Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    << กระทู้นี้สำหรับคนดูหนังและนั่งอ่านพันทิป ... อันว่าด้วย บทวิจารณ์ , นักวิจารณ์ , การดูหนังให้สนุก { และ Spoil ฯลฯ} >>

    ... คิดอยู่นานว่าจะเขียนกระทู้ดีหรือไม่ เพราะปกติอะไรก็ตามที่ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้อง เกรงว่าจะเป็น คอนฝลิก อ๊อฟ อินเทเรสท์ฮ่าฮ่าฮ่า

    แต่ในฐานะที่อยู่ในสองโลกคือโลกนิตยสารและโลกอินเตอร์เน็ต และสองสามสัปดาห์มานี้ ผมนั่งอ่านกระทู้แล้วรู้สึกว่า นอกเหนือจากเรื่อง ‘สปอยล์อันเป็นที่รักsmile’  ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ นักวิจารณ์ และ บทวิจารณ์หนัง ที่น่าสนใจ ชวนให้เขียนถึง


    idea1.อันว่าด้วยบทวิจารณ์
    (บทวิจารณ์ในที่นี้หมายรวมทั้ง review , critic และ comment)

    ... ประโยคที่ได้ยินบ่อยๆคือ “อย่าอ่านบทวิจารณ์ อย่าให้คำวิจารณ์มาชักนำคนดู”

    ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคแรก แต่เห็นด้วยกับประโยคหลัง

    บางคนบอกไม่เคยอ่าน  บทวิจารณ์หนัง เลย เพราะกลัวว่าบทวิจารณ์จะชี้นำความคิด ซึ่งผมเคารพในแนวความคิดนี้ และ ตัวเองก็จะไม่อ่านบทวิจารณ์ละเอียดๆ ก่อนไปดูหรือเขียนถึงเลย  ยกเว้นว่า ยังลังเลใจ อาจจะอ่านแค่คร่าวๆช่วยตัดสิน

    แต่ผมคิดว่า น่าเสียดาย ถ้าจะไม่อ่าน บทวิจารณ์หนัง เพราะเหตุผลที่ว่ามา

    ...ด้วยรู้สึกว่าหลายๆคนตั้งแง่และเข้าใจผิด กับคำว่า   ‘นักวิจารณ์ หรือ บทวิจารณ์’ มากไปนิด จนปิดโอกาสตัวเอง จากความเข้าใจว่า 'บทวิจารณ์' ทำหน้าที่แค่บอกว่าหนังดีหรือไม่ดี ซึ่งถ้าคิดเช่นนี้ ผมคิดว่า เรายังใช้ประโยชน์ จาก 'บทวิจารณ์หนัง' ทั้งจากในเน็ตหรือนิตยสารไม่ค่อยคุ้ม

    เพราะ 'บทวิจารณ์' ไม่ได้มีแค่ชั้นเดียวคือชี้ว่าหนังดีหรือไม่ดี แต่ คำวิจารณ์ หลายๆที่ มีแง่มุมที่น่าสนใจทั้งในเชิงการทำหนัง หรือ ในเชิงวิเคราะห์ หรือในเชิงการนำมาปรับใช้กับชีวิต ฯลฯ

    เช่นส่วนตัว

    ผมชอบอ่าน บทวิจารณ์ของคุณประวิทย์ แต่งอักษร ใน Starpics ในแง่ที่ว่า ทำให้เราได้เรียนรู้การตีคุณค่าของหนังผ่านกระบวนการของคนทำหนัง และ ได้รู้ข้อมูลหลายๆอย่างเกี่ยวกับหนัง ที่เราไม่รู้มาก่อน ชวนให้อยากไปหามาอ่านเพิ่ม

    ชอบอ่าน Symbolic corner ของคุณไกรวุฒิใน Bioscope เพราะชอบ การตีความจากหนังอย่างน่าสนใจโดยอ่านไม่ยากเหมือนบทวิจารณ์ที่มักจะตีความในเชิงสัญลักษณ์

