Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เพิ่งได้ดู ก็เลยวิจารณ์ช้า ...... SERBIS ...... เมื่อปัญหา อยู่ในดงตัณหา ( แทบไม่เรียกว่า Spoil หรอกครับ )

    จะไม่ให้ถ่อมาจากพัทยาเพื่อมาดูได้ยังไง ในเมื่อหนังกวาดมาเรียบไม่เหลือ ทั้ง คานส์ ปูซาน รวมถึงกินรีจากบ้านเรา ด้วยค่าคำชมที่พูดถึงการนำเสนอของหนังแบบ " ไม่ประนีประนอม " คำๆนี้ เราก็งงๆ เพราะขนาด Macho Dancer หรือ The Massuer นี่ถือว่าประนีประนอมอยู่เหรอ ( กรณีของ Macho Dancer ผมก็ถือว่าหาญกล้ามากที่มีโชว์ " stroke " ขึ้นจอ ) ดังนั้น งานนี้ เมื่อยิ่งกว่านี้ ทำใมจะไม่ถ่อมา 100 กม. เพื่อมาดูหล่ะ

    เกริ่นนำ : เรื่องราวของครอบครัวเจ้าของธุรกิจโรงภาพยนตร์หนังโป๊ แหล่งอุดมไปด้วยคนที่เต็มไปด้วยกำหนัด เด็กบริการบำบัดอารมณ์และผู้คนหลากหลาย แต่ชีวิตของครอบครัวนี้กลับเต็มไปด้วยปัญหาของการฟ้องร้องคนในครอบครัว และ ธุรกิจของโรงหนัง ที่นำมาสู่ความเจ็บปวดของตัวละคร

    งานเบื้องหลัง : หนังไม่ได้เป็นเจ้าของเทคนิคกล้องแบบตามสูตรในหนัง หนังเลือกที่จะถ่ายทำโดยการใช้ช่างกล้องเดินแบกเดินกล้องไปมา ภาพที่ได้มันไม่ smooth อย่างที่เราเห็นในหนังทั่วไปบางครั้ง เมื่อตัวละครเดินไปยังที่มืดๆ ใช้เวลานานๆ กล้องก็เลือกที่จะเดินตามนานๆไปด้วย จริงอยู่มันให้อารมณ์ดุจเราเดินตามตัวละครจริงๆแต่มันก็ไม่ง่ายที่จะดูตามนะ เพราะการไหวของกล้องต่องเนื่องนานๆก็ทำให้ปวดลูกตาได้ไม่น้อย แถมบางครั้งก็ดูเหมือนจะทิ้งให้อยู่ในฉากที่ไม่จำเป็นนานเกินไป หนังให้เสียงที่สมจริงแบบไม่ตัดเสียงรอบๆออกไปเลย การที่มันทำให้ Real จัดๆ มันก็ไม่ง่ายที่จะดูนะ ( มีมึนๆด้วยซ้ำ ) แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของมัน หนังทำบรรยายกาศดูร้อนๆ สกปรกแบบโรงหนังโทรมๆ แสงก็ไม่ได้จัดให้ตัวละคร หน้าก็ไม่แต่ง บวกกับบทของหนังที่ดูอึดอัดกับเหตุการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อารมณ์เลยสาดใส่เราที่ดูหนังแบบเต็มๆ ไม่ปรุงแต่ง ไม่จัดฉาก นี่แหละ " ไม่ประนีประนอม " ในความคิดของผม นี่ยังไม่นับการถ่ายภาพแบบที่ไม่ปิดบัง ไม่มีมุมกล้องอะไรเข้าช่วย คนดูอยากเห็นอะไรก็ถ่ายให้ดูเลย อันที่จริง การถ่ายแบบเต็มๆบางครั้งไม่ก็ได้ยั่วยวนกิเลสเพราะภาพบางภาพในจอก็มีน่าดูแค่หนึ่ง ที่เหลือ เข้าขั้น ชวนอ๊วกได้ง่ายๆ เพราะมันไม่ใช่ Brokeback mountain ที่จะได้มีแต่คนหน้าตาดีๆมา " บึ๊มกัน " ในจอ แต่มันคือคนหน้าตาบ้านๆ ธรรมดาๆ ที่มีอารมณ์ทางเพศแล้วมาปลดปล่อย นี่แหละคือสิ่งที่มีจริงๆ ใครเคยแอบไปโรงหนังชั้นสอง คงพอนึกออกว่า คนดูไม่ใช่พวกหน้าตาดีนักหรอก ก็เป็นชาวบ้านธรรมดา คุณคิดว่าภาพมันน่าดูต่อสายคาผู้ชมมั้ยหล่ะ หนังมันแทบจะเรียกว่า " แฉ " ได้เลย แต่เมื่อเป็นหนังที่คนต้องนั่งดู มันไม่เรื่องที่จะแผ่ให้เห็นเต็มๆ .... แต่นี่แหละ หนังเรื่องนี้ทำ สำหรับผม ที่เข้าใจว่า เหตุใด หลายๆคนจึงบอกว่า การนำเสนอมัน " ไม่ประนีประนอม "

