ความคิดเห็นที่ 1 50 Credit: www.jangdonggun.com.cn Link:http://datejdg.w110.leoboard.com/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=5530&show=0 By: Zhen Zhu Yue Guang “The Coast Guard” ขอบอกตามตรง เป็นเพราะต้องคัดลอกบทสนทนาของผู้กำกับและนักแสดงในหลายๆ เรื่องราว ครั้งนี้จึงตั้งใจดู “The Coast Guard”อีกครั้งหนึ่ง และก็พบว่า Dong Gun มีเทคนิคในการแสดงแพรวพราวเหลือเกิน แต่ก่อนเคยมีความคิดที่ว่า เขาเล่นหนังเรื่องนี้โดยถ่ายทอดบุคลิกตัวละครด้วยการแสดงออกมาที่ดูออกจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย ทำให้คนดูรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับเขาไปบ้างเช่นกัน แต่พอกลับมาดูอีกครั้งในครั้งนี้ กลับพบว่า ถ้าเขาไม่แสดงออกมาแบบนั้น คงจะไม่สามารถดึงตัวตนที่แท้จริงของตัวนายทหารเจียงอันเป็นบุคลิกเฉพาะนี้ออกมาได้ ประกอบกับได้ฟังคำชมจากผู้กำกับคิมด้วยส่วนหนึ่ง รวมทั้งเบื้องหลังของความเป็นจริงของเนื้อเรื่อง จึงต้องยกนิ้วให้กับเขา ยิ่งได้มารู้ภายหลังอีกว่า เขานั้นถึงกับต้องเข้าค่ายทหารฝึกด้วยความยากลำบากเป็นเวลาถึง 3 วัน 2 คืนด้วยแล้ว ทำให้รู้สึกยอมรับและนับถือเขาอย่างจับใจ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 50.1 “The Coast Guard” ครั้งแรกที่ดู “The Coast Guard”บอกได้เลยว่า มันบังเอิญเหลือเกิน เพราะตามนิสัยความเคยชินของตนแล้ว จะชอบกดเปลี่ยนทั้งซับและเสียงไปเรื่อยๆ ครบรอบหนึ่งก่อน ดังนั้นจึงได้เลือกบทสนทนาของผู้กำกับ Kim Ki Duk กับ Jang Dong Gun ตรงซับที่ 3 ภาษาที่ 4 การพูดคุยเกี่ยวกับหนังที่มีความยาว 150 นาทีนี้ เป็นการค้นพบโดยบังเอิญที่แสนจะน่าทึ่งอย่างหนึ่ง ในหลายๆ ตอนของการสนทนา จะได้เห็น Jang Dong Gun ผู้ร่าเริง ใบหน้าที่จริงใจ ความงดงามสมบูรณ์แบบของเขา เหล่านี้จะทำให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในตัวของเขาได้ในทุกๆ วัน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 50.2 “The Coast Guard” Kim Ki Duk : สวัสดีครับ ผมคือผู้กำกับThe Coast Guard นาม Kim Ki Duk Jang Dong Gun : ผมคือคนที่เล่นเป็นพลทหาร เจียงฮั่นเจ๋อ ผม Jang Dong Gun ครับ Kim Ki Duk: พอเริ่มทำงานก็รู้สึกน่าสงสารมากเลยครับ ตอนผมอยู่ในกองถ่าย ดูพวกคุณถ่ายทำก็รู้สึกเลยว่า อ้ายหยา ! น่าสงสารจังเลย Jang Dong Gun: 5 5 5 5 5 (ได้ฟังผู้กำกับ Kim Ki Duk พูดประโยคนี้ออกมา  Dong Gun ก็หัวเราะออกมาด้วยท่าทีที่ร่าเริงแจ่มใสตลอดเวลา) ตอนที่พวกเราเข้ารับการฝึก เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากเลยครับ Kim Ki Duk: แต่ว่าก็ไม่เคยคิดเลยว่า คุณจะสามารถทนความยากลำบากได้ถึงเพียงนี้ อาจจะเป็นเพราะต้องอาศัยความเชื่อมั่นอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงสามารถยืนหยัดถ่ายทำได้จนถึงที่สุด Jang Dong Gun: ที่แท้มันก็แค่ 3 วัน 2 คืนเองครับ แต่ความรู้สึก ณ ตอนนี้ คิดก็ยังไม่อยากคิดถึงมันเลยครับ Kim Ki Duk: จริงเหรอนี่  แต่ตอนนี้คุณเชื่อฟังผมมากเลยหนิ ที่ประหลาดใจผมมากที่สุดก็คือตอนที่ผมยื่นบุหรี่ให้คุณม้วนหนึ่ง ผมไม่คิดเลยว่า คุณแทบไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ผมให้พวกคุณฝึกซ้อมจนเสร็จแล้วก็เพราะความจำเป็นที่จะไม่ต้องมานั่งอธิบายว่าทหารเป็นยังไงกันอีก แบบนี้ ดังนั้นผมจึงเบาใจ มีหลายคนเหลือเกินที่ไม่เคยเป็นทหารมาก่อน Jang Dong Gun: ความจริงตอนที่เข้ารับการฝึก ผมก็คิดอยู่เสมอเลยว่า จริงๆ แล้วนี่มันจะได้ใช้หรือเปล่า แต่ถ้าไม่มีการฝึกแบบนี้ การถ่ายทอดคงไม่เป็นไปอย่างราบรื่นหรอกครับ Kim Ki Duk: ครับ หลายคนที่ยังไม่เคยไปเป็นทหาร แต่พอได้รับการฝึกเสร็จแล้ว จะดูเหมือนทหารกันมาก ผมเองยังคาดไม่ถึงเลยว่า ไงก็ต้องขอบคุณพวกคุณอย่างมากเลยนะครับ Jang Dong Gun: (ซึ่งอยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 50.3 “The Coast Guard” Jang Dong Gun: ฉากนี้ผมชื่นชอบมากเลยครับ (กล้องปรากฏทหารปัดกวาดหัวกะโหลกค้างคาว) ที่จริงผมรู้ว่า ตอนที่อยู่ในค่ายทหาร แต่ละกองจะมีสัญลักษณ์ของตัวเอง Kim Ki Duk: ใช่ครับ ตอนนั้นผมได้ออกแบบสัญลักษณ์ไว้หลายแบบ วาดมันแล้วใช้มีดตัดออกมา ล้างก็ล้างไม่ออก (?) เวลาถ่ายทำจะสะดวกมากๆ เลย (อืม ก็ลำบากคนแปลอย่างเราหน่อยนะคะ ไม่มีภาพประกอบ บางทีศัพท์ไร งง มากเลยค่ะ บางทีอยากแปลให้ถูกๆ แต่ไม่เห็นภาพ จินตนาการไขว่เขว ) Jang Dong Gun: ครับ ก็เป็นไปตามลำดับของเรื่องราว (ฉากเปลี่ยนไปเป็นนายทหารเจียงทาหน้าตาด้วยสีสัน ) นี่เป็นฉากๆ หนึ่งครับ Kim Ki Duk: อันนี้สำคัญมากครับ อันนี้ถ้าไม่เข้าถึงความรู้สึกตรงนั้นแล้ว การถ่ายทำจะไม่มีทางเป็นไปอย่างราบรื่น คือผมก็รู้สึกเสียใจนิดๆ ที่แบบว่า ทุกอย่างต้องทำตามผู้กำกับเท่านั้น เพราะในใจของตนเองได้วาดภาพอะไรให้มันเป็นแบบนี้ จึงให้คนอื่นๆ ทำเป็นแบบนี้ จะไม่ฟังความคิดเห็นของพวกคุณเลย ตอนหลังนี่รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการที่ได้ทำลงไป Jang Dong Gun: ไม่หรอกครับ ไม่นะครับ ทั้งหมดนี้มันจำเป็นจะต้องมีความคล้องจองกันหมด เป็นความเข้าใจที่ตรงกันครับ อืม การสร้างฉากนี้ ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาไปเท่าไหร่กันครับ (ภาพเป็นค่ายทหารริมทะเล) Kim Ki Duk: ก็ประมาณไม่เกิน 1 เดือน ใช้งบไปถึง 200 ล้านวอน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ของทุนสร้างทั้งหมด Jang Dong Gun: ตอนนี้ยังคงอยู่หรือเปล่าครับ Kim Ki Duk: มันอาจจะพังไปแล้ว หรือว่าอาจจะยังคงอยู่ก็ได้ ณ ที่ตรงนั้น ที่จริงตั้งใจจะไปถ่ายทำที่ค่ายทหารภาคตะวันออก แต่ไม่ได้รับอนุมัติ ตอนเริ่มงานก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะไปถ่ายทำที่ไหนดี ....เขาแสดงได้ไม่เลวเลยทีเดียวนะ (ภาพจับหัวหน้ากองทหารที่มีสัญลักษณ์ตรงแขน) Jang Dong Gun: ใช่ครับ จริงด้วย (ยิ้มตามผู้กำกับ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 50.4 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: ที่จริงบทบาทนี้จะให้ zhao zai yan (พินอิน ใครละคะ ?) เขาเป็นคนเล่น และยังมีตัวเลือกอีกหลายคน นักแสดงคนนี้ ตอนเริ่มแรกจะไม่อยู่ในลิสรายชื่อนักแสดงด้วยซ้ำ แต่บทนี้เป็นบทที่ค่อนข้างสำคัญ สุดท้ายเขาเลิกได้รับการบรรจุชื่อ ผมยังคิดเลยว่าเขาอายุ 30 กว่าแล้ว ที่แท้แค่ 20 กว่าเอง (พูดถึงใครกันก็ไม่รู้ แปะภาพเดาๆ ไปละกันค่ะ ท่านผู้ชม) Jang Dong Gun: ผมก็ยังคิดไปว่า เขานั่นอายุมากกว่าผมซะอีก Kim Ki Duk: อาจจะเป็นเพราะฝีมือการแสดงก็ได้ที่ดี มีคุณสมบัติที่ดีมากๆ เลย Jang Dong Gun: ครั้งนี้ก็ได้ร่วมงานกันอีกแล้วครับ(ประมาณว่า จะเป็นเรื่อง เทกึกกี ) Kim Ki Duk:งั้นเหรอครับ Jang Dong Gun ครับ Kim Ki Duk: นักแสดงที่เล่นหนังเรื่องนี้ล้วนแต่ฝีมือไม่เลวกันทั้งนั้นเลย (Kim Ki Duk เอง มีความภาคภูมิใจกับสายตาตัวเองในการคัดเลือกนักแสดงของเขา) Jang Dong Gun: วิว ทิวทัศน์อะไรนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะครับ Kim Ki Duk: เกาะที่เห็นอยู่ข้างหน้าเหล่านั้น ที่พวกเราไปมาด้วยกัน ก็คงเป็นเพราะตอนถ่ายทำนั่นแหละครับ ที่จริงผมไม่รู้เลยนะว่า มี แต่ตอนหลัง ก็รู้สึกว่ามันดีมาก คือพวกเราถ่ายทำกันแค่ประมาณ 20 วันเอง มีฉากบางฉากที่พลาดไปเหมือนกัน แต่ผลลัพท์ที่ได้ออกมาก็ไม่เลวเลยทีเดียว ในช่วงเวลานี้ คุณแสดงออกมาได้ดีมาก ความจริงตั้งแต่ตอนเขียนบทแล้ว ต้องตัดทิ้งไปหลายฉาก และก็ไม่คิดเลยว่า คุณจะสามารถแสดงออกมาเป็นอย่างนี้ รู้สึกจะแตกต่างกันไปประมาณ 80 วินาที (อะไร ไม่เก็ท อาจจะใช้เวลาเกินหรือขาดไปกว่าที่กำหนดไว้ 80 วินาที ? ข้างล่างคงมีคำอธิบายเรื่องเพิ่มเติมค่ะ) (Jang Dong Gun ผู้อยู่ข้างๆ ผู้กำกับ พอได้ยินเขาพูดประโยคนี้ ก็หัวเราะไม่หยุด แถมยังหัวเราะด้วยเสียงอันดังอีกด้วย) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 50.5 “The Coast Guard” Jang Dong Gun: ที่จริงตอนเล่นฉากนี้ มันเป็นฉากที่สมควรจะ ด่า คน แต่ในชีวิตจริงของผมแล้ว ผมทำอะไรแบบนี้น้อยมาก (ในฉาก เป็นครั้งแรกที่นายทหารเจียงส่องปืนไปยังชาวประมงที่อยู่นอกร้านขายของ เพราะชาวประมงคนนั้นปากมาก นายทหารเจียงทนไม่ไหวก็เลยด่าเขาออกมาอย่างรุนแรง)   คำๆ นี้ “แม่มีง”ซึ่งเป็นคำพูดจากต้นฉบับ Kim Ki Duk: ต่อมา คุณก็พูดเองว่า คำด่าที่ว่า “แม่มีง”ไม่เห็นมีอยู่ในต้นฉบับเลย อาจจะเป็นความเคยชินของความคิดและความรู้สึกก็ได้ครับ เมื่อนักแสดงเข้าถึงบทของตัวละครที่เขาแสดง คำพูดบางคำจะหลุดออกมาโดยที่มันไม่มีอยู่ในบทเลย Jang Dong Gun: ครับใช่ ตัวผมเองก็คิดไม่เหมือนกันนะครับว่า จะพูดคำด่าอะไรแบบนี้ออกมาได้ Kim Ki Duk: ตอนนี้ถ้าย้อนกลับไปดู รู้สึกว่านักแสดงเล่นกันได้ดีมากๆ (ฉากปรากฏในร้านขายของ ที่มีชาวประมงเล่นไพ่กันอยู่) Jang Dong Gun: ครับ วันแรกที่ผมเห็นพวกเขา ก็รู้สึกทึ่งในความสามารถของพวกเราอย่างมากเช่นกัน Kim Ki Duk: ผู้คนเหล่านี้ ต้องผ่านการคัดเลือกมาก่อน และก็ไม่มีใครซักกี่คนหรอกครับที่เป็นนักแสดงจริงๆ (กล้องเปลี่ยนภาพไปเป็นฉากชาวประมงทะเลาะกะนายทหารเจียงเสร็จแล้ว นายทหารเจียงก็วิ่งไปที่ชายทะเล หยิบปืนขึ้นมายิงๆ ๆ ๆ พร้อมกับเอาปืนทุบที่รั้วลวดหลาม) ซึ่งการกระทำทั้งหมดนี้เป็นความคิดและแสดงออกมาเองของ Jang Dong Gun ซึ่งผมรู้สึกว่ามันดีมากเลยครับ Jang Dong Gun: แต่ว่า....แต่ว่าคือ.....ปืนกระบอกนั้นถูกผมทำซะเสียไปเลยครับ (หัวเราะ....) (ได้ฟังผู้กำกับKim ชม Dong Gun กลับหัวเราะด้วยความเขิน พร้อมกับเปิดเผยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาเองรู้สึกละอายใจนั้นออกมา) ด้วยใบหน้าที่ต้องแต่งแต้มสีมากมาย ดังนั้นก็เลยลำบากหน่อยครับ มีบางครั้ง ผิวหนังจะมีความรู้สึกไวกับตรงนี้มากเกินไป(สงสัยมีอาการ แพ้ แต่ไม่กล้าพูดออกมา) ที่จริงฉากตอนกลางคืนจะประหยัดอุปกรณ์ในการเตรียมตัวมากเลยครับ(คงรวมไปถึงการแต่งหน้าแต่งตาอย่างหนักที่ทำให้เขาแพ้ด้วยแหละค่ะ) (ฉากแสดงภาพนายทหารเจียนนอนคว่ำหน้าตรงเนินหญ้าตลอดทั้งคืน) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 50.6 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: ถ้าใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์มาสร้างภาพ คงไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้ และมันจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลด้วยครับ และผลที่ออกมาก็ไม่ใช่ว่าจะดีมาก ดังนั้นก็มีการแต่งเติมบ้างเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังถูกหลายคนถามถึง ว่าฉากที่ว่านี้ถ่ายทำกันยังไง ? แค่ฉากกองทัพเคลื่อนพลออกมานี่ จ่ายไปถึง 5 แสนวอน พวกเขาอยู่ที่นั่นก็ลำบากมากแล้ว ดังนั้นผมจึงอยากให้(สตางค์)พวกเขาบ้างครับ ส่วนฉากมีสุนัขทหารใช้จ่ายไป 1 ล้านวอน และต้องออกฉาก 3 ครั้ง มีฉากหนึ่งที่ต้องตามล่า สายลับ ซึ่งควรใช้สุนัขซะหลายตัวหน่อย แต่เพราะว่ามันแพงเกินไปจริงๆ และเดิมฉากที่ว่านี้ก็ไม่มี (ภาพแสดงทหารเล่นชกต่อยกับเล่นบาสกัน) ตอนที่เห็นพวกเขาเล่นกันอยู่นั่น ผมรู้สึกว่ามันดีมาก ก็เลยเก็บภาพมาด้วย แต่สำหรับ Jang Dong Gun หลังจากที่เขาเล่นเรื่องนี้จบแล้ว ไม่รู้มีแผนอะไรต่อไปยังไง ? (หมดสต๊อคแต่เพียงเท่านี้ ต่อไป อิชั้นจะไปแปะละครก่อน คนมากกิจกรรมเช่นโหยวก็ต้องเป็นเช่นนี้ล่ะเจ้าค่ะ ท่านผู้ชมขา) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 50.7 “The Coast Guard” Kim Ki Duk:ตอนที่เห็นพวกเขาเล่นกันอยู่นั่น ผมรู้สึกว่ามันดีมาก ก็เลยเก็บภาพมาด้วย แต่สำหรับ Jang Dong Gun หลังจากที่เขาเล่นเรื่องนี้จบแล้ว ไม่รู้มีแผนอะไรต่อไปยังไง ? Jang Dong Gun: ผมรู้สึกว่าตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ผมควรจะถ่ายทอดบทบาทของตัวละครนี้ออกมา คือต้องสร้างกรอบของตัวละครให้ชัดเจน จากนั้นก็ใช้ความคิดของตัวเองเปลี่ยนแปลงและแก้ไขตัวละครนั้นให้กลายเป็นภาพลักษณ์บนแผ่นฟิล์ม และเมื่อไปแสดงหนังเรื่องอื่นๆ ต่อๆ ไป ความรู้ตรงนี้จะมีส่วนช่วยได้มากเลยทีเดียวครับ Kim Ki Duk: จะใช่เป็นพื้นฐานของการแสดงเป็นทหารของคุณในหนังเรื่องต่อไปใช่หรือเปล่า Jang Dong Gun: (หัวเราะ 5 5 5) ครับ ใช่ ครับ ใช่ Kim Dong Gun: แต่ผมรู้สึกว่า การให้นักแสดงติดอยู่บนเกาะแบบนี้ มันได้อะไรความมากหมายเลย ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลานี้ เขายังสามารถแสดงอะไรบางอย่างของตัวเองออกมา ความรู้สึกของผมมันเบิกบานใจมากเลยครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 50.8 “The Coast Guard” Jang Dong Gun:ด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เป็นแบบนั้น แล้วยังจะมีฉากแบบนี้อีก อุปกรณ์อะไรต่างๆ พวกนี้จะช่วยได้เยอะเลยครับ คือมันจะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ออกมาได้ครับ Kim Ki Duk: ผมเองก็สามารถรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาได้ครับ อย่างตอนถ่ายฉากนี้ (ฉากตอน Dong Gun อยู่ในน้ำเล่มเกมแข่งชกต่อยกัน ) เนื่องจากเวลามันบีบมาก ก็เลยคิดอยู่แต่ว่าสุดท้ายแล้วจะสามารถทำได้ตามเนื้อเรื่องที่แต่งไว้หรือเปล่า ถึงแม้จะทำอะไรเก้ๆ กังๆ ไปบ้าง แต่ก็เป็นเพราะการถ่ายทำที่ใช้เวลาไปเพียง 20 วัน ดังนั้น ในแต่ละวัน จะถ่ายทำอะไร ก็ต้องวางแผนกันให้ดีๆ ถ้าถ่ายทำไม่เสร็จ ตารางเวลาที่มีอยู่จะต้องถูกเลื่อนทำให้ล่าช้าออกไป ดังนั้นในใจจึงรนรานมากครับ รั้วลวดหนามที่ใช้ขึงไว้ในน้ำ มันเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 50.9 “The Coast Guard” รั้วลวดหนามที่ใช้ขึงไว้ในน้ำ มันเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 50.10 “The Coast Guard” Jang Dong Gun: ทำไมถึงต้องมีเพลงประกอบเพลงนี้เป็นเพลงแรกด้วยครับ ? (ฉากตอนที่นายทหารเรือนอนกันอยู่แล้ว นายทหารเจียงก็ร้องเพลงนี้) Kim Ki Duk:นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นทหาร อยู่บนเตียงก็ร้องเพลงนี้เช่นกัน Jang Dong Gun: เนื้อเพลงของเพลงๆ นี้เข้ากันได้ดีกับหนังเลยนะครับ Kim Ki Duk: ตอนที่เลือกเพลงนี้ ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ในหนังคุณยังได้ร้องถึง 2 เพลง ด้วยต้องร้องอย่างต่อเนื่องหลายๆ ครั้ง ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่า จะเป็นจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่งจุดหนึ่งของหนังเรื่องนี้ด้วย (ภาพฉายนายทหารเจียงค่อยๆ มีน้ำตาไหลออกมา) Jang Dong Gun: (ได้ยินคำพูดของผู้กำกับ เขาก็หัวเราะออกมาอย่างร่าเริงและสดใส) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 50.11 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: พวกชาวเลก็แสดงได้ไม่เลวเลย (ภาพปรากฏเป็นพี่ชายของหญิงที่ป่วย ซึ่งก็เป็นชาวประมงที่อยู่ในร้านนี้เช่นกัน) พอถ่ายทำกันเสร็จ เธอก็วิ่งเข้ามาถามว่า แสดงเป็นไงมั้ง ? ท่าทางดูตื่นเต้นน่าดู ถือว่าเป็นนักแสดงที่จริงจังคนหนึ่งทีเดียว ตอนถ่ายทำมีนักแสดงที่ผมต้องขอบคุณมากมาย เพราะในตอนถ่ายทำนั้น ผมระเบิดอารมณ์ก็หลายครั้ง แต่พวกคุณก็ยังอดทน Jang Dong Gun: ผมทราบแต่ว่า การถ่ายทำหนังในสมัยนี้เป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยครับ (ฉากย้อนกลับไปเป็นตอนกลางคืน คู่รักที่ดื่มกันจนเมามายได้ที่ แล้วก็ไปที่รั้วกั้นเขตตรงทะเลอันเป็นเขตหวงห้าม) Kim Ki Duk: ครับ เพราะช่วงเวลานั้น ต้องรอให้ถึงตอนกลางคืนเท่านั้นที่น้ำลด ตอ หรือหินต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมอยู่จะได้ ผุดให้เห็นกัน ด้วยต้องรอถึงช่วงเวลานี้ แต่ผมก็อยากถ่ายทำให้มันเสร็จไปไวๆ กว่านี้ ฮะ ฮ่า ถ้าต้องตัดฉากนี้ไป ก็คงไม่ต้องประกาศแล้วว่า เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนอายุ 18 ปีขึ้นไป (ภาพเป็นฉากที่หนุ่มสาวซึ่งเมามายได้ที่ นัวเนีย กัน) จริงๆ ผมอยากจะตัดฉากนี้ออก เพราะเนื่องด้วยมีเด็กๆ หนุ่มสาวผู้ชื่นชอบดูหนังของคุณ ผมรู้สึกว่า คุณแสดงเป็นทหารร มาดให้มากๆ โดยเฉพาะหัวใจที่ฮึกเหิมตอนที่ไล่ล่าจับสายลับ ได้คะแนนไป 10 เต็ม Jang Dong Gun (Dong Gun พอได้ยินผู้กำกับพูดประโยคนี้ ก็เริ่มหัวเราะออกมา แล้วเขาก็บ่นพึมพำอะไรออกมาคำนึง รู้สึกว่า แปลกใจมาก เพราะผมเองก็ไม่ได้เล่นหนังโป๊ ทำไมถึงมาพูดว่า เพื่อผมแล้วจึงเป็นสาเหตุให้ไม่ตัดภาพฉากนี้ทิ้งออกไป ?  ) ผมรู้สึกโดยตลอดเลยว่า การเล่นบทๆ นี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต่อมาในระหว่างการถ่ายทำถึงได้เข้าใจว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ อะไรก็ไม่ต้องไปคิดมันแล้ว ในช่วงที่เราทุกข์ยาก ความคิดของคนจะตีกรอบให้อยู่ในโลกแคบๆ ของตัวเอง คือแค่ต้องการจะจับสายลับให้ได้เท่านั้น  อย่างอื่นไม่สน ไม่ต้องไปคิดมัน ความรู้สึกแบบนี้สามารถกระตุ้นให้แสดงออกมาอย่างตรงประเด็นครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 50.12 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: ผมไปเป็นทหารมา 5 ปี รับรู้เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ด้วยตนเอง คนเรา สามารถเปลี่ยนไปเป็นมีชีวิตที่เรียบง่ายหรือว่า ยึดติด ก็ได้ แค่การออกไปตามล่าสายลับในตอนนั้น เรื่องทั้งหมดก็สามารถยุติลงได้ นี่เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างหนึ่งในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่า เรื่องทั้งหมดนี้มันมีความเป็นไปได้ ตอนที่คุณเข้ารับการฝึกฝนวิชาทหารคงจะลำบากมาก แต่เพื่อรับการฝึกฝนเช่นนี้ จะสามารถสร้างให้คุณกลายเป็นคน โหดเหี้ยมได้ หรือเปลี่ยนเป็นคน เรียบง่ายไม่ยึดติดก็ได้เช่นกัน Jang Dong Gun: สุนัขทหารเหล่านั้น ใช่ของจริงหรือเปล่าครับ ? Kim Ki Duk: ใช่ครับ การนำสุนัขทหารออกฉากๆ หนึ่งต้องใช้จ่าย 1 แสนวอน Jang Dong Gun: โอ้โห แพงมากๆ เลยนะครับ (แล้วยังเพื่อนๆ ทหารของ Dong Gun อีก ที่ถึงจะจ่ายให้ไป 5 แสนวอน ก็ยังมีเล็ดลอดออกมาว่า ได้ค่าแรงไม่เป็นธรรม) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 50.13 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: ตอนถ่ายทำฉากนี้ เหมือนผมจะไม่ได้เรียกร้องอะไรจากคุณนะ แต่คุณก็สามารถแสดงมันออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้ผมถึงกับตะลึงเลยทีเดียว คุณช่างเหมาะสมกับบทนี้จริงๆ ที่ได้เล่นแบบนี้ (ภาพเป็น นายทหารเจียงที่ฆ่าชาวประมงด้วยความเข้าใจผิด จับเขาถ่วงน้ำทะเล ) จริงๆ จะจัดการกับฉากนี้ยังไง ผมเองก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่เหมือนกัน ตัวเองยังไม่รู้เลยว่ามันถูกหรือผิด  แต่ตอนที่ผู้กำกับชอบที่จะเลือกใช้นักแสดงที่จะยอมให้เขาแสดงภาพพจน์จากที่ผู้กำกับกำหนดไว้ออกมาได้บ้าง Jang Dong Gun: จริงๆ นักแสดงก็เหมือนกันครับ เวลาที่ดูตัวเองแล้ว มักจะเชื่อความคิดของตัวเอง ไม่ค่อยมองอะไรเป็นกลางเท่าไหร่ Kim Ki Duk: จริงๆ ก่อนจะมาร่วมงานกับคุณ ผมยังมีscopeของผมเอง คิดว่าจะร่วมงานกันได้หรือเปล่า แต่สุดท้ายกลับพบว่า การแสดงออกของคุณ กับแววตาคู่นั้นของคุณ ทั้งหมดนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ความรู้สึกมีได้มากมาย และฉากนี้คุณก็เล่นได้ดีมากๆ อยู่แล้ว ผู้กำกับขา แววตา เจดีจี จะไร้เดียงสาที่สุดก็ได้ จะโหด จะโมโหสุดๆ ก็ได้ แค่เพียงเขาใช้สายตาแสดงมันออกมาเท่านั้น แปลกแต่จริงค่ะ ขนาดหลานเรา เด็ก 11 ขวบยังบอกได้  เจดีจี เป็นดาราที่ใช้สายตาแสดงได้ดีมากๆ  ดูก็รู้ทันทีเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 50.14 “The Coast Guard” (ภาพเป็นตอนนายทหารเจียงที่พลาดไปฆ่าชาวประมงผู้บริสุทธิ์ กำลังถูกสอบสวน ท่าทางของเขาดู ตื่อๆ งงงวย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) Jang Dong Gun: Pu Zai Xi (หญิงชาวเล )นักแสดงคนนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน เพราะได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย แต่ถ้าเทียบกับจิตใจของเธอแล้ว มันทรมานยิ่งกว่าซึ่งต้นฉบับไม่ได้ระบุตรงนี้ไว้ แต่เธอก็แสดงฉากนี้ได้เจ็บปวดมาก Kim Ki Duk:ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นคนพากเพียรมาก เป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งเลยทีเดียว  หลังดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว มีคนวิจารณ์กับหลายคน แต่ทั้งหมดนี้มันมาจากประสบการณ์ตรงจากการเป็นทหารถึง 5 ปีของผม ซึ่งมันแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย เพียงแต่ผมนำประสบการณ์ตรงนั้นมาสร้างเป็นหนังก็เท่านั้นเอง ซึ่งชายฝั่งทะเลก็เป็นแบบนั้นจริงๆ อยู่เกาะเป็นเวลานานขนาดนั้น สิ่งที่โหยหาก็คือ s_ e_x (ว้าย อิชั้นจะถูกเซ็นเซอร์มั้ยเนี่ยะคะ)ความหวาดกลัวต่างๆ จะถูกระบายออกด้วย s_e_x ผู้ชายโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเช่นนี้ ผมคิดจะถ่ายทอดความทุกข์ทรมานของผู้ชาย (ฉากเป็นนายทหารเจียงได้รับรางวัล) ในขณะที่ตรงบริเวณรั้วลวดหลาม ชาวประมงต่างไม่พออกพอใจกัน จากนั้น พวกเขาก็ค่อยๆ หยิบหินมาขว้างปานายทหารเจียง นักแสดงเหล่านี้ ชอบที่จะเข้ากล้องกันหรือเปล่า แล้วได้ดูการแสดงของตัวเองกัน ? จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 50.15 “The Coast Gurad” Jang Dong Gun: จริงๆ ตัวผมเองนี่ ไม่ชอบที่จะถ่ายฉาก ส่องกระจก เลยครับ  เพียงแต่ในใจที่รู้สึกมัน รู้ว่าถึงเวลาแล้วต้องแสดงออกมายังไง ไม่ต้องใช้กระจกดูก็ได้ แค่ใช้ความรู้สึกของตนเองเท่านั้น แบบนี้มันดูจะเป็นธรรมชาติ ราบรื่นมากกว่าครับ อย่างเช่นตอนถ่ายทำโฆษณา เสร็จแล้วได้เห็นภาพที่ปรากฏออกมา จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างคาดไม่ถึงเลย เพราะก็นึกไม่ออกว่า ตัวเองจะแสดงออกมาเป็นยังไงอะครับ มันเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก่อน และมันสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตัวเองอย่างหนึ่งด้วยครับ Kim Ki Duk: อย่างปืนที่หยิบผิดนี่ ควรจะนำมาพูดนิดนึง คืองี้ เพื่อจะแต่งเพิ่มความเฉียบขาดให้กับนักแสดงนำของเรื่อง (ฉากเป็นนายทหารเจียงใช้ขาแตะปืนเด็กเล่นของเด็กในบาร์) (แล้วก็เป็นฉากหน้าร้านขายปลา สาวชาวเลที่เป็นบ้า ยืนอยู่ข้างหน้าพี่ชายตนเอง จากนั้นก็ถอดกางเกงออกมาฉี่ แล้วก็ก้มลงหน้าเขียง หยิบมีดสับผักมาหั่นผมตัวเอง) ตอนที่ให้สัมภาษณ์ฉากนี้ ที่จริงในต้นฉบับไม่มีนะครับ ผมเพิ่มเติมมันเข้าไปเองทีหลัง อิ อิ คนแปล ไม่ได้ดู แต่แปลแล้ว อยากดูแฮะ และก็สงสัยจะแปะมัว ด้วยค่ะ เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 50.16 “The Coast Guard” Jang Dong Gun: ตอนที่ผมตัดสินใจร่วมงานกับผู้กำกับ ผมได้ชมผลงานต่างๆ ของเขาแล้ว รู้ว่าจะสามารถแสดงหรือสื่อสารอะไรบางอย่างออกมาซึ่งจะเป็นประเด็นหรือเกิดผลกระทบตามมา และฉากที่ว่านี้ แท้ที่จริงในต้นฉบับไม่มี เสียดายที่ตอนถ่ายทำผมไม่อยู่ในฉากด้วย ตอนหลังได้ยินว่ามีการถ่ายทำฉากๆ นี้ ผมยังคิด ถ่ายฉากนี้ ไปถ่ายทำกันตรงไหนน้า ? ต่อมาได้ยินผู้กำกับพูดอย่างคนที่มีความสามารถในการโน้มน้าวใจว่า ถ้าเกิดคนที่บ้าจริงๆ เขาจะขาดจิตสำนึก ทำเรื่องอะไรต่างๆ บ้าบอได้อย่างที่ตัวเองไม่รู้ตัว Kim Ki Duk: ที่จริง การสร้างหนังขึ้นมาซักเรื่องหนึ่ง บทประพันธ์ต้นฉบับจอถูกเขียนจากห้องลับๆ เหมือนเป็นสถานที่ให้วาดฝันเหนือจริงก็ไม่ใช่น้อย แต่พอมาสร้างเป็นหนังแล้ว จู่ๆ ก็จะเกิดความคิดมากมาย ความคิดมากมายจริงๆ เพื่อถ่ายทำหนังให้ออกมาได้ดี และหลายๆ คนก็บอกว่าฉากการกร่อนผมนี้ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะในการแสดงออกในโลกของจิตใจมนุษย์นี้ มันก็เป็นประเด็นที่พวกเราได้ถกเถียงกันมานานแล้ว (ฉากเปลี่ยนเป็นนายทหารเจียงได้พักและกลับไปยังกรุงโซล ในโรงแรมซึ่งเขาไม่สามารถสงบจิตใจของตนเองได้  จึงใช้มืออัดกำปั่นใส่กระจกห้องน้ำ) ต่อมา ก็รู้สึกว่ามันไม่เลวเลย ฉากๆ นี้ แต่ตอนแรกที่ถ่ายทำ กระจก ไม่แตก (Dong Gun ที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาด้วยความเขินที่ตัวเองในตอนแรก ออกแรงชกเบาเกินไปนั่นเอง ) เพื่อนๆ หลายคนเลยที่ได้ยินคุณนั่งยองๆ ลงในห้องน้ำแล้วร้องไห้ออกมา หลายคนจริงๆ ที่ทนไม่ได้ ต้องร้องไห้ตามคุณขึ้นมากัน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 50.17 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: การถ่ายทำเบื้องหน้าได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงสามารถมานั่งพูดคุยถึงความรู้สึกและอารมณ์ของหนังกัน ผู้ชมก็คงจะรู้สึกได้เหมือนกัน แต่ว่าถ้าจะถ่ายทำฉากวาบหวิวต่อไปจริงๆ ผมว่าก็คงไม่เลวเลยทีเดียว (ที่ผู้กำกับพูดถึง ก็คือความเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ถ่ายทำฉากรักของ Dong Gun กับแฟนสาวในเรื่องนั่นเอง) Jang