CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang


    <<<<<<< ดูแล้วมาชวนคุย ... Teeth , จาก 'จิ๊มิ๊มีฟัน' สู่ พรหมจรรย์ ความบริสุทธิ์ และ กองเซ็นเซ่อร์ >>>>>>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (3 คน)
      ชอบ (7 คน)
      เฉยๆ (7 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (5 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 22 คน

     13.64%
     31.82%
     31.82%
     0.00%
     22.73%


    เลือกอ่านบทความต่อไปนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + เชิญชวนมาคุยเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2008&date=28&group=14&gblog=122


    file กราบสวัสดีคะ อาหมอ

    ... แม่หนูบอกว่า รักษาความบริสุทธิ์ให้ดีๆ ถ้าเสียตัวเมื่อไหร่ จะเอาไปจับตะกร้าล้างน้ำซะให้เข็ด แม่บอกว่าถึงเวลานั้น คุณค่าของหนูก็ลดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้าราคาตก

    หนูเลยมีข้อสงสัยคะ

    1.ความบริสุทธิ์ มันใช้ทำอะไรคะ

    2.ถ้าหนูเผลอไปมีอะไรกับแฟน ทำไม ผู้ชาย ไม่เสียหาย แต่ หนูถูกสังคมประณามคะ

    3.เพื่อนหนูเผลอเสียตัวให้แฟนไปแล้ว เค้าจะอยู่สู้หน้าประชาชนได้หรือไม่คะ หนูเป็นห่วง

    4.หนูควรจะรักนวลสงวนตัวเพื่ออะไรคะ

    แล้วถ้าเวลาหนูอยู่ใกล้แฟน หนูรู้สึกจั๊กจี้หัวใจ บางทีใจหวิวๆ หนูควรจะรักษา ความบริสุทธิ์ที่ว่า ถึงอายุเท่าไหร่ดีคะ

    woman อ่อนนุช สุดผุดผ่อง

    อายุ 20 ปี




    ... คำถามที่ผู้หลักผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ หรือ อาหมอ ต้องตอบข้างต้น เป็นเหมือนคำถามที่ตอบได้ง่าย แต่ความสำคัญคือ คำตอบที่จะบอกให้ รักนวลสงวนตัว นั้นมี จุดเริ่มต้นหรือที่มา จากอะไร ?

    เหตุผลที่ต้องถามถึงที่มา เพราะ การประกาศปาวๆหรือปลูกฝังค่านิยมแค่ว่า ‘ห้าม’ หรือ ‘อย่า’ , การตีตราว่า ‘เสียตัว นั้นไม่ดี’ โดยไม่มีเหตุผล ก็เท่ากับมอง วัยรุ่น เป็นเหมือนไส้เดือนหรือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ที่คิดอะไรไม่เป็น

    แถมการปลูกฝังความคิดที่ว่า คุณค่าของความเป็นหญิงอยู่ที่ความบริสุทธิ์ หรือ บอกว่า การเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงานคือตราบาป หรือ การให้คุณค่ากับ พรหมจรรย์ เทียบเท่ากับชีวิตกว่าค่อนชีวิต นี้เอง เป็นต้นเหตุที่ทำให้ หญิงสาวหลายคนจำนวนมากเมื่อพลาดเสียตัวไป ต้องจมอยู่กับ ความรู้สึกผิดและตีตราตัวเองไว้ว่า หมดสิ้นคุณค่า

    ต้องกลายเป็น คนที่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่พูดกรอกหู กลายเป็นคนที่สังคมมองแล้วแบ่งแยกให้เป็นชนชั้นสองรองจากสาวบริสุทธิ์ กลายเป็นคนที่ถูกมองว่ามีคุณค่าลดลง

    หลายคนต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้า และ มองตัวเองไม่ดี รู้สึกตกต่ำด้อยค่า เพียงเพราะว่า การเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชาย

    ทั้งที่จะว่าไปแล้ว พรหมจรรย์ ที่พูดๆกัน ในแง่ วิทยาศาสตร์ เป็นเพียงเนื้อเยื่อบางๆ(hymen)ที่พร้อมจะขาดตั้งแต่ทำกิจกรรมเช่น ขี่จักรยาน หรือ กระโดดเชือก

