PANTIP.COM : A7157308 วันนี้ไปดู "ปืนใหญ่จอมสลัด" มาแล้วรู้สึกว่า..... [ภาพยนตร์]

ความคิดเห็นที่ 34

คุณ 31-33 อันนั้นก็ถือเป็นการตัดสินของคุณนะครับ เป็นวิจารณญาณและเป็นสิทธิของคุณ

แต่กับคำตอบสั้นๆว่า "เสียดายตังค์" หรือ "ง่วง" ผมว่าเป็นคำตอบที่มักง่ายมากเลย ถ้าไม่ดีก็ให้เหตุผลมาสิครับ ไม่ดีตรงไหนอย่างไร? (แล้วที่คุณง่วงเพราะคุณง่วงมาก่อนอยู่แล้วหรือเปล่าครับ? คุณว่าเขาไม่เก็บรายละเอียด ผมก็ว่าคุณไม่ให้รายละเอียดเช่นกันครับ)

คือให้พูดตรงๆนะครับ ถ้าผมตั้งใจจะจับผิดหนังเรื่องนี้ ผมก็จับได้เป็นร้อยๆจุด จะให้เอามาวิจารณ์ยำเละ ผมก็ทำได้เหมือนกัน แต่ที่ผมมาเขียนในกระทู้นี้ผมก็เขียนด้วยใจเป็นกลางสำหรับหนังไทยเรื่องหนึ่งที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและมีความตั้งใจทำ ก่อนไปดูผมไปดูด้วยใจที่ค่อนข้างว่าง คือผมไปดูโดยไม่ได้ใช้อคติและไม่ได้ตั้งใจไปจับผิดน่ะ และหลังจากดูจบแล้วผมคิดว่าหลายๆความเห็นจากใน pantip วิจารณ์หนังเรื่องนี้ติดลบมากจนเกินไป คือถ้าหนังมันแย่ห่วยแตกจริงๆผมก็ไม่อยากที่จะมาเขียนตั้งกระทู้แบบนี้หรอกครับ ที่ผมมาเขียนเพราะผมคิดว่า "เฮ้ย มันแย่แล้วว่ะ ทำไมหนังไทยที่ดีเรื่องหนึ่งกลับต้องมาถูกยำเละแบบนี้?"

แล้วสำหรับคำถาม "ถ้าไม่ใช่ผลงานของคุณนนทรีย์ หรือคุณวินทร์ คุณยังจะยอมรับได้หรือไม่?" ผมรับได้ครับเพราะโดยรวมๆก็ถือว่าใช้ได้ สมมติว่าตัดชื่อ 2 คนนั้นออกไป ผมคิดว่าในแง่ของหนังแอ็คชั่น ก็ถือว่าผ่าน, CGก็ดี (แทบจะดีที่สุดในหนังไทยที่เคยดูมา), ได้รับความตื่นเต้นเร้าใจในระดับหนึ่ง, และประเด็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, วิชาดูหลำ (ตัณหาของปลากับคน / หยิน-หยาง), ฯลฯ ผมถือว่ามีแง่มุมที่น่าสนใจมาก ฉากแอ็คชั่นประทับใจของผมก็มีอยู่ 2-3 ฉาก (เช่น ฉากเหินเวหา, ฉากยิงปืนใหญ่, ปารีเรียกปลาวาฬ, ฯลฯ) ตัวละครที่ผมประทับใจมากก็มี อจ.กระเบน และปารี กับลิ่มเคี่ยม คนละนิด

ถ้าจุดด้อยก็คงแบบที่หลายๆคนบอก มันขาด moment ที่สร้างความประทับใจ, ขาดความอิ่มเอมทางอารมณ์ และ acting ของดาราหลายคนที่ขาดๆเกินๆ และการปรากฏของตัวละครในฉากสำคัญที่มักจะโผล่มาเป็นระนาบเดียวกันหมด (ส่วนที่ใครบอกเหมือนละครจักรๆวงศ์ๆนั้น ผมดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับมันขนาดนั้น ถ้าเป็นหนังไทยแนวแฟนตาซีเรื่องก่อนๆน่ะเออ รู้สึกจริงๆ แต่ไม่ขอบอกว่าเรื่องอะไรแล้วกัน)

และบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ผมไม่ใช่ม้า ผมไม่ได้เกี่ยวดองกับสหฯ ผมเป็นคนที่เกี่ยวดองกับวงการหนังแบบอ้อมๆ (คนรู้จักผมทำงานให้กับ GTH และผมรู้จักคนในวงการพอสมควร) แต่พอผมได้มาอ่าน pantip แล้วเจอการวิจารณ์ตามแบบ คห. 31-33 (เป็นต้น) ผมรู้สึกเสียใจแทนน่ะครับ เสียใจแทนหนังไทยที่ไม่ได้ย่ำแย่และมีความตั้งใจทำ แต่ต้องมาถูกวิจารณ์ด้วยใจไม่เป็นธรรม

คุณลองคิดดูสิครับ หนังไทยด้วยกันเองที่ทำออกมาดี แต่ต้องมาถูกคนไทยด้วยกันเนี่ย นอกจากไม่สนับสนุนแล้วยังย่ำยี แล้วแบบนี้เมื่อไรมันจะพัฒนาครับ? หนังเกาหลีที่เค้ามาถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะคนของเค้าช่วยกันสนับสนุนส่งเสริม มันก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป

แล้วก็ฝากให้นักวิจารณ์ หรือใครก็ตามในนี้นะครับ ใส่ใจนิดหนึ่ง หนังเนี่ยช่วงเข้า 1-2 อาทิตย์แรกเนี่ยควรจะให้มันได้หายใจของมันบ้าง การแสดงออกหรือ free will เนี่ยไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับ แต่การที่คุณมาแสดงความเห็นในเชิงลบแบบติไปหมด หรือติแบบแย่ๆไม่รับผิดชอบ เช่น "ไม่ได้เรื่อง", "เสียดายตังค์", "ง่วง" ฯลฯ เช่นนี้ ใน Pantip มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อคน 100 หรือ 1,000 หรือ 10,000 คนที่จะตัดสินใจไม่ไปดูหนังเรื่องหนึ่งๆ (ยิ่งในยุคนี้ที่คนประหยัดกันด้วย) และประเทศเราพฤติกรรมการบริโภคหนังก็เป็นแบบบอกต่อกันด้วย การกระทำเช่นนี้เท่ากับคุณฆ่าหนังไทยทางอ้อมนะครับ

ผมไม่รู้นะ ผมว่าจริงอยู่มันเป็น free will แต่ในทางกลับกันมันก็เป็น ethic อย่างหนึ่งเหมือนกัน บอกตรงๆเลยนะครับ ผมเองเนี่ยก็ไม่ค่อยดูหนังไทยหรอก ตั้งแต่พอจบมหาวิทยาลัยมา ปีหนึ่งๆนับเรื่องดูได้เลยไม่เกิน 5 เรื่อง ยิ่งพวกหนังผีตีหัวเข้าบ้าน, หนังตลกคาเฟ่, หนังรักก๊องแก๊ง ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ไม่ได้กินเงินผมหรอกครับ ผมไม่ดูเลย แต่ผมก็ไม่เคยมาวิจารณ์หนังเหล่านั้นแบบเสียๆหายๆครับ

ผมอยากจะอุปมาเรื่องหนึ่ง ไม่รู้พวกคุณเคยดูรายการทีวีญี่ปุ่นทางช่อง 9 (โมเดิร์นไนน์) หรือเปล่าครับ? รายการ "Kazou Taishow" ที่ให้พวกผู้ชมทางบ้านมาทำการแสดงต่างๆ พอดูหลายๆตอนมันก็จะซ้ำๆจะเกร่อ จะเห็นได้ว่าตอนหลังๆ ถ้าเป็นพวกผู้ใหญ่มาแสดง ถึงจะแสดงดี แต่ถ้ามันซ้ำๆ เป็นการแสดงที่ไม่มีเสน่ห์ กรรมการก็จะให้คะแนนไม่ผ่าน แต่ถ้าเป็นการแสดงของเด็กๆที่ผมกับครอบครัวดูแล้วก็รู้สึกงั้นๆ เทียบกับการแสดงของผู้ใหญ่ไม่ได้เลย แต่พวกเด็กเหล่านั้นมีความตั้งใจ บางครั้งกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะใส่คะแนนความตั้งใจให้ (บางทีมได้เต็ม 20 เลยก็มี) บางคนอาจจะงง แต่ผมต้องการจะเปรียบเทียบว่าหนังไทยเราก็เหมือนพวกเด็กๆพวกนั้นนี่แหละ ทั้งในแง่ของทุนสร้าง, บุคลากร, โครงสร้างพื้นฐาน, ฯลฯ เราก็ควรที่จะบวกคะแนนความตั้งใจเพิ่มเข้าไปด้วยครับ (แต่ตอนไปดูเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้มานั่งคิดว่า "เฮ้ย เพราะความตั้งใจ เลยทำให้ชั้นรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันดี" ผมรู้สึกว่ามันดีด้วยตัวผมเอง)

