CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang


    <<<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Australia , หนังดีที่(ผิดหวัง แต่ก็ยัง)เชียร์ให้ตีตั๋วไปรับชมในโรงภาพยนตร์ >>>>>>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (11 คน)
      ชอบ (12 คน)
      เฉยๆ (2 คน)
      ไม่ชอบ (4 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 30 คน

     36.67%
     40.00%
     6.67%
     13.33%
     3.33%


    ...เลือกอ่านบทความต่อไปนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + เชิญชวนมาคุยเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2008&date=29&group=14&gblog=134


    ... สารภาพว่าตัวเองแบกความคาดหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้สูงมาก เพราะ Moulin rouge เป็นหนังที่ชื่นชอบแบบสุดๆหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ยังรื่นเริงบันเทิงหัวใจ เป็นหนังที่ผมคิดว่าเปิดศักราชใหม่ของหนังเพลง รวมไปถึงหนังสองเรื่องก่อน(Romeo + Juliet , Strictly Ballroom) ของ Baz Luhrmann ก็ชอบ

    เอกลักษณ์ที่แฟนๆชื่นชอบใน ‘ความเป็นหนัง Baz Luhrmann’ ก็คงเป็นความ จัดจ้านอลังการตระการตา เป็นหนังที่ดูแล้วเจริญหูเจริญตา ทั้งเนื้อหา นักแสดง และ องค์ประกอบรายรอบไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย หรือ ฉากต่างๆ ฯลฯ

    ดังนั้นแค่ได้ข่าวว่า Baz Luhrmann จะทำหนังใหม่ก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นตัวอย่างที่ ความน่าดูดึงดูดระดับ ห้ากะโหลก ดูแล้วเลิศเลออลังการระดับ วิมานลอย แถมได้ขวัญใจผม แม่สาวนิโคล มาเล่นอีกรอบ

    ต่อให้เสียงวิจารณ์มาแย่แค่ไหน รายรับจะห่วยอย่างไร ผมก็มั่นใจว่า ตัวเองต้องชอบแน่ๆ และ คิดว่า เสียงวิจารณ์ที่ไม่ค่อยปลื้มนักอาจเพราะหมั่นไส้ทั้งชื่อหนังและความเป็น ออสเตรเลีย

    แต่พอพิสูจน์ด้วยตัวเองเรียบร้อย ก็ต้องกลับมาสรุปถึงหนังเรื่องนี้ว่า




    ... Australia เป็น หนังดีที่ผมผิดหวัง แต่ก็ยังแนะนำให้ ต้องไปรับชมในโรงภาพยนตร์


    เนื้อหาว่าด้วย สาวไฮโซที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาจัดการธุรกิจร่วมกับสามี แต่เกิดเหตุพลิกผัน ที่ทำให้เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งเรื่องเงินๆทองๆและศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆกับ พบรัก กับหนุ่มห้าวต่างชนชั้น และ เด็กพื้นเมืองที่กำลังถูกไล่ล่า


    ... ถึงเนื้อหาอ่านผ่านๆจะ น้ำเน่า แต่ เหตุผลที่หนังเรื่องนี้คู่ควรกับการรับชมในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่งจะไปบอลโลก  ก็เพราะ



    1. งานด้านภาพ ที่ขอยกนิ้วให้ว่า งามระดับหยดย้อยอลังการ เป็น หนังที่มีภาพงดงามมากที่สุดของปีนี้ ในระดับเดียวกับ หนังอีกสองเรื่องที่ตัวเองมองว่า เป็นการถ่ายภาพระดับอ๋องมากๆนั่นคือ หนังคาวบอยเหงาหลับที่แบรด พิตต์เล่นThe Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford  และ หนังเชิดชูคุณค่าชีวิต The Diving Bell and the Butterfly

    ความอิ่มเอมจากภาพใน Australia  ยังใกล้เคียงกับความมหัศจรรย์ทางภาพที่รู้สึกอิ่มเอิบตอนนั่งดู The Fountain  ซึ่ง ความงดงามที่เราจะได้รับจากหนังกลุ่มนี้ ต่อให้นั่งดูจากจอทีวีไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีทางเก็บความประทับใจได้ครบ

    ทุกๆช็อตใน Australia สามารถตัดออกมาเป็นภาพปฏิทินหรือโปสเตอร์ที่มีระดับ ทุกๆฉากสั้นๆสามารถตัดมาทำเป็นหนังโฆษณาสินค้าชั้นเยี่ยม เรียกได้ว่า คุ้มค่าแล้วที่ทางการออสเตรเลีย จะให้เงินมาร่วมทุนสร้างเพื่อโปรโมทประเทศ