    และ คุณค่าของคนหนึ่งคน(value)  มันไม่ควรที่จะถูกไปจับแขวนไว้ที่ ความบริสุทธิ์หรือพรหมจรรย์

    เช่น ถึง นางสาว กุ๊กไก่  จะเสียความบริสุทธิ์ไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่ หาก นางสาว กุ๊กไก่  ยังเป็น คนดีมีน้ำใจ ยังเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนฝูง ยังเป็นคนที่ดีในสังคม ยังทำงานได้มีประสิทธิภาพเช่นเคย

    คุณค่า ของ นางสาว กุ๊กไก่ ก็มิได้สึกหรอตรงไหนเลย



    ... ที่ต้องเกริ่นเรื่อง พรหมจรรย์ เสียยืดยาว ก็เพราะต้องการนำไปสู่เรื่องราวของวัยรุ่นสาวชื่อ Dawn O'Keefe

    เธอเป็นหัวหอกคนสำคัญของชมรม the promise ที่สวมใส่ แหวนสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ของชมรม แทนความหมายเตือนใจว่า จะไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับคนรักจนกว่าจะแต่งงาน

    พิธีการของชมรม คือ จะมีการปลูกฝังให้รู้จักปฏิเสธและมองว่า การเสียตัว คือ สิ่งไม่ดีงาม สมาชิกจะเรียงหน้าแล้วประสานเสียงตอบรับปานประหนึ่งอยู่ในพิธีกรรมหรือสมาคมขายตรง (อนึ่ง ฉากในชมรมตลกดี)

    นโยบายของโรงเรียนนี้ก็สอดคล้องกันกับนโยบายของชมรม คือ เมื่อถึงวิชาที่เกี่ยวข้องกับกายวิภาค รูปภาพในหนังสือที่แสดงอวัยวะเพศหญิง จะถูกอาจารย์เอาสติ๊กเกอร์มาปิดทับ เพราะมองว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กนักเรียน (นึกถึง กองเซ็นเซ่อร์เวลาทำเบลอหนังหรือละครที่เราเคยดู อารมณ์ประมาณเดียวกัน)

    Dawn มั่นคงกับแนวทางของชมรมมาตลอด จนวันที่เธอพบ โทบี้ ชายหนุ่มที่ทำหัวใจหวั่นไหว เธอเคลิบเคลิ้มไปกับเขา เก็บเอาไปฝันตอนกลางคืน และ ในวัยฮอร์โมนพุ่งพล่าน ความต้องการทางเพศก็ถูกปลุกขึ้น

    ความรู้สึกทางเพศ ไม่ใช่เรื่องผิดบาป เพราะเป็นกลไกของร่างกายตามธรรมชาติเมื่อถึงวัย แต่สำหรับ วัยรุ่นที่ถูกปลูกฝังว่า sex เป็นเรื่องเลวร้าย ย่อมรู้สึกตำหนิตัวเอง และ พยายามควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น แทนที่จะหาทางจัดการให้เหมาะสม




    .... ภายในตัวของ Dawn O'Keefe ฮอร์โมนบอกว่า  ‘เธออยากลอง’ ความถูกต้องบอกว่า  ‘มันไม่ควร’

    ดังนั้นเมื่อคิดถึงเรื่องเซ็กส์ เธอรู้แค่ว่าต้องตอบว่า ไม่  โดยเธอเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าจะ ไม่  ไปเพื่ออะไร

    วันหนึ่งความอดทนของเธอมาถึงขีดสุด เธอปล่อยร่างกายให้กับชายในฝัน ก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาได้ทัน แล้ว ก็ปัดป้องกันตัว แต่ ถึงจุดนั้น อารมณ์ฝั่งชายก็ล่วงหน้าไปเกินกว่าจะห้ามอยู่ และ เธอกำลังจะถูก ข่มขืน

