เพิ่งได้ "เกมพลิกโลก" กับ "วาทกะแด่ผู้ล่วงลับ" มาไม่กี่วัน อ่านเกมพลิกโลกไปได้พอสมควร
พล็อตและไอเดียนั้นยอดเยี่ยมมากทีเดียว แม้จะดูแปลกๆว่าเด็กอายุไม่กี่ขวบจะคิดทำอะไรได้อย่างตัวละคร
ในเรื่องจริงหรือ แต่ผมมองว่าคนเขียนต้องการมองเด็กในฐานะผู้ใหญ่ คือเขียนเรื่องของเด็กประหนึ่งว่าพวก
เขาเป็นผู้ใหญ่ ถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกของเด็กอย่างผู้ใหญ่
น่าสนใจดี ใครอ่านแล้วคิดอย่างไรกับประเด็นนี้ครับ? นี่ไม่ใช่การเขียนให้เด็กแก่แดด หรือให้ตัวละครเด็ก
เก่งกว่าผู้ใหญ่อย่างไม่มีเหตุผล (อย่างไรก็ตามเรื่องนี้วางไว้ว่าพวกเด็กๆเป็นอัจฉริยะอยู่แล้ว) แต่เป็นการ
ยอมรับความคิดของเด็กในฐานะที่เท่าเทียมกับผู้ใหญ่มากกว่า
แต่ที่ผมข้องใจมากจริงๆคือ เรื่องนี้ยอดขายไม่ดีเอาเลยหรือครับ??? ขนาดว่าเล่มสามต้องให้จองแทน
ไม่น่าเชื่อว่าจะขายไม่ได้ ทั้งพล็อตและสำนวนภาษาน่าจะเจาะตลาดวัยรุ่นได้ไม่ยากเลย
ผมเห็นว่าทั้งพล็อตและระดับภาษาของเรื่องนี้ สามารถเจาะกลุ่มนักอ่านวัยรุ่นได้สบายๆเลยทีเดียว
1 ตัวเอกเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่ไม่ได้เก่งพร้อมทุกอย่าง ต้องดิ้นรนต่อสู้ พัฒนาตัวเอง มีปมแย้ง ความสับสน
2 พล็อตเรื่องคล้ายแนวโรงเรียนที่กำลังเป็นที่นิยม
3 มีการต่อสู้ แอคชั่น เรื่องราวของสงคราม
4 ภาษาไม่หนักเลย อ่านง่าย คนเขียนเจตนาอย่างนั้น และคนแปลก็ทำออกมาได้ดีมาก ภาษาเหมาะสมกับ
เนื้อเรื่องที่เดินตามความคิดของตัวเอกที่เป็นเด็ก
ความแตกต่างใหญ่ข้อเดียวคือ นิยายนี้ไม่ใช่แฟนตาซี เจ้าชายเจ้าหญิง ไม่มีอาวุธในตำนาน ไม่มีพ่อมดปีศาจ
แต่เป็นเรื่องของเกมสงครามที่ realistic มากๆ ซึ่งผมว่าไม่น่าเป็นปัญหาที่ทำให้เจาะวัยรุ่นไม่ได้นะ ตรงกัน
ข้ามเลย มันจะเป็นแนวโรงเรียนที่แหวกแนว และน่าจะได้รับความสนใจจากวัยรุ่น อย่างน้อยๆก็กลุ่มวัย
ม.ปลาย-มหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน สนใจมากๆด้วยซ้ำ ทางสำนักพิมพ์ทำการตลาดพลาดรึเปล่า น่าจะ
พยายามทำตลาดวัยรุ่นตรงนี้ดูนะครับ
คือคอไซไฟรุ่นใหญ่ๆน่ะ แค่เห็นชื่อคนแต่งกับคนแปล ก็คงสนใจและซื้อกันแน่อยู่แล้ว แต่ตลาดก็ไม่ใหญ่มาก
ผมว่าน่าจะพยายามเจาะตลาดวัยรุ่นดูนะครับ น่าจะทำได้ไม่ยาก อย่างพวกเกมแนวสงครามทั้งหลาย คนเล่น
กลุ่มใหญ่ก็กลุ่มนี้แหละ
ถ้าทำตลาดตรงนี้ได้ ยังจะช่วยให้นักอ่านรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จัก "ของดี" อีกด้วย และอาจต่อยอดไปอ่านเรื่องอื่น
ต่อไป เหมือนเด็กไม่ชอบกินผัก แต่ชอบผักชุบแป้งทอด พอโตขึ้นก็สามารถทานผักได้เอง
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 18:42:45