อฟ้า" โดยเฉพาะเรื่องหลังถึงขนาดเอา โหน่ง ชะชะ่ช่า มาเป็นพระเอกของเรื่องด้วยสิ
2.พจน์ อานนท์
ทำแมกกาซีนเอาใจวัยรุ่น ปั้นดาราดังๆมาก็เยอะ หันมาทำหนังเริ่มจากหนังวัยรุ่นแนวสะท้อนสังคม จนมาถึงเรื่อง "ปล้นนะยะ" ทำให้ชื่อของพจน์เป็นที่ชื่นชอบและจับตามองมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการเอาตลกดังๆ มาทำเป็นแต๋ว จนมีหนังตลกแต๋๊วตามมาอีกอย่าง "หอแต๋วแตก" ที่ไม่แต๋วนักก็มีเรื่อง "เหยิน-เป๋-เหล่ฯ" และ "เอ๋อเหรอ" ซึ่งเอา โหน่ง ชะชะช่า(อีกแล้ว) มาเป็นคุณพ่อของลูกชายเอ๋อ มีเพื่อนสาวคือน้องเกรซ ลูกเสี่ยเจียง ได้รับคำชมพอสมควรกับหนังชีวิตปนตลกเรื่องนั้น เรื่องต่อไปยังไม่แน่...แต่เท่าที่ทราบจะทำในนามของค่ายพระนครฟิลม์
3.เรียว กิตติกร เลียวศิริกุล
ชายหน้าตี๋ ผ่านงานมาหลายสื่อ กำกับหนังเรื่องแรก "18-80 เพื่อนซี้ไม่มีซั้ว" และตามมาอีกหลายเรื่องหลายแนว แต่เรื่องที่ทำให้แฟนหนังเข้าไปดูกันมากก็มักจะเป็นหนังตลก ไม่ซ้ำเรื่องทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น "พรางชมพู" (แต๋วประจัญบาน), "เมล์นรก หมวยยกล้อ" จนมาถึง "ดรีมทีมฯ" ล้วนได้รับเสียงชื่นชมไปไม่น้อย
4.ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร
เคยทำรายการทีวีขายความฮามาหลายรายการ หันมาทำหนังใหญ่ดูบ้าง แน่นอน...เอาดาราตลกคาเฟ่มาเล่นประกบกับดารานักร้อง(ค่ายเดียวกัน) ประสบความสำเร็จทุกเรื่องตั้งแต่ "พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า" , "แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า" , "โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า" ..ส่ายหน้ากันทั้งนั้น เรื่องหน้าจะส่ายหน้าอีกป่าว แฟนๆเอาใจช่วย
5.ยงยุทธ ทองกองทุน
จาก หับ โห้ หิ้น ซึ่งเคยทำแต่หนังโฆษณา มาทำหนังใหญ่เรื่องแรกว่าด้วยเรื่องของเหล่านักกีฬาชายสวย.. "สตรีเหล็ก" ก็โด่งดังพลุแตก ตอกย้ำอีกด้วยภาคสอง ซึ่งทั้งสองครั้งก็ไม่ลืมที่จะขนมุกเด็ดๆมาอวดให้เป็นที่ติดปากสตรี..เทียม ถึงแม้จะไม่ใช้ดาราตลกคาเฟ่มาเป็นจุดขาย หลังจากนั้นก็สร้าง "แจ๋ว" , "แก๊งชะนีฯ" และหันมาลองทำหนังไม่ตลกดู ส่วนเรื่องหน้าเขาจะกลับมาขายหัวเราะกันอีกไหม หรือจะยอมถอยหลังไม่ทำอีก แต่เท่าที่รู้ๆ..คนนี้แหละที่ผลักดันให้ จตุรงค์ มกจ๊ก ยืนเด่นในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์อีกคนในสังกัดของพี่สินเอง จากผลงานเรื่อง "โกยเถอะโยม" (จนนายยุทธเลิศต้องขอใช้ชื่อหนังว่า โกยเถอะเกย์ ให้คนอื่นเล่นบ้าง)
6.บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
ชายร่างอ้วนท้วม หน้าคล้ายๆพี่สิน แต่แก่กว่าและเก๋ากว่า เพราะทำหนังมาสามสิบปีแล้ว เขียนบท กำกับ เคยเล่นมาบ้าง ผลงานที่ทำมาก็มีหลากหลายแนว ได้รับเสียงชมไปไม่น้อย ไม่เ้ว้นหนังตลก อย่างเช่นผลงานอมตะเรื่อง "บุญชู" จาก 1-9 ซึ่งใช้ดาราระดับปัญญาชนมาทำตลกตลอดทุกภาคที่ผ่านมา ก็คงไม่มีใครได้ดูเรื่องนี้แล้วไม่ได้ยินชื่อของเขา ..ระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าผู้ชม ผลงานเรื่องต่อไปรอคุณพิสูจน์อยู่
7.พาณิชย์ สดสี
คนนี้จะขาดไปไม่ได้ ถ้าไม่มี "เวิร์คพอยท์" ก็จะไม่มีพี่โอ๋ ผู้อยู่เบื้องหลังให้กับรายการดีๆ หลายรายการ เมื่อเวิร์คพอยท์มาทำหนังร่วมกับค่ายใบโพธิ์ ก็ขอกำกับเองและควบคุมเอง ผลงานที่ผ่านมาของเขาก็มักจะใช้ดาราตลก(ในสังกัด)มาเป็นจุดขายแถมใช้ชื่อดารามาตั้งเป็นชื่อเรื่อง ตั้งแต่หนังย้อนยุค "โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง" ที่สร้างชื่อให้กับพวกเขา ทำรายได้เป็นร้อยล้าน จนถึง "หม่ำ เดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม" แล้วเรื่องต่อไป...จะใช้ชื่อว่าอะไรดี (ช่วยเลือกกันหน่อย)
คุณชอบใครมากที่สุด เชิญ....
ทุกคะแนนเสียงจะเป็นประโยชน์ต่อไป สวัสดี
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 51 16:50:31
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 51 16:48:57
จากคุณ :
คนหยังเขียด
- [
9 ต.ค. 51 16:45:52
]