    ในตอนนั้นเอง คนดูก็จะได้รู้จักกับ จิมิ๊มีฟัน หรือ Vagina dentate ของ Dawn

    (Vagina dentate มาจากความเชื่อโบราณถึงช่องคลอดที่มีฟันอยู่ข้างในพร้อมจะกัดอวัยวะเพศชายให้ขาดสะบั้น และ เจ้าของช่องคลอดนั้นได้แต่รอ วีรบุรุษที่จะมาพิชิตและครอบครองเธอ)




    .... มาถึงตรงนี้ หากพิจารณาเพียงผิวเผินจากเรื่องย่อ อาจรู้สึกเหมือนบางท่านที่เคยตั้งกระทู้ในพันทิปว่า หนังเรื่องนี้เป็น หนังอุบาทว์ หนังต่ำๆ

    หรือ หลายคนอาจบิดเอวไปมาด้วยความอาย เวลาบอกพ่อแม่ว่าจะไปดูหนังเรื่อง Teeth แล้วพ่อแม่ถามว่าหนังเกี่ยวกับอะไร แล้วต้องตอบออกไปว่า “หนังเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีฟันในช่องคลอดคอยกัดจู๋ผู้ชายคะ” haha ซึ่งอาจทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ตบโต๊ะผาง พลางคิดว่า ลูกตัวเองจะไปดูหนังโป๊หรือหนังลามก


    ... ความจริงแล้ว ถ้าแกะเปลือกของหนังทีละชั้น จะพบว่า Teeth เป็นหนังที่วิพากษ์สังคมและเพศสภาพ ได้แสบๆคันๆ แถมยังมีความเป็นเฟมินิสต์สูง แต่สื่อสารผ่านสัญลักษณ์ 'จิมิ๊มีฟัน' เป็น อาวุธสำคัญที่ใช้เปลี่ยนบทบาทของพวกเธอในสังคม

    เริ่มต้นจาก

    ความเชื่อเรื่อง พรหมจรรย์&ความบริสุทธิ์ ของชมรม The promise นำไปสู่ ความขัดแย้งในใจของนางเอกระหว่าง สิ่งที่ควรทำ(Superego) VS. ความปรารถนาในใจ(Id)

    นางเอกเป็นหัวหมู่หลักในชมรม แต่เธอก็เหมือนกับวัยรุ่นส่วนหนึ่งที่ ฮอร์โมนในร่างกายอดคิดไม่ได้ว่า 'จะรักษา(พรหมจรรย์)ไปทำไม ในเมื่อใจมันอยาก'  ได้แต่สงสัยว่า ทำไมเห็นคนอื่นๆมีอะไรกับแฟนได้ ก็ยังเดินยิ้มแย้มบนท้องถนน แต่ตนเองต้องฝืนหักห้ามใจเพียงเพราะคำว่า มันไม่ดี




    ... จะว่าไปแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่อยากให้ เด็กๆนั้นรักษาความบริสุทธิ์ไว้นั้นเป็น เจตนาที่ดี

    เพราะ ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่อยากให้ลูกหลาน ต้องเสี่ยงกับการติดโรค เสี่ยงกับการตั้งครรภ์ และ ประการสำคัญ ก็เป็นห่วงว่า ถ้ามอบให้ง่ายๆ ฝั่งชายก็อาจจะรู้สึกว่า ได้แล้วชิ่ง ไม่คิดจริงจัง

    อย่างไรก็ดี สุดท้ายการเสียตัวไม่ว่าจะเป็นจากการเต็มใจ หรือ จากความผิดพลาด ก็ไม่ควร ที่จะได้รับ ตราบาป หรือ ถูกมองเป็น หญิงสาวอีกชั้นอีกระดับเมื่อเทียบกับ สาวบริสุทธิ์




    ... การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา ย่อมมีประโยชน์มากกว่า การสั่งห้าม หรือ ทำให้เรื่อง sex เป็นของสกปรกและน่ากลัว เพราะ วิธีการเช่นนี้ มันก็เหมือนกับ วิธีการของกองเซ็นเซ่อร์ในปัจจุบัน ที่ขยันแบนขยันเบลอหนังที่คิดว่าไม่เหมาะกับประชาชน

