ความคิดเห็นที่ 1 พันธุ์ทิพย์ ไม่ให้โพสบอก link ตรงๆหน่ะค่ะ แถมคุณ ซิงซิง ก็ไม่มีอมยิ้มหลังไมค์ให้จิ้มด้วย ^^; เอาเป็นว่า คุณทิ้งเมล์ไว้ได้ไหมคะ เดี๋ยวเราจะเมล์ไปหา เพลง theme song ' Kiss Shite ' นอกจากจะเป็นฝีมือโปรดิวซ์ของพระเอก และร้องโดยนางเอกแล้ว เพลงบรรเลง opening title ยังเป็นฝีมือพระเอกอีกค่ะ เราชอบมาก คิดได้ไงอ่ะ Fukuyama นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นนักดนตรี+โปรดิวเซอร์ที่สามารถมากๆ (เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ได้ยินนั้น แกเล่นเองในห้องบันทึกเสียงด้วยนะคะ) อารมณ์นักสืบสุดๆ สไตล์ rock+jazz แบบนี้ยิ่งถูกใจไปใหญ่ อัลบั้ม ost เพลงบรรเลง แบ่งหน้าที่กันโปรดิวซ์ระหว่างพระเอก Fukuyama Masaharu รับผิดชอบ track ที่ 1-6 กับ นักประพันธ์สายคลาสสิครุ่นใหม่อีกคนหนึ่ง คือ คุณ Yuko Kanno อายุยังน้อยอยู่เลยคนนี้ แต่ทำเพลงได้น่าสนใจมาก จะมารับผิดชอบในสกอร์ส่วนที่เป็นสไตล์คลลาสิคค่ะtrack ที่ 7-14 1.vs. ~Chikaku to Kairaku no Neji~ (opening title) 2.Kakusei Moment 3.KISS Shite (jazz ver.) 4.vs. ~Chikaku to Kairaku no Neji~ (Guitar & Piano ver.) 5.Kakusei Moment (mid funk ver.) 6.KISS Shite ~epilogue~ (solo piano ver.) 7.Tantei Galileo 8.Teito Daigaku 9.Moeru 10.Butsurigaku Ka Daijusan Kenkyu Shitsu 11.Utsuru 12.Mieru 13.Yukawa & Utsumi 14.Yochimu จากคุณ : tor_toey (molecularkitten) - [ 5 พ.ย. 51 15:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาเก็บข้อมูลค่ะ ยังไม่เคยดูเรื่องนี้ รอดูทางไทยพีบีเอสค่ะ จากคุณ : baby_15 - [ 5 พ.ย. 51 16:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หากผิดพลาด หรือมีอะไรไม่เหมาะสม ก็ขออภัย หรือจะลบกระทู้ออกก็ได้นะครับ ที่ติดใจเพลงบรรเลงก็ตอนที่พระเอก ไปดูที่เกิดเหตุในตอนแรก แล้วหันซ้ายหันขวาคว้า อุปกรณ์ "สมัยหิน" มาใช้งานน่ะครับ แล้วเพลง theme song ไม่มีคนร้อง ก็ขึ้นมา กล้องก็หมุนวนรอบพระเอกเลย (ไม่อยากเขียนมาก เดี๋ยวโดนข้อหา สป๊อก) สำหรับผมแล้ว หนังจงใจบอกคนดูว่า ถึงแม้พระเอกจะเก่งเทพขนาดไหน แต่ก็ยัง "ติดดิน" นี่แหละ ที่ผมชอบ ถ้าเป็นหนังฝรั่ง ท่านคงคว้าโน๊ตบุ๊กหรือ blackburry ออกมาแล้ว korkormoon@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้าครับ หนังฉายดึกเกินไป อยากให้เอามาฉาย ชนกับช่องเจ็ดสีวันเสาร์อาทิตย์ รับรองว่า ได้คนดูเพิ่มอีกหลายแสน คุณเทพชัย หย่องกรุณาพิจารณาอีกหนเถอะครับ จากคุณ : ซิงซิง - [ 5 พ.