| ฝัน หวาน อาย จูบ (13 คน) |
|
 |
|
| ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น (38 คน) |
|
 |
|
|
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 51 คน |
ถึงจะบอกว่า ไม่สมควรนำมาเปรียบเทียบก็เถอะ แต่ไหนๆ ขอตั้งกระทู้แสดงความเห็นซักหน่อย หลังจากได้ไปดูหนังเรื่อง ฝัน หวาน อาย จูบ มาจบ
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ผมค่อนข้างตั้งความหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้พอสมควร เนื่องจากมันเป็นหนังรัก ส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบผู้กำกับอย่างคุณมะเดี่ยวเป็นพิเศษ ไม่ได้คลั่งวงออกัสอะไรมากมาย จะมีก็แค่ฟังเพลงบ้าง โดยเฉพาะเพลง ฝัน หวาน อาย จูบ ที่มีน้องพลอยมาร้องร่วมด้วย ก็เป็นเพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษเลยทีเดียว พอได้มาดูตัวอย่างหนัง และอ่านรีวิวหนังคร่าวๆ ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง มันก็กระตุ้นต่อมอยากดูของผมเป็นอย่างมาก วันนี้ช่วงเช้ามาสอบมิดเทอม สอบเสร็จก็รีบนัดสาวไปดูหนังที่โรงหนังในทันที ที่รอบ 13.50 น.
เริ่มเรื่องด้วยการเอาเรื่อง "จูบ" ขึ้นมาก่อน ก็ทำเอาผมแปลกใจพอสมควร เรื่องนี้มันเรื่อง ฝัน หวาน อาย จูบ ก็นึกว่ามันจะเรียงลำดับกัน หรือไม่ก็อาจจะตัดไปตัดมา ดังเรื่องปิดเทอมใหญ่ฯ ก็เอาล่ะ ถือว่าหยวนๆ มาเริ่มดูกันเลย
จูบ - เริ่มเรื่องด้วยสีสันแสบตาไปหน่อย เนื้อเรื่องขาดน้ำหนักไปมาก กับเวลาอันรวดเร็ว (ไม่น่าถึง 15 นาที) คงเรียกได้ว่า หนังโครตสั้น เลยก็ว่าได้ (ขนาดผมกับเพื่อนๆทำวีดีโอส่งอาจารย์ยังนานกว่านี้เลย) บทเรื่องอ่อนมาก ๆ พูดเกี่ยวกับเรื่องจูบ โดยการเอา "เป็ด" เป็นตัวดำเนินเรื่องมากกว่า "หมี (มาริโอ้)" เสียอีก ฉากที่นำทั้งสองมาต่อยกัน ผมก็คิดว่าจะมีอะไรมากกว่านั้น มาริโอ้แทบไม่ได้ทำอะไรเลย โดนเขาอัดอย่างเดียว จบที่ว่า มาริโอ้ทนได้ครบ 3 นาที แล้วเล่นทีเผลอซัดเขาไป 1 หมัด เป็ดแค้น เลยตามออกมา แล้วเจอกลุ่มคนที่เคยโดนเป็ดแย่งแฟนรุมสะกำ แล้วก็จบ ด้วยว่าเรื่องทั้งหมด เป็นไปตามแผนของกาก้า (นางเอก) ที่โผล่มาได้เป๊ปเดียวมาก บทพูดก็มีน้อย ทั้งยังเห็นหน้าไม่กี่ช๊อตเอง ถือว่าเรื่องนี้ดูแล้วมึนครับ
คะแนน : 5/10
อาย - กลิ่นอายแห่งท้องทะเลที่ทำให้หนุ่มสาวได้บังเอิญมาพบกันหลังจาก หนุ่มหนีหายไปถึง 2 ปี เรื่องนี้ถือว่าผมชอบมากที่สุดเลย อาจจะเพราะฉากทะเลที่สวยมาก ผมเป็นคนใต้อยู่แล้ว ขนาดมาเจอแบบนี้ยังคิดว่าสวยเลย ฉาก มุมกล้องที่พยายามถ่ายให้เห็นท้องฟ้า ถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม เนื้อเรื่องไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ประมาณว่า