ความคิดเห็นที่ 1 คงชวนเพื่อนๆ ออกน่ะค่ะ    คนอื่นก็ไปเตือนบ้างแต่เค้าคงไม่เชื่อเรา เพราะเค้าไม่รู้จักเรา  ขืนไปเซ้าซี้เค้ามากเดี๋ยวเค้าจะตบเอาเปล่าๆ ในคืนเค้าท์ดาวน์อย่างงั้น จากคุณ : GirlLoMo - [ 7 ม.ค. 52 20:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องแบบนี้เคยประสบกับตัวเอง อาจจะใกล้เคียง คือมีวันนึ่งที่ผมกำลังจะไปเรียนอีกตึกนึ่ง ตอนลงลิฟ ในมหาลัย ก็คุยกับเพื่อนว่า วันนี้ทำไมแสบๆตาจัง นอนก็นอนไว เพื่อนบอก เล่นเกมมากเปล่า? หัวเราะกันไป พอถึงตึก 7  ที่ผมต้องไปเรียน ผมก็เดินกับเพื่อน ขึ้นชั้น 2 เดินๆ อยู่ดีๆผมแสบตาเหมือนมีอะไรกระเด็นเข้าตา ก็บอกเพื่อน เฮ้ยๆ แปป อะไรมันเข้าตาวะ เพื่อนก็หยุด มามอง พอหันหลังมา หลอดไฟระเบิดบนหัวแตกลงมา ทำเอาเราตกใจกันมา ถ้าผมไม่เรียกเพื่อน เพื่อนคงโดนไปแล้ว เราก็เลยตกใจกัน ก็เลยคุยๆ กันทั้งวัน เรื่องแบบนี้ ไม่เชื่อก็ไม่ลบหลุ่จะดีกว่า จากคุณ : joe_utcc - [ 7 ม.ค. 52 21:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะพยายามบอกแน่นอน ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ...ขึ้นอยู่กับบุญทำกรรมแต่งของแต่ละคนแล้วแหละ ในทางกลับกัน ...ถ้าตัวเองรู้มาจากคนอื่น ว่าอาจจะมีไฟไหม้ที่นั่น ถึงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ...ก็จะเลือกเดินออกมาจากก่อนเหมือนกัน ถือคติ "กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ไหว" จากคุณ : leo-rocket - [ 7 ม.ค. 52 21:03:21 A:58.9.14.165 X: TicketID:199599 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บอกไปใครจะเชื่อ เจ้าของร้านจะมาเล่นงานเอา ทำธุรกิจเขาเสียหาย ไม่มีคนเข้าร้าน เกิดไหม้ขึ้นมาจริงๆ ตำรวจจะสงสัย รู้ได้ไง หาว่าเราวางเพลิงซะงั้น จากคุณ : DarkSlayer - [ 7 ม.ค. 52 21:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยคิดเหมือนกันเลย ว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไง จะบอกเค้ายังไง จะนิ่งดูดายก็ไม่ได้.. จะไปตะโกนบอกในร้านว่า จะมีไฟไหม้ เค้าคงหาว่าเราบ้า เเล้วอย่างที่ข้างบนบอก เดี๋ยวโดนเป็นผู้ต้องสงสัยอีก จากคุณ : จิ้งจกจัง (จิ้งจกจัง) - [ 7 ม.ค. 52 21:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเป็นการ์ตูน ผมจะไปโวยวาย บอกเจ้าของ และเจ้าของจะไม่สนใจ ผมจะโมโห ทำให้ทำอะไรบางอย่างไป เช่น ไปกว้านซื้อดอกไม้ไฟต้นเหตุมาทำลาย  แต่ว่าตกไปอันนึง และมีคนเก็บไป คนนั้นแหละที่จุดตอนเที่ยงคืน สิ่งที่ผมทำนั้นทำให้เกิดการจุดดอกไม้ไฟ ตอนเที่ยงคืน เท่ากับว่าคนที่ทำให้เพลิงไหม้คือผม ผมเห็นอนาคต แต่เปลี่ยนมันไม่ได้ การพยายามเปลี่ยนคือทำให้อนาคตเป็นอย่างที่ผมเห็นนั่นเอง นี่ตอบแบบเฉลิมไทยนะ ถ้าตอบแบบหว้ากอ หรือ ห้องสมุดต้องอีกแนว จากคุณ : REFRIG - [ 7 ม.ค. 52 21:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคงโทรไปแจ้งรถดับเพลิงก่อนไฟไหม้จะเกิดอ่ะครับ จากคุณ : Good night my dearest - [ 7 ม.