ย. 51 16:34:53 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ เสียดายเหมือนกันค่ะ อยากให้เด็กได้ดู นานๆทีจะเห็นซีรีย์ที่อิงแนวคิดวิทยาศาสตร์แบบที่เสนอการทดลองแบบจริงๆ ไม่ใช่ออกแนวไซไฟจนเว่อร์ ยิ่งน้องๆที่เรียนสายวิทย์นี่ จะยิ่งสนุกเลย เคยอ่านเจอ blog หนึ่งอ่ะค่ะ เป็นผู้ชายเขียน เขาบอกว่าดูซีรีย์เรื่องนี้แล้ว ที่ทำให้เขารู้สึกขึ้นมาได้อีกอย่าง คือ ไม่นึกว่าอาจารย์ใส่เสื้อกาวน์สะบัดไปสะบัดมา เขียนสมการอยู่ยิกๆนั้น จะสามารถเท่ห์ได้เท่าพระเอกบู๊จับปืน กล้ามโต แบบฮอลีวู้ด (ฮา) แต่ยิ่งไปกว่าเรื่องเท่ห์ เราว่าเราชอบนิสัยอาจารย์ท่านนี้นะคะ เซ็นเซย์คนนี้ดูภายนอก อาจจะเป็นคนที่เหมือนไม่สนใจคนอื่น แต่จริงๆแล้วเขากลับดูคนออกได้ทะลุปรุโปร่งมาก เพราะแกไม่ได้ดูคนแต่ที่ภายนอก อีกเรื่อง คือ แกเป็นคนเก่งที่ไม่ดูถูกคนด้วยค่ะ (แต่ถ้าเรื่องที่ชอบบอกว่า นางเอกเนี่ย ไม่รู้อะไรเลย (=โง่ T_T) อันนั้นเราว่า แกออกแนวรักดอก จึงหยอกเล่นมากกว่า :P) ถ้าอ่านนิยายนะคะ เพื่อนแกที่เก่งเท่าแกเนี่ย ไม่ได้ต่อ ดร. มาเจอกันอีกทีแกยังนึกว่าเพื่อนทำงานในมหาวิทยาลัย เป็นนักวิจัย หรือ อาจารย์ไปแล้ว แต่เพื่อนกลับเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ แกก็ไม่ได้นึกอะไร ไม่ได้ไปซักไซ้ หรือ เอาแต่พูดว่าทำไมถึงไม่เรียนต่อ แกยังเข้าใจเหตุผลว่าคนเราก็มีเหตุผลของตัวเองต่างกันไป แล้วแกยังเห็นว่าเพื่อนแกเก่งยังไงก็ยังยังงั้น ไม่ได้ถือว่าตัวแกที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จะดีไปกว่าเพื่อนที่เป็นอาจารย์โรงเรียนมัธยมเลย จากคุณ : tor_toey (molecularkitten) - [ 5 พ.ย. 51 17:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเช้าๆสักสิบโมง ผมว่าเด็กสายวิทย์ ส่วนใหญ่ก็เรียนพิเศษกันน่ะครับ ผมว่า ตอนสักสอง สามทุ่มนี่แหละครับ แต่ขอเสาร์ อาทิตย์แล้วกัน เหมาะจะฉายมาก และเป็นไปได้ ทำเป็นวีซีดี ส่งไปให้ตามโรงเรียน ให้ดูกัน ก็คงดีไม่ใช่น้อยน่ะครับ (ว่าแต่ จะทำได้เหรอ) ว่าจะส่งความเห็นไปทางช่องอยู่ครับ จากคุณ : MobMan - [ 5 พ.ย. 51 21:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยกมือสนับสนุนเรื่องเด้กๆสมควรได้ดู อย่างน้อยถึงได้เวลานี้ก็น่าจะได้ฉายเสาร์อาทิตย์นะเรื่องนี้ จากคุณ : lovelybi - [ 5 พ.ย. 51 22:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ดนตรี ตอนเอานิ้วขมวด แล้วเขียนๆ ทุกอย่างที่ขวางหน้าหรือปล่าวครับ 5555 เข้ามาแซวเล่นนะ แต่ที่จริง ชอบ จากคุณ : จิบเดียวก็ซื้งแมน - [ 6 พ.ย. 51 10:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ เพลงนี้อ่ะค่ะ  vs. ~Chikaku to Kairaku no Neji~ เซ็นเซย์แกก็เล่นซะเมามันส์ของแกไป ^^ จากคุณ : tor_toey (molecularkitten) - [ 6 พ.