Dong Gun: ครับ หลังจากดูหนังจบแล้ว ก็รู้สึกว่าถ้ามีฉากที่ว่านี้ก็คงจะดีกว่านี้อีก (เพื่อนของ Dong Gun เป็นเกย์ ก็ไม่รู้ว่าตอนก่อนถ่ายทำ ใครกันที่ปฏิเสธฉากรักอันร้อนแรงนี้ ?) (วงเล็บคนแปลเองค่ะ ว่า สุดเดาเหมือนกัน สงสัยจะเป็น อาเฮีย ของเรานั่นแหละ แกกลัวเสียภาพพจน์ของแก เฮ้อ แต่พอมาดูก็ บ่น เสียดาย เสียดาย เฮ้อ ) Kim Ki Duk:ถึงตอนที่พวกเราต้องลุยแล้วนั้น การทะเลาะเบาะแว้ง หรือฉากทำรักล้วนแล้วแต่เพื่อให้ลืมความเศร้าและหดหู่ใจของตนเอง  ผมดึงเอาจุดตรงนี้มาจากต้นฉบับ ฉากรักอันร้อนแรง ไว้หนังเรื่องต่อไปค่อยถ่ายทำละกันนะครับ Jang Dong Gun (หัวเราะร่วนเลยคราวนี้ หลาย 5 ครับท่าน 5 5 5 5 5 5 5) ดีครับ ดี ขอแปะหนัง ผลงานผู้กำกับคิมคนนี้หน่อยค่ะ แนววาบหวิวก็มี ปะปนกันไป สงสัยแกอยากจะถ่ายฉากแบบนี้จริงๆ เอาซะหน่อยกับหนังเรื่องอื่นๆ ของแก จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 50.18 “The Coast Guard” Kim Ki Duk:เกาะซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำนี้ไม่ได้เป็นเกาะใหญ่อะไรเลย แต่มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย แต่ที่นี้ได้ถ่ายทำหนังใหญ่จบไป 1 เรื่อง Jang Dong Gun: ครับ ที่นี่ก็คือทั้งหมดที่ถ่ายทำกันในหนัง และเป็นครั้งแรกที่มีนักแสดงสมทบเข้าฉากด้วย (ภาพเป็นนายทหารเจียงยืนอยู่หน้าโรงเรียน รอคอยแฟนสาวที่ได้จากเขาไปไกลห่าง) Kim Ki Duk:ใช่ครับ มีนักแสดงสมทบประกอบฉากมากมายเลย Jang Dong Gun:ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นภาระความรับผิดอย่างมากด้วยครับ Kim Ki Duk:ที่จริงผมไม่ได้วางแผนตรงนี้มาตั้งแต่แรกนะ มันเป็นเพราะการแสดงของคุณไง ที่ดึงดูดผู้คนให้มีมุงดูได้มากมายขนาดนี้ Jang Dong Gun:ฉากที่ว่านี้ เวลาถ่ายเสร็จก็ออกมาไม่เลวเลยนิครับ Kim Ki Duk: รู้หรือเปล่าว่า อะไรเป็นสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในการถ่ายทำ ? Jang Dong Gun:ยากลำบากที่สุดเหรอครับ ? ปกติ การถ่ายทำฉากในแต่ละวัน แล้วยังมีเวลาได้คิด อย่างเช่นว่าวันนี้ จะทำอะไร ถ้าหัวสมองเราได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าตอนนี้เนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป  แต่ผมก็รู้สึกว่า แบบนี้มันก็ดีสำหรับผมเช่นกัน แสดงมันออกมาจากความสามารถของตนเอง จนในที่สุดจะมีความคิดเป็นของตนเองที่จะนำเสนอ แต่ก็ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งในที่จะยอมรับมันเช่นกันครับ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกหรือแสดงออกมาอย่างเหมือนความเป็ฯจริงได้หรอกครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 50.19 “The Coast Guard” Kim Ki Duk:เพราะพวกเราถ่ายทำกันอย่างรวดเร็วเกินไป ถ้าเปรียบเทียบกับการรับรู้บทบาทของนักแสดงแล้ว ผมก็มีมุมมองในแบบของผมเช่นกัน ผมคิดว่า ถ้านั่นมัน ใช่ มันก็ โอเค แล้วครับ ในหัวผมนี่มีต้นฉบับอยู่ ถึงจะรู้สึกเศร้า เสียใจ หรือเจ็บปวด ถ้าก็อาศัยแต่ความคิดของตนเองว่า นั่นถูกต้องแล้ว  ผมก็จะถ่ายทำของผมต่อไป เพราะความรู้สึกที่ว่า ผมถูกต้องแล้ว ไม่ผิด ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจความรู้สึกของเหล่านักแสดงนักหรอกครับ คือผมเชื่อมั่นว่า ผลงานที่ถ่ายทำออกมามันจะต้องดี (ฉากปรากฏว่า หญิงสาวที่เป็นบ้าอยู่ริมแม่น้ำ ในขณะที่นายทหารเจียงถูกชาวประมงคนหนึ่งต่อย) ตอนที่ผมเริ่มถ่ายทำ อืม จะพูดยังไงดี ก็อย่างบทของตัวนำ คือคิดว่าจะให้เขากลับเกาะอย่างเงียบๆ แต่คนอื่นๆ รบกวนจิตใจเขา อย่างเช่นในบาร์ เสียงเด็กเล่นปืนเด็กเล่น แล้วยังมีรั้วลวดหนามที่รบกวนจิตใจให้เขาหดหู่อีก โห ยาวจริงๆ บทความยาวจัดจ้านนี้ ใกล้จะจบด้วยความดีใจคนแปลแอนด์แปะแล้วครับท่าน เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 50.20 “The Coast Guard” Kim Ki Duk: หนัง “The Coast Guard”ของพวกเราได้รับการแนะนำที่ (ค้นเอกสารนิดนึง) ในงานมหกรรมหนังนานาชาติที่ เชคโกสโลวัค (ยังมีอยู่อะเปล่าเนี่ยะ ประเทศนี้อะค่ะ ฮาแตก ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ) ต่อมาที่ยุโรปตะวันออกกับงานมหกรรมหนังที่โน้นก็ได้รับมา 3 รางวัลใหญ่ กับJang Dong Gun เอง เขาได้พัฒนาฝีมือการแสดงไปอีกหลายระดับทีเดียว นี่คือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชม Jang Dong Gun:ที่นี่เป็นงานมหกรรมหนังที่ไม่เลวเลยนะครับ แต่เสียดาย ผมยังไม่เคยไป Kim Ki Duk: ครับ เป็นงานมหกรรมหนังนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน 5 ของโลก ที่ยุโรปตะวันออกนี้ ยังเป็นแหล่งผลักดันหนังเกรดเอของภาคพื้นตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออกอีกด้วย เย้  จบแล้วเจ้าค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 51 ข่าวพาดพิง โปรยซะ ให้ใหลหลง ที่จริงไม่มีอะไรในนั่นเล้ย ชอบนัก มาพาดพิงสามีโหยว จากลิ้งค์นี้ค่ะ http://ent.sina.com.cn/x/2006-11-27/05481344483.html ความว่าโรคที่ Anthony Wong แก้ไม่หายซะที โรค..... Anthony Wong ผู้มีปากไวใจคิดอะไรก็ไหลออกมาตามนั้น ช่วงนี้ได้เดินทางมาถึงปักกิ่งอย่างเงียบๆ เมื่อถูกสัมภาษณ์ เขาก็ไม่กระดากใจแม้แต่น้อยในการวิพากษ์วิจารณ์ทั้ง Zhang Yi Mou จางอี้โหมว และ Chen Kai Ge เฉินไข่เกอ ทั้งยังเหน็บแนบผลงานของพวกเขาอีกว่า ทนดูไม่ลง ส่วน Jiang Wen เจียงเหวินนั้น ยกย่องซะให้สูงเทียบฟ้า กล่าวชื่นชมจากใจของ Anthony Wong เลยว่า เขานั้นเป็นศิลปินที่แท้จริง คนนี้ค่ะ คนนี้ Anthony Wong เขาเอ่ยชื่อแฟนหนู จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 51.1 พอเอ่ยถึง คนแรกที่เขาด่าก็คือ จางอี้โหมว ถึงเชิญผมก็จะไม่ไป หนังเรื่องล่าสุดของจางอี้โหมว curse of the golden flower ที่จะออกฉายทั่วโลก  Anthony Wong ไม่มั่นใจเรื่องจำนวนผู้ชมว่าจะมากหรือน้อย เขาผู้ซึ่งเคยชื่นชมผลงานของผู้กำกับ จางอี้โหมว ในยุคที่เขาสร้างเรื่อง Raise The Red Lantern แต่มาถึงตอนนี้ เขากลับผิดหวังกับผู้กำกับคนนี้ซะแล้ว “ผมไม่ชอบที่เขาสร้าง ฮีโร่ กะ บ้านมีดบิน ผมรู้สึกว่าเขาไม่มีความรู้ทางมีดดาบ หรือศิลปะหมัดมวย ก็เหมือนอย่างผู้กำกับคนหนึ่งที่จะไปกำกับหนังตลก แต่เขาไม่มีมุขขำเลย” Anthony Wong ผู้เป็นเจ้าของรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมผู้นี้ ใช่เคยไปเทสหน้ากล้องกับหนัง curse of the golden flower มาก่อนหรือเปล่า ? กับข่าวลือที่ว่านี้ Anthony Wong กล่าวว่า มันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลย ถึง จางอี้โหมว มาเชิญเขาจริงๆ เขาก็ไม่ไป “ไม่ใช่ผมจะเป็นดาราใหญ่นะ ถ้าเขาต่างหากที่เป็นดาราใหญ่ เขามาเชื้อเชิญคุณนั่นเขาได้ให้เกียรติคุณแล้ว แล้วคุณยังจะเอาสตังค์มากๆ อีกเหรอ ? ยังมีอีก ถ้าผมไปแสดงรับรองต้องไม่ได้รับบทนำแน่ คือเป็นแค่ตัวประกอบ เวลาถ่ายทำก็ยาวนานเหลือเกิน แถมไม่ค่อยได้ตังค์เท่าไหร่  ลำบากตายเลย เผื่อๆ อาจจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันอีก ไม่ใช่ผมเป็นคนไม่มีงานจะทำ ผมจะไปเสี่ยงกับเขาทำไม ? ” หนังอะไร curse of the golden flower ยังไม่เคยได้ยินชื่อเลย โหยวคนเชย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 51.2 คนที่ถูกเขาด่า คนต่อไป ป๋าเฉินไข่เกอ นั่นเอง อู๋จี๋ ไร้สาระเกินหาคำบรรยาย เมื่อพูดถึง อู๋จี๋ ที่ทำให้เฉินไข่เกอล้มอย่างไม่เป็นท่าแล้ว  Anthony Wong กล่าวว่า “ผมได้ดูหนังเรื่องนี้บนเครื่องบิน ดูไปได้ประมาณ 15 นาทีก็ทนดูต่อไปไม่ได้ บ้าจริงๆ หนังเรื่องนี้ จางตงเจี้ยน เขาวิ่งๆ อยู่อย่างงั้น 10 นาที ไม่รู้เขาจะวิ่งไปหาอะไร ?  ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้น แต่ละคน เฮ้อ พูดสำเนียงผิดเพี้ยน เทคนิคอะไรก็ไม่ดี เมื่อเทียบกับผู้กำกับ Akira Kurosawa แล้วยังห่างไกลเหลือเกิน นี่ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลธรรมดา แต่มันเหลวไหลเกินกว่าคำบรรยาย ถือเป็นหนังที่แปลกประหลาดเหลือเกินจริงๆ เรื่องหนึ่ง ” Anthony Wong ยังทำนายอีกว่า ทั้งจางอี้โหมวกับเฉินไข่เกอจะไม่สามารถสร้างหนังทำนองแบบนี้ต่อไปได้อีก อย่างมากก็อีก 3 ถึง 4 เรื่อง ก็จะไม่สร้างกันแล้ว (สงสัยหมดทุน เซ็งซะนายทุน เข็ด) มาว่าแฟนเรา ก็เท่านี้เอง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 52 28/11/2006 ข่าวจากไต้หวันนะคะเนี่ยะ หนังสือพิมพ์ลงอีกต่างหากในวันนี้เองนะ ว่าคนงานเยอะอย่าง Jang Dong Gun หนีไปหาเวลาว่างเที่ยวถึงประเทศเยอรมัน นคร Frankfurt มีคนเห็นใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ สะพานเป้ใบใหญ่อีกต่างหาก เพื่อถ่ายทำภาพท่องเที่ยวให้กับนิตยสารของเกาหลี (โห นึกว่าข่าวอะไร เฮ้อ เวรกรรม เห็นภาพไปแล้ว ข่าวเพิ่งมา แม่นางโหยวก็) เขากล่าวว่า “ความงดงามของยุโรปทำให้จิตใจของคนเบิกบาน และผ่อนคลาย” หลังจากเขาแสดงหนังเรื่อง ไต้ฝุ่น กับ คนม้าบิน จบไปแล้วก็ยังไม่รับหนังเรื่องใหม่ แต่ชื่อเสียงและความนิยมในตัวเขายังครองความเป็นอันดับหนึ่ง จบข่าวค่ะ ว้า นึกว่าอะไร ตกใจหมดเลย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 53 28/11/2006 เปิดบ้านใหม่ทั้งที ต้องมี ดีๆ มานำเสนอ ค่ะ เพิ่งจะเจอ ไม่ต้องแปล มันง่ายๆ เอง ดังนี้ credit :www.jangdonggun.com.cn http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&show=25 เนื้อหาต้นฉบับจาก From jangdonggun.co.kr แปลเป็นอังกฤษโดยคุณ Kite จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 53.1 เป็นคำถามตั้งแต่ปี 2002 แล้วนะคะ ดังนี้ อ่านกันเพลินๆ เกินห้ามใจ Dear Jangdonggun...Please Read the following and answer the questions given below. 1.what do you when you get up in the morning ? ---smoking 2.If you were born again. What do you do ? ----um actor again or teacher who teaches physical exercise. 3.How many times do you see the mirror a day ? I am not sure ...but If there is a mirror and then watch the mirror.... 4.What kind of country do you like with your sweetheart ? --Italy the island of cafri ... 5.What is your weight ? ---74 Kg. (อ้วน อ้วน อีอ้วน) 6.How many times did you sent your message with your cell phone ? ----5~6... 7. How many times did you get the message from friend ? -----0~1.2 (โห มีเป็นจุดทศนิยมด้วย คิดได้ไงเนี่ย) 8. What kind of woman's hair style do you like ? ------big wave or long hair... (5 5 5 big wave แปลว่าอะไรคะ  ? เป็น ลอน ลอนใหญ่อีกต่างหาก เอ้า ใช่หุ่น บึ้กจ้ำบึกจึ้กกึ๋ยอย่างโหยวใช่ปะ ? ) 9. What is your shoes size? -------about 280mm 10 What is your impressed movie? ------once of time in America or God Father I. II. The most funny movie is "The way of gun. 11. What is the image in your cellphone. Sakamo Masauki...........in lost memorise 2009. รูปถ่ายตอนตอบคำถามค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 53.2 03/12/2006 http://ent.ynet.com/ent1/view.jsp?oid=17692980 ข่าววันนี้เอง 03/12/2006 เวลา 08.01 น. ว่า เว็บ ynet นำเสนอข่าวจากสมาคมนักโฆษณาของเกาหลี กับการสำรวจ "ดาราที่ได้รับความชื่นชอบและเป็นที่นิยมทางด้านโฆษณาที่สุดในปี 2006" ฝ่ายชายคือ Jang Dong Gun ที่รักของเราเอง เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 54 บทให้สัมภาษณ์นี้ มาจากลิ้งค์นี้ค่ะ http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=0&show=25&man= เมื่อปี19/09/ 2004 เกี่ยวข้องกับโฆษณา จากหนังสือพิมพ์ Posco  เมื่อวันที่ 1 ตีพิมพ์ไว้ แปลโดยคนเก่งประจำเว็บเลยคุณ xiang yun er ค่ะ อ่านเป็นไทยก็ยาก ชื่อเธอ 1.ผู้หญิงประเภทไหนที่จะเป็นคู่แต่งงานในอุดมคติของคุณ ? JDG: สำหรับผมแล้ว คู่แต่งงานในอุดมคติจะต้องเป็นผู้หญิงที่ ฉลาด ครับ และมีคุณสมบัติทางด้านจิตใจ แบบนี้ผมถึงจะพิจารณา 2. ตอนที่ถ่ายทำ เทกึกกี ได้รับบาดเจ็บ ? JDG :ครับ ในตอนนี้ถ้าไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไรรุนแรง ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงครับ 3.