ความคิดเห็นที่ 1 ก็ยังดีกว่าให้เด็กไร้เดียงสาคนนึงเจอกับความจริงอันปวดร้าว..เเละที่สำคัญ เค้าทำเพื่อปกป้องลูกเค้ามิใช่หรือครับ...?? จากคุณ : leummao - [ 12 ต.ค. 51 10:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณอยากให้ลูกคุณ ถูกทำร้ายจนตายหรืออยากให้ลูกคุณมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขละครับ จากคุณ : et009 - [ 12 ต.ค. 51 10:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การ "หลอกตัวเอง" คือการทำเพื่อตัวเอง จากคุณ : Heathen Chemistry - [ 12 ต.ค. 51 11:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...ขอตอบคำถามที่ว่า 'สวยงามตรงไหน?' ความสวยงามของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ ความรักของพ่อที่มีต่อลูก และ ความรักของสามีที่มีต่อภรรยา เป็นความรักของพระเอกที่พยายามทำทุกวิถีทางที่จะปกป้อง โลกของคนสองคนที่ตัวเองรักให้สวยงาม ไม่ว่า รอบข้างจะโหดร้ายทารุณเพียงใด ... ส่วนเรื่อง หลอกตัวเอง ถ้าดูให้ดี พระเอก ไม่ได้หลอกตัวเอง เขารู้ชะตากรรม รู้ทุกอย่างที่เลวร้าย สังเกตจากสีหน้าหลายต่อหลายฉาก สิ่งที่จะ ผิดหลักการอยู่บ้าง ก็คงตรง การโกหกลูก แต่ อย่าลืมว่า ในบางช่วงเวลา การใช้ ความจริงทุกอย่าง ไม่ใช่ ทางแก้ปัญหาที่ดีเสมอไป โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาที่เราคาดว่า กำลังจะตาย เหมือนในหนัง ตัวอย่างเช่น ... ถ้าเรากำลังจะตายจากอุบัติเหตุในไม่กี่วันข้างหน้า แต่หมอตรวจเลือดเจอว่าคุณเป็นเอดส์ และ ญาติแอบเห็น ภรรยาคุยกับชู้รักหน้าโรงพยาบาล คุณจะอยากรู้ความจริงสองข้อข้างต้นหรือไม่ จริงที่ว่า บางคนอยากรู้ความจริงทุกอย่างในชีวิต และ อยากให้คนมาบอก เพราะไม่อยากโดนหมิ่นศักดิ์ศรี แต่ผมก็เชื่อว่า มีอีกหลายคนที่ไม่ได้อยากรู้ เพราะ รู้ ความจริงไปไม่ได้อะไร นอกจาก ทำร้ายจิตใจให้เจ็บปวดมากยิ่งขึ้น ...ดังนั้นการไม่บอกความจริงชั่วคราว อาจช่วยให้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้ แต่สุดท้ายเราก็ควรเผชิญหน้ากับความจริง และ ในขณะเดียวกัน ถ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ไม่ควรใช้วิธีการโกหกไปตลอดชีวิตเช่นกัน ป.ล. และ อย่าลืมว่า การโกหกในหนัง เป็นส่วนหนึ่งของ การปลูกสร้าง ความหวัง ให้ลูกชาย เช่นกัน ซึ่งหลายต่อหลายคนที่ถูกกักขัง แทบจะยอมตาย เพราะไม่เหลือความหวังใดๆอีก เมื่อเห็นความจริงที่โหดร้าย แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 51 11:12:28 แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 51 11:11:06 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 12 ต.ค. 51 11:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ได้ข่าวว่าสปิลเบิร์กเคืองหนังเรื่องนี้เอาการ   เขาบอกว่าเรื่อง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว   ไม่ควรนำมาล้อเลียนเป็นเรื่องตลก... จากคุณ : ole (trufa) - [ 12 ต.