ค. 52 21:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่จริงแล้ว ถ้าเราสามารถเห็นอนาคตได้ เราก็สามารถช่วยชีวิตทุกคนได้ โดยไม่จำเป็นต้องตะโกน โวยวายโหวกเหวก หรือ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เคยดูหนังแนว ตัวละครเห็นเหตุการณ์ในอนาคต แล้วพยายามแก้ไขมัน อาทิเช่น Butterfly Effect  หรือ The Dead Zone หรือ A Sound of Thunder หรือ Back to the Future ฯลฯ หนังเหล่านี้ ได้พูดถึงทฤษฎีที่ว่า การกระทำเพียงแค่ "เล็กน้อย" ในปัจจุบัน ก็สามารถส่งผลไปถึงทุกๆสิ่งในอนาคตได้ Butterfly Effect เชื่อว่า ถ้าผีเสื้อกระพือปีก ณ.ส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก จะทำให้เกิดพายุ ณ.ที่แห่งใดแห่งหนึ่งบนโลกได้ เปรียบเหมือนกับปรากฏการณ์ของโดมิโน (Domino Effect) สมมุติ หากเราเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า สาเหตุของไฟไหม้เกิดจากการจุดพลุ เราเพียงแค่ทำยังไงก็ได้ ให้พลุนั้นถูกจุดช้าลง 10 วินาที แล้วไฟก็จะไม่ไหม้   เพราะจังหวะเวลาที่จะก่อให้เกิดไฟไหม้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแล้ว   หรือ หากเราเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า ใครคือผู้ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ เราเพียงแค่ทำยังไงก็ได้ ให้คนๆนั้นเดินเข้ามาช้าลง 1 นาที แล้วไฟก็จะไม่ไหม้   เพราะจังหวะเวลาที่คนๆนั้นจะก่อให้เกิดไฟไหม้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแล้ว   แต่ทฤษฎีนี้ สามารถจะใช้ได้กับ "อุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด" เท่านั้น หรือพูดง่ายๆคือ "สิ่งที่คนไม่สามารถกำหนดได้" เพราะถ้าเป็นสิ่งที่คนตั้งใจทำให้เกิด ทางเดียวที่ทำได้คือ ต้องไปหยุดคนๆนั้นโดยตรง ตามทฤษฏีของ Minority Report แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 22:12:12 จากคุณ : แมลงปิศาจ - [ 7 ม.ค. 52 21:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเป็นแบบ Final Des นะ ผมยอมตายครับ คือง่ายๆ ถ้าเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า แล้วก็รอดออกมาจากเหตุการณ์นั้นได้ ทั้งที่ควรจะตาย แต่กลับไม่ตาย พอรอดไป ก็อย่างว่าละครับ ก็ต้องมาตายทีละคน ตามชะตา แล้วก็เกิดความไม่อยากตายอีก ก็ต้องโกงความตาย ซึ่งมันยากมากที่จะรอด สุดท้ายเหลือพระเอก+นางเอก ตลอด จากคุณ : Walker G-543 - [ 7 ม.ค. 52 21:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ฉันใดฉันนั้น   ถ้าตามทฤษฎีของ Final Destination ซึ่งเป็นทฤษฎี "ถึงที่ตาย" แม้ว่าเราจะพยายามปรับเปลี่ยนอนาคตยังไง หายนะก็จะต้องเกิด ในภาคสาม แม้ว่าคนที่ถือกล้องวีดีโอ (ต้นเหตุทำให้รถไฟเหาะตกราง) จะถูกพาลงจากรถไฟเหาะแล้ว แต่รถไฟเหาะก็ยังตกรางอยู่ดี ดังนั้น แม้ว่าเราจะหยุดคนที่จะทำให้ไฟไหม้ได้ หรือกำจัดพลุที่จะทำให้ไฟไหม้ได้ "แต่ความตายก็จะต้องหาทางทำให้เกิดไฟไหม้อยู่ดี" ขณะเดียวกัน ถ้ายึดตามทฤษฎีของ Final Destination แบบสุดโต่งจริงๆ บุคคลที่เราช่วยให้เขารอดพ้นจากความตาย ทุกๆคนก็จะต้องถูก "ความตาย" มาทวงคืนทีหลัง เหมือนกับว่า ธรรมชาติได้กำหนดมาแล้วว่าบุคคลคนนี้ๆจะต้องตายด้วยสาเหตุนี้ ในวันนี้ เวลานี้ การเข้าไปแก้ไขอนาคต เป็นสิ่งที่ธรรมชาติไม่ยอมรับ และจะหาทางทำให้กลับเป็นแบบเดิมในที่สุด แต่ก็นั่นแหละ ทฤษฎีของ Final Destination มันเหนือธรรมชาติไปหน่อย ซึ่งเชื่อถืออะไรไม่ได้นัก ส่วนเรื่องการรู้อนาคตล่วงหน้า แล้วไปแก้ไขอนาคตใหม่ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 22:24:54 จากคุณ : แมลงปิศาจ - [ 7 ม.