    บทภาพยนตร์ : คนเขียนบทนี่ก็เข้าใจเขียนบทมาก เรื่องราวหลักของหนังนั้นธรรมดามากๆ เรื่องราวการฟ้องร้อง เงินทอง การตัดสินใจระหว่างบอกความจริงกับบิดเบือนเพื่อความอยู่รอด มันเกิดขึ้นได้กับทุกสังคม แต่เข้าใจเขียนบทให้มันมาอยู่กับครอบครัวเจ้าของธุรกิจโรงภาพยนตร์โป๊  หน้าหนังมันพูดถึงเรื่องของธุรกิจที่เสี่ยงต่อศีลธรรม แต่เนื้อหนังกลับพูดถึงความอยู่รอดของครอบครัว กลับกลายเป็นว่า เมื่อมันมาผสานกัน ยิ่งสร้างความอึดอัดให้กับคนดูแบบทวีคูณ เหตุการณ์ในครอบครัวมันก็หนักมากแล้ว Backgroundครอบครัวก็หนัก แถมยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่โสภาอีก ความหนักหน่วงทุกอย่างเลยมาพร้อมๆกัน หนังสร้าง conflict ให้กับทุกตัวละคร แต่มีบางตัวละครที่แก้ conflict ของตัวเองได้ บางตัวแก้ไม่ได้และถูกทิ้งไว้ บางตัวเกิดปัญหาใหม่ก่อนจบ คนเขียนบทเข้าถึงตัวละครมากๆ บางตัวละครคิดได้อย่างปัญญาชน บางตัวละครไม่ ทางออกของหนังจึงมาถึงปลายทางอย่างที่ไม่เซอร์ไพรซ์แต่ก็โดนใจดี แม้จุดบอดจะมีอยู่ประปรายอย่าง อย่างเช่นบทลูกสาวคนเล็กที่กำลังจะเรียนมหาวิทยาลัย แทบไม่มีความสำคัญอะไรกับหนังเลย แค่พายายไปศาลเท่านั้น ผมแทบสัมผัสอะไรในตัวเธอได้เลย  บทของเด็กชายตัวน้อยที่ไม่ได้สำคัญกับแกนหนังแต่ให้เวลาบนจอเยอะเหลือเกิน   บทพี่ชายที่ให้การบนศาลเพื่อช่วยพ่อ ก็อาจไม่จำเป็นที่จะโผล่บนจอก็ได้ อาจให้ลูกสาวที่อยู่ด้วยบอกเหตุผลแทน ในเมื่อก็รู้เต็มอก อาจเป็นเพราะลูกสาวไม่กล้าเลยต้องให้พี่พูด แต่ดูจะใช้ตัวละครไม่ค่อยคุ้มค่าเลย ทั้งที่เขากำความสำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องแท้ๆ แต่บทที่เข้มข้น เรื่องราวที่ตีแผ่ความ " อยาก " ของมนุษย์ที่ไม่สนใจศีลธรรม การยอม " ขาย " เพื่อความอยู่รอดและบางรายเป็นอาชีพจริงๆจังๆ  ปัญหาครอบครัวที่ความจริงเดินตามหลังความอยู่รอด และเรื่องราวอื่นๆที่ไม่ค่อยได้เห็นบนหนังเรื่องอื่น กลมกลืนกันจนบดบังข้อด้อยของหนังเกือบมิดเลยหล่ะ

    การแสดง : เอาไปสิบดาวแถมโล่อีกคนละ 5 อันไปเลย เล่นได้เยี่ยมซะเหลือเกิน โดยเฉพาะนักแสดงที่แสดงบทยาย หัวหน้าครอบครัววัยไม้ใกล้ฝั่งที่หัวใจรวดร้าวดุจแก้วที่ร้าวพร้อมแตก และแตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อถึงตอนจบ ฉากที่เธอร้องให้ด้วยความชอกช้ำ แสดงถึงความ " มืออาชีพ " ในการแสดงของเธอ นักแสดงที่เป็นลูกสาว หลักยึดของครอบครัว เล่นได้อย่างน่าทิ่ง ชีวิตเธอน่าสงสาร แต่เธอไม่ได้ทำให้ดูน่าสงสาร แต่ดูน่าสงสัยมากกว่าว่า หัวใจเธอคิดอะไร ยากจะเดาจนกว่าจะจบเรื่อง นักแสดงบทสามีของลูกกสาวคนโตผู้ไม่มีความเป็นผู้นำ เป็นคนดี แต่ขอโทษ!!!!! ดูไม่ค่อยฉลาด พี่แกเอาอยู่ทุกเม็ด พ่อหนุ่มคนฉายหนังและเด็กน้อยทำได้ดีไม่ต้องติ ส่วนพ่อหนุ่มคนวาดรูปภาพโปสเตอร์หนัง นอกจากจะใจกล้าที่ " ผงาดฟ้า " แล้ว บทดราม่าไม่ได้ขี้เหร่เลย แถมคะแนนพิเศษกับท่าเดินที่เห็นแล้วยัง " เจ็บ " แทน  ที่ยกย่องเป็นพิเศษคือ ท่าร้องให้แต่ละคนที่เจ๋ง โ-ค-ต-ร ยกกำลัง 5 ร้องได้สมจริงเหลือเกินแต่ละคน น้ำหูน้ำตาน้ำลายน้ำมูก มาแบบร้องจริงๆจัง ไม่ใช่สเตปน้ำตาตกกลางตาแบบหนังดราม่าอื่นๆ ขอชมแรงๆ !!!!!!