    (แน่นอนว่าทางการออสเตรเลีย คงมั่นใจว่าดีกว่า ตา Greg Mclean ที่ทำหนังเน้นภูมิทัศน์โชว์ออสเตรเลียเก่งเหมือนกัน แต่ดันช่วยโปรโมทให้ออสเตรเลียเป็นเมืองเลือดสาด จาก หนังจระเข้โหด Rogue และ ฆาตกรโรคจิต Wolf Creek )



    2.  ที่เจ๋งติดตาไม่แพ้งานถ่ายภาพคือ บรรดางานโปรดั่กชั่น และ งานด้านเทคนิคทั้งหลายแหล่ ดูเนี้ยบทุกจุดไม่มีหลุดให้เสียสายตา โดยเฉพาะฉาก ถล่มเมือง ช่วงท้ายนี่ซู้ดยอดดดด ชอบยิ่งกว่า Pearl harbour



    3.  หนุ่มขนปุย กับ สาวผิวหยวกกล้วย คู่พระนาง เป็น นักแสดงมากเสน่ห์ทั้งคู่ และ ทั้งคู่ก็โปรยเสน่ห์ฟุ้งกระจายชวนให้แฟนๆหลงใหลตลอดทั้งเรื่อง บทของนิโคล ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆว่า ถ้าไม่ได้เธอในยุคนี้จะหาใครมาเล่นแทนได้อีก กับความ สวยสง่าแก่นเซี้ยวเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแต่ต่อมาฮึดสู้ ที่ทำให้ผู้ชมเคลิ้มอยากไปขี่ม้าข้างๆเธอ


    4.  เจ้าหนูที่รับบท นัลล่าห์ เป็น นักแสดงรุ่นเล็กที่น่ายกนิ้วให้ เพราะ เล่นประชันกับนักแสดงมากเสน่ห์อย่าง ฮิวจ์ กับ นิโคล แบบไม่เกรงบารมี ไม่มีใครข่มเจ้าหนูได้ลง


    5. เนื้อหาน้ำเน่าแบบมีระดับเช่นนี้ น้อยคนที่ดูแล้วจะไม่ชอบ


    ... ในขณะที่ เหตุผล ที่ผมผิดหวัง และ มั่นใจว่า ตัวหนังไปไม่ถึงฝั่งฝันบนเวทีล่ารางวัลในสาขาหลักๆ ไม่ใช่เพราะความหมั่นไส้ของบรรดานักวิจารณ์แน่ๆ แต่ เพราะ ตัวหนังเองที่ว่าดี ยังไม่ได้ดีถึง ‘ขนาดนั้น’


    เหตุผลที่ผิดหวังใบเหลือง



    1. ถึง ภาพสวยมาก และ ภาพใช้เล่าเรื่องราวได้ดีก็จริง แต่ หนังก็ให้ความสำคัญกับ ภาพ มากกว่า คน จนเกินไป หลายๆฉากที่ภาพของหนังแช่ไว้เพื่อโชว์มากกว่าจะเล่าเรื่องราว (ตัวอย่างหนังภาพสวยและใช้ภาพเล่าเรื่องได้ดีคือ The Diving Bell and the Butterfly)

    ทำให้ ตัวละครหลายตัว ขาดโอกาสพัฒนาบทให้มีความลึกมากขึ้น (เช่น นักบัญชีขี้เหล้า) หรือ มีปมที่ไม่ได้รับการขยาย (ปมของคู่พระนาง) ส่งผลให้สุดท้ายแล้ว คน ในเรื่อง ยังไม่น่าจดจำมากเท่าไหร่

    ซึ่งบทของคู่พระนาง จริงๆจะว่าไปแล้ว ที่มีเสน่ห์น่าดูชมอย่างนี้ มาจาก การแสดงและออร่าติดตัวของทั้งคู่ แต่ ตัวบทนั้นกลับดูแห้งๆแล้งๆ และ คาแรคเตอร์ก็ไม่คงที่ ไม่ได้ฉายความเป็นตัวตนที่ชัดเจนอย่างสม่ำเสมอ


    2.  จังหวะการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ยังไม่ได้ดีถึงขนาดจะอยู่ในกลุ่มตัวเต็ง เพราะขาดความกลมกล่อมลงตัว

    การดำเนินเรื่องของหนังช่วงกลางๆ มีความเวิ่นเว้ออยู่เยอะ ผมถึงกับรู้สึกเบื่อๆ ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้ไม่คิดว่าจะเกิดจากหนังของ Baz Luhrman แถมพอเล่าไปซักพัก หนังให้ความรู้สึกแบ่งเป็นสองภาคในเรื่องเดียวอย่างชัดเจน คือ ภาคแรกจบที่การต้อนวัว ภาคสองเริ่มตอนสงคราม


