ความคิดเห็นที่ 1 เล่ม 1 ตอนจานมิโนทาวรอส พี่ชายบอกว่าเคยฉายเป็นตอนสั้นๆในไทยตอนพี่ชายเป็นเด็กๆ (พี่เกิดปี 2525) *** พูดถึงชายหนุ่มนักบินอวกาศผู้หนึ่งทำเครื่องตกที่ดาวดาวหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับหญิงสาวแสนสวย แต่ทว่าดาวที่เขาตกลงมานั้น มีวัวเป็นผู้ครองดวงดาวแห่งนั้นอยู่ (เหมาะกับปีวัว) และหญิงสาวแสนสวยที่เขาพบ คือ เครื่องบูชายัญ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจช่วยหญิงสาวสุดชีวิต ..*** คือ เรื่องนี้ชอบตรงที่การมองมุมกลับ ขณะที่ดาวโลกทานเนื้อสัตว์เป็นอาหาร แต่ดาวอิน็อกซ์กลับทานเนื้อคนเป็นอาหาร (แถมมีวัวเป็นผู้ปกครอง) บนดาวนั้น มนุษย์คือสัตว์เลี้ยง ซึ่งพระเอกกลับพยายามกระทำขัดกับวิถีบนดาวดวงนั้น .. โดยการพยามยามพอนางเอกหนี แต่นางเอกกลับคิดว่าการเป็นเครื่องบูชายัญคือเกียรติอันสูงสุด .. หมูบ้านเราคงไม่คิดแบบนั้น เพราะถ้าคิดว่าการมีมนุษย์มากินเป็นเกียรติ คงไม่ร้องเสียงดังขนาดนั้นแน่ .. แก้ไขโดย คุณ Enixma ไม่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณครับ แต่เป็นการสลับความทรงจำกันของทั้งสองร่าง จริงๆมันก็คือๆกัน แต่ผมว่าใช้คำว่าวิญญาณมันดูไม่ค่อยเป็น Sci-Fi อ่ะ ^^" * CREDIT :  http://onedevil.exteen.com/20080806/fujiko-f-fujio-sf-collection แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 15:48:46 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 01:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เล่ม 4 (ข้ามไปมั้ย) ตอน อนาคตที่ถูกขโมยไป (เล่มนี้เราว่ามีบางตอนในเล่มที่น่าขบมากกว่า ตอน อนาคตที่ถูกขโมยไปสะอีก) **อนาคตที่ถูกขโมยไปเล่าถึงการแลกเปลี่ยนวิญญาณของคนแก่ใกล้ตาย แต่ร่ำรวยมหาศาล กับเด็กหนุ่มวัยเรียน ผู้ยากร่ำรวย โดยการแลกเปลี่ยนนั้นเกิดขึ้นด้วยความไม่(ค่อย)จะเต็มใจเท่าไหร่ เมื่อวิญญาณของชายแก่ไม่ยอมออกจากร่างเด็กหนุ่ม แถมยังชิงชีวิตวัยเยาว์อันแสนสุขของเขาไป เด็กหนุ่มจะทำเช่นไร ..** ตอนนี้ รู้สึกว่าค่อนข้างธรรมดา สุดท้ายเมื่อชายแก่ในร่างเด็กหนุ่มได้ใช้ชีวิตวัยหนุ่มได้ 1 วันก็ตัดสินใจคืนร่างให้เด็กหนุ่ม เพราะเขาตระหนักดี ว่าชีวิตวัยเยาว์นั้นแสนสุขเพียงใด ตัวเขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตเช่นนั้นเลย เพราะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียน และทำงาน แม้จะประสบความสำเร็จมากมาย แต่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตจริงๆ สักครั้ง .. จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 01:57:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประวัติ (แปะแล้วแปะอีกอ่ะเน้อ ..) ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ และโมโตโอะ อะบิโคะ ทั้งคู่ต่างก็เกิดในจังหวัดโทะยะมะ ที่ประเทศญี่ปุ่น ฮิโรชิได้มีโอกาสรู้จักกับอะบิโคะ ตอนที่อะบิโคะย้ายเข้ามาโรงเรียนประถมโจซึกะ ประจำ ในอำเภอทาคาโอกะ และได้มาเรียนห้องเดียวกันกับฮิโรชิ ขณะเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างก็ชอบในการวาดเขียนการ์ตูน และรู้สึกชื่นชอบหนังสือการ์ตูนเรื่อง เกาะมหาสมบัติ ภาคใหม่ ผลงานของ โอซามุ เท็ตซึกะเป็นอย่างมาก ถึงขนาดส่งจดหมายแฟนคลับไปถึง เท็ตซึกะ ในระหว่างที่ทั้งสองคนเร่ำรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นนั้น ก็ได้เริ่มออกนิตยสารการ์ตูนทำมือขึ้น ชื่อ "RING"ต่อ มาช่วงก่อนที่จะจบมัธยมศึกษา เขาทั้งสองก็เริ่มวาดการ์ตูนส่งไปตามคอลัมน์สำหรับผู้อ่านทางบ้านในหลาย สำนักพิมพ์ และได้เปิดตัวครั้งแรกเรื่อง นางฟ้าทามะจัง (Tenshi no Tama-chan) ลงตีพิมพ์เป็นประจำในนิตยสาร "ไมนิจิ โชกักเซ" ซึ่งครั้งนั้นเขาทั้งสองก็ได้รับเงินค่าจ้างอีกด้วย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมบ้านของเท็ตซึกะในเมืองทาคาราซึ กะ จังหวัดเฮียวโงะ การเยี่ยมบ้านในครั้งนั้นได้จุดประกายในการเขียนการ์ตูนของทั้งสองเป็นอย่างมาก อาจารย์โอซามุ เท็ตสึกะ แรงบรรดาลใจ .. (แอบเห็นอาจารย์ ฟุจิโมะโตะ ใส่หมวกแบบนี้เหมือนกัน) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยเหตุที่ว่าทั้งสองเป็นลูกชายคนโต ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ต้องรีบหางานทำหลังจากจบมัธยมศึกษา ในปีพ.ศ. 2495 ฮิโรชิได้เข้าไปทำงานในโรงงานลูกกวาด ส่วนอะบิโคะก็เข้าไปทำงานในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่ภายหลังเนื่องจากฮิโรชิได้รับอุบัติเหตุระหว่างทำงาน จึงลาออกจากงานประจำและตัดสินใจเขียนการ์ตูนอย่างจริงจังอยู่ที่บ้าน โดยมีอะบิโคะคอยมาช่วยเหลืออยู่ตลอดหลังจากเวลาว่างหลังเลิกงาน และในปี พ.ศ. 2496 ทั้งคู่ก็ได้ออกการ์ตูนเรื่อง ล่องลอย 4 หมื่นปี ลงใน"โบเก็นโอ" และมีผลงานการ์ตูนพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกในนามปากการ่วมกันว่า "อาชิซึกะ ฟูจิโอะ" เรื่อง สงครามโลกครั้งสุดท้าย ในปีต่อมา พ.ศ. 2497 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่โตเกียว เพื่อจะเป็นนักวาดการ์ตูนญี่ปุ่น หรือมังงะกะ อย่างเต็มตัว เมื่อย้ายมาอยู่ที่ห้องเช่าเล็ก ๆ ที่เรียวโคะคุ เขตซึมิดะ จังหวัดโตเกียวได้สักระยะหนึ่ง ฮิโรชิก็เกิดป่วยเป็นวัณโรค ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงยากต่อการรักษา แต่สุดท้ายแล้ว ฮิโรชิก็สามารถหายจากอาการป่วยได้ หลังจากนั้นทั้งคู่ได้รับความช่วยเหลือจาก เท็ตซึกะในการจัดหาห้องเช่าให้แถวโทกิว่า ในเขตโทชิม่า จังหวัดโตเกียว ซึ่งบ้านเช่าแห่งนี้มีนักวาดการ์ตูนหน้าใหม่หลายคนอาศัยอยู่ จึงมีชื่อเรียกกันเล่น ๆ ว่า บ้านการ์ตูน และได้จัดตั้งชมรมการ์ตูนยุคใหม่ขึ้น ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเปลี่ยนนามปากกาเป็น "ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ" และมีผลงานออกมาเรื่อง สายแร่อวกาศ สงความโลกครั้งสุดท้าย แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 02:17:57 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แอบแปะ โดเรม่อนคั่น .. จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้เขียนการ์ตูนส่งไปยังสำนักพิมพ์เรื่อยมา และเริ่มที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น แต่ในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2498 จนถึงต้นปี พ.