ค. 51 11:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 12 ต.ค. 51 11:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มันไม่ตลกนะคะ ตอนจบเศร้าอย่างแรง เรายกย่องคนเขียนบท เป็นหนังที่น่าประทับใจมาก จากคุณ : เพื่อเธอจ้า - [ 12 ต.ค. 51 11:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราชอบเรื่องนี้มากที่สุด เป็นเรื่องที่ตราตรึงในจิตใจมาก ๆ เห็นด้วยกับคห. 4 ทุกประการค่ะ หนังเรื่องนี้สมแล้วที่ชื่อว่า Life is Beautiful ชีวิตคนเราจะสวยงาม จะดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับเราค่ะ ว่าจะทำให้ชีวิตเป็นแบบไหน ต่อให้สถานการณ์รอบข้างเลวร้ายสักเท่าไหร่ ถ้าเรารู้จักคิดในแง่บวก มันก็จะบวกขึ้นมาเองแหล่ะค่ะ เหมือนกับการที่เราเครียดในเรื่องบางเรื่อง แต่เมื่อลองยิ้มดูแล้ว อะไร ๆ ก็จะสดใส จากคุณ : kazuharu - [ 12 ต.ค. 51 12:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บนสถาณการณ์ที่โหดร้ายแบบนั้น การสร้างโลกสวยงามให้เด็กตัวเล็กๆคนนึง เราว่าไม่ใช่การหลอกตัวเองซะหน่อย ถ้าคุณยืนอยู่ในจุดนั้น คงมีหลายครั้งๆที่คุณเองก็คงอยากจะทำแบบนี้ จากคุณ : หนีแม่มาอาร์ซีเอ - [ 12 ต.ค. 51 12:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะหนังเรื่องนี้จึงหามุมมองที่ดีๆได้บ้างจากสงครามค่ะ จากคุณ : thedude - [ 12 ต.ค. 51 12:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องการมองโลก การตีความภาพยนต์ คงเป็นเรื่องของทัศนะคติส่วนตัว วุฒิภาวะ และประสบการณ์แต่หนหลัง ของแต่ละคน ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองมุมไหน ป.ล.ท่านเจ้าของกระทู้ลองไปดูเรื่อง Stand By Me มาดูซิครับ เรื่องนั้นเด็กๆได้เห็นคนตายเต็มๆเลย จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก - [ 12 ต.ค. 51 12:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าคุณเป็น "พ่อ" คน แล้วล่ะก็ จะรู้สึกดีครับ... ว่าในบางช่วงชีวิต คงไม่อยากให้ลูก "เล็กๆ" มารับรู้อะไรทีุ่ "โหดร้าย" เกินกว่าวัยที่ควรจะแบกรับได้... เพราะเมื่อเขา "โตขึ้น" เขาก็จะ "รับรู้" และ "เข้าใจ" ในสิ่งที่ผ่านๆ มาเอง ไม่จำเป็นต้องให้เขารู้ "ทั้งหมด" ในยามเด็ก เพราะมันอาจ "ทำร้าย" เด็กคนนั้น ให้ "ฝังใจ" ในสิ่งเลวร้าย ทั้งๆที่ตนเอง ยัง "ไม่เข้าใจ" อะไรสักอย่างเลย และอาจต้องเติบโตมา อย่างเด็กที่มีปัญหาต่อไป... ก็เหมือนกันการ "แบ่ง Rating" ของหนังแหละครับ การที่้ห้ามเด็ก ดูหนังบางเรื่อง คงไม่ใช่การ "ปิดหูปิดตา" เพียงแต่ว่า "เวลา" ที่เหมาะสมในการรับรู้นั้น ยังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง... ผมจึงเชื่อแน่ว่า พอลูกของกุยโด้ (พระเอกของเรื่อง) เติบโตขึ้น เขาจะย่อมเข้าใจในเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี และคงเข้าใจ ในสิ่งที่ "พ่อ" ของตนทำว่า ไม่ใช่การหลอกลวงเขา... แต่คือการปกป้องเขาต่างหาก... จากคุณ : Nice Guy Forever - [ 12 ต.