ย. 51 11:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนที่สอง floating ท่านเอาหัวมุดลงไปในถังขยะ(พิษ) ถ้าลงไปได้ทั้งตัวก็คงลงไปแล้ว เห็นนั่งยองๆกอดถังขยะ อยู่นี่ครับ เข้าท่า เข้าท่ามาก ฮ่ะ ฮ่ะ จากคุณ : ซิงซิง - [ 6 พ.ย. 51 16:46:52 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพลงนั้นโป๊ะเชะเลยครับ เก่งจัง ผมเขาไปหาในยูธูป ยังไม่เจอเลยฮะ ผมชอบซีรี่ย์เอเซีย เพราะตัวหนังจะสอดใส่ “วัฒนธรรม” ลงไปด้วย ทำให้หนังมีมิติความลึก จะดูเอามันส์ เอาฮา เอาเฮ เอาเสียว อย่างเดียวก็ได้ หรือจะดูเพื่อลงลึก ก็ยังได้ เช่น Haken No Kinkoku เรื่องนั้น ทำให้เข้าใจว่าญี่ปุ่นทำงานกันอย่างไร ทั้งฮาเคน ทั้งพนักงานประจำ ต่างคนต่างมีที่ยืนของตัวเอง ซึ่งช่วยไม่ได้ที่มันจะต้องเหยียบทีนกันบ้าง ใครเป็นลูกไล่ใคร ก็เห็นกันอยู่ แต่เมื่อถอดหัวโขนออก ทุกคนก็คือคน ที่มีจิตใจใฝ่ดีด้วยกันทั้งนั้น บริษัทเอย นโยบายเอย ภาวะแข่งขันเอย นั่นแหละที่บั่นทอนความเป็นคนให้หายไป เช่นโนดาเมะ นอกเหนือจากฮาหลุดโลกแล้ว หนังยังสอนเราในเรื่องของ “ครู” ทุกคนเป็นครูของเราได้ถ้าเรา ตั้งใจจะเรียนรู้จากพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็นมิลฮี ไอ้ขี้แพ้ ไอ้ห่วยแตก หรืออาจารย์พัดโบก ครูที่น่าทึ่งที่สุดคือ ครูของโนดาเมะ(จำชื่อไม่ได้แล่ว) คนที่โอนลูกศิษย์อัจฉริยะให้ท่านจิอากิ และจบลงที่ อ พัดโบก รู้ทั้งรู้ว่า ถ้าเกาะเด็กไปเรื่อย มีหวังดังระเบิด แต่เมื่อรู้ทั้งรู้ว่า ตัวครูเองมีความสามารถไม่พอ ก็ยังตัดใจส่งศิษย์ไปให้ผู้อื่น “ได้หน้า” แทน ครูพัดโบก “ชั้นที่แหละที่จะเป็นดึงพรสวรรค์ของแกออกมาเอง ซึ่งแกก็ควรจะสำนึกบุญคุณเอาไว้ด้วย” พัดโบกยอมทุกอย่างเพื่อ เคี่ยวและเข็น โนดาเมะ หนังยังสอนให้เรารู้แก่นของดนตรี ไม่ได้เล่นเพื่อโชว์ใคร (เหมือนกับการแข่งเปียโน หรือกีต้าร์คลาสสิค ที่ผมมักจะอาเจียน เนื่องจากผู้แข่งแต่ละท่านมักจะมา “โชว์” ความเก่ง ในขณะที่คนดูก็ก่นด่าเมื่อไหร่จะจบซะทีหว่า) และนั่นทำให้ ท่านจิอากิพลาด สอบตกในวิชาคอนดักเตอร์(เพราะมิลฮีบอกว่า แกทำให้ผู้หญิงร้องไห้) และแพ้ในการแข่งครั้งต่อๆมา ..เกือบตาย กว่าจะนึกถึง คาถาขั้นเทพว่า “ออกไปสนุกกับดนตรีให้สุดๆไปเลย” “ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย” โนดาเมะแค่อยากเป็นครูสอนเปียโนใน นร อนุบาล นั่นคือสิ่งที่เราต้องคิด(หลังจากแหกปากหัวเราะ)ว่า ฝึกขั้นเทพแล้วจะยังไง ไม่เทพแล้วยังไง ยังมีอีกเยอะครับ ที่โนดาเมะ “ซ่อน” เอาไว้ภายใต้ฮาคลี่แตกคลี่แตน ในขณะที่ Mr. Holland’s Opus ก็ออกไปอีกแนวนึง เพลงที่ Holland แต่งไม่เคยจบ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในแง่ composer ความหวังสูงสุดในชีวิต ก็ยังทำไม่ไ่ด้ ตายไปจะไปพบหน้าบรรพชน ได้อย่างไร แต่เพราะมัวแต่มุ่งเพ่งแผ่น score จึงหารู้ไม่ว่านักเรียนแต่คน