ความคิดเห็นที่ 1 ก็ไม่ได้ดีอะไร มีคนไทยช่วยคุมแล้วก็ยังคุมไม่อยู่ เพราะฝรั่งมันคิดของมันแบบนั้น วัดวับวังฝรั่งมันแยกไม่ออกน่ะ ก็เลยปนเป มีแผ่นดีวีดีครับ เดอนีโรพูดไทยใน meet the parents ได้แย่ยังไง เรื่องนี้ก็แย่แบบนั้นแหละ จากคุณ : วี - [ 29 ม.ค. 52 14:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยดูในเคเบิ้ลเถื่อน พูดในแง่หนังแล้วเขียนบทแย่มาก ไม่มีความสนุก สมควรแล้วที่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่มีดาราดังๆร่วมแสดง ไม่รู้เวอร์ชั่นยูล บิลเนอร์เป็นยังไงบ้าง จากคุณ : sae_same - [ 29 ม.ค. 52 14:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของ คห 1 และ 2 ไม่ทราบว่า version ไหนครับ ของผมที่ได้ดู ของ Andy Tennant กำกับ ครับ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 2 สาขา ใน IMDB ความเห็นของบางท่าน ให้ว่า เทียบชั้น Saving Private Ryan และ Titanic ได้เลย ครับ ผมได้ดูเต็มๆเรื่องครับ ตอนไปเที่ยวต่างประเทศ เปิดบนรถทัวร์(ของหายากนะนี่) ยังแบนอยู่จนทุกวันนี้ครับ คำเตือน ข้างล่างจะมี Spoil ก็ ดูสนุกดีครับ ถ่ายทำที่มาเลเซียตลอดเรื่อง  Jodie Foster เล่นเป็น Anna สำหรับการแบนนั้น จาก wikipedia(ซึ่งอ้างจาก The Nation) บอกสั้นๆว่า มีหลายฉากที่ ไม่เหมาะสมและอาจตีความหรือทำให้ประชาชนไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ของไทย (นำไปสู่คำถามจากประชาคมโลกว่า ตกลงประเทศไทยมีระดับของ"ประชาธิปไตย" แค่ไหนกันแน่) ฉากจบ The Kingได้เต้นรำครั้งสุดท้ายกับ Anna ทำให้ท่านทราบว่า การที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น มาทำให้ผู้ชายพึงพอใจ นั้นเป็นไปได้(คาดว่า Miss Anna คงแสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อการมีสนมจำนวนมาก) ซึ่งฉากนี้ ผมดูๆแล้ว ก็อาจตีความได้ว่า ทั้งสองคนมี Romance Feeling ให้แก่กัน อันอาจเป็นเหตุของการแบน หรือไม่ก็ เจ้าหน้าที่ไทย ทนการเอา โจวเหวินฟะ มาเล่นเป็นกษัตริย์ไทย ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 14:15:35 จากคุณ : powerconduit - [ 29 ม.ค. 52 14:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ห้ามฉาย ห้ามนำเข้า ห้ามแจกจ่าย ห้ามทุกอย่างครับ ได้ดูเป็นวีดีโอ จากต่างประเทศ ซาวแทรคไม่มีซับเหมือนกัน โดยรวมหนังก็ดูได้เพลินๆครับ ขาดความสมเหตุสมผลและ หาความน่าเชื่อถือไม่ค่อยได้ เหมือนดูนิยายน่ะครับ แต่ต้องชมในเรื่องของงานโปรดักชั่นมากๆ สมควรแล้วที่ได้ชิงออสการ์ ทั้งกำกับศิลป์ และ เครื่องแต่งกาย ( ถ้าจำไม่ผิดนะ ไม่แน่ใจว่าสาขากำกับศิลป์ หรือ กำกับภาพ ) แต่คอสตูมนี่ชิงแน่ๆ อย่าลืมนะว่าฉากทั้งหมดต้องเซ็ทขึ้นที่มาเลเซีย จาก 0 เลย เนรมิตฉากวัดวัง ฉากพยุหยาตรา ทั้งชลมารค สถลมารคได้ ทำได้ขนาดนั้น แล้วคิดดู แรงคนไทยแทบไม่มี มีอาจารย์ไรนะ ผมลืมชื่อ เข้าไปที่ปรึกษาท่านเดียวเอง สุดยอดจริงๆครับ ทีมงานเค้า จากคุณ : joblovenuk - [ 29 ม.