เกรด A -> 9-10 คะแนน (17 คน)
	เกรด B -> 6-8 คะแนน (3 คน)
	เกรด C -> 3-5 คะแนน (1 คน)
	เกรด D -> 1-2 คะแนน (2 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 23 คน

	73.91%
	13.04%
	4.35%
	8.70%

นานแล้วหรือยัง? ..สำหรับการดูหนังตลกเต็มสตรีมสักเรื่อง แล้วให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย ชนิดที่กะจะเอาหวังให้สุด แล้วก็ได้จนสุดกันจริงๆอย่างที่ต้องการ

สำหรับผม ถือว่าค่อนข้างจะนานแล้ว ที่ได้เที่ยวตามหาหนังตลกในฝันเรื่องนั้น ..หลังจากเคยพบกับมันมาใน หนัง 7 วัน ขอเป็นพระเจ้า ของพี่หน้าทะเล้น จิม แคร์รี่ ที่ผมฮาและชอบที่สุด อย่าง "Bruce Almighty" แล้ว ก็ไม่เคยเจออีกเลย ...หากจะเจอที่มันมีทั้งสนุกมาก สนุกน้อย คละเคล้ากันไป แต่ในหนังนั้นๆ ก็มักจะมีสิ่งที่ไม่น่าอภิรมย์ว่า ความฝืด ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้อยู่ตรงนั้น ตรงนี้ ไม่ว่าจะมีน้อยนิด หรือมากล้น ก็มักทำให้ภาพรวมของหนังแนวนี้ ไม่ 100% เป๊ะสักที

จนแล้วล่าสุด กับความคาดหวังที่ผมมีต่อหนังตลกก็ดูสดใสขึ้นมากับ "Tropic Thunder" ..หนังคอมเมดี้-แอ๊คชั่น ซึ่งเป็นผลงานการลงมือกำกับหนังอีกครั้งของดาวตลกฮอลลีวู้ด เบอร์ต้นๆ ผู้มากความสามารถ "เบน สติลเลอร์" (ห่างหายไปนาน หลังล่าสุดกับหนังล้อวงการแฟชั่น กับ "Zoolander") ..ซึ่งแม้โดยส่วนตัว จะไม่ถือว่่าตัวเองเป็นแฟนของพี่เบน แต่ก็ถือว่าเคยผ่านตากับหนังที่มีเขาเป็นส่วนประกอบอยู่มากเรื่องก็ได้อยู่

ฉะนั้นแล้ว การที่ผมอยากดู Tropic Thunder ..มันไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยว่าใครกำกับ ใครเขียนบท หากไปสนใจในส่วนของเจตนาที่จะเป็น การล้อเลียนหนังสงคราม (ที่รู้สึกจะยังไม่มีใครหยิบเหยาะมาล้อกันเลย..มั้ง) ผสมโรงกับความตั้งใจจะล้อลงลึก เสียดสีถูไถไปยังถึง สังคมฮอลลีวู้ด กับภาพมายาที่เต็มไปด้วยความบ้าของผู้คนในวงการนี้ ..ที่ไม่มีใครจะเรียกว่า พอดี ได้สักคน (หรือถ้ามี ตอนนี้ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะอยู่ในกลุ่มคนที่พอดี นี้ได้) ..เรียกว่า งานนี้จะต้องมีใครที่อ่วม คนทำหนังถึงจะควรสาแก่ใจได้พอดีพอดิบ

นอกเหนือไปจากตัวหนังเองที่เชื้อชวนให้น่าสนุกแล้ว ก็ยังมีการฟอร์มทีมดาราดาวดัง ซึ่งมีทีท่าไม่น่าจะมาเจอกันง่ายๆ (ถ้าเงินไม่จ่ายให้หนักจริงๆ) ก็ได้มาป๊ะกันในหนังเรื่องนี้อีกด้วย ..ซึ่งนั่นก็ยิ่งเป็นการช่วยเสริมความน่าจะมันส์ เข้าไปได้เป็นอย่างมาก

อีกเมื่อหนังทำตัวเอง ให้เป็น หนังซ้อนหนัง (คือ.. หนังจริงๆที่เล่าเรื่องในกองถ่ายหนังที่เมคขึ้นมา) ..และวางตัวเองให้เป็นหนังตลกเต็มสตรีมกันมาแต่ต้นอย่างนี้ด้วย ...แล้วมีหรือที่จะไม่ให้ผมรู้สึกว่ามันอาจจะเป็น หนังตลกในฝัน ของผมก็ได้