ค. 51 13:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เด็กขนาดนั้น ถึงบอกจริงว่าเป็นสงคราม ก็ไม่รู้จะเข้าใจขนาดไหน ยังไงก็ต้องหาทางซ่อนตัวค่ะ จะซ่อนอย่างหวาดกลัว หรือจะซ่อน เหมือนเล่นซ่อนหาดี ถ้าคุมความกลัวของเด็กไม่ได้ เด็กโดนจับไปแน่ๆค่ะ ซ่อนยาก และเด็กๆ คือคนกลุ่มแรก ที่โดนรมแก๊สค่ะ เนื่องจากทำประโยชน์ไม่ได้ และเปลืองอาหาร ที่จริงเรื่องสงครามที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวนี่ เรื่องของแต่ละครอบครัว เอามาพล็อตทำหนังได้อีกหลายเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ คนที่ไม่ได้เป็นคนยิว แล้วช่วยเอาเด็กๆยิว มาซ่อนไว้ แล้วรอดชีวิตนะ มันสวยงามอ่ะ บางคนเป็นศัตรูระหว่างเชื้อชาติกันแท้ๆ จากคุณ : BoomK - [ 12 ต.ค. 51 13:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้ suck ให้ถูกนะ Life sucks ไม่ต้องมี is จากคุณ : วี - [ 12 ต.ค. 51 13:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จินตนาการ หรือการมองโลกในแง่ดี ทำให้เราลืมด้านที่โหดร้ายของโลกได้ แม้จะชั่วขณะหนึ่ง กำลังใจ ที่แม้จะสร้างจากจินตนาการ หรือความหลอกลวง อย่างน้อยก็ช่วยให้เราอยู่รอดได้ในเวลาขับคัน...หลังจากนั้น ก็ค่อยมาลุยกันมันอีกครั้ง เรามองว่า สิ่งที่พ่อปฏิบัติต่อลูกใน Life is Beautiful ก็เหมือนกับ พ่อจากเรื่อง Big Fish ที่คอยแต่งเติมจินตนาการในชีวิต  เพราะคิดว่า ชีวิตของเขาที่ราบเรียบช่างไม่น่าสนใจ และไม่น่าจดจำสำหรับลูกชาย และเหมือนที่เด็กหญิงสร้างจินตนาการถึงโลกนิทานของเธอแทนความจริงอันโหดร้าย ใน Pan's Labyrinth แม้ตัวเราเอง ต่างก็เคยพยายามหลอกตัวเองในบางครั้งคราว ใช้จินตนาการเเป็นกลไกที่คอยป้องกันความเจ็บปวด จากคุณ : Quasar - [ 12 ต.ค. 51 13:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นี่แค่เห็นชื่อหนัง Life is Beautiful น้ำตาก็ไหลแล้ว ประทับใจจริงๆ จากคุณ : ตะขบเขียว - [ 12 ต.ค. 51 14:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าเรื่องนี้มันแฝงปรัชญาแบบ Existentialism ไว้นะครับ ปล.ขโมย Log in น้องสาวมาตอบ จะโดนด่าไม๊เนี่ยตู แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 51 23:22:06 จากคุณ : Kenkyo - [ 12 ต.ค. 51 14:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การที่เราหลอกตัวเอง แต่ไม่ทำร้ายใคร แค่นั้นก็เกินพอแล้วละครับ เพราะมันก็เพื่อให้ใครคนนึงได้รับความสุข บางครั้งสิง่ที่ร้ายๆ ถ้าเรารู้จักมองโลกในแง่ดี มันก็จะดีขึ้นมาด้วยแหละครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) - [ 12 ต.ค. 51 14:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลอกลูกน่ะใช่ แต่หลอกตัวเอง ... ตรงไหน? จากคุณ : Just My Opinion - [ 12 ต.ค. 51 14:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่าดีแล้วที่ตัวพ่อเค้าทำแบบนั้น เป็นหนังที่สวยงามมากนะ จากคุณ : น้องพอใจไม่พอใจ - [ 12 ต.ค. 51 14:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การบอกความจริงกับลูก มีประโยชน์ตรงไหน การหลอกลูกไม่ดีตรงไหน จากคุณ : นส - [ 12 ต.