    และ ชอบอ่าน บทความของ คุณนรา เพราะ ชอบการย่อยสิ่งยากๆให้อ่านง่ายอ่านสนุก โดยไม่สูญเสียคุณค่าของเนื้อความที่ยังคงเต็มไปด้วยข้อมูลดีๆและมีทัศนคติที่ไม่แข็งกร้าวหรือใช้อารมณ์

    ... ผมจึงคิดว่า บทวิจารณ์ มีอะไรมากไปกว่า ‘หนังดีหรือไม่ดี’ ขอเพียงอ่านแล้วพร้อมจะยอมรับความเห็นที่แตกต่าง จะพบมุมมองใหม่ๆ และ ทำให้สนุกกับการดูหนังมากขึ้นอย่างแน่นอน



    idea 2.ปัญหาจากบทวิจารณ์ - ไม่น่าเชื่อตามที่อ่านเลยตรูcry

    ... ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆที่ผมมักจะเห็นในกระทู้เกี่ยวกับหนัง เหมือน กระทู้คั่วไก่ในอดีต คือ

    นาย ก. อ่านกระทู้เพื่อวางแผนไปดูหนัง

    อ่านเจอคนมาตั้งกระทู้เชียร์หนังเรื่อง ‘รักแห่งสยิว’ พอไปดูเองไม่สนุก --> กลับมาด่าคนตั้งกระทู้ เช่น สงสัยจะไม่เคยดูหนังดีกว่านี้ , คนที่ชอบสงสัยจะเป็นพวกเดียวกับตัวละครในหนัง ฯลฯ

    อ่านกระทู้แล้วมีคนมาตั้งกระทู้ติหนังเรื่อง ‘ปิดเทอมใหญ่ เกรียนไทยว้าวุ่น’ พอไปดูเองแล้วชอบ --> กลับมากระแนะกระแหนคนตั้งกระทู้ เช่น น่าละอายคนไทยไม่เชียร์หนังไทย , สงสัยจริงๆ พวกดูไปติไป ดูหนังสนุกบ้างหรือเปล่า , แน่จริงก็ไปทำหนังเองดิ ฯลฯ


    ...กรณีข้างต้น ผมอยากเสนอความเห็นถึง นาย ก. ในทุกๆกระทู้ว่า  

    ปัญหาไม่ใช่บทวิจารณ์ แต่ปัญหา มาจาก วิจารณญาณของตัวเอง

    เพราะบทวิจารณ์มาจาก ความเห็นของคนดูที่ดูแล้วมาเขียน ซึ่งในนั้น ย่อมมีทั้ง ความชอบ/ไม่ชอบ หรือ ดี/ไม่ดี

    และแน่นอนว่า จริตหรือรสนิยม ของคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเสียอารมณ์เพราะเชื่อบทวิจารณ์แล้วไปดูไม่เป็นอย่างที่หวัง นั่นไม่ได้แปลว่า คนตั้งกระทู้หรือคนวิจารณ์ที่ผิด แต่ ผิดที่จริตของเราไม่ตรงกับของเขาเอง



    idea 3.หนังดีคือหนังที่เราชอบ ?

    …ชอบ/ไม่ชอบ และ ดี/ไม่ดี คือ ประเด็นที่ทำให้ข้อ 2 มีการทะเลาะกันบ่อยๆ จากการที่เรา เหมารวมสองคำนี้ไปด้วยกัน

    หนังทุกเรื่อง มีตัวชี้วัดแน่นอนว่า ดี หรือ ไม่ดี เช่น แสดงดีหรือแสดงแย่ , ตัดต่อราบรื่นหรือตัดต่อลวกๆ , งานสร้างละเอียดสมจริงหรืองานสร้างหยาบๆ ฯลฯ

