มาต่อเลยนะครับ สำหรับใครยังไม่ได้อ่านรีโทรตอนก่อนๆ ตามไปอ่านได้ตามกระทู้เหล่านี้ครับ

Retro James Bond 007 ตอนที่ 1 : Dr. No (1962) พยัคฆ์ร้าย 007
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7123640/A7123640.html

Retro James Bond 007 ตอนที่ 2 : From Russia with Love (1963) เพชฌฆาต 007
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7127133/A7127133.html

Retro James Bond 007 ตอนที่ 3 : Goldfinger (1964) จอมมฤตยู 007
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7131164/A7131164.html

สำหรับคุณ Alecaster ที่ถามมาว่าผมจะลงบทความเจมส์ บอนด์ใน MovieTime เล่มไหนนะครับ อันที่จริงผมทยอยลงไปตั้งแต่ฉบับที่ 384 ครับ ตอนนี้วางแผงถึงเล่ม 385 แล้ว อย่างไรก็ลองแวะเวียนตามแผงหนังสือดูนะครับ ซึ่งผมก็จะ Retro ต่ออีกหลายเล่ม ถึงราวๆ เล่ม 387 ได้ครับ ขอบคุณสำหรับคำถามนะครับ

ทีนี้เรามาถึงบอนด์ตอนที่ 4 แล้วครับ

Thunderball (1965) ธันเดอร์บอลล์ 007

แนวหนัง แอ๊คชั่น

นี่ถือเป็นบอนด์ตอนที่มีคนดูมากที่สุดเลยนะครับ ประมาณ 74.8 ล้านคนแน่ะ ก็ถ้าคิดเป็นค่าตั๋วในยุคปัจจุบัน หนังก็ทำเงินไปกว่า 300 ล้านเลยทีเดียวล่ะครับ

ภาคนี้องค์กร SPECTRE ศัตรูตลอดกาลของบอนด์ หลังจากโดนบอนด์ขัดขวางแผนการหลายครั้ง ทำให้ศักดิ์ศรีและเงินรายได้ (จากธุรกิจชั่วๆ) ของพวกมันตกลงไปมาก จนในที่สุดพวกมันก็ได้วางแผนการครั้งใหญ่ คือ ขโมยหัวรบนิวเคลียร์ไปและขู่ว่าจะระเบิดสถานที่สำคัญ เว้นแต่ทางการจะยอมจ่ายค่าไถ่มา

แต่มีหรือที่ทางการจะยอมจ่ายค่าไถ่ง่ายๆ แล้วยังมีสายลับพระกาฬ เจมส์ บอนด์ (Sean Connery) อยู่ทั้งคน แบบนี้มีชนครับ

ครับ แรกเริ่มเดิมที Thunderball เนี่ย จะต้องได้รับการสร้างเป็นหนัง 007 เรื่องแรก ก่อน Dr. No เลยด้วย แต่เผอิญครับ Thunderball เนี่ยดันมีเจ้ากรรมนายเวรรายใหญ่เลยซึ่งก็คือ Kevin McClory ซึ่งพี่แกนี่แหละ คือหอกข้างแคร่คนสำคัญที่คอยทิ่มหนังชุด 007 ตลอดมา

เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนที่นิยายเจมส์ บอนด์ ซึ่งเขียนโดย Ian Fleming นั้นกำลังสั่งสมชื่อเสียงไปพอประมาณ ก็มีผู้สร้างที่ชื่อว่า Kevin McClory มาติดต่อกับ Fleming และจะขอสร้างหนังบอนด์ โดยได้เขียนบทหนังบอนด์ที่ชื่อเรื่องว่า Longitude 78 West โดย McClory เขียนร่วมกับ Jack Whittingham และ Fleming ซึ่งทั้งหมดหมายมั่นปั้นมือแบบสุดๆ ว่าจะสร้างชัวร์ๆ

แต่แล้ว ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อหนังของ McClory เกิดไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้เลย ทำให้ทุนไม่มีจะเอามาสร้างหนังบอนด์ครับ จนเมื่อเวลาผ่านไป ต่างคนก็เลยแยกทางกันไป ส่วน Fleming เลยเอาเรื่องจากบทหนังที่ว่า ไปเขียนเป็นนิยายบอนด์เรื่อง Thunderball

