|
## ฟ้าใส ใจชื่บาน ## กับการวิจารณ์แบบชาวบ้านก่อนหนังออกโรงค่ะ ( สปอยล์)
วันนี้เพิ่งได้มีโอกาสไปดูหนังที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเดินเข้าโรงไปดูเรื่องนี้มาก่อน เพราะหน้าหนังตัดออกมาได้ไม่ดีเอาเสียเลย แต่ที่ทำให้ตัดสินใจไปดูได้ก็เพราะพันทิปนี่แหละ รวมถึงมีเพื่อนที่ไปดูมาแล้วเชียร์และยุส่งเหลือเกินเลยเอาวะดูก็ดู หนังใกล้ออกเต็มทีแล้วนี่นา วันนี้ไปดูก็มีคนในโรงแค่ 6 คนเอง
ขอออกตัวก่อนค่ะ ว่าเป็นแค่คนดูหนังธรรมดา ไม่ใช่นักวิจารณ์ และไม่รู้ขั้นตอน ภาษาหนังอะไรทั้งนั้น ไม่สามารถตัดสินหนังเรื่องไหนว่า ดี หรือ ไม่ดีได้ รู้แต่ชอบกับไม่ชอบ ตามประสาคนดูหนังคนนึงเท่านั้นค่ะ ( เดี๋ยวนี้ก่อนโพสอะไรในเฉลิมไทย ต้องออกตัวเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย 55555 )
ต่อไปนี้ เป็นการวิจารณ์แบบชาวบ้านๆ เพราะฉะนั้นอาจมีการสปอยล์บ้างตามความรู้สึกคนดูที่อยากจะเล่าอ่ะนะ ( ใครยังไม่ได้ดู และไม่อยากรู้เรื่องล่วงหน้า คิดว่าการสปอยล์จะทำให้การดูหนังของคุณสนุกน้อยลงล่ะก็ปิดไปก่อนเลยค่ะ ดูจบแล้วค่อยมาคุยกัน แต่ถ้าใครอยากอ่านก่อนก็ไม่ขัดข้อง แต่อย่ามาว่ากนทีหลังน้า...
" ผมไม่เชื่อว่าการปกครองแบบไหน ที่จะทำให้ผมมีความสุขได้ เพราะผมเชื่อว่าความสุขมันเกิดขึ้นจากตัวผมเอง "
โอ๊ยยยยย เป็นประโยคที่เท่ห์มากๆๆ ในความรู้สึกของเราและมันทำให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นหนังที่มี "อะไร" ขึ้นมาทันที แค่ประโยคประโยคนึงในหนังยกหนังขึ้นมาได้เยอะทีเดียวแหละ
หนังเริ่มจากการปูพื้นฐานของตัวละครหลัก 5 คน โดยคนแรกคือฝั่งนางเอกที่รักพวกพ้องและหัวรุนแรง มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการทำเพื่อประชาชน ส่วนฝั่งพระเอกอีก 4 คน ( พระเอกเรื่องเหมืองแร่ , ค่อม, อ่าง, ฝันเด่น ) ก็เป็นแค่ปุถุชนธรรมดาที่เพียงอยากหาความสุขให้กับชีวิตเท่านั้น ซึ่งดูแล้วมันไม่น่าจะมาบรรจบกันได้เลยใช่ไหมค่ะ
แต่มันก็มาเจอกันได้พร้อมกับความฮา ความบังเอิญเป็นจุดเริ่มต้นของหนังเสมอ เหตุก็แค่พวกพระเอกอยากไปเที่ยวป่า แต่ดั๊นบังเอิญตกรถ และโชคชะตาก็ทำให้พวกของพระเอกต้องมาขึ้นรถอีกคันซึ่งรถคันนั้นผู้โดยสารไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เป็นพวกพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอุดมการจะปลดแอกประชาชน หนังเล่าเรื่องได้จากภาพที่ฮามากๆ บางอย่างแทบไม่ต้องใช่ประโยคพูดเลย แค่ภาพก็ฮาแล้ว สถานการณ์ตอนที่กลุ่มของพระเอกต้องตกกระไดพลอยโจนมารวมอยู่กับกลุ่มคอมมิวนิสต์เนี่ย อย่างฮา
ในขณะที่กลุ่มเพื่อนๆ ออกจะกลัวแต่พระเอกกลับรู้สึกสนุกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แล้วไอ้พวกป่วนทั้ง 4 ก็มาทำให้ค่ายคอมมิวนิตส์ต้องเกิดปัญหาจนได้ เมื่อเสบียงคือข้าวที่ปลูกไว้กลับถูกตัดเกลี้ยง โดยตอนนี้อย่างฮา ทำให้หัวหน้าค่ายจำต้องเข้าหมู่บ้านเพื่อขอเสบียง ซึ่งกลุ่มตัวป่อนทั้ง 4 ได้ติดตามไปด้วยเหตุเพราะพระเอกติดหญิง ( นางเอกนั่นแหละ )
