Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    หมื่นทิพรีวิวหนังเก่า Tears of the Sun (2003) ฝ่ายุทธการสุริยะทมิฬ, เมื่อมนุษย์ธรรมต้องนำหน้าที่...

    แนวหนัง แอ็กชัน สงคราม ผสมดราม่า

    คอหนังแอ็กชันที่เป็นแฟนผลงานของ Bruce Willis ย่อมจำได้ดีว่า Tears of the Sun แท้จริงแล้วคือชื่อตอนสำหรับต่อสร้อยห้อยท้ายหนัง Die Hard ภาค 4 นั่นเอง

    ข่าวว่าจะทำ Die Hard 4 นั้นเกิดมานานตั้งแต่ภาคสามประสบความสำเร็จแล้วครับ เรียกว่าก่อนพี่ Bruce แกจะมาเล่น Armageddon ซะอีก แต่จนแล้วจนรอดก็มีโปรเจคท์อื่นมาแทรกทุกที แล้วพอช่วงไหนเฮีย Bruce ของเราแกว่างก็ดันเกิดเหตุประมาณว่าหนังที่เล่นไปดันไม่ค่อยจะทำเงินเท่าไร นายทุนเลยชะงักโครงการไว้ก่อน เล่นเอากว่า Die Hard 4 จะได้กำเนิดนี่ก็ล่อไปเป็น 10 ปีทีเดียว

    และอันที่จริงโปรเจคท์หนังเรื่องนี้ก็มีการเขียนขึ้นมาโดยหมายมั่นว่าจะให้เป็นตอนที่ 4 ของ Die Hard นี่แหละครับ เนื้อเรื่องประมาณว่านายจอห์น แม็กเคลนลงภาคสนามไปปฏิบัติการช่วยตัวประกันซึ่งก็คือชาวบ้านที่บริสุทธิ์ซึ่งอยู่กลางสงครามกลางเมือง แต่พอเขียนไปเขียนมา พี่ Bruce เองนั่นแหละที่รู้สึกว่าบทสไตล์นี้ถ้าให้ตัวเอกเป็นนายแม็กเคลนมันออกจะเกินจริงไปหน่อย เพราะถึงขนาดลงสนามไปช่วยชีวิตชาวบ้านที่บริสุทธิ์เนี่ย มันออกแนว Rambo มากกว่าจะเป็น Die Hard

    ทำให้บทถูกดัดแปลงให้ตัวเอกเป็นหัวหน้าหน่วย SEAL ที่ทำทีมลงไปช่วยประชาชนแทน แบบนี้ค่อยดูเหมาะหน่อย ส่วน Die Hard 4 ไว้ค่อยหาบทดีๆ อีกทีก็แล้วกัน ซึ่งขณะนั้นเองทาง Fox เจ้าของสิทธิ์ Die Hard ก็เริ่มต้องการจะสร้าง DH ขึ้นมาสักที เลยติดต่อมาที่พี่ Bruce ว่าสนใจจะกลับมาหรือยัง ตอนนั้นพี่แกก็ยังรีๆ รอๆ เพราะบทดีๆ น่ะยังไม่มา เลยเล่นตัวนิดหน่อยพร้อมเอ่ยปากไปว่า ถ้ายอมให้เอาชื่อสร้อย Tears of the Sun มาใช้กับหนังเรื่องนี้แล้ว รับรองว่าเขาจะกลับไปเล่นบทจอห์น แม็กเคลนอย่างแน่นอน

    ... ขอแค่นี้มีหรือที่ Fox จะไม่ยอมให้ แค่ชื่อสร้อยเท่านั้นเองจะไปกลัวอะไร

    พี่ Bruce รับบทผู้หมวด เอ. เค. วอเตอร์ส ผู้นำทีมหน่วย Navy SEAL ที่ถูกส่งมายังไนจีเรีย ภารกิจคือการช่วยเหลือนำพา ดร.ลีน่า ฟิโอเร่ เคนดริกส์ (Monica Bellucci) แพทย์อเมริกันที่ไปติดอยู่ใจกลางสงครามในแอฟริกันตะวันตก ซึ่งการเข้าไปหาตัวดร.ลีน่านั้นไม่ยากเท่าไร แต่ตอนพากลับออกมานั้นเรียกว่าหินเข้าขั้น เริ่มจากการที่ ดร.ลีน่าไม่ยอมออกจากที่นั่นเป็นอันขาดเพราะเธอยังมีผู้ป่วยและชาวบ้านลูกเด็กเล็กแดงต้องดูแลอีกมากมาย เธอยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมทิ้งพวกเขาไปเป็นอันขาด ถ้าหากเหล่าทหารต้องการให้เธอกลับออกไปโดยใจสมัคร ก็ต้องรับปากพาชาวบ้านเดินทางฝ่าวงล้อมออกไปด้วย

    ซึ่งการป้องกันคนๆ เดียวไม่ใช่งานยาก แต่หากต้องป้องกันชาวบ้านเป็นสิบๆ คนนั้น ภาระและอันตรายก็จะเพิ่มขึ้น ความรับผิดชอบก็ต้องมาเป็นเท่าทวี อีกทั้งพวกกองทหารใจโหดที่กำลังตามฆ่าผู้อพยพและชาวบ้านทุกคนที่บังอาจแข็งข้อหรือหาทางหลับหนีออกจากที่นั่น งานนี้นายทหารลูกน้องของวอเตอร์สทุกคนจึงต้องเผชิญศึกหนักอย่างหมดทางเลี่ยง