ศ. 2499 ทั้งคู่ต้องพักงานเนื่องจากเมื่อตอนกลับไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดโทะยะมะช่วง เทศกาลปีใหม่ มีการฉลองกันหนักเกินไปจนทำให้เสียงาน ไม่สามารถส่งต้นฉบับการ์ตูนได้ทันตามกำหนด ความน่าเชื่อถือของทั้งคู่ลดลงไปในช่วงเวลานั้น ต่อมาทั้งสองคนจึงได้ตัดสินใจลงทุนจัดตั้งบริษัท "สตูดิโอซีโร" ขึ้นโดยได้เพื่อนเก่าอย่าง ชินอิจิ ซูซูกิ, โชทาโร่ อิชิโนะโมะริ, จิโร่ สึโนะดะ, คิโยะอิจิ สึโนะดะ ซึ่งเป็นเพื่อนจากกลุ่มนักวาดการ์ตูนหน้าใหม่ที่เคยใช้อยู่ร่วมกันในบ้านการ์ตูนมาเป็นทีมงาน Studio ZERO (มีตอน ตำนานสตูดิโอ โกโรโกโส ที่พูดถึง Studio Zero ใน SF Collection 4) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอแทรกหน่อยนะครับที่บอกว่าเรื่องสั้นอีกหลายพันเรื่องนี่เป็นเรื่องสั้นแบบใน past of Fujiko F Fujio ถ้าเป็นงั้นล่ะเจ๋งเลย เพราะผมชอบpast of Fujiko F Fujio  มากๆ อย่ากให้มีอีกเป็น40 50 100 เล่มไปเลยจะตามเก็บให้หมดเลย ที่บ้านผมก็มีผลงานของอาจารย์นะคิดว่าน่าจะแนวๆ past of Fujiko F Fujio  นี่แหล่ะครับเคยเห็นอยู่ในห้องพี่ หน้าปกแนวๆอวกาศๆ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องสั้นของ อ.แกแต่ไม่เคยจับมาอ่านเล้ย เพราะเห็นว่าเก่ามาก พลาดของดีเลยผม จากคุณ : น้ำปลาปรับผ้านุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 02:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากต่อตั้งสตูดิโอก็มีผลงานทำภาพยนตร์เรื่องยาวให้กับเรื่อง เจ้าหนูอะตอม (Astro Boy) สตูดิโอก็มีผลงานเรื่อยมาจนถึงปีพ.ศ. 2505 ฮิโรชิได้แต่งงานเมื่ออายุ 28 ปี และในปีถัดไปก็ได้รับรางวัลโชกักคังครั้งที่ 8 จากเรื่อง โรบ็อตลุย และเท็ตจังถุงมือ แก้ไขโดย คุณ Enixma ก่อนอื่นเลยก็ เจ้าหนูอะตอม ไม่ใช่ผลงานของอ.ฟุจิโกะครับ เป็นของอ.เท็ตซึกะ โอซามุ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็คืออ.ฟุจิโกะแค่เคยไปช่วยทำในส่วนอะนิเมะแค่นั้นเองครับ เข้าใจว่าจขกท.รู้แล้วว่าไม่ใช่ใน #33 แต่กลับไป Edit ตรงเนื้อหากระทู้ก็ดีนะครับ เผื่อคนมาอ่านไม่รู้จะเข้าใจผิด แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 15:47:47 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห. 7 ขอลดจากพัน มาเป็น ร้อยได้มั้ย อะ เพราะจำไม่ได้เหมือนกันว่าเคยอ่านจากที่ไหน แต่ที่อื่นๆ บอกว่า Path of Fujiko F Fujio มี 8 เล่มค่ะ .. =================================== จนนในปีพ.ศ. 2507 ผลงานในนาม ฟูจิโกะ ฟูจิโอกะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนับจากเริ่มวาดการ์ตูน ด้วยการ์ตูนเรื่อง ผีน้อยคิวทาโร่ (Qtaro the Ghost) ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน "โชเน็นซันเดย์" มี คนติดตามโดยเฉพาะเด็ก ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้คิวทาโร่ได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันจัดฉายทางโทรทัศน์ในเวลาต่อมา ส่งผลให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก และสตูดิโอซีโร ก็เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วจากทีมงานเริ่มต้นเพียง 7 - 8 คน ก็เพิ่มมาเป็น 80 คน ได้มีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ว่าจะเป็นไคบุซึ (Kaibutsu-kun), นินจาฮาโตริ (Hattori the Ninja), ปาร์แมน (Pāman), 21 เอมอน (21-emon) และเจ้าชายจอมเปิ่น เป็นต้น ในปีพ.ศ. 2509 อะบิโคะเข้าพิธีแต่งงานเมื่ออายุได้ 32 ปี ทว่าก็ต้องพบกับความไม่สมหวังในด้านการงาน สตูดิโอซีโรต้องปิดตัวลงเนื่องจาก เนื่องจากปัญหาทางด้านการเงินโดยมีผลงานเรื่องสุดท้ายคือ เจ้าชายจอมเปิ่น หรือ เจ้าชายลูกบ๊วย แต่ฮิโรชิไม่ได้ท้อแท้กับการปิดตัวลง กลับมองว่าแม้ต้องปิดตัวลงแต่เขาก็ได้รับประสบการณ์ที่มีค่ามากมาย และทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ก็ต้องจบลงที่ศูนย์ตามชื่อของสตูดิโอ ซึ่งซีโร แปลได้ว่า "ศูนย์" (นิตยสาร aday, 2545) ตอนจบของสตูดิโอซึ้งจริงๆ  T^T จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในที่สุดก็มาถึง .. หลังจากนั้นในปีพ.ศ. 2513 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นของการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดในชีวิตของเขาทั้งสองคือเรื่อง โดราเอมอน ลงใน"โชกักอิจิเน็นเซย์-โยะเน็นเซย์" โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้อ่านวัยเด็ก ในช่วงแรกนั้นโดราเอมอนยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ต่อมาใน 3 ปีให้หลัง โดราเอมอนได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งทำให้ได้รับความสนใจและนิยมไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ฮิโรชิได้รับรางวัล Nihon Mangaka จากโดราเอมอน ในปีพ.ศ. 2516 ส่วนอะบิโคะที่มุ่งออกผลงานสำหรับวัยรุ่นก็ได้มีผลงานเอง Black Salesman (ภายหลังเปลี่ยนเป็น Warau Salesman) อัตชีวประวัติ Manga-michi จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในปีพ.ศ. 2530 ทั้งคู่ถึงจุดอิ่มตัวในวัย 54 ปีจึงได้ตัดสินใจแยกกันใช้นามปากกาจาก "ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ" สำหรับฮิโรชิเป็น "ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ" ส่วนของอะบิโคะเป็น "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ.)" เพื่อแยกตัวทำผลงานของตัวเอง ฮิโรชิได้เขียนการ์ตูนเรื่อง โดราเอมอนต่อเรื่อยมา โดยเขาจะเป็นผู้วาดและแต่งเรื่องโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นประจำทุกปี เมื่อถึงปีพ.ศ. 2539 ฮิโรชิก็ได้ถึงแก่กรรมลงด้วยวัย 62 ปี ส่วนอะบิโคะมีผลงานเรื่องนินจาฮาโตริ และโปรกอล์ฟซารุจัดฉายในโรงภาพยนตร์ ส่วนตัวเราชอบตอนนี้ที่สุดค่ะ เคยดูตอนเด็กๆ ตอนนี้อยากดูอีกมากๆ แต่หาซื้อไม่ได้ T^T ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก (1986)  (เราพึ่งเกิดได้ 2 ขวบเองนะนั่น -*-) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความลับที่ควรรู้เกี่ยวกับโดราเอมอน 1. เชื่อหรือไม่ว่า โดราเอมอนมีเลขที่เกี่ยวข้องคือ 129.3 ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ส่วนสูง และปีเกิด (3-9-2112) ที่ต้องมีตัวเลขเท่านี้ เพราะอาจารย์ฟุจิโกะได้นำส่วนสูง โดยเฉลี่ยของเด็กญี่ปุ่นที่อยู่ในชั้น ป.4 มาคำนวณ เพื่อให้ได้ส่วนสูงเท่า ๆ กับโนบิตะที่อยู่ชั้น ป.4 นั่นเอง 2. คุณรู้ไหมว่า ตอนแรกนั้นโนบิตะของเราต้องแต่งงานกับใคร คำตอบครับ.... น้องสาวของไจแอนท์ ที่ชื่อว่า ไจโกะ นั่นเอง ต้องขอบคุณเชวาชิ เหลนของเหลน โนบิตะ ที่ทำให้ได้แต่งงานกับซิซุกะ 3. ความหมายของชื่อโนบิตะ ที่พ่อและแม่ของโนบิตะตั้งให้ แปลว่า.... ความหวังที่จะให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และก้าวหน้าไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 4. โดเรมี่ เกิดหลังโดราเอมอน 2 ปี และได้ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1973 5. การ์ตูนโดราเอมอน ตีพิมพ์รวมเล่มฉบับแรกเมื่อปี 1974 6. รู้รึเปล่าว่า... ทีมนักพากย์การ์ตูนโดราเอมอนที่ญี่ปุ่น เป็นชุดเดียวกันตลอดตั้งแต่เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 1979 และรู้รึเปล่าว่า... คนพากย์โนบิตะเป็นผู้หญิงครับ 7. ถ้าคุณลองกลับไปอ่านการ์ตูนเรื่อง ปาร์แมน จะเห็นว่าตัวเอกหญิงของการ์ตูนปาร์แมน ชื่อว่า โฮชิโนะ สุมิเระ เธอคือดาราดังในเรื่องโดราเอมอนด้วย 8. ได้มีการโหวตคะแนนตัวการ์ตูนยอดนิยมตลอดกาล 100 ตัว ของญี่ปุ่น ซึ่งจัดในปี 2002 โดยสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮึ และตัวละครของอาจารย์ฟุจิโกะได้ไปถึง 8 ตัว แน่ล่ะว่าโดราเอมอนได้อันดับที่ 1 โดยอันดับที่ 2 คือ ซุนหงอคง จาก ดรากอนบอลล์ นั่นเอง 9. โดราเอมอนถือเป็นการ์ตูนที่ไม่มีตอนจบ (ซึ่งมีอยู่น้อยมากที่จะเกิดขึ้น) แม้ว่าทางอาจารย์ได้มีการเขียนตอน "ลาก่อนโดราเอมอน" ออกมาก็จริง แต่ทว่ากระแสของแฟน ๆ การ์ตูนที่ไม่ต้องการให้จบ ทำให้อาจารย์ต้องนำกลับมาเขียนต่อ จนอาจารย์ได้จากโลกนี้ไปเสียก่อน.... จาก นิตยสาร STARPICS  ลองไปหาดูตามร้าน Starpics นะ ไม่รู้เล่มนี้ยังเหลือป่าว .. http://movie.sanook.com/behind/behind_12166.php จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 02:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมจำได้ผมซื้อหนังทีวีแม๊กกาซีนมา แล้วเค้าลงข่าวว่าอาจารย์เสียชิวิต ผมนั่งร้องให้บนเตียงเลย มันเศร้าอ่ะ จนตอนนี้เวลาที่เอาทีวีแม๊กกาซีนเล่มนั้นมาอ่านซ้ำแล้วเห็นข่าวนี้ผมก็จะนึงถึงตอนเป็นเด็กตลอดเลย (ผมเหมือนคนแก่อีกแล้วผม) จากคุณ : น้ำปลาปรับผ้านุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 02:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คห. 14 เมื่อก่อนก็ซื้อ TV magazine อ่านเหมือนกันค่ะ มีเล่มนึงที่ลงบอกเรื่องภาค movie จำได้ว่า สมัยนั้น Tv mag มีแต่การ์ตูนดีๆ ทำคอลมัน์ก็ดีด้วย เดี๋ยวนี้้ไม่ได้ซื้อแล้ว คอลัมน์ไม่ค่อยดี แถมแพงอีกต่างหาก (เพราะเราแก่แล้วนี่เอง การ์ตูนสมัยนี้เลยไม่ค่อยสนุก) ชอบเล่มนี้ ซึ้งดี จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 03:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้จำได้ว่ามีคนในพันทิพย์เคยเอามาให้ดูแล้ว เป็นโฆษณาของ อูก้า คาราโอเก้ะ ! http://ugakara.com/pc/index.html จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 03:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่แน่ใจว่านี่เป็น SF Collection เล่มต่อไปรึป่าว ... Ecit by Enixma นั่นเป็นรวมเรื่องสั้นคนละชุดกับ Path of Fujiko F Fujio ครับ ที่ NED ทำตอนนี้คือที่คุณโพสต์ใน #24 ซึ่งก็ทำตามญี่ปุ่นเป๊ะเลยนิ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 15:50:12 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 03:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 SF เล่ม 1 ในญี่ปุ่น จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 03:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มานั่งรอชมครับ.. คุณ city of the damn ทำการบ้านมาพอสมควรก่อนโพสต์ ชอบมากๆเวลามีใครชอบระดับค้นข้อมูลมาฝากแลกเปลี่ยนกัน และชอบมากๆสำหรับคนที่ชอบชุดเรื่องสั้นของ อ.ฮิโรชิ ครับ นับว่าเป็นเพื่อนคอเดียวกัน.. จากคุณ : granun - [ 4 ม.