ที่ครูคนนี้อบรมสอนสั่ง เป็นตัวแทนของตัวโน๊ตแต่ละตัวในชีวิตจริง และในวันที่ นักเรียนมารวมตัว กันเพื่อบูชาครู วันนั้น เพลงที่ Holland รอมาทั้งชีวิต ก็ดังกังวลาขึ้น นั่นแหละสำคัญกว่าเพลงคอนแชร์โต้มากมายนัก นั่นและ Opus ที่ Holland เขียนขึ้นมาในชีวิตจริง (ริเชิด ไดรฟัส เล่นได้ถึงบทจริงๆ) หนังเกาหลี ก็มีเข้าแนวนี้อยู่หลายเรื่องเชียวนา ผมเพิ่งเข้ามาเล่นพันทิพได้ไม่กี่วัน แต่ก็ยังหากระทู้ประเภทที่ถามว่า “เราเรียนรู้อะไรจากซีรี่ย์ที่เราดูบ้าง” ไม่ยักกะเจอแฮะ จากคุณ : ซิงซิง - [ 6 พ.ย. 51 18:11:31 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ แล้วไม่ต้องห่วงน้องๆที่เรียนสายวิทย์หรอกนะฮะ พวกนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมาย พวกอีติดเรียนพิเศษ ติดเด็ก หรือติดเหล็ก ก็ไม่เป็นไร เพราะพวกอีจะตะเกียดตะกายไปหามาดูเอง ทั้งแผ่นผี ทั้งโหลดมาจาก หิด แต่ถ้าฉาย สิบโมงเสาร์อาทิตย์ได้ ก็แปลว่า จะขยายกลุ่มเป้าหมายออกไปได้กว้างไกลอีกมาก เด็กแปดเก้าขวบ เด็กที่ไม่สนเรื่องนี้เลยก็อาจจะดูแล้วร้อง "โอ้โห" พอเด็กสมัยนี้มันร้อง "โอ้โห" พวกมันก็มีปัญญาไปขยายผลต่อได้เองแหละครับ ไม่ต้องห่วงพวกอี จากคุณ : ซิงซิง - [ 7 พ.ย. 51 09:57:52 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อคืนดูตอนที่ 4 (มั้ง) ชื่อการสั่นสะเทือน แต่ผมตั้งชื่อตอนเองว่า ตอน.....แด่ซิปังเท้า ความจริงคืออะไร? ความจริงไม่ใช่ความจริงแท้แน่นอน แต่ความจริงคือสิ่งที่เรา "เลือก" ที่จะเชื่อ ดังนั้นพวกหัวสี่เหลี่ยมทั้งหลาย จงเลิกอ้างเสียทีว่า "ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ก็เลยพูดตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ" ขนาดที่พระเอกมีนิสัยแบบซิปังเท้าหัวสี่เหลี่ยม ก็ยังต้องเคารพความจริงข้อนี้ และเคารพในการตัดสินใจที่ไม่มีตรรกะของนางเอก "ความจริงคือสิ่งที่เราเลือกที่จะเชื่อ" (ไม่สป๊อกแน่นอน เพราะหนังไม่มีบทไหนที่พูดอย่างนี้ หรือสื่อออกมาแบบนี้ แต่ดูจบตอนแล้ว ก็มานั่งคิดคำนึงอยู่ริมถนน พร้อมถือหินไว้ก้อนนึง เผื่อจะจดโน๊ตสิ่งที่ "พลันคิดได้" ลงบนถนนบ้าง ..........มันเท่ห์มากเลยนะนั่น) จากคุณ : ซิงซิง - [ 7 พ.ย. 51 10:13:46 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ซื้อ galilao มานานแล้ว ยังไม่มีเวลาดูเลย   คุณ tor_toey คะ ขอเพลงประกอบด้วยได้ไม๊คะ tangmaya1@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : tangmaya - [ 10 พ.