Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ไอ้หมื่น Retro James Bond 007 ตอนที่ 8 : Live and Let Die (1973) พยัคฆ์มฤตยู 007

    มาอย่างต่อเนื่องครับ กับตอนที่ 8 ของบอนด์ที่เปลี่ยนพยัคฆ์ร้ายเป็นคนใหม่เรียบร้อย ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้อ่าน Retro ตอนก่อนๆ ก็ตามไปอ่านได้ตามลิ้งค์เหล่านี้นะครับ

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 1 : Dr. No (1962) พยัคฆ์ร้าย 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7123640/A7123640.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 2 : From Russia with Love (1963) เพชฌฆาต 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7127133/A7127133.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 3 : Goldfinger (1964) จอมมฤตยู 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7131164/A7131164.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 4 : Thunderball (1965) ธันเดอร์บอลล์ 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7133721/A7133721.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 5 : You Only Live Twice (1967) จอมมหากาฬ 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7137080/A7137080.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 6 : On Her Majesty's Secret Service (1969) ยอดพยัคฆ์ราชินี 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7142870/A7142870.html

    Retro James Bond 007 ตอนที่ 7 : Diamonds Are Forever (1971) เพชรพยัคฆราช 007
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7142922/A7142922.html

    และผมยังได้เขียน Retro James Bond ลงในนิตยสาร MovieTime ด้วยนะครับ ถ้าสนใจจะอ่านเพิ่มเติมก็ลองแวะเวียนไปตามแผงหนังสือนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

    Live and Let Die (1973) พยัคฆ์มฤตยู 007

    แนวหนัง แอ๊คชั่น - สืบสวน

    หลังจาก Sean Connery โบกมืออำลาจากหนังชุดนี้ไปจริงๆ จังๆ แล้ว ก็ถึงคราวที่บอนด์คนใหม่จะได้แจ้งเกิดกับเขาเสียที นั่นก็คือ Roger Moore ซึ่งสำหรับภาคนี้นะครับ นับเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว

    บอนด์ได้รับภารกิจให้ไปตามสืบเกี่ยวกับสายลับ 3 คนที่ถูกสังหารในเวลาไล่เลี่ยกัน จากการตามรอยก็นำบอนด์ไปสู่การเผชิญหน้ากับขบวนการค้ายาเสพติดระดับชาติที่นำโดย มิสเตอร์บิ๊ก หรือชื่อที่แท้จริงของเขาก็คือ ดร.คานังก้า (Yaphet Kotto) นักการฑูตแห่งเกาะซานโมนิค ก็แน่ละครับ พวกค้ายามันผิดกฎหมายอยู่แล้ว บอนด์ก็ต้องไปปะฉะดะกับพวกมันอย่างเต็มที่

    อย่างที่ผมเคยบอกครับว่าบอนด์สไตล์ของ Moore นั้น จะเบาๆไม่ซีเรียส เป็นบอนด์ฉบับที่มาเพื่อความบันเทิงล้วนๆ จริงๆ Moore ก็เกือบจะได้เป็นบอนด์ตั้งแต่ตอน Dr.No แล้วล่ะครับ แต่เผอิญพี่แกหนุ่มเกินไปเลยยังไม่ได้รับเลือก ก็ดูท่าว่า Moore จะเกิดมาเพื่อบทบอนด์อีกคน เพราะถูกหมายตาตั้งแต่แรกเริ่ม บุคลิกของ Moore นั้นก็ดูเหมือนจะติดภาพลักษณ์มาจากซีรี่ส์ทางทีวีที่เขาเคยได้รับบทก่อนจะมาเล่นเป็นบอนด์ครับ พี่แกเคยเล่น The Saint มาก่อน คราบของสิงห์สำอางค์เลยติดอยู่ที่บอนด์ของแกอย่างเต็มๆ นั่นคือสู้แทบตายยังไง ผมก็เรียบแปร้ มีสาวๆ มาให้เชยชมตลอด และร่ำรวยอารมณ์ขันในทุกสถานการณ์ ซึ่งถ้าจะเอาไปเทียบกับ Connery ก็คงลำบากหน่อยล่ะครับ เพราะมันคนละแบบกันจริงๆ แต่สำหรับผม พี่แกก็เล่นได้ดีล่ะครับ ไม่ติดขัดแต่อย่างใด