ค. 51 15:29:28 A:58.8.63.194 X: TicketID:123154 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทำสอบไม่ได้เหรอ ปิดเทอมแล้วน่า ใจเย็น... จากคุณ : BloodyMonday - [ 12 ต.ค. 51 15:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบมากครับเรื่องนี้ ชอบตอนจีบกัน จากคุณ : Animator - [ 12 ต.ค. 51 15:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบนะ ดีออก พ่อเค้าเปนคนมองโลกในแง่ดีอ่ะ น่ารัก ออก ใครๆก็อยากปกป้องลูกตัวเอง  เปนวิธีที่ ดีอ่ะ เหมาะ กับสถานการณ์ ดูกี่ที ก้อยัร้องไห้ เหมือนเดิม จากคุณ : KooKiC - [ 12 ต.ค. 51 15:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทุกครั้งที่เห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ก็อยากจะส่งเสียงบอกบ้างว่ายังมีคนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้เอามากมากอยู่ ผมเป็นหนึ่งในนั้น หลักๆมาจากตัวพระเอก ที่แสดงอารมณ์ในมุมที่เกินจริง และออกมาในแนวบ้าบอ จนสารที่ต้องกาารจะสื่อจะส่งมันผิดเพี้ยนไปหมด ถึงขนาดพอมาถึงฉากจบ ผมเองก็ยังรู้สึกไม่รักตัวละครพระเอกตัวนี้ และเออ นะ ...ก็ดีแล้ว จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) - [ 12 ต.ค. 51 16:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลูกจะดูใครเป็นตัวอย่างถ้าไม่ใช้พ่อ ลูกจะเชื่อใครถ้าไม่ใช่พ่อ แล้วถ้าพ่อท้อแท้สิ้นหวังหดหู่ ลูกจะเป็นยังไงอ่ะ เด็กไม่รู้เดียงสา อยู่ในภาวะสงครามอันโหดร้ายแบบนั้น แค่คิดก็แย่แล้ว เราว่าพระเอกในเรื่องนี่"เป็นคุณพ่อตัวอย่าง"เลยนะคะ จากคุณ : ลูกพริกไทย - [ 12 ต.ค. 51 16:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มองอีกมุม :) จากคุณ : the'60s - [ 12 ต.ค. 51 18:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ฮืออๆๆๆๆ   สปอยล์ อะ อ่านไปแล้วด้วย เด๋วกลับไปดูก็ได้ จากคุณ : lightfellow - [ 12 ต.ค. 51 18:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเราเป็นพ่อเด็ก เราก็คงทำแบบนั้นเหมือนกันค่ะ จากคุณ : LilyEther - [ 12 ต.ค. 51 18:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มันสะท้อนจิตใจของคนคนนั้นได้ดี ในทุก ๆ คห จากคุณ : โอจารุมารุ - [ 12 ต.ค. 51 18:53:11 A:58.64.17.198 X: TicketID:181915 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นหนังเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวเพียงไม่กี่เรื่องที่ผมชอบ (อีกเรื่องคือ  Schindler's List) เหตุการณ์ในเรื่องเป็นสิ่งที่เครียดมาก ๆ แต่บทของพระเอกทำให้หนังดูซอฟท์มากขึ้น ทั้งการพูดมาก  การชอบเล่น  ความคิดสร้างสรรค์   ในตอนที่เครียดสุด ๆ ก็ยังหาทางออกด้วยการมองโลกดี ๆ ได้ แม้กระทั่งตอนวินาทีจะเป็นจะตาย (คืนสุดท้ายก่อนสงครามจบ) โดนทหารลากตัวไป  ยังทำเป็นเล่นให้ลูกชายดูเลย อย่างน้อยก็ปกป้องความรู้สึกของลูกไม่ให้เขาพบกับความจริงที่โหดร้ายก่อนวัยอันควรได้ เพราะกว่าลูกชายจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ก็ตอนที่โตขึ้นแล้ว ตามที่หนังได้บรรยายก่อนจะจบเรื่อง พระเอกไม่ได้หลงตัวเองนะครับ  รู้ทุกอย่างว่าจะเป็นอะไรยังไง   มีหลายครั้งที่พระเอกเหนื่อยหน่าย  ผิดหวัง  หมดแรงสู้ แต่เมื่อมองดูลูกชายก็กลับมีแรงกายแรงใจขึ้นมาเพื่อปกป้องลูกชายต่อไปให้ถึงที่สุด จากคุณ : ชีวิตนี้สวยงามเสมอ (ขุนไกรครับผม) - [ 12 ต.ค. 51 18:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความเห็นที่ 22 ผมขอสมเพชคุณนะครับ ผมว่า จขกท. เค้าก็ถามดีๆ ในมุมมองของเค้า ไม่ได้ใช้คำหยาบ ไม่ได้มีลักษณะของคนไม่มีวุฒิภาวะเลย มีแต่คุณที่พอเข้ามาอ่าน     ก็ทำตัวแสดงว่าตัวเองเกรียนเอง จากคุณ : ปล่อยใจ - [ 12 ต.ค. 51 19:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห.บน ให้เดาๆเอาคิดว่าคห.22เล่นมุกมั้งครับ เพราะที่มหาลัยมีวิชาดูและวิจารณ์หนัง(รู้สึกชื่อเต็มๆจะเป็นวรรณกรรมผ่านสื่อสมัยใหม่มั้ง) และวิชานี้เปิดหนังเรื่องนี้ให้ดูทุกปีเลย จากคุณ : watabo - [ 12 ต.ค. 51 19:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดูหนังเรื่องนี้จบ มันปวดร้าวมาก ทั้งๆ ที่รู้นะคะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในตอนจบ แต่ดูแล้วก้ออิ่มค่ะ อิ่มในความรักที่พ่อมีต่อลูก ปกป้องลูกทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ อิ่มในความรักที่สามี มีต่อภรรยา อิ่มใจกับกำลังใจของพระเอก กับการกระทำของเค้าที่พยายามมองทุกอย่างให้มันออกมาดี เพื่อที่เค้าจะได้พลัง มีกำลังใจอยู่ต่อไปในแต่ละวัน จากคุณ : บูชิตา - [ 12 ต.ค. 51 20:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราคิดว่าหนังไมได้ต้องการจะสื่อให้คนรับรู้ว่าการโกหก เพื่อปกป้องเด็กชายที่เป็นลูกในไส้ของพระเอกเป็นสิ่งที่ดีเพียงด้านเดียวนะ แต่ว่า(ตามความเข้าใจเรานะ)หนังน่าจะตั้งใจทำเพื่อให้เป็นที่สงสัย หลายๆแง่มุมแบบที่ จขกท.กำลังสงสัยแบบนี้แหละ ซึ่งก็เป็นการตั้งข้อสงสัยในแง่มุมนึงอ่ะนะ ส่วนเรื่องมันสวยงามตรงไหน เราคิดว่าหลายๆคห.คงให้คำตอบ จขกท.ได้แล้ว ส่วนเราเป็นความสวยงามของหนังเรื่องนี้มากมาย ความสวยงามของความรัก ของบุพการีที่ปรารถนาดีต่อลูกชาย ที่ไม่อยากให้พบเจอกับความโหดร้ายของสงคราม ความปรารถนาดี ความรักที่พ่อมีต่อลูกจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต รอยยิ้มและการหยอกล้อที่พ่อมีให้ลูกชาย แม้จะรู้ว่าจะถูกเอาไปฆ่าในฉากสุดท้าย แค่นี้ยังสวยงามไม่พอเหรอคะ? จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 12 ต.ค. 51 20:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 งั้นพ่อหมูแฮมก็ำไม่ผิด จากคุณ : ZeroEnna - [ 12 ต.ค. 51 20:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โห....#36 คะ เอาตรรกะหมวดไหนมาคิดเนี่ย... กรณีในหนัง พ่อและลูกกำลังเดือดร้อนสาหัสถึงชีวิตด้วยการกระทำของ คนอื่น...