ค. 52 21:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โทรไปบอกตำรวจว่ามีการขู่วางระเบิด ในซานติก้า จากคุณ : Happy Member - [ 7 ม.ค. 52 22:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คงไปแย่งไมค์บนเวที แล้วบอกว่ามีทางออกกี่ทาง ถ้าใครออกไม่ทันให้ไปรวมที่ห้องน้ำ ถ้าใครหาห้องน้ำไม่ทันให้คลานหาทางออกห้ามเดิน ปล. ถ้าเรารู้ก่อนคงดี จากคุณ : ป้าซื่อตรง - [ 7 ม.ค. 52 22:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จะชวน ๓ คน นั่นไป จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน - [ 7 ม.ค. 52 22:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆแล้ว แฟนผมเห็นเป็นลางๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรแบบนี้.... คืนนั้น(วันที่31) ขับรถผ่านตอน 5 ทุ่มกว่า ผมเห็นว่ามันดูน่าสนใจดี น่าเข้าดี มีคอนเสิร์ตโจอี้ ด้วย แต่ว่าแฟนผม บอกว่าทำไมดูมันมืดๆร้างๆ เหมือนไม่มีใครอยู่ ดูน่ากลัวๆจัง .....ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะเกิดถึงขนาดนี้ .....พอได้ยินข่าวตอนเช้าก็ตกใจมาก "เฮ้ย gu เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนเอง!" จากคุณ : แด่เธอ... (ผู้ให้รักมีมิติ) - [ 7 ม.ค. 52 22:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิดว่าถ้าเราบอกแล้วทุกคนเชื่อ ไฟก็จะไม่ไหม้ค่ะ เพราะไม่มีคนอยู่ในผับ ไม่มีคนจุดพลุ แล้วเราก็จะโดนคนหัวเราะเยาะอยู่ดีค่ะ จากคุณ : Kotoko_ChaN - [ 7 ม.ค. 52 22:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องจริงมันยาก ที่จะทำให้คนเชื่อเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นผม ผมจะดึงเพื่อนออกมาก่อน เพราะอย่างน้อยเพื่อนก็น่าจะฟังเรา จากคุณ : Gonzii_7 - [ 7 ม.ค. 52 22:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เหมือนเรื่อง 12 Monkeys เลยครับ แก้อนาคตไม่ได้ (หนังนานแล้วครับ .. Brad Pitt แสดงได้โรคจิตสุด ๆ) จากคุณ : Nemo2004 - [ 7 ม.ค. 52 23:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ก็คงบอกเพื่อนๆก่อน แล้วก็อยู่ใกล้ประตูก่อน พอเกิดเหตุจะได้เรียกคนข้างนอกมาช่วยคนข้างในได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ตื่นเต้นมาก แล้วรีบโทรหาตร. / ดับเพลิง / กู้ภัยมาให้เร็วขึ้นอีก ช่วยได้ไม่หมด แต่ก็ยังรู้สึกดีที่ได้พยายามช่วยค่ะ จากคุณ : thejkpb - [ 7 ม.ค. 52 23:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไประเบิดหม้อแปลงผับก่อนเวลา Count Down เพื่อตัดไฟฟ้า เก็บเหตุผลเอาไว้ตลอดไป แล้วยอมเป็นแค่คนไม่ดีคนเดียวก็พอ จากคุณ : akinis (akinis) - [ 8 ม.ค. 52 00:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โทรไปขู่วางระเบิด ดีมะ จากคุณ : Ohm CEM - [ 8 ม.