    การตัดสินว่า 'ดี หรือ ไม่ดี' จึงมีที่มาทั้งจาก ความรู้ที่สะสมมา หรือ จากประสบการณ์การดูหนัง  ไม่ใช่จากรสนิยมหรืออารมณ์ของเราเอง และ การตัดสินที่น่าเชื่อถือก็มักจะมาจาก คนที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์

    เช่น ให้หมอคนหนึ่งกำลังผ่าตัด แล้ว มี หมอเก่งๆอีกคนยืนดู กับ สถาปนิกเก่งๆที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ยืนดู ความเห็นจากหมอเก่งๆ ที่บอกว่า ‘ผ่าตัดดี’ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์หรือวิชาที่เรียนมาย่อมน่าเชื่อถือว่า สถาปนิกที่บอกว่า ‘ผ่าตัดดี’ เพราะ คิดเอาเอง รู้สึกว่ามันน่าจะดี

    ดังนั้น การดี หรือ ไม่ดี สามารถตัดสินได้แน่นอน แต่ ในเรื่องของ ความชอบ หรือ ไม่ชอบ เป็นเรื่องของแต่ละคน

    หนังที่เราชอบ อาจไม่ได้ดีเด่ ในแง่ของการทำหนัง
    หนังที่ดีจนได้รางวัล เราก็อาจจะไม่ชอบ ไม่ใช่ว่าเราโง่

    ...ดังนั้น เมื่อไหร่ที่เราใช้แนวความคิด ‘หนังดีคือหนังที่เราชอบ’ ไปตอบกระทู้ถกเถียงกัน มันย่อมเกิดปัญหาตามมาแน่ๆ

    เพราะจริงๆแล้ว หนังดี ต้องมีคำว่า ของเรา ประโยคจึงจะถูกต้องสมบูรณ์ เป็น ‘หนังดี (ของเรา) คือหนังที่เราชอบ’ และ หนังที่เราชอบมันก็ไม่จำเป็นต้องดีก็ได้



    idea 4.การเป็น นักวิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต

    ... วันก่อนอ่านกระทู้แล้วมีแง่มุมที่น่าสนใจว่า การจะเขียนวิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต จำเป็นต้องทำการบ้านหรือต้องข้อมูลแน่นแม่นยำหรือไม่? ก่อนที่จะเอามาลง

    ความเห็นของผมคิดว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องแน่นเปรี๊ยะหรือเก่งกาจจึงจะมาตอบมาตั้งกระทู้ได้ แต่สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ ‘มารยาทและการเคารพความเห็นผู้อื่น’ และ ไม่ควร ‘บิดเบือนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เช่น ด่าเอามันส์เพราะเกลียดผู้กำกับ หรือ เคยเกลียดค่ายนี้ที่ไม่สนบทหนังของเรา หรือ คอยแต่สวมหน้าม้าแทนที่จะเป็นหน้าคน’


    ...ผมมองว่า ผู้ที่มาวิจารณ์หนังในโลกไซเบอร์ มีความต่างจาก นักวิจารณ์ตามนิตยสารอยู่สองสามประการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับ ความเก่งกาจหรือความแจ๋วจริง

    ความแตกต่างนั้นคือ

    A.การวิจารณ์ในเน็ต ไม่ได้คิดตังค์จากผู้อ่าน ดังนั้น อยากเขียนอะไรก็เขียนได้ ในแง่ของความคิดความรู้สึก ตราบใดที่ยังไม่หมิ่นประมาท หรือ ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย จะไม่แน่นก็เขียนได้ ไม่แม่นยำก็ไม่ผิดกฎการเขียนกระทู้(แต่แม่นยำก็ย่อมดีกว่า)  แต่

    ถ้า โดนวิจารณ์ คำวิจารณ์หรือความเห็นตัวเองกลับมา ก็ต้องพร้อมที่จะรับ เช่น ถ้ามั่วๆจริง หรือ ไปลอกเค้ามาจริงๆ โดนจับได้โดนตำหนิ ก็ควรยอมรับแต่โดยดี