ค. 52 04:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 # 19 อันที่จริงพยายามหาผลงานเรื่องอื่นที่ไม่ใช่โดเรม่อนอยู่ค่ะ แต่มีแต่ภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้น เลย อ่านไม่ออก (เสียดายจัง) amazon.co.jp มีหนังสือการ์ตูนทุกเล่มของทั้ง Fujiko f fujio และ Fujio fujiko a เลย น่าอิจฉามากๆ - - อันนี้ในญี่ปุ่นเป็น SF เล่ม 6 แต่ของไทยไม่น่าจะตรง เพราะดูตอนข้างใน เล่ม 2 - 3 ในญี่ปุ่น ก็ไม่ตรง อันที่จริงเล่มไทยก็น่าจะทำแบบเล่มญี่ปุ่นนะ สีทองโดดๆ มันสวยดี แต่ดูไม่น่าจดจำไงไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 04:12:50 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 04:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยว่า path of Fujiko ของเนชั่น ดูเหมือนของสะสม แต่รูปเล่มไกลความเป็นการ์ตูนไปนิดนึง เอาง่าย ๆ แค่ปกนอกที่เกย ๆ เกิน ๆ ก็หยิบอ่านวางเก็บไม่สะดวกมือแล้ว แม้ตอนซื้อจะเลือกมาอย่างดี แต่ทำไปทำมา ...มันก็ต้องยับจนได้... อยากให้เอาผลงานอื่น ๆ ของอ.มาทำอีกค่ะ จะได้เก็บ ตอนเด็ก ๆ อ่านกล้องถ่ายอดีต ชวนคิดดี เชื่อว่ายังมีอีกหลายเล่ม หลายเรื่องที่เราพลาดไป อาจเพราะโดราเอมอนนั้นดังมากมายนั่นเอง เลยบดบังเรื่องอื่น แนวอื่นไปมาก จากคุณ : atihasita - [ 4 ม.ค. 52 04:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทีมพากย์โดเรม่อน 1. ฉันทนา   ธาราจันทร์   (ติ๋ม)  :  โดเรม่อน 2. ศรีอาภา   เรือนนาค   (ผึ้ง) :  ชิซูกะ : ขออนุญาตตัดทอนรูป Credit คุณ  Kira Yamato จาก http://www.rose.co.th/forum/index.php?topic=487.0 รูปคนอื่นหายากจัง .. แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 05:10:01 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 05:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 น้าต๋อย : นิรันดร์   บุญยรัตพันธุ์ เป็นไจแอนท์ คนอื่นๆ ไว้วันหลังจะพยายามหามาแปะเน้อ.. หฤษฏ์   ภูมิดิษฐ์   (อู๊ด)  คุณครูของโนบิตะ อรุณี   นันทิวาส   (ตุ๊ก)  ซึเนโอะ สุลักษณา   เทพหัสดิน ณ อยุธยา   (หน่อย)  แม่โนบิตะ Credit คุณ  Kira Yamato จาก http://www.rose.co.th/forum/index.php?topic=487.0 แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 05:45:23 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 05:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รวมผลงานอมตะ  ฟุจิโกะ SF คอลเลคชั่น ทั้ง 8 เล่ม (ขณะนี้ตีพิมพ์ในประเทศไทยแค่ 4 เล่ม) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 05:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 v v v v อาจมีเนื้อหาสปอล์ย  (ถ้าคุณอ่านภาษาญี่ปุ่นออก -.-) v v v v ปล.จะโดนฟ้องมั้ยเนี่ย -0- ปล.2 นอนก่อนละตรู .. แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 05:42:43 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 05:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รวมภาพ 8 เล่ม ปล.3 จะได้จับถูกตัว ฮ่าๆ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 05:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบอกอย่างไม่อายว่า อ่านกระทู้นี้แล้ว น้ำตาซึมเลย...... ผมเคยเป็นอย่างนี้ตอนที่โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ครั้งล่าสุดมาเป็นตัวอย่างหนังตอนที่ผมไปดูหนัง ผมเห็นตัวอย่างแล้วผมสะดุ้งแล้วก็ลุกนั่งมองตาเป็นมัน พร้อมกับน้ำตาไหลพราก พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า "เพื่อนเรากลับมาแล้ว..." ขอเพิ่มเติมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนะครับ.... ทำไม อ. ถึงวาดโดราเอมอนมาเป็นตัวกลมๆ ป้อมๆ แบบนี้... มีอยู่วันนึงตอนที่คิดไม่ออก แล้วโดนต้นฉบับมาตามงาน อ. ก็เครียดมาก แล้วก็หันไปเห็นตุ๊กตาญี่ปุ่นที่กลมๆ ป้อมๆ ก็เลยได้ไอเดีย จากนั้นโดราเอมอนก็เป็นอย่างที่เราเห็นและเป็นอย่างที่เรารักมาจนทุกวันนี้ครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 4 ม.ค. 52 08:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หา ฟุจิโกะ SF  มีแค่8เล่มเองเหรอ เซ็งเลยน่าจะมีซัก20เล่มก็ยังดี  เอ๊ะหรือที่ญี่ปุ่นก็ยังออกไม่จบรึปล่าว(เข้าข้างตัวเองไปเรื่อย) จากคุณ : น้ำปลาปรับผ้านุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 10:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้นี้สุดยอดจริงๆ จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว - [ 4 ม.ค. 52 11:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตกลงเจ้าหนูอะตอมนี่ผลงานใครกันแน่อ่ะคะ อจ.โอซามุ เท็ตสึกะ วาดไม่ใช่หรอ หรืออจ.ฟูจิโอะมาทำแค่ฉบับอนิเม ปล. ภาพโดราเอมอนใน #5 อยู่เล่มไหนหรอคะ จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 4 ม.ค. 52 11:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สรุปผลงาน ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ( อาจารย์ ฟูจิโมะโตะ ฮิโรชิ + อาจารย์อาบิโกะ โมะโตะโอะ ) * ผีน้อยคิวทาโร่  : ghost Q-taro ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ ( อาจารย์ ฟูจิโมะโตะ ฮิโรชิ ) ผลงานที่มีการตีพิมพ์ในไทย * ปาร์แมน : 1966-1968, 1983-1986 - Parman * 21 เอมอน : 1968-1969, 1981 - 21st-generation boy * โมจาโกะ : 1969-1970 - Prince Moja * เจ้าชายจอมเปิ่น : 1969 - the Ume Planet prince   * โดราเอมอน : 1970-1996 -  Doraemon; * นักประดิษฐ์รุ่นจิ๋ว : 1974-1977 - Kiteretsu 185;) * เอสเปอร์มามิ : 1977-1982 - 1969 * จิมปุย : 1985, 1987-1988  << โอ้ เราเิกิดพอดีเลย -.- ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ.) ( อาจารย์อาบิโกะ โมะโตะโอะ ) * นินจาฮาโตริ  : 1964-1968, 1981-1988 - * ไคบุตสึ  : 1965-1969, 1980-1982; 1972 * Warau Salesman : 1968-1971, 1989-1996 - smiling salesman * Manga-michi   : 1970-1972, 1977-1982, 1986; 1986-1988   1989-1990, 1995 -  the road to a comic * Mataro Ga Kuru!!  : 1972-1975 - Mataro is coming * Pro Golfer Saru : 1974-1980; 1982-1988; 1989; 1999   * Shadow Shokai Henkiro  : 1976-1977 - Henkiro's Shadow Company * Shonen Jidai  : 1978-1979 - the boyhood แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 11:55:29 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 11:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆเราอยากโดราเอมอนฉบับพิศดารด้วยนะ ที่มีเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับโดราเอมอน  เสียดายที่มันหายไปแล้ว จำได้ว่าเป็นตอนเกี่ยวกับ ประวัติโดราเอมอนก่อนมาอยู่กับโนบิตะ แล้วก็ทำนายดวงต่างๆ แล้วก็มีตอนนึงที่จำได้แม่น คือตอนที่มีผู้อ่านถามว่าโดราเอมอนมีฟันหรือเปล่า แล้วโนบิตะไปถามให้ โดราเอมอนก็ยิ้มบอกว่าไม่มีหรอก โนบิตะก็ถามย้ำอีก ไม่มีหรอ โดราเอมอนตอบ ไม่มี โนบิตะเถียง มีสิ เถียงกันจนโดราเอมอนโมโหบอกว่า ไม่มี!! แล้วก็เป็นภาพโดราเอมอนมีฟันอ่ะ (พอโมโหโดราเมอนจะมีฟัน) โนบิตะก็บอก อ่าวนั่นไงฟัน แล้วคนเขียนก็มาสรุปบอกว่า ดูเหมือนฟันโดราเอมอนจะโผล่มาเฉพาะเวลาโมโห เราว่าต้องมีคนเคยอ่านตอนนี้มั่งแหละ ฉบับในไทยน่าจะสำนักพิมพ์มิตรไมตรี (เก่ามาก) ไม่รู้ที่ญี่ปุ่นมีพิมพ์ออกมามั่งป่าว อยากอ่านอีกรอบ จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 4 ม.ค. 52 11:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบคุณนางาเสะจัง ...วิ่งไปอ่านมาให้แล้ว :) Astroboy , Tetsuwan Atomu , Mighty Atom (ชื่อเดียวกันทั้งหมด) เป็นผลงานของอาจารย์ โอซามุ เท็ตสึกะ ซึ่งในภาคภาพยนต์ Fujiko F Fujio ทำแค่ภาคอนิเมอย่างเดียว เราเองยังเข้าใจว่าเป็นคนเขียนตั้งแต่แรกเลยนะเนี่ย (เหมือนเมื่อก่อน Tv magazine จะเคยลง) อันนี้ภาค Animaion ที่ทำกับ Walt Disney ในปี 1999 (น่าจะใช่นะคะ อาจมีการแปลผิดเพียนไปบ้างเล็กน้อยเรื่องปีที่ผลิต) โดยเรื่องนี้ อาจารย์เท็ตสึกะเป็นผู้ติอต่อกับ Walt Disney โดยตรง จากการพบกันในงาน 1964 World's Fair ค่ะ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 12:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 การ์ตูนสร้างชาติ... จินตนาการ สำนีก ควาามรับผิดชอบ ความสามัคคี ความซื้อสัตย์ อีกหลายๆอย่างได้มาจากการ์ตูนพวกนี้เลยนะเนี่ย ยกย่องการ์ตูนญี่ปุ่นจริงๆ จากคุณ : arsarn - [ 4 ม.ค. 52 12:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จากตอน สตูดิโอโกโรโกโส ในเล่ม 4 มีภาพของอาจารย์ทั้ง 2 ด้วย (หน้าตอนมีแอบเขียนเตือนว่าภาพจริงในเรื่อง ไม่ใช่หน้าบุคคลจริง ทั้งๆที่เป็นตัวอาจารย์เองนั่นแหละ ฮ่าๆ ) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 12:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลืมรูป - -* จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 12:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เคยมี "สารานุกรมของวิเศษ" อยู่ แต่ขาดไปแล้ว (แถมหาไม่เจอด้วย) เสียดายมาก ชอบนั่งอ่านเล่นๆ ในกระเป๋าโดเรมอนมีของวิเศษอยู่มากมาย แต่มีอะไรนั้น แม้แต่โดเรมอนเองก็คงบอกไม่ได้ เพราะนับตั้งแต่ตีพิมพ์เป็นการ์ตูนจบในตอน จนมาถึงตอนนี้ มีของวิเศษมากกว่้า 1,300 ชนิด อาทิ ไทม์แมชชีน ไฟฉายย่อส่วน ผ้าคลุมกาลเวลา ประตูไปที่ไหนก็ได้ ฯลฯ กระเป๋าโดเรมอนเป็นช่องว่างที่ไร้ขอบเขต จึงไม่มีปัญหาเรื่องขนาดและน้ำหนัก หนังสือเล่มนี้ ได้เก็บรวบรวมของวิเศษของโดเรมอนไว้มากที่สุด นับตั้งแต่มีการรวบรวมมา ภายในบรรจุเรื่องราวและรายละเอียดของ ของวิเศษแต่ละชนิดว่ามีความวิเศษอย่างไร CREDIT ภาพจาก http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3759687/A3759687.html จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 12:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอชมหน่อย จขกท.เก่งจังข้อมูลเยอะดี นั่งโพสมาตั้งแต่ตี1ด้วย ไม่เหนื่อยเหรอครับเนี่ย จากคุณ : น้ำปลาปรับผ้านุ่ม - [ 4 ม.ค. 52 12:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงตอนนี้ ผมเริ่มสับสนกับข้อมมูลแล้วครับ มีใครฟันธงได้มั้ยครับว่า ตกลงแล้ว Doraemon ในยุคแรกเป็นผมงานร่วมของ FF ทั้งสองท่าน แล้วต่อมาในยุคหลังเป็นผลงานของ F ท่านเดียว หรือว่า เป็นผลงานของ F ท่านเดียวตั้งแต่แรก จากคุณ : JaCk SpArOw - [ 4 ม.ค. 52 12:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถึงตอนนี้ ผมเริ่มสับสนกับข้อมมูลแล้วครับ มีใครฟันธงได้มั้ยครับว่า ตกลงแล้ว Doraemon ในยุคแรกเป็นผลงานร่วมของ FF ทั้งสองท่าน แล้วต่อมาในยุคหลังเป็นผลงานของ F ท่านเดียว หรือว่า เป็นผลงานของ F ท่านเดียวตั้งแต่แรก จากคุณ : JaCk SpArOw - [ 4 ม.ค. 52 12:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คห.38 อ้อ ไปนอนมาแล้วค่ะ พอดีวันนี้ได้ใช้คอมพ์วันสุดท้าย (ก่อนส่งซ่อม) เลยกะโพสต์อะไรไว้อ่านตอนว่างๆซะหน่อย -..