ค. 52 00:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ารู้ก่อนล่วงหน้าก็ต้องบอกแหละ อย่างคนรู้จักที่ไปด้วยกัน หรือต่อให้เป็นคนแปลกหน้าก็ตาม แต่ใครจะเชื่อเราหรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่บุญกรรมของเขา เพราะบางคนถ้าเขาจะถึงฆาตจริงๆก็คงจะไปห้ามไว้ไม่ได้ จากคุณ : tokei/tookei - [ 8 ม.ค. 52 01:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คิดเหมือน 11 กับ 20 ทำยังไงก็ได้ให้เขาออกมากันก่อน เกิดไม่เกิด ค่อยว่ากันอีกที แต่ที่สำคัญ ถ้ามันเห็นได้จริง ผมอาจจะยังไม่เชื่อ ว่ามันจะเป็นจริง นอกจาก จะเห็นล่วงหน้าแบบนี้บ่อยๆ ถึงจะออกจากร้าน จากคุณ : whutzy - [ 8 ม.ค. 52 08:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หาเรื่องใหญ่ๆเบี่ยงประเด็น เช่น ขู่วางระเบิด  หรือ ทำเป็นพบกล่องที่น่าสงสัยไรเงี้ย เพราะถึงบอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ หาวิธีอื่นที่น่าจะได้ผลดีกว่า จากคุณ : Mint-Mint555 - [ 8 ม.ค. 52 08:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นึกถึง เรื่องการเตือนสึนามิ ของ ดร.สมิทธ สิครับ คราวนั้น ดร.โดนไปไม่ใช่น้อย จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 8 ม.ค. 52 09:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คงพยามยามเตือนเรื่องจุดพลุในผับค่ะ ดูจะโดนหัวเราะตัวน้อยที่สุดแล้ว จากคุณ : ผีหลายบทบาท - [ 8 ม.ค. 52 10:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อาจจะแอบเข้าหลังร้านแล้วสะกิดบอกแม่บ้านหรืออะไรแถวๆ นั้น ทำให้เขาโวยวายตกใจเผื่อว่าจะทำให้คนในร้านเขาตกใจหรือพิธีกรตกใจ ใครก็ได้อ่ะ เพื่อให้เวลามันเกิดก่อน แต่ไม่มีไฟไหม้ไง อย่างน้อยก็อาจจะมีคนเหยียบกันตายแต่ก็อาจตายไม่เยอะขนาดนี้ (ความคิดส่วนตัวนะ) จากคุณ : ยำใหญ่ใส่แหลก - [ 8 ม.ค. 52 13:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อนาคตเกิดขึ้นเพราะเราเห็นมัน และเราทำตามนั้น Paycheck จากคุณ : CARAGIO - [ 8 ม.ค. 52 13:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โทรขู่วางระเบิด น่าจะดีกว่าทำอย่างอื่น .. แต่ว่าเจ้าของร้านจะมาบอกลูกค้าหรอ  ถ้าเราโทรขู่วางระเบิดจริงๆๆ จากคุณ : NanA (mooyui_na) - [ 8 ม.ค. 52 13:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเกิดรู้ แต่คงแก้ไขอะไรไม่ได้ หรอก ชะตากำหนด จากคุณ : deedee - [ 8 ม.ค. 52 13:50:58 A:192.168.0.17 X:124.120.117.102 TicketID:190769 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ...อยากถามนิดนึงครับ ว่า ในแต่ละศาสนานั้น มีเรื่องของ "การต่อรองกับความตาย" ไหมครับ?                        (พอดีอ่านหลายๆ ความเห็นข้างบนแล้วก็มานึกว่า ความตายนั้นสามารถต่อรองได้หรือไม่ และแต่ละศาสนามีการกล่าวอ้างถึงไหมครับ เพราะไม่รู้เรื่องนี้น่ะครับผม...และคงจะน่าสนใจ หากศาสนามีแนวคิดเรื่องการต่อรองกับความตาย (แล้วการแก้กรรมนี้จะเป็นเสมือนการต่อรองกับความตายหรือไม่)...ขอบคุณครับ) จากคุณ : เอ๋taxiครับผม - [ 8 ม.