 |
แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ : อีกมุมซึ้ง ของคำว่า "รัก" <<<< ข่าวไม่ Spoil จ้า
เครดิตที่มา
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ent01121251§ionid=0105&day=2008-12-12
ในวันที่โลกหมุนเร็วยิ่งกว่าเข็มวินาที ความรักของใครหลายคนก็มีวิถีการหมุนไม่แตกต่าง ระยะเวลาคบกันแทบจะนับกันเป็นวัน คู่ไหนที่คบกันเกิน 3 ปี จะมีคำถามตามมาว่า ทำไมคบกันนานจัง ไม่เบื่อบ้างเหรอ อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นทุกวันๆ ควบคู่กับการตัดสินใจอยู่เป็นโสดคอยเลี้ยงหมาแมวดีกว่า หรือเหงาๆ อยากได้แฟนสักคนเชิญเปิด Hi 5 แล้วเข้าไปเลือกสาวๆ หน้าตาน่ารัก (ที่หามุมถ่ายรูปกันสุดฤทธิ์ แถมบางทียังมีอุปกรณ์ช่วยอย่างโฟโต้ช็อป) เพื่อแอดเข้าไป แล้วทักว่า "ชื่อไรคับ น่ารักจัง เห็นในโพรไฟล์ว่าซิงเกิ้ล พูดจริงป่ะ ลองมาคุยกันมั้ย"
เป็นความรู้สึกฉาบฉวย ในโลกที่ฉาบฉวยยิ่งกว่า
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ตั้งคำถามกับตัวเองหรือคนรอบข้างดังๆ ว่าช่วยนิยามคำว่ารักให้ฟังหน่อยสิ
"ความรักคือความเข้าใจ" "ความรักคือการเสียสละ" หรือ "ความรักคือการให้" จะเป็นคำตอบแรกๆ ที่ได้ยินเสมอมา เพราะจะเด้งออกจากปากที่ผ่านการกลั่นกรองและควบคุมโดยจิตใต้สำนึกอย่างอัตโนมัติ
แต่ถามจริงๆ เรา (รวมถึงตัวฉันเองด้วย) เคยสัมผัสกับคำตอบที่ประกาศออกมาปาวๆ สักครั้งไหม
บนโลกที่มีประชากรเป็นพันๆ ล้านคน จะมีสักกี่คนกันที่เคยซึ้งกับคำพวกนี้ด้วยตัวเอง
แล้วเราเองล่ะ ในใจลึกๆ อยากเป็นคนไม่กี่คนบนโลกรึเปล่า
ตอบตรงๆ เลยนะ ห้ามคิดนาน ร้อยทั้งร้อยคงหนีไม่พ้นพยักหน้ารับใช่ไหมล่ะ
เพราะงั้นก็เลยไม่แปลก ที่ความรักระหว่าง "เต็น" (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) ช่างภาพอารมณ์กวนๆ และ "เภา" (ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ) ไก๊ด์สาวที่กวนไม่น้อยไปกว่า จะสร้างรอยอุ่นในหัวใจได้อย่างง่ายดาย
"จีบได้เปล่าล่ะ?"...."คิดจะจีบน่ะ ดีพอแล้วเหรอ"
แค่จุดเริ่มต้นของความรัก ก็จุดประกายรอยยิ้มให้เกิดขึ้น
ทว่าในวันที่ "บุพเพสันนิวาส" ชักนำทั้งคู่ให้ค่อยๆ เรียนรู้และร่วมสร้างคำว่า "รัก" ด้วยกัน สิ่งที่ควบคุมไม่ได้อย่าง "ชะตากรรม" กลับพัดพาเข้ามา และพัดพังทุกเรื่องราวให้พังทลาย
อารมณ์กำลังหวานกลับสะดุดอย่างแทบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ลุกขึ้นเดินออกจากโรงไปเลย เพราะจากนี้ไปต่างหากคือ "ของจริง"
บทพิสูจน์ของความรักกำลังจะเริ่มต้นขึ้น จากข้อความสั้นๆ ในการ์ดแฮปปี้เบิร์ธเดย์ที่เภาเขียนให้เต็น ซึ่งหล่นอยู่ใกล้กับซากรถยับเยินที่ว่า
"สัญญานะ ว่าจะดูแลเราตลอดไป"
ทั้งผู้กำกับ "พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง" และคนเขียนบท "คงเดช จาตุรันต์รัศมี" ที่มาจับมือร่วมกันทำงานอีกครั้ง หลังจากกระแทกใจด้วยหนัง มี มายเซลฟ์ เมื่อปีที่แล้ว ยังคงรักษาคุณภาพของงานได้อย่างคงที่คงวา (เป็นการจับคู่ที่เหมาะมากๆ) สามารถฉายภาพของความรักในอีกมุมมอง ให้ออกมาโลดแล่นบนหน้าจอได้อย่างลงตัว และก้าวพ้นคำว่าน้ำเน่าได้อย่างสิ้นเชิง
ลงตัวทั้งจากเรื่องราวของความรัก ที่ในช่วงแรกสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อก้าวสู่อีกความรู้สึกอารมณ์ที่เกิดความรู้สึกร่วมกับตัวละครก็ยังคงอยู่ และค่อยๆ มากขึ้นๆ ตามสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแต่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีพื้นฐานอยู่บนความรู้สึกรักเท่านั้นเอง แต่แอบเสียดายอยู่นิดๆ ที่นำเสนออารมณ์ยิ้มในช่วงแรกๆ น้อยไปหน่อย เพราะจะว่าไปแล้วนับเป็นส่วนที่สำคัญไม่น้อยเหมือนกัน เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญและสร้างน้ำหนักให้เรื่องได้ว่า เพราะอะไรผู้ชายคนหนึ่งถึงเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ ถ้าเพิ่มน้ำหนักตรงนี้ให้ได้มากกว่านี้ละก็ คงจะเสียน้ำตามากกว่า 3 ครั้งในช่วงที่ทั้งเข้าใจ เห็นใจ ซึ้งใจ และประทับใจแน่ๆ
ลงตัวต่อมาคือภาพและบรรยากาศรายล้อม รวมถึงเพลงประกอบ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่เล่นสัญญะกับภาพค่อนข้างมาก และสื่อออกมาได้อย่างชัดเจนเหมาะสมกับเส้นเรื่อง ทั้งจากแสงที่สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกหดหู่ของตัวละครได้อย่างไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ทั้งการแสดงออกของตัวละครเองที่ไม่จำเป็นต้องพูดเหมือนกัน เพราะการกระทำชัดกว่าคำพูด อาทิ ตอนที่เต็นพยายามดึงเชือกที่ขมวดปมกันอยู่จนเลือดออก ดอกบัวแห้งโรยที่กองทับถมจนสูงขึ้นๆ เมื่อผสานกับบรรยากาศและฉากสวยๆ ที่ทำเอาอยากชวนคนรู้ใจไปเที่ยวปายและปางอุ๋งอีกรอบ รวมถึงเพลง "เธอคือความฝัน" ของวงพราว ที่มาได้จังหวะพอดิบพอดีกับน้ำตาที่กำลังปริ่มๆ ทุกองค์ประกอบเลยยิ่งขับเน้นคำว่าลงตัว
และสุดท้ายที่ลืมไม่ได้เลย เพราะนอกจาก "แอม-ฉายนันทน์" จะแสดงได้ทั้งน่ารักและน่าสงสารพอตัวแล้ว ยังมีคนสำคัญอีกคน เขาคนนี้คือคนที่ "อุ้ม" หนังเรื่องนี้ไว้ทั้งเรื่อง "อนันดา เอเวอริ่งแฮม" เข้าใจดีว่าปีนี้เห็นหน้าผู้ชายคนนี้บ่อยมาก เกือบจะสิบเรื่องเข้าไปแล้ว แต่ถ้าสัมผัสกับอนันดาในบทบาทของเต็นละก็ อาจลืมเรื่องอื่นๆ ที่เคยผ่านตาในปีนี้ไปก็เป็นได้ เพราะยิ่งในช่วงหลังที่อนันดาแทบจะต้องแสดงคนเดียวนั้น เขาสามารถทำให้เชื่อได้ว่านี่คือความรู้สึกจริงๆ ของผู้ชายธรรมดาๆ ความรู้สึกที่ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง เมื่อต้องเลือกระหว่าง "รักตัวเอง" และ "คนรัก"
ไม่รู้หรอกนะว่าจะได้เจอความรักอย่างที่เต็นมีต่อเภา เหมือนใครหลายคนบนซอกมุมเล็กๆ ของโลกได้เจอหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่า "พลังของความรัก" มีอยู่จริง
ความรักทุกรูปแบบไม่ได้มีอยู่เพราะบุพเพหรือชะตากรรม แต่มีอยู่เพราะตัวเราเอง
ว่าเราจะเลือกที่จะใช้เวลาของความรักอย่างทิ้งขว้าง และมียิ้มไปกับความสุขเพียงฉาบฉวย อยู่กับคนนี้มีปัญหา งั้นก็เลิก ไปหาคนใหม่ก็ได้ หรือเลือกที่จะทะนุถนอมทุกวินาทีอย่างรู้ซึ้งถึงคุณค่า เพราะไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น และพยายามข้ามผ่านทุกอุปสรรคให้เต็มกำลัง
อยู่ที่เราเลือกเอง
แต่ถ้าจะไปดูหนังเรื่องนี้ ขอเตือนนิดหนึ่งว่า อย่าลืมพกผ้าเช็ดหน้าไปด้วยนะ เพราะบ่าคนข้างๆ คงไม่พอซับน้ำตาแน่ๆ
จากคุณ :
Puกัน
- [
15 ธ.ค. 51 09:50:10
A:10.1.8.34 X:58.137.102.19 TicketID:194721
]
|
|
|
|
|