"ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องหลักหรือเกินเลยจากตัวอย่างภาพยนตร์" (-/\-)
อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง มีผลงานกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกเรื่อง Me Myself
โดยมีผู้กำกับ/ผู้เขียนบทภาพยนตร์โรแมนติกมือทอง "คงเดช จาตุรันต์รัศมี" เป็นผู้เขียนบทให้
แน่นอนว่า Me Myself นั้นประสบความสำเร็จไปพอสมควร ทั้งแง่คำวิจารณ์และรายได้ โดยมีบริษัทภาพยนตร์ซื้อบทไปรีเมคเรียบร้อยโรงเรียนเกาหลี
ซึ่งเป็นการการันตีได้พอตัวว่า "ของเค้าดีจริง"
สำรับแฟนๆหนังของคุณ คงเดช น่าจะเห็นว่าการกำกับภาพยนตร์ของคุณ อ๊อฟ ใน Me Myself นั้น มีอารมณ์ละม้ายคล้ายคลึงกับงานของคุณคงเดช"พอสมควร"
ซึ่งใน Happy Birthday คุณจะได้เห็นอะไร ....มากกว่านั้น
Happy Birthday ผลงานลำดับที่สองของคุณ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ซึ่งโคจรมาพบกับนักเขียนบทคู่บุญ คงเดช จาตุรันต์รัศมี พระเอกคู่บุญ อนันดา เอเวอริ่งแฮม
และแน่นอนว่านางเอกก็คู่บุญอีกเช่นเคย ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ จาก Me Myself นั่นเอง
Happy Birthday : เรื่องของ"เขาและเธอ"ที่รักกัน เธอทำให้เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และเขาเองก็เติมเต็มส่วนที่ขาดให้เธอ จนกระทั่งเมื่อถึงวันเกิดเขา
เธอต้องมาประสบอุบัติเหตุซึ่งทำให้เธอต้องมีชีวิตอยู่บนเตียงโดยไม่อาจตอบสนองใดๆ และอาจต้องเป็นเช่นนี้ตลอดไป บทพิสูจน์ความรักของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น....
ภาพ ****
ยกความดีให้งานกำกับศิลป์ซึ่งบอกตรงๆ เชื่อขนมกินได้เลยว่า "งดงาม"
ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้อง การใช้แสงเงา หรือรายละเอียดองค์ประกอบเล็กน้อย
ต่างทำได้ยอดเยี่ยม ซึ่งหากมี DVD ออกมาเมื่อไหร่ ผมไม่พลาดแน่นอน :}
การแสดง ****
แค่ชื่ออนันดาก็คงพอวางใจได้ ยิ่งดูจากตัวอย่างยิ่งน่าเชื่อถือ
พอได้ดูเรื่องนี้ถึงมั่นใจ ว่า อนันดา คือมือวางอันดับต้นๆในถานะนักแสดงนำชายไทยในยุคนี้
ซึ่งนางเอก ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ ก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
ถึงแม้บทภาพยนตร์จะไม่ส่งให้เธอต้องปล่อยของมากเหมือนอนันดา
แต่เธอก็ผ่อนหนักส่งเบากับบทแต่อนันดาได้ดี ชนิดที่ว่าดูแล้วทั้งยิ้มและร้องไห้ไปกับ เต็นและเภา ได้อย่างไม่สะดุด
(แถมเธอกล้าโกนหัวอีกอันนี้ซูฮก !!) :D
ส่วนตัวประกอบก็ไม่มีตัวขโมยซีนเด่นๆอะไร มีบางตัวละครที่ไม่จำเป็นต่อบทหนังด้วย งานนี้ตัวประกอบหมดสิทธิ์เกิดครับ
บทพูดไดอะลอก***+