เกี่ยวกับข่าวลือเรื่องงานและครอบครัวในช่วงนี้  ? JDG: ครับ เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้ก่อตั้งบริษัทจัดการ “M” ขึ้นมา ที่ทำแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า ผมมีปัญหาอะไรกับบริษัทจัดการที่ดูแลผมแต่เดิมมา และก็ไม่เกี่ยวกับคำพูดที่ว่า ผมถูกจำกัดสิทธิอะไรเลยด้วยถึงได้มาตั้งบริษัทเอง คือคิดว่ามันคงเป็นจุดเปลี่ยนของพวกศิลปินที่จะลองมาทำงานในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ดูบ้างแหละครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 54.1 (ดูแปะรูปไม่เข้ากับเรื่องเลย แง แง ขออภัยในความตื่นเต้นเล็กน้อยเจ้าค่ะ) 4. ได้ข่าวว่าได้รับการเชื้อเชิญให้ไปเล่นหนังจากผู้กำกับฝีมือระดับโลกอย่าง Chen Kai Ge (ป๋าเฉิน)? JDG: ตอนนี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงยังไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการครับ 5. คุณคิดว่าคุณเองเป็นนักแสดงชายที่รูปหล่อหรือเปล่า ? JDG:  (ยิ้ม) ตอนนี้มันผ่านมาเป็นเวลาที่นานมากแล้วไม่ใช่เหรอครับ ? มีบางครั้งเหมือนกันครับที่คิดไปว่า จะใช้หน้าตาแบบนี้แสดงบทบาทอะไรออกมาดี ? ตอนนี้ความคิดของผมได้เปลี่ยนไปแล้วครับ และผู้ชมก็คงไม่มองผมว่าเป็นนักแสดงรูปหล่อแบบนั้นอยู่อีกต่อไปแล้วมั้งครับ (ยิ้ม) 6. หนังแห่งตัวตนของ Jang Dong Gun คือเรื่องอะไร ? JDG: หนังเรื่องที่ยากที่จะลืมมัน Friend ในตอนนั้น ผู้คนรอบๆ ข้างต่างถามผมว่า ทำไมผมถึงพูดเสียงสำเนียงภาษาท้องถิ่นแบบนั้น ? ในขณะเดียวกันก็มีคนหว่านล้อมบอกผมว่าอย่าแสดงเลย แต่พอได้มาเล่นหนังเรื่อง Friend นี้เข้าจริงๆ หนทางแห่งการแสดงของผมมันก็เปิดกว้างขึ้นอย่างมากเลยครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 54.2 7. ใครๆ ต่างก็ว่าคุณเป็นคนที่อารมณ์ดีมากๆ แต่เวลาพบกับความกดดันนี่ คุณมีเดือดดาล โกรธเป็นฟืนเป็นไฟบ้างหรือเปล่า ? JDG: คนอื่นๆ เขาเดือดดาล ผมก็เดือดดาลเป็นเหมือนกัน แต่ผมเป็นคนไม่ชอบการโกรธ ถ้าพบเรื่องที่ไม่พึงพอใจ ในวงสังสรรค์ผมก็จะดื่มให้มันมากหน่อยก็แค่นั้นเองครับ พี่ Ahn Sung-keeได้ตั้งกลุ่มเพื่อนนักแสดงชายกันขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ทุกๆ เดือนพวกเราจะมีนัดกับ Kim Seung Woo, Woo Sung Jung, Lee Jung-Jae  และนักแสดงอีกมากมาร่วมสังสรรค์กันครับ Ahn Sung-kee พี่ใหญ่แห่งวงการ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 54.3 มาดูซี้ เพื่อนนักกินของ เจดีจี กันบ้าง ไล่เรียงมาเลย Kim Seung Woo ซี้สุดๆ สุดซี้แหงย้ำบึ้ก จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 54.4 Woo Sung Jung แปะผิด ก็บอกกันด้วยคุณ Qing ren ผู้เชี่ยวชาญชื่อดาราเกาหลี เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 54.5 เพื่อนซี้กินเหล้าอีกคนของเฮีย Lee Jung-Jae   ภาพนี้สวยงามค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 54.6 8. ปริมาณที่ดื่ม ? JDG: เนื่องด้วยผมสนิทกับรุ่นพี่ Park Joong Hoon และ พี่Jung Jun Ho อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นจึงมักมีคนเข้าใจผมผิดคิดว่าผมจะดื่มเหล้าได้เก่งอย่างพวกพี่ๆ เขา แต่จริงๆ ผมแค่ดื่มเหล้าอุ่นๆ เพียงถ้วยเดียวเองครับ พี่ปาร์คของน้องจาง Park Joong Hoon ซี้ใหญ่คู่ซี้รุ่นเล็ก จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 54.7 พี่Jung Jun Ho เจดีจี เรียกคนนี้ว่า พี่ชาย แอบเห็นเขาในโฆษณาทางเคเบิ้ลทีวีค่ะว่า ในต้นปี 2006 เขาจะมาออกรายการ X Man เห็นเขาแล้ว คิดถึงเจดีจี จัง เขาคิดจะมาออกรายการแบบนี้ทางทีวีกับเขาบ้างหรือไม่ ? ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 54.8 9.นิสัยของคุณจะเหมือนกับผิวพรรณที่ดูเรียบเนียนและมีความเป็นผู้หญิงหรือเปล่า ? JDG: คงเป็นเพราะบทบาทที่ผมเล่นในละครมักจะออกแนวเจ้าชายอันแสนโรแมนติค ดังนั้น จึงถูกจดจำด้วยภาพลักษณ์ดังกล่าวมั้งครับ ? จริงๆ แล้วตั้งแต่เด็กๆ ผมเป็นคนมีนิสัยที่ไม่ชอบให้ถูก ผูกพัน หนังที่ผมชื่นชอบมากๆ ก็คือTHE GODFATHER  และ Scarface  หนังแบบนั้นแหละครับ นิสัยเป็นงี้นี่เอง เวลาเล่นหนังเลยไม่ค่อยพ้นพวกหนังอย่างว่า เซ็งเฮีย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 54.9 อีกเรื่อง Scarface มี Al Pacino  กะ  Michelle Pfeiffer นำแสดง ไม่เคยดู เลยไม่รู้ว่าดีแค่ไหนค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 39 54.10 10. ดูเหมือนคุณจะหาเงินได้ไม่น้อยเลยไม่ใช่เหรอ? JDG: คำถามนี้เป็นคำถามที่ตอบยากนะครับ แต่ถ้าเทียบกับคนธรรมดาๆ แล้ว นี่คือเรื่องจริงครับ แต่ถ้าพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ ผมไม่รู้จริงๆ นะครับว่า ตัวเองหาเงินได้เท่าไหร่ จนถึงตอนนี้ เงินทั้งหมดที่ผมหามาได้ ล้วนแล้วแต่ให้คุณพ่อคุณแม่ของผมจัดการทั้งสิ้น ขอบอกผ่านสื่อมวลชนเลยนะครับว่า รายได้จากการแสดงและเป็นนายแบบนี่จะถูกหักภาษี 40 % ครับ ดังนั้น ผมก็ว่า รายได้ของผมคงไม่มากอย่างที่ใครๆ คิดกันหรอกครับ จบก่อนนะคะ คืนนี้ได้แค่นี้ แปลวันละนิด จิตคนแปล แจ่มใส ค่ะ ที่จริงแปลได้เร็ว แต่ที่เสียเวลามากๆ ก็คงเป็นหาชื่อดารากะ หาภาพประกอบค่ะ เฮียเป็นอย่างงี้จริงๆ ไม่สนใจเรื่องเงินเข้ากระเป๋าเลยค่ะ ยืนยัน  เลยถูกหลอกซะหลายรอบยังไม่รู้ตัวเอง เรื่อง agent อมค่าตัวถ่ายโฆษณา ไม่รู้เรื่องกะเค้าเลย เฮีย ถ่ายไป 3 ชิ้น ศูนย์วอน ค่ะ อ่านไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ค้นพบตัวตนของผู้ชายที่ชื่อ Jang Dong Gun แล้วคุณๆ จะเข้าใจว่า ทำไมโหยวถึงได้ รักเขา เหลือเกิน เกินจะห้ามใจ 5 5 5 (ภาพประกอบบทความให้สัมภาษณ์ชิ้นนี้ค่ะ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 55 03/12/2006 http://ent.ynet.com/ent1/view.jsp?oid=17692980 ข่าววันนี้เอง 03/12/2006 เวลา 08.01 น. ว่า เว็บ ynet นำเสนอข่าวจากสมาคมนักโฆษณาของเกาหลี กับการสำรวจ "ดาราที่ได้รับความชื่นชอบและเป็นที่นิยมทางด้านโฆษณาที่สุดในปี 2006" ฝ่ายชายคือ Jang Dong Gun ที่รักของเราเอง เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 56 http://ent.sina.com.cn/v/j/2006-11-30/17081350564.html เขาว่า Kim Ji-hun ดาราละครคนใหม่คนนี้ เป็น เจดีจีน้อย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 56.1 ข่าว เจดีจีน้อย ก็ ดารา Kim Ji-hun คนนี้ เขาไปออกรายการหนึ่งของช่อง KBSTV 2 แล้วก็พูดออกมาว่า เขานั้นนั่นแหละเป็น เจดีจีน้อย ว้าย.......... พิธีกรในรายการก็ แซวกลับ ทันทีทันควันเลยว่า “ทำไมคุณถึงได้กล้าพูดออกมาได้หลายต่อหลายครั้งแล้วฮะ ว่าเป็น เจดีจีน้อย ” เท่านั้นแหละ ทั้งห้องส่งก็ หัวเราะ กันงอหาย ว้ายตาย เพื่อนๆ ก็ ช่วยกัน เพ่งพินิจ พิจารณาหน่อยละกันค่ะว่า น้อย ไม่ น้อย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 57 04/12/2006 กระทู้ฤกษ์ดี กระทู้ 109 เย้ กระทู้แห่งการเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 คือวันพรุ่งนี้แล้วค่ะ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ นาฬิกาเรือนนี้นะคะเป็นนาฬิกาเทิดพระเกียรติ นำรายได้ส่วนที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว ทูลเกล้าถวายพระองค์ท่านด้วยค่ะ เพื่อนๆ ชาว Loyalty to JDG จะร่วมด้วยช่วยกันออกสตางค์ซื้อนาฬิกาดังกล่าวส่งเป็นของขวัญปีใหม่ที่จะถึงนี้แก่ Jang Dong Gun ที่รักของพวกเราด้วยเจ้าค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 57.1 ทำไมต้อง นาฬิกา ? มันเเป็นความประทับใจที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาข้อมือของเด็กชาย Jang Dong Gun มาตั้งแต่เด็กจนทำให้เขาเป็นคนชื่นชอบและสะสมนาฬิกาจนถึงบัดนี้ค่ะ เนื่องด้วยที่บ้าน คุณปู่และคุณพ่อทำธุรกิจก่อสร้าง ความเป็นอยู่ในตอนเด็กๆ จึงไม่เคยลำบาก คุณแม่ในสายตาผมเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง นอกจากผมจะมีดวงตาโตเหมือนคุณพ่อแล้ว นอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นจมูก หรือ ปาก ผมก็ถอดแบบมาจากคุณแม่ทั้งสิ้น คุณแม่ยังชอบเล่าเรื่องที่มีความหมายเป็นคติให้ผมฟังเสมอๆ สร้างความประทับใจให้กับผมอย่างลึกซึ้ง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 57.2 ตอนเด็กๆ นาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่งได้ทำให้ผมรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ในตอนนั้น เด็กๆ ที่จะสามารถสวมใส่นาฬิกาหาได้น้อยมาก คุณปู่ท่านได้ให้นาฬิกาสีแดงเรือนเล็กๆ กับผม 1 เรือน ทั้งยังสอนวิธีดูเวลาให้ผมอีกด้วย นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กอันแสนสวยงาม เพื่อนๆ ข้างบ้านต่างอิจฉาผมกันยกใหญ่ ทั้งยังมักจะมาถามเวลากับผมด้วย ผมเหรอ ผมก็จะยกแขนขึ้นประกาศเวลาด้วยเสียงอันดังให้ทุกคนได้ยิน..... นี่แหละค่ะที่มาของความรัก ความหลงใหลในนาฬิกาข้อมือของ เฮีย โหยวก็ไม่ทราบจนอาจารย์เบได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถ้าเขาจะขอหญิงคนไหนแต่งงาน แทนที่จะมอบแหวน เขากลับจะมอบนาฬิกาให้เธอแทน แล้วก็พูดว่า "ผมอยากใช้ช่วงเวลาที่เหลือร่วมกับคุณ..... " ประมาณนี้ค่ะ นะ ไง พวกเราก็ ช่วงชิงความได้เปรียบ รีบส่งนาฬิกาไปขอเฮียแต่งงานก่อนเลยละกัน เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 57.3 ก่อนจะเข้าโรงเรียนประถม งานของคุณพ่อต้องย้ายไปพัฒนาที่ดินที่ พูซาน ผมจึงต้องติดตามคุณพ่อไปที่นั่นด้วย แถมยังได้เริ่มชีวิตนักเรียนประถมที่นั่นอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นระยะเพียงช่วงหนึ่งเทอม แต่ก็เป็นความทรงจำที่ไม่เคยจางหายไปจากใจผม ที่จดจำได้มากที่สุดเห็นจะเป็น Xi Jing -สี่จิง และ Mei Jing  เหม่ยจิง (เสียงพินอินนะคะ) พี่น้องสองสาว พวกเธอเป็นฝาแฝดกันครับ แต่คนพี่ สี่จิง เธอคงจะไม่รู้หรอกว่า เธอนั่นเป็นรักครั้งแรกของผม นั่นคงเป็นรักเขาข้างเดียวด้วยครับ(ว้าว เพิ่งเข้าชั้นประถมนะเนี่ย แก่แดดมากๆ เจดีจีที่รัก) หรือ ในวันที่เริ่มเข้าเรียน คุณครูให้นักเรียนมาเข้าแถวเพื่อจะเรียงลำดับหมายเลขของนักเรียน ผมได้ยืนข้างๆ แฝดคนพี่ สี่จิง ซักพัก สี่จิง เธออยากเข้าห้องน้ำ ก็กระวนกระวายหาคุณแม่เธอไม่เจอจึงยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น มันเป็นภาพที่ผมจดจำได้ สี่จิง พอโตขึ้นแล้วจะหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่แน่ชัดแล้วครับ แต่เธอดูแลผมเหมือนอย่างเป็นพี่สาว มีครั้งหนึ่งนะครับ เพื่อนนักเรียนหญิงคนที่เปลี่ยนที่นั่งกับเธอ ด้วยความอิจฉา จึงหยิบสมุดจดของผมมาละเลงขีดเขียนซะเละ สี่จิงเห็นเข้าก็เอามือมาแตะไหล่ผมแล้วปลอบเหมือนเป็นผู้ใหญ่ทำเลย ในใจของเด็กน้อยคนหนึ่ง(เจดีจี) มันได้เกิดความประทับใจอย่างลึกซึ้งขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงสนิทและไปเที่ยวเล่นบ้านกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายควรค่าแก่การจดจำมากๆ แต่ด้วยคุณพ่อจำต้องย้ายกลับไปกรุงโซลอีกครั้ง ผมจึงต้องลาจากพูซาน วันที่ผมลาจากสี่จิง ผมนึกถึงเพลงๆ หนึ่งขึ้นมาได้ เพลง “วันที่ย้ายบ้าน”  ส่วน สี่จิง เธอไม่เห็นเหมือนผมเลย เธอกลับเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด พร้อมกับกำมือผมไว้แน่น ส่วนผมนั่นได้แต่นิ่งเงียบ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 57.4 ความรักที่ไม่เป็นอันสมหวังของ Jang Dong Gun ตั้งแต่สมัยอยู่ประถม 1 ก็ริเริ่มมี “รักครั้งแรก” กับเขาซะแล้ว สำหรับเขาแล้ว เมื่อได้เห็นเธอก็ถือเป็น รักแรกพบ พวกเขาทั้งคู่ไม่เป็นแค่เพียงเพื่อนร่วมห้อง ยังได้นั่งโต๊ะติดกันและเป็นเพื่อนบ้านกันอีกด้วย ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ดูดีมากๆ ต่อมาด้วยเพราะต้องย้ายบ้าน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ของขาดจากกันไป ทุกครั้งที่ Jang Dong Gun  รำลึกถึงเรื่องราวในอดีตตอนยังเป็นเด็กเล็กและความรักครั้งแรกของเขาในครั้งนี้ เขาก็จะ กระพริบตา(สงสัยจะถี่) แล้วก็ปรากฏใบหน้าที่เขินอายด้วยการพูดว่า “เธอสวยมากเลยครับ”   ต่อมาในปี 1994 เมื่อเขาโด่งดังแล้ว อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกโดยบังเอิญบนเครื่องบิน ที่แท้สาวน้อยตัวเล็กๆ ที่น่ารักบัดนี้ได้เติบโตมาเป็นนางฟ้าผู้แสนสวยบนเครื่องบินนี่เอง พอเธอได้เจอกับ Jang Dong Gun เธอคนนี้ก็ได้แต่ยิ้มด้วยมารยาทพร้อมๆ กับโค้งศีรษะให้เขาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทักทายอะไรกัน แล้วก็เดินจากไป หลังจากประสบการณ์ความรักในช่วงสั้นๆ ของเขาได้ผ่านไปแล้ว ชีวิตในวัยเรียนของ Jang Dong Gun ก็ไม่ได้พบกับรักครั้งใหม่อีกเลย เหตุผลง่ายๆ ก็คือ เพราะว่าตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย เขาเข้าเรียนแต่ในโรงเรียนชายล้วน ไม่มีโอกาสได้พบหญิงสาวมากนัก ดังนั้น Jang Dong Gun เองก็เคยพูดว่า ผู้หญิงที่เขารู้จักล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนชั้นประถมทั้งนั้น(ใช่ค่ะ เขาเลยไป หลงรักคุณครูสอนภาษาอีกรอบนึงแทนไง ) จบบทความ back to the future ของ Jang Dong Gun ก่อนกันนะคะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 57.5 ในวันที่ 12 เดือน ม.