ค. 52 14:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือค่ะ ตอนนั้นอาจารย์โดนโจมตีเยอะเหมือนกัน อาจารย์ร่วมแสดงด้วยนะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 14:18:20 จากคุณ : sae_same - [ 29 ม.ค. 52 14:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดูแบบเป็นกลางๆ ไม่ใส่ความรู้สึก "ชาตินิยมจัด" ก็พบว่า พอดูได้ค่ะ แต่หนังไม่สนุก ติดจะน่าเบื่อ ที่สำคัญ ดารานำแสดง.. ผิดหวังมาก เหมือนขาดพริกน้ำปลา ยังไงไม่ทราบค่ะ คือ ไม่เชิง the King and I แต่เป็น the Love Affair ประมาณนั้น (อันนี้ ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ โปรดอย่าต่อยอด) คือ.. นั่งดูไปก็รู้สึก เมื่อไหร่จะจบ (ซะที) แต่ก็ทนนั่งดูจนจบนะคะ ยกเว้น เพื่อนชาวจีนที่ไปด้วย ขอตัวลุกออกจากโรงเพื่อกลับบ้านก่อน เธอบอกว่า "อย่างง่วง" จากคุณ : ลำเนา - [ 29 ม.ค. 52 14:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราเคยดู The king and I เลยแหละ คือพี่ข้างบ้านไปเที่ยวเมกา สักสิบกว่า-20ปีมาแล้วนะ เจอที่เป็นวีดิโอการแสดงโอเปร่า ที่ ยูล(ไม่รู้เขียนถูกรึเปล่า) แสดงเป็น ร. 4 เลยแอบอัดทับวีดิโอการ์ตูน เอากลับมาดูที่นี่กัน ตอนนั้นเรายังเด็กมาก ดูไม่รู้เรื่องหรอก ไม่มีซับไทย(แหงล่ะ) เป็นเพลงโอเปร่าทั้งเรื่อง แถมหนังยาวมากๆ รายละเอียดฉาก ไม่ค่อยเหมือนที่เรารู้จัก เป็นมุมมองวังไทยในสายตาฝรั่ง มีรำไทยซึ่งแข็งโป๊ก และทัศนคติเกี่ยวกับ King ของเรา ที่มีวังหลังเหมือนฮาเร็ม ถ้ามีโอกาสดู ก็ดูไปเถอะค่ะ แต่อย่าไปโกรธ หรือถือสาอะไรเลย มันเป็นมุมมอง ที่เขาสร้างตามหนังสือบันทึกของคุณแอนนา อาจจะใส่สีใส่ไข่นิดหน่อย ให้ดูสนุกขึ้น ว่าไปแล้ว เราเองก็ไม่เคยเข้าไปอยู่ตรงนั้น เหมือนที่แอนนาเขาเจอมา อาจจะจริงหรือไม่จริงมากน้อยแค่ไหน เราไม่รู้หรอก... จากคุณ : QWERTY (Beau VIBE) - [ 29 ม.ค. 52 14:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 anna and the king ผมว่าสนุกดีนะ จากคุณ : tempestroad - [ 29 ม.ค. 52 14:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ป.ล. แต่ในส่วนที่เป็น ละครเวที ซึ่งฝรั่งจัดแสดงบ่อยๆ ที่ The Play House, Pasadena, California กลับทำได้ดีค่ะ ดูทุกที ไม่ว่าจะฝรั่งคนไหนแสดง ก็แปลกว่า ตีบทแตก สวมบทบาท the King ได้แบบ "ทรงเถื่อนๆ แบบมีอานุภาพมาก" และ พอไปขอถ่ายรูปนักแสดง พวกเขาก็จะกรี๊ดกันที่มีคนไทยไปดูด้วย.. จากคุณ : ลำเนา - [ 29 ม.