ในหนังตลก Tropic Thunder ที่ซ้อนหนังสงครามฟอร์มยักษ์ ทุนสูงอันมีชื่อว่า "Tropic Thunder" เอาไว้อีกชั้นในที่นี้.. กล่าวถึง ซูเปอร์สตาร์นักแสดง 3 คน 3 แนว 3 สไตล์ ..ที่ต่างคนต่างก็กำลังเกิดความคาดหวังจะรับเล่นหนังตลาดสักเรื่องที่จะช่วยทำให้พวกเขาได้เกิดในวงการมายาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ได้เกิดความล้มเหลว ไม่เป็นดังใจในชีวิตของเขา

"ทักก์ สปีดแมน" ...ซูเปอร์สตาร์หนังบู๊ไฟแรงสูง ที่ความเดือดต้องมาถึงคราวดับสลายกลายเป็นไอเย็นให้ เมื่อเขากะจะรับบทเป็นชายปัญญาอ่อน (ที่มิได้เป็นออทิสติก หรือแอบอัจฉริยะ..อย่างใครเขา) เพียงหวังจะได้ออสการ์มาประดับบารมีดังอย่างนักแสดงที่มีคุณภาพคนอื่นเขาบ้าง ..ฉะนั้นแล้ว เมื่อชื่อถึงคราวดับไป ก็ได้ทีต้องขอแจ้งเกิดอีกสักหน ให้กับแนวหนังที่เป็นตัวของตัวเขาเองมากที่สุดจะดีกว่า

"เจฟฟ์ พอร์ตนอย" ...ซูเปอร์สตาร์หนังตลกสตึแตก ที่เกิดมาจะอาภัพ ก็มีปมด้อยอย่างหนึ่งคือ การผายลมไม่เป็นเวล่ำเวลากลายเป็นเครื่องหมายการค้าเฉพาะตัวของเขาไป ..แต่นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนิสัยจริงๆ ที่ไม่ิอิงนิยาย กับการเป็นคนที่บ้า ห่าม และหยาบ อย่างไม่รู้จักเกรงใจชาวบ้าน ให้กลายเป็นที่หมั่นไส้ของคอหนังเขาไปทั่ว ..ฉะนั้นแล้ว เมื่อเขายังหวังจะให้คนดูยอมรับในความเก่งกาจ ในบทบาทนักแสดง เหนือสิ่งอื่นใด ก็ต้องให้หนังเรื่องใหม่ที่พลิกแนว(อุจาด)ไปของเขา ช่วยแจ้งเกิดให้อีกสักทีเถอะ

"เคิร์ก ลาซารัส" ...ซูเปอร์สตาร์หนังดรามาโคตะระคุณภาพ เจ้าพ่อออสการ์ 5 ตัว ที่ถล่มสถิติทุกคนยับ (คุณย่า แคธเทอรีน เฮปเบิร์น ..ยังต้องซูฮก!) ..ผู้ที่เริ่มจะอิ่มตัวกับการเป็นนักแสดงเจ้าฝีมือ จึงได้หวังจะมีหนังตลาดฟอร์มใหญ่สักเรื่องอยู่ในเครดิตเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้าง ...แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร หากเจ้าตัวจะยอมยินดีลงทุนศัลยกรรมเปลี่ยนสีผิวของตัวเอง เพียงเพื่อจะให้เข้าถึงในจิตวิญญาณของการเป็นคนผิวสีในหนังที่เขาบอกว่า ตลาดที่สุดของเขา ..เพราะฉะนั้น การจะสร้างชื่อตัวเองให้คอหนังแอ๊คชั่นได้เป็นที่รู้จักเลื่องลือบ้าง ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการกล้าจะเกิด พร้อมสร้างปรากฎการณ์ให้แวดวงฮอลลีวู้ดต้องตาลุกวาวเพื่อการนี้

เมื่อซูเปอร์สตาร์ทั้ง 3 ต้องมาเจอกัน ในหนังสงครามเวียตนาม ที่ฟอร์มดีกันอย่างนี้ ..แล้วมีหรือที่อะไรจะขวางกั้นพวกเขาไม่ให้ประสบความสำเร็จได้

คำตอบคือว่า.. 'มี' และมีฟอร์มดี แต่ทีเหลว อย่างใหญ่หลวงอีกต่างหาก

ในขณะที่หนังล้อเลียนอีกหลายต่อหลายเรื่องอลวนชุลมุนอยู่กับการล้อหนังดังๆ เรื่องดีๆ ให้กลายเป็นการขายขำอย่างง่าย เช่นที่เคยเป็นมากับตระกูล Scary (และที่ไม่่น่ายกตัวอย่างกับ Date/Epic/Disaster) ซึ่งจะมีก็ไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่หลุดจากคำว่า "มักง่าย" มาได้ ..Tropic Thunder กลับทำตัวเองให้เหนือกว่าหนังในตระกูลเหล่านั้น ซึ่งหากจะทำการล้อกันทั้งที มันก็ต้องมีชั้นเชิงในการนำเสนอเล่าเรื่อง ที่มากกว่าจะเอามุขมาต่อมุขกันไปเรื่อย