ค.2004 Jang Dong Gun ได้เดินทางไปถึงญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ เขาบอกว่าการเดินทางไปของเขาในครั้งนี้เป็นการ พักผ่อน แต่แท้ที่จริงแล้วในส่วนลึกเป็นการเข้ารับการ บำบัดและฟื้นฟูร่างกายของเขานั่นเอง ในขณะเดียวกัน ก็จะถือโอกาสเจาะตลาดการแสดงในญี่ปุ่นของเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถ่ายทำหนังหรือว่าโฆษณาต่างๆ ที่นี่ (โห เดากันไปเก่งจริงๆ เลย เจ้าตัวบอก พักผ่อนๆ ก็ไม่เชื่อ) ด้วยเพราะการเดินทางมาญี่ปุ่นของเขาในครั้งนี้ดูจะเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยอย่างมาก จึงเกิดข่าวลือสะพัดต่างๆ นานาออกไป Jang Dong Gun ได้เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าเมื่อกลางเดือนธ.ค. 2003 ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลในกรุงโซล เนื่องจากได้รับอุบัติเหตุกระดูกอ่อนตรงหัวเข่าด้านซ้ายแตก ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับหนังเรื่องดังกล่าวได้ให้เขาเข้าทำการรักษาตัวก่อน จากนั้นค่อยกลับมาถ่ายทำหนังต่อ แต่ทว่า Jang Dong Gun กล่าวว่า “ผมจะไม่ให้เพื่อผมคนเดียวแล้วต้องมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตารางเวลาการถ่ายทำหนังออกไปหรอกครับ” เขาจึงยืนหยัดที่จะถ่ายทำหนังต่อไปจนเสร็จแล้วค่อยเข้ารับการผ่าตัด และนี่ก็กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนต่างโจษจัณฑ์กันไปต่างๆ นานา เริ่มแรกจากคนวงการหนังด้วยกัน ต่างคนต่างพูด แต่พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขาซ้ายของเขายังไม่หายดีหรอก” แต่ผู้จัดการของ Jang Dong Gun กล่าวว่า “การผ่าตัดดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยดีมากครับ แค่ขอเวลาในการฟื้นฟูอีกหน่อยเท่านั้นเอง ทุกอย่างก็จะกลับมาสู่สภาวะปกติครับ” แม้แต่ตัวของ Jang Dong Gun เองก็ยังกล่าวว่า “ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับผม พอผ่านไปอีกซักระยะหนึ่งแล้ว ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 57.6 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2003 Jang Dong Gun ได้เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าอันเนื่องมาจากได้รับบาดเจ็บระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง TAEGUKGI การผ่าตัดดำเนินไปโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็เสร็จ ระยะนี้เป็นช่วงพักฟื้นของเขา และในอีก 2 เดือนต่อจากนี้ไป เขาจำเป็นต้องใช้ไม้เท้ากับเก้าอี้รถเข็น(ใช่เปล่าคะที่เรียกกัน? ) ล่าสุด ด้วยความเป็นดารา และก่อนจะเข้ารับการผ่าตัด ทางทำเนียบรัฐบาลได้เชิญให้เขาไปร่วมงานเกี่ยวกับนโยบายทางวัฒนธรรมแห่งชาติของเกาหลีในวันที่ 17 ธ.ค.(หลังเขาผ่าตัดเพียง 2 วัน) ตัวเขาเองคิดว่าการผ่าตัดคงไม่มีอะไรยุ่งยากมากมายนัก จึงอยากจะใช้ไม้เท้าค้ำยันแล้วไปร่วมงาน แต่พอถึงที่งานแล้ว ทางคณะผู้จัด(คงเห็นสภาพเฮียแล้วสุดบรรยาย) จึงขอร้องไม่ให้เขาเข้าไปในงาน เย้ น่ารักมั้ยหละท่านผู้ชม ผู้ชายคนนี้ อึด อึ่ด อึ้ด มากๆ แหม สะกดไทยก็ไม่เก่ง ผิดทุกที อังกฤษก็ไม่ได้ ภาษาจีนก็ เพี้ยน โหยวจึงเป็นเช่นนี้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 50 57.7 ในวันที่ 12 เดือน ม.ค.2004 Jang Dong Gun ได้เดินทางไปถึงญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ เขาบอกว่าการเดินทางไปของเขาในครั้งนี้เป็นการ พักผ่อน แต่แท้ที่จริงแล้วในส่วนลึกเป็นการเข้ารับการ บำบัดและฟื้นฟูร่างกายของเขานั่นเอง ในขณะเดียวกัน ก็จะถือโอกาสเจาะตลาดการแสดงในญี่ปุ่นของเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถ่ายทำหนังหรือว่าโฆษณาต่างๆ ที่นี่ (โห เดากันไปเก่งจริงๆ เลย เจ้าตัวบอก พักผ่อนๆ ก็ไม่เชื่อ) ด้วยเพราะการเดินทางมาญี่ปุ่นของเขาในครั้งนี้ดูจะเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยอย่างมาก จึงเกิดข่าวลือสะพัดต่างๆ นานาออกไป Jang Dong Gun ได้เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าเมื่อกลางเดือนธ.ค. 2003 ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลในกรุงโซล เนื่องจากได้รับอุบัติเหตุกระดูกอ่อนตรงหัวเข่าด้านซ้ายแตก ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับหนังเรื่องดังกล่าวได้ให้เขาเข้าทำการรักษาตัวก่อน จากนั้นค่อยกลับมาถ่ายทำหนังต่อ แต่ทว่า Jang Dong Gun กล่าวว่า “ผมจะไม่ให้เพื่อผมคนเดียวแล้วต้องมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตารางเวลาการถ่ายทำหนังออกไปหรอกครับ” เขาจึงยืนหยัดที่จะถ่ายทำหนังต่อไปจนเสร็จแล้วค่อยเข้ารับการผ่าตัด และนี่ก็กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนต่างโจษจัณฑ์กันไปต่างๆ นานา เริ่มแรกจากคนวงการหนังด้วยกัน ต่างคนต่างพูด แต่พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขาซ้ายของเขายังไม่หายดีหรอก” แต่ผู้จัดการของ Jang Dong Gun กล่าวว่า “การผ่าตัดดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยดีมากครับ แค่ขอเวลาในการฟื้นฟูอีกหน่อยเท่านั้นเอง ทุกอย่างก็จะกลับมาสู่สภาวะปกติครับ” แม้แต่ตัวของ Jang Dong Gun เองก็ยังกล่าวว่า “ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับผม พอผ่านไปอีกซักระยะหนึ่งแล้ว ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 57.8 แต่คำพูดของเขาก็พูดได้ไม่ละเอียด เพราะหลังจากผ่าตัดแล้ว คนในวงการคนหนึ่งซึ่งได้เห็นขาของเขามากับตาก็พูดว่า “ขาซ้ายของเขาดูลีบลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เห็นเหมือนตอนก่อนจะได้รับบาดเจ็บเลย” นี่แสดงว่า อาการบาดเจ็บของเขาต้องเลวร้ายกว่าที่ใครๆ คาดคิด ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมในช่วงเวลานี้เขาถึงได้รีบไปญี่ปุ่น ? คำถามนี้เป็นที่สนใจกันอย่างมาก และในครั้งนี้ ที่แปลกประหลาดมากๆ อีกอย่างก็คือ เขาซึ่งแทบไม่เคยแยกห่างจากผู้จัดการส่วนตัวเลย กลับเดินทางไปญี่ปุ่นคนเดียว ทางด้านผู้จัดการส่วนตัวเขากล่าวว่า “Dong Gun เขาเดินทางไปกับผู้จัดการคนเก่าของเขาครับ คนที่ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นประธานบริษัทต้นสังกัดที่ Kim Hee Sun อยู่คนนั้นไง ไม่มีเรื่องอื่น แต่ตอนที่เขาถ่ายทำ TAEGUKGI เขาทุกข์ทรมานมากเลยครับ ซ้ำยิ่งไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยแล้ว ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปพักผ่อนที่นั่นครับ” แต่ก็นั่นแหละ คนในวงการภาพยนตร์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “Jang Dong Gun ไปญี่ปุ่นในครั้งนี้คงจะมีเรื่องสำคัญ” จบแล้วค่ะสำหรับวันนี้ เย้ เย้ เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 52 58 05/12/2006 รายงานค่าตัวศิลปินแยกตามแขนงหรือสาขาอาชีพต่างๆ Credit:www.jangdonggun.com.cn Source: http://www.saramin.co.kr ประเภทโฆษณา อันดับ 1 Kim Hee Sun ที่ 1,200 ล้านวอน ปรากฏตัวในละคร 1 ตอน อันดับ 1  ERIC แห่งวง  SHINWA ที่ 100 ล้านวอน เซ็นสัญญา อันดับ 1 Rain ที่ 10,000 ล้านวอน ปรากฏตัวในรายการทีวี อันดับ 1  Kang Ho Dong และ Yoo Jae-suk ที่ 1.5 ล้านวอน ปรากฏตัวในภาพยนตร์ อันดับ 1 ที่ 850 ล้านวอน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 53 59 เดือน 3/2004 Jang Dong Gun เขากล่าวว่า “สำหรับผมแล้ว สมบัติอันล้ำค่าที่สุดของผมคือ คุณแม่ ” ภาพยนตร์เรื่อง Taegukgi ได้ออกฉายแล้ว บรรยากาศในโรงเสมือนหนึ่งเป็นทะเลแห่งน้ำตา ผู้ชมต่างเข้าถึงความรู้สึกอันโศกเศร้าสะเทือนใจของหนังที่ดึงเอา “ครอบครัว” มาเป็นประเด็นหลักในการนำเสนอ ในหนัง Jang Dong Gun เขาก็คือ “ผู้นำครอบครัวที่ยังเยาว์วัย” ความรู้สึกรับผิดชอบและหัวใจอันเสียสละของเขา เมื่อเขาเข้าสู่สนามรบกลับกลายเป็นคนบ้าเลือด ฯลฯ เหล่านี้ทำให้ผู้ชมเข้าถึงความโศกเศร้าอันลึกซึ้งกินใจ การแสดงอันแสดงเป็นเรื่องจริง กลับปรากฏว่ามีเรื่องๆ หนึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวของ Jang Dong Gun เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งนำความทุกข์ทรมานมาให้เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน นั่นก็คือ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2004 คุณแม่ของเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดสมอง ในการให้สัมภาษณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดถึงคุณแม่ และคนในครอบครัวของเขา ซึ่งโดยปกติแล้วเขาจะไม่เปิดเผยเลย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 54 59.1 ในขณะที่หนัง เทกึกกีก็สร้างสถิติเป็นหนังที่มีผู้เข้าชมสูงสุดในประวัติศาสตร์ ดังนั้นจึงต้องมีการพูดคุยถึงบทบาทการแสดงของดารานำของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจาก Jang Dong Gun ในหนังเทกึกกีแล้ว ผู้คนยังจะมีมุมมองเกี่ยวกับความเป็นตัวตนของ Jang Dong Gun เองอีกด้วย Jang Dong Gun ผู้รับบท จินเท ในหนังดูแล้วช่างคล้าย Jang Dong Gun ในชีวิตจริงเสียเหลือเกิน เขาเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน ทั้งยังต้องรับผิดชอบครอบครัวและรักกตัญญูมารดาของเขาเป็นอย่างยิ่ง ในหนังถึงไม่ได้พูดถึง แม่ แต่เขาก็แสดงความรักที่มีต่อแม่จากใจส่วนลึกจนทำให้ผู้ชมกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตัวตนที่แท้จริงของ Jang Dong Gun ก็เช่นเดียวกับในหนัง เขาเป็นลูกชายคนโต เหมือนจินเทในหนัง มีความรักให้กับแม่อย่างไม่ธรรมดา ไม่ว่าเขาจะไปถ่ายทำหนังที่ไหน ถ้ามีเวลาว่าง เขาจะไม่ลืมโทรศัพท์พูดคุยกับแม่ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 55 59.2 แต่ว่าเมื่อวันที่ 26/01/2004 ถ้าพูดจากใจของลูกกตัญญูคนนี้แล้ว วันนั้นช่างเป็นวันอันเลวร้ายอันยากที่จะลืม เขารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้าเหลือเกิน คุณแม่ของเขา Li Shu  (พินอิน ถ้าอ่านก็คือ หลี่ซู ค่ะ) เข้ารับการผ่าตัดสมองที่โรงพยาบาล Er Shu (พินอิน)ในกรุงโซล ซึ่งอายุของคุณแม่เขา(ในตอนนั้น) 58 ปี จากการตรวจสอบโดยโรงพยาบาลพบเนื้องอกในสมอง ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดออก จึงได้รีบดำเนินการ บุคคลที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลเปิดเผยว่า “การผ่าตัดได้ทำไปเมื่อเดือนที่แล้วแล้ว คุณแม่ของ Jang Dong Gun ตรวจพบเนื้องอกผิดปกติเมื่อตอนปลายปีที่แล้ว จึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ปลายปีที่แล้ว คุณแม่ของเขารู้สึกไม่สบาย จึงเข้าทำการตรวจโรคที่โรงพยาบาล ในตอนนั้น Jang Dong Gun ผู้ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาล พอได้ยินว่าคุณแม่ของตนเองมีเนื้องอกในสมอง จำเป็นต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เป็นการได้ทราบข่าวอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกันที่การถ่ายทำหนังก็ได้ปิดกล้องลงแล้ว  แต่ยังเหลืองานในส่วนเบื้องหลังอีก Jang Dong Gun ผู้มีงานเยอะและยุ่งวุ่นวายตลอดก็ละทิ้งงานทั้งหมด พาคุณแม่ไปโรงพยาบาล การตรวจสมองใช้เวลาตรวจโดยละเอียดเป็นเวลา 1 วัน และพบเนื้องอกขนาด 2.5 ซม. สถานการณ์นับว่ายังไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่ด้วยคุณแม่อายุมากแล้ว การผ่าตัดสมองจึงเป็นที่หนักใจ ประกอบกับตัวของ Jang Dong Gun เองที่ได้รับบาดเจ็บหัวเข่า เพิ่งทำการผ่าตัดไปไม่นาน ด้านคุณหมอเองก็ได้ย้ำว่า หลังจากผ่าตัดหัวเข่าแล้ว ต้องพักผ่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน แต่ Jang