ค. 52 14:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยดูทั้งละครเวที  และหนังเวอร์ชั่นยูร บิล (ไม่ทราบว่าเขียนชื่อถูกหรือเปล่า)  ที่ดูเพราะห้ามกันนี่แหละค่ะ  เป็นเด็กก็ย่อมอยากรู้อยากเห็น  โดยส่วนตัวคิดว่าประเด็นที่ขัดใจที่สุดคือจินตนาการของคนเขียนและคนสร้างมันไปไกลเกินไปหน่อยค่ะ  ถ้ามีเพื่อนไปอังกฤษฝากเค้าไปดูที่ร้าน HMV ก็ได้ค่ะ  เป็นแพคสามเรื่องมี The Sound of Music กับเรื่องอะไรแนว ๆ นี้อีกเรื่องอยู่ในแพคเดียวกัน จากคุณ : Irishcream - [ 29 ม.ค. 52 14:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ได้ดูที่ยูล บรินเนอร์เล่นค่ะ หนังทำตามแบบของละครเวที ถ้าตัดอารมณ์ และความรู้สึกที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของดิฉันออกไปแล้ว เป็นหนังที่ดีมากทีเดียวค่ะ ดิฉันได้ดูของปีที่โจดี้ เธอเล่นด้วย..แต่กลับชอบของเก่ามากกว่า..ขาดแต่ปี1946 ใช้ชื่อว่า Anna and the King of Siam ดิฉันยังไม่ได้ดู  ของปี1956 ดิฉันมี DVD เพราะสะสมหนังทุกเรื่องที่ Deborah Kerr เล่น จากคุณ : walnutsoda - [ 29 ม.ค. 52 14:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันไม่จริงตั้งแต่นังแอนนาเขียนหนังสือโกหกแล้วล่ะ ก็เหมือนเราดู the last emperor น่ะ ชื่นชมสุด ๆ แต่รัฐบาลจีนไม่ชอบ เพราะหลาย ๆ อย่างทำไม่ถูกต้อง ทีนี้พอชาติอื่นดู the king and i ก็คงชื่นชมเรื่องเสื้อผ้า สถาปัตยกรรม แต่คนไทยดูแล้วด่าว่าทุเรศ ทำมาได้ยังไงวะ มั่วแหลก จากคุณ : วี - [ 29 ม.ค. 52 14:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 1. วิจารณ์ในแง่การสร้าง... เพราะเคยมีโอกาสได้ดู 1 ครั้งครับ ผมพบว่าเรื่องราวช่างไม่น่าสนุกครับ การนำเสนอเฉยเรียบไป และ "เป็นไปตามสูตรของฮอลีวู้ด" ครับ การตัดต่อ ดำเนินเรื่องราว ไม่ชวนให้น่าติดตามครับ ชวนง่วงๆครับ พูดตรงๆ สู้ละครเวทีไม่ได้ครับ ถ้าหนังแง่นี้ เรื่องนี้ในแง่การดำเนินเรื่อง เรื่องพล๊อต พูดตรงๆสู้เรื่อง Elizabeth (ภาคแรก) ไม่ได้ครับ ความสนุก สู้ Shakespear in Love ไม่ได้ครับ และที่สำคัญ...พลังดารา...ไม่เปล่งประกายครับ โจดี้ ฟอสเตอร์ สู้เคต บลานชเล็ตต์ ใน Elizabeth ไม่ได้ครับ 2. วิจารณ์ในแง่เนื้อหาครับ... เรื่องพรรค์นี้คือนิยายอิงบันทึกของแหม่มแอนนาครับ เครือๆเดียวกับนิยายอิงประวัติศาสตร์อย่าง สามก๊ก สุริโยทัย พระนเรศวร ฯลฯ แต่ที่พิเศษคือ เป็นนิยายอิงบันทึกของคนคนเดียวครับ ซึ่งเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาในสิ่งแวดล้อมใหม่ วัฒนธรรมใหม่ การตีความต่างๆก็ยึดเอาแนวฝรั่งยุคนั้น (ยุคล่าอาณานิคมซึ่งมองว่าตนคือผู้เจริญกว่า) เป็นแกน ฉะนั้น มุมมองต่อเหตุการณ์ต่างๆที่แหม่มแอนนาบันทึก จึงมีเพียงมิติเดียว โดยเอาวิธีการมองโลกมองเหตุการณ์แบบฝรั่ง กลายเป็นสิ่งที่เธอพบเจอและถ่ายทอดไป ฝรั่งคนอื่น ก็เลยยึดถือตามเหตุการณ์และมุมมองของเธอว่าเป็นเรื่องจริงครับ อย่างเรื่องทาส เรื่องสามีภรรยาเดียว ฯลฯ ทั้งๆที่ยุโรปสมัยนั้น การประหารเป็นเรื่องที่พบเจอได้ง่าย ทั้งกรณีพระนางแอนน์ โบลีน เป็นต้น และที่สำคัญคือ มุมมองของพระเจ้าแผ่นดินต่อเธอ เหมือนเธอจะมีอาการของ "ผู้ที่คิดไปเอง" ในแง่โรแมนซ์ครับ อาการของคนไทย คนจีน คนฝรั่ง ฯลฯ สมัยก่อนที่มีความเป็นชาตินิยมสูงนั้น จะปฏิบัติต่อชาวต่างชาติ ถ้าไม่ใช่เยี่ยงสัตว์ ก็คือศัตรูครับ หมายถึงระมัดระวังตัว เพราะกลัวกลายเป็นความขัดแย้งบานปลาย สิ่งที่เธอเขียนแง่โรแมนซ์ เลยกลายเป็นจุดที่เธอนำไป"อวดอ้าง"ได้ ประกอบกับการที่มีการ"ตีไข่ ใส่สี"เข้าไป โดย"ผู้เขียนบทประพันธ์" ทั้งละครเวที ทั้งหนัง โดยเอามุมมอง และ"จุดขาย"ต่างๆใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มอรรถรส ก็เลยกลายเป็น "บิดเบือน" ให้รับไม่ได้ครับ จากคุณ : buddhi - [ 29 ม.ค. 52 14:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันผิดเพี้ยนก็ตรงมีการลอบปลงพระชน ต้องพาเจ้าฟ้าน้อยๆ ทั้งหลายหนี แล้วก็การสิ้นพระชนของ ร.3 และตอนโรแมนติกโอเว่อไป เพี้ยนไปจากที่แหม่มแอนนาเขียนไว้ด้วยนะคะ ได้อ่านหนังสือด้วย รู้สึกชอบมากและรัก ร.4 ร.3 และ ร.5 มากค่ะ ร.4 ทรงพระปรีชามาก  ทรงงานหนักเหมือน ร.9 เลยค่ะ แต่ท่านจะออกดุๆ กว่าค่ะ  และ ร.3 ก็ซื่อสัตย์และรักพี่ชายคือ ร.4 มากด้วย ยอมคืนราชบัลลังให้พี่ชาย และซื่อสัตย์จนวาระสุดท้าย น่าภูมิใจมากค่ะ บรรดาเจ้าฟ้าลูกๆ ร.4 ก็น่ารักทุกองค์เลยค่ะ ตอนที่พระธิดาสิ้นนั่งอ่านไปร้องไห้ไปเลยค่ะ หนังที่ทำออกมามันก็เพี้ยนไปจากหนังสือเกือบ 50% เยอะเกินค่ะ ถ้าทำให้ได้อย่างหนังสือนะดิฉันว่าได้เข้าฉายที่ไทยแน่นอน แหม่ม แอนนา ก็เขียนไว้ว่า ร.4 ท่านเริ่มส่งสายตาให้แปลกๆ เหมือนเริ่มชอบๆ จนแหม่มแอนนาต้องกลับบ้านเกิด เกือบได้เป็นเจ้าจอมมารดาแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 14:56:55 จากคุณ : kookkookke - [ 29 ม.ค. 52 14:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 .............เรื่องนี้ อย่าพูดที่นี่ดีกว่าครับ...... ที่นี่ของแรง... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 29 ม.ค. 52 15:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยติดตามอ่านหนังสือศิลปวัฒนธรรมอยู่พักใหญ่ เพราะเอาประเด็นแหม่มแอนนามาลงบ่อยๆ ได้อ่านจดหมายที่ร.4กับแอนนาเขียนติดต่อกันหลายฉบับ ก็ดีนะ ได้เห็นมุมมองอื่นๆบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็จะให้แอนนาเป็นหญิงฝรั่งเสียสติเพียงอย่างเดียว จากคุณ : yatiko (yatiko) - [ 29 ม.