    หนังบอนด์ในภาคนี้ก็เป็นอีกตอนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างที่ไม่มีตอนใดเหมือน นั่นคือ มีการจับเอาเรื่องของลัทธิวูดูและไสยศาสตร์มาเล่นตลอดทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่สาวบอนด์ของเรื่องที่ชื่อ โซลิแทร์ (Jane Seymour) ก็คือหมอดูไพ่ยิปซี แล้วยังมีภาพการสังหารในแบบลัทธิวูดู รวมไปถึงพิธีกรรมอีกหลายๆ ฉาก เรียกได้ว่ากลิ่นอายของบอนด์ตอนนี้ค่อนข้างอึมครึมเอามากๆ

    แต่ก็อย่างที่บอกครับ ว่าตัวหนังบอนด์ฉบับ Moore นั้น ค่อนข้างจะเบาๆ เอาความบันเทิง ไปๆ มาๆ ความอึมครึมกับความเบาก็มารวมตัวกัน กลายเป็นความลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ เออ จริงๆ นะครับ ดูๆไป มันเข้ากันน่ะ ดูสนุกด้วย ได้บรรยากาศด้วย การเดินเรื่องก็ฉับไว มีฉากแอ๊คชั่นและเรื่องฮาๆ แทรกมาเป็นพักๆ ผลที่ได้ก็คือ หนังมันส์และครบรสแบบโคตรๆ

    ดาราในภาคนี้ก็โอเคเลยครับ Seymour ก็เป็นสาวบอนด์ที่สวยมากๆ น่ารักและน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด ยิ้มทีโลกงี้สดใสแต่ขณะเดียวกันเธอก็แฝงความลึกลับเอาไว้ด้วย มีเสน่ห์ยอดเยี่ยมเลยท่านผู้ชม

    อีกอย่างที่ทำให้หนังภาคนี้อึมครึมน่าจะมาจาก นี่เป็นบอนด์ตอนที่มีคนดำมาแสดงด้วยเยอะที่สุด เพราะช่วงนั้นหนังคนดำกำลังบูมน่ะครับ ผู้กำกับเลยเชิญดาราผิวดำมาแสดงเพื่อขยายตลาดและเพิ่มรสชาติให้หนังบอนด์ และนอกจากนี้บรรยากาศภาคนี้ยังออกสไตล์ลูกทุ่งโกปี๊หน่อยๆ หลายรสจริงๆ ครับ บอนด์ตอนนี้เลยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจดจำจริงๆ

    แต่คนที่ถือว่าเด่นก็มี David Hedison ผู้มารับบท เฟลิกซ์ ไลเตอร์ ซีไอเอผู้ช่วยของบอนด์ที่ภาคนี้มาพร้อมอารมณ์ขันและผมว่าเขาเป็นเฟลิกซ์ ที่ดูมีเลือดมีเนื้อที่สุดแล้วล่ะครับ อีกคนก็ต้องนี่เลย Geoffrey Holder ในบท บารอน เซมิดี้ พี่แกนี่หน้าตาน่ากลัวสุดๆ แล้วยังมาแสดงเป็นเจ้าลัทธิวูดูอีก ผมว่าเด็กเจอก็ต้องร้องจ๊ากอ้ะ เพราะลำพัง ธรรมดาๆ เขาก็น่ากลัวพออยู่แล้ว ตัวสูงโย่งผิดมนุษย์ หัวเราะเสียงสยองๆ แล้วนี่ยังแต่งหน้าอีก เฮ่อ อย่ามายุ่งกับผมก็แล้วกัน

    ภาคนี้ Guy Hamilton ก็ยังกำกับครับ ผลออกมาน่าพอใจมาก เพราะหนังสนุกๆ ไม่เครียดเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็มีความอึมครึมผสมทำให้หนังลงตัวไปในที่สุด ฉากบู๊ก็มันส์กันเต็มที่ครับ นี่ถือเป็นหนังบอนด์ตอนที่ผมชอบที่สุดอีกตอนด้วยล่ะ เพราะมันครบเครื่องแบบสุดๆ จริงๆ และที่ลืมไม่ได้คือซาวน์แทร็กประจำตอนที่ไพเราะ ครึกครื้น โดยได้ Paul McCartney มาช่วยแต่งและขับร้องให้ เป็นหนึ่งในเพลงที่น่าจดจำประจำหนังบอนด์เลยล่ะครับ

    เจ๋งและแจ๋ว แปลก อร่อย

    ต้องสามดาวครับ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=10-06-2005&group=11&blog=29

    แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 51 08:42:53

    แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 51 08:39:51

    แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 51 08:39:12

     
     

    จากคุณ : เทพบุตรตบะแตก!! - [ 28 ต.ค. 51 08:38:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com