ซึ่งผลที่ได้ก็ออกมาในรูปของการถ่ายทำหนังสงคราม ซึ่งสักจะมีเวรมีกรรม ก็ดันเป็นเพราะ ทุนไม่พอ นายไม่ปลื้ม ดาราไม่ใจ ผู้กำกับไม่มีประสบการณ์(ทำหนังสเกลใหญ่) เลยต้องพาลให้หนังฟอร์มว่าจะยักษ์ ล้มทั้งยืน จึงจำใจต้องให้แปรพักตร์มาสร้างเป็นหนังเล็กๆ ที่ใช้การซุ่มถ่ายแบบกองโจร และยัดเยียดประสบการณ์ความกลัวของจริง ให้ทีมดาราต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมของป่าทึบ ที่ความจริง ก็คือสมรภูมิซึ่งมีกลุ่มทหารกบฎแอบแฝงตัวซ่อนอยู่ ..ซึ่งได้ทั้งมีประโยชน์ต่ออารมณ์หนังแล้ว ก็ยังจะประหยัดตังค์อีกด้วยซะอย่างงั้น

ถึงแม้ตัวหนัง(จริงๆ) จะไม่ได้ใช้การแอบซุ่มถ่ายเป็นสารคดี เหมือนเช่นกับเทคนิคที่หนังอันซ้อนอยู่ทำให้เป็น ทั้งความเป็นจริง ก็ยังคงใช้ทุนสูงลิบในการเนรมิตฉากของดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นหนังตลาดฮอลลีวู้ดเรื่องอื่นๆเขาก็เป็นกัน ..แต่ Tropic Thunder ก็ไม่ได้พาตัวเองให้ออกมาเป็นหนังสงครามเต็มรูปแบบ หากใช้ภาพอันใหญ่โตเหล่านั้นมาเป็น background เพื่อรองรับการเป็นหนังตลก ที่มีน้อยเรื่องจะกล้าทุบหม้อข้าว(เงินสตูดิโอ)ร่วมๆร้อยล้านเหรียญมาหมดไปกับการเป็นไม้ประดับให้กับการหยอกล้อซึ่งเป็นสาระสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

หากจะเรียกว่า เป็นความกล้าได้กล้าเสียที่เสี่ยงสูงไม่น้อยอยู่ก็อาจได้ เมื่อมองว่า นี่เป็นหนังที่เป็นผลงานกำกับของดาราดังคนหนึ่ง ซึ่งถึงประสบการณ์ทางด้านนี้อาจจะมีอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะไว้ใจว่ามันจะทำเงินได้ยิ่งยวด เท่ากับตอนที่เขาเป็นคนแสดง.. และยิ่งเมื่อชื่อของ เบน สติลเลอร์ ก็ยังใช่ว่าจะขายหนังให้ดังได้ทุกเรื่องเสียตลอดที่ไหน ก็กลายเป็นเรื่องที่ดูจะอันตราย หากไม่นับไปถึงเรื่องของความโชคดีที่ได้ทีมนักแสดงระดับบิ๊กมาร่วมสังฆกรรมในความสนุกครั้งนี้ ก็พอจะทำให้หนังมีลุ้นว่าไม่น่าจะแป้กหนักนัก

ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อมแล้ว Tropic Thunder อาจจะยังถือว่าเป็นหนังที่มีความขลุกขลักอยู่ในตัว ไม่ได้ครบอย่างสมประกอบในทุกส่วน มีจุดให้จับผิด ทั้งมีเรื่องที่คิดแล้วก็พิกลๆบ้าง ..แต่ถ้าจะคิดถึงกันอย่างไม่จำเป็นต้องละเอียดละออ ให้กับเรื่องที่เป็นความเจตนาทุกสิ่งอัน โดยเฉพาะในการสร้างความบันเทิงของหนังเรื่องหนึ่ง ...การที่หนังเรื่องนี้เลือกจะเน้นขายลูกบ้า ระดมพลความผิดเพี้ยน จากทรัพยากรการแสดงที่มี และความปรารถนาจะเสียดสีฮอลลีวู้ดอย่างเต็มขั้นกันเช่นนี้ไปแล้ว ผมเลยไม่อยากถือในความขลุกขลักทั้งหลาย ..ยิ่งไปกว่านั้นกลับยังจะนับถือในความบ้าของพี่เบน (กับฐานะผู้กำกับ และร่วมเขียนบท) ซึ่งงัดเอาไม้เด็ดออกมาเล่นงานวงการที่ตัวเองรัก อย่างมี sense และไม่ระแวงความปลอดภัย ซึ่งพาให้เราต้องหัวร่องอหายไปกับ พฤติกรรมผู้คน สถานการณ์ และความฉาวคาวคลุ้ง ที่ดูคุ้นเคย