ค. 52 15:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห.14 ร.3 เป็นพระเชษฎาต่างพระมารดาของร.4คะ จากคุณ : poo (sixteen) - [ 29 ม.ค. 52 15:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้างอิงจาก#3 สำหรับการแบนนั้น จาก wikipedia(ซึ่งอ้างจาก The Nation) บอกสั้นๆว่า มีหลายฉากที่ ไม่เหมาะสมและอาจตีความหรือทำให้ประชาชนไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ของไทย (นำไปสู่คำถามจากประชาคมโลกว่า ตกลงประเทศไทยมีระดับของ"ประชาธิปไตย" แค่ไหนกันแน่) -------------------------------------------------- เป็นประชาธิปไตย แล้วรักเคารพในหลวงไม่ได้ด้วยเหรอ? ได้ชมภาพยนต์ทั้งยูล บิลเนอร์ และโจวเหวินฟะ แสดงสำหรับเราเฉยๆนะ ไม่ สนุกเลย อ่านหนังสือดีกว่า จากคุณ : นางสาวมินิ - [ 29 ม.ค. 52 16:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ็สนุกกว่าที่คิด ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในข่าว ถ้าเทียบกับฉบับเก่า ฉบับเก่าจะดูถูกคนไทยมากกว่า ฉบับนี้จะออกมาในทำนองโรแมนซ์ ดนตรีกับเพลงประกอบเพราะมากครับ จากคุณ : Atmosphere - [ 29 ม.ค. 52 16:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 version แรก The King and I ดูเป็นหนังเพลง ก็สนุกดี  แต่ดูแล้วไม่รู้สึกเลยว่าเป็นประเทศไทย  ประเทศสมมติที่ไหนก็ไม่รู้  มีพระเอกดื้อดึง ถือดี นางเอก ชอบอวดฉลาด อวดเก่งสอนพระเอกอยู่เนืองๆ  มีปัญหาอะไรนางเอกก็ต้องเป็นคนแก้ให้คนทั้งวัง แหม่มแอนนาแกเขียนหนังสือให้ตัวเองเป็นนางเอ๊ก นางเอก version สอง Anna and the King ไม่สนุก น่าเบื่อ พระเอก นางเอกเป็นนักแสดงที่เก่งทั้งคู่ แต่ไม่มี chemistry ระหว่างกันเลย production ก็ไม่สมจริง ส่วน version แรก อย่าถามหาความเป็นไทยในหนัง เพราะหาไม่เจอเลย แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 16:33:20 จากคุณ : roundeyes - [ 29 ม.ค. 52 16:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้ดูแล้ว เสียดายทุนสร้าง น่าเบื่อ คิงมงกุฏกับแอนนา ส่งสายตาหวานกันเกินไป เข้าใจว่าเป็นตัวนำ  คิงหนุ่มเกินไป ความจริงถ้าให้เขาเข้ามาถ่ายทำ แล้วเราสามารถแนะนำได้ น่าจะได้อรรถรสกว่า รู้สึกกลุ่มบริษัทไทยที่จะขอเป็นตัวแทนนำทีมงานเข้า ก้เป็นถึง มรว ด้วย เห้นให้เหตุผลว่า ด้วยความเป็นราชินุกูล จะสามารถแนะนำเขาได้ว่า อันไหนมันทำได้ไม่ทำได้ แต่คณะกรรมการกลัวเกินเหตุไม่ให้ผ่าน บอกเขาไปแก้บทก่อน แต่พอดีทางผู้สร้างที่อเมริกา เขาหยุดคริสตืมาสไปปีใหม่ นานเกินไป กว่าจะทำเรื่องทำงบอะไร รอนานจะบานปลาย เขาเลยย้ายไปถ่ายทำที่มาเลย์เซียแทน ก็ดูได้ในระดับหนึ่ง ประทับใจไหม ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ว่าเขาลงทุนมากเลย เล่นสร้างฉากใหม่หมด เสียดายเงินแทน จากคุณ : Viengวิไล - [ 29 ม.