ทั้งคู่ติดอยู่ที่เกาะด้วยกัน ก็เลยได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นจนย้อนความรู้สึกในอดีตของตัวเองที่เคยเข้าใจอีกฝ่้ายผิด จนทำให้กลับมารู้สึกดีกันอีกครั้ง เล่นเอาผมอึ้งไปนิดหน่อย ตรงที่ตอนท้ายเฉลยว่า นางเอกโทรศัพท์ติด แต่ดันบอกพระเอกว่าโทรไม่ได้นี่ล่ะ นางเอกน่ารักมาก พระเอกก็อยู่หล่อนะ (ถ้าโกนหนวด โกนเครา น่าจะรุ่งกว่านี้ นี่มันเซอร์ไปหน่อย) ติดตรงที่พระเอกบทพูดแข็งไปนิด จนน่าหงุดหงิดว่า ปกติพูดกับผู้หญิงมันพูดกันแบบนี้หรือไง เหมือนกับท่องบทมามากกว่า ฉากจบก็ประทับใจ ถือว่าชอบมากสุดใน 4 เรื่อง
คะแนน 8/10
หวาน - เล่าถึงชายผู้บ้างานที่มัวแต่ทำงานจนไม่สนแฟนที่อยู่ที่บ้าน เรื่องนี้ค่อนข้างประชดสังคมได้ดีทีเดียว สำหรับผู้ชายที่ไม่สนใจบ้าน มัวแต่บ้าทำงานจนลืมมองสิ่งรอบข้าง เรื่องนี้ชาคริตและนุ๊ก เล่นได้ดีมากครับ (ระดับนี้แล้ว) เทียบกับ สองคู่ ก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย ถือว่าเป็นเรื่องราวที่นำเสนอออกมาดี ยิ่งเฉพาะฉากตอนท้าย ที่ ยื่นนาฬิกา แล้วนางเอกไม่รับนะ ฉากนี้จี๊ดสุดๆ แต่ก็ไม่น่ามีฉาก CG ที่ไม่เหมือนจริงเอาซะเลย ของฉากตอนแก่่ออกมาให้ชมเลย มันรู้สึกขัดใจยังไงก็ไม่รู้ สู้เป็นฉากขนมเค้กเฉยๆ แล้วมีคำพูดลอยๆ มา ยังสื่อถึงได้ดีกว่าอีก
คะแนน 7/10
ฝัน - เรื่องนี้ผมค่อนข้างหวังเอาไว้ว่ามันต้องดีที่สุดจาก 4 เรื่อง ด้วยความที่ผู้กำกับเลื่องชื่อ บวกกับเป็นเรื่องที่เอาไว้ท้ายสุด มันก็น่าจะเป็นไคลแม๊กของเรื่อง แต่ที่ไหนได้ ช่วงแรกของเรื่องเปิดเรื่องมาได้น่าสนใจดี น้องผู้หญิงที่แสดงก็ ฮา + น่ารักดี พอเข้าไปในโลกความฝันได้แล้ว เจอวงออกัส ยังไม่เท่าไหร่ มันมาทำให้ผมอึ้งตอนอยู่ดีๆ ก็มีแปลงร่างได้ในห้องน้ำ มาอึ้งสุดๆ ก็ตอนแมวโผล่มา แล้วตัวละครกลายเป็น Animation 2.5D กันหมด กับงานภาพระดับบ้านๆ เหมือนว่าการ์ตูนอนิเมชั่นก่อนข่าวยังทำได้ดีเสียกว่า รวมถึงเนื้อเรื่องที่ไม่รู้จะสื่อถึงอะไร ดูไปดูมาก็ งง ไม่มีการอธิบายให้ชัด เหมือนเป็นความฝันของเด็ก 5 ขวบ มากกว่าความฝันของเด็ก 10 ขวบขึ้นไป เอาเป็นว่าผมเซ็งมากตรงช่วงที่เป็นอนิเมชั่น บางคนอาจจะชอบ เพราะนักแสดงได้กลายร่างเป็นบรรดาสัตว์ทั้งหลาย แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าจะเอานักแสดงมาทำไม เหมือนเอามาพากย์เสียงซะกว่าครึ่ง ที่เหลือโผล่มารวมไม่ถึง 10 นาทีล่ะมั้ง โดยเฉพาะวงออกัส ผมนึกว่าดูเรื่องนี้จะทำให้รู้จักวงออกัสมากขึ้น สรุปดูจนจบผมก็ยังไม่รู้จักใครนอกจาก พิช เหมือนเดิม เพราะคนไหนเป็นตัวไหน ผมก็ไม่รู้ เพลงที่คิดว่าจะได้ฟังก็ไม่มีเลย ทั้งดวงตะวัน ทั้ง ฝันหวานอายจูบ แม้มีเพลงหลับตาที่พอฟังได้ กับเพลงอีกเพลงที่ออกแนวขำๆ ฮาๆ ฟังก็เพลินๆ ดี แต่ก็ไม่ได้เต็มอิ่มเพราะมันไม่เข้ากับเนื้อเรื่อง ตอนจบก็จบแบบลวกๆ ยังไม่เ้ข้าใจเลยว่า สุดท้ายในเมื่อเป็นความฝันของต้นข้าว แล้วทำไมตอนท้าย หลังจากได้บัตรคอนเสิร์ท แล้วถึงไปคุย+อยู่อย่างสนิทสนมกับวงออกัส ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน (หรือว่าเปนบัตรคอนเสิร์ท VIP)