- **** แถม Fujiko F Fujio ยังชอบเอาตัวการ์ตูนในเรื่องสั้นอื่นๆ มาลงในโดเรม่อนด้วยชอบมาก อย่างลุงคนนี้อยู่ในตอน "เมื่อคุณปู่จากไป" ใน SF เล่ม 1 แต่เราพอจำได้ว่าในโดเรม่อน แกเป็นคุณตาบ้านที่ปลูกบอนไซ ไม่รู้ใช่คนเดียวกันรึป่าว แต่ดุเหมือนกันเลย ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 12:59:32 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 12:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คห.39 ไม่กล้าฟันธงค่ะ แต่ที่คุณเข้าใจน่าจะถูกแล้ว .. ::::: เกร็ดโดเรม่อน เพิ่มเติม ::::: จากคุณ Poreamon แห่งเวป J-hero ( ยังไม่ได้ขออณุญาติเจ้าของกรระทู้ ) http://www.j-hero.com/board/index.php?showtopic=176 << กระทู้ดีมากๆค่ะ วันเกิดโนบิตะ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 13:10:10 จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 13:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ในกระทู้นี้ถามไว้ว่า http://www.j-hero.com/board/index.php?showtopic=176 "ไม่รู้ว่าคนเขียนพยายามจะเอาตัวละครใหม่ หรือจะเปลี่ยนแปลงคาแร็คเตอร์ของซูเนโอะกันแน่ครับ เพราะเท่าที่อ่าน ไม่ได้บอกชื่อหมอนี่ไว้เลย ใครรู้ บอกทีครับ" เราว่าน่าจะเป็นญาติของซึเนจังนะคะ ที่ชอบมาบ้านซึเนโอะช่วงปิดเทอม (ลูกคุณลุงซึเนะโอะ) ส่วนชื่อเราก็จำไม่ได้ ใครมีครบทุกเล่มไปหามาหน่อย !! ปล. เป็นกระทู้แฟนพันธ์แท้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 13:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 44 S-F Magazine นิตยาสารที่ตีพิมพ์ Science fiction ในญี่ปุ่นค่ะ อาจารย์ Fujiko Fujio เขียนเรื่อง  "ดวงเฮงๆของโดะจิตะ โดะจิโร่" ลง ฉบับพิเศษเดือนพฤศจิกายน ปี 1970 ภาพ S-F magazine ค่ะ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 13:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่อง คุณซุปเปอร์ ได้ลงนิตยสารการ์ตูนเด็กผู้หญิงอย่าง Shojo comic ด้วย (Shojo comic มีการ์ตูนจำพวกของ มายู ชินโจ ผู้เขียนจังหวะร๊อค ดนตรีรักเป็นต้น) ภาพ Shocomic เล่มแรกๆ จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 13:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้ดีครับ แต่มีข้อมูลบางอย่างคลาดเคลื่อนไปจากที่ผมรู้อ่ะ ผมขออนุญาตไล่แนะนำไปตามคคห.นะครับ ก่อนอื่นเลยก็ เจ้าหนูอะตอม ไม่ใช่ผลงานของอ.ฟุจิโกะครับ เป็นของอ.เท็ตซึกะ โอซามุ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็คืออ.ฟุจิโกะแค่เคยไปช่วยทำในส่วนอะนิเมะแค่นั้นเองครับ เข้าใจว่าจขกท.รู้แล้วว่าไม่ใช่ใน #33 แต่กลับไป Edit ตรงเนื้อหากระทู้ก็ดีนะครับ เผื่อคนมาอ่านไม่รู้จะเข้าใจผิด แล้วก็การ์ตูนเรื่องสั้นนี้ไม่น่าจะมีถึงเป็นพันตอนนะครับ ขนาดโดราเอมอนที่เขียนติดต่อกันจริงๆจังๆมายาวนานยังมีแค่ 1000 กว่าตอนเองครับ เหอะๆ #2 ไม่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณครับ แต่เป็นการสลับความทรงจำกันของทั้งสองร่าง จริงๆมันก็คือๆกัน แต่ผมว่าใช้คำว่าวิญญาณมันดูไม่ค่อยเป็น Sci-Fi อ่ะ ^^" #11 ถ้าเอาเวลาจริงๆโดราเอมอนตอนแรกจะเริ่มตีพิมพ์ในปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) เดือนธันวาฯครับ แต่รู้สึกว่าหัวนิตยสารนั้นจะเป็นเล่ม 1 ของปี 1970 ข้อมูลบางที่เลยคลาดเคลื่อนไป แล้วก็อะนิเมะโดราเอมอนซีรี่ย์แรกที่ฉายในปี พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ซึ่งเป็นของ Nippon Television นี่ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนะครับ ทำฉายต่อเนื่องไปแค่ 52 ตอนเท่านั้นในเวลาแค่ 5 เดือน อะนิเมะโดราเอมอนที่โด่งดังจริงๆเป็นของ Shin-Ei Animation (ปัจจุบันคือ TV Asahi) ที่เริ่มฉายในปี พ.ศ.2522 (ค.ศ.1979) ต่างหากครับ ชุดนี้ฉายต่อเนื่องถึง 26 ปี มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 1095 ตอน ถือได้ว่า"จบชุด"ในเดือนมีนาฯปี 2005 แต่ในเดือนถัดไปก็มีชุดใหม่ออกมาฉายต่อเนื่องกันไป ที่ถือว่าเป็นชุดใหม่ก็เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทีมพากย์, ทีมงานไปเป็นคนละชุด ลายเส้นก็มีปรับเปลี่ยนไปด้วยครับ ชุดนี้ยังคงฉายอยู่ในปัจจุบัน #12 ข้อมูลที่ผมมี ทั้งคู่แยกกันในปี พ.ศ.2531 (ค.ศ.1988) อ่ะครับ แล้วก็ตอน สงครามหุ่นเหล็ก ที่คุณว่าหาไม่ได้นี่ผมคุ้นๆว่า ROSE ทำออกมาแล้วนะครับ #13 ข้อ 6 ข้อมูลใน Starpics เล่มนั้นผิดครับ อย่างที่ผมบอกข้างบน ทีมพากย์โดราเอมอนมีการเปลี่ยนแปลง"ยกชุด"ครั้งนึงเมื่อปี 2005 ครับ ขอยกตัวอย่างจากคนพากย์โดราเอมอนเปลี่ยนจากคุณ Nobuyo Oyama เป็นคุณ Wasabi Mizuta แล้วครับ Starpics เล่มนั้นออกปี พ.ศ.2549 (ค.ศ.2006) คงไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นปีนึงทีมพากย์ได้เปลี่ยนไปแล้ว #20 นั่นเป็นรวมเรื่องสั้นคนละชุดกับ Path of Fujiko F Fujio ครับ ที่ NED ทำตอนนี้คือที่คุณโพสต์ใน #24 ซึ่งก็ทำตามญี่ปุ่นเป๊ะเลยนิ #39 ตอนแรกเป็นผลงานร่วมกันในชื่อ Fujiko Fujio ครับ แต่ผมเดาว่าคนที่เป็นแกนหลักจริงๆในด้านลายเส้นและเนื้อเรื่องคงเป็น อ.ฮิโรชิ พอทั้งคู่แยกกันจึงมีการแบ่งเครดิตกัน และเครดิตในเรื่องโดราเอมอนก็คือ อ.ฮิโรชิ หรือ Fujiko F Fujio นั่นเอง #43 ผมคุ้นๆว่าคนนั้นมีชื่อนะครับ แต่จำไม่ได้เหมือนกันแฮะว่าชื่ออะไร และคนคนนั้นเป็นตัวละครที่มาแทนซูเนโอะเลยละครับ แต่จะโผล่มาในเรื่องตอนที่โดเรมีอยู่กันโนบิตะ แทนที่จะเป็นโดราเอมอน ลองสังเกตดูตอนที่โดเรมีมาอยู่กับโนบิตะโดยไม่มีโดราเอมอนอยู่ จะไม่มีซูเนโอะแต่จะเป็นคนนี้แทน ~ What I Thought was Beautiful, Don't Live Inside of You Anymore ~ จากคุณ : Enixma - [ 4 ม.ค. 52 14:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #43 หมอนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับซึเนโอะครับ ชื่ออะไรจำไม่ได้หรอก แต่เป็นเพื่อนคนนึงของพวกโนบิตะ ออกมาในอีกตอนที่เป็นเรื่องตอนที่โดเรมีมาอยู่แทนโดเรมอนด้วย ตอนนั้นพวกโนบิตะจัดโต้วาทีเรื่องเนสซีมีจริงหรือไม่ แล้วโนบิตะโดนนายคนนี้ พูดโต้จนเถียงไม่ออกเลยเจ็บใจ ให้โดเรมีไปพาเนสซีจากล็อกเนสมาที่สระในสวนสาธารณะจริงๆ ให้นายคนนี้ดู ปรากฏว่าตอนนั้นนายคนนี้ไปบ้านญาติ แล้วเอาเนสซีมาได้แค่คืนเดียว นายคนนี้เลยไม่ได้ดู แต่ไจแอนท์ที่นอนไม่หลับแล้วมาเดินเล่นได้ดูแทน ตอนจบนายคนนี้เลยโดนไจแอนท์อัดเพราะไม่ยอมเชื่อเรื่องเนสซีมีจริงๆ อยู่ประมาณเล่ม 5 น่ะครับ จำชื่อไม่ได้หรอก แต่ยืนยันว่านายคนนี้ไม่ได้เป็นญาติกับซึเนโอะแต่อย่างไร แล้วน้องซึเนโอะที่ไปอยู่กับลุงก็ไม่ใช่คนนี้ครับ นั่นออกมาตอนปลายๆแล้ว edit : จำได้แล้ว รู้สึกจะชื่อ ซุรุกิ นะครับ ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่พูดถึงข้างบนคือตอน เนสซีมาแล้ว ในเล่ม 5 ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 19:40:23 จากคุณ : ... (Chineseman) - [ 4 ม.