จะมีบทพูดเกินๆโผล่มานานๆที ซึ่งเป็นบทที่ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ต่อเนื้อเรื่องหลัก
หรือบทพูดที่ปั้นแต่งมามากเกินไปเองก็ทำให้เหมือนอ่านนิยายมากกว่าดูหนัง
แต่โดยรวมแล้วนับว่าโอเค มีคำพูดสั้นๆหรือง่ายๆแต่กินใจอยู่เยอะพอสมควร ส่วนใหญ่บทพูดค่อนข้างกระชับครับ :J
การกำกับ****+
แน่นอนว่าสำรับแฟนหนังคุณคงเดชคงเห็นว่า Happy Birthday มีเสน่ห์น้อยกว่าหนังเรื่องแรกในแง่ของการเล่าเรื่องและการดำเนินเรื่อง
แต่ผมกลับเห็นว่าเป็นการดีเนื่องจากคุณอ๊อฟได้แสดงลายเซ็นที่ชัดเจนขึ้นในการกำกับภาพยนตร์เรื่องที่สองนี้
แม้จะยังมีความเป็นคงเดชอยู่บ้าง แต่โดยรวมผู้กำกับท่านนี้ก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยมเช่นเคย
และการกำกับงานชิ้นนี้แม้จะไม่ใช่การพัฒนาแบบก้าวกระโดด แต่ก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่างานชิ้นต่อๆไปของเขา
จะต้องน่าจับตามองยิ่งกว่านี้และมีเอกลักษณ์มากกว่านี้อย่างแน่นอน XP
ดนตรีประกอบ***++
โดยรวมถือว่าดี แต่เจ้าของกระทู้เห็นว่าดนตรีประกอบในบางช่วงทำออกมาได้หยาบไปนิดนึง
ไม่ว่าจะเป็นการมิกซ์เสียง การแทรกซ้อน หรือความเสมอต้นเสมอปลายต่างๆ สามารถทำได้ดีกว่านี้แน่นอน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอบอกว่าเพลงประกอบภาพยนตร์เพราะมากๆ
ให้ใจไปเต็มๆเลย ! (เธอคือความฝัน - พราว) XD
สรุป : ไปดูเหอะ
ถ้าไม่คาดหวัง หนังจะสนุกมาก แต่หากคาดหวัง ก็สนุกอยู่ดี ^^
ขอเชียร์ดังๆเลยว่า ด้วยเหตุผลประการทั้งปวง ไปดูเห้อออออ ><
หมายเหตุ เนื้อความต่อไปอาจมีการอ้างอิงถึงเนื้อเรื่องสำคัญ
กรุณาหลับตาแล้วเลื่อน page ลงไปให้ว่อง !!
ตอนจบในฝัน 1
เห็นหลายคนบ่นถึงตอนจบของเนื้อเรื่อง
โดยส่วนตัวอยากให้จบตั้งแต่ตอนที่ตัวเอกเริ่มทำใจได้
พาไปเที่ยว และจบลงที่ได้ต้นไม้
จะเป็นตอนจบที่เจ็บปวดนิดๆ ยิ้มได้หน่อยๆ และทำให้เรื่องที่พีคๆที่ผ่านมาหยุดและจบได้ค่อนข้างลงตัว
ตอนจบในฝัน 2
หลังจากที่พีคแล้ว ลงแล้ว และพีคไปอีก ให้จบแบบโหดร้ายไปเลยคือเป็นไปตาม" ความน่าจะเป็น "ของโลกใบนี้
แต่การจบแบบนี้ สำรับ จขกท. แล้ว เหมือนฝันร้ายทำลายหัวใจ T+T ซึ่งก็ดีที่ตอนจบนั้น...
"เป็นแบบในหนัง" ซึ่ง จขกท. เชื่อว่ามันไม่ใช่พระเอกบ้าไปเองนะคร้าบบบบ T+T ฮ่าๆๆ
แก้ไข แต่แอบยอมรับว่า พระเอกคิดไปเองมากกว่า จากเนื้อเพลง เธอคือความฝัน ครับ
มีชีวิตอยู่ในความฝันและความทรงจำเสมอมา มันก็ไม่เลวเหมือนกัน T+T
สวัสดี และขอบคุณที่ติดตามครับ ^/\^
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 51 01:02:30
:D =ให้ผมช่วยคุณในการตัดสินใจดูภาพยนตร์เรื่อง "Happy Birthday" นะครับ= :}