จากนั้น Fleming ก็ได้รับการติดต่อจาก Harry Saltzman กับ Albert R. Broccoli ในการจะนำเอานิยายเจมส์ บอนด์ไปสร้างเป็นหนัง และนิยายเรื่องแรกที่จะเอาไปทำก็คือ Thunderball นี่แหละ ทีนี้พอเรื่องรู้ถึงหู McClory ก็เป็นเรื่องในบัดดล เพราะ McClory แกอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของนิยายร่วม (ซึ่งก็ถูกของแกล่ะครับ ก็พี่ Fleming ไปเอาเรื่องของเขามาดัดแปลงจริงๆ ง่ะ) ทีนี้เรื่องก็ถึงศาลครับ และคาราคาซังอยู่นานมาก จน Saltzman กับ Broccoli ทนไม่ไหว สุดท้ายเพื่อตัดปัญหา ก็เลยจับเอานิยาย Dr.No ไปทำเป็นหนังเรื่องแรกมันซะเลยหมดเรื่องหมดราวไป

ทีนี้การสู้คดีในศาลก็ยังดำเนินต่อไปครับ สุดท้ายลงเอยที่ศาล ซึ่งตัดสินให้ McClory ได้สิทธิ์ในนิยาย Thunderball ร่วมกับ Fleming ไปในที่สุดครับ ดังนั้นการเจรจาต้าอ้วยเพื่อที่จะสร้างบอนด์ตอนนี้ก็เลยได้ข้อสรุปว่า ต้องให้ McClory ได้ตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างไปคนเดียว และต้องให้พี่แกมีสิทธิ์มีเสียงในหนังเรื่องนี้แบบสุดๆ ซึ่งทีมงานก็ยอมล่ะครับ เพื่อที่จะได้สร้างบอนด์ตอนนี้ออกมา

กลับมาที่เรื่องหนังนะครับ ร่ายตำนานซะยาวเลย หนัง 007 ตอนนี้ ออกมาค่อนข้างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่การได้เห็นห้องประชุมขององค์กร SPECTRE ได้เห็นวายร้ายระดับสูงขององค์กรมานั่งรวมตัวกัน และยังได้เห็นห้องประชุมของ MI6 พูดง่ายๆคือ สายลับรหัสที่ขึ้นต้นด้วย 00 ทั้งหมด มาโผล่กันในห้องครบ รวมไปถึงฉากใต้น้ำซึ่งมีอยู่มากและน่าจะสะใจคนที่ชอบฉากใต้น้ำและครับ เพราะมีเยอะจริงๆ อีกทั้งฉากประจัญบานในตอนท้ายของเรื่องก็ยังเป็นการลุยกันใต้น้ำแบบล้วนๆอีกด้วย ดูแล้วก็ไม่แปลกใจล่ะครับที่ต้องลงทุนมากกว่าตอนก่อนๆตั้ง 2 เท่า (ภาคที่แล้วลงทุน 2.5 ล้านครับ ภาคนี้ล่อไป 5.5 ล้าน) ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะ McClory เป็นคนชอบกีฬาดำน้ำครับ เลยสั่งให้ใส่ฉากเกี่ยวกับน้ำเยอะๆ (ส่วนผมก็ชอบหนังดำน้ำเหมือนกันครับ เลยชอบบอนด์ตอนนี้ไม่ใช่น้อย)

ส่วนตัวหนังเอง ก็ออกมาโม้และดูเอามันส์น่ะครับ อุปกรณ์ของบอนด์มีเยอะดี สาวบอนด์ก็สวยดีครับ Claudine Auger มารับบท โดมิโน ซึ่งเธอก็ดูน่ารักดี แต่เธอแทบไม่ได้แสดงอะไรเลย ออกมาสวยอย่างเดียว ส่วนวายร้ายภาคนี้ก็คือ เอมิลิโอ ลาร์โก้ (Adolfo Celi) หมายเลข 2 ของ SPECTRE ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนักครับ ออกมานิ่งๆ แต่ก็โอเค

อีกคนที่ค่อนข้างเด่นก็คือ Luciana Paluzzi ในบท ฟิโอน่า นักฆ่าสาวที่ถูกส่งมาเพื่อเล่นงานบอนด์โดยเฉพาะ เธอนับเป็นคนแรกครับ ที่เสน่ห์ของบอนด์ไม่อาจละลายใจเธอได้ เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจะหาเรื่องฆ่าบอนด์อย่างเดียว

สรุปว่าภาคนี้ ดูๆ ไป เอามันส์น่ะครับ เนื้อเรื่องก็โอเค แต่ไม่ถึงกับเข้มเท่าตอนก่อนๆ จุดที่เด่นก็คือฉากใต้น้ำน่ะแหละที่ลงทุนมากทีเดียว ซึ่ง Terence Young ก็กลับมากำกับครับ ทำให้โทนหนังไม่ได้หลุดไปมาก เว่อร์แต่ยังติดดินอยู่ ไม่ได้ออกไปนอกอ่าว

สนุกดี แต่ไม่มากเท่า 2 ตอนที่แล้ว ทว่า ดูฉากใต้น้ำก็นับว่าคุ้มแล้วล่ะครับ

สองดาวครึ่งครับ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=10-06-2005&group=11&blog=25