ค. 52 14:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 #46 เย้ ว่าแล้วคุณ Enixma ต้องมา (เพราะส่วนหนึ่งอ่านมาจากกระทู้คุณเหมือนกันค่ะ ) รู้เยอะมากเลย อยากทราบอายุจัง ฮ่าๆ (เกี่ยวไหม?) ขอบคุณที่ช่วยอีดิทเพิ่มเติมมากๆเลยค่ะ .. #47 อ่า เหมือนเราอวดฉลาดเลยแหะ (หน้าแตก) แต่เข้าใจว่าอย่างงั้นจริงๆค่ะ ดูหน้าตาสิ เหมือนโอะชมัด ! จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 15:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วทำให้นึกถึงเพื่อนเก่าจริงๆ วันหวานเมื่อครั้งตอนเป็นเด็ก อีกเรื่องก็นึกย้อนเวลาไปปี2539 ตอนนั้นผมนั่งรถไฟมาเที่ยวกรุงเทพ จำได้ว่านั่งตรงข้ามคุณญี่ปุ่นหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เวลาหลายชั่วโมงไม่มีอะไรทำ เลยชวนเค้าคุยด้วยภาษาอังกฤษง่อยๆเท่าที่จะพูดได้ พูดไปพูดมาไม่มีเรื่องจะพูดผมก็เลยหยิบการ์ตูนโดราเอมอนฉบับภาษาไทยออกมาให้เค้าดู เคาสนใจมากๆถามนั่นนี่ วิธีการอ่าน แล้วผมเลยบอกเค้าว่าเพิ่งได้ข่าวว่าคนวาดตายแล้ว เค้าตกใจมากๆๆ เพราะไม่รู้เรื่องเลย จากคุณ : นายเบียร์ - [ 4 ม.ค. 52 15:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 :) จากคุณ : city of the damn - [ 4 ม.ค. 52 15:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาเก็บข้อมูลดีๆ จากคุณ : mimitang - [ 4 ม.ค. 52 19:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 นักเขียนคนโปรดเลยครับ ว่าแล้วก็ไปค้นโดราเอมอนออกมาอ่านดีกว่า >_< จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" - [ 4 ม.ค. 52 19:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #48 อายุผมเหรอ จริงๆกดดูอมยิ้มผมเลยก็ได้นะ แต่บอกตรงนี้เลยก็ได้ พอดีแอบกดดูอมยิ้มคุณมาถ้านั่นคือวันเกิดคุณจริงๆก็อายุมากกว่าคุณ 5 ปีครับ แก่แล้ว อิอิ ^^ ว่าแต่ใน #12 ที่คุณว่าตอนยาวตอน สงครามหุ่นเหล็ก ฉายตอนคุณอายุ 2 ขวบนี่ลบผิดรึเปล่าอ่ะ จะบอกว่าฉายก่อนคุณเกิด 2 ปีรึเปล่า ~ What I Thought was Beautiful, Don't Live Inside of You Anymore ~ จากคุณ : Enixma - [ 4 ม.ค. 52 23:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ บอกว่าตัวเองแก้แล้ว กดเข้าไปตกใจ ... เด็กกว่าตรู จากคุณ : Dr.boyze - [ 5 ม.ค. 52 09:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จากคุณ : badhermit - [ 5 ม.ค. 52 10:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เคยเช่าวีดีโอมาแล้วเสียงโดราเอม่อนไม่ใช่เสียงเดิม มันเซ็งเลยอ่ะ เหมือนไม่ได้ดูโดราเอม่อนเลย จากคุณ : NoThink - [ 5 ม.ค. 52 11:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อ้าว...มีเล่ม 4 ด้วยเหรอ กำ นึกว่ามีแค่ 3 เล่ม เดี๋ยวต้องไปตามหาโดยด่วน จากคุณ : DEDETE - [ 5 ม.ค. 52 11:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สรุปก็คือ ผมว่า "ลาก่อนโดเรม่อน" น่าจะเป็นตอนจบ ที่เป็นความต้องการของผู้เขียน .. เพียงแต่ไม่เป็นทางการเพราะนักอ่านต้องการให้เขียนต่อ จากคุณ : สุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม - [ 5 ม.ค. 52 11:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 5 ม.ค. 52 12:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 #54 แก่กว่าจขกท.ไง อิอิ ^^ #57 เล่ม 4 เพิ่งออกครับ และอย่างที่บนๆบอกชุดนี้มีทั้งหมด 8 เล่ม ~ What I Thought was Beautiful, Don't Live Inside of You Anymore ~ จากคุณ : Enixma - [ 5 ม.ค. 52 12:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุ้นเคยกับ เสียง ทีมช่อง 9 มากที่สุด ดูตั้งแต่อยู่ ป.1 เมื่อปี 2525 แต่ก็ อยากลองดูโดราเอมอน ที่ให้เสียงภาษาไทยโดยทีม  พันธมิตร จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 5 ม.ค. 52 13:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากมากค่ะ ชอบมาก ขออนุญาตนำไปให้เพื่อนสมาชิกโดราเอม่อนได้อ่านกันนะคะ จากคุณ : kookjung - [ 5 ม.ค. 52 14:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 63 #61   พันธมิตรเลย จะดีเร๊อ .. ปล. คิดเอาเอง ฮ่าๆ จากคุณ : city of the damn - [ 5 ม.ค. 52 22:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้ดีดีเยอะแฮะช่วงนี้ ขอบคุณจขกท นะครับ ^-^ จากคุณ : P Q BOY - [ 6 ม.ค. 52 12:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 65 กลับมาอ่านอีกรอบ.. อืมๆ..เล่าไกลกว่าที่จะเฉพาะเรื่อง SF ซะแล้วแหะ งั้นว่างๆจะมาช่วยเสริมนะครับ.. จากคุณ : granun - [ 7 ม.ค. 52 23:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แอบเอามาแจมบรรยากาศด้วยแล้วกัน ประเดิม.. ปกเล่ม 1 ของ จขกท.กับของผมต่างกันหน่อยนะ แต่เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าคอ SF จริงมะ.. จากคุณ : granun - [ 7 ม.ค. 52 23:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชุดเล่มแรก ผมจะชอบเรื่องจานเด็ดของมิโนเทารอสเป็นพิเศษ เพราะมันสะท้อนมุมมองที่แตกต่าง มันบ่งบอกว่ามนุษย์นิยมเอาความคิดเห็นของตนเอง เป็นบรรทัดฐานว่าถูกต้องเสมอ อีกเหตุผลหนึ่งเพราะตัวละครในเรื่อง ถอดแบบมาจาก 21 เอมอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดในช่วงวัยเด็ก เนื่องจากผมทำงานพิเศษหารายได้เองตั้งแต่ ม.