ค. 52 14:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้ แค่อยากเล่าให้ฟัง.... เหตเกิดในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 08 (เวลาทั้งหมดโดยประมาณ) 21.00 - ชวนน้องสาว กับ แม่ ไป งานเคาท์ดาวที่ร้านแถวเอกมัยโดยไม่ได้คิดว่าจะไปร้านอะไรกะว่าพอไปถึงค่อยหาเอาดาบหน้า 21.45 - ผ่านหน้าร้าน ซานติก้า เห็นป้ายว่ามีงาน ผมตัดสินใจแน่นอน ว่าจะนั่งร้านนี้ แต่น้องสาวแย้งขึ้นมาว่า มีเพื่อนคอยอยู่ที่ร้าน Muzz ขอไปหาเพื่อนก่อนแล้วกัน 22.00 - ส่งแม่กับน้องที่ร้าน muzz  เสร็จ ก็เดินทางไปรับแฟนต่อ เพื่อที่จะกลับมาที่เดิม โดยจุดมุ่งหมายว่า จะกลับมารับแม่-น้อง ออกจากร้าน Muzz แล้วไปเค้าท์ดาวน์ ที่ ซานติก้า กัน .... ปล. ระหว่างเดินทางไปรับแฟนรู้สึกปวดหัวอย่างมาก โดยไม่ทราบสาเหต เกิดมาผมไม่เคยปวดหัวขนาดนี้มาก่อนเลยมั้ง แต่ไม่ได้สนใจอะไรมาก จากนั้นก็โทรศัพท์ไปนัดเพื่อน 3 คนให้มาเจอกันที่ muzz ตอนห้าทุ่มนะ เด๋วไปต่อ ซานติก้ากัน เพื่อนบอกอาจไปเลทนิดหน่อย เดี๋ยวพอถึงแล้วจะโทรหา... 23.00 - กลับมาถึงร้าน muzz คนเยอะมาก ๆ กว่าจะเดินเข้ามาถึงร้านได้แทบแย่ อึดอัด แถมปวดหัวหนักกว่าเดิมอีก แม่ถามว่าตกลงจะย้ายร้านมั้ย ผมก็บอก ตอนนี้ปวดหัวอยู่ ยังไม่อยากไป ให้เพื่อนทุกคนมาถึงก่อนแล้วกัน แล้วค่อยไป 23.50 - รู้สึกไม่สนุกเลยซักนิด เอะใจทำไมเพื่อนไม่โทรมาซักที เลยหยิบมือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่า มือถือผมดับโดยไม่ทราบสาเหตุ เอ้..ดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เราก็ lock ปุ่มเรียบร้อยแล้วนี่หว่า...(dopod818) มันไม่น่าจะปิดตัวเองได้นี่ ช่างมัน..... ว่าแล้วก็เครื่องเปิดใหม่ก็ พยายามโทรติดต่อเพื่อน แต่รู้สึกเหมือนสัญญาณจะล่มแล้วมั้ง... 00.00 - สรุปต้องอยู่ เค้าท์ดาวน์ที่ร้าน muzz พอเสร็จเรียบร้อย ก็ชวน แม่ แฟน และน้องสาว ออกจากร้านทันที คิดในใจว่าเพื่อนมันคงมาถึงแล้วแหละ จะได้ไปต่อซานติก้ากัน ออกไปหน้าร้านเจอเพื่อน มันก็โวย บอกว่าพวกตรูมาถึงตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้วเฟ้ย ติดต่อเมิงไม่ได้ หงุดหงิดฉิบ... แล้วตกลงจะเอายังไง จะไปไหนต่อรึปล่าว... ระหว่างนั่งคุยกันอยู่หน้าร้าน เพื่อนผมมันหยิบไฟแชคขึ้นมาจุดบุหรี่ ในเวลาเดียวกันกับที่ผมหยิบ paper shoot ที่แถมจากการซื้อ ticket เข้าร้าน muzz มาอวดมัน แฟนผมทำหน้าตกใจ บอกกับผมว่า "นี่ถ้าตอนเค้าท์ดาวน์แล้วยิงไอ้ paper shoot ไปโดนไฟ เค้าว่า ไฟต้องไหม้ร้านชัว ๆ เลย" !!! ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกสนใจในคำพุดเค้าเท่าไหร่ เพราะมัวแต่คุยกันว่าจะเอายังไงต่อดี หันไปถามแม่ แม่ก็บอกขอตัวกลับก่อนนะ หันไปถามน้อง น้องก็ว่า ขออยู่เที่ยวต่อกับเพื่อนที่นี่แหละ 0.00 นิดหน่อย - ผมและคนที่เหลือ เลยออกเดินทางกะไปเมาแก้ปวดหัวที่ ซานติก้า ซักหน่อย พอเดินทางไปถึงร้านไฟก็ไหม้พอดีเลยครับ เห็นแต่คนพยายามหนีเอาตัวรอดสภาพสบักสะบอม รู้สึกเสียวแปลบ ขึ้นมาในใจทันทีเลยครับ จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ยังคิดอยู่ตลอดเวลาเลยว่า ถ้าคืนนั้น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุ ผมอาจจะเสียทุกคนที่ผมรักก็ได้...... ขอบคุณมือถือที่อยู่ ๆ มันดับ ทำให้เพื่อนติดต่อผมไม่ได้..... ขอบคุณเพื่อนน้องสาวที่มันชวนครอบครัวผมไปนั่งที่ร้าน Muzz... ขอบคุณไอ้อาการปวดหัวที่ ทำให้ผมไม่ค่อยอยากจะเดินทางย้ายร้านในทันทีที่มาถึง..... ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออะไรก็ตาม ที่ทำให้ ครอบครัว แฟน เพื่อน และ ผม ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น ................................................................. ขอแสดงความเสียใจกับทุก ๆ ท่านที่สูญเสียคนที่ท่านรัก และขอให้ทุกท่านที่เสียชีวิตหลับอย่างสงบด้วยเถิด R.I.P. จากคุณ : pz4n3 - [ 8 ม.ค. 52 14:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้ารู้ก็คงไม่แก้อะไร เพราะผมก็คงยังไม่เชื่อตัวเองเท่าไหร่ ทำได้ก็คงแค่ไม่ไปที่นั่น จากคุณ : นายภูติ - [ 8 ม.ค. 52 16:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 วัน countdown ช่วง 23.00 น. ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ที่มีงาน มีคนทักเห็นกลุ่มควันหนา ออกมาจากยอดตึกโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ผสมกับเมฆที่ค่อนข้างต่ำ มองดูทมึนน่ากลัว ยิ่งเมื่อมีแสงไฟสปอตไลท์จากงานส่องไปโดน คนยิ่งมองเหมือน ไฟกำลังไหม้จากยอดตึก มีตำรวจมากระซิบบอกรปภ ของโรงแรมที่อยู่ด้านนอกว่าให้รีบตรวจสอบ ด่วนว่าเกิดอะไรขึ้น มีสัญญานเพลิงไหม้รึเปล่า? ผมยังคุยกับเพื่อนเลยว่า คงซวยฉิบ ถ้าไฟจะต้องมาไหม้เอาช่วงเวลานับ ถอยหลังสิ้นสุดปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ใจระทึกเชียว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจว่าเป็นควันที่ระบายออกจาก ปล่องของโรงแรม ซึ่งบางขณะมันก็ระบายควันออกมาค่อนข้างหนา อุปาทานครับ คือเมื่อลานตรงนั้นมีคนมาเป็นหลายหมื่น เต็มพื้นที่ ไม่มีทางให้รถดับเพลิง เข้ามาได้เลย ถ้าเกิดเพลิงไหม้จริง ผมสงสัยว่าคงต้องให้ไฟมันไหม้ไปแล้วล่ะ รถดับเพลิงเข้าไม่ได้แน่นอน (ไว้คราวหน้า ผู้จัดงาน ตำรวจ ควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วยครับ ผมไม่เห็นรถดับเพลิงที่มีกระเช้า/บันไดสำหรับตึกสูง มา stand-by แถวนั้นเลย) การสัพยอกกับเพื่อนเรื่องนี้ ก็ไม่คิดว่า หลังจากนั้นอีกกว่าสิบนาที จะมีคืนไฟไหม้สยองขวัญในอีกที่นึงไม่ไกล ผมยังได้ยินเสียงสัญญานไซเรน ก็นึกว่า คงเป็นวัยรุ่นตีกัน เขาบอกว่า ความล่าช้าจากการไปที่เกิดเหตุ ส่วนนึงเกิดจาก การจราจรที่ติดขัดเพราะการปิดถนนราชประสงค์จัดงาน เคาท์ดาวน์ด้วย แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 18:52:11 จากคุณ : ขี้หมูราขี้หมาแห้ง - [ 8 ม.ค. 52 18:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีคนรู้จักของคุณพ่อ อาศัยอยู่เมืองนอก เค้าฝันตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ว่าที่เมืองไทยมีไฟไหม้ผับ แล้วเห็นอักษร รูปตัว Z ใหญ่ๆ  พอตอนหลังได้มาเห็นหนังสือพิมพ์เลยตกใจใหญ่ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 23:13:00 จากคุณ : 529 แสมดำ - หมอชิต - [ 8 ม.ค. 52 23:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สุดยอดเลยครับ คห.31 โชคดีจริงๆ จากคุณ : Huapor Deknarok - [ 11 ม.ค. 52 02:13:06 ]