ย. 51 20:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยิ่งดูยิ่งสนุก ได้เห็นพัฒนาการของยูคาว่า จากการที่ต้องนั่งบ้าบื้อจมอยู่ในห้องทดลองกับเอกสารและสารพัดเครื่องไม้เครื่องมือ อยากจะเขียนสูตรคำนวนใดๆ ก็มีองคาพยพ ครบถ้วนทั้งชอล์ค ทั้งกระดาน ทั้งกระดาษปากกา (อาจเรียกได้ว่า กระดิกนิ้วก็ลอยมาเข้ามือได้เอง) คิดเอง คำนวนเอง ฝันเอาเอง สรุปบ้าได้เองโดยไม่ต้องมี ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตใดๆ แต่ทุกครั้งที่พระเอกได้ออกมานอกห้องทดลอง หนังจะสื่อให้เห็นว่า ยูคาว่า ปกปิดความกระดี๊กระด๊าเอาไว้อย่างมิดชิด (ในตอนต้นๆ ยังไม่ยอมแม้แต่จะขยับตู๊ด ลุกจากโต๊ะ) แต่พัฒนาในช่วงต่อมา จะเห็นว่า ยูคาว่า เรียนรู้และยอมรับว่า วิทยาศาสตร์ไม่ได้มีแต่การคำนวนบ้าบื้อ อยู่ในห้องทดลอง เรียนรู้และยอมรับจนกระทั่ง สนุกกับการได้ “แปลงกาย” ในสถานที่ต่างๆ ต่างกรรมต่างวาระ กระดาษปากกา แกไม่เคยคิดจะพก ด้วยทะนงตนว่า ตัวข้านี้คืออัจฉริยะ เลยไปตายเอาดาบหน้า “หาเอาแถวๆนั้นแหละ” และนี่คือจุดที่สนุกสุดๆ อีกจุดนึง ของซีรี่ย์เรื่องนี้ ที่ทำให้เรา ตั้งตา(หรือตาตั้งก็ได้)รอคอยว่า “ในตอน(Episode)นี้ แกจะแปลงกายอย่างไรหว่า?” ปล ดูมาได้ 6 ตอนแล้ว ยังไม่ผิดหวังเลยแม้แต่ตอนเดียว ด้วยว่า หนังยาวแค่ 11 ตอน ทีมผู้สร้างจึงปล่อยของได้เต็มๆ ไม่ต้องมีกั๊กหรือยืดเหมือนละครไทย (แว้งกัดได้ทุกทีซิน่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ) จากคุณ : ซิงซิง - [ 11 พ.ย. 51 11:25:41 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนที่ 6: ความฝัน ตอนนี้มีดีให้เรียนรู้ เคล็ดวิชาของวิชาศาสตร์คือการคิดขบปัญหาและการทำซ้ำ ย้ำอยู่ตรงนั้น (เพื่อศึกษาถึงผลที่ตามมา) ทำผิดไม่ว่า ทำพลาดไม่โวย แต่ต้องเรียนรู้จากทดลองนั้นๆให้ได้ จนกว่าจะสำเร็จ ยูคาว่าทำการทดลองให้นางเอกเห็นและรู้แจ้ง ว่านักวิทยาศาสตร์ เค้าทำงานกันอย่างไร ทั้งคู่ถูกขังในเรือสินค้าร้าง และต้องหาวิธีเรียกตำรวจมาช่วย Cell Phone โทรออกไม่ได้เพราะ ห้องที่ถูกขังทำด้วยเหล็กทั้งหกด้าน ยูคาว่าเลือกใช้วิธีที่น่ารักมาก โดยบูรณาการ(ศัพท์เทพ นะเนี่ยะ) เครื่องมือไฮเทค เข้ากับ ภูมิปัญญาของมนุษย์ยุคหิน ยูคาว่าทำให้เรา(และนางเอก)ดูว่า เคล็ดวิชาของนักวิทยาศาสตร์ คืออะไร และทำอย่างไร แน่นอนว่า นอกจากการแสดงแล้ว บทพูดและเพลงประกอบ ก็ได้ถูกทะยอยปล่อยออกมา อย่างถูกจังหวะ ในช๊อตนี้ หนังได้ “ปล่อยของ” ออกมาร้อยเรียงกันอย่างน่าตื่นตาใจ และเป็นอีกตอนนึงที่ ย้ำให้เราเห็นว่า ซีรี่ย์เรื่องนี้ เป็นผลงานของทีมงานคุณภาพสูง จริงๆ จากคุณ : ซิงซิง - [ 11 พ.ย. 51 11:26:48 A:58.137.15.2 X: TicketID:040074 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอ่อ...คุณซิงซิง...ถ้าฉายตอนวันเสาร์อาทิตย์สิบโมงเราก็ไม่ได้ดูน่ะสิTT_TT ยิ่งอดดูโนดาเมะจังเพราะสาเหตุนี้อยู่... จากคุณ : bell4210 (the world is beautiful) - [ 1 ธ.ค. 51 18:46:42 ]