ปลาย จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 00:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ที่จริงแล้วถ้า SF พิมพ์ยังไม่จบ ผมกะว่าจะยังไปสปอยอะไรเด็ดขาด มันคืออรรถรสที่คุณควรจะได้ และซึมซับด้วยการอ่านด้วยตัวเอง ทำความรู้จักกับ อ.ฟูจิโอ เอฟ ฟูจิโอะ หรือ อ. ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ ในอีกด้านที่คุณยังไม่รู้จัก และทึ่งกับพลอตอมตะของ อ. ที่ ร่วม 20 กว่าปีผ่านมาแล้วยังไม่ล้าสมัย ไว้อ่านแล้วค่อยๆมาแลกเปลี่ยน และมาคุยกันทีละเรื่อง จะยิ่งสนุกครับ แถมด้วยคิวทาโร่เล่ม 1 ที่เป็นแรร์ไอเท็ม ฉบับนี้เป็นฉบับที่ระลึกครับ จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 00:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่องราวของ อ.ฮิโรชิ และ อ.อาบิโกะ ที่ต่อจากนี้ ผมจะเรียกรวมว่า ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ มีความสัมพันธ์กับยุคต้นของการ์ตูนยุคคลาสสิค ที่ อ.เทตสึกะเริ่มต้นอย่างมาก รวมถึง อ.อิชิโนโมริ ด้วย เพราะแรงบันดาลใจจากการได้อ่าน ชินทาคาราจิม่า ตามไปอ่านคร่าวๆได้ที่นี่.. http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bbt&date=30-09-2008&group=17&gblog=21 อาจารย์ทั้งสามท่าน คือ อ.โอซามุ และ อ.ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ( อ.ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ และ อ.โมโตเอะ อาบิโกะ) มีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้ง เพราะแรงบันดาลใจจาก การ์ตูนญี่ปุ่นสมัยใหม่เรื่องแรกอย่างชินทาคาราจิม่า (เกาะมหาสมบัติ) คือการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อเส้นทางการ์ตูน ของ อ.ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ และ อ.โมโตเอะ อาบิโกะ จนมาเป็น นามปากกา ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ที่เรารู้จักกัน แถมยังมีเรื่องราวผูกพันมากมาย เช่น อ.โอซามุให้ห้องพักที่โทกิวะโซ ให้กับ อ.ทั้ง 2 และ เคยพาไปดูต้นฉบับผลงานของ ชินทาคาราจิม่า ที่เขียนไว้พันกว่าหน้า ก่อนที่จะตัดเหลือ สามร้อยหน้าสำหรับตีพิมพ์ เรื่องที่ อ.ทั้ง 2 ท่านช่วยเขียนต้นฉบับของ อ.โอซามุบนแท๊กซี่ และการตั้งสตูดิโอซีโร่ พร้อม อ.อิชิโนโมริ โชทาโร่ เพื่อมารองรับงานอนิเมชั่นยุคต้นของ อ.โอซามุ ก่อนที่จะตั้ง มุชิโปร แน่นอน..อนิเมเรื่องหนึ่งที่เป็นงานของสตูดิโอซีโร ่ก็คือ แอสโตรบอย หรือเจ้าหนูปรมาณู หรือ อะตอม แต่เจ้าของผลงานก็คือ อ.โอซามุ เทตสึกะ ครับ จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 00:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 นอกจากนั้น อ.ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ ยังร่วมกันทำ "ขบวนการสายรุ้ง" โดยมอบหมายให้ อ.อิชิโนโมริคุมงานด้านลายเส้น ส่วนเนื้อเรื่องโดย อ.ฟูจิโอะิ จัดจำหน่ายโดย โตเอะ http://blog.toei-anim.co.jp/anime_bb/2007/07/post_29.html ซึ่งต่อมามีผู้เข้าใจผิดกันมากเรื่องหนึ่ง เพราะเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ สตูดิโอซีโร่ ครับ ไม่ใช่ งานของ อ.อิชิโนโมริ โดยตรง แต่ก็เป็นงานที่ทำให้ อ.อิชิโนโมริ เด่นเป็นที่จับตามาก และออกมาทำงานของตัวเองหลังจากสตูดิโอซีโร่จบลง แต่อย่างไรก็ตาม คอคลาสสิกก็มักจะถือว่าเป็นงานของ อ.อิชิโนโมริด้วย เพราะลายเส้นที่คุ้นตาของ อ.อิชิโนโมริ จะจะกะตานั่นเอง จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 00:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หลังจากนั้น อ.โอซามุ ตั้งมุชิโปร อ.ฟูจิโอะก็เริ่มทำ ผีน้อยคิวทาโร่ ปาร์แมน ไล่มาตามลำดับ รายละเอียดไว้จะเล่าอีกในบลอกหลังแข่งแห่งปีจบนะครับ ส่วน 43 คือ คิโดริ ทาคาโอะ โดยมาแทนที่ซูเนโอะ โดยในเรื่องจะเรียกกันว่า คิโดริคุง หรือชื่อเล่น ที่ว่า ซึรึคิ (จอมเจ้าเล่ห์) โดยปรากฏตัวครั้งแรกเป็นตัวประกอบในโดราเอม่อนฉบับรวมเล่มที่ 4 ตอน'ผจญภัยใต้น้ำลึก' และเป็นตัวละครรองในฉบับรวมเล่มที่ 6 ตอน'เนสซี่มาแล้ว' และรวมเล่มที่ 11 ตอน'นักร้องเสียงทอง' อันนี้เป็นเกร็ดอันนึงที่คนไม่ค่อยรู้ครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 00:50:29 จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 00:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สำหรับ คห.39-40 ของคุณ JaCk SpArOw ช่วงยุคต้นของโดราเอมอน อ.ทั้งสองท่านช่วยกันเขียนครับ ช่วงนั้นปั่นต้นฉบับส่งถึง 4-5 สนพ. ทีเดียว เพียงแต่พลอตเริ่มต้นที่คิดจริงๆ คือ อ.ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ (Fujio F Fijiko) ที่พอคิดได้ก้โทรไปตาม อ.อาบิโกะกลับมา ช่วงนั้นสตูดิโอซีโร่ ยุบไปแล้ว ทั้งคู่แยกกันอยู่ครับ กลับมารวมทีมกันอีกครั้ง ช่วยกัน (ไม่มีผู้ช่วย) แต่โดยนิสัยของคุณญี่ปุ่น อ.อาบิโกะ จึงต้องการเวลาในการสร้างผลงานของตัวเองแท้ๆออกมาบ้าง ซึ่ง อ.ก็ทำสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่อง โปรกอล์ฟซารุ (เมืองไทยไม่ค่อยดัง) ในบ้านเราจะรู้จัก นินจาฮาโตริ ซะมาก (อีกเรื่องที่ผมชอบ คือเรื่องของเซลล์แมน ครับ) จากคุณ : granun - [ 8 ม.ค. 52 01:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณคนข้างบน เซียนมากๆ เลย >..< ปกแบบที่คุณมีนี่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลยใช่มั้ยคะ ? อยากรู้อีกเรื่องนึงไม่รู้จะไปถามใคร คือ เรื่องที่ไจดกะเขียน เช่น เรื่อง พบกันที่สายรุ้ง หรือ แคนดี้ อาจารย์เคยเขียนเป็นเล่มจริงแยกออกมาไหม หรือ มีตอนเต็มๆ รึป่าว อยากเห็นมากๆ คห.บน ถ้ามาเล่นตอบด้วยนะ ^^ จากคุณ : city of the damn - [ 8 ม.ค. 52 23:58:31 ]