    การเลือกหนังให้เหมาะกับวัย ของคนดูของกองเซ็นเซ่อร์ เป็น เจตนาดี เหมือน การสอนให้เด็กสาวรักนวลสงวนตัว แต่ เจตนาดี จำเป็น ต้องมีความรู้ควบคู่กัน

    เจตนาดี แต่ ขาดความรู้ ขาดความเข้าใจ และ ขาดวิจารณญาณ มันก็เหมือน คนอยากเป็นหมอ อยากช่วยเหลือคน แต่ไม่รู้หลักการสากลที่เขาใช้รักษากัน วิ่งเข้าไปทำโน่นทำนี่ แทนที่จะทำให้ อาการดีขึ้นกลับตรงกันข้าม แล้วก็ยังคิดว่า ตัวเองทำถูกต้องแล้ว เพราะ มีเจตนาดี

    และ ถึงจะมีคนบ่นคนว่า ก็ไม่ฟัง เพราะ มั่นใจว่า  "ฉันมีเจตนาที่ดี ฉันทำถูกแล้ว" แต่เอาเข้าจริง ถ้าให้อธิบายหลักการและเหตุผลแบบเป๊ะๆ ว่า มีทฤษฎีไหนมารองรับ มีองก์ความรู้ไหนที่เอามาปฏิบัติหรือตัดสิน

    ก็จะตอบไม่ได้ชัดเจน เพราะ อาศัยคิดเอาเองว่า มันดี



    ... ดังนั้นสิ่งที่กองเซ็นเซ่อร์น่าจะลงมือทำ คือ การจัดเรตหนัง ให้เหมาะกับช่วงวัย ไม่ใช่ไปคิดแทนว่าอะไรดูได้ดูไม่ได้ แล้วไปตัดไปเบลอแล้วก็ฉายหนังต่อไป โดย เด็กก็ยังซึมซับความรุนแรงเหมือนเดิม แต่ คนที่เสียอารมณ์คือ คนดูผู้ใหญ่ที่ถูกลิดรอนสิทธิไปแบบดื้อๆ

    ในเรื่อง ความบริสุทธิ์หรือพรหมจรรย์ ก็เช่นกัน

    สิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่ การเชิดชูความบริสุทธิ์ให้ยิ่งใหญ่เกินเหตุ หรือ เอาแต่ห้ามโดยไม่บอกเหตุผล หรือ คอยตีตราคนที่พลาดพลั้ง เพราะ การพยายามรักษาความบริสุทธิ์เป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ได้แปลว่า การสูญเสียความบริสุทธิ์คือชีวิตต้องแตกสลายหรือผิดบาป

    เหตุผลที่ ควรรักนวลสงวนตัว ไม่ใช่เพราะว่า มันไปลดคุณค่าของสตรี แต่เหตุผลดีๆที่ไม่ควรเสียพรหมจรรย์ คือ ยอมเมื่อไหร่ก็เท่ากับ ฝ่ายหญิงก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง และ ภาวะควบคุมจะตกไปอยู่ที่ฝ่ายชาย ส่วนฝ่ายหญิงก็จะเสียหายตามค่านิยมสังคมที่ถูกปลูกฝังมายาวนาน

    และเมื่ออายุถึงช่วงวัยที่จะพร้อมรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ เมื่อนั้น แต่ละคนก็ย่อมมีสิทธิที่จะเลือกเส้นทางของตัวเอง

    ... นอกจากนี้ ค่านิยมที่ควรปลูกฝังควบคู่ไปกับการรักนวลสงวนตัวในเพศหญิง คือ ควรที่จะปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องให้กับเพศชาย เลิกที่จะคลั่งหรือให้คุณค่ากับ พรหมจรรย์หรือความบริสุทธิ์ เลิกที่จะมองหญิงสาวที่เสียตัวว่ามีค่าน้อยกว่าสาวบริสุทธิ์เสียที

    Teeth จึงเป็นหนังที่มาปฎิวัติบทบาทความเป็นหญิง และ ตอบสนอง fantasy ของหญิงสาวหลายคนที่ ความเป็นหญิง จะสามารถกลับมาเป็นผู้ลิขิตและเป็นนายเหนือ ความเป็นชาย




    (มีต่อ)

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 3 ธ.ค. 51 10:44:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com