ก่อนไปดูหนังเรื่องนี้ ผมรู้ครับว่าหนังเรื่องกำกับโดยคุณนนทรีย์, เขียนบทโดยคุณวินทร์, ใช้ทุนสร้างกว่า 200 ล้าน, และได้ไปฉายเทศกาลหนังเมืองนอก (รู้เพราะตอนไปเทศกาลหนัง Bangkok Film) แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ผมอยากไปดู ผมไปดูเพราะเห็นตัวอย่างหนังแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี

อยากจะฝากหลายๆคนด้วยนะครับ ก่อนไปดูหนังเรื่องไหนก็ตาม ทำใจให้ว่างครับ อย่าตั้งความคาดหวังมากนัก อย่ามัวแต่จับผิด และอย่าใส่อคติมากจนเกินไป แล้วคุณจะมีความสุขกับการดูหนังมากขึ้นครับ

แต่สุดท้ายแล้วสำหรับหนังเรื่องนี้ ผมก็คงจะเป็นได้แค่คนหนึ่งที่มาพล่ามระบายความรู้สึก ยังไงๆคนดูส่วนใหญ่เท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน (เป็นกำลังใจให้หนังเรื่องนี้ในตลาดต่างประเทศด้วยครับ ยังไงก็ขอให้หนังได้ทุนคืน เพราะในประเทศไทยต่อให้ได้ถึง 100 หรือ 200 ล้านก็ยังแค่น้ำจิ้มอยู่ดี)
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 10:38:56
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 04:06:15
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 04:03:42
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 03:53:24

จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 2 พ.ย. 51 03:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35

ตามมาตอบหลังจากได้หลังไม ของ จขกท. มาชวนอ่านต่อครับ

... ครั้งนี้ ผมคิดต่างจาก คุณจขกท.ครับ

ผมคิดว่า ความเห็น 31-33 ไม่มักง่าย ไม่ได้เป็นคำตอบที่น่าเกลียด และ ก็ไม่ได้เป็นอคติ

ความเห็นประมาณ ‘เสียดายตังค์ ชวนง่วง น่าเบื่อ’ ผมคิดว่ายังสุภาพมากกว่า คำตอบประเภท ‘ห่วยแตก หนังขยะ ฯลฯ’

หากแต่ผมกลับรู้สึกว่า จขกท. มีความรู้สึกดีๆกับหนังเรื่องนี้ และ รู้สึกไม่ดีถ้ามีคนมาติ จึงต้องการเหตุผลที่มาที่ไปให้ละเอียดหรือแม่นยำ ซึ่งผมคิดว่า” มีก็ดี แต่ก็ไม่จำเป็น”

...ต้องยอมรับก่อนว่า

1.พันทิป เป็น เว็บสาธารณะ ไม่ใช่ เว็บนักวิจารณ์อาชีพ ไม่ใช่นิตยสารหนัง

ดังนั้น ความเห็นในนี้ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาๆที่ไปดูหนังมา เป็นคนที่เสียตังค์ถึงหนึ่งร้อยกว่าบาทด้วยความคาดหวังที่แตกต่างกัน โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันกับบุคคลในหนัง เป็นคนที่ไม่ได้จบด้านการวิจารณ์หรือวงการภาพยนตร์ ดังนั้น การแสดงความเห็นไม่จำเป็นต้องดูดี (ผมใช้คำว่า ‘ไม่จำเป็น’ นะครับ ไม่ใช่ ‘ไม่ควร’)

คือ ถ้าจะช่วยก็ดี แต่ไม่ช่วยผมก็ว่าไม่ผิดอะไร

เพียงแค่ ความรู้สึกส่วนตัวว่า ชอบ/ไม่ชอบ ขอแค่อย่าตอบแบบ จ้องจะเอาให้ตาย หรือ ใช้คำหยาบคายทำร้ายความรู้สึกอย่างไม่มีเหตุผล ผมก็คิดว่า โอเค แล้ว