ยิ่งกับใครที่ได้ติดตามข่าวคราวในแวดวงฮอลลีวู้ดมามาก ก็จะยิ่งสนุกเป็นอย่างมากกับการได้จับไต๋ว่าหนังกำลังพููดถึงเรื่องอะไร ของใคร กันบ้าง

นอกจากเรื่องราวสุดก๊าก ที่สนุกจะสร้างสรรค์อย่างเมามันส์ ปนเจ็บแสบ ชวนให้คลึงครึมซีม่ากันเบาๆแล้ว ..อีกส่วนที่เป็นเสน่ห์ชวนให้ติดตามของหนัง ก็คือ การแสดงแท๊กทีมของแก๊งดาราดังที่ร่วมกันใส่สีสันอย่างเต็มที่ อีกยังมีบางคนที่เล่นเนียนผสมโรงอยู่ไม่ยั้ง จนแทบจะเมินทิ้งซึ่งชื่อเสียงดีๆที่สั่งสมมาเอาไว้ข้างหลังกันไปเลย

"เบน สติลเลอร์" กับ "แจ๊ค แบล็ก" อาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากเมื่อเทียบกับหนังดังของแต่ละคนที่ผ่านพ้นมา ..แต่ด้วยบทบาทที่เป็นตัวของตัวเอง และต่างก็ทำได้ดี (แบบที่อาจจะมีโอเวอร์แอ๊คติ้งตามแบบฉบับดาราตลกผสมกันมาบ้าง) จึงถือเป็นสีสันที่สร้างความแสบคันให้กับหนังได้พอสมควร

หากกระนั้นก็อย่าได้เอามาเทียบกับรัศมีความโดดเด้งโดยเจตนาของคาแรกเตอร์ที่ส่งให้เป็นที่จดจำได้ง่าย และดันได้นักแสดงยอดฝีมือระดับ "โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์" มารับหน้าที่เป็นอันขาด ..เพราะคนๆนี้ เขาคือตัวพ่อของจริงในทุกสถานการณ์ ไม่่ว่าจะบทดรามาลุ่มลึก แอ๊คชั่นกวนโอ้ย(กับการแจ้งเกิดในวงการได้อีกครั้งกับ "Iron Man" เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา) หรือจะให้มาสวมวิญญาณเป็นดาวตลกอย่างในที่นี้ ก็สำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยความเจริญหูเจริญตา ในยามที่เขาปรากฏร่างบนจอได้เสมอ ...ทั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำว่าพี่ดาวนีย์ คือ นักแสดงคุณภาพที่ถ้าจะให้มาลดเกรดเล่นหนังที่ไร้สาระอันชอบธรรม ก็ยังจะให้ความบันเทิงกับคนดูได้ถึงขีดสุดกันอยู่ดี

นอกจาก 3 คนเมนหลักที่ว่าไป นี่ยังไม่ได้รวมไปถึงตัวสมทบที่ไม่ใช่ไม้ประดับ อีกทั้งแขกรับเชิญคนดังซึ่งมีมาเซอร์ไพรส์กันอยู่เนืองๆด้วยอีกต่างหาก ..ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะออกมามากหรือน้อย ก็ล้วนจะเป็นสีสันที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูสนุก เพลินๆ มันส์ๆ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนังเรื่องนี้เจตนาจะหยอกล้อกันเลยก็เป็นไปได้

"Tropic Thunder" ... คือ หนังตลกในฝันที่ผมเฝ้าใฝ่หามานาน แล้วก็สมใจอยากที่ได้ดูและคาดหวังว่ามันจะสนุกอย่างที่หน้าหนัง(และเสียงนักวิจารณ์)ได้ว่าเอาไว้ ..นอกเหนือไปจากความมันส์ที่มาแบบน้อยๆ เพื่อรองรับเรื่องราวสงคราม(กำมะลอ)เพียงสั้นๆ ..การได้หัวเราะเฮฮาเอิ้กอ๊ากให้กับความหลุดโลกของหนัง โดยไม่รู้สึกถึงความฝืดใดๆเลย ก็คือ ผลกำไร ที่คงจะมีหนังตลกอย่างตั้งใจเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่สามารถทำให้กับผมได้ถึงขนาดนี้

ความรู้สึกที่ผมชอบหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ก็ครือๆกันกับ "Wanted" ..ที่ ความบ้า เอาชนะได้ทุกสิ่้ง!!!

ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง..ครับ

เกรด A

สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนังได้ที่ http://vreview.yarisme.com

สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."

ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 29 ต.ค. 51 10:13:48 ]