    และในส่วนที่เป็น fact หรือ data ที่มีผลต่อเนื่องถึงผู้อื่น หากไม่รู้ก็ไม่ควรจะมั่ว อันนำมาซึ่งความเดือดร้อนของคนอื่นๆอีกต่อได้


    B.นักวิจารณ์ในโลกไซเบอร์ ต้อง มี 'ใจ' ที่พร้อมจะรับมือกับการ วิจารณ์ซ้อน อีกต่อ เพราะในโลกหนังสือเขียนส่งบก.จบเป็นจบ อาจมีคนมาวิจารณ์ทีหลังแต่ถ้าไม่เปิดอ่านก็ไม่รู้ แต่ ในเน็ต มีคนที่พร้อมจะถกกลับในทันที และ มีคนที่อาจจะรู้จริงกว่าเรามาตอบเราได้


    C.นักวิจารณ์ในโลกไซเบอร์ มีโอกาสอันดีที่จะฝึกปรือฝีมือ ถ้าคิดจะเขียนต่อๆไป เพราะจะมีคนมา feed back อย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าเปิดใจยอมรับและปรับปรุง ย่อมเป็นโอกาสอันดีกว่านักวิจารณ์ในนิตยสารซึ่งแทบจะไม่มีความเห็นตอบกลับมาได้มากเท่า เรียกได้ว่า ความเห็นของคนอ่าน คือ อาจารย์อันประเสริฐ



    idea 5. สปอยล์ /Spoil/สปอยลิซึ่ม ฯลฯ

    ... หัวข้อนี้เป็นประเด็นฮอตฮิตเสมอ แต่เคยเขียนถึงแล้วเลยขอเอาของเก่ามาลง

    Spoil  เป็น ศัพท์สากลที่ใช้ ทั่วโลก ไม่ใช่ คนเล่นพันทิป ดัดจริตใช้ อย่างที่บางคนเข้าใจผิด

    Spoil  เป็น ศัพท์ที่หมายถึง การแจ้งเตือนว่า บทความที่กำลังจะเขียนถึง มี เนื้อหาที่เฉลยปมสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็น จุดหักมุม หรือ จุดสำคัญ ที่หากรู้ก่อนดู จะทำให้เสียอรรถรส


    ...ดังนั้น

    Spoil ไม่ได้แปลว่า การเล่าเรื่อง หรือ การเขียนบรรยายเนื้อหา


    ...ดังนั้น

    Spoil  ไม่ใช่ กฎ แต่เป็น มารยาท  เป็นการแสดงออกถึงการคิดถึงใจเขาใจเรา


    ...ดังนั้น

    ถ้ารู้ความหมายแล้ว แต่ยังคิดว่า "ตรูชอบรู้ตอนจบ ตรูไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไง" แล้วเขียน บอกตอนจบหรือจุดหักมุมตั้งแต่แรกโดยไม่แคร์ใคร เช่น


    A70319200   กรี๊ดดดด ชอบตอนจบ sex sense มากเลยคะ ที่พ่อพระเอกตาย มีใครชอบบ้างคะ “เกรียนไทย(ไม่สน)ใจสปอยล์” (23 - 24 ก.ย. 51 01:10)

    A70319201 สุดยอดมากเลยครับ ที่ผู้ร้ายเอา ขนมจีน ใส่กล่องให้พระเอกในตอนจบของ Seven คุณๆตอนดูคิดว่าในกล่องเป็นอะไรกันครับ  “ท๊อตแน่มฮอตสปอยล์” (23 - 24 ก.ย. 51 01:33)



    ... จัดได้ว่า ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดกฎเว็บบอร์ด

    แต่ แสดงออกถึง การเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่มีมารยาท และ น่ารังเกียจ

    เพราะ มันมีวิธีที่อยากจะคุยเกี่ยวกับประเด็นเกี่ยวกับหนัง ตามหัวข้อข้างบน และ  สามารถตั้งกระทู้โดยไม่สปอยล์ได้ โดยจะไม่ใส่คำว่า 'สปอยล์' ก็ยังได้ถ้าไม่ชอบคำๆนี้ อย่างเช่น



