เกี่ยวกับประเด็นข่าวฉาวของ "ต้อย แอ็คเน่อร์" ที่ปรากฎทางหน้าหนังสือพิมพ์ และเจ้าตัวก็ได้จัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ตามติดไปสอบถามความรู้สึกของอดีตภรรยา "ติ๋ม ทีวีพูล" และถามย้อนหลังถึงพฤติกรรมความเจ้าชู้ของ "ต้อย แอ็คเน่อร์" ซึ่งคุณติ๋มรีบป้องอดีตสามีว่า เป็นคนดี ดังนั้นจึงไม่เชื่อว่าจะลวนลามน้องโอ๋อย่างที่ตกเป็นข่าว
"เรามั่นใจในตัวเขาว่าไม่น่าจะทำอย่างนั้น เพราะเมื่อ 2 เดือนที่แล้วต้อยมาหาและบอกว่าจะแต่งงานมีครอบครัวใหม่ปีนี้ แสดงว่าเขามีเป้าหมายหลักของเขาอยู่แล้ว และเราก็อยู่ในวงการนี้ก็จะรู้ว่าเรื่องที่เขาจะอดอยากมันไม่มี (หัวเราะ) อย่างต้อย แอ็คเน่อร์ เรื่องอดอยากไม่มีแน่ เพราะเขาเป็นคนป๊อบปูล่ามีชื่อเสียง ขับรถสปอร์ต ดังนั้นเหตุผลอะไรที่เขาจะไปทำอย่างนี้ พี่ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ แต่ยังไงคงต้องให้ศาลตัดสิน เพราะพี่ไม่ได้เจอเขานานแล้ว และยังไม่ได้คุยกับเขาเรื่องนี้ และพี่ก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรจบแค่ยอมความกัน น่าจะให้ศาลเป็นคนพิสูจน์ว่าผิดจริงมั้ย ถ้าผิดจริงก็ควรได้รับการลงโทษ แต่ถ้าไม่ผิดก็ควรจะฟ้องกลับ"
ปกติเขาเป็นคนเจ้าชู้มั้ย? "ส่วนตัวต้อยเป็นคนสนุกสนาน เรื่องเจ้าชู้เขาไม่ได้เจ้าชู้จริงจังเป็นยักษ์มารหรือเฒ่าหัวงู และพี่ก็ไม่เชื่อด้วยว่าเขาจะเป็นแบบนั้น แต่เขาเป็นคนสนุกสนานและเอนเตอร์เทนคน คุยโจ๊กเก่งมีมุกมาก มันทำให้ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ สนุกไปด้วย และโลกก็สดใสตลอดเวลาคุยกับเขา พี่ก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า เพราะพี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทเขา แต่พี่ก็คิดว่าปกติจะมีคนจำนวนมากที่อยากเข้าวงการบันเทิง เพราะมันได้ทั้งชื่อเสียงเงินทองและการยกย่อง และวิธีการเข้าวงการบันเทิงก็มีหลายรูปแบบมาก บางคนอาจไปเดินตามห้างบ่อยๆ บางคนใช้ตัวเข้าวงการก็มี ต้องยอมรับว่ามันมีในทุกวงการ ซึ่งพี่เองก็ได้ถามทนายแล้ว เขาบอกว่าคดีอนาจารแบบนี้ถือว่าเล็กมากๆ ถ้าเป็นเรื่องจริงจะถูกปรับแค่ 5 พัน-2 หมื่นบาท แต่ที่สำคัญคือตัวต้อยเป็นคนมีชื่อเสียง มันเลยกลายเป็นเรื่องที่โด่งดังขึ้นมา"
คิดว่าน้องโอ๋ใช้ตัวเข้าแลกเพราะอยากดัง? "พี่ก็ไม่รู้เพราะไม่เคยเจอตัวเขา ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร รู้แต่ประเด็นข่าวที่ว่ามีการไปโอบ ซึ่งวิธีโอบเนี่ยตามกฎหมายไม่ใช่ว่าโอบแล้วจะผิดอนาจาร แค่พูดหรือส่งสายตาก็ผิด ถ้าเขาส่อเจตนาว่าจะมีอารมณ์ใคร่ด้วย ตามกฎหมายมันต้องดูที่ความตั้งใจ"
ปกติมีผู้หญิงเข้าหาคุณต้อยบ่อยมั้ย? "โอ๊ย....เรื่องผู้หญิงมีเป็นธรรมดาเยอะแยะอยู่แล้ว แต่ต้อยไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเขาคุ้นเคยกับแวดวงอย่างนี้ เรื่องแตะเนื้อต้องตัวพี่คิดว่าต้อยถือเป็นเรื่องธรรมดา เราต้องมาดูจุดประสงค์แล้วว่า เขาแตะเพราะต้องการอยากร่วมใคร่หรืออะไรหรือเปล่า ซึ่งถ้าวันไหนมีโอกาสได้คุยกับเขา พี่ก็คงแนะนำเขาว่า ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ต้องฟ้องร้องกลับ เพราะเสียชื่อเสียงมาก และควรฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและทางอาญาด้วย และควรจะเช็คประวัติของอีกฝ่ายด้วยว่า มีอะไรบ้างที่จะนำมาสืบในศาลได้"
แต่เรื่องชักบานปลายเพราะมีนักศึกษามาประท้วงคุณต้อยด้วย? "ม็อบสมัยนี้ก็มีหลายแบบก็ต้องดูว่าเป็นม็อบจริงหรือปลอม ซึ่งอันนี้อาจจะจริง แล้วสังคมต้องยอมรับว่าเวลาผู้หญิงมีเรื่องกับผู้ชาย สังคมจะเข้าข้างผู้หญิงไว้ก่อน แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ อยากให้ทุกฝ่ายอย่าเพิ่งเชื่ออะไร ต้องให้ระบบศาลช่วยและฟังความกันหลายๆ ฝ่าย ต้องเช็คประวัติผู้หญิงด้วยว่าเป็นยังไง เรื่องราวเป็นยังไง ต้องคิดด้วยไม่ใช่ฟังแล้วเกิดกระแสตามคนอื่น ทุกวันนี้ต้อยก็ยังไม่ผิดนะ เขาเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา ต้องไปสู้กันในศาลว่าเขาทำจริงมั้ย ดูจุดประสงค์ว่าทำเพราะความใคร่หรือถูกเนื้อต้องตัวเพราะความเอ็นดู เราก็ไม่รู้ว่าเขาทำจริงหรือเปล่า"
ตอนแรกทราบว่าโกรธคุณต้อยมากเรื่องรถสปอร์ตที่ตกเป็นข่าว? "จริงๆ พี่ไม่ได้เป็นคนเหนียวของ บางทีคนอื่นก็มายืมไม่ใช่แค่ต้อย เพราะบ้านพี่มีรถหลายคันมาก แต่บังเอิญรถคันนี้เป็นรถของลูก และตอนนี้ลูกพี่ไปเรียนที่อังกฤษเลยไม่มีคนใช้ ตอนไหนที่ต้อยรถเสียก็จะมาขอยืมรถพี่ไป แล้วครั้งนี้เขายืมสปอร์ตไปเพราะเป็นรถป้ายแดงเพิ่งออกมา เขาก็คงอยากจะลองรถใหม่ๆ ก็ยอมรับว่าเสียความรู้สึกนิดหน่อยถ้าเผื่อเขาเอารถไปขับไม่ใช่เพราะเรื่องธุระ แต่จะเอาไปจีบสาว พี่คิดว่ามันไม่สมควรเพราะเป็นรถของลูก แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไรมากและเชื่อว่าเขาไม่น่าจะทำ"
แล้วเรื่องอับอายกับข่าวถึงขนาดไล่คุณต้อยไปเปลี่ยนนามสกุลล่ะ? "เรื่องนามสกุลพี่เคยพูดกับเขานานแล้ว เขาใช้นามสกุลพี่เมื่อตอนแต่งงานกันใหม่ๆ แล้วตอนที่เลิกกันเมื่อ 14 ปีที่แล้วพี่ก็อยากให้เขาเปลี่ยนนามสกุล สังคมจะได้รับรู้อย่างเร็ว แต่เขายังให้เหตุผลว่าอยากใช้นามสกุลเดียวกับลูก พี่ก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแต่ แต่ทีนี้เมื่อเขาจะมีครอบครัวใหม่แล้ว และต้องมีลูกด้วยกัน พี่เลยคิดว่าเขาน่าจะเปลี่ยนนามสกุลใหม่และสร้างครอบครัวใหม่ เพราะครอบครัว "สกุลชัย" เป็นครอบครัวของดิฉัน เขาก็ตอบโอเค.ว่าจะไปทำแต่ไม่ได้ทำสักที ดังนั้นคงไม่เกี่ยวว่าพี่อับอายเลยต้องไล่เขาไปเปลี่ยนนามสกุล"
ที่มา : http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/18378
นักข่าวรีบสรุปแล้วพาดหัวข่าวเชียว แต่คุณติ๋มเองก็พูดไม่ได้เห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันเลย เข้าข้างพ่อของลูกตัวเองอยู่นั่นแหละ
แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 52 09:34:03
"ติ๋ม ทีวีพูล" ป้องอดีตผัว "ต้อย" ไม่เจ้าชู้ คาด "น้องโอ๋" เอาตัวเข้าแลกอยากดัง
... เข้ามาดู