    ผู้กำกับ : ไม่ใช่แค่ใจกล้าในการนำเสนอ แต่ต้องมั่นใจแบบสุดๆว่า ที่สื่อไปมัน " ใช่ " สำหรับหนัง เพราะการเสนอมาแบบตรงๆแบบนี้ มันสี่ยงต่อการดูของผู้ชม หากเสนอไม่ดี ผู้ชมก็จะไม่ได้อะไรนอกจากฉากขาย " ฉากเปลือย " ของตัวละคร  แต่เขาคุมทุกส่วนของหนังได้พอดีๆ เพ่งเรื่องราวในครอบครัวอย่างจดจ่อเพื่อไม่ให้คนดูเขวไปสนใจแต่เรื่องโป๊ๆ แล้วค่อยแทรกเรื่องของการ " ปลดปล่อยอารมณ์เพศ " ออกมาให้ผู้ชม แต่เสนอมันแบบไม่โสภาต่อสายตา  ทำให้ทุกครั้งที่เห็นฉากนี้ พาลจะเพิ่มความเครียดให้กำหนัง แต่ก็ปฏิเสธ ทุกเรื่องที่เสนอ คือความจริงที่เกิดขึ้นจริงในโรงหนังแบบนั้น แล้วเสนอกันแบบ " ไม่ประนีประนอม " เล่นตรงๆ ก็โดนหัวใจเราตรงๆ ไปเต็มๆ

    กดคะแนน : 9.5 เต็ม 10 หนังฟิลิปปินส์ที่เคยดูก็มา น้ำหนักเรื่องราวไม่ค่อยสมดุล บางก็มากไป น้อยไป เน้นโชว์เกินไป  แต่เรื่องนี้ มันผสมกับพอดีๆ  แต่ส่วนผสมทุกอย่าง หนักหน่วงและหนักๆทั้งนั้นเลย หากกรุณาลดๆตัวละครไม่จำเป็นลงซักนิด มันน่าจะ " ข้น " ได้มากกว่านี้  

    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

    แถมหน่อย.... เห็นบางคนเอาไปเทียบรักแห่งสยาม แหม!!!! ก็นะ บางคนจั่วหัวแบบท้าทายให้เกิดเรื่องซะด้วยยยย!!!  

    ถามผมว่าชอบเรื่องไหนมากกว่า : รักแห่งสยาม มากกว่านิดหน่อย ด้วยการนำเสนอมันต่างกัน รักแห่งสยามประนีประนอมในการนำเสนอมากๆ ค่อยๆทำให้มันค่อยๆเครียด แต่ไม่ตึงเกินไป หนังมีเรื่องราวของเพลง ดนตรี อารมณ์ขันแทรกเป็นระยะๆ ผสมสเรื่องราวข้นๆ จะดูให้ข้นก็ได้ ไม่ข้นก็ได้  ( แต่เนื้อหนังข้นนะครับ ) สังคมของตัวละครในรักแห่งสยามก็คนละสังคมกัน แต่ SERBIS ไม่ประนีประนอมเลย เหมือนขึงสายกีต้าร์ที่ตึงสุดๆ ดีดทีเดียวให้ขาดผึงไปเลย ตัวละครมีหายๆลืมๆไปบางคนด้วย ไม่ได้แย่นะ แต่ผมคิดว่า มันมากไปและตึงไป

    แล้วถ้าเป็นกรรมการ ผมจะให้รางวัลเรื่องไหน : SERBIS ซิครับ แน่นอนที่สุด การนำเสนอแบบสุดขั้วที่เสี่ยงต่อแรงวิจารณ์แง่ลบได้ง่ายๆแบบนี้ต้องไม่ทำธรรมดา แลทำได้เยี่ยมชนิดแทบไม่ได้ยินแง่ลบของหนังเลย

    รักแห่งสยาม ผมว่าดีกว่า SERBIS นิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....หน่อย  แต่งานสร้าง การนำเสนอ บวกกับความแรงของเนื้อหา  มันเหนือกว่ารักแห่งสยามเห็นๆ แล้วจะไม่ยกย่องเขาให้ได้รางวัลได้ยังไงกัน

    ที่อยากบอกมีเท่านี้หล่ะครับ .......

    :)

    แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 51 22:04:22

     
     

    จากคุณ : Bud-to-budding - [ 30 ต.ค. 51 20:34:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com