Dong Gun ก็ปกปิดสภาพที่แท้จริงของตัวเอง อดทนกับความเจ็บปวดของแผลผ่าตัด กลับไปที่กองถ่าย ฝืนตัวเองเพื่อถ่ายทำต่อไป(สงสัยฉากซ้อม) จึงทำให้การฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาเป็นไปได้ยากขึ้น จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 59.3 โชคดีที่เนื้องอกของคุณแม่ของเขาไม่ใช่เนื้อร้าย การผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดี จุดของเนื้องอกไม่จำเป็นต้องเปิดกระโหลก และสามารถใช้รังสีแกมม่าในการสลายก้อนเนื้อ จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดในวันที่ 26  ในวันนั้น Jang Dong Gun อยู่กับคุณแม่ที่โรงพยาบาล ผู้คนในโรงพยาบาลที่เดินผ่านไปมาได้เห็นแล้วต่างก็พูดว่า ทุกครั้งที่เขามาโรงพยาบาลก็จะมีแต่ใบหน้าที่เศร้าหมอง ไม่เคยเห็นเขายิ้มเลย จวบจนการผ่าตัดของคุณแม่ลุล่วงไปด้วยดี จึงค่อยเห็นเขาแจ่มใสขึ้นมา พอได้ฟังว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างดี เขาก็ดีใจพร้อมกับเปล่างเสียงโล่งอกออกมา ก่อนที่เขาและคุณแม่จะออกจากโรงพยาบาล เหล่านางพยาบาลต่างเข้าไปขอลายเซ็นกัน เขานั้นเต็มใจแจกลายเซ็นอย่างมากพร้อมๆ กับกล่าวคำขอบคุณนางพยาบาลเหล่านั้นด้วย เนื่องด้วยเขาปรากฏตัวขึ้น และนางพยาบาลก็เข้ามา รุม ขอลายเซ็น ในโรงพยาบาลจึงเกิดเป็นจลาจลขึ้นมา เขากับคุณแม่จึงจำต้องออกจากโรงพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย ด้วยคุณแม่ของเขาต้องเข้าทำการผ่าตัด ที่บ้านจึงไม่มีการจัดเลี้ยงตรุษจีน แต่เพราะเขาก็รู้ว่าคุณแม่ได้เตรียมการเพื่องานฉลองตรุษจีนไว้มากมายหลายอย่าง เขาจึงไม่ลืมที่จะขอบคุณน้องสะใภ้ที่จัดการอะไรต่างๆ แทน ปีที่แล้ว น้องชายเขาแต่งงานไปก่อน และน้องสะใภ้ก็ต้องรับภาระหน้าที่ที่บ้านทั้งหมด เขาจึงเอ่ยคำขอบคุณขึ้นมา จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 59.4 ค่ะ เขาบอกว่า เมื่อปีที่แล้ว อาเฮียไปเซ็นสัญญากะบริษัทบันเทิงของที่นั่นชื่อ AMUSE จะทำการ ทะลุทะลวงไส้ เอีย คือจะทำการอืม อะไรดีค่ะ ทำการลุย เออ ลุยตลาดภาคพื้นเอเชียให้ขจรขจาย เย้ เจดีจี กล่าวว่า "เพื่อเป็นการตอบแทนความรักที่แฟนๆ มีให้มา กระผมจะจัดงานพบปะแฟนๆ ขึ้น ซึ่งงานในครั้งนี้ ไม่ใช่ "คลื่นหรือกระแสแห่งเกาหลี"(ที่เคยจัดไปมั้งคะ) คือว่า ทุกอย่าง ฟรีหมดครับ " จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 58 60 ข่าวจากลิ้งค์นี้ค่ะ http://ent.sina.com.cn/x/2006-12-07/09181359757.html พาดหัวข่าวว่า ซูฉี ชื่นชมในฝีมือการแสดงของ Jang Dong Gun สำนักข่าวซิน่าบันเทิงรายงานว่า นักแสดงนำในเรื่อง Jopog manura 3 ซูฉี กล่าวในตอนให้สัมภาษณ์ว่า อยากแสดงหนังร่วมกับ Jang Dong Gun  และ Woo Sung Jung เมื่อบ่ายวานนี้ (06/12/2006)ซูฉี ที่อยู่ในโรงแรม Xin Luo (พินอิน) กลางกรุงโซล ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Taegukgi และ (อืม หาชื่อเรื่องไม่เจอนะคะ ชื่ออังกฤษ แปลคร่าวๆ ก็คือ ชื่อเรื่อง ยางลบในหัวสมองของฉัน) แล้วรู้สึกยอมรับในฝีมือการแสดงนำของดาราทั้งสองเรื่อง หวังว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกัน จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 59 61 07/12/2006 http://ent.sina.com.cn/s/j/2006-12-07/09301359771.html เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บในเกาหลีได้ประกาศยอดรายได้ของศิลปินเกาหลีในรอบปี สำหรับตัวศิลปินเอง คงยากที่จะพูดได้ว่ามีรายได้ปีๆ หนึ่งเป็นเท่าไร แต่ก็สามารถใช้หลักของค่าตัวที่จ่ายตอนไปปรากฏตัวและค่าตัวสำหรับถ่ายโฆษณามาวิเคราะห์วิจัยรายได้ของศิลปินในปีๆ หนึ่งได้ ต่อไปเป็นการประกาศผลรายได้ เย้ ค่ะ นักร้อง BOA มีรายได้ 4 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 340 ล้านหยวน หรือ 1,700 ล้านบาทไทย มาเป็นอันดับ 1 จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 61.1 ส่วนนักแสดงภาพยนตร์ที่มีค่าตัวสูงสุดคือ Jang Dong Gun ด้วยค่าตัวเฉลี่ยที่ 850 ล้านวอน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 61 62 จากลิ้งค์ของคาเฟ่ตงเจี้ยนนะคะ ตามนี้ http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=1963&show=0 SOURCE: http://blog.naver.com/kris8884.do Credit : nightdream with many thanks เบื้อหลังเรื่องราวดังกล่าวคือ  JDG ได้ไปทานข้าวที่   Clubhouse  ของคุณ Kris ต่อไปเป็นบทสนทนาของพวกเขาค่ะ JDG: มีบุหรี่มั้ยครับ ? พี่สะใภ้ของ Kris : ไม่มีค่ะ Kris : ผมมี JDG: งั้นก็ขายให้ผมละกัน.... Kris: งั้นเอางี้ แลกกับลายเซ็นของคุณละกันนะ JDG:  OK ทำการแลกเปลี่ยนกันเรียบร้อย นี่คือหลักฐานการแลกเปลี่ยน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 62.1 (ระหว่างทานอาหาร) JDG: บุหรี่...นี้....(อยากบุหรี่อีกแล้วครับท่าน) Kris:  ได้ งั้นเราก็มาแลกกันอีกครั้งนะ JDG: อืม...แลกก็แลก เอ้า.... Kris:  คราวนี้ให้เซ็นลงที่แขนเลยนะ JDG:  เหรอ ? และนี่ก็คือ หลักฐาน ชิ้นที่สองเจ้าค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 63 63 จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 64 63.1 จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 65 63.2 เมื่อผมมองย้อนกลับไปในที่ช่วงที่งานยุ่งจนแทบจะหายใจหายคอไม่ทัน ผมพบว่าตัวเองแตกต่างจากจินตนาการที่คิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง 10/12/2006 จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 66 64 12/12/2006 บทความย้อนอดีตนี้จาก Link:http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=5628&show=0 http://jangdonggun.com.cn/gb/shhd/2006-12-3/06-12-3-488C8.html (ในรถ) (นักข่าว)ผู้หญิง: สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วนะคะ.... ตามรอยหนึ่งในจตุรเทพแห่งเกาหลี Jang Dong Gun ตามหลังเวทีเพื่อให้คุณได้รู้จักในด้านที่ไม่มีใครรู้ของเขา ในฐานะดาราอันดับ 1 แห่งเอเชีย(อ้าว เขินนะ จะใช่หรือเปล่า ไม่แน่ใจเลย) คุณจะได้พบกับเสน่ห์อันลึกลับของเขา โดยจะเปิดเผยออกมาทีละอย่างจนหมดเปลือก Jang Dong Gun ในวัย 32 ปี ผู้ร่วมแสดงกับ Won Bin ในภาพยนตร์เรื่อง Taegukgi จนทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดหนัง 25th The Blue Dragon Awards ของประเทศเกาหลี เขาได้รับความนิยมทั้งจากในประเทศเกาหลีเอง ประเทศจีนและญี่ปุ่น ฯลฯ จนคว้าความเป็นดาราอันดับ 1 แห่งเอเชีย (ว้าย เว่อร์ไปเปล่า คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักเขาเลยค่ะ หรือว่า ไทยเรา. . . ) (วันที่ 23/12/2004 เวลา 12.10 น. ณ สนามบิน) ใบหน้าอันสดใสของ Jang Dong Gun ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. แล้ว ดูเขาผอมลงไปเยอะ ส่วนจำนวนแฟนๆ ที่ไปรอเขาที่สนามบินมีประมาณ 2 พันคน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 67 64.1 2 พัน หรือ 2 ตัน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 64.2 (ในรถ) (นักข่าว) หญิง : พบกันอีกแล้วนะคะ ไม่อยากมีความประทับใจยังไงกับประเทศญี่ปุ่นบ้างคะ ? DG: ครับ สุดยอดเลยครับ พิธีกรหญิง : คุณหล่อจริงๆ นะคะ (เสร็จสิ้นการถ่ายภาพ DG ในรถ) DG: ช่วงนี้ผมถ่ายทำหนังอยู่ที่เมืองไทยถ่ายทำหนังเรื่องไต้ฝุ่นครับ วันนี้ได้มาที่ญี่ปุ่น การถ่านทำทำกันถึงตอนกลางคืนดังนั้นจึงทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เหนื่อยล้าพอสมควรครับ แต่ก็อยากมาพบปะกับแฟนๆ ซึ่งก็น่าตื่นเต้นมากแบบไม่คาดคิดเลยครับ (นักข่าวชาย): ชอบญี่ปุ่นมั้ยครับ ? DG: ชอบมากครับ (ระหว่างทางไปโรงแรม ตลอดทางสามารถพบเห็นแฟนๆ ที่รอคอยเขาอยู่) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69 64.3 (14.15 น. ถึงยังโรงแรม) แฟนๆ ตื่นเต้นมากกับการมาปรากฏตัวบนเวทีของ Jang Dong Gun (15.30 น. เข้ายังสถานที่จัดงาน) DG: (ทักทายก่อน) สวัสดีครับ ผม Jang Dong Gun ครับ MC(ย่อมาจากอะไรก็ไม่ทราบได้ค่ะ): สบายดีมั้ยครับ ? DG: สบายมากครับ MC: สู้ สู้ เจียโหยว เจียโหยว นะครับ เพื่อส่งความสุขให้กับแฟนๆ ได้มากยิ่งขึ้น Jang Dong Gun ถึงกับตั้งใจเช็คภาพที่จะนำเสนอในรายการบนเวทีอย่างตั้งใจ ชุดอัลบั้มภาพของเขา นอกจากจะมีอัลบั้มภาพของเขาแล้ว  ยังมี ดีวีดี อีกด้วย ถือเป็นการทุ่มทุนโปรโมทอย่างแท้จริง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 64.4 (16.10 น. เริ่มเปิดประตูทางเข้างาน) มีแฟนๆ จำนวนเพียง 300 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วมรายการ (ในห้องพักของ Jang Dong Gun) DG กำลังทบทวนขั้นตอนของกิจกรรมบนเวที ซึ่งมีคำพูดที่เปิดเวทีและข้อความต่างๆ เตรียมไว้ให้เขาอย่างเรียบร้อย ซึ่งก็ดูได้ว่าเขาเองก็ตื่นเต้นพอสมควร (พิธีกรหญิง): Fans Meeting เจียโหยว เจียโหยวนะคะ DG: ครับผม (17.10 น. เริ่มงาน) ก่อนจะเปิดงาน ไม่รู้ว่า DG ได้พูดอย่างที่เขาได้เตรียมตัวไว้หรือเปล่า ? (18.10 น. งานก็จบลง) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 64.5 (พิธีกรหญิง): ช่วยวิจารณ์แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นหน่อยซะคะ ? DG: อบอุ่นมากครับ บรรยากาศดีมากๆ เลย....ผมมีความสุขมากครับ (ห้องพักของ DG) DG: มีเวลาให้พักเพียง ครึ่งชั่วโมง เหรอครับ ? หลังจากจบ meeting กับแฟนๆ แล้ว เขายังต้องพบปะกับสื่ออีกด้วย พิธีกรหญิง:ชอบอาบน้ำแร่ใช่หรือเปล่าคะ ? DG: ครับ เมื่อก่อนผมไปบ่อยเลยครับ พิธีกรหญิง: มาคราวนี้จะไปอีกหรือเปล่าคะ ? DG: สงสัยคราวนี้คงจะไปไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 64.6 ถึงตอนนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมตัวพบปะกับสื่อมวลชนแล้ว พิธีกรหญิง:คุณเปลี่ยนชุดแล้ว ไม่ทราบเป็นดีไซน์จากที่ไหนคะ ? DG: เป็นดีไซน์เนอร์จากเกาหลีครับ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการจัดจำหน่ายอัลบั้มรูปของเขาและนี่เป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ที่ออกมา จึงทำให้เขาออกจะตื่นเต้นแต่ก็มั่นใจสุดๆ เช่นกัน (18.40 น. พบปะกับสื่อมวลชน) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 200 คน (สัมภาษณ์) DG: ขอโทษนะครับ ผมขอสูบบุหรี่ซักตัวได้มั้ยครับ ? นักข่าวหญิง: ได้ค่ะ เชิญค่ะ (ขนาดอยู่หน้ากล้อง เขายังไม่ได้เติมแต่งใบหน้า นี่อาจจะเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาก็ได้) นักข่าวหญิง:ได้ข่าวว่า คุณถูกบังคับให้ลดน้ำหนัก DG: ถ้าจะพูดในมุมมองของผมแล้ว มันจำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนักเพื่อสวมบทบาทในหนังครับ ไม่กินอาหารจำพวกแป้งจะเป็นวิธีหนึ่งในการลดน้ำหนักได้ในระยะยาวครับ ...ก็ลดไป 10 กิโลครับ นักข่าวหญิง: ในตอนนี้คุณอยากทำอะไรที่สุดเลยคะ ? DG: ผมอยากฉลองคริตสมาสกับคนรักของผมครับ (สงสัยตอนนี้คงเตรียมการในการจีบหญิงแล้วหละซิ) งานซึ่งเพิ่งทำเสร็จไป ทำให้เขาผิวปากได้อย่างสบายอารมณ์ (เดินทางมาญี่ปุ่นเพียงคนเดียว ก็เจอวีรกรรมของแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นบนเครื่องบิน ซึ่งลงทุนตีตั๋วนั่งชั้นหนึ่งเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเขา ดังที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังไปแล้วค่ะ) (21.30 น.