 |
แด่ ด.ต.ชิต คนดีย่อมพบจุดจบอย่างนี้นี่เอง
...
แด่ "ดาบชิต"
อดีตตำรวจผู้ต่อต้านทุจริต และความไม่ถูกต้อง จนตัวตาย
"ดาบชิต" ด.ต.ชิต ทองชิต อดีตตำรวจทาง หลวง ผู้เปิดโปงขบวนการส่วยทางหลวง เมื่อ 10 ปีก่อน จนฮือฮาทั้งประเทศ และถูกกดดันด้วยวิธีการต่างๆนานา จนตัดสินใจลาออกจากราชการ ก็กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง
เป็นข่าวใหญ่เมื่อถูกมือปืนลอบยิงจากระยะไกลได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อน เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา
ดาบชิต ถือว่าเป็นอดีตตำรวจคนจริงคนหนึ่งของแวดวงสีกากี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ แม้จะเคยถูกร้องเรียนในเรื่องนี้ แต่ในวงการรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิต
เนื่องจากดาบชิต ออกมาเปิดโปงขบวนการรับสินบนหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน จนถูกเขม่น ทั้งจากเพื่อนตำรวจและนายทุนที่เสียผลประโยชน์
หลังจากออกจากราชการเมื่อราวปี 2545 และมาทำธุรกิจปลูกไม้ไผ่รวก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พร้อมทำบ่อปลา แต่อีกทางก็ยังเป็นหูเป็นตา เป็นปากเป็นเสียงร้องเรียนเรื่องไม่ถูกต้องอยู่ประจำ ในฐานะฝ่ายตรวจสอบของเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น
หนึ่งในเรื่องที่ดาบชิตกัดไม่ปล่อยคือส่วยทางหลวง หรือส่วยสติ๊กเกอร์ ที่นายทุนเจ้าของรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินสร้างความเสียหายให้ถนนหนทางต่างๆ จ่ายเงินเป็นรายเดือนให้หน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ในระยะหลังมีหลายเรื่องที่ดาบชิต เข้าไปมีบทบาทตรวจสอบ จนสร้างความไม่พอใจให้นายทุน หรือข้าราชการบางกลุ่ม
จนเชื่อว่านี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดาบชิต ถูกสั่งตายในท้ายที่สุด!??
... ดาบชิต ตกเป็นเหยื่อคมกระสุน ขนาด .22 แม็กนั่ม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะคุมคนงานตัดไม้ไผ่รวก ภายในไร่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
กระสุนเพียงนัดเดียวเจาะเข้า บริเวณท้ายทอยอย่างแม่นยำ ก่อนที่มือปืนจะเผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว
คนงานที่ตัดไม้อยู่ได้ยินเสียงปืน จึงออกมาดูพบอดีตดาบตำรวจจอมแฉ นอนเลือดท่วมอยู่ข้างๆ รถปิกอัพ ที่ใช้ขนไม้รวก จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลราชบุรี
หลังนอนโคม่าในห้องไอซียู 4 คืน ดาบชิต ก็เสียชีวิตลง!!!
จากการเริ่มคลี่คลายคดีนี้
ตำรวจพบเบาะแสเป็นจุดที่คนร้ายใช้ซุ่มยิง อยู่บริเวณป่าไม้รวกห่างจากจุดที่ดาบชิต ยืนประมาณ 35 เมตร คาดว่าคนร้ายใช้ปืนยาวติดลำกล้อง พาดกับต้นข่อยเพื่อให้เกิดความแม่นยำ
ทั้งวิธีการ ความแม่นยำ และชำนาญอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเป็นมืออาชีพ หรือได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ!??
การยืนและวิถีกระสุนในการยิงคนร้ายน่าจะมีความสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร หลังจากยิงแล้วคนร้ายอาจจะเดินเท้าออกทางด้านหลังไร่ ที่เป็นป่าลัดเลาะเข้าหมู่บ้านห้วยศาลา และหมู่บ้านยางคู่ได้ ดังนั้นคนร้ายน่าจะคุ้นเคยกับเส้นทางบริเวณนี้เป็นอย่างดี
หลังใช้เวลาไม่นานตำรวจก็ตัดประเด็นต่างๆ ออก หลังไม่พบว่ามีปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัวและธุรกิจกับใครอย่างรุนแรงถึงขั้นฆ่ากัน
จึงให้น้ำหนักไปที่การขัดขวางผลประโชน์ของกลุ่มนายทุน และข้าราชการบางหน่วย!??
โดยดาบชิต แม้จะลาออกจากราชการแต่เข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โดยอยู่ฝ่ายตรวจสอบ
ที่ผ่านมาตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการ อาทิ กรณีตำรวจเพชรบุรียัดยาบ้าให้ผู้ต้องหา 2 เม็ด เป็นแกนนำในการร้องเรียนตำรวจและอัยการจนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน
เป็นผู้เรียกร้องให้ตรวจสอบเรื่องที่ดินราชพัสดุ ที่เพชรบุรี จนมีการถวายฎีกาต่อสำนักพระราชวัง ทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์ในที่ดิน
รถบันทุกน้ำหนักเกิน ต้นเหตุของการทำถนนพัง ... และยังออกมาแฉกรณี "ส่วยทางหลวง" หรือ "ส่วยสติ๊กเกอร์" ที่เงียบไปพักใหญ่ก่อนกลับมาระบาดอีกครั้ง
ดาบชิต พานักข่าวออกไปสำรวจเส้นทางสายต่างๆ พร้อมทั้งถ่ายภาพนำออกมาประจาน จนวงการตำรวจทางหลวง และนายทุนปั่นป่วนไปตามๆกัน
สําหรับดาบชิต เจียนอยู่เจียนไป กับการออกมาแฉขบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวงมานาน ตั้งแต่สมัยเป็นผู้บังคับหมู่ ที่สถานีตำรวจทางหลวงเพชรบุรี เมื่อ 10 กว่าปีก่อน
เมื่อออกมาเปิดโปงขบวนการ "ส่วยทางหลวง" ที่มีตำรวจบางนายรู้เห็นเป็นใจ กับเจ้าของรถสิบล้อที่บรรทุกน้ำหนักเกิน จนมีการตั้งกรรมการสอบสวนกันยกใหญ่ มีตำรวจเข้าไปพัวพันจำนวนมาก
ดาบชิต แฉว่าขบวนการนี้เริ่มจากมีนายหน้า ติดต่อเจ้าของรถสิบล้อให้จ่ายเงินเป็นรายเดือน แลกกับสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ ที่เป็นสัญลักษณ์รู้กันในหมู่ตำรวจทางหลวงว่า รถคันไหนติดสติ๊กเกอร์ดังกล่าว แสดงว่าจ่ายเงินแล้วจะปล่อยให้ผ่านไป โดยไม่มีการตรวจ
ในทางกลับกันรถที่ไม่มีสติ๊กเกอร์ จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ แม้จะไม่ได้ทำผิดก็ตาม
ทางหนึ่งดาบชิต ได้รับการสรรเสริญจากประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทางกลับกันถูกเพื่อนพ้องเหม็นขี้หน้า เพราะนอกจากจะเดือดร้อนแล้ว ยังทำให้รายได้หดหายไปมหาศาล ไม่นานหลังดาบชิต ออกมาแฉขบวนการส่วย ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อถูกเพื่อนตำรวจคือ ด.ต.จำนอง ซิลเวียพรหมราช ใช้ปืนไล่ยิงถึงในที่ทำงาน และตามออกมาถึงรถ แต่ถูกดาบชิตยิงตอบโต้ได้ รับบาดเจ็บ
ด.ต.จำนอง อ้างว่าเป็นเหตุปืนลั่นและที่วิ่งตามออกมาจนปืนลั่นซ้ำอีกเพื่อต้องการปรับความเข้าใจ
แต่ศาลไม่เชื่อมีคำพิพากษาลง โทษจำคุก 10 ปี ก่อนลดโทษเหลือ 6 ปี 8 เดือน
ปัญหายังไม่จบแค่นั้นเพราะต่อมาดาบชิต ก็ถูกโยกย้ายออกจากตำรวจทางหลวง ไปประจำโรงพักอยู่หลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นภาคใต้หรืออีสาน
ในเวลาเพียง 5 ปี ดาบชิตถูกย้ายถึง 10 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับตำรวจชั้นประทวน ที่มักจะรับราชการเพียงหน่วยเดียวครั้งละหลายปี หรือบางคนทำยันเกษียณก็ยังมี
เรื่องของเรื่องก็คือไม่ว่าดาบชิตจะไปอยู่ที่ไหน จะสร้างความหวาด ระแวงให้เพื่อนตำรวจ เพราะเป็นคนที่ไม่ยอม "ตามน้ำ" นั่นเอง
ในปี 2545 หลังมีคำสั่งโยกย้ายอีกรอบก็ตัดสินใจลาออกจากราชการ มาทำไร่ไม้รวกและเลี้ยงปลาสลิดในจ.ราชบุรี
พร้อมเข้าเป็นฝ่ายตรวจสอบองค์กรภาคประชาชน ซึ่งดาบชิตดูเหมือนจะทำได้คล่องตัวกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องกลัวถูกสอบวินัย หรือโยกย้ายอีก
แต่ข้อเสียก็คือดาบชิต กลายเป็นราษฎรเต็มขั้น จึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
และท้ายที่สุดสิ่งที่หลายๆ คนเป็นห่วงก็เกิดขึ้น!!!
"ดาบชิต เป็นอดีตตำรวจชั้นผู้น้อยที่เปิดโปงการทุจริตประพฤติมิชอบ ในวงการตำรวจ จนถูกกดดันให้ลาออกจากราชการ จากนั้นจึงมาเข้าร่วมกับเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น จึงอยากให้กรรมาธิการเร่งตรวจ สอบมูลเหตุและดำเนินคดีให้มีความเที่ยงธรรมด้วย"
นายประเทือง ปรัชญพฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบภาคประชาชน (ป.ป.ช.ภาคประชาชน) ออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือต่อวุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบคดีนี้
ขณะเดียวกันกลุ่มสหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย 9 สมาคม 4 ชมรมฯที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถบรรทุกทั่วประเทศไทย นำโดย นายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทย รวมตัวกันแถลงข่าวจี้คดี หลังเกิดเหตุมาหลายวันแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า
"ด.ต.ชิตนั้นเป็นผู้ต่อต้านการกระทำทุจริต การสูญเสียด.ต.ชิตถือว่าเป็น การสูญเสียครั้งใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่ดำเนินการติดตามเปิดโปงผู้ที่ทุจริต และเครือข่ายสติ๊กเกอร์เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกิน และขบวนการค้ายาเสพติด เชื่อว่าผู้กระทำกับด.ต. ชิต ต้องมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง และนายทุนที่เสียผลประโยชน์จากการออกมาแฉของดาบชิตลงขันกัน"
พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ผบ.ตร. และรัฐบาล โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ หาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ภายใน 30 วัน โดยขู่ว่า ถ้าไม่ดำเนินการใดๆ สหพันธ์ฯจะตอบโต้กลับด้วย 3 มาตรการสำคัญ
1.หยุดเดินรถทั้งหมดทั่วประเทศ 2.ปิดถนนสายหลักทั้ง 4 เส้น คือสายเหนือ กลาง อีสาน และใต้ 3.นำรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯเพื่อประท้วงรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคดี!!!
การตายของดาบชิต คงไม่แตกต่างจากนักสู้ภาคประชาชนหลายๆคน ที่ต้องสังเวยให้กับอำนาจมืด อำนาจเถื่อน เพราะไปขัดขวาง การหาประโยชน์มิชอบของคนกลุ่มนี้
แม้ตำรวจจักไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้ผู้เสียสละเหล่านี้ได้ทุกคน แต่อย่างน้อย การหาตัวผู้กระทำผิด และผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งตายมารับโทษตามกฎหมาย
ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อตอบแทนต่อการเสียสละของนักสู้เพื่อความยุติธรรม!??
(ข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด 25 มกราคม พ.ศ. 2552)
ปล.ประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครองพยานไหมครับ
จากคุณ :
หมอหุ้น
- [
10 ก.พ. 52 08:06:31
]
|
|
|
|
|