    3. มีเรื่องมีประเด็นอยากจะเล่าเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเหยียดผิวเหยียดสัญชาติ , นำเสนอรากเหง้าของออสเตรเลีย , รักต่างชนชั้น , รักระหว่างรบ , ปมของความเป็นแม่ , ปมของชายผู้สูญเสีย , การแข่งขันในชั้นเชิงธุรกิจ ฯลฯ

    เรื่องเยอะไม่ใช่ปัญหา เพราะ เวลาก็มีอยู่เยอะ แต่ หนังไม่ค่อยขยายหลายๆปมประเด็นที่ใส่เข้ามา ไปเสียเวลากับบางประเด็นมากจนเกินไป ทำให้ดูก็รู้ว่า หนังมีอะไรที่อยากจะบอกอีก แต่ เราไม่เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามมากมาย แค่ รู้สึกแห้งๆแกนๆ


    4.  สองนักแสดงนำเข้าคู่กันได้ดี แต่ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนซี้กิ๊กๆกัน มากกว่าจะเกิดความรู้สึกผูกพันรักใครลึกซึ้ง ตามที่หนังต้องการนำเสนอในฉากช่วงท้ายๆ ซึ่งก็เป็นผลมาจาก 3 ข้อข้างต้น

    ลองเปรียบกับคู่รักใน Moulin rouge  ดูก็ยังได้ที่ทำให้เรารู้สึกถึงรักลึกซึ้งมากกว่า และ โศกเศร้ามากกว่าเมื่อถึงคราวโศกนาฏกรรม



    สรุป ... ถ้าตัดให้กระชับ จับประเด็นไม่ต้องมาก ขยายประเด็นที่จะเล่าให้ชัดเจนเข้มข้น เน้นการสร้างมิติให้ตัวละครมากกว่านี้ ผมคงคลั่งไคล้ Australia  อย่างโงหัวไม่ขึ้น

    แต่กับที่มีอยู่เท่านี้ ก็อย่างที่บอกว่าเป็น หนังดีที่ผิดหวัง แต่ก็ยังโบกมือชักชวนแนะนำให้ไปรับชมในโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นหนังที่ควรดูจากจอใหญ่ยักษ์ในโรงเท่านั้น เชื่อว่า ถ้าไม่เอาอะไรมาก จะเป็นหนังที่คนดูส่วนใหญ่ประทับใจได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน


    ป.ล. ตัวละครชนะเลิศในหนังยกให้ ลุง คิงจอร์จ  แรกๆก็รำคาญลุง แต่หลังๆพอเห็นลุงเขย่งๆขาเดียวไปมา ผลุบๆโผล่ๆร้องเพลง แถมตายยากตายเย็นมีออปชั่นแถมโชว์บันท้ายตอนใกล้จบฮ่าฮ่าฮ่า ก็อดยิ้มในช่วงท้ายๆไม่ได้ว่า ลุงแกก็เท่ดีเหมือนกันแฮะ



    ป.ล. 2 แต่ถ้าตอนนี้อยากฮาเข้าว่า สาระไม่ต้อง ขอแนะนำ Madagascar 2 หนังที่จะทำให้คุณลืมตรรกะเหตุผล และ สนุกไปกับความงี่เง่าเต็มเปี่ยมของตัวละคร (โดยเฉพาะ ก๊วนเพนกวิน สุดฮา แต่ ภาคก่อนก๊วนนี้ฮามากกว่าหน่อยนะ)

    และ

    ถ้าปีใหม่ปีนี้ กำลังวางแผนจะดูหนัง แต่ยังไม่รู้ว่าจะดูเรื่องอะไร ชวนไปเลือกได้ที่นี่ครับ

    exclaim เตรียมตัวก่อนตีตั๋ว (Movie Preview) :::::: สัปดาห์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ :::::
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2008&date=30&group=14&gblog=135



    love ชักชวนเพื่อนๆเลือก ตัวละครประทับใจ , ฉากประทับใจ และ หนังประทับใจ ไว้ล่วงหน้า แล้วกระทู้ปีหน้า(และใน blog) จะชวนเพื่อนๆมาความประทับใจแบ่งปันกันครับ เหมือนตลอดสี่ปีที่ผ่านมา กับ

    8 หนังแผ่นห้ามพลาด(ที่ไม่ได้ฉายโรง)ประจำปี
    10 ตัวละครประทับใจของปี
    10 ฉากประทับใจของปี


    และ ปีนี้ จขกท.จะขอขยายเพิ่มไปเป็น 10(+ 40) หนังประทับใจแห่งปีที่อยากแนะนำ




    ideaบทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
    (บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

    The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2007&date=06&group=1&gblog=230

    Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=10-2005&date=04&blog=2

    แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 51 13:05:53

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 30 ธ.ค. 51 13:04:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com