เป็นเวลารับประทานอาหาร) ในร้านอาหารฝรั่งเศส และนี่คือ อาหารมื้อแรกของเขาหลังจากได้มาถึงญี่ปุ่นเป็นเวลาเกินกว่า 10 ชั่วโมง (อึ้ดจริงๆ) พิธีกรหญิง: จะดื่มเหล้า(หรือไวน์)ด้วยหรือเปล่าคะ ? DG: อ๋อ ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมชอบที่จะดื่มไปทานข้าวไปด้วยมากกว่าครับ พิธีกรหญิง:ตอนนี้คุณคงหิวแย่แล้วซิท่า ? DG: หิวมากๆ เลยครับเนี่ย อาหารฝรั่งเศสเลิศหรู สนนราคาคนละ 13,000 เยน เรื่องลดน้ำหนักไว้ค่อยว่ากันทีหลังแล้วครับ พิธีกรหญิง: ขอบคุณมากนะคะ วันนี้คุณลำบากมากเลย DG: ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 73 65 บทความย้อนอดีตอีกแล้วครับท่าน ใจกล้ามากๆ แปะมันที่ทำงานเลย เออ เย้ เผื่อคืนนี้จะ ไม่เข้า เย้ เพราะโดนเหล่าซือ ดุ อีกแล้วค่ะว่า เหลวไหลจริงๆ เลย กะว่าจะเขียนบันทึกการเดินทางส่งท่านซะหน่อย ตอนนี้เพิ่งจะออกจากสนามบินและเริ่มการเดินทางเอง แฮะ แฮะ ยืดเยื้อแอนด์เรื้อรังมากๆ ขอบอก วันนี้เกี่ยวกับ stylist ผู้ดูแลความงามของ เจดีจี ค่ะ ตามลิ้งค์ค่ะ http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=72&show=25&man= stylist : Jin Xiao Cheng และ Liang Ying Xin (ชื่อเป็นพินอินทั้งคู่นะคะ) Jin Xiao Cheng(คนซ้ายในภาพ) เป็นผู้ดูแลความงามของ Jang Dong Gun มา 9 ปีแล้ว การได้ร่วมงานกับนักแสดงเป็นเวลานานเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ทัศนคติที่เธอมีต่อเขาไม่เคยเปลี่ยนนั่นคือ ความเคารพนับถือ Jin Xiao Cheng พูดเล่นๆ ในขณะการถ่ายทำว่า “ใช่แล้วค่ะ พวกเราจะร่วมงานกันไปอีก 9 ปี” ในครั้งนี้ เธอได้เปิดเผยท่าทีอันน่าเคารพของ Jang Dong Gun ของ เจดีจี ให้ฟัง Jang Dong Gun จะรู้สึกเขินอายมากๆ กับเสื้อผ้าที่ต้องเปิดไหล่ ทุกครั้งต้องใช้แรงในการรูดซิปเสื้อขึ้นมา แต่ว่า เธอคนนี้ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ไม่ได้นะคะ ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ” (คือต้อง โชว์ค่ะ เจ้านาย) การขัดขวางการกระทำของ Jang Dong Gun ในครั้งนี้ก็ สำเร็จ ลงด้วยดี จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 74 65.1 มาด้านทรงผมบ้าง Liang Ying Xin (คนทางขวามือ) ผู้สร้างสรรค์ความงามให้กับเรือนผมซึ่งถือเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงเช่นกัน (ขนาดนั้นเลย) จนถึงบัดนี้ ใครๆ ก็นึกถึงผมที่สะอาด ดูเรียบร้อยของ Jang Dong Gun มาวันนี้ ทรงผมของเขากลับดูโดดเด่นและมีสไตล์ ทำให้สาวๆ จำนวนมากในวงการบันเทิงพากันตื่นเต้นยกใหญ่ พวกเธอทั้งสองที่ช่วยแต่งแต้มสุดยอดนักแสดงให้ดูดีและเหมาะสมนี้ก็กล่าวคำขอบคุณ จบแล้วค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 75 66 ข่าวสดๆ จากลิ้งค์นี้เลยเจ้าค่ะ   http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=1&topic=5639&show=0 ผู้กำกับ 007 : Jang Dong Gun เป็นสุดยอดนักแสดงแห่ง Hollywood ผู้กำกับใหญ่แห่งวงการ Hollywood กับภาคต่อของหนังเรื่อง James Bond ตอน Casino Royale มิสเตอร์  Martin Campbell จะออกฉายที่เกาหลี เขาจึงเดินทางไปเกาหลีเพื่อเป็นการโปรโมทหนังเรื่องดังกล่าว ระหว่างให้สัมภาษณ์ เขาได้วิพากษ์วิจารณ์หนังและนักแสดงชาวเกาหลีอย่างสูงส่ง เขากล่าวว่า ในปี 2004 เขาได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง เทกึกกี ที่ LA และรำลึกถึงความหลังครั้งนั้นว่า “หนังที่ชื่อเรียกยากมากๆ ว่าอะไรนะครับ Taegukgi อืม เป็นหนังที่มีสีสันมากๆ เรื่องราวการเข้าสู่สนามรบของสองพี่น้องทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก เรื่องอารมณ์ความรู้สึกนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ยิ่งฉากรบหรือการต่อสู้อะไรต่างๆ ได้มาตรฐานพอสมควรทีเดียวครับ ” หลังจากได้ยินข่าวมาว่า Jang Dong Gun เขาเตรียมตัวเข้าสู่วงการ Hollywood เขาก็กล่าวว่า “ถ้านักแสดงท่านนี้ได้เข้าวงการ Hollywood แล้วละก็คงจะสร้างความโดดเด่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว” จบข่าวค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 76 67 วันนี้ พวกเรามาอ่านบทความในเว็บ jangdonggun.com.cn ซึ่งลงไว้ตั้งแต่ 01/07/2003 แล้วกันนะคะ ดั่งที่ได้ โฆษณา ไว้เมื่อวาน เย้ Source: http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=60&show=25&man= (With many many thanks ) Jang Dong Gun ในหลังวัย 31 ปีแล้วค่อยย้ายบ้านจากคุณพ่อคุณแม่ไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียว หนัง Taegukgi ที่จะมีกำหนดออกฉายในปีหน้า(2004) กับนักแสดงซึ่งมีความเกี่ยวพันกับเกาหลีทั้งสองประเทศอย่าง Jang Dong Gun ที่อายุ 31 ปีแล้วเพิ่งจะแยกจากพ่อแม่มาอยู่เอง JDG คาดว่าในเดือนหน้าคือ.... (สิงหาคม 2003 ก่อนการแต่งงานของน้องชายคือเดือน พฤศจิกายน ซึ่งเหตุผลของการย้ายออกจริงๆ ของเขาก็คือ เมื่อน้องชายซึ่งจะแต่งงานก่อนและมีน้องสะใภ้เข้ามาอยู่ด้วย เขาจึงขอมอบหน้าที่และภาระการดูแลครอบครัวส่งมอบให้การดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้กับน้องชายและน้องสะใภ้ โดยตัวของเขาเองขอปลีกตัวออกมาต่างหาก ซึ่งความคิดดังกล่าวนี้ เราก็ งงๆ ค่ะ แต่เหล่าซือว่า เป็นความคิดของคนที่มองอะไรอย่างละเอียดรอบคอบและให้เกียรติน้องชายกับน้องสะใภ้เป็นอย่างมากด้วย ถ้าตัวเขาเองเป็นน้องชาย คงจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้ค่ะ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 77 67.1 เขาจะย้ายออกจากอพาร์ทเม้นท์ของพ่อแม่มาอยู่ในเขตเมืองใหม่ของกรุงโซล ภาพตึกรามบริเวณดังกล่าว คิดคำนวณดูละกันว่า ที่ดินจะแพงหูฉี่ขนาดไหน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 78 67.2 เป็นครั้งแรกที่เขามีอาณาจักรเป็นส่วนตัวโดย Jang Dong Gun ค่อยๆ เปิดเผยออกมาว่า บ้านใหม่ของเขามีเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางเมตร โดยปกติแล้ว ดาราส่วนมากเมื่อเริ่มเข้าวงการบันเทิง ต่างก็ชอบที่จะออกมาใช้ชีวิตคนเดียวในทันที  ด้วยเวลาทำงานในอาชีพของคนบันเทิงไม่มีกฎตายตัว การกลับบ้านก็ไม่เป็นเวลาที่แน่นอน แถมยังมีแฟนๆ ที่ฟันเฟื่องชอบตามไปรบกวนความเป็นอยู่ของสมาชิกภายในบ้านดาราดังกล่าวด้วย บ้านของ Jang Dong Gun ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่คอยต้อนรับแฟนๆ ที่เป็นเด็กนักเรียนหญิงแล้วเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่ของเขาเองยังต้องคอยเกลี่ยกล่อมเหล่าบรรดาแฟนๆ รุ่นเด็กสาวที่มาเฝ้าลูกชายให้กลับบ้านซะในยามค่ำคืน ฯลฯ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 79 67.3 Jang Dong Gun เป็นดาราประเภทที่ว่า ไม่ว่าเขาจะถ่ายทำหนังจนดึกดื่นเพียงใด ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเหนื่อยล้าให้กับเขา แต่ยังไงซะ เขาจะต้องกลับบ้านอยู่ดีนั่นเอง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 80 67.4 รถยนต์ที่ตัวเองใช้นั้น  เป็นรถที่ซื้อหลังจากที่เข้าวงการแล้วเป็นเวลาถึง 4 ปี ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เขาอาศัยรถเมล์กับรถไฟใต้ดินเป็นพาหนะในการสัญจร (มีภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับรถของเจดีจีอีกค่ะ แต่...แต่ยังไม่ได้อ่าน เย้) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 67.5 และเขาได้อยู่ในวงการบันเทิงมาแล้วถึง 11 ปี โดยอาศัยอยู่กับพ่อแม่และต้องเดินทางระหว่างบ้านกับกรุงโซลมาโดยตลอด ล่าสุดกับช่วงพักระหว่างรอถ่ายทำหนังเรื่องต่อไป เป็นครั้งแรกที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 68 03/07/2003 (จากอีกแหล่งข่าว ซึ่งเขานำมารวบรวมเข้าไว้ด้วยกันค่ะ) Jang Dong Gun ย้ายบ้านใหม่ ในสุดท้าย เขาก็ได้กลายเป็นประชากรชาวกรุงโซลแล้ว ดาราซุปเปอร์สตาร์ Jang Dong Gun ในเดือนตุลาคมนี้ (อ้าว ไม่ใช่สิงหาคมดังข่าวข้างบนหรือครับท่าน?) เขาจะย้ายไปอยู่ในกรุงโซลแล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตกแต่ง นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขา Jang Dong Gun เองซึ่งมักจะได้รับแรงกดดันให้รีบๆ ย้ายบ้านจากเพื่อนๆ อย่าง Jung Joon Ho และ Ham Jae Suk โดยหวังว่า หลังจากเขาได้ย้ายเข้ามาที่กรุงโซลแล้ว เหตุผลที่ว่าก็คือ จะเป็นการสะดวกในรวมตัวกันกินเหล้างั้นเหรอ ? (โห เพื่อนเฮีย น่ารัก จังเลยนะคะ ) เพื่อนจอมก๊ง มีฉายาในวงการเลยว่า คอแข็งมากๆ คนนี้ค่ะ Jung Joon Ho จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 83 68.1 ด้วยบ้านของพ่อแม่ Jang Dong Gun อยู่ไกลออกไปเหลือเกิน ทุกครั้งที่มีนัดสังสรรค์กันจะไม่สะดวกเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนที่อยู่ใกล้ชิดเปิดเผยว่า “ทุกทีมา ไม่รู้ JDG เขาต้องค่าคนขับรถไปเท่าไหร่” เกี่ยวกับการย้ายไปอยู่ที่ใหม่นี้ยังมาปลาบปลื้มยินดีให้กับเหล่าเพื่อนๆ เป็นอย่างยิ่ง Jang Dong Gun : ผมจะไปเป็นประชากรของกรุงโซลแล้วครับ “ผมจะเข้าไปอยู่คนเดียวครับ ถึงตอนนี้ ผมยังไม่เคยมีประสบการในการกินข้าวเพียงคนเดียวเลยซักมื้อ  ดูแล้วผมคงจะต้องเริ่มใช้ชีวิตการอยู่คนเดียวแล้วละครับ บ้านใหม่ของผมค่อนข้างกว้างขวาง ยังไงย้ายบ้านแล้วเวลาเชิญแขกก็ต้องมากันนะครับ” จบแล้วค่ะ เย้ (เวลา ก๊ง นี่ต้องรูปนี้ ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 84 69 Source: http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=12&show=25&man= เรื่องราวเกี่ยวกับ รถคันแรกในชีวิตของ เจดีจี เย้ “สวัสดีครับทุกๆ ท่าน ผมคือ Jang Dong Gun สิ่งของที่พวกเรานำออกขายเพื่อการกุศลนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นของรักของห่วงของพวกเรากันทั้งนั้น หวังว่าทุกท่านจะสามารถร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นะครับ ทั้งหมดที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนๆ ศิลปินในวงการทุกเพศทุกวัยถึง 105 ท่านครับ” ในวันที่ 31/12/2003 รถคันรักของ เจดีจี ซึ่งเขาซื้อมาในปี 1996 หลังจากเข้าวงการมาแล้วพักหนึ่ง เนื่องด้วยเป็นรถคันแรกที่ใช้น้ำพักน้ำแรงของเขาซื้อมันมาได้เอง ดังนั้น เขาจึงรู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งกับรถคันดังกล่าว เขาใช้รถคันดังกล่าวมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ถ้าจะว่าในราคาของรถกลางเก่ากลางใหม่คันนี้แล้ว ราคาสมควรจะอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านวอน แต่กลับขายได้ในราคาถึง 12 ล้าน 9 แสน 5 หมื่นวอนในท้ายที่สุด ซึ่งถือว่านี่เป็นรถที่ขายได้ราคาสูงที่สุดในตลาดรถทางอินเตอร์เน็ท กับเหตุการณ์ดังกล่าว เจดีจีเปิดเผยว่า “จริงๆ มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้นเองครับ แต่สุดท้ายแล้วทุกๆ คนกลับรู้กันหมดเลย อืม รู้สึกเกรงใจจังครับ แต่ที่สามารถได้ร่วมกิจกรรม(การกุศล)ในครั้งนี้ก็เพื่อนๆ ผมก็รู้สึกดีใจมากเลยครับ” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 85 69A 16/12/2006 อีกหนึ่งเรื่องเล่าจากคุณ เบดูอิน ค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 86 70 Source: http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=12&show=25&man= 07/03/2001 เขาได้พบกับ Surprise ในตอนที่กำลังถ่ายทำ 2009 Lost Memories อยู่ บันทึกอีกหนึ่งหน้าของ Dong Gun Diary “ท่ามกลางกองถ่ายหนังฉากหนึ่ง มีการจัดงานอวยพรวันเกิดด้วยครับ วันเกิดในวันนั้นของผม (07/03/2001) กำลังเข้าฉายยิงถล่มกันอยู่ในสมาคมเลยครับ ในตอนนั้น ไม่ทราบว่าเพื่อนทีมงานไปรู้เรื่องวันเกิดผมได้ยังไง พวกเขาจึงไปซื้อเค้กมาฉลองให้กับผมด้วย” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 87 70.1 “แต่นี่เป็นการฉลองวันเกิดด้วยผู้คนจำนวนมาก ผมรู้สึกไม่ คุ้น เลยครับ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ผมไม่เคยจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดมาก่อน ด้วยนิสัยที่เป็นคนเงียบๆ แล้วก็ไม่เคยส่งของขวัญวันเกิดให้กับใคร อีกทั้งก็ยังไม่เคยมีใครมอบของขวัญวันเกิดให้กับผมด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นวันเกิดของเพื่อนๆ ผมก็จะแค่เชิญพวกเขาออกไปดื่มฉลองด้วยกัน แต่กับวันเกิดของตัวผมเอง ผมไม่เคยทำอะไรเช่นนั้น” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 88 70.2 “ปีก่อนในวันเกิดของผม คุณปู่ท่านได้เสียชีวิตในวันนั้นพอดีครับ วันนั้น ผมกำลังมีนัดรวมตัวอยู่กับเพื่อนๆ ตอนที่กำลังชนแก้วกับทุกคนก็ทราบเรื่อง ผมรีบวิ่งกลับบ้านเลย ในวันนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมต้องร้องไห้อย่างเจ็บปวดที่สุดในชีวิต วันเกิดในปีนี้ผมกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำจนตัวเองก็ไม่ได้นึกถึงด้วยซ้ำ เมื่อทุกๆ คนมาร่วมอวยพรผมเช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากครับ สิ่งนี้ทำให้ผมนึกขึ้นมาถึงวันเกิดอันไม่สามารถลืมมันได้ในวันนั้น ตอนถ่ายทำก็ให้นึกถึงเรื่องนี้(คุณปู่เสีย)ขึ้นมาอีก ผมก็ถ่ายทำไปก็คิดถึงเรื่องที่ทำใจไม่ได้ไปด้วย ” (มิน่าละคะ เคยสังเกตการจัดงานวันเกิดของเขา ไม่เอาตรงวันจริงเลย ยังแปลกใจเลยว่า ทำไม วันจริงเอาไว้ทำอะไร ? ที่แท้ เป็นอย่างงี้นี่เองค่ะ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 89 70.3 งานวันเกิดสุด surprise บนเครื่องบินของ เจดีจี