พ่อพยายามปกป้อง ถนอมความรู้สึกของลูกด้วยการโกหกสีขาว (White Lies) สร้างโลกขึ้นมาอีกโลกหนึ่งซ้อนบนความจริงอันแสนโหดร้าย ที่มนุษย์เข่นฆ่ามนุษย์ด้วยกันเพียงเพราะต่างเชื้อชาติ... แต่คดีที่คุณว่า คุณลูกสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแต่คุณพ่อพยายาม ทำให้"เชื่อ"ทั้งตัวเองและลูกว่า เป็นการป้องกันตัว หรือ ไม่ตั้งใจ หรืออะไร ก็ตาม เพื่อทำให้ตัวเองพ้นผิด มันคนละด้านเลยนะคะ.... จากคุณ : กุ๊กกลาง - [ 12 ต.ค. 51 20:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ในหนังพ่อออกไปโกหกว่าแปลภาษาเยอรมันได้เพื่อปกป้องลูกโดนไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นยังไงมันดีหรอนั้น พระเอกทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจคนอื่นทั้งเรื่องเลยที่ผมดู สวยงามสำหรับชีวิตเค้าและลูกแต่กับคนอื่นรอบข้างไม่แน่อะ จากคุณ : ZeroEnna - [ 12 ต.ค. 51 20:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่า จขกท มีปัญหาต่อการมองโลก และบางครั้งคนเช่นนี้มีปัญหากับโลก จากคุณ : TOKIM - [ 12 ต.ค. 51 21:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ... คห.36 นี่ สั้นได้ใจ นะคะเนี่ย 555 เฮ้อ ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าจะพูดคงยาวมาก ขี้เกียจพิมพ์ นึกถึง คำที่  พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่า "เรื่องบางเรื่อง อธิบายจะเข้าใจ บางเรื่องไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจ แต่เรื่องบางเรื่องถึงอธิบายไปก็ไม่เข้าใจ" เพราะฉะนั้น............. เราต้องเลือกคนที่คุยด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีโอกาสเข้าใจ ไอ้ประเภท บัวเต่า:-) น่ะ ไม่เสียเวลาอธิบายดีกว่า ปล. บัวเต่า:-) แปลว่าอะไร มีใครเดาถูกมั้ยคะ แฮะ ๆ ถ้ามีคนทายเดี๋ยวจะมาเฉลยให้ค่ะว่า จริง ๆ คือ อะไรน้าค้า แต่ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นไรน้าค้า ... ปล. อีกทีนะคะ แอบอยากรู้ว่า ถ้าเป็นจขกท อยู่ในเหตุการณ์แบบนั้นจะใช้วิธีฉลาดยังไง ทำให้ลูกดำเนินชีวิตต่อไปได้คะ ช่วยบอกหน่อยน้าค้า เหี่ยวอยากรู้จริงๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : อยากน่ารักน้อยลง - [ 12 ต.ค. 51 21:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมว่าหลายๆ ท่านก็จ่มเจ้าของกระทู้แรงไป ผมยังไม่ได้ดู แต่ผมว่าตัวหนังเองก็สะท้อนให้เห็นทั้งสองด้านอยู่แล้วี่ครับ การที่คนจะดูแล้วมองว่าหนังเรื่องนี้เศร้า หรือมองว่าเรื่องนี้โหดร้าย มันก็ขึ้นอยู่กับคนนนี่ครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้เองก็ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งโกรธ จนจ้องจะเอาชนะที่เขาแขวะ ลองมองดูหนังสบายๆ อีกที ค่อยๆ ชิมอารมณ์ของตัวหนังเข้าไป แล้วจะสนุกกับมัน จากคุณ : cdaz - [ 12 ต.