คะแนน 4/10
สรุปว่า ค่อนข้างผิดหวังพอสมควรกับหนังเรื่องนี้ เพราะส่วนตัวชอบหนังแนวรักๆ เช่นนี้อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนังเรื่องปิดเทอมใหญ่กับหนังเรื่องนี้ก็มีส่วนคล้ายกันที่เป็นหนังรัก ที่ถูกแบ่งออกเป็นเรื่องย่อยๆ 4 เรื่อง ผมเข้าใจว่า ทางสหมงคลคงได้แนวคิดจาก หนังเรื่องปิดเทอมใหญ่ หรือ 4 แพร่ง ที่จะนำมาทำเป็นหนังสั้นต่อกันทำนองนี้ หรืออาจจะพูดได้ว่าลอกกันมาเต็มๆ เลย (ไม่รู้ว่าทางค่าย GTH จะคิดยังไง) แต่ในเมื่อทำออกมาแล้ว ก็น่าจะทำให้ดีมากกว่านี้ แต่ละเรื่องจบในตัวเองโดยที่ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกัน ไม่ได้เรียงต่อกัน และไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเลยแม้แต่นิด ไม่ได้สะท้อนมุมมองออกมาเท่าที่ควรว่ามันเป็นหนังรักแบบไหน อย่างปิดเทอมใหญ่ยังแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน ถึง รักในวัยเรียนที่ต้องแย่งกัน (แพท ไมเคิล แน็ค) , รักที่ทุ่มเท่ให้มากเกินไป (ต่าย ว่าน) , รักแบบคลั่งดารา (กัส) , และรักแบบมีชู้ (อ้อย ?? ??) แต่หนังเรื่องนี้ สื่อแบบเป็นการกระทำมากกว่าล่ะมั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่า 4 เรื่องมันเกี่ยวกันบ้างหรือเปล่า ถึงเอามารวมเป็นหนังเรื่องเดียวกัน อีกทั้งเพลงประกอบหนังที่ไม่ได้ใช้ (เพลงฝันหวานอายจูบ) วงออกัสที่เสียดายเอามากๆ ที่ไม่ได้แสดงอะไรมากนัก นอกจากบทพูด
สุดท้ายแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ยังห่างชั้นจากหนังเรื่องปิดเทอมใหญ่อยู่อย่างมาก บอกไว้ก่อนว่าผมคาดหวังเอาไว้พอสมควร ว่ามันจะดีกว่า หรือเท่าเทียมกับหนังเรื่องปิดเทอมใหญ่ แต่กลับเป็นว่า ผิดหวังพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายที่ผมไม่เข้าใจว่าจะสื่อถึงอะไรกันแน่ รวมถึงไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเด่นชัด เอาเป็นว่าใครที่ตั้งใจจะไปดูแน่ๆ อยากดูมากๆ ผมก็แนะนำว่าให้ไปลองดูเถอะครับ แต่ถ้าใครที่ลังเลว่าจะไปดูหรือไม่ไปดี ผมจะช่วยบอกให้ว่า "อย่าลังเลที่จะไม่ไปดู"
ร่วมแสดงความคิดเห็นสำหรับคนที่ไปดูมาแล้วได้นะครับ
จากคุณ :
monkey_b_bank 
- [
25 ธ.ค. 51 17:56:05
]
ฝัน หวาน อาย จูบ VS ปิดเทอมใหญ่ ความเหมือนที่แตกต่าง [สปอยล์เต็มที่สำหรับคนที่ดูมาแล้ว]
ความคิดเห็นที่ 1
