ความคิดเห็นที่ 1 ..................................... รายชื่อนักเขียนในยุคนั้นมีใรบ้าง สงสัยต้องช่วยกันลิสต์ละมัง...555 เหตุผลเพราะช่วงต้นๆ มีทั้ง สนพ.ที่ลงชื่อคนเขียน และไม่ลง บางคนก็อ่านอย่างเดียว ไม่สนใจจำชื่อคนเขียนเลยด้วยซ้ำ (ฮา) แต่ที่แน่ๆ 30 ปีกว่าที่ผ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นใครเสียคนเพราะการ์ตูนครับ (มีแต่เสียตังค์) ทั้งที่การ์ตูนยุคนั้นมากมายมหาศาล และฉากทุกเรตผ่านตาไปไม่รู็กี่เรื่อง จะบอกว่าเยาวชนไทย(ที่โตแล้วไม่ใช่เด็กเล็ก)ยังมีสมอง อ่านและแยกแยะได้ว่าอะไรเรื่องจริง และอะไรอ่านเล่นได้ไหมผมไม่รู้ แต่เรื่องนึงที่อยากบอก คือผู้ใหญ่หลายคนอย่าดูถูกเด็กๆนัก เขารู้คิดมากกว่าที่คุณคิด (ไม่นับไอ้พวกที่ถึงไม่อ่านมันก็เกรียนสังคมอยู่แล้วนะ อันนี้ยกไว้อีกเรื่องเถอะ อย่าเอามาปนเลย) ชักเครียดไปหรือเปล่า วันนี้สรุปยอดดูหนักๆ...555 มาๆดูหน้านักเขียน กับ เรื่องที่คุณชอบกัน คนแรกต้องภาพใหญ่หน่อย...อ.ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ แรงบันดาลใจ คนแรกของผม แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 22:31:12 จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 22:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปาด นิดๆ การ์ตูนนี่มัน ช่างส่งเสริมจินตนาการ จริงๆ สุดยอด แบบการ์ตูนของ อาจารย์ ฟุจิโอะ เอฟ ฟูจิโกะ เป็นต้น แต่บางเรื่องก็นะ ตี ต่อย ยกพวกตี แต่มันก็มีมิตรภาพอยู่ในนั้น แต่ว่า... บางทีมันก็โหดเกินไป เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ---- เรื่อง 'ผจญภัยหลงยุค' ในThe Talent ของ อ.อาดาจิ มิทสึรุ นี่ใช่เรื่อง 'พริกขี้หนูสีรุ้ง' ที่สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ตีพิมพ์รึเปล่าครับ เห็นจาก คห. ที่ 171 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 23:47:45 จากคุณ : Dr.Studios - [ 3 ก.พ. 52 22:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ขาดไม่ได้ต้อง อ.โมโตเอะ อาบิโกะ ด้วย เพราะถ้าขาดทั้งสองท่านนี้จะไม่มีนามปากกา "ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ" มาเขียนการ์ตูนให้เราอ่านกัน สายสัมพันธ์มิตรภาพของทั้งคู่สุดยอดมากนะครับ.. อ้อ..อยากเห็นแมว กับ ตุ๊กตาล้มลุก ที่เป็นต้นกำเนิดของโดราเอมอนกันไหมครับ จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 22:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้ผมง่วงแล้วครับ ร่วมด้วยช่วยเขียนไม่ไหว ^^" แต่ภาพใน คห.1 นี่เอาออกโทรทัศน์ไม่ได้นะ เดี๋ยวมีคนเอาโมเสคมาปิด จะเซ็งจิตมาก ฮ่าๆ ... จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก - [ 3 ก.พ. 52 22:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนสองข้อมูลก็ยังแน่นเหมือนเดิมนะคับ จขกท. ขอบคุณมากๆ คับ สำหรับข้อมูล จากคุณ : ผมแอบดูกระทู้คุณอยู่ - [ 3 ก.พ. 52 22:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยุคทองของยุคลาสสิคที่ที่บูมที่สุดเริ่มจากเรื่องนี้ เลยขออนุญาตเล่าเกร็ดมากหน่อย ก่อนที่จะไล่ไปยังนักเขียนท่านอื่นๆครับ ลองดูภาพนี้ น่าจะอ่านพอเห็นนะครับ ใครมีหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ สะสมไว้ เก็บไว้บ้าง ออกมาสารภาพซะดีดี...อิอิ จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 22:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคิดว่า การ์ตูนญี่ปุ่นทำให้ผมมีความเข้าใจเรื่องความตายได้ตั่งแต่เด็ก ยังจำได้กับ ไอ้หนูมุซาชิ ตอนที่พ่อเขาตายหลังแข่งเคนโด้ แล้วตัวมุซาชิไม่เข้าใจ ว่า ตาย คืออะไร และเขาก็ได้รับคำอธิบายจากผู้ใหญ่ มันช่างเป็นตอนที่เศร้าและสะเทือนใจคนอ่านวัยเด็กอย่างผมจริงๆ แต่มันก็ทำให้ เด็กรู้จักความตายได้ในระดับหนึ่ง ผมคิดเหมือนกับคุณ Granun เพื่อนผมทุกคนอ่านการ์ตูนกันตั้งแต่เด็กยันจบมหาลัย มีการมีงานดี การ์ตูนไม่ทำให้ใครเสียคนหรอก ผมรักการ์ตูนครับ... จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 3 ก.พ. 52 22:45:45 A:222.123.31.7 X: TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วภาพนนี้ก็คือภาพหลักฐานในประวัติศาสตร์ภาพนึงที่หายากมั่กๆ รูปนี้ผมได้มาจากพรรคพวกกัน โดยบอกว่าคนที่เก็บหนังสือเล่มนี้ไว้ เป็นเจ้าของยังมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 6 คน ผมกำลังตามหาอยู่นะครับ ในพันทิปมีอย่างน้อยคนนึง (หรือเยอะกว่านั้นเอ่ย) เห็นตุ๊กตาในมือรูปนี้ไหมครับ จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 22:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราก็ดูการ์ตูนตั้งแต่เด็ก ทั้งการ์ตูนญี่ปุ่นและฝรั่ง เราว่าเราได้อะไรมากมายจากการ์ตูน เราเชื่อเสมอว่า "Imagination is more important than knowledge" ((Albert Einstein)) สิ่งประดิษฐ์ต่างๆก็มาจากการจินตนาการก่อน :) เรามีหนังสือการ์ตูนโดราเอมอน ตอน กำเนิดโดราเอมอน ได้มาจากเพื่อนของแม่ พอดีเค้าจะทิ้งหนังสือการ์ตูน เลยให้เรามา ทั้งเยิน ขาด เหลือง กรอบ แต่เราก็เก็บไว้ เพราะตอนนั้นไม่เคยอ่านตอนนี้มาก่อน ^^ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 23:07:18 จากคุณ : Reinz (Xiii) - [ 3 ก.พ. 52 22:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่จริงตุ๊กตาต้นแบบรุ่นนี้มีสองสีครับ คือ สีชมพู ทั้งตัว และสีฟ้าขาว ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่าต้นแบบมาจากตัวไหน จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 22:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นี่ครับตัวสีฟ้าขาว จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่าน คห.7 ดีใจที่เจอคนชอบ มุซาชิ ด้วยกัน( หายากแหะ) ตอนที่ คุณฮอนดะ ทาดาคัทสึ เขียนถึงตอนที่พ่อมุซาชิเสีย ผมอินมากเลยนะ..555 และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องนึงที่ผมตั้งใจเก็บไว้ให้ลูกอ่านด้วย ส่วน คห.9 เห็นแล้วน้ำลายสอ....555 บ้านอยู่ไหน จะตามไปถ่ายเก็บภาพไว้ถ้าอนุญาต จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นักเขียนที่ผมชื่นชอบอีกคน ก็คือ อาจาร์ย อิเคงามิ เรียวอิจิ ครับ ลายเส้นและสไตล์เนื้อเรื่องของ อ. เป็นภาพลักษณ์อีกด้านของการ์ตูนญี่ปุ่น นั่นคือ Sex & Violence ที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าลงตัว อ่านงานของ อ. แล้ว ก็รู้สึกได้ว่า นี่แหละ การ์ตูนญี่ปุ่น ผมรักการ์ตูนคร้าบ จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 3 ก.พ. 52 23:18:33 A:222.123.31.7 X: TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปลายกระทู้ตะกี้เริ่มรู้สึกว่าเกิดทัน แต่พอแตกมาขึ้นทู้นี้ ...ติดตามต่อเงียบ ๆ ต่อดีกว่า จากคุณ : atihasita - [ 3 ก.พ. 52 23:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จะลงปกการ์ตูนแล้วเล่าลำดับในยุคทองนี่ มันยากเย็นแสนเข็ญจริงๆครับ ที่ดีที่สุดคือต้องช่วยๆกันลง และคุยไปเล่าไป พวกโนวา บอมบอม และอีกหลายเล่ม บางคนไม่ได้ซื้อ และก็มีรายละเอียดในเล่มที่แตกต่างกัน คนที่ไม่ได้อ่านก็ได้รู็เรื่องเพิ่มอีกด้าน เพราะยุคนั้น เราอ่านกันไม่ทั่วจริงๆครับ เพราะออกมาซ้ำ มาซ้อน ต้องวัดใจเลยว่าจะเลือกซื้อเล่มไหน นอกจากนั้นจะเห็นว่าที่จริงคอการ์ตูนส์ที่เก็บหนังสือดีดีมีอีกเยอะ... ว่าแต่เหลือบเห็นอิตโต้ที่น้องเบอทเอามาฝาก แล้วแปล๊บทุกทีครับ พลาดไปซะงั้น...55 นึกในใจวันนั้น ถ้าไปล้างหน้าคงจะสดกว่านั้นแล้ว สติ และความสดสำคัญมากสำหรับ 3 วิ จริงๆ คราวนี้มาไล่ลำดับนักเขียนให้ดูดีกว่า.. คนแรกต้องต้นกำเนิดคนนี้ครับ อ.เทตสึกะ โอซามุ ไม่มีเขาไม่มียุคคลาสสิค และไม่มี อ.ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ เพราะแรงบันดาลใจของ อ.ฮิโรชิ และ อ.อาบิโกะ มาจากการอ่านงานของ อ.เทตสึกะล้วนๆ จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คห.13 ฮอนดะ ทาดาคัทสึ อ.อิเคงามิ เรียวอิจิ น่ะแรงบันดาลอีกด้านของผมเลยนะครับ โดยเฉพาะเรื่อง น้ำตาเพชฌฆาต น่ะ เรื่องแรกที่ผมอ่านของอาจารย์ คือ จ้าวทะเล และวีระบุรุษจากลหุโทษ ต่อจากนั้นลายเส้นพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆขึ้นไปอีก จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราเคยถ่ายภาพมาลงที่ Pantip http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3754435/A3754435.html พยายามถ่ายให้เห็นชัดทุกช่องทุกตัวหนังสือให้อ่านได้ แต่ภาพไม่ชัดมากเท่าไหร่นะคะ เพราะเราไม่มีสแกนเนอร์ ต้องขอบคุณทุกคนที่ตอนนั้นเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : Reinz (Xiii) - [ 3 ก.พ. 52 23:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ๋อ คุณ G ใช่แล้ว... ผมเสนอให้ย้ายกระทู้เองครับ 555 (แอบขำเรื่องที่คุณ G เห็นหน้าปก "อิตโต้" แล้วพลันแปล๊บไปถึงตอนเล่นแฟนพันธุ์แท้) ที่ผมลงส่วนที่เหลือในกระทู้นั้น เพราะยังไม่อยาก "ปาด" ไงครับ แบบรอให้พี่ G เล่าเรื่องไปสักพักก่อน แล้วตอนดึกๆค่อยมาเม้าแจม (แต่ไหนๆคุณพี่ G พูดถึงแล้ว กระพ้มเลยขอแสดงตัวแล้วกันครับ 5555) จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 3 ก.พ. 52 23:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลงรูปประกอบเรื่องเพิ่ม..นิดนึงนะ งานของ อ.อิเคงามินี่เปิดทู้คุยได้อีกทู้เลยนะครับ..555 (ที่จริงของ อ. ทุกคนเลยแหละ แต่ตอนนี้ขอย่อๆเหอะนะ) จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากอิตโต้แล้วยังมีกัปตันซึบาสะด้วยนะครับ แล้วก็ยังมีช่วงที่การ์ตูนคินิคุแมนโ่ด่งดังมากอยู่ด้วยครับ จากคุณ : ตี๋เขียงหมู (kominator) - [ 3 ก.พ. 52 23:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมได้อ่านมังกะจริงๆจังๆ เพราะญาติที่รู้จักเค้าไม่รู้จะโละการ์ตูนไปไหน เขาเห็นเราอ่าน มหาสนุกทั้งวัน แล้วดันไม่ได้อ่านแก๊กช่อง อ่านแต่เรื่องสั้น (สาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่,ปังปอนด์,เรียกข้าว่าพญายม) กับ นิยายสั้นวิทยาศาสตร์กลางเล่ม เค้าเลยให้ ZERO, TALENT, แล้วก็การ์ตูนหมึกจีนเยอะแยะเลย น้าไปเรียนรามคำแหงก็จะแวะ MBK ไปซื้อการ์ตูนหมึกจีนมาให้เหมือนกัน เสียดายที่หายไปกับสายน้ำ"ทั้งหมด" ตอนท่วมที่บ้าน (ไม่ได้ท่วมใหญ่ แต่ท่วมโกดัง) ....ติดใจอยู่เล่มหนึ่ง น่าจะของ VBK ที่ชื่อว่า GAMES น่ะครับตอนนั้นติดมากเลย ที่มีแต่การ์ตูนกีฬา(เถื่อน) แบบรักบี้กระแทกกันแขนขาด  อะไรพวกนั้น กับเรื่องอีกเรื่องที่ลง TALENT ทีมีหลายภาค ที่ เกี่ยวกับสาวน้อยนักรบ ใช้ดาบเล่มยาวๆหน่อย จำชื่อเรื่องจริงๆไม่ได้ ....ที่มีหลายภาคด้วยน่ะครับ จำเนื้อเรื่องภาคนึงได้ ที่เหมือนว่าหมู่บ้านต้องเอาเด็กไปบูชาปิศาจ นางเอกเลยต้องไปปราบปิศาจอะไรราวๆนี้น่ะครับ ใครพอจำเรื่อง หารูปได้ ก็ฝากทีครับ >w< จากคุณ : นกฮูกผมดำ - [ 3 ก.พ. 52 23:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นกระทู้ก่อน Bomb Bomb ใช่ที่ตอนหลังกลายเป็น Bom2 ของ BONGKOCH รึเปล่าครับ? จำได้ว่าพวกการ์ตูน SD เท่ๆ อย่าง อุลตร้าแมน ก็ลงเล่มนี้ด้วย จากคุณ : นกฮูกผมดำ - [ 3 ก.พ. 52 23:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพชุดนี้คงเคยเห็นกันมาบ้าง ใครเป็นนักเขียนที่ใครชื่นชอบบ้าง เล่ามาเลยนะครับว่าคุณสาวกใคร...555 จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กัปตันซีบาสะ ถือเป็น Icon ของการ์ตูนฟุตบอลญี่ปุ่นเลยน่ะครับ ในความคิดผม เวลานึกถึงการ์ตูนฟุตบอล ต้องนึกถึงเรื่องนี้ก่อน อ. ทากาฮาชิ โยอิจิ เขียนตั้งแต่ ตอนที่ ญี่ปุ่น ยังไม่ฮิตกีฬาฟุตบอลเลย ทีมชาติก็เล่นแย่กว่าทีมชาติไทยอีก ผมชอบตรงที่ อ. แกเขียนได้เว่อสะใจดี โม้ดิบๆ เป็นเอกลักษณ์ของ ซึบาสะ " อย่าไปกลัว ฟุตบอลเป็นเพื่อน " คลาสสิคจริงๆครับ ผมรักการ์ตูนคร้าบ ... จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 3 ก.พ. 52 23:46:23 A:222.123.31.7 X: TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 25 งานของ อ.อิเคงามิ เรียวอิจิ เคยอ่านอยู่ไม่กี่เื่รื่อง แต่ก็ชอบมาก จำได้แต่เนื้อเรื่อง จำชื่เรื่องไม่ได้แล้ว  ที่เกี่ยวกับนักการเมือง ยากูซ่าอ่ะค่ะ จากคุณ : แพม* - [ 3 ก.พ. 52 23:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยกมาจากกระทู้โน้น  มัวแต่พิมพ์ ไม่ได้ดูเลยว่าเค้าแตกกระทู้กันแล้ว ย้อนกลับไปตอนเด็ก ๆ ตอนนั้นจำไ้ด้ว่าได้รับมรดกการ์ตูนกองใหญ่มาจากพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง  เป็นการ์ตูนเรื่อง อาซาริจอมแก่น อ่ะค่ะ แต่ที่อ่านแบบเป็นจริงเป็นจัง ก็ช่วง The talent, zero นั่นล่ะค่ะ   ช่วงนั้นการ์ตูนที่ตามก็จะเป็น ดราก้อนบอล, เซนต์เซย่า, ดราก้อนเควส, ซันชิโรx2, ซิตี้ฮันเตอร์, รันม่า1/2 ส่วน โชโจก็เริ่มอ่านจากสำนักพิมพ์ สยามสปอร์ต นี่ล่ะค่ะ เรื่องที่ตามอ่านก็แน่นอน  รันเซ่ที่รัก แล้วก็พวกจบในเล่มทั้งหลาย  มีที่จำได้ก็ พ่อครัวหัวป่า มั้ง ตอนนี้ที่มีเหลืออยู่กับตัวก็ คืองานของอาจารย์ไซโต้ จิโฮ สมัยก่อน ที่ทางสยามอินเตอร์เอามาพิมพ์ แต่เราไม่มีเล่มยาว ๆ นะ  มีแต่จบในเล่มทั้งนั้นเลย  ยาวสุดก็ วังวนแห่งรัก  รักการ์ตูนของอาจารย์ไซโต้ ช่วงก่อนหน้า เรื่อง อูเทน่ามาก ๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้อ่านงานของอาจารย์แล้ว มาซื้อเองแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนยุคหมึกจีน ที่ออกเป็นแนวรายสัปดาห์ ที่ตามก็มี Lala, Mimi อะไรประมาณนั้น แต่ มีอยู่เรื่องนึง ค้างอยู่ในความทรงจำมาก ๆ จำได้ว่ามี 5 เล่มจบ เป็นการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ ที่นางเอกมาจากดาวสีแดง (หมายถึงดาวอังคาร) จึงทำให้มีดวงตาสีแดง ต้องใส่คอนแทค ปิดบังสีดวงตาของตัวเองไว้ (เนื้อหาทันสมัยมาก ๆ มีคอนแทคเลนส์สีกันแล้ว) จำได้ว่าสนุกมาก ตอนนั้นชอบมาก ๆ เลย  แต่ที่เป็นปัญหาคือ ตอนนี้เราจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ  ใครพอจะคุ้น ๆ บอกเราหน่อยนะคะ  ตามหาความทรงจำค่ะ YoY รูป เครดิตคุณmadaboutgoodfm@you2play ค่ะ จากคุณ : แพม* - [ 3 ก.พ. 52 23:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 23 โอ นี่รวม อ. ระดับเทพทั้งนั้นเลยนี่ครับ เอ แต่ไล่ดูอีกที ไม่มีรูป อ. ฮาร่า เท็ตสึโอะ หรือครับ " แกตายแล้ว " ผมรักการ์ตูนคร้าบ ..... จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 3 ก.พ. 52 23:50:50 A:222.123.31.7 X: TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทำเอานึกถึง สุดยอดการตูนที่เขียนนานกว่า 20 หนึ่งในต้นตำรับการ์ตูนดองข้ามชาติข้าม สนพ. อย่าบัสตาดจริงๆ จำได้ลางๆว่าอ่านครั้งแรกตอนอยู่ ป.2 หรือ 3 นี่แหละ... สมัยนั้น อาเจ็กที่มาดูแลอากงผมแกเปิดร้านเช่าการตูนอยู่ชั้น1บ้าน สมัยนั้นได้อ่านการตูนเก่าๆจนจุใจเลยล่ะ ตอนนั้นที่อ่านแล้วชอบก็ พิกมาริโอ(จำชื่อคนวาดไม่ได้) / เคย์จิ ,หมัดดาวเหนือ (ของ อ.ฮาระ)/ กระป๋องZ (โกนากาอิ)  / ไทมทราเวลเลอร(ของฟุิจิโอะ รึเปล่าหว่า) / บัสตาด  (ฮากิวาระ คาซึชิ) อาเจ็กแก พอเลิกทำร้านก็เอาการตูนทั้งหมดใส่กระสอบข้าวใหญ่ๆแล้วขายไป 5-6 กระสอบ 20กว่าปีละจำได้เรือนลาง รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน (เพราะในนั้นมันมีโดราเอมอนผมตั้ง 10กว่าเล่มไปด้วย) จนตอนนี้ที่เหลือซากอยู่ก็ มาชินก้าZ เล่ม1 สภาพเหลือครึ่งเล่ม กับบัสตาดเล่ม 4 ของหมึกจีนเหลือครึ่งเล่ม.... จากคุณ : Ex-Sentinel - [ 3 ก.พ. 52 23:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กัปตันซึบาสะนี่ ผมเคยไปถึงเมืองนันคัทสึจริงๆเลยนะครับ..555 อิทธิพลจากเรื่องนี้แท้ๆ นันคัทสึเป็นเมืองชายทะเล เงียบสงบ มีปราสาทเก่าด้วย(ไม่ใหญ่มาก) เรื่องนี้เป็นการ์ตูนฟุตบอลที่สนุกมากๆช่วงนั้น ติดหนึบเลยทีเดียว แต่พอโตขึ้นมาเจอภาคต่อตั้งแต่ภาคเยาวชนกลับเริ่มเฉยๆ ซะงั้น แปลกดีเหมือนกัน ทำกรอบสวยๆ ใส่ชื่อคนเขียนดูจะเป็นประโยชน์กว่านะครับ จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แหมสองจิตสองใจ ขอลง อ.เทตสึโอะ ฮาร่าก่อน (ลงคนนี้กลัวเล่ายาว...555) ตำนานแท้ๆ ในดวงใจอีกเรื่อง ทั้งที่ต่อยตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆไม่รู้กี่สิบศพ แต่ผมไม่เคยรู็สึกว่ามันจะทำให้ผมก้าวร้าวแม้แต่นิดเดียว มีแต่ความรู็สึกหดหู่เศร้าสร้อยของพระเอก หาใช่ความสะใจในการเข่นฆ่าไม่ มิใช่เพื่อผดุงคุณธรรมเลิศเลอ แต่หัวใจที่เต็มเปี่ยม ย่อมไม่อาจปล่อยให้คนถูกรังแกต่อหน้าได้ อ่ะๆๆๆ  เผลอไป เดี๋ยวจะยาว ... จากคุณ : granun - [ 3 ก.พ. 52 23:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คห. 28 Bastard นี่ก็การ์ตูนระดับลุ้นคนเขียนตายก่อนหรือคนอ่านตายก่อนอีกเรื่องหนึ่งเลยน่ะครับ ยิ่งช่วงหลังยิ่งอ่านยิ่งงง 555 ตามจินตนาการของ อ.แกไม่ทัน ดาร์ค ชไนเดอร์ นี่ ต้นแบบ ราล จอมจก เลยนะนี่ .... ผมรักการ์ตูนคร้าบ .. จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 00:03:17 A:192.168.0.17 X:222.123.31.7 TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เหตุผลที่ผมลงภาพคนเขียนพร้อมชื่อ เพราะอยากให้คนที่ชื่นชอบเรื่องของ อ.เหล่านี้ ได้รู้จักชื่อ ได้เห็นหน้าบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศยุคก่อนลิขสิทธิ์ และเชื่อมยุคลิขสิทธิ์เข้าด้วยกัน ด้วยคนเขียน น่าจะง่ายดี นี่ครับ Bastrad จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 00:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มาปาดหน่อย ยุคกระทู้นี้ยังพอรู้จักบ้าง จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน - [ 4 ก.พ. 52 00:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นึกถึง Talent ยุครุ่งเรื่องสุดๆ จำได้ มันส์ทั้งเล่ม Dragonball City Hunter โรงเรียนลูกผู้ชาย หมัดดาวเหนือ ได ... ตะลุยแดนเวทย์มนตร์ ( ตอนนั้นไม่ได้ใช้ชื่อนี้ ) ประมาณนี้แหละครับ เล่มเดียวอ่านกันทั้งห้อง Dragonball ที่ลงใน Talent นี่ เหมือนเป็น Fax มาน่ะครับ เพราะต้องแข่งกับหัวหนังสืออื่น ลายเส้นนี่เป็นหยักๆเชียว เสียดายไม่มีรูปให้ดู ผมรักการ์ตูนครับ จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 00:14:20 A:192.168.0.17 X:222.123.31.7 TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาเม้าท์อีกหนก่อนกลับไปทำงานต่อ........ จาก คห. 23 ผมเป็นสาวก "อจ.คุรุมาดะ มาซามิ" (เซ็นต์เซย่า) กับ "อจ.ฮิโรฮิโกะ อารากิ" (โจโจ้) ครับ ส่วนจากในภาพรวมมิตรภาพนั้นนี่ ชอบแทบทุกคนล่ะครับ แต่ไม่ถึงกับคลั่งไคล้ ที่ประทับใจและผูกพันเป็นพิเศษก็เช่น - อจ.ฟุจิโกะ&ฟุจิโอะ เชื่อว่า "โดราเอมอน" เป็นการ์ตูนที่อยู่ในใจของเด็กๆสมัยนั้นแทบทุกคน... และการ์ตูนญี่ปุ่นเล่มแรกที่ผมอ่านก็คือ "นินจาฮาโตริ" (สาเหตุที่ทำให้อ่านหนังสือเก่งขึ้น 555) - เรื่องรถด่วนอวกาศ 999 (จำชื่อไม่ได้ต้องขออภัย 555) เรื่องนี้จำได้ตอนเล็กๆ ช่อง 9 ชอบเอามาฉายบ่อยๆครับ (แก้ตามที่คุณทุเรียนกวนฯบอกแล้วกรั๊บ) เป็นการ์ตูนทีวีเรื่องแรกๆที่ได้ดู - เรื่อง "ทัช" (อจ.อาดาจิ) นี่ก็เป็นการ์ตูนทีวีที่ได้ดูบ่อยๆ เรื่องอื่นที่นอกเหนือจากในภาพ อาทิ - "อาราเล่" (อจ.โทริยาม่า) จำได้ว่าเป็นหนังการ์ตูนเรื่องแรกที่พ่อแม่พาไปดูในโรงหนัง ถ้าจำไม่ผิดที่โรง OA - "คินิกุแมน" (อจ.ทามาโงะ) ตอนเด็กๆผมชอบกิน "กระเทียมดอง" และ "ข้าวหน้าเนื้อวัว" เพราะคินิกุแมนนะครับ (คลั่งไคล้แค่ไหนคิดดู? 555) - "น้ำตาเพชฌฆาต" (อจ.อิเคงามิ) ถ้าไม่นับคอบร้า นี่น่าจะเป็นการ์ตูนแนวผู้ใหญ่เรื่องแรกๆที่ผมอ่านตั้งแต่ชั้นประถม อิอิ คิดถึงการ์ตูนเรื่อง Crying Freeman แล้วก็นึกถึงสิ่งที่พี่ G พูด และสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่บางคนชอบกล่าวหาเรื่อง "พิษภัยของการ์ตูน" คือไม่รู้สิ... ผมอ่านการ์ตูนพวกนี้แล้วก็ไม่เคยไปก่ออาชญากรรมทางเพศกับใครเลยแม้แต่น้อย เดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่รู้ "ฆ่าคนเพราะ GTA ก่อคดีเพราะนู่นนี่...." โทษได้โทษดี 555555 แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 52 04:14:44 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 00:25:41 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 00:24:12 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 00:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนเขียนเจ้าชาย อภินิหาร คือ อ.วาดะ ชินจิ ครับ อ.แกเขียนแล้วหยุดไปพักใหญ่ช่วงที่ภรรยาเสีย... ดีที่กลับมาเขียนต่อจนจบ คิดถึงการาเทีย โอเรีย และครูท มากมาย ผมมีตั้งแต่เล่ม 7 บาท ในมือ....555 (ไม่ได้ถ่ายรูปลงเสียที) อ.ท่านนี้เก่งมากๆ มีงานเขียนทั้งการ์ตูนผู้ชาย และการ์ตูนผู้หญิงเลยครับ ทำไมเก่งขนาดนี้ก็ไม่รู้ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 00:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สมัยนั้นเราและพี่ชายตกเป็นของวิบูลย์กิจอย่างถาวรเลย ไม่รู้ทำไม ไม่ว่า talent จะออกเร็วกว่ายังไงก็จะรอและซื้อแต่ zero / games / weekly (จริงๆมันชื่อ อนิเมทวีคลี่ และมันมีอนิเมทแบบรายเดือนด้วย - ซื้อหมด -*- ) รู้สึกว่าช่วงนั้นอ่านการ์ตูนสนุกมาก ยังไม่มีใครมาจัดเรทเลยมั้ง เด็กประถมอย่างเราเลยได้อ่านทั้งแบล๊คแองเจิ้ล เมียวโอเรย์ ก๊อดไซเดอร์ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ริคิโอ bastard crying freeman scandal ฯลฯ โตมายังไม่เคยคิดจะเอาลวดจักรยานไปจิ้มคอใครเลย (ฮา) : P *เพิ่ม* อ. วาดะ ชินจิ เรื่องแรกที่เราอ่าน และไม่สามารถหาอ่านจนจบคือ ยอดนักโทษสาว ซากิ (คาใจมาจนทุกวันนี้ -*- ) เหมือนจะแว่บๆว่าเคยเอาไปสร้างเป็นซีรีส์ด้วยมั้ง ที่ตัวเอกเป็นนักเลงสาว มีลูกดิ่งเป็นอาวุธ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 00:37:14 จากคุณ : godspuppy - [ 4 ก.พ. 52 00:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถึง 22# ครับ Bomb Bomb เป็นของสำนักพิมพ์หมึกจีนครับ ส่วน BOM2 นี่เป็นของบงกช ทำไมถึงใช้ชื่อเหมือนกัน ?  เพราะว่าทั้งสองฉบับเอามาจากนิตยสารของญี่ปุ่น ชื่อ   BOMB BOMB ครับ(ของค่าย โคดันฉะ ปัจจุบันหนังสือหัวนี้ก็ได้ปิดตัวไปแล้ว) ในสมัยก่อนของค่ายหมึกจีน จะมีการนำบางเรื่องจากนิตยสาร CORO CORO (ของค่ายโชกักกุคัง ซึ่งโคโร โคโร่ กับ บอมบอม นั้นก็เรียกว่าเป็นคู่แข่งกัน) เช่น โดราเอมอน, เลทส์แอนด์โก, SD อุลตร้าคัตโตปี้แลนด์ (อุลตร้าจุ๊ย) แต่ถ้าเป็นของบงกช ก็จะมีแค่จากค่าย โดดันฉะ อย่างเดียวครับ ซึ่งแนวการตูนของ Bomb Bomb ก็จะออกแนวเด็กๆหน่อย เน้นพลังสามัคคี ขายของเล่น ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องซับซ้อนมาก เรื่องที่มันส์ๆใน Bomb Bomb ที่พอจำได้ก็จะมี เจ้าหนูเกมบอย เจ้าหนูซูเปอร์แฟมิคอม อุลตร้าจุ๊ย อัศวินกันดั้ม ซีรีย์ ร็อคแมน ZMAN และ โดราเอมอนตอนตลุยอาณาจักรเมฆ แบบนิยายประกอบภาพ (เนื่องจาก อ.ฟูจิโกะป่วยเลยเขียนไม่ไหว) ซึ่งตอนหลังก็จะมี Bomb Bomb Special ที่รวมเรื่องสั้นด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 00:41:56 จากคุณ : DoraZombie - [ 4 ก.พ. 52 00:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 (ขอต่ออีก คห. เถอะ ติดลม 555) พูดถึงรูปใน คห.23 แล้วนึกถึงตอน TALENT ครบ 100 เล่มครับ มีให้ทายจับคู่รูปคนเขียนการ์ตูน 4 คนกับ 4 เรื่องด้วย นั่นคือ "โทริยาม่า อากิระ" / "มิยาชิตะ อากิระ" / "ฮาร่า เท็ตสึโอะ" / "โฮโจ สึกาสะ" (ถ้าจำไม่ผิดนะ เดี๋ยวนี้ยิ่งความจำแย่ๆ 5555) เสียดายไม่เจอ TALENT เล่ม 100 T___T จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 00:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ยุคผม ผมอ่านฉบับรายสัปดาห์หลักๆ คือ ค่ายวิบูลย์กิจครับ ZERO Games มาจนรุ่นใหม่ๆ นอกจากนั้นก็มีโนว่า และที่จริงก็อ่านหมดนั่นแหละ แต่บางส่วนไม่ได้ซื้อเอง ใช้วิธีแลกกันอ่านที่โรงเรียน (ไม่ให้ยืมกลับบ้าน) แต่ทาเลนท์นี่ผมก็อ่านของเพื่อน ใช้วิธีแลกกัน อ.มาซามิ นี่ที่จริงผมชอบงานของแกเรื่องอื่นมาก่อนนะครับ แต่ยอมรับจริงๆ ไอเดียเรื่องของเซนต์เซย่า ลงตัวจริงๆ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 00:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นึกออกอีกเรื่องคือ ข้าชื่อโคทาโร่ ครับ อ่านตั้งแต่ยุคไม่มีลิขสิทธิ์จนมามีลิขสิทธิ์ถูกต้องก็ยังไม่จบซะที ซื้อแล้วก็ซื้ออีก สมัยก่อนซื้อเล่มอย่างหนาของหมึกจีนเล่มละ 30-35 บาท อ่านกันจุใจ เสียดายบ้านโดนน้ำท่วมเลยเน่าขึ้นราไปหมด พอโตขึ้นมีงานมีการทำก็ซื้อของลิขสิทธิ์มาเก็บสะสมใหม่ จากคุณ : ตี๋เขียงหมู (kominator) - [ 4 ก.พ. 52 00:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กว่าจะอ่านจบนานมากเลยค่า ทั้งกระทู้โน้นต่อด้วยกระทู้นี้ ประวัติศาตร์หน้าหนึ่งของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นในไทยเลยนะคะเนี่ย   ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเล่าเรื่องราวให้ฟังนะคะ ส่วนฉันขอเป็นฝ่ายอ่านดีกว่าค่ะ เพราะตัวเองเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งน่ะ พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยว่างด้วยแหละค่ะ     ขอลาไปนอนก่อนล่ะค่ะ จากคุณ : อายากะ - [ 4 ก.พ. 52 00:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผีน้อยคิทาโร่ ของ อ.มิซูกิ ชิเกรุ นี่ สุดๆนะครับ และน่าจะยาวนานมากๆแน่ๆ เพราะว่า ถนนทั้งถนนกลายเป็น เส้นทางของผีน้อย คิทาโร่ไปแล้ว น่าเที่ยวและน่าไปมากๆ ผมไม่มีเล่มเก่าๆของ อ.เก็บเหลือแม้แต่เล่มเดียว แต่โชคดีช่วงนี้กระแสคิทาโร่มา แถมมีหนังมาด้วย ภาค 2 เพิ่งฉายไปหยกๆนี่เอง จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 00:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถนนทั้งสายที่เต็มไปด้วยประติมากรรมจากเรื่องคิทาโร่ น่าไปดูชะมัดครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 #37 ยอดนักโทษสาว เวอร์ชั่นซีรี่ส์ "สิงห์สาวนักสืบ" เป็นละครปี 87 ค่ะ น่าจะเข้าไทยหลังจากนั้นไม่นานนะ ภาคสองมี มินามิโนะ โยโกะ หรือนันโนะ รับบทเป็นอาซามิยะ ซากิ ตอนนั้นเธอดังมากๆ ในไทย นันโนะน่ารักค่อดๆ XD แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 01:13:14 จากคุณ : vee vee' - [ 4 ก.พ. 52 01:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องนี้ชอบมากๆ อามามิยะ ซากิ แต่อ่านไม่จบเหมือนกันครับ...555 เคยลงปกไว้แล้วแต่ เอามาประกอบเวลาคุยได้บรรยากาศดี จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยกชุดเลยดีไหม ยังไม่ได้ใส่ชื่อ แต่ลงภาพลงรวมๆมันได้อารมณ์รวมๆดี ที่มาจากในพันทิปนี่เอง เอามาลงรวมๆไว้อีกที จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อีกเซต จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แต่ว่าลงแบบนี้มันจะมียุคใหม่มาปนด้วยน่ะครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แต่คงไม่เป็นไร เพราะยุคใหม่ก็รู้จักดีอยู่แล้ว จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นั่งอ่านไปๆมาๆ จะตี 2 แล้วเรอะเนี่ย หวังว่าลับแล้วตื่นมาอ่านตอนเช้า ยอดคนโพสต์คงเกินหลักร้อยแหงๆ การ์ตูนนักเรียนตีกัน ก็เป็นพล็อตเรื่องฮิตอีกแนวของการ์ตูนญี่ป่น จอมเก บูลส์ นี่ โดนใจสุดๆ ยิ่งอ่านตอน ม.ปลายยิ่งได้อารมณ์ 555 มาเอดะ ไทซอน กับผองเพื่อน ..... ถึงแม้จะตีกัน ก็ตีเพราะช่วยเพื่อน แถมตีกันตัวตัว มือเปล่าด้วย ไม่มีเล่นกันถึงตาย แถมจบเรื่องก็เป็นเพื่อนกันได้ อีกา ก็ชอบมากครับ ลายเส้นดิบๆ ฮาๆ อ่านแล้ว ชอบ รินดาแมน มากๆ มันเก่งจิงๆ ผมรักการ์ตูนคร้าบ จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 01:46:48 A:192.168.0.17 X:203.172.49.245 TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ที่จริง จอมเกบลู หรืออย่างนี้สิบลู สำหรับผมชุดที่ฮาที่สุดจะเป็นการ์ตูนแก๊ก ตัวสั้นๆเล็กๆครับ คิดไม่ถึงว่าจะจะเอามาทำแล้วขำกลิ้ง จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 01:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คห. 47 อยากอ่าน กอลโก้ 13 แบบลิขสิทธิ์ SIC น่าจะกล้าซื้อมาน่ะครับพิมพ์ ( ค่ายอื่นคงเซ็นแหลก ) คห.47 เหมือนกัน Say Hello to Blackjack นี่ไม่ออกแล้วหรือครับ บูรพัฒน์คร้าบ คห.48 ที่แท้คนวาด Initial D ก็หน้าตาอย่างนี้นี่เอง คห. 48 ล่างสุดขวาสุด เรื่องอะไรครับ น่าสนใจ คห. 49 คนวาด Black Angel หน้าตาโหดน้อยกว่าที่คิด 555 คห.49 คนวาด Beck หน้าตาเข้ากับเรื่องมากเลยครับ คห.50 เมื่อไร อิปโป จะเป็นแชมป์โลกคร้าบ ไม่ก็จะได้ต่อยกับ มิยาตะ เมื่อไหร่ คห.50 คินนิคุแมน เรื่องนี้สุดยอดแล้ว คิดได้ไง มวยปล้ำยอดมนุษย์ คินนิคุ บัสเตออออออร์ !!!! จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 01:59:21 A:192.168.0.17 X:203.172.49.245 TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่น่าเชื่อว่าพอมาเขียนอีกเรื่อง Rookies แล้ว ยังซึ้งซะสาหัสเลย ว่าไปเรื่องเล่าในยุคนี้ไม่รู้จะเล่าอะไรมาก เพราะใครที่โตมาทันยุคนี้น่าจะรู้กันทุกคน ไม่เหมือนยุคต้นๆ ที่เกิดกันไม่ทัน ถ้าคุยในยุคนี้จึงน่าจะเจาะเป็นเรื่องๆ เป็นเกร็ดอย่างโดราเอมอน อย่างคนเขียน แบบนั้นจะสนุก อย่างเรื่องแคนดี้นี่ผมได้แนวคิดเรื่อง คิดบวกเข้าไว้ จะทำให้เราเข้มแข็ง และมีความสุขกับชีวิตมากกว่า เพราะแคนดี้ที่จริงชีวิตไม่ง่ายเลย ทั้งเรื่อง แต่เธอก็ฝ่าฟันมาได้จนถึงปลายเรื่อง อย่างลงตัว คนเราถ้ายังยิ้มได้ และร่าเริงได้ในขณะที่มีความทุกข์ คงจะเป็นความเข้มแข็งที่ยากจะทำให้มันพังลงได้ง่ายๆ อ่านตอนเด็กๆ กับตอนโต ได้อารมณ์คนละอย่างจริงๆครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 02:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เฮอะๆ จอมเกบูลส์ จูจุ๊บ ฮาแตกจิงๆครับ อ่านกี่ทีๆก็ขำ ผมลืมพูดถึงการ์ตูน เอ จะเรียกการ์ตูนดีมั้ย กันดั้มน่ะครับ ผมอ่านที่เป็นการ์ตูนจิงๆจังๆแต่ก่อน ก็ ภาค Z ภาค ZZ ตอนนั้นมันจะมีหัวหนังสือนึงของ วิบูลย์กิจ ที่จะเป็นการ์ตูนจากอะนิเม มารวมๆกัน จำได้ มีซามูไร ทรูเปอร์ ด้วย ผมก็จำชื่อไม่ได้ แต่ กันดั้ม นี่ เป็นการ์ตูน( อะนิเม ) ที่จุดความฝันผมเหมือนกันน่ะครับ เรื่องราวการสู้รบของชาวโลกกับสเปซนอยด์ โมบิลสุทที่เต็มไปด้วยจินตนาการ เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความฝันของคนในสมัยนั้น ที่อยากจะพัฒนาเทคโนโลยีให้ไปถึง โลกอวกาศ ดึกแล้วท่าจะเริ่มเพ้อ ฝากคุณ Granun เล่าต่อล่ะกันครับ ผมรักการ์ตูนคร้าบ จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 02:09:46 A:192.168.0.17 X:203.172.49.245 TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คินนิคุแมนออกมาแรกๆยังจับทางไม่ได้นะครับ เพิ่งจะมาเข้ารูปเข้ารอยทีหลัง และเริ่มเท่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่เป็นตำนานมากมายในญี่ปุ่นอย่าง โจ สิงห์สังเวียน กับฉากในตำนานนี่ บ้านเราไม่ค่อยรุ่นใหม่ๆคงไม่ค่อยมีคนรู้จักแล้ว ทั้งที่เป็นงานที่มีอิทธิพลอย่างสูงงานนึงต่อนักเขียนรุ่นถัดๆมา ผมยังคิดว่า บ้านเราน่าจะมีกลุ่มที่เล่นสายศึกษาวิเคราะห์การ์ตูน ในฐานะศิลปะอีกแขนงหนึ่งด้วยซ้ำ เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่เท่าที่เห็นมีน้อยมากที่จะสนใจกันในมุมนี้ อาจเพราะแม้ในคอการ์ตูนก็ยังมองว่าเป็นสิ่งบันเทิง มากกว่าที่จะเอามาศึกษา แต่ขณะเดียวกันถ้าปราศจากการวิเคราะห์ การเติบโตของนักเขียนในสายการ์ตูนของบ้านเรา ก็ยากที่จะเติบโตไปได้อย่างมีวิสัยทัศน์ และคงจะมวยวัดกันต่อไป จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 02:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ที่จริง กันดั้มเปิดตัวในปีเดียว กับที่โดราเอมอนทำหนังใหญ่ครั้งแรกในญี่ปุ่นนะครับ คือ ปี 1979 แต่มาในบ้านเรากันดั้ม(ช่อง 7) มาพร้อมอิคคิว (ช่อง 3) ในปี 2524 ก่อนโดราเอม่อนอีก ก่อนหน้าที่จะทำกันดั้ม ในปี 1978 กระแสของ "ยามาโต้" ได้รับการตอบรับดีมาก รวมถึง GE 999 ของ เลย์จิมัสซึโมโต้ ที่มีเสน่ห์มนต์ขลังอย่างแปลกประหลาดจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ไอเดีย การ์ตูนเกี่ยวกับอวกาศ เริ่มต้นขึ้น อย่างเต็มไปด้วยจินตนาการ ยุคผมก็คง อามุโร่ เรย์ กันดั้ม กันแท๊งค์ กันแคนนอน แหม ทำได้ตื่นตะลึงจินตนาการ ใครไม่รู้จัก ชาห์ กะ อามุโร่ นี่บ้าเลย ผมมาเริ่มอ่านช้ากว่าเพื่อน เรื่องนี้ เพราะทำงานพิเศษ ไม่ค่อยได้ดูทีวี แต่รุ่นผมยังไม่ดังมากนะ ฮือฮาอยู่แต่กลุ่มแคบๆ ไปดังเอาตอนปี 2542 ราวสิบปีที่แล้วนู่นละมัง ที่ช่อง 9 เอา Gundam Wing มาฉาย นั่นน่ะฮิตจริง แต่ผมเองอ่านหมดทุกแนว ไม่ใช่สายหุ่นยนต์ล้วนๆ อย่างเดียว ความเข้มข้นในการติดตามอาจไม่ต่อเนื่องเจาะจงเท่าสายตรงครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 02:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตามมาอ่านต่อครับ เพิ่มเติมเรื่องราคาการ์ตูน ไม่แน่ครับ ประมาณปี 2521 มั้ง ยุคนั้น วิบูลย์กิจ แพงกว่าทุกยี่ห้อ คือ 10 บาท 128 หน้า 8 ยก สวนมิตรไมตรี ก็ขยับตามเมื่อวิบูลย์กิจขึ้นราคา (ส่วนตัวไม่ค่อยชอบมิตรไมตรี เพราะหนังสือพิมพ์แล้วหมึกติดมือกว่า และรูปพิมพ์แล้วชัดน้อยกว่าวิบูลย์กิจ แต่ก็ตามซื้อ เพราะมีสติกเกอร์แถม) สยามสปอต ตรึงราคาที่ 7 บาท อีกเกือบ 2 ปี ก่อนขยับขึ้นราคา (จำได้ ครูโต้ ราคาถูกกว่าโดเรม่อนนะสมัยนั้น) มีช่วงหลัง สำนักพิมพ์ทีวีแมกกาซีน บุกตลาดการ์ตูนญี่ปุ่นบ้าง ก็เลยตั้งราคาที่ 5 บาท 10 บาท เอาถูกเข้าว่า ส่วนเรื่องซ้ำกับ สนพ.อื่น ก็เอาสวยกว่าเข้าว่า ราคาเท่ากัน ที่จำได้ รู้สึกเคยเขียนไปบ่นที่วิบูลย์กิจด้วย ว่าขึ้นราคาไ่ม่เป็นธรรม ประมาณนั้น แถมช่วงหลังขี้โกง ลดหน้าเหลือ 112 หน้า 10 บาท อีกต่างหาก ก่อนจะเข้าสู่ยุค 25 บาท 400 หน้า, 20 บาท 300 หน้า ในอีก 5 ปีต่อมา ที่เน้นหนาเข้าว่า แข่งกับ สนพ. อื่น โดยเฉพาะหมึกจีน ที่หนาโคตรๆ (แต่แต่งภาพห่วยสุดๆ) ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆด้วยครับด้วยครับ คุณ granun อืม.. สะสมไว้เกือบครบเหมือนกัน สัก 70% ได้มั้ง เสียดาย รู้ตอนจบบ้าง ไม่รู้บ้าง เพราะพอเปลี่ยนเป็นแบบมีลิขสิทธิ์ ก็พยายามตามซื้อเก็บ แต่บางเรื่องก็หายเข้ากลีบเมฆซะงั้น อีกนิด สิงห์สาวนักสืบ ภาค2 ดังสุด (แต่ภาค 1 สนุกสุด) ก่อนจะปิดตัวไปในภาค 4 ครับ แต่ที่ดังกว่า ก็จุงโคชิกะ รู้สึกจะชื่อ "สิงห์สาววอลเลย์บอล" หละมั้ง ไฟโต๊ะ ไฟ๊วโต๊ะ (สโลแกนเด็ดจากเรื่อง) เพิ่มเติม อิคคิว เอามาทำช่วงช่อง 3 รีรันรอบ 2 ครับ แถมรู้สึกจะใช้วิธีวาดก็อปจากทีวีเลยด้วย คนไทยวาดเองด้วยมั้ง เพราะลายเส้น เพี้ยนมากๆ (อันนี้ไม่ชัวร์ รู้แต่ว่าซื้อมาแล้วไม่ชอบ) แต่เรื่องคนไทยวาดเอง แต่งเรื่องเอง เอาตัวละครญี่ปุ่นมาทำ เคยเผลอซื้อจากสำนักพิมพ์โนเนมต่างๆ เล่นเอาเซ็งมากๆ นึกว่าตอนใหม่ ทีไหนได้ made in thailand ซะงั้น (อาจจะมีพวกโดจินด้วยมั้ง) ตอนหลังเลยซื้อจากวิบูลย์กิจและสยามสปอตเป็นหลัก จากคุณ : thanachott - [ 4 ก.พ. 52 02:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รุ่นผมอ่านต้อง เปอร์เฟคกันดั้ม ทีเป็นโลโก้ประจำตัวของพลาโมเคียวชิโร่ครับ...อิอิ (เก็ทมุกเราปล่าวเนี่ย....) จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 02:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เริ่ม ๆ ทันแล้วค่า ยุคนี้ ตอนเด็ก ๆ โง่มาก ซื้อการ์ตูนไม่เป็น ตังค์ก็ไม่มี ก็พี่นี่แหละที่คอยซื้อการ์ตูนเข้าบ้านให้เราได้อ่าน แต่โดนปลวกบ้าง แม่เก็บขายเจ็กบ้าง เหลือแค่เกมส์ ทาเลนต์ เอ็กซ์ตร้า โนว่า อนิเมท ไม่กี่เล่ม อุตส่าห์หลงไว้ให้เราใช้เป็นข้อมูลทำรายงานส่งครู ^^" อีกที่ก็บ้านญาติ เป็นอะไรที่ไปทีไรก็นั่งอ่านการ์ตูนอย่างเดียว จำได้ว่าติดใจมากคือตินตินสี่สี (ขนาดเอห้าน่ะค่ะ) กับมายาดำเวทย์ทมิฬซึ่งไม่รู้ทำไม สยามอินเตอร์ฯ เอามาทำใหม่ไม่ยักน่ากลัวเหมือนเดิม (สงสัยแก่แล้ว ประสาทแข็งค่ะ ^^') พูดแล้วก็คิดถึง แต่การ์ตูนที่จำได้ดีมาก และอยากฟังคือการ์ตูนค่ายสยามสปอร์ตน่ะค่ะ เพราะเมื่อก่อนบ้านเราจะมีพี่เลี้ยงบ้าง ญาติบ้างมาพัก แล้วซื้อตูนมาทิ้งไว้ให้เราได้เก็บอ่าน ซึ่งร้อยทั้งร้อย เป็นของค่ายนี้ (มีมิตรไมตรี สามดาว ฯลฯ ประปราย แต่ไม่ได้เก็บไว้เลย เหอ เหอ) เป็นการ์ตูนยุคที่ชอบมาก แต่โตไม่ทันซื้อค่ะ ^^' บางเล่มสันราคา 12 บาท แต่กระดาษยังเน่าไม่ทันยุคลิขสิทธิ์บางเล่มเลย จำได้ว่าประมาณปี 42-43 เขียนจม.หากองบก.ซีคิดส์ แล้วในจดหมายตอบมีเลย์เอาท์ปกของตูนสมัยก่อนมาแนบมาให้ด้วย ดีใจมากมาย จากคุณ : atihasita - [ 4 ก.พ. 52 02:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จากที่คิดว่าตัวเองแก่ๆอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองหนุ่มขึ้นมาทันตาเห็น การ์ตูนเล่มละ2บาทนี่เทียบกับตอนนี้เล่มละ40-50เห็นแล้วใจหาย สมัยผมเริ่มซื้อการ์ตูนเล่มแรกสุดเลยคงป3มั้งตอนนั้นที่ถูกสุดๆก็talentเล่มละ12บาทเข้าไปละ ต้องแอบๆซื้อแอบๆซ่อนด้วยเพราะว่าี่ที่บ้านไม่อยากให้อ่านการ์ตูน พ่อกับแม่เจอการ์ตูนเมื่อไหร่จับโยนทิ้งตลอด จากคุณ : สมาคมกินแห้ว - [ 4 ก.พ. 52 03:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เคยซื้ออ่านแต่ เจ้าหนูสิงนักเตะ  เล่มใหญ่ๆหน่อย แต่หน้านึงจะเท่ากับ 4 หน้าของเล่มเล็กมั้ง ถ้าจำไม่ผิด  ตอนนั้นพ่อยอมให้ซ์อแค่อาทิตย์ละเล่ม เลยเลือกซื้อเล่มนี้เพราะว่าจะอ่านซึบาสะโดยเฉพาะ สมัยนั้นการ์ตูนฟุตบอลอีกเรื่องที่อ่านและจำได้ก็น่าจะเป็น คิกเกอร์ล่ะมั้งครับ  แต่ยังไม่สุดๆเท่าซึบาสะ ของ อ.มาซามิ ที่จำได้อีกเรื่องที่ดูสมัยนั้นจะเป็น ภูตลมโคจิโร่นี่แหละครับ  เป็นหนังสือการ์ตูนบ้าง หรือเช่า วีดีโอมาดูบ้าง กับเซนต์เซย์ย่า เพราะสมัยนั้นต่างจังหวัดจะไม่มีหนังสือการ์ตูนมาขายเท่าไหร่ แค่เจ้าหนูฯ นี่ยังต้องข้ามอำเภอไปซื้อเลย - -" จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว - [ 4 ก.พ. 52 03:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สยามสปอร์ตพับลิชชิ่งนี่มีงานออกมาต่อเนื่องมากๆ เจ้านึงครับ ที่จริงผมคุ้นเคยกับนิยายกำลังภายในมากกว่า... สมัยนั้นมี นิยายกำลังภายในของสยามสปอร์ตพับลิชชิ่ง พิมพ์เป็นขนาดพอกเกตบุ๊ค ผมไปยืนอ่านที่ร้านหนังสือบ่อยๆ (อ้าว) ช่วง 2520-2521 ผมติดนิยายกำลังภายในแบบเกาะร้านเช่าหนึบ (เช่าอ่านอย่างเดียว เล่มละ 2-3 บาท) งานของสยามสปอร์ตพับลิชชิ่ง ผมเพิ่งเริ่มอ่านจากคือ ซินครอยด์ ราคาเล่มละ 6 บาท กับอีกเรื่อง  เจ้าหนูผจญภัย ตอนนั้นในเล่มเขียนชื่อ ครู้ด ไม่ใช่ ครูท หรือครูโต้เหมือนในปัจจุบัน (เจ้าชายอภินิหาร หรือพิกมาริโ้อ้) นอกจากนั้นก็มีฟลาวเวอร์ดรากอน กับนักสู้ตะลุยจักรวาล เรื่องชื่อเรื่อง และตัวละครนี่ชวนพาผมมึนมากๆเพราะต่างสำนักพิมพ์ก็ต่างเล่นแทคติกใช้ชื่อให้แตกต่างกันนิดหน่อย ขนาดโดราเอมอน ยังมีอีกหลายชื่อ ทั้ง โดเรมอน โดรามอน แถมด้วยไดโรมอน (ปลอม) ผมเองสับสนบ่อยๆ...555 เซ็งชะมัดที่ยุคนี้มันไม่มีมาตรฐาน ถ้าเราดันไปอ่านเล่มที่ไม่มาตรฐานแล้วเมมโมรี่มันดันจำ เป็นเรื่องเลยครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 03:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ที่จริงแล้วตอนนั้น สยามฯ มีงานการ์ตูนผู้หญิงค่อนข้างเยอะ ผมไม่ค่อยได้ซื้อหรอก แค่การ์ตูนผู้ชายก็ทรัพย์จางจะแย่...555 อาศัยอ่านฆ่าเวลาระหว่างรอ ในวันที่ไม่มีการ์ตูนอ่านซะมาก จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 03:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณ thanachott ขอบคุณมากครับ เรื่องสยามสปอร์ต เป็นไปได้ว่าเพิ่งเริ่มจับตลาดตามทีหลัง เพราะมีจัดโปรโมชั่นค่อนข้างเยอะ และยืนราคาถูกกว่าเพื่อดึงคนอ่าน ผมลองถามๆเพื่อนๆดู ทุกคนไม่มีเมมโมรี่การ์ตูนสยามสปอร์ตเท่าไหร่ ผมเองก็ไปเน้นหลักอยู่ที่ วิบูลย์กิจ มิตรไมตรี เสียเยอะ (จะพยายามเก็บไปทำการบ้านเพิ่ม) รายสัปดาห์ของวิบูลย์กิจนี่ซื้อทุกเล่ม แต่ถ้ารวมเล่มจะอ่านทั่วกว่า เพราะหลายเรื่องทาง VBK ก็ไม่มี แถมสนุกเสียด้วย การลงบอร์ดดีตรงนี้ มีคนช่วยสอบทาน ความทรงจำด้านเดียวไม่เพียงพอกับช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครนึกจะบันทึกไว้เป็นเรื่องเป็นราว ผมนึกได้แล้ว ตอนนั้นมันมีงานโดราเอมอนที่แดนเนรมิต ใช่สยามฯหรือเปล่าที่เป็นคนจัด จัดวันที่เท่าไหร่ ใครมีรูปเก่าๆเอามารื้อฟื้นกันหน่อยสิครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 04:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อิคคิวนี่ คุณทุเรียนกวน กับคุณเอียด มีฉบับวิบูลย์กิจด้วยนะครับ พิมพ์ไว้ด้วยว่าได้ลิขสิทธิ์ อิคคิวดูจะเป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่ชอบอ่านการ์ตูน แต่ชอบดูทางทีวีมากกว่า...555 จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 04:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ปล.ผมกำลังจะตะล่อมโน้มน้าวให้คนเชื่อว่าการ์ตูน มันให้ประโยชน์ด้วยเหมือนกัน สำหรับเยาวชน...555 จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่สำหรับผมกับเพื่อน มันจริง (ฮา) ^ ^ ^ โดนใจจัง   สำหรับผมด้วยอีกคน (จริง คนส่วนมากในห้องการ์ตูน ก็น่าจะเห็นด้วยนะ ...แต่ผู้ใหญ่ไดโนเสาร์บางท่านนี่สิ น่าลำบากใจ -*-) ยุคนี้ผมเกินทันแล้วครับ  อยากช่วยเล่าต่อเหมือนกัน  ช่วงนี้คนราวๆ 20-30 น่าจะเริ่มเยอะ /me มาตามรับฟัง ประสบการณ์ด้วยคนครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 04:32:57 จากคุณ : Kross_ISC - [ 4 ก.พ. 52 04:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 น่าสนใจตรงที่คนนำประวัติอิคคิวมาเขียนด้วยครับ ตอนที่ผมค้นข้อมูล เริ่มแรกเดิมทีอิคคิวเป็นหนังสือเฉยๆ แล้วเอามาทำเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นเลย ไม่ได้ทำเป็น Manga ก่อน ต่อมาคนเขียนได้เขียนเป็นการ์ตูนและดังทีเดียว มีตีพิมพ์ใน ตปท.หลายที่ทีเดียว แต่บ้านเราไม่มี สงสัยลายเส้นมันดูแล้วไม่แนวตลาด...555 ปกหน้าครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 04:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ทั้งหมดมี 4 เล่มจบครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 04:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เกร็ดอีกเรื่องของอิคคิว คือ ชื่อจริงของท่านแม่อิคคิวครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ที่จริงผมไม่นึกว่ามันจะเป็นคำถามได้ แต่ตอนผมตอบสัมภาษณ์มีคำถามข้อนี้ด้วยล่ะ ชื่อที่ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เคยรู้ ตอนนี้ไม่ธรรมดาแล้ว ต้องกลับมาเชคข้อมูลอ้างอิงให้แน่ๆอีกรอบ ชื่อท่านแม่ของอิคคิว อ่านแบบฮิรางานะ อิโย โนะ ทสีโบเนะ (เป็นชื่อตำแหน่ง) แปลไทยได้ประมาณ เจ้าจอมอิโยะ ครับ ข้อมูลนี้มีเล่าในต้นฉบับของ มาซาโอะ โคงุเร แล้วอยากรู้ชื่อจริงท่านแม่อิคคิวไหมครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เล่าเรื่องตุ๊กตาไล่ฝนให้ฟังนะครับ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เท-รุ-เท-รุ-โบ-ซุ เ ป็นตุ๊กตาที่ทำมาจากกระดาษ ซึ่งเด็กๆ มักจะทำขึ้นมา เพื่ออธิษฐานให้อากาศแจ่มใสนั้นเอง คำว่า เท-รุ แปลว่า ส่องแสง (ใช้กับพระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์) ส่วนคำว่า โบ-ซุ แปลว่าพระสงฆ์ ในสมัยก่อนมีความเชื่อว่า ถ้าเอาตุ๊กตาไล่ฝนที่พระสงฆ์ทำให้ ไปแขวนไว้หน้าบ้าน ที่หน้าต่าง หรือตามต้นไม้ แล้วจะทำให้อากาศในวันรุ่งขึ้นแจ่มใส ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าเท-รุ-เท-รุ-โบ-ซุ ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 05:17:58 จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ทีนี้ในการ์ตูนจะสังเกตว่า หลายครั้งที่อิคคิวซังคิดถึงท่านแม่ การ์ตูนจะแพนไปให้เห็นตุ๊กตาไล่ฝนบ่อยๆ ที่อิคคิวมักจะมองตุ๊กตาไล่ฝน เทรุ เทรุ โบซึ เวลาคิดถึงท่านแม่ เหตุผลก็เพราะว่า ท่านแม่ของอิคคิวซัง ชื่อ เจ้าหญิงเทรุโกะนั่นเองครับ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ตามมาอ่านครับ จากคุณ : น้ำใส - [ 4 ก.พ. 52 05:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คงต้องคุยกันไปเรื่อยๆน่ะครับ นึกอะไรออกก็เล่ากันไปตามที่นึกได้.. จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คุณน้ำใสมาพอดีผมจะลาไปนอนเลยครับ ฝากดูกระทู้ด้วยนะครับ :) จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 05:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบเรื่อง ของคนที่เชียน ผีซ่าส์กับฮานาดะ อ่ะ (จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร "สาวน้อยแก่นกระโหลก" รึเปล่าหว่า...) จากคุณ : Myryuko - [ 4 ก.พ. 52 07:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตามมาจากกระทู้ที่แล้ว คุณ granun ครับ Perfect Gundam ผมเฉยๆ แต่ผมชอบ Z โคตรๆจากพลาโม เคียวชิโร่ครับ เป็นแรงบันดาลใจให้ต่อกันดั้มทุกวันนี้แหละ (พาลไม่ชอบภาคหลังๆไปเลย ต่อแต่พวก UC) ของวิบูลย์กิจพิมพ์ 18 หรือ 20 เล่มจบเนี่ยแหละ แต่ผมซื้อครบของไพเรทครับ จริงๆก่อนก่อนที่มิตรไมตรีจะออก Talent มิตรไมตรีมีออกการ์ตูนรายสัปดาห์อยู่หลายเล่ม เล่มนึงมี 4-5 เรื่องมั๊งครับ นั่นคือ "ชิวกัง" ครับ เพราะเด็กๆจำได้ว่า เคยอ่านของพี่ชาย ตอนนั้นยุคหมัดดาวเหนือกำลังดังมาก(ตอนแรกๆเลย ที่แย่งยูเรียกับชินน่ะครับ) นอกจากนั้นก็มีโจโจ้ภาคแรกสุด ตอนนั้น Zero เองก็เพิ่งตั้งไข่ ถ้าผมจำไม่ผิดจากสันหนังสือ จะเป็นปี 1987 ครับ (ตอนนี้มันหายไปไหนหมดไม่รู้) ที่จำได้แม่นคือ Zero ตอนนั้นมีเรื่องเด็ดมากลงคือ... คอบรา เห่าไฟสายฟ้าครับ จากคุณ : zvonimir (zvonimir) - [ 4 ก.พ. 52 08:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ไม่รู้ยุคนั้นใช้ยุคเดียวกับเรื่อง cipher ของอาจารย์ นาริตะมินาโกะหรือเปล่านะคะ ถ้าใช่ ถือว่าเป็ยุคที่การ์ตูนผู้หญิงออกมาหลายแนวไม่แพ้การ์ตูนชายเลยค่ะ บางเรื่องอ่านได้ทั้งชายแหละหญิงด้วยซ้ำ เห็นหน้าปกเรื่องพิกมาริโอแล้วนึกถึงฉบับที่ตัวเองซื้อมา จำได้ว่าสนุกมาก เรียกว่าแวะเวียนร้านหนังสือบ่อยมากเพื่อตามหาให้ครบ มีอยู่ช่วงหนึ่งอยู่ฟหนังสือขาดหายไปจนทำใจว่าสงสัยเลิกพิมม์แล้วมั้ง แต่ก็มาพิมพ์ต่อจนจบ การ์ตูนผู้หญิงสมัยนั้นคนข้างจะมจุดร่วมที่คล้ายกันค่อ นางเอกใสซื่อ เรียกว่านางเอกจริงๆเลยล่ะ และบุคคลิคร่วมกันอีกอย่างคือซุ่มซ่าม ^_^ ส่วนพระเอกก็จะออกแนวปากร้ายชอบว่านางเอกแล้วก็แอบช่วยเสมอๆ จำผลงานเด่นของอาจารย์สมัยนั้นก็ มาเอดะ เอ็ตสึโกะที่เขียนวัยรักเป็บเปอร์มิ๊น ที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง โดยวางการเติบโตของตัวละครตั้งแต่สมัยมัทธยมไปจนถึงเรียนจบทำงาน ตัวละครค่อนข้างมีมิติที่หลากหลาย และมีปัญหาของตนเอง รวมไปุคงเรื่องขจองการก้าวไปสู่จุดมหายของแต่ละคนที่ตัวเองถนัด (แต่นางเอกออกแนวจุ้นจ้านเรื่องคนอื่นจริงๆเลย บางทีอ่านล้วขัดใจชมัด^0^) เรื่องเวอร์จิ้นบลูนี่ คาดว่าสาวๆในรยุคเดียวกันต้องรู้จักแน่ๆ โดยส่วนตัวคิดว่าลายเส้นแปลกๆ แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของอาจารย์คนนี้เลย (อาจเพราะอ่านของอาจารย์คนนี้น้อยด้วย) ที่ดังกระฉ่ิอนมากๆก็มี ไซโต จิโฮะ ที่วาดได้สวยและเนื้อเรื่องจะมีหลายแนวมากๆ(แต่ออกแนวโรแมนติคซะส่วนใหญ่) งานเขียนของอาจารย์จริงๆแล้วมีเค้าลางของการฉีกกรอบธรรมเนียมหลายๆอย่างในยุคนั้นมาบ้างแล้ว (นางเอกไม่จิ้น การมีชูเ การนอกใจ การผ่านชายหลายคนของนางเอก) แต่ก็ยังไม่ถือว่ามากอะไร จนมาปัจจุบันที่เรียกว่าหลุดเฟรมออกมาเลย (แต่ก็ชอบนะ) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 08:09:18 จากคุณ : บลูดานูป - [ 4 ก.พ. 52 08:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ส่วนการ์ตุนแนสยองขวัญแบบหลอนๆ+แนวสืบสวน ของไม่พ้นฝีมืออาจารย์ ชิโนฮาระ จิเอะไปได้ ด้วยเรื่องราวส่วนใหญ่จะออกแนววิญญาณ หรือเรื่องลึกลับไม่ก็แนวสืบสวนไปเลย เรื่องที่เด่นก็น่าจะเรื่องคืนวันพระจันทร์สีเลือดที่เขียนออกมาได้ลงตัวทางเนื้อเรื่อง ตอนเราอ่านจบสงสัยแฝดพี่มากๆเลยล่ะค่ะ ส่วนเรื่องวีดีโอเกิลล์ฺนี่จำได้ว่ามันโป้สุดละมั้งสำหรับเด็กๆอย่้างเร้ว แบบว่าบางหน้านี่เปิดแล้วใจเต้นเลย แต่พอมาวัยนี้แล้วพลิกดูอีกที ไม่ได้โป้อะไรด้วยซ้ำ ออกจะสวยดีซะด้วย ในช่วงนี้มีละครไมยหลายเรื่องที่ก๊อปปี้เนื้อหาในการ์ตูนเหล่านี้มาทำ ที่ต้องเรียกว่าก๊อปเลยเพราะว่าบางเรื่องลอกมาแต่คำพูดของตัวการ์ตูนเลยค่ะ แน่นอน 1 ในนั้นวีดีโอเกิลล์นี่เอง ช่วงนั้นละครวัยรุ่นจะฉายช่วงเย็นๆ เรื่องนี้ คลาวเดีย จักรพันธุ์ เล่นเป็นนางเอก ทั้งเนื้อเรื่อง คำพูดบทสทนาเหมือนวีดีโอเกลิล์ภาคภาษาไทยบ (แต่แย่กว่ามาก) อีกเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับละครไทยคือเรื่อง หมายเลข 1 คือเธอ ซึ่งเ)็นเรื่องของทีมวอลเลย์บอลหญิงที่ฝีมือแย่มากๆจนได้ตัวเองมาเสริมทีม ในละครจำเนื้อเรื่องมากมไ่ได้ค่ะ แต่มีดัดแปลงไปพอสมควรจากหนังสือในด้านการวางตัวละครต่างๆ แต่โครงเรื่องหลักยังคงเดิม มีท่าไม้ด้วยด้วย ลูกตบกลับทิศทางงง (ในการ์ตูนคือ มาโกโตะสเปเชียล) เอฟเฟคตอบตบลูกตบนี้มันจะวิ๊งๆๆๆ หมุนไปหมุนมาไรนี่แหละค่ะ เล่นเอาฮาทุกทีเวลา แบบไม่เข้าใจ ทำไมเวลานางเอกจะตบต้องตะโกนชื่อท่าด้วย อิอิ (แต่ในการ์ตูนไม่ได้ตะโกนนะ) อีกเรื่องที่โดนก๊อปมาทำเช่นกันคือ แม่สาวทะเล้น จำได้ว่าตอนนั้นปัทมาวรรณ เค้ามูลคดีจะเล่นเป็นนางเอกค่ะ แน่นอนเนื้อเรื่องมาจากการ์ตูนเลย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาที่นางเอกเล่น บรรดาพี่ๆจอมหวงน้องสาว กับน้องชายคนเล็กที่โดนพวกพี่ชายบังคับให้ดูแลน้องสาว แม้่แต่บุคคลิคของตัวละครยังก๊อปเอามาเลย นี่ไม่รวมเนื้อเรื่องที่ไม่ค่้อยจะต่างกันเท่าไหร่อีกตะหาก เรียกว่าอืมมนะ แรงบันดาลใจ ^_^ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 08:24:07 จากคุณ : บลูดานูป - [ 4 ก.พ. 52 08:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มุซาชิๆๆๆ ชอบมากๆเลย สมัยนั้นผมไม่มีตังซื้อเก็บไว้ ได้แต่ไปอ่านจากห้องสมุดโรงเรียน  ตอนพ่อมุซาชิตายนี่ผมก็อินเหมือนกันครับ ทั้งภาคอนิเมทั้งการ์ตูนเลย จากคุณ : Desolation Angel - [ 4 ก.พ. 52 08:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แต่ละเล่มไม่รู้จักเลยย อายุเท่าไหร่กันนี่แต่ละท่าน อิอิ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน - [ 4 ก.พ. 52 08:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาอีกก็โหวตอีกครับ บรรยากาศดีๆของคนอ่านการ์ตูนแบบนี้มีมาไม่บ่อยนัก เวลาเรื่องของคนอ่านการ์ตูนออกสู่สายตาคนนอกอย่างตอนแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่นสองครั้งแรกเมื่อ 3-4 ปีก่อนนี่ดูแล้วก็กุมขมับ มันไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟ ตัวแทนของคนอ่านการ์ตูนมันต้องไม่ใช่แบบนี้ = = อย่าหาว่าพาดพิงเลยนะแต่เสียงตอบรับในพันทิปตอนนั้นมันมาคุดีจริงๆ อย่าลืมแวะเข้าไปดูกระทู้เดิมกันด้วยนะครับ คคห.ท้ายๆหลายๆอันมาช่วยกันเล่าน่าสนใจมาก กลัวมากระทู้ใหม่แล้วไม่ค่อยมีคนเห็น ^^ หลังๆผมไม่ค่อยได้ซื้อการ์ตูนนิตยสารแล้วสิ รู้สึกเหมือนมีภาระให้ตามการ์ตูนเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆๆๆ ตั้งแต่บอมบ์บอมบ์เจ๊งไปการ์ตูนอย่างคาโอเลือดนักสู้, ไฟท์นักเตะลมกรด, ตำนานกาโร่ หรือก็อดกันซีโร่นี่ผมไม่รู้จะไปอ่านต่อที่ไหน อยากกลับกทม.ไปหยิบพวกเดอะทาเลนท์, บอมบ์บอมบ์, ไอศครีม, คิดส์คอมิค มาแสกนจัง ตอนอุลตร้ามิกเซอร์ว่าจะเอาลงบล็อกเหมือนกันครับแต่โดราเอม่อนพลัสลงไปแล้ว อยากให้ทางญี่ปุ่นพยายามรวมตอนเก่าๆที่ไม่อยู่ใน 45 เล่มออกเล่มพิเศษมาอีกนะ โดราเอม่อนมีตั้ง 1344 ตอน (wiki) 45 เล่มมีกี่ตอนใครช่วยนับทีครับ ^^ /me โดนถีบ แต่ก่อนมีขนมดังยี่ห้อกาก้า(2บาท)กับคัมคัม(3บาท)ครับ มาก่อนขนมโดราเอม่อนที่แถมสติ๊กเกอร์อีก คัมคัมจะแถมโดราเอม่อนสี่สีในซอง เป็นชุดเดียวกับที่ลง Doraemon Color Special น่ะครับ แต่ไพเรทจับมาพิมพ์ขาวดำหมดภาพเลยเลอะๆ ผมชอบซื้อมากเลยนะ 3 บาทได้การ์ตูนสีอ่าน ต่อให้เป็นตอนนั้นก็ยังคุ้ม ^^ จากคุณ : ชีริว - [ 4 ก.พ. 52 08:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 84 แม่ผมทิ้งไปหมดแล้ววววววว แรรรรร ไอเท็มอ่ะ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน - [ 4 ก.พ. 52 08:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กระทู้นี้เริ่มเกิดทันอ่านแล้วแหะ จากคุณ : Baritoreca - [ 4 ก.พ. 52 09:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่ทราบว่า รูปอาจารย์คนนี้นานรึยังครับ ปัจจุบันรึป่าว ดูมันเก่าเหลือ อาจารย์แก จะเขียนจบรึเปล่าเนี่ย สังหรใจยังไงไม่รู้ ขอรูป อาจารย์ ฮิโรฮิโกะ อารากิ jojo ล่าข้ามศตวรรษ ด้วย ปล. จขกท สุดยอดดดดดดดดด แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 10:20:28 จากคุณ : DJ-kornkyoko - [ 4 ก.พ. 52 09:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เรื่อง ดันไบน์ นี่เมื่อก่อนตามอ่านจาก T.V.ไลน์ ตลอดเลย แถมราคาแพงที่ สุดในเวลานั้น 15 บาทแต่ก็จะมีภาพสีแทรกอยู่ด้านหน้า 5-6 หน้าแลกกับ ราคาที่แพงขึ้นมา T.V.ไลน์ฉบับ 100 ราคาแพงที่สุด 35 บาท เพราะทำ เป็นฉบับพิเศษหนาปึ๊ก มีภาพปกตั้งแต่ฉบับ 1 - 99 โชว์ให้ดูด้วยเสียดาย โดนปล้นไปขายเจ็กหมดเลย T T จากคุณ : DEDETE - [ 4 ก.พ. 52 10:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 88 พูดถึงยามาโต้ รถด่วนกาแลคซี่999 แล้วก็ต้องมี Macross เพราะตอนนั้นช่อง 9 เอามาฉายวันธรรมดาตอนเย็นๆ ตอนเด็กๆไม่ค่อยรู้เรื่องมากตอนแรกๆก็คิดว่ามันเป็นการ์ตูนหุ่นยนต์ที่เจ๋งใช้ได้อยู่ เครื่องบินแปลงร่างเป็นหุ่นได้ทั้งแบบครึ่งตัวกับเต็มตัว ยานอวกาศใหญ่ๆทั้งลำแปลงเป็นหุ่นยักษ์ได้ พอตอนหลังเริ่มเบื่อๆเพราะความสัมพันธ์ของตัวละครมันเริ่มสับสน พอโตขึ้นได้มาดูอีกครั้งถึงได้รู้ว่าทำไมตอนเด็กๆถึงคิดแบบนั้น มาครอสมันเป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งค่อนข้างจะเป็นเรื่องดราม่ามากกว่าแอ๊คชั่น มิน่าตอนเด็กๆถึงเบื่อเพราะเนื้อเรื่องมันออกจะเหมือนละครทีวีนี่เอง จากคุณ : ตี๋เขียงหมู (kominator) - [ 4 ก.พ. 52 10:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 89 Hirohiko Araki - JoJo จากคุณ : runtboy - [ 4 ก.พ. 52 11:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ถึงยุคนี้แล้วต้องไปขุดกรุมาดูก่อนว่ายังอยู่ดีหรือเปล่า ลงชื่อไว้ก่อนว่าตามอ่านอยู่นะคะ จากคุณ : tarmon - [ 4 ก.พ. 52 11:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 91 Jojo นี่ก็การ์ตูนระดับตำนานมีชิวิตอีกเรื่องนึง ที่อ่านตั้งแต่เด็ก ภาคแรก ๆ ลายเส้น ยังเป็นแนวการ์ตูนกล้ามเนื้อ แบบ เค็นชิโร่ ( แต่ก็แอ่นน่ะ ) จนมาหลังๆ ตัวละคร เรื่มเพรียวมากขึ้นๆ จากนักกล้ามเป็นนายแบบแล้ว 555 ความสามารถ สแตนด์ เป็นไอเดียที่ลงตัวมาก บวกกับ การวาดภาพในมุมกล้อง ที่แปลกตา ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้อ่านได้ไม่มีเบื่อจิงๆครับ จากคุณ : ฮอนดะ ทาดาคัทสึ - [ 4 ก.พ. 52 11:43:51 A:222.123.31.7 X: TicketID:199704 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ว้าว กลับมาตอนเช้า... กระทู้นี้ก็ได้ "ขึ้นแนะนำ" ไปเรียบร้อย น่าปลาบปลื้มใจแทนชาวการ์ตูนจริงๆ! - ใน คห.45 ละคร "สิงห์สาวนักสืบ" โอ้โห มินามิโนะ โยโกะ น่ารักโฮกๆเลยครับ ตอนนั้นผมก็ทันได้ดูทางช่อง 5 แต่ผมจะจำสิงห์สาวน้องเล็กได้ดีที่สุด (คนผมหน้าม้าสั้น ตาโต) - รูป คห.52 ก็ขำครับ "อจ.โมริตะ แกหน้าตา+ทำผมเหมือน "เจ้าฮิโรโตะ" (หรือสาบศักดิ์หัวแดงใน จอมเกบลูส์ เปี๊ยบ 555) - ได้อ่านเกร็ดเรื่อง "อิคคิวซัง" และลายเส้นต้นฉบับ ดีครับ อิคคิวนี่เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่คนไทยผูกพันมาก สำหรับผมมันเป็นการ์ตูนที่มีความหมายดีมาก และไม่รู้สิแค่เวลาฟังเพลงตอนจบก็น้ำตาจะไหลแล้ว (ขนาดไม่เข้าใจความหมาย แต่คิดว่ามันเป็นเพลงที่ร้องและสื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ) (คห.ส่วนตัว) นอกจากนี้ผมว่า "อิคคิวซัง" นี่แหละครับ เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นน้ำดีที่ช่วยค้ำจุนวงการการ์ตูนญี่ปุ่นในเมืองไทย เพราะจำได้ว่าก่อนยุคอินเตอร์เน็ต สื่อและผู้ใหญ่บางเจ้ามักจะชอบโจมตีการ์ตูนญี่ปุ่นประจำว่า "รุนแรง ก้าวร้าว ส่งผลกระทบต่อเด็ก" แต่ก็มีการ์ตูนเรื่องนี้ล่ะครับที่เหมือนพ่อพระ คอยช่วยกู้ศักดิ์ศรีให้ตลอด "เห็นมะ การ์ตูนดีๆก็มี แฝงคุณธรรมสอนใจ" จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 12:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เดี๋ยวค่ำๆอาจจะมาช่วยโพสต์ประวัติของ อจ. นักเขียนการ์ตูนสักคนนะครับ ที่จริงอยากเอาปกการ์ตูนแปลกๆมาโพสต์อีก แต่คงจะคุ้ยหาลำบากแล้ว 555 สมัยเด็ก การ์ตูนอีกฉบับที่ผมชอบคือ "ขวัญผวา" ของมิตรไมตรีครับ ซึ่งแหวกกว่าชาวบ้านตรงที่เป็นรวมเล่มการ์ตูนผี (ของหมึกจีนก็มีแต่จะออกช้ากว่า และเล่มใหญ่กว่า) ถ้าเจอจะสแกนมาให้ดูกันครับ จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 12:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ถามในกระทู้นี้ละกันนะครับ ไม่อยากตั้งทู้ใหม่ รายสัปดาร์ยุคของ zero / the talent นี่ ผมสงสัยว่าทำไม the talent นี่ถึงฮิตกว่า ย้อนกลับไปดูตอนนี้ คุณภาพเยบกับยุคเดียวกันอย่าง zero / nova นี่ภาพก็พิมพ์แบบห่วยกว่า หมึกเลอะมาก แปลก็แปลกๆ ผมเอามาเทียบกันดู3หัว มีบางเรื่องเท่านั้นที่แปลดีกว่า นอกนั้นนี่ ผมว่าค่อนข้างแย่เลยนะ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ talent เป็นที่นิยมขนาดนี้ได้ครับ ราคา หรือว่าเป็นหัวที่ออกก่อนคนอื่น จำได้แว๊บๆว่า talent นี่ราคาถูกที่สุด พูดถึง bomb bomb นี่ผมเคยตามอยู่พักนึง ส่วนมากมันเน้นการ์ตูนแนวเกมๆนะ ตอนนั้นตามเพราะบ้า rockman 555 จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย - [ 4 ก.พ. 52 14:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พอดีขุดกรุแล้วเจอของ เลยต้องเอามาโชว์กันหน่อย (Bert's Showtime! 555) เล่มแรก "แอ็คชั่น" การ์ตูนรายสัปดาห์ของ สนพ.สยามสปอร์ตที่ผมเคยพูดถึงไว้ครับ (ราคา 10 บาท / ไม่ทราบปี) จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ปกใน จะเห็นได้ว่าการ์ตูนฮิตที่ออกในช่วงนั้น ได้แก่ "คอบร้า" และ "วิงแมน" (อ่านหมายเหตุในเล่ม ที่จริงวิงแมนเคยลงในแอ็คชั่น แล้วถูกย้ายไปลงใน TV LAND) ทั้งคอบร้าและวิงแมน ได้มีการนำอะนิเมชั่นมาฉายทางทีวีด้วย (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่อง 9 ทั้งคู่ ท่านใดที่ทราบจริงรบกวนช่วยทวนข้อมูลด้วยครับ) จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 97 พอดีสแกนปก "THE TALENT" กำลังจะเอามาลง (เสียดายไม่เจอเล่ม 100 บ่นรอบที่ 100 T__T) แล้วเจอคำถามของคุณ "ผมเสียโสดให้หญิงร้าย" พอดี เลยถือโอกาสตอบตรงนี้เลยละกัน ผมจำได้ว่าตอนผมเรียนประถม THE TALENT ดังมากๆครับ ส่วนสาเหตุที่ดังนั้นก็ตัวอย่างเช่น - เป็นการ์ตูนที่รวมเรื่องเด็ดๆไว้ในเล่มเดียว ทั้ง Dragonball, Saint Seiya, City Hunter, ขุนพลประจัญบาน, Doctor K, รันม่า ฯลฯ (อย่างรายสัปดาห์ของ VBK ถ้าอยากอ่านบางเรื่องเช่น "รันม่า" ต้องไปเบิ้ลซื้อ Animage Weekly อีกเล่มหนึ่งด้วย) - อย่างที่บางท่านได้เคยบอกไว้แล้วในกระทู้ก่อนหน้า สโลแกนของ TALENT คือ "ฉับไวกว่า" ถ้าจำไม่ผิด TALENT จะออกก่อน ZERO สัก 1 วันครับ - เป็นการ์ตูนที่มีการ interactive กับคนอ่านค่อนข้างดี สังเกตได้ว่าจะมีคอลัมน์คุยตอบ จม.แฟนๆ (คล้ายๆในขายหัวเราะ+มหาสนุก) มีกิจกรรมให้แฟนๆได้ร่วมสนุกบ่อยครับ เช่น ประกวดวาดรูป, ส่งชิงรางวัล (เล่มแรกๆชอบมีของแถมพวกโปสเตอร์ด้วย) - หน้าปก TALENT มีจุดเด่นตรงที่ชอบ "รวมมิตรตัวละครดัง" (ผมว่ามันเป็นตัวดึงดูดคนซื้อเลยนะ ประมาณว่าเห็นปกแวบแรก "เฮ้ย.. มีเรื่องนี้เรื่องนั้นเรื่องนู้นด้วย ซื้อเลย!)   ซึ่งถ้าเป็นต้นฉบับอย่าง JUMP ที่ญี่ปุ่นจะรวมมิตรเฉพาะโอกาสพิเศษ เช่น ปีใหม่, หรือครบรอบ - แถมยังมีคอลัมน์อื่นๆ เช่น เฉลยสูตรเกม, สอนภาษาญี่ปุ่น - ถ้าจำไม่ผิด ZERO ยุคแรคๆจะบางกว่าครับ ราคาถูกกว่าก็จริง แต่การ์ตูนข้างในก็เลยน้อยตามไปด้วย (สำหรับผมตอนนั้นเวลาซื้อ TALENT รู้สึกประมาณว่า "เฮ้ย จ่ายเพิ่ม 2 บาท ได้หน้าเพิ่ม ได้การ์ตูนเพิ่มอีก 1-2 เรื่อง") ----------------------- แต่ที่จริงเรื่องคุณภาพนี่..... ทั้งเรื่องการแปลและรูปเล่ม TALENT โดยเฉพาะเล่มหลังๆ เมื่อเทียบกับ ZERO หรือ NOVA แล้ว รู้สึกจะคุณภาพด้อยสุดเลย แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 03:15:44 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 15:26:56 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:50:30 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:47:36 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:46:26 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:36:49 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มาแล้ว... พักนี้ไม่ได้โงหัวไปทู้อื่นเลย เพราะกว่าจะอ่านจะพิมพ์จบ นานมาก แต่ชอบบรรยากาศ เพราะมันได้อารมณ์ดี ผมดีใจมากเลยนะที่คอยุคคลาสสิคมีเพียบขนาดนี้ ในห้องการ์ตูน ตามคห.94 อาจเป็นตรรกะของสิ่งแวดล้อมและเพื่อนนะครับ เพราะเรื่องนี้ผมเถียงกับเพื่อนหลายครั้ง เนื่องจากผมมีเพื่อนมากหลายกลุ่ม ตอนเรียนจบ ม.ต้น ปี 2526 ปีนั้น Zero ยังไม่ออกเลย (นับเป็น คศ. คือ ปี 1986) ผมซื้อซีโร่เล่มแรกตอนจะขึ้น ม.4 ปี 2527   พอเรียนต่างที่จากเดิม จะเห็นความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มเพื่อนชัดๆ คือ กลุ่มแรกซื้อกันแต่ทาเลนท์ ส่วนกลุ่มที่ 2 ซื้อวิบูลย์กิจย์ แล้วต่างฝ่ายต่างก็ว่าเล่มที่ตัวเองอ่านดังสุด ผมพวกไม่เถียง อ่านอย่างเดียว...555 เรื่องของเรื่องมาได้คำตอบกันทีหลัง ปัจจัย คือ สายส่ง ส่งหนังสือในย่านที่เราเรียน อย่าลืมว่าในละแวกที่เราอยู่ สมัยก่อนสายส่งยังแยกเป็นค่ายๆ และร้านหนังสือรับจากสายส่งอีกที ที่หลังๆเราเห็นมีครบเพราะมันเริ่มทั่วถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และบางร้านก็ไปรับเพิ่มเอาเอง เรื่องฮิตกว่าของแต่ละหัวจึงเป็นกลุ่มๆไป เพื่อนกลุ่ม ม.เกษตรอ่านอย่าง เพื่อนที่ ม.กรุงเทพฯ อ่านอีกอย่าง ผมถึงไม่ค่อยพูดถึงประเด็นนี้ ลองไปถามสายโชโจสิ ค่ายไหนฮิต ก็ตอบไม่เหมือนกันครับ นี่ครับเรื่องโปรดผม สายโชโจ(แต่ไม่ค่อยเห็นสาวๆพูดถึง) รันเซ่ อสูรน้อยกระซิบรัก อ่านแล้วอยากเป็นมาคาเบะ...555 สมัยนั้นสาวน้อยตัวเล็กๆ คิคุ ผมยาวแบบนี้เสปคผมเลย แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 52 17:37:30 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 18:05:21 จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 14:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อ๊ะ พูดถึงตูนสยองขวัญ จำได้ว่ามีขวัญผวาของมิตรไมตรี กับประสบการณ์โลกวิญญาณของสยามสปอร์ตค่ะที่เมื่อก่อนได้อ่าน ที่บ้านยังมีบางเล่มเก็บอยู่เลย ชอบตอนตำนานผีดุของอ.กิโบ ไอโกะมาก ๆ รู้สึกว่าขวัญผวาจะน่ากลัวกว่า แต่ประสบการณ์โลกวิญญาณ หลายเรื่องก็ออกน่ารักมากกว่าน่ากลัว คุณ 27 คะ แถวบ้านเคยเห็นนักโทษสาวฯ ของอ.วาดะ ชินจิเล่มโต ๆ แต่เห็นว่าไม่จบเลยไม่ได้ซื้อไว้ กลัวอ่านแล้วคาใจ (ฮา) จากคุณ : atihasita - [ 4 ก.พ. 52 14:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สแกนมาให้ดูกันครับ คอลัมน์ตอบจดหมายของนายทาเล้น บก. TALENT ชื่อ "นายทาเล้น" สำหรับผม สมัยนั้นพี่ทาเล้นถือเป็นขวัญใจเลยแหละ (พี่แกชอบมุกว่าตัวเองหน้าตาหล่อและมีสาวๆติดตรึมเหมือนซาเอบะ เรียว 5555 ตรงนี้ก็เป็นจุดขายอย่างหนึ่งครับ) ----------------- ปล. พวกบท บก. นี่ ผมว่ามันเป็นเหมือนจดหมายเหตุอย่างหนึ่งเลยนะ เดี๋ยวพอเข้าตอนการ์ตูนลิขสิทธิ์จะเอาปกใน FRIDAY เล่ม 1 มาลง แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:41:31 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อ้าว พี่ G มาแล้ว สวัสดีด้วยคร้าบ~ ผมเหมือนกันเลย ตั้งแต่มีกระทู้นี้ ขลุกอยู่แทบไม่ไปไหน 5555 อันนี้ผมสแกน "เกมร่วมสนุก" จากเล่ม 99 ของ TALENT" ("ซ้ายมือ" เป็นเกมที่ให้ทายหน้านักเขียนการ์ตูน ผมทายผิดไป 2 คน 5555 เพราะเห็นรูปคนใส่แว่นท่าทางโจ๋ๆเลยคิดว่าน่าจะเป็น อจ.ฮาร่า เท็ตสึโอะ ไปทายสับกับ อจ.สึคาสะ โฮโจ   /   ส่วน "ขวามือ" เป็นหน้าเปิด DRAGONBALL) จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เริ่มทันบ้างแล้ว แต่ความทรงจำยังเลือนลาง สำหรับผมอ่านแบบเป็นจริงเป็นจังครั้งแรกก็คงหนีไม่พ้นโดราเอม่อน จากนั้นสักพักพ่อก็ซื้อการ์ตูนซึบาสะมาให้  และด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด แถวๆ บ้านก็จะมาผลัดกันอ่านกันทีเป็นสิบๆ คนเวลามีการ์ตูนเล่มใหม่มา แล้วก็เริ่มเล่นฟุตบอลกันเป็นจริงเป็นจัง คนนั้นเป็นซึบาสะ คนนี้เป็นมิซากิ  คนโน้นเป็นฮิวกะ   ส่วนผม...  วาคาบายาชิ ณ สันป่าตอง  (เชียงใหม่)  ฮ่าๆๆๆ หน้าบ้านผมจะเป็นทุ่งนา เวลาหน้าเก็บเกี่ยวทุ่งนาจะเหลือตอข้าวอยู่  ใครเคยเห็นคงรู้ว่าตอข้าวที่เกี่ยวแล้วเวลามันแห้งๆ นี่คมแค่ไหน เท้าบางๆ เหยียบแบบจังๆ นี่บางทีมีถลอก  แต่ตอข้าวพวกนั้น เรียบหมดครับ เพราะมันกลายสภาพเป็นสนามฟุตบอลของพวกเรา   โกล์ประตูที่มีก็แค่รองเท้าแตะสองข้าง วางห่างกันสามวา  แค่นี้ก็วิ่งเตะฟุตบอลกันได้เป็นวันๆ แล้ว จากนั้นสักพักจะมีการ์ตุนนิตยสารเข้ามาเรื่องเจ้าหนูสิงห์นักเตะ ซึ่งการ์ตูนจะเป็นเล่มใหญ่ประมาณมติชมสุดสัปดาห์ปัจจุบัน ในการ์ตุนเล่มนั้นจะเป็นการ์ตูนกีฬาทั้งสิ้น  ก็จะมีพวกฮิตโต้, คิกเกอร์ อะไรพวกนี้ โดยมี ซึบาสะเป็นการ์ตูนหลัก  เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องเสริม  บางเล่มมีแต่ซีบาสะล้วนๆ ก็มี แต่การ์ตูนพวกนี้ไม่ได้มาขายแบบเป็นเล่มๆ เหมือนหนังสือทั่วไป  แต่มาขายพร้อมขนม ประมาณซื้อขนมแถมการ์ตูนอะไรทำนองนั้น  ซึ่งเป็นเพราะหนังสือการ์ตูนพวกนี้มันค้างสต็อค ขายไม่ออก  คนขายขนมก็คงไปเหมาซื้อมาถูกๆ แล้วเอามาขายแถมขนมห้าบาท ได้การ์ตูนหนึ่งเล่ม  ก็ผลัดๆ กันซื้อมาอ่านกัน สนุกสนาน  ฮ่าๆๆ จากนั้นพอป.สี่ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่  จากนั้นก็ค่อยๆ เริ่มซื้อการ์ตูนมาเรื่อยๆ เริ่มจากซึบาสะ ดราก้อนบอล โคทาโร่ และตระกูลคนเขียนโดเรม่อนทั้งหลายทั้งปวง ไม่รู้เอาเงินมาจากไหนมาซื้อเหมือนกันสมัยนั้น แต่ก็ซื้อเก็บมาเรื่อยๆ จนกระทั่งม.ต้นราวๆ ม.สามก็เริ่มเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุคลิขสิทธิ์ต่อไป  การ์ตูนยุคไม่มีลิขสิทธิ์นี่ส่วนใหญ่หายไปกับน้ำท่วม  เสียดายเหมือนกัน T__T จากคุณ : Mr. Forever - [ 4 ก.พ. 52 14:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อย่างเบอทนี่สายทาเลนท์แน่นอน..555 เอ่อ..ช่วงเวลาที่อ่านพร้อมกันแต่ อายุคนละช่วงกันเลยนิ..แฮ่ม ไม่เป็นไร ยังไงเขาก็นับรุ่นเดียวกัน คือ รุ่นคลาสสิค... เกิดทันเป็นใช้ได้..(แอบเนียน..ล่ะครับ) ตอนแรกที่เห็นงาน วิงแมน แล้วนึกไม่ออกเลยว่าอาจารย์คนเดียวกัน จะมาวาด VDO girl และ I's ได้ แต่ฝีมือลายเส้นแกพัฒนาดีจริงๆนะครับ ยิ่งนับวันยิ่งสวย เนี๊ยบ และเท่อย่างแรง (คุยถึงนักเขียนคนไหน เรื่องไหนแล้วลงภาพคนนั้นมันได้บรรยากาศดีนะครับ) จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 14:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ใช่แล้วครับ ผมนี่สาย TALENT เลย ตอนประถมอ่านแต่ TALENT นานๆจะซื้อ ZERO สักที ผมเปลี่ยนมาอ่าน ZERO ตอนประมาณ ป.6 น่ะ ตอนนั้น ZERO ขึ้นราคาเป็น 20 บาท แล้วอีก 1 ปีก็เปลี่ยนมาอ่าน NOVA แทนเพราะมี JoJo (หลายใจมั้ยเนี่ย? 5555555) ------------ ส่วนเรื่อง Wingman นี่ตอนเด็กๆผมก็ชอบมากครับ อึ้งเหมือนกันที่เดี๋ยวนี้อจ.แกเปลี่ยนแนวมาเป็น "นักเขียนแนวเซอร์วิส" อิอิ จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 14:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 105 กรี๊ดคคห 12 เห็นแล้วระลึกความหลัง มุซาชิเท่ห์มากมาย เนื้อเรื่องซึ้งกินใจ เอดิชั่นนั้นพยายามตามเก็บแต่ก็ไม่สามารถ เพราะโดนศึกรุมเร้าหลายด้าน ทั้งกำลังเงิน และแม่แอบเอาทิ้ง จากคุณ : booklovers - [ 4 ก.พ. 52 14:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 106 มาชวนพี่ granun คุยเรื่องแม่สาวรันเซ่จ้ะ.. สำหรับเรื่องนี้นี่ มีหลายสำนักพิมพ์นำไปพิมพ์ใหม่ หลายปก หลายรูปแบบ เล่มบาง เล่มหนา ฯลฯ เป็นผลงานของ Ikeno Koi (จำได้ว่าเคยฉายทางช่อง 5 ด้วยนะ) plot เรื่องนั้นค่อนข้างจะใหม่มาก สำหรับสาวกตาหวานในยุคนั้น ก็แหม...นางเอกเป็นลูกครึ่งแวมไพร์ + มนุษย์หมาป่า (+ซุ่มซ่ามแต่น่ารัก ตามสไตล์นางเอกการ์ตูนจ้ะ) แถมผู้เขียนยังแทรกมุกตลกน่ารักๆไว้ตลอดทั้งเรื่อง จึงทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นการ์ตูนเรื่องโปรดของหลายๆท่านอย่างง่ายดาย แต่ที่คลาสสิค ติดอยู่ในใจ(ของตัวเอง) ก็คงไม่พ้น ฉบับของวิยูลย์กิจ (ตามที่ granun แปะให้ชมนั่นแล) จำได้ว่าจะมีโปสเตอร์(ภาพเดียวกับปกของเล่มที่มีแถม) แนบมาด้วย สำหรับ อสูรน้อยกระซิบรัก ของวิบูลย์กิจนี้ จะรวมเล่มจบตรงที่ภาค 3 : ภาคของนารูมิและรินเซ่ ส่วนตอนพิเศษนั้นจะมีพิมพ์ออกมาต่างหาก (โดยส่วนตัวประทับใจกับที่จบลงตรงภาคของมาคาเบะ+รันเซ่ แค่นั้นแล...) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:58:52 จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป - [ 4 ก.พ. 52 14:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ช่วงประถมการ์ตูนยอดฮิตแห่งยุคก็คงหนีไม่พ้นดราก้อนบอล และเซนต์เซย่า สองเรื่องนี้ดังมากๆ และยิ่งดังสุดๆ ตอนมีขนมโดเรม่อน (ฟังดูตลกเนอะ)  ที่แถมสติกเกอร์ให้สะสมในหนังสือภาพเพื่อแลกของรางวัล เรียนหมดวันก็จะเห็นเด็กนักเรียนหัวเกรียนทั้งหลายไปรุมซื้อขนมโดราเอม่อนกันหน้าโรงเรียน สมัยนั้นผมเรียนโรงเรียนมงฟอร์ต ซึ่งมงฟอร์ตประถมนี่หน้าโรงเรียนมีแต่ร้านขายขนมเพียบ  แล้วช่วงไหนมีหนังสือสติกเกอร์ออกมาให้สะสม จะมีขนมโดราเอม่อนวางทิ้งไว้ให้กินฟรีเพียบ เพราะส่วนใหญ่มันซื้อเอาสติกเกอร์กัน บรรยากาศช่วงนั้นก็จะฮิตกันมากกับการเขี่ยสติกเกอร์ สารพัดเทคนิคจะงัดมาใช้ (ดีดหุ่นด้วยปากกาอีก หุ่นตัวไหนการ์ตูนดังๆ จะฮิตเป็นพิเศษ มีสูตรทำให้ปากกาดีดแรงๆ ด้วย ฮ่าๆๆ) รวมไปถึงตบแปะด้วย สารพัดจะแอบฝังหินฝังทรายไว้ในสติกเกอร์ เอิ๊กๆๆ ช่วงนั้นการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ฮิตมากๆ ในมงฟอร์ตก็คือทาเลนท์ เพราะมันออกไวที่สุด เพื่อนๆ ในห้องที่ชอบอ่านการ์ตูนจะรวมเงินกันคนละบาท แล้วพอเลิกเรียนก็จะส่งตัวแทนออกไปซื้อ แล้วรีบวิ่งกลับมาอ่านกันในห้องระหว่างรอเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน ร้านการ์ตูนเจ้าประจำของเด็กๆ ประถมโซนมงฟอร์ตจะเป็นร้านที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนพหฤทัย ซึ่งเป็นสาขาย่อยของร้านการ์ตูนที่สถานีรถไฟนั่นเอง  วันไหนเทเลนท์ออก  (จำไม่ได้ว่าที่เชียงใหม่ออกวันไหน ไม่วันอังคารก็วันพุธนี่แหละ)  วันนั้นคนจะแน่นร้านมากราวกับแจกของฟรี ซื้อไปเหล่สาวไป  ฮ่าๆๆ  (ประถมเองนะนั่น) ทาเลนท์นั้นอ่านเสร็จก็จะเก็บไว้เป็นกองกลาง ทิ้งไว้ในโต๊ะเพื่อนคนหนึ่ง ทำหน้าที่เหมือนเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดการ์ตูนประจำห้อง สิ้นปีก็โล๊ะไปขายที่ร้านรับซื้อหนังสือเก่า เอาเงินมากินขนมกัน วนไปมายังงี้ไปเรื่อยๆ แต่ช่วงที่คึกคักที่สุดก็คงหนีไม่พ้นยุคการ์ตูนเรทอาร์ตีตลาด อย่างพวกใบหูมังกร, คุจากุ  ที่ทำเอาพวกเราอ่านไปแอบอาจารย์ไป  โดนจับได้ละเรื่องใหญ่  ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Mr. Forever - [ 4 ก.พ. 52 15:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ตัวอย่างการ์ตูนจาก "สยามสปอร์ต" สมัยก่อนครับ "น้ำตาเพชฌฆาต" และ "ปฐพีเดือด" - เล่มซ้ายมือ ผลงานของอจ.เรียวอิจิ คงไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว - ส่วนเล่มขวามือ เป็นผลงานของคู่ DUO นักแต่ง+นักเขียนที่ผมชอบมากๆอีกคู่หนึ่ง นั่นคือ Hideyuki Kikuchi และ Shinichi Hosoma (การ์ตูนเรื่องล่าสุดของ 2 คนนี้ที่ผมเคยอ่านก็คือ "ถล่มโรงเรียนอสูร" ที่เคยลงใน FRIDAY ของ VBK น่ะครับ) --------------- สยามสปอร์ต(หรือสยามอินเตอร์ในปัจจุบัน) แบบที่เคยเล่าไว้ว่า "เป็น สนพ.หนึ่งที่ชอบพิมพ์การ์ตูนแปลกๆใหม่ๆ ที่หาไม่ค่อยได้จากเจ้าอื่น และมีคุณภาพการพิมพ์กับการจัดวางรูปเล่มอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้" จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 15:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 109 (ต่อ) อสูรน้อยกระซิบรัก นอกจากจะมีฉบับพิมพ์ของวิบูลย์กิจแล้ว ยอดธิดาก็พิมพ์ออกมาเช่นกัน คุ้นๆว่า 11 เล่มจบ (น่าจะจบที่ภาคแรกจ้ะ) ใช้ชื่อว่า ครอบครัวซาตาน สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้มีหลายภาค หลายรุ่นเหลือเกิน ภาค 1 และ 2 : มาคาเบะและรันเซ่ ภาค 3 : นารูมิและรินเซ่ ภาค 4 : ไอระ (ลูกสาวของรันเซ่และมาคาเบะ) เมื่อสักไม่กี่ปีมานี่..ทางสยามอินเตอร์ฯ ก็พิมพ์ออกมาเช่นกัน ใช้ชื่อว่า ปีศาจน้อยหัวใจกุ๊กกิ๊ก จำนวน 30 เล่มจบ (พร้อมภาคพิเศษที่ทางวิบูลย์กิจแยกเล่มออกมา รวมไว้ให้อ่านอย่างครบถ้วน) แต่เจ้า 30 เล่มเนี่ย..ก็หายากแล้วนะ จะบอกให้ หุหุ จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป - [ 4 ก.พ. 52 15:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ท่านแมวดำฯ เรื่องอสูรน้อยกระซิบรัก ปัจจุบันพอจะหาได้ไหมครับท่าน ได้ยินชื่อเสียงมานาน ว่าสนุกมีหลายภาค ปกติผมไม่ค่อยได้อ่านการ์ตูนตาหวานเท่าไหร่ มีไม่กี่เรื่องครับที่ได้อ่านแบบจริงจัง เช่น คำสาปฟาโรห์, Marmalade Boy อะไรพวกนี้ จากคุณ : ผมร้อยตำรวจเอกสมชายปลอมตัวมา - [ 4 ก.พ. 52 15:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ชวนคุณ atihasita (คห.99) คุยครับ สมัยก่อนผมก็ชอบพวกการ์ตูนแนวสยองมากๆ แต่จะหาซื้อได้ยาก ที่ซื้อประจำก็คือ "ขวัญผวา" ของมิตรไมตรี รู้จักผลงานทั้งของ "จุนจิ อิโต้" และ "อุเมซุ คาสึโอะ" ก็จากขวัญผวานี่แหละครับ เสียดายที่หา "ขวัญผวา" ไม่เจอซะแล้ว T___T (ขวัญเอ๊ยขวัญมา 55) "ตัวอย่างการ์ตูนแนวผี 2 เล่ม จากหมึกจีน และ Morning Sun" (ตอนนั้นผมสงสัยว่า "Morning Sun" นี่เป็นเจ้าเดียวกับ "มิตรไมตรี" รึปล่าว? เพราะสไตล์และทุกอย่างแทบจะถอดแบบกันออกมาเลย และช่วงนั้นเป็นช่วงที่การ์ตูนลิขสิทธิ์พึ่งเข้ามาพอดีด้วย) จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 15:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 112 การ์ตูน "มาริโอ้" พิมพ์โดยมิตรไมตรี นอกจากติดเกมมาริโอ้แล้ว เวลามีการ์ตูน "มาริโอ้" ออกทีไรเป็นต้องซื้อทุกที เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของสนพ.มิตรไมตรีเลยทีเดียว (ช่วงหนึ่ง MARIO เคยลงใน TALENT ด้วยนะ) นอกจากนั้น ในยุค FAMICOM "มิตรไมตรี" เป็น สนพ. ที่ชอบพิมพ์พวก "สูตรเกม" และ "การ์ตูนจากเกม" ออกมาขาย (ขณะที่ VBK ทำเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเกม MEGA ออกมาโดยเฉพาะตั้งแต่ยุคโน้นเลย เล่ม 1 ผมก็มีทั้งจากยุคไพเรทและยุคลิขสิทธิ แต่ไม่รู้ว่าจะยังหาได้มั้ย? T___T) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 15:16:23 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 15:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 113 "หมึกจีน" นี่ผมว่าเป็น สนพ.ท้าทายศีลธรรมตัวยง 555 ยุคก่อนหน้าที่พวกการ์ตูนโป๊(แบบเรท X ไปเลย)จะเข้ามา พวกการ์ตูนเรท R นี่หาได้จากในเครือหมึกจีนครับ (ตอนขึ้นม.ต้น ผมเป็นแฟนประจำเลย 55555) นี่เป็นรายปักษ์ FLASH ที่รวมการ์ตูนแนววาบหวามของหมึกจีนครับ (การ์ตูนที่เด่นๆก็มี VDO GIRL, W.WOLF (คนวาดมังกรซ่อนลาย) และ มือปราบจอมทะเล้น) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 15:32:05 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 15:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 114 วันนี้ปล่อยของจนเกลี้ยงหน้าตักและ ต้องทำงานต่อและ เดี๋ยวดึกๆแวะกลับมาดูใหม่น้า...... --------------------- ปล. พี่ๆเพื่อนๆ ช่วยกันปล่อยของด้วยครับ 555555555 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 15:24:47 จากคุณ : เบอท (albertpotjes) - [ 4 ก.พ. 52 15:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คอรันเซ่มาแล้ว...อิอิ ส่วนตัวชอบจนถึงภาคก่อนที่จะรู้ว่ามาคาเบะเป็นเจ้าชายครับ คือ มันให้ความรู้สึกของพระเอกที่เป็นคนธรรมดา ละมั้ง น้ำตาเพชฌฆาตเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลกับผมอย่างสูง ประมาณว่าไปเรียนศิลปป้องกันตัว คาราเต้ ยูโด ไอกิโด้ (มวยไทยไม่ต้อง เป็นอยู่ในสายเลือด ตั้งแต่เกิด) แล้วก้ที่ฝึกใช้เท้าทำอะไรมิต่ออะไร ใช้หยิบจับและขยับไปตามใจโดยทรงตัวได้ (บ้าอย่างเว่อ) อาจเพราะอิทธิพลสมัยตอนอยู่ที่จันทบุรี (กับน้าเขยที่ผมนับถือและเรียกว่าพ่อ) สมัยนั้นคนจริง ใจนักเลงเยอะ (เป็นลูกผู้ชาย ไม่ใช่อันธพาลนะครับ) เด็กผู้ชายสมัยนั้น เขาสอนให้สู้คนแต่ไม่รังแกใคร เวลามีเรื่องกันแถวละแวกนั้น ผู้ใหญ่เขาจะเรียกมาให้ต่อยกันให้เข็ด (ส่วนใหญ่ต่อยกันที่เดียวรู้มือกันแล้ว แล้วมาเป็นเพื่อนกันจนโต) พอเจอเรื่องแนวๆนี้มักจะคิดถึงตอนสมัยที่โตที่จันทบุรีบ่อยๆ จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 15:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ตอบ คุณ : ผมร้อยตำรวจเอกสมชายปลอมตัวมา หลังแมว เอ๊ย หลังไมค์ไปแล้วนะค๊า ^_^ สำหรับอสูรน้อยกระซิบรัก เนี่ย..สนุกมากค่า (พี่ granun confirm !!  อิอิ) พาปกพิมพ์อื่นๆมาให้ชมกัน... มีครบทุกภาคเลย..แต่เล่มหนาหน่อยเน้อ... มิตรไมตรี 8 เล่มจบ "ซาตานสาวเจ้าปัญหา" จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป - [ 4 ก.พ. 52 15:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ชื่อเรื่องเดียวกัน แต่เปลี่ยนปก จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป - [ 4 ก.พ. 52 15:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ขอบคุณคุณแมวดำฯ อีกครั้งนะครับที่แจ้งข่าว และขอให้หายไว ๆ นะครับ ^^ จากคุณ : ผมร้อยตำรวจเอกสมชายปลอมตัวมา - [ 4 ก.พ. 52 15:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เรื่องอ่านโนวาเพราะโจโจ้ นี่เห็นด้วยอย่างแรง... โจโจ้ยุคแรกไม่มีพลังอะไรเลย แต่ใจสู้ล้วนๆ มายุคสองเริ่มพลังคลื่น อันนี้ดัดแปลงพื้นฐานการหายใจจริงๆ ของทางธิเบต คนชอบโยคะ หรือจีบสาวโยคะ จะรู้จักดี (แฮ่ม) พอมายุคแสตนด์เท่านั้นแหละ แหมอะไรมันจะลงตัวขนาดนั้น มันจริงๆครับ อ่านติดวางไม่ลง ลายเส้นไม่เหมือนชาวบ้านและเด่นชะงัด แนวเป็นตัวของตัวเองสุดๆ (นายกล้ามาก) ลืมเล่าไปว่าก่อนเขียนโจโจ้ ในบ้านเรายังมีผลงานอีกเรื่อง ที่ใครอาจไม่ค่อยสังเกต คือ บาโอ นั่นน่ะใครจะรู้ว่า อ.แกเป็นคนเขียนเรื่องนี้ก่อนจะมาเขียนโจโจ้... จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 16:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 120 พาสองหนุ่มฝาแฝดและเพื่อนเกลอ มาไว้ในอ้อมใจสาวๆแถวนี้จ้ะ Cipher และ Alexandrite : Narita Minako การ์ตูนสุดหล่อ เอ๊ย สุดฮิต ในยุคนั้น.. หล่อโฮก (ได้ยินพี่ๆแถวนี้ชมแบบนี้บ่อยๆ 555) กระชากใจสาวในสมัยนั้นได้อย่างแร๊งงง.. เริ่มต้นภาคแรกด้วยเรื่องราวของสองหนุ่มฝาแฝด "ไซเฟอร์และศิวะ" (เจค & รอย แลงค์) ผู้เขียนนำเสนอ background ใหม่ จากเดิมๆที่เป็นเรื่องในญี่ปุ่น ก็ย้ายไปที่อเมริกาแทน เรื่องราวก็ค่อนข้างคล้ายกับ series (ในสมัยนี้) ตัวละครต่างๆก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่น่าสนใจ แถมฝีมือการวาดก็เฉียบ เนี้ยบ การ์ตูนเรื่องนี้จึงมีแฟนคลับให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม (ในตอนนั้นที่โรงเรียนมีแฟนคลับคนรัก Cipher & Siva ด้วยนะ หุหุ) ทั้ง 3 สนพ.หลักในตอนนั้นคือ วิบูลย์กิจ สยามสปอร์ตฯ ยอดธิดา ต่างก็พร้อมใจกันเข็นหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ออกมาให้นักอ่านได้ติดตาม สักปี 2534 ก็มีสมุดภาพ Cipher The Collection ออกมาให้แฟนคลับได้ Collect จนคอเคล็ด..ราคาเล่มละร้อยกว่าบาทในตอนนั้น ตอนนั้นถ้าใครมีเล่มนี้ อาจเกรียมด้วยความอิจฉาตาร้อนจากเพื่อนฝูงได้.. จากนั้น ก็มาถึงตอนต่อไป Alexandrite เปลี่ยนไปเป็นเรื่องราวของ หนุ่มหน้าสวย เพื่อนซี้ของ Siva จำได้ว่าสยามฯพิมพ์ออกมาแค่ 3 เล่ม(ไม่ทราบจำได้ถูกต้องไหม รบกวนคห.ท่านต่อไปช่วยด้วยจ้ะ) จากนั้นทางวิบูลย์กิจก็พิมพ์ออกมาจนจบ สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ต้องขอชมเป็นการส่วนตัวว่า ผู้เขียนเข้าใจใช้สัญลักษณ์เพื่อนำเสนอ "ปม"ที่รอการคลี่คลายอยู่ภายในเรื่อง อย่าง Cipher ก็มีปมที่ว่า ทำไมฝาแฝดต้องสลับตัวกัน ? Alexandrite : แหวนที่ได้รับมาจากพ่อของ Alex ทำให้เขาได้ค้บพบบางอย่างที่มีความหมายในชีวิต มากกว่าแค่นำแหวนออกไปตามหาพ่อที่กรีซ บางอย่างที่มีความหมายนั่นคือ "เพื่อน"..มิตรภาพดีๆที่อยู่รอบตัวเขานั่นเอง... เห็นมั้ย...การ์ตูนทุกเรื่องต่างก็บอกเล่าเรื่องราวและสอดแทรกหลายๆอย่างที่มากกว่าคำจำกัดความของผู้ใหญ่บางท่านในสมัยก่อนว่า "การ์ตูน..เหรอ..ไร้สาระน่ะ" โชคดีที่ในครอบครัวของแมวดำฯ มิมีท่านใดคิดเช่นนั้น และมองว่าการอ่านหนังสือมิได้จำกัดประเภทของหนังสือ การ์ตูนก็คือหนังสืออย่างหนึ่ง หากอยากอ่าน ชอบอ่าน รักที่จะอ่าน ก็จงอ่านต่อไป.... การ์ตูนจงเจริญ!! จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป - [ 4 ก.พ. 52 16:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 121 คห 119 ^ ^ ไม่รู้เลยว่าเขียนเรื่องนี้มาก่อนด้วย เคยอ่านแต่ไอรีนแฮะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 16:28:49 จากคุณ : runtboy - [ 4 ก.พ. 52 16:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 122 แนวตาหวานอีกเรื่อง ที่มหาอมตะนิรันดร์กาลในดวงใจ คือ Love Z เรื่องนี้คว้ามาโดยบังเอิญจากเพื่อนผู้หญิง แต่ เฮ้ย ความรักของคนๆหนึ่งจะรักอะไรได้ขนาดนั้น บทพิสูจน์ความรักแท้ที่ตรึงอารมณ์ผมจนอึ้ง (เลยคิดจะแพร่เชื้อ) แต่ไม่ค่อบพบว่ามีคอเดียวกันในเรื่องนี้เท่าไหร่...555 จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 16:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ^ ^เรื่องนี้ ที่บ้านเคยซื้อแบบสี่เล่มจบ หาย มีพิมพ์ออกมาอีกที ซื้ออีก หายอีก '^^ ได้แต่เหลือไว้ซึ้งในความทรงจำค่ะ จากคุณ : atihasita - [ 4 ก.พ. 52 16:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 124 คห.121 คิดไม่ถึงสิครับ ผมเองอ่านนบาโอมาก่อนยังอึ้งๆว่า โห..ลายเส้นแกกล้าเปลี่ยนแปลงแบบนี้เลยแหะ เอาหน้าในมาเปิดให้ดูแล้วกัน ดูตรงคนคงจะพอเห็นเค้าลายเส้นบ้างเล็กน้อย จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 16:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ทีนี้มาเปิดงานของ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ บ้าง คนที่เริ่มต้นเขียนในปีเดียวกันในรุ่นนี้ มี 3 คนครับ คือ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ อ.อาดาจิ และ อ. เทราซาว่า บูอิจิ (คนเขียนคอบร้า) ปี 1978 ผลงานของทั้งสามท่านเปิดตัวเป็นครั้งแรกและดังไม่แพ้กัน แถมคนละแนวกันสุดๆ...555 งานแต่ละคนมีแบบฉบับบและเป็นตัวของตัวเอง ทั้งลายเส้น และเนื้อหาจริงๆครับ ประเดิมสุภาพสตรีก่อน จากคุณ : granun - [ 4 ก.พ. 52 17:08:28 ]