ค. 51 23:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 40 บัวเต่า...:-) ใช่ไม๊เอ่ย ถ้าไม่ใช่ถือว่ามาโชว์โง่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า Turtle Is Beautiful  555 จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก - [ 13 ต.ค. 51 00:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบไปแล้วจ้าแต่เพิ่งรู้ว่ามี กรองคำหยาบ 555 จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก - [ 13 ต.ค. 51 00:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คห.  25  คนตามสื่อ ที่คุณบอกว่า "ทุกครั้งที่เห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ก็อยากจะส่งเสียงบอกบ้างว่ายังมีคนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้เอามากมากอยู่ ผมเป็นหนึ่งในนั้น หลักๆมาจากตัวพระเอก ที่แสดงอารมณ์ในมุมที่เกินจริง และออกมาในแนวบ้าบอ จนสารที่ต้องกาารจะสื่อจะส่งมันผิดเพี้ยนไปหมด" ผมว่าคุณเองยังตามสื่อไม่ถึงแก่นจริงๆ ละมังครับ   ประเด็นที่ว่าคุณไม่ชอบ ...ผมไม่ออกความเห็น เพราะถือเป็นรสนิยมและทัศนคติส่วนตัวไป แต่ตรงประเ็ด็นที่ว่าแสดงอารมณ์ออกมาในมุมที่เกินจริงและบ้าบอ..สารที่จะสื่อมันเพี้ยนไปนั้น ...... ตรงนี้ผมขอแย้งนิดนึงละกันครับว่า เค้าสื่อสารได้ดี และถุกต้องตามแบบฉบับ ลักษณะนิสัยของคนชาตินี้ ที่มีคนคาแรคเตอร์แบบนี้อยู่จริงๆ ในโลกจริงๆ แม้กระทั่งในสมัยปัจจุบันนี้ก็ตาม การสื่อสาร การแสดงออกบางอย่าง คนในแต่ละชาติภาษา เค้าก็มีเอกลักษณ์ของเค้าเอง ดังนั้นถ้าคุณยังไม่รู้ ไม่ได้ตามศึกษาจริงจัง ก็อย่าเพิ่งไปตัดสินตามแนวคิดส่วนตัว ว่าเค้าเกินจริงและบ้าบอ ไม่สือเลย เหมือนคนไทยไม่เก็ทมุกตลกฝรั่ง  และฝรั่งไม่เข้าใจตลกคนไทยนั่นแหละ ทำยังไงก็ไม่ขำ ไม่เข้าใจ เพราะแนวคิดและวัฒนธรรมการใช้ชีวิตมันต่างกัน ถ้าคุณเข้าใจมากกว่านี้ จากไม่ชอบอาจจะชอบก็ได้นะ จากคุณ : สายน้ำ ||เวอร์ชั่นล็อคอิน|| - [ 13 ต.ค. 51 05:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คห.42  คะ  แม่นแย้วค่ะ  โย้วววววววววว ดีใจจังค่ะ มีคนเข้าใจเหี่ยวแย้ว เย้ เย้ จากคุณ : อยากน่ารักน้อยลง - [ 13 ต.ค. 51 06:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หลายๆความเห็นตอบได้ตรงใจไปแล้ว ความเห็นที่15คะ นี่เป็นคำจำกัดความที่เราพยายามหามานานแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ "ใช้จินตนาการเป็นกลไกที่คอยป้องกันความเจ็บปวด" หนังเรื่องนี้มีคุณค่า และดูกี่ทีก็ได้แง่มุมที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องที่ความเห็นที่25ว่า "ที่แสดงอารมณ์ในมุมที่เกินจริง และออกมาในแนวบ้าบอ จนสารที่ต้องกาารจะสื่อจะส่งมันผิดเพี้ยนไปหมด" เราว่ามันเป็นสไตล์ของหนังอิตาเลี่ยนมากกว่านะคะ ตอนแรกที่ดูเรื่องนี้เราก็ว่าเอ้ย มันได้รางวัล มีคนชื่นชมมากมากได้ไง แต่ก็กลั้นใจดูให้จบ พอดูไปกลางๆ เรื่อง ปลายๆ เรื่อง เริ่มจะเข้าใจตัวละคร เริ่มจะคิดในมุมมองที่ต่างไป พอจบ ก็เป็นอย่างหลายๆ คนนั้นแหละค่ะ ต้องเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ ยิ้มทั้งน้ำตากับฉากที่สงครามสงบ แล้วลูกชายพระเอกได้นั่งรถถัง(กลับบ้าน) เหมือนอย่างที่พ่อบอก (ความใฝ่ฝันของเด็กเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่บางคนอาจคิดว่ามันไร้สาระ)มันเป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงระหว่าง เสียใจกับอิ่มเอม  จนต้องดูอีกหลายรอบ แต่พอไปหาหนังเรื่องอื่นของนักแสดงท่านนี้มาดู ยิ่งทำให้เข้าใจ วิถีของหนังอิตาเลี่ยนมากขึ้น ว่าเค้ามักจะใช้มุมเกินจริงเช่นนี้แหละค่ะ หนังบ้านเค้าแนวตลก (บ้านเราบางคนอาจจะเรียกว่าตลกเพี้ยน ไปเลยก็มี) อย่างนี้เยอะ ยิ่งถ้าดูรายการตลกบ้านเค้าอย่าง" คาเมล่า กาแฟ "จะไม่ใช่แบบตลกบ้านเราเลย คนละแนว บางมุกเราก็ไม่ขำเลย (แต่หนังบ้านเราที่พยายามยัดเยียดมุกตลกบางทีก็ไม่ขำเลยเนอะ)   เราว่าเรื่องนี้นำเสนอภาพสงครามที่โหดร้ายได้ซอฟท์มากที่สุดแล้ว ได้รับรู้ความโหดร้ายของสงคราม ในระดับที่พอให้หัวใจหดหู่ แต่ไม่จำเป็นต้องโชว์คนตายเต็มจอ เลือดสาด  และที่สำคัญ ได้รับรู้ถึงความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามปกป้องคนรักให้อยู่ในโลกที่สวยงามเท่าที่เค้าจะทำได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต   ปล. ในอีกมุมมองหนึ่งเรากลับไม่เห็นว่าหนังเรื่องนี้เอาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาล้อเลียนแต่อย่างใด เรากลับเห็นว่าเค้าพยายามนำเสนอในมุมมองที่ต่างกันไปต่างหาก  ลบภาพหนังสงครามที่มักจะมีแต่ความหดหู่ทั้งเรื่อง ภาพติดตาที่ทำให้นอนขวัญผวา ได้ยินเสียงหวอดังก็คิดถึงเรื่องสงครามไปได้เหมือนกันนะ   ต่างคนต่างความคิดค่ะ จากคุณ : La vita é bella (พื้นที่สีเขียว) - [ 13 ต.ค. 51 07:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 47 "โลกคือละคร ทุกคนต้องแสดง ทุกคนทนไป อย่าอาลัย ยิ้มกันสู้ไป จะได้สบาย" ธรรมชาติของมนุษย์มีกลไกป้องกันตัวเองทางจิตใจ หากแต่คนนั้นจักรู้ฤาไม่กุยโดรู้ และนำศักยภาพนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผมว่าในหนังก็ไม่ต่างกับชีวิตเราๆท่านๆแลครับ ไม่งั้นเราทำงาน กิน _ี้ _ี้ นอน จักดิ้นรนไปทำไม ในเมื่อเราๆท่านๆ ล้วนต้องตาย . . . ครับ ตายกันทุกคน จากคุณ : Rubik - [ 13 ต.ค. 51 09:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องนี้ยิ้มทั้งน้ำตาครับ ถ้าผมเป็นกุยโด้ ผมก็คงไม่ยอมให้ลูกผมต้องรับรู้ความเจ็บปวดในขณะนั้นเช่นกัน จากคุณ : jonykeano - [ 13 ต.ค. 51 10:15:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราดูเรื่องนี้ตอนเด็ก ดูในโรงเลย และอยากมีพ่อที่น่ารักแบบนี้ ความรักของพ่อ เป็นเรื่องที่สวยงามมากที่สุดค่ะ เลือกเก็บดอกไม้นะ จขกท จากคุณ : Ryckie - [ 13 ต.ค. 51 17:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #44 เรื่องแบบนี้ตัดสินกันด้วยความเห็นส่วนตัวได้นี่ครับ แต่มุมมองที่ออกมามันทำให้ผมไม่รักละครตัวนี้ ไม่ถึงแก่นจริงๆด้วยเนอะ ฮ่าๆ จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) - [ 13 ต.ค. 51 21:39:07 ]