    A70319200   กรี๊ดดดด ชอบตอนจบ sex sense มากเลย  มีใครชอบบ้างคะ มาคุยกันในกระทู้เลยคะ “เกรียนไทย(เข้า)ใจสปอยล์” (23 - 24 ก.ย. 51 01:10)

    A703192001   ถามคนที่ดู Seven แล้ว คิดว่าของในกล่องเป็นอะไรกันครับ  “ท๊อตแน่มฮอตสปอยล์” (23 - 24 ก.ย. 51 01:33)



    ... และ ถ้าสองกระทู้ข้างต้น ยังมีคนเข้าไปอ่านแล้วโวยวายว่า จขกท. สปอยล์ ก็แสดงว่า ใครคนนั้น มีปัญหาสปอยล์โฟเบียจริงๆ หรือ มีปัญหาสายตาและความเข้าใจภาษาไทยฮ่าฮ่าฮ่า



    smile...ทั้งนี้และทั้งนั้น ที่เขียนมา เพราะ แต่เดิมในพันทิปมักมีกระทู้เกี่ยวกับหนังดีๆแต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มลดน้อยถอยลง บวกกับ เคยได้ยินบางคนที่เขียนเกี่ยวกับหนังได้ดี จรลีหนีห่างที่นี่ไปเพราะ เบื่อกับการตอบรับในแง่ลบ


    กระทู้นี้จึงเป็นกำลังใจlove ให้ผู้ที่ยังเขียนวิจารณ์ หรือ ตั้งกระทู้ หรือ แสดงความเห็น เกี่ยวกับหนังต่อๆไป และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีบทความเกี่ยวกับหนังให้อ่านมากมายเหมือนที่ผ่านๆมา (ด้วยไม่อยากเสียตังค์กับค่านิตยสารหนังให้มากนักฮ่าฮ่าฮ่า)

    และขอยืนยันว่า อ่านบทวิจารณ์ เล่นพันทิป ก็ยังทำให้ สนุกกับการดูหนังได้อย่างแน่นอน


    แต่ พันทิปจะไม่เหมาะกับท่าน ในกรณีต่อไปนี้

    exclaimก. ไม่อยากอ่าน ความเห็นที่มาติมาตำหนิ หนังที่เราชอบ
    (ขอแนะนำโปรดเข้าเว็บแฟนคลับของหนังเรื่องนั้นๆ เนื่องจาก เว็บบอร์ด เป็นพื้นที่ของทุกๆคนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกันเสมอไป)

    exclaimข. รำคาญเวลาเห็นกระทู้วิจารณ์หนัง / ต่อมหมั่นไส้พองโตกับพวกชอบวิจารณ์ / เกิดอาการผื่นคันเวลาอ่านพวกนักวิจารณ์สมัครเล่นฮ่าฮ่าฮ่า   ฯลฯ
    (ขอแนะนำ โปรดเข้าห้องเฉลิมกรุงหรือหว้ากอ เพราะ ห้องเฉลิมไทย มีไว้สำหรับ ภาพยนตร์)


    ... และ

    ถ้าอยากทะเลาะกัน ทางเรา ขอแนะนำ กระทู้นี้ที่จะนำเสนอกระบวนการทะเลาะกันในกระทู้ได้เป็นอย่างดีhaha

    <<<<<<<<< ดูแล้วมาตีกัน ... ชังแห่งสยาม , ทุกกระทู้(เกี่ยวกับหนัง) ตีกันได้ง่ายนิดเดียว >>>>>>>>>
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7035567/A7035567.html

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 23:31:29

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 23:29:14

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 23:27:58

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 22:28:08

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 22:20:34

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 22:11:36

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 21:56:16

    แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 21:50:21

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 31 ต.ค. 51 21:39:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com