...ต้องยอมรับก่อนว่า

2. ยุคสมัยปัจจุบัน การมี blog หรือ เว็บบอร์ด เปลี่ยนวงการวิจารณ์ไปมาก

เพราะทำให้ มีนักวิจารณ์อิสระและสมัครเล่นมากขึ้น เร็วขึ้น เมืองนอกก็เช่นกัน ซึ่งทำให้ต่างจากแต่ก่อนที่กว่าบทวิจารณ์ส่วนใหญ่จะออก หนังก็เก็บระยะไปได้พักใหญ่แล้ว แต่ สมัยนี้ คำวิจารณ์ชุดใหญ่พร้อมจะออกในวันแรกที่หนังเข้าฉาย ผ่านในโลกไซเบอร์

ซึ่งถ้าหนังดี ก็รับรองว่ากระแสดี หนังห่วยก็รับรองว่าโดนด่า

คนที่เข้ามาตอบส่วนใหญ่ ไม่ได้แบกรับ ความรับผิดชอบที่ว่า ต้องทนุถนอมหรือเห็นแก่วงการหนัง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดจ้องอาฆาตทำลาย ทุกคนเข้ามาตอบ ตามความรู้สึกที่มี ซึ่งเป็น free will ที่ผมคิดว่าเหมาะสม ตราบใดที่ไม่ได้มีอคติจ้องทำลายหนัง

มิเช่นนั้น ถ้าจะให้มีแต่บทวิจารณ์ประเภท ตีความ หรือ ถูกต้องตามหลักทฤษฎี ผมเกรงว่าต้องหาอ่านในนิตยสารหนัง หรือ ถ้าจะให้มีแต่ บทวิจารณ์ที่ลดอัตวิสัยหรือความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อหนัง ก็คงทำให้เว็บบอร์ดหรือแหล่งข้อมูลนั้นๆ จืดชืดน่าเบื่อ

... และถ้า เราชอบ เราก็บอกเหตุผลไปว่า ชอบ เพราะอะไร

อีกฝั่งที่ตอบไม่ชอบ เราก็เอาเหตุผลมุมมองไปสู้ว่า เราคิดต่างตรงไหน แต่ ถ้าการจะแย้งอีกฝั่งเสมอไปเวลาคิดไม่ตรงกัน ให้อีกฝั่งพยายามถนอมความรู้สึกของคนฝั่งเรา อันนี้เป็นเรื่องยากครับ

ป.ล. ส่วนตัวผมหลายปีที่ตั้งกระทู้ที่เล่นมา ถ้าผมต้องคอยตอบคอยแก้ทุกความเห็นที่มาแสดงความเห็นในกระทู้ ที่คิดไม่ตรงกัน คงไม่ได้อยู่เล่นยาวถึงตอนนี้ เพราะ คงเครียดตายไปเสียก่อน smile ดังนั้น ถ้าใครคิดต่างตราบใดที่ไม่เกรียน ผมก็อาจจะหงุดหงิดบ้าง แต่ก็จะผ่านๆไป ยกเว้น เจอเกรียนเมื่อไหร่ หรือ เจอ ความเห็นแย้งที่ชวนแสดงเหตุผลมาถกกัน จึงจะตอบความเห็นที่คิดต่าง

ป.ล.2 ที่ผ่านๆมา ถ้าเป็นหนังไทย หนังเรื่องนี้ที่มี เจตนาดี ไม่ได้เผางาน ไม่ได้ตีหัวเข้าบ้าน ถ้าผมไม่ชอบ ผมจะไม่รีบตั้งกระทู้ เพราะก็รู้ว่า มีผลต่อคนอ่าน อย่าง ปืนใหญ่ ผมทิ้งช่วงประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะมาตั้ง

แต่ถ้าหนังเรื่องไหนที่ผมชอบ ก็จะตั้งเร็วเช่น โปรแกรมหน้า หนังอาจไม่ได้ดีมาก แต่ผมชอบ ผมก็เขียนบล็อกในวันสองวันหลังดูหนังมา

... ขอบคุณครับที่ชวนมาคุย ขออภัยที่ยาวไปหน่อย

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 2 พ.ย. 51 10:30:25 ]