ข่าวเมื่อ 12/03/2002 ดาราเกาหลี Jang Dong Gun เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว(วันที่ 8) ตอนอยู่บนเครื่องบินได้ผ่านพ้นวันเกิดปีที่ 30 ของเขาแบบยากที่จะลืม หลังจากที่เขาได้ไปพักผ่อนที่อเมริกาถึง 20 วัน เขาก็ได้โดยสารเครื่องบินเพื่อกลับเกาหลี บนเครื่องบิน สาวแอร์ได้เตรียมเค้กและของขวัญวันเกิดให้กับเขาไว้เรียบร้อยแล้วบนเครื่องบิน เมื่อเริ่มบิน แอร์ก็ได้ surprised ! ใหญ่เขาด้วยการอวยพรวันเกิด ขอให้เขาอายุยืนหมื่นปี (อย่างกะฮ่องเต้) และได้มอบของขวัญให้เขาด้วย ที่จริงวันเกิดของเขานั้นเป็นวันพฤหัสที่แล้ว(วันที่ 7 ที่ผ่านมา) แต่ครั้งนี้เป็นอีกวันเกิดที่เขาคงยากที่จะลืมเลือน ในจำนวนของขวัญวันเกิดอันเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความหมายนี้ มีเพื่อนๆ ชาวเน็ทหลายคนร่วมกันบริจาคเงินเพื่อการกุศลในนามของ เจดีจี เป็นจำนวน 1 ล้าน 5 แสนวอน หรือประมาณ 9 หมื่นเหรียญฮ่องกงด้วย โดยที่ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้บริจาคเป็นชาวฮ่องกงค่ะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 11:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 90 70.4 08/03/2004 Jang Dong Gun : “นี่เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยครับ” (นี่น่าจะเป็นการจัดงานวันเกิดอย่างเป็นทางการของเขาครั้งแรกหลังจากเข้าวงการมาแล้วถึง 12 ปี คิดดู เขา สมถะ ขนาดไหนท่านผู้ชมขา เย้) ในวันที่ 6 เดือนนี้ หนังเทกึกกี มีผู้เข้าชมในเกาหลีชนิดที่สร้างสถิติทะลุ 9 ล้านคนในเวลาอันสั้น วันต่อมา (วันที่ 7) ก็เป็นวันครบรอบ 32 ปีของ เจดีจี บังเอิญว่าในวันเดียวกันนั้น เป็นวันเสียชีวิตของคุณปู่ของ เจดีจี ด้วย คุณปู่ซึ่งเกิดที่เกาหลีเหนือ จวบจนวาระสุดท้ายของท่าน ก็ไม่เคยที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดอีกเลย ดังนั้น เจดีจี จึงเข้าใจว่า ที่ตัวเองสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความเจ็บปวด โศกเศร้าที่เกิดจากสงครามในหนัง เทกึกกี นี้ ถือเป็นสิ่งที่มีความหมายกับเขาอย่างยิ่งในขณะเดียวกัน ก็เป็นการรำลึกถึงคุณปู่ของเขาและความโศกเศร้าเสียใจจากสงครามเกาหลีขึ้นมาอีกครั้ง จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 70.5 มาถึงวันนี้ วันที่เขาได้ฉลองความสุขในวันเกิดร่วมกับแฟนๆ ในงานปาร์ตี้ บรรดาแฟนๆ ชาวเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งร่วมกันร้องอวยพรวันเกิดให้กับเขาถึงท่อนที่ว่า.... “ในช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิครั้งใหม่ เธอผู้งดงามก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา....” ทำเอาดาราซุปเปอร์สตาร์อย่างเขาถึงกับตั้งปณิธานกับตัวเองว่า จะพากเพียรจนกลายเป็น “นักแสดงที่ดีที่สุด”ให้ได้ ในวันนี้ แน่นอนว่าคำถามจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับหนัง เทกึกกี แฟนๆ ล้วนแต่ประทับใจกับหนังเรื่องดังกล่าว เมื่อ เจดีจี ในบทของจินเทที่ต้องเสียชีวิตลงในสนามรบ และฉากการฉลองชัยชนะเป็นครั้งแรกด้วยการเต้นรำด้วย เจดีจี กล่าวว่า “ฉากการเต้นรำนั้น เป็นตอนที่ผมดื่มเบียร์ไปแล้วถึง 8 กระป๋องครับแล้วค่อยถ่ายทำกัน ” จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 92 70.6 * * * * * อ่านข้ามตรงไหนก็ ข้ามได้ค่ะ นะ * * * * * * * * * * แต่กรุณาอย่า ข้ามคำถามนี้เจ้าค่ะ * * * * * ยังมีแฟนๆ ถามเขาขึ้นมาอีกว่า ^ ^ ^ * * * * * “จูบครั้งแรก และจูบครั้งล่าสุด ?” * * * * * (อุ๊ย ท่านผู้ชมขา อาเฮียผู้แสนใสซื่อของอิชั้น ดันตอบไป เฮ้อ น่าตีจริงๆ คนถาม ดีนะไม่ถามล้วงลึกกว่านั้น แย่เลย เดี๋ยวเฮียแกก็จะ ตอบ อยู่ดี แง แง) ^ ^ ^ “ครั้งแรกเป็นตอนที่ เรียนกวดวิชา อยู่ครับ ส่วนครั้งหลังสุดนี่ก็ 1 ปีที่ผ่านมาแล้วครับ” ^ ^ ^ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 93 70.7 JDG ยังได้พูดคุยกับนักร้องที่ขึ้นมาร้องอวยพรเขาบนเวทีว่า “วันที่ 12 นี้ผมจะเดินทางไปถ่ายทำหนังที่เมืองจีน โปรแกรมว่าจะถ่ายทำกันที่นั่นเป็นเวลา 5 เดือนครับ การทำงานคิดว่าคงจะยากลำบากกว่าเรื่อง เทกึกกี ครับ ” JDG จะรับบทนำในหนังเรื่อง The Promise ซึ่งมีเฉินไข่เกอเป็นผู้กำกับร่วมกับนักแสดง จางป๋อจือ และนักแสดงญี่ปุ่น ฮิโรยูกิ ซานาดะ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 94 70.8 หลังจากเสร็จสิ้นงานฉลองวันเกิดร่วมกับแฟนๆ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว เจดีจี ก็รีบเดินทางกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่เพื่อฉลองวันเกิดอย่างเงียบๆ กับสมาชิกในครอบครัว ทั้งยังรำลึกถึงวันจากไปของคุณปู่ของเขาอีกด้วย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 95 70.9 ขอสรุป และเรียบเรียงเรื่องราว วันเกิด ของเจดีจี ดังนี้ค่ะ ก่อนปี 2000 ไม่เคยมีงานวันเกิด ปี 2000 ในวันเกิด วันที่ 7 มี.ค. คุณปู่เขาได้เสียชีวิตในวันนั้นพอดี ปี 2001 วันที่ วันเดียวกัน 7 มี.ค. ระหว่างถ่ายทำ 2009 Lost Memories อยู่ เพื่อนๆ ในกองถ่ายได้จัดงานวันเกิดให้เขาเป็นครั้งแรก ปี 2002 เขาซึ่งพักผ่อนอยู่ที่อเมริกา และต่อมาวันที่ 12 มี.ค. ระหว่างเดินทางกลับเกาหลี ก็มาพบกับ เซอร์ไพรส์วันเกิดบนเครื่องบิน ปี 2003 วันที่ 7 มี.ค. เขาซึ่งอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่อง Taegukgi ไม่มีการจัดงานวันเกิด ปี 2004 จัดงานฉลองวันเกิดกับแฟนๆ ขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 มี.ค. (ดังที่เพิ่งนำเสนอไปคห.ข้างบนเจ้าค่ะ) ต่อมาในปี 2005 มีการจัดงานวันเกิดของเขาขึ้นในวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งจะนำเสนอต่อไปเจ้าค่ะ โปรดติดตามอ่าน เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 71 อันที่จริง บันทึกเจดีจี ปี 2005 โหยวได้รวบรวมภาพและเรื่องราวในงานวันเกิดเจดีจี ไปแล้ว แต่เห็นว่า อันนี้ น่าจะ ละเอียดกว่า ซึ่งขอนำเสนออีกครั้ง เพื่อนๆ คงไม่ว่ากันนะคะ จะได้ต่อเนื่องกันไปเลย เย้ Source:http://jangdonggun.com.cn/cgi-bin/topic.cgi?forum=13&topic=111&start=12&show=25&man= Credit with many thanks to Pauline & Mona of Jandonggun.com.cn Merry Christmas to you all 2005.03.06 HappyBirthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona งานวันเกิดจัดกันที่ศูนย์การค้าในเขต เจียงหนาน (พินอิน) ในกรุงโซล ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ออกแบบอย่างสวยงามมาก สถานที่ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ สถานที่พักรอ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 97 71.1 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonise International อีกส่วนหนึ่งคือ สถานที่จัดงาน ตรงทางเข้าจะมีวงดนตรี string orchestra สาวอยู่กลุ่มหนึ่ง บรรเลงแต่เพลงประกอบละครเรื่อง All About Eve ในตอนที่ละครเปิดประกอบฉากวันเกิด ซันเหม่ย (ชื่อพินอิน ใครอะคะ ? 5 5 5 นางเอกอะเปล่า ? ) ร่วมรับประทานอาหารกับพระเอกของเรื่อง (มีหรือเปล่าฉากนี้ ก็เพลงประกอบฉากนั้นนั่นแหละ ใช่ตอนมอบสร้อยข้อเท้าด้วยหรือเปล่า ไม่แน่ใจ) ทำให้ผู้คนที่เข้ามาในงานต่างมีความรู้สึกถึงความเลิศหรูอย่างมีสไตค์ของงาน ตรงกลางเพดานจะแขวนภาพขาวดำขนาดใหญ่มากของ เจดีจี เขียนรายละเอียดต่างๆ ของงานที่จัดในวันนี้ 2005.3.6 Happy Birthday Jang Dong Gun , Adonise ด้านล่างของภาพเป็นโต๊ะจัดงาน แบ่งเป็น 3 โต๊ะดังนี้ โต๊ะตรงกลางเป็นของ Korean Adonise ข้างๆ เป็นโต๊ะของ Chinese Adonise  และ Japanese Adonise พวกเราลงทะเบียนกันที่นี่ ด้านข้างยังมีโต๊ะตั้งของว่างและเครื่องดื่มไว้ต้อนรับแขก ตรงกลางมีการตั้งภาพขนาดใหญ่ที่ทำจากกระดาษเป็นรูป เจดีจี ให้แฟนๆ เข้าไปยืนถ่ายรูปคู่ด้วย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 98 71.2 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International มาแล้ว เขา โผล่ มาแล้วค่ะ เจ้าของงาน  เย้ 5 5 5 พวกเราไม่ต้องทำไร แค่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 99 71.3 รับจ้างมา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ใจสั่งการมา เย้ จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 100 71.4 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International กรี๊ด แอนด์ กรี๊ด ก่อน บ๊ายบาย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 101 71.5 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International พวกเราแต่ละคนต้องติดบัตรของงานที่มีรูป  JDG  ซึ่งมีชื่อของพวกเราพร้อมหมายเลขเขียนไว้อย่างเรียบร้อยด้วย พวกเราต้องอาศัยบัตรที่ว่านี้เพื่อเข้าไปในงาน เจ้าหน้าที่จากบริษัทจัดการของ JDG ในชุดสูทและเนคไทสีดำ 4 ถึง 6 กับสาวๆ วง orchestra ต่างก็มาในชุดกระโปรงสีดำหลวมๆ เช่นกัน  ดูเรียบง่ายแต่ก็มี สไตล์ เมื่อเวลามาถึง พวกเราก็ได้เข้าไปในงาน สถานที่จัดเป็นรูป พระจันทร์เสี้ยว บนเวทีจัดแบบเรียบง่ายแต่ก็เก๋มาก ตรงกลางเป็นจอขนาดใหญ่ ด้านข้างประดับด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ฉันชื่นชอบมาก ที่เก้าอี้ของแต่ละคนจะมี หูฟัง ทั้งภาษาจีน หรือ ญี่ปุ่นให้เลือก ทำให้พวกเราทุกๆ คนได้เข้าใจเนื้อหาที่ JDG จะพูด ทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจกับการเตรียมการนี้ เมื่อเค้กวันเกิดถูกจุดขึ้น กลุ่มเด็กๆ จำนวน 12 คน ก็เดินออกมาพร้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิด จากนั้น JDG ก็จูงเด็กคนหนึ่งแล้วเดินออกมาที่หน้าเวที จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 102 71.6 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International เมื่อ JDG เสียงกรี๊ดก็ ถล่มทลายไปทั่วทั้งฮอล ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ก็เข็นขนมเค้กวันเกิดออกมา เด็กๆ บนเวทีก็ร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับ JDG และในตอนนี้เองที่ Hyeon-jin Kong พิธีกรของรายการก็ปรากฏตัวขึ้น (นี่ไง เขาแหละ Hyeon-jin Kong  อีก 1 ซี้ของ เจดีจี ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 103 71.7 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International ชุดเสื้อผ้าที่  JDG สวมใส่ เป็นเสื้อคลุมสีขาวขนาดยาวถึงหัวเข่า ข้างในเป็น T-shirt กางเกงยีนส์ รองเท้าส้นสูงเป็นบู๊ตสีน้ำตาลอ่อน เข้ากันมาก ระหว่างงาน เขายังได้เปลี่ยนอีก 1 ชุดด้วย ก็คือชุดที่ถ่ายไว้ในด้านล่างๆ นี้ JDG ซักพักก็จะใส่แว่นตากันแดด แต่ไปได้ซักพักเดียว ด้วยคำขอร้องของแฟนๆ เขาก็ต้องถอดมันออกอีก การแสดงของ JDG เอง เขาขับร้อง 2 เพลง คือ เพลง Snowflower จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 104 71.8 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International และอีกเพลง  I will give you all (ดีค่ะ งั้นก็เอามาเลย เอามาให้หมด ทั้งตัวและหัวใจ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 105 71.9 ระหว่างนั้น ยังมีการปล่อย MV -  My Lady ให้ดูกันอีกด้วย จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 106 71.10 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International เสียงร้องของ JDG มีคุณภาพและมาตรฐานดั่งมืออาชีพ 100 % เต็ม  MV My Lady คงมีเรื่องราวที่มีความหมายอย่างยิ่ง เสียดายที่ฉันไม่เข้าใจมันแม้แต่นิดเดียว  ก็หวังว่าคงจะหาซื้อดีวีดีนี้ได้ในเร็ววัน จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 107 71.11 2005.03.06 Happy Birthday JANGDONGGUN by Pauline & Mona of Adonis International เมื่องานเริ่มต้นขึ้นแล้ว มีการฉายภาพของ JDG ตั้งแต่สมัยยังรุ่นๆ โดยตัวเขากับพิธีกร Hyeon-jin Kong   นั่งอยู่บนเวทีคอยอธิบายเรื่องราวของภาพ มีอยู่หลายภาพเลยที่ฉันเห็นได้ไม่ชัดเจนแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นสมบัติอันล้ำค่าเหลือเกิน งานดำเนินไปถึงตอนช่วงกลางๆ  JDG ก็แอบย่องเข้าไปด้านหลังโต๊ะของแฟนๆ อย่างเงียบเชียบ เขาใช้ภาษาต่างๆ ในการกล่าวคำขอบคุณแฟนๆ ที่มาในงาน แฟนๆ ที่ได้ใกล้เคียงเขาขนาดนั้นก็ แตกตื่น อึกทึก และ ครึกโครม กัน (สุดจะบรรยายใต้ภาพครับ) จากคุณ : jiayou - [ 9 พ.ย. 51 12:08:04 ]