    โดยรวมทั่วไปหนังออกมาดีครับ น่าติดตาม ออกรสและไม่น่าเบื่อ ซึ่งก็ขอเอ่ยปากชมผู้กำกับ Antoine Fuqua ซึ่งพัฒนาการของผู้กำกับรายนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ หลังจากไปไม่ได้ไกลนักกับ The Replacement Killers และ Bait พี่ท่านก็ได้รวมสมาธิผนึกกำลังกับดาราอย่าง Denzel Washington จนทำให้ Training Day กลายเป็นงานคุณภาพขึ้นมาได้ เรื่องนี้ก็จัดว่าสนุกเด็ดพอตัวครับ มุมกล้องการถ่ายภาพก็ออกมาดูดี ดูรู้เรื่อง พวกปัญหาประมาณว่าถ่ายากรบกันแล้วกล้องจะตัดต่อไม่รู้เรื่องนี่หายห่วงครับ หนังดูโอเคอย่างยิ่ง ช่วงท้ายก็มีลุ้นตามแบบฉบับของหนังสงครามว่าพวกพระเอกจะตายมากน้อยแค่ไหน

    ไม่ใหม่ แต่ก็ถือว่าถึงเครื่องสำหรับคอหนังสงคราม ชนิดที่ถ้าชอบ We Were Soldiers ก็น่าจะโอเคกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเย็น

    ประเด็นดีๆ ที่หนังกล่าวถึงคือเรื่องของ "หน้าที่ที่ได้รับมา" กับ "คุณธรรม" เพราะตัวเอกของผู้หมวดวอเตอร์สนั้น ได้รับคำสั่งโดยตรงว่าช่วยเฉพาะ ดร.ลีน่าคนเดียว คนอื่นห้ามเด็ดขาด เหตุผลจริงๆ ไม่เชิงว่าเป็นเพราะใจจืดใจดำครับ แต่เพราะว่า หากพวกวอเตอร์สคุ้มกันเฉพาะดร.ลีน่ากับคนสองสามคน การระแวดระวังย่อมดีกว่า ดูแลได้อารักขาได้ง่ายกว่า แต่หากต้องพาคนมาทั้งหมู่บ้านก็เท่ากับลดโอกาสความสำเร็จของภารกิจ อย่าว่าแต่จะพาดร.ออกมาได้เลยครับ แค่ทหารหาญก็อาจต้องสิ้นใจกลางสนามรบก็ได้ เพราะทหารกำลังจะได้รับผิดชอบหน้าที่ที่ "เกินกำลัง" ของตน

    มองในแง่นี้ก็เห็นใจวอเตอร์สกับพวก และเขาใจมุมมองของผู้บัญชาการเหมือนกัน

    แต่กระนั้น แม้จะเข้าใจในหลักการและทฤษฎี แต่หากภาคปฏิบัติว่าด้วยการช่วยชีวิตคนแล้ว หากต้องมีการแหวกตำราแหกกฎกันบ้างก็ถือว่าคุ้มค่า

    เราทำให้ใครสักคนมีชีวิตรอด ย่อมมีคุณค่าเสมอ

    แม้จะรู้ว่าตามสูตร พระเอกต้องยอมช่วยชีวิตคนแม้จะขัดกับคำสั่งก็เถอะ แต่ก็อดชื่นชมตัวละครอย่างผู้หมวดวอเตอร์สไม่ได้ เพราะตอนที่แกตัดสินใจช่วยก็ช่วยแบบเต็มกำลังไม่มีกั๊กใดๆ แบบนี้น่าชื่นชมอย่างแรงจริงๆ

    ดังนั้น หน้าที่กับคุณธรรม จริงๆ แล้วไม่ต้องมีอันไหนนำอันไหน แต่ขอให้ไปด้วยกัน บรรจบกันอย่างลงตัวมีเหตุผลมันก็คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

    ถือว่าหนังมีความสนุกและได้อารมณ์เข้มสไตล์หนังสงคราม ส่วนการแสดงของพี่ Bruce ก็ถือว่าดี ในขณะที่ Bellucci ยอดหญิงเจ้าเสน่ห์ที่ดังแล้วดังอีกจาก The Matrix สองภาคหลังก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผู้หญิงคนนี้มีดีมากกว่าความสวยครับ พวกการแสดงออกอารมณ์นั้นเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้ความเซ็กซี่ที่มีอยู่

    สวย เซ็กซี่ มีความสามารถ สามอย่างนี้ผู้หญิงสวยๆ หรือดาราบ้านเราหลายคนหากจะเดินตามรอยก็ไม่ผิดกติกา แต่ขอให้ครบทั้งสามอย่าง ไม่ใช่แค่เซ็กซี่ เซ็กซี่ และเซ็กซี่... อยากดังนาน ต้องมีดีให้คนรักนานๆ เช่นกัน

    เป็นหนังสงครามที่ดูแล้วไม่ผิดหวัง คุ้มที่จะชม แต่หากถามว่าชอบหนังมากไหมก็บอกได้เลยว่าชอบเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นอย่างเดียว

    ... ไม่ชอบเลยที่ต้องมาเห็นมนุษย์ด้วยกันฆ่ากันเองเพราะไฟสงครามหรือความขัดแย้ง... อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อใดมนุษย์จะเข้าใจว่า สามัคคีและสมานฉันท์หนอ

    สองดาวครึ่งครับ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=31-12-2008&group=16&gblog=433

     
     

    จากคุณ : เทพบุตรตบะแตก!! - [ วันสิ้นปี 09:48:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com