ความคิดเห็นที่ 8
... ต้องเข้าใจ หลักการ และ ความแตกต่าง ก่อน ไม่งั้นเถียงให้ตายก็ไม่จบ (เพราะขนาดเข้าใจแล้วยังเถียงไม่จบเหมือนกัน)
1. สมองตาย (แบบในหนัง HBD) ... สมองหยุดทำงาน เจ้าตัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว แต่ ยังหายใจได้เพราะมีเครื่องช่วยหายใจ หัวใจยังเต้นเพราะใช้ยากระตุ้น ถอดอุปกรณ์ ตายแน่นอน หรือถ้าไม่ถอดก็นับถอยหลังอยู่ดี
2.พิการ , เจ้าหญิงนิทรา , โคม่า ฯลฯ ... สมองยังคงรับรู้ แต่รักษาไม่หาย
3.เครียด , กังวล , ซึมเศร้า , โรคซึมเศร้า ฯลฯ ... สมองยังคงรับรู้และสามารถบำบัดให้หายขาดได้
...ประเด็นที่ คนมักถกเถียงไม่ใช่ข้อ 1 แต่เป็น ข้อ 2 เหมือนกับกรณีชื่อดังของ Ramon Sampedro ที่เป็นชีวิตจริงที่นำมาสร้างเป็นหนัง The Sea inside ที่ เจ้าตัวยื่นเรื่องขอใช้สิทธิที่จะตาย เนื่องจากไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีและทรมาน กับ การขยับตัวได้แค่คอขึ้นไป ที่เหลือเป็นอัมพาต
หรือ กรณีอื่นๆเช่น ผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน ที่รอวันตาย แต่ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ได้แต่ ทรมานกับอาการปวดรุนแรง ที่ยาแก้ปวดก็บรรเทาไม่ได้ ก็มีส่วนหนึ่งที่บอกญาติว่า อย่าปล่อยให้ทรมานอีกเลย
หรือ ผู้ป่วยร่อแร่จากโรคที่ตายแน่ๆ ที่ฟื้น เพราะการปั๊มหัวใจหลายรอบ แล้วมาต่อท่อกับเครื่องช่วยหายใจ ก็อาจจะขอหมอว่า ถ้าหัวใจหยุดเต้นรอบหน้า ช่วยปล่อยเขาไปทีเถอะ ไม่อยากทรมานอีกแล้ว กับชีวิตที่หลับๆตื่นๆในห้อง ICU
... โจทย์ การุณยฆาต หรือ euthanasia นี้เป็นโจทย์ที่เถียงกันไม่จบไม่สิ้น
ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ต้องกลับไปนึกว่า ถ้าเป็นตัวเราเองเช่น ถ้าป่วยเหมือน Ramon Sampedro หรือ เป็นผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้ายข้างต้น เราจะทำอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า คำตอบที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน
และแน่นอนว่า ถ้าเราแจ้งเจตจำนงแต่แรกว่า ห้ามการุณยฆาต ขอสู้ขาดใจ ก็ไม่มีใครที่จะทำได้เช่นกัน เพราะนั่นก็เท่ากับการฆาตกรรม
... กรณี 1 ทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว กรณี 2 จึงยังเป็นที่ถกเถียง และยังไม่มีข้อสรุป ส่วนกรณี 3 ไม่มีใครยอมรับ เพราะ รักษาได้
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 51 10:24:45
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 51 10:08:20
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 51 10:05:55
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
26 ธ.ค. 51 10:04:17
]
|
|
|