PANTIP.COM : A7211408 สอบถามเรื่องพระเมรุหลังจากเสร็จสิ้นพิธีงานจ้า [วิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 21

สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระเมรุมาศหรือพระเมรุจะทำด้วยไม้เนื้อแข็ง เมื่อสิ้นการพระเมรุแล้วก็จะนำไม้เหล่านั้นไปถวายวัดหรือจัดสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณูประโยชน์ อย่างเช่นในการพระเมรุสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ เมื่อพระราชพิธีสิ้นสุดลงแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริว่า ขนาดพระราชโอรส-ธิดาประชวรยังจัดหาหมอและยารักษาได้ลำบาก ถ้าเป็นลูกชาวบ้านทั่วไปจะยิ่งลำบากแค่ไหน ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไม้พระเมรุส่วนหนึ่งมาสร้างเป็นโรงพยาบาลศิริราช

ทว่าในปัจจุบัน วัสดุอุปกรณ์มีราคาสูง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดหาวัสดุที่มีราคาย่อมเยาขึ้น ดังนั้นพระเมรุสมเด็จ กรมหลวงฯ ในครั้งนี้จึงใช้ไม้อัดธรรมดาปิดด้วยกระดาษทองย่นและผ้าทองแทนวัสดุราคาแพง

อนึ่ง มีธรรมเนียมเกี่ยวกับเศวตฉัตรอยู่ว่า หลังจากเสร็จการพระเมรุแล้วจะทรงพระราชอุทิศถวายวัดวาอารามที่เนื่องด้วยเจ้านายผู้วายชนม์ ส่วนวัดที่ได้รับพระราชทานนั้นก็มักจะนำฉัตรไปถวายกางกั้นเหนือพระพุทธรูปสำคัญ มีพระประธานอุโบสถเป็นอาทิ

อย่างไรก็ดี แม้มีดำริกันว่าจะเปิดพระเมรุให้ประชาชนเข้าชม แต่ก็จะมีบางส่วนที่รื้อลง นัยว่าเป็นการแก้เคล็ด เนื่องจากความเชื่อโบราณนั้น การมีพระเมรุกลางเมืองเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ เพราะหมายถึงประเทศต้องประสบกับการสูญเสียพระบรมวงศ์ไป

ความเชื่อเช่นนี้ยังมีอีก เช่น หน้าโรงราชรถจะไม่สร้างถนนไว้ ประตูใหญ่จะต้องลั่นกลอน (ที่รายการโทรทัศน์กล่าวว่าปิดตายนั่นเกินจริง) กำแพงด้านหน้าโรงราชรถจะไม่มีทางออก ต้องทลายกำแพงเอา เมื่อเสร็จสิ้นการพระเมรุ ถนนหน้าโรงราชรถต้องรีบรื้อทิ้ง ประตูใหญ่ต้องกลับมาลงกลอนอีกครั้ง กำแพงที่ทุบเป็นทางออกของพระมหาพิชัยราชรถต้องรีบก่ออิฐปิด

มีเกร็ดเรื่องการเปิดประตูใหญ่โรงราชรถอยู่เล็กน้อยที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง การเปิดประตูใหญ่นี้ต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อนเท่านั้นจึงจะเปิดได้ ไม่ใช่ใครคิดจะเปิดก็เปิด ต่อเมื่อพระราชทานพระบรมราชานุญาตลงมาแล้วถึงจะเปิดได้ ก่อนจะเชิญพระมหาพิชัยราชรถออกมาจากโรงเก็บก็ต้องมีละครรำถวาย ต้องบวงสรวง เหล่านี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาแต่ครั้งอดีตกาลครับ

ท้ายที่สุด การเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุในครั้งนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชดำริอยากให้ประชาชนเห็นถึงคุณค่าของศิลปะไทย ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ศึกษาขนบโบราณราชประเพณีซึ่งปัจจุบันหาผู้สนใจได้น้อยเต็มที การที่ประชาชนจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกนั้น ขอฝากให้พึงระลึกถึงเจตนารมณ์ของการสร้างพระเมรุด้วย มีเจ้าพนักงานท่านบ่นให้ฟังว่าคนเดี๋ยวนี้แปลก ยืนยิ้นแป้นโพสท่าคู่กับกินรี บางคนชูสองนิ้วโดยมีพระเมรุเป็นฉากหลัง อย่างไรก็ขอฝากให้ตรองถึงความพอเหมาะพอดีด้วยครับ
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 51 01:26:29

จากคุณ : AllSTORY - [ 16 พ.ย. 51 18:53:08 ]