ค. 52 16:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตกลงบันทึกของแอนนานี่บิดเบือนขนาดไหนกัน? แล้วเราควรใช้บันทึกของใครมาเทียบว่าจุดไหนจริงเท็จ จากคุณ : อ่อนประวัติศาสตร์ (the chess player) - [ 29 ม.ค. 52 17:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เล่ากันว่าพอแหม่มแอนนากลับอังกฤษไปแล้วเขียนบันทึกเอาไปเสนอสำนักพิมพ์ สำนักพิพม์ขอแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องให้มันดูเป็นนวนิยายมากขึ้น แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นส่วนไหนบ้าง ที่ถูกโจมตีก็น่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าจอมทับทิมที่ถูกเผาทั้งเป็นว่าแต่งเพิ่มเอาเอง แต่อย่างว่าแหละเรื่องราวในวังของไทยไม่ค่อยมีการบันทึกอะไรแบบเป็นทางการเท่าไหร่ มีแต่เรื่องเล่าลือ มองในแง่ว่าเป็นกึ่งพงศาวดารก็แล้วกัน เคยอ่านเจอว่าในสมัยร.4 พระองค์จำเป็นต้องทรงจดหมายโต้ตอบเขียนเล่าประวัติศาสตร์ไทยให้เซอร์เฮนรี่ บาร์นี่ฟัง เพื่อให้ฝรั่งเห็นว่าไทยไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนเพราะมีประวัติศาสตร์และมีการบันทึกข้อมูลมายาวนาน ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดรายละเอียดแบบกึ่งพงศาวดารขึ้นมาหลายเรื่อง (เช่นชื่อช้างทรงของพระนเรศวรฯลฯ) จากคุณ : พ่อมดหมอดู - [ 29 ม.ค. 52 17:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ได้ดู ที่โจวเหวินฟะ เล่นเป็น King   ไม่เก่งเรื่องวิจารณ์ ดูแบบไม่ได้ชาตินิยม ก็ยอมรับว่าชุด เครื่องแต่งกายและฉากเขาทำได้ดี สวย ตัวโจวเหวินฟะ ก็พยายามพูดไทยให้ชัดนะ โดยรวมเรื่อยๆ แอบน่าเบื่อ คือดูแล้วไม่ตื่นเต้นเหมือนดูหนังประวัติศาสตร์เรื่องอื่นๆ อีกอย่างสำหรับเราเนื้อหาออกจะแปร่งๆ คีอมันออกแนวนิยายรักไปนิ้ดนึงด้วยมั้ง ประทับจิตประทับใจ มีฉากเต้นรำสบตาหวาน แม่นาง Anna ก็เป็นนางเอก สวย เก่ง เริ่ด พูดหรือแสดงความกล้าให้ King เห็นแล้วแบบ First impression เป็นหญิงเดียวในใจอะไรทำนองนี้  โดยเฉพาะฉากระเบิดตอนท้าย (ไม่แน่ใจ) ยังมี DVD เก็บไว้แต่ไม่เคยเปิดดูอีกเลย แต่คิดว่าในสายตาของเรากับฝรั่งคงมองไม่เหมือนกัน เราดูแทบจะหลับ ถ้าไม่เพราะอยากดู Tom ตอนเด็กๆ คงไม่ถ่างตาดูจนจบ แต่เพื่อนฝรั่งดูแล้วบอกว่าชอบมาก จากคุณ : I am mayfairy - [ 29 ม.