และช่วงนี้ก็มีเหตุการณ์ฮาๆเยอะ จนเริ่มเปลี่ยนพาร์ท ของเรื่อง เพราะมันจะมีจุดหนีพวกทหารที่ทำให้พระเอกกับเพื่อนๆแยกจากกัน หนังใช้วิธีแยกพาร์ทเล่าเรื่องอย่างชัดเจนโดยเริ่มเล่าฝั่งเพื่อนพระเอกก่อน ซึ่งขำกันกระจาย และหนังก็ตัดกลับมาเล่าฟังพระเอกและนางเอกและหัวหน้าค่ายซึ่งเหตุการณ์มันดูจริงจังมากขึ้น รวมถึงกุ๊กกิ๊กระหว่างพระนาง จนบางทีนึกว่าดูหนังคนละเรื่องจากหัวเราะก๊ากเมื่อสักครู่กลับเปลี่ยนเป็นนั่งอมยิ้มได้เรื่อยๆแทน ( ช่วงนี้แหละที่เปิดเผยภูมิหลังของพระเอก ซึ่งออกจะน้ำเน่าเล็กน้อย แต่ก็เอาแหละ ขำขำ )
หนังได้สร้างให้ตัวละคร 2 คนเกิดความผูกพันกันเพราะเกิดร่วมชะตากรรมต่างๆร่วมกัน ร่วมเป็นร่วมตายกัน จนเริ่มรักกัน เพลงกระกอบช่วงนี้เพราะมาก รวมถึงหนังได้แอบแฝงความรู้สึกอิ่มในความรู้สึกบางอย่างสำหรับเราจากคำพูดไม่กี่คำของพระเอก โดยเฉพาะตอนที่นางเอกดูรูปที่พระเอกถ่ายไว้ซึ่งเป็นรูปของประชาชนที่ดูจนๆแต่แววตาสดใสมากมาย ซึ่งนางเอกบอกว่าเห็นแต่ความยากจนและไม่เท่าเทียม แต่พระเอกกลับบอกว่านี่แหละความสุขโดยให้ดูที่แววตาของรูปสิ โอ๊ยยย เท่ห์และอิน
และแล้วพระเอกกับนางเอกก็กลับมาค่ายได้อยากปลอดภัย
ซึ่งพระเอกได้ตัดสินใจแล้วที่จะกลับออกจากค่ายหลังจากส่งนางเอกเสร็จ เนื่องจากพระเอกรู้ตัวว่า อุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ไม่ใช่แนวทางของความสุขของพระเอก
แต่ยังไม่ทันที่พระเอกจะได้กลับออกจากค่าย ค่ายก็ถูกเหล่าทหารกวาดล้างซะก่อน ทำให้ชาวพรรคคอมมิวนิสต์ต้องหนีกันไปคนละทิศละทาง และหนังก็ได้ทำให้เห็น ( หรือเราเห็นไปเองหว่า )ว่า อุดมการณ์ที่มากเกินไปบางครั้งมันก็ทำให้คนบางคนไม่หลงเหลือความเป็นคน อะไรที่มากเกินไปไม่ได้เป็นผลดีกลับใครเลย
หนังจบได้ซึ้งพอสมควรแม้หลายๆอย่างจะขาดเหตุผลไปบ้าง หนังบางช่วงจะตัดต่อออกมาได้โดดไปบ้าง จนบางครั้งนึกว่าหนังคนละเรื่อง ตัวละครบางตัวหายไปอย่างไร้สาเหตุในบางช่วง แต่เมื่อเทียบกับคำว่าหนังตลกแล้วเราว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีทีเดียว
หนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกที่ไม่ไร้สาระในความรู้สึกเรา หัวเราได้เรื่อยๆ บางฉากฮาค้างแม้ตอนนี้ที่พิมพ์ก็ยังขำอยู่ในบางครั้งที่คิดถึงมุขบางมุขในหนัง ถือว่าเป็นหนังตลกที่มุขไม่คาเฟ่มากนัก ขำในตัวบทไม่ได้ขำในการปล่อยมุข แม้แต่มุขง่ายๆ เรียบๆยังทำเราขำได้ เช่นฉากที่ทหารที่เอาปืนส่องพระเอกเห็นผู้บังคับบัญชาคุยกับพระเอกแล้วแอบส่ายหัวเดินหนีไป เราแอบขำในอารมณ์เซ็งของทหารคนนั้นมาก แม้จะเป็นฉากเล็กๆที่ทหารคนนั้นไม่ได้พูดอะไรเลย และตัวละครหลักก็ไม่ได้ทำอะไรให้เราขำเลย แต่ก็ยังแอบมีมุมให้ขำกับตัวละครประกอบข้างหลัง ถือว่าหนังเก็บรายละเอียดได้ดี
สรุป ไปดูเหอะค่ะ หนังคงเหลือให้เราได้ดูไม่กี่วันแล้วละเพราะใกล้ออกโรงเต็มทีตนดูก็น้อย แต่พอไปดูแล้วต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ถ้าคิดเข้าไปฮา ก็ได้ฮาสมใจ มุขไม่ใช่คำแล้วจบแต่เป็นพวกมุขยาวซะมากกว่า เป็นประเภทมุขลากยาวมีการปูพื้นก่อนเล่นมุข ไม่โป๊งชิ่ง!!! ถ้าคิดอยากเก็บอะไรไปจากหนังบ้างก็มีให้เก็บพอสมควร อย่างน้อยก็มีประโยคเท่ห์ๆให้เก็บไปพูดอวดสาวได้ล่ะน่า...
ปล.เรื่องนี้ยกให้น้าค่อมเป็นพระเอกเลย ปกติไม่เคยชอบแกนะเนี่ย แต่เรื่องนี้ยกให้เค้าละ สุดๆ
ปล.2 ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ม้า และไม่ได้บ้าดาราคนไหนเป็นพิเศษ ยอมรับความคิดเห็นแตกต่างได้ทุกความเห็นค่ะ
จากคุณ :
*แชมพู*
- [
28 ม.ค. 52 01:47:40
]
|
|
|
|
|