ค. 52 17:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลองหาหนังสือมาอ่านกันดู...นิยายรักในราชสำนักฝ่ายใน ของ อ.อบ ไชยวสุ นวนิยายก็คือนวนิยาย มันก็แค่นั้น... จากคุณ : บุปผา รำไพ..ในชั้นฟ้า - [ 29 ม.ค. 52 18:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราดูในฐานะหนังรัก พระราชากับหญิงต่างแดน เราชอบนะ เหมือนเทพนิยาย ดูได้เรื่อยๆ เราว่าเค้าดูรักกันดี พระเอกนางเอก ดูแล้วอย่างมีความรักแบบนั้นบ้าง น่ารักๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รักกัน ฮือ....เศร้า ปล. ส่วนตัวคิดว่า ถ้าทางการไทยอนุญาตให้เข้ามาถ่ายทำ โปรดักชั่นกะตัวประกอบอะไรน่าจะดีกว่านี้มากๆ อันนี้บางทีก็อิหลักอิเหลื่อน่ะ จริงๆ ขึ้นไว้หน้าหนังก็จบ ว่าดัดแปลงมาจากวรรณกรรมโดยนางแอนนา ไรงี้ ปิดกั้นแบบนี้ บางอย่างเลยดูขัดตาไปเลย บทคนไทย พูดจาไม่รู้เรื่อง หัวเรือยังกะหัวเรือเมืองมะละกา ดูละอายฝรั่ง ปล่อยให้ฝรั่งดูที่มันไม่ใช่ แล้วก็มาปิดหูปิดตาคนในประเทศ เอือมค่ะ เอือม จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 29 ม.ค. 52 18:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อยากรู้ว่าแอนนา แอนเดอะคิงสยาม เป็นหนังมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไรครับถึงได้้ามฉายในประเทศไทย จากคุณ : เจ้าสมุทร - [ 29 ม.ค. 52 19:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เอามาให้เพื่อตอบคำถาม คห.ที่ 27 จากกระทู้ที่คุณ คห. 27 แตกไปและมีคนมาตอบให้ครับ โดยจากคุณ เร-อีญ*** http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2006/04/A4290225/A4290225.html ตามนั้นครับ จากคุณ : buddhi - [ 29 ม.ค. 52 20:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความเห็นที่18คร้าบ ผมไม่ได้หมายความว่าประชาธิปไตยแล้วเคารพรักกษัตริย์ไม่ได้ แต่การที่มีบุคคลบางกลุ่มที่บุคคลอื่นไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเป็นอิสระ(หมายถึงทั้งแง่บวกและแง่ลบ) นั่นหมายถึง เป็น Freedom of Speech ที่ไม่สมบูรณ์ ถ้าจะกล่าวต่อไปว่าข้อมูลของ Anna บิดเบือน ไม่ตรงกับความจริง ขอให้พิจารณาด้วยว่า ข้อมูลของทางเรา จริงแค่ไหน เนื่องจากสมัยนั้นก็ยิ่งกว่าสมัยปัจจุบันเสียอีก ในเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มบุคคลดังที่กล่าวมา ผู้กระทำคงต้องโทษประหารทั้งตระกูล ยิ่งทำให้บันทึกของทางไทย น่าเคลือบแคลงสงสัยเข้าไปอีก เพราะบันทึกได้แต่ "เรื่องดีเรื่องงาม" เรื่องอื่นแตะไม่ได้ ส่วนตัวผม ผมไม่ทราบ และไม่ได้สนใจด้วยว่าบันทึกของใครเป็นความจริง ผมดูเอาบันเทิง เพราะนั่นคือวัตถุประสงค์ของภาพยนตร์ จากคุณ : powerconduit - [ 29 ม.ค. 52 21:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะถ่ายที่ไหนมันก็ไม่สำคัญเพราะการตัดต่อดำเนินเรื่องทำกันที่อเมริกา เวลาถ่ายก็ถ่ายเป็นช็อตๆไปก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปตัดต่อกันยังไง ได้ดูฉบับยูล บริลเนอร์แล้วก็เป็นแค่หนังเพลงโชว์ฉากสวยๆแปลกตาของทางตะวันออกไม่เห็นมีอะไร ถ้าไม่คิดมาก จากคุณ : Salted Egg - [ 29 ม.ค. 52 21:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจสิ่งที่ 29 บอก จากคุณ : Torres - [ 30 ม.ค. 52 00:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 I saw both versions: King & I Anna & the King Both of them were good movies. จากคุณ : Benz (BenzSiam) - [ 30 ม.ค. 52 00:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับ คห.13 ค่ะ มีตอนนึงที่ชอบคือตอนที่แอนนาวิ่งเข้าไปห้ามไม่ให้ประหารน่ะค่ะ   เวอร์ชันโจวเหวินฟะ   แล้วช่วยไม่ได้  หลังจากนั้นโดน the king ว่าเธอว่า  ไม่ควรเข้าไปยุ่ง  เพราะการที่เธอเข้าไปห้าม  ถ้า the king ยอมรับก็จะโดนครหาว่าไม่เด็ดขาด โดนเธอจูงใจได้ทั้งที่เป็นถึง the king   ทั้ง ๆ ที่พระองค์มีวิธีการในใจอยู่แล้ว   ดูแล้วรู้สึกขาดเหตุผลว่าไม่รู้กาลเทศะมาก ๆ  ไม่ว่าที่ไหนเค้าก็ไม่ทำกันหรอก  การที่ผู้น้อยไปพูดต่อที่ชุมนุมชนโดยการออกความคิดเห็นขัดแย้งหรือส่งเสริมผู้ที่มีสถานภาพ สูงกว่าโดยไม่ดูเหตุอันสมควร  เราว่าพระองค์ทรงเมตตามาก ๆ  ที่ไม่เอาผิดแอนนา   ถ้าเหตุการณืนี้เคยเกิดขึ้นจริง จากคุณ : kate_hyper - [ 30 ม.ค. 52 02:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอ ผมเคยดูแบบมีซับไทยเลยนะ และไม่ชอบมากๆ มีลูก จะไม่ให้ลูกดู ตลกมาก Eแอนนายิงดอกไม้ไฟช่วย ร.5 ตีความซะ ฮอลลีวู้ดมาก ถ้าเจอคนสร้าง อยากดร็อปคิกใส่จริงๆ จากคุณ : น้องหยิก (hotnuy) - [ 30 ม.ค. 52 08:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องนี้ต่อให้ทำดีจริงก็ขายในไทยไม่ออก เพราะคิงในความคิดของคนไทยกับในภาพยนต์มันขัดแย้งกันอยู่มากนัก จากคุณ : Desolation Angel - [ 30 ม.ค. 52 10:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จากที่ดู the king and I ถ้าไม่คิดว่านั้นเป็นประเทศสยามล่ะก็ ถือว่าดีระดับหนึ่งครับ เพลง (จำชื่อไม่ได้) ก็ดังระดับหนึ่ง แต่ถ้าคนไทยเรา ๆ ดู มันขัดหูขัดตาครับ ไม่ใช่สยามสักอย่าง สมัยนั้น ฝรั่งไม่รู้จักประเทศไทย ก็จิตนาการซะเพลิดแพร้ว ดูขำ ๆ กับท่าทางของ king คนไทยสมัยนั้น หรือสมัยนี้ ดูแล้วก็รับไม่ได้เหรอครับ ส่วน anna and the king ยืดยาว ไหลเป็นน้ำไปเรื่อย ๆ